“หากว่านางเป็นอะไรไป ข้าจะตัดคอเจ้า!!!”
เลโอกำลังขี่ม้าอย่างรวดเร็วโดยมีอาเชอร์นำขบวน “ข้าผิดอะไรกัน!! ต้องโทษที่ท่านดยุคสั่งห้ามคนเข้าไปรบกวนการประชุมของท่านต่างหาก!!” “แล้วเจ้าไม่บอกไปล่ะว่าเป็นเรื่องของเบล!!” เอซมองดยุคโอเว่นและอาเชอร์ทะเลาะกันด้วยความหงุดหงิด!! เหตุใดนางถึงได้ทำอะไรโดยไม่บอกกล่าวกับเขาสักคำกันนะ รู้บ้างไหมว่ามันอันตรายขนาดไหน หัวใจของเขาในตอนนี้มันกำลังร้อนรุ่มไปด้วยความเป็นห่วง แต่ก็คงจะไม่เท่ากับเคาน์เคนเนดี้… เพราะทั้งคนรัก น้องสาว และพี่สาวกำลังจะฆ่ากัน!! หากว่าเบลเป็นอะไรไปจริงๆ เขาจะขอลงมือฆ่ามิลาด้าด้วยมือของเองเลย เขาขอสาบาน!! เอซได้แต่ภาวนาให้เบลล่าปลอดภัย.. “เจ้าโกหก!! เหตุใดถึงกล้าโกหกข้า!! เจ้าสองพี่น้องไม่เคยนึกถึงข้าอยู่แล้ว!!” “เหตุใดเจ้าถึงคิดว่านางโกหก ที่นางกล่าวมาก็มีเหตุผล หากว่านางไปหาเจ้าจริงๆ เจ้าจะมองนางว่ายังไง!!” มิลาด้าหันหน้ามามองเบลล่า “ใครสั่งให้เจ้าพูด…” เธอใช้ดาบแทงที่ขาของเบลล่าอย่างแรง! “อึก!!!” เจ็บ!! เบลล่ากัดกรามแน่นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด แต่ตอนนี้คิร่าน่าเป็นห่วง น่าเป็นห่วงมากๆ เพราะราวกับสติของนางจะหมดลง ไม่อาจรอพึ่งพาอาเชอร์ได้แล้ว เธอต้องหาทางพาเบลล่าหนีออกไป!! “พอแล้วน่า มิลาด้า…” ดยุคแม็คซิมัสเดินเข้ามาแย่งดาบออกไปจากมือของมิลาด้า “เหตุใดท่านถึงไม่เข้าข้างข้าเล่า!! ท่านควรจะช่วยข้ากำจัดพวกนาง..” “เจ้าเคยรักข้า บ้างรึเปล่า?” ใบหน้าที่เกรี้ยวกราดของมิลาด้านั้นชะงัก เธอมองไปที่ดยุคแม็คซิมัสด้วยความไม่เข้าใจ “ท่านจะมาถามข้าเช่นนี้ทำไม!!” “นั่นนะสิ ข้าจะมาถามเจ้าทำไม!! เพราะหากเจ้ารักข้าจริงๆ ป่านนี้เราก็คงจะคุยถึงเรื่องงานแต่งอยู่ที่คฤหาสน์ ความเคียดแค้นในใจของเจ้ามันไม่มีหมดเลยงั้นหรือมิลาด้า เจ้าฆ่าเคาน์เคนเนดี้ไปแล้ว จิตใจที่บอบช้ำของเจ้ามันยังไม่ได้รับการเยียวยาเลยงั้นหรือ!! เจ้าต้องเข่นฆ่าอีกกี่คนถึงจะพอ ต้องเสียอีกกี่ชีวิตเจ้าถึงจะสามารถมีความสุขได้….” เบลล่าฉวยโอกาสที่ทั้งสองคนนั้นกำลังทะเลาะกัน เธอใช้เท้าเขี่ยดาบที่ดยุคแม็คซิมัสโยนมาทางเธอ ก่อนจะใช้มือจับดาบขึ้นมาตัดเชือก และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะดาบมันค่อนข้างจะยาว ทว่าไม่เหลือทางเลือกให้เธอแล้วนอกจากเธอจะใช้มือของเธอจับคมดาบ…มาตัดเชือก ความเจ็บปวดกำลังครอบงำเบลล่าอีกครั้งเพราะดาบที่แหลมคมกำลังบาดมือเธอ..แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ใช้มือของเธอกำดาบแน่นแล้วออกแรงตัดเชือก… “ท่านจะมาเรียกร้องให้มันได้อะไรขึ้นมาโลเวล!! หากรักข้าท่านก็แค่อยู่เฉยๆ…” “ก็เพราะข้ามองเจ้าเฉยๆ มานานแล้วไงมิลาด้า ได้โปรดเถอะ!! หยุดทุกอย่างตรงนี้ไปแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นดัชเชสของข้า ให้ความเจ็บปวดในอดีตมันจบลงตรงนี้ ข้าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กอดปลอบประโลมเจ้าเอง ได้โปรดเถอะมิลาด้า” ใบหน้าของเธอนั้นฉายความลังเล ความเจ็บปวดในใจของเธอ มันจะหายไปได้จริงๆ งั้นหรือ? เธอจะสามารถยกยิ้มขึ้นมาด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุขได้งั้นเหรอ? ในที่สุดเชือกที่มัดมือของเบลล่าก็ขาด เธอยกมือขึ้นมากำชายกระโปรงเอาไว้เพื่อห้ามเลือดก่อนจะคลานไปหาคิร่า… ให้ตายเถอะ!! เป็นเธอที่คิดน้อยไปจริงๆ เหตุใดถึงได้พลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้กันนะ เธอไม่คิดว่าสตรีผู้นั้นจะลงมือกับคิร่า.. เธอคิดว่ามิลาด้าจะหันคมดาบแทงมาที่เธอ!! “อย่าหลับคิร่า ได้โปรด!!” มือของเบลล่าสั่นเทาไปด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็ยังพยายามตัดเชือกที่มัดข้อมือของคิร่าเอาไว้ “ผลัวะ!!!” ประตูห้องถูกถีบพร้อมกับคนที่เธอกำลังรอคอย…อาเชอร์รีบวิ่งมาหาเธออย่างรวดเร็ว ตามด้วยเลโอ โคลด์และเอซ เบลล่ามองอะไรไม่เห็นเลย เพราะตอนนี้น้ำตาของเธอมันไหลลงมาอย่างหนักจนบรรยากาศรอบข้างพร่ามัวไปหมด “รักษานางก่อนอาเชอร์!! นางหลับมาพักหนึ่งแล้ว ดะ..ได้โปรดปลุกนางขึ้นมา…” อาเชอร์มองสภาพของเบลล่าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ทว่าเขาก็ยกมือขึ้นมาร่ายเวทย์รักษาให้คิร่าก่อน ตามที่เบลล่าบอกกล่าว องค์รัชทายาทวัลโด้ชักดาบออกมาจากคอของซีโน่ ก่อนที่เขาจะตามเข้ามาด้านใน…ดยุคแม็คซิมัสรีบเดินมาคุกเข่าลงต่อหน้าองค์รัชทายาท “เป็นข้าที่ทำเรื่องทั้งหมดเองครับ!! ข้าเป็นคนบงการให้มิลาด้าวางแผนจับตัวพระชายาและเลดี้เมบิล….” มิลาด้าขมวดคิ้วมองที่โลเวล “ดยุคแม็คซิมัส เจ้ารู้ดีถึงโทษของคนที่ลอบทำร้ายคนของราชวงศ์ดี คิร่าถึงเป็นภรรยาของข้า นางคือส่วนหนึ่งของราชวงศ์…” “ข้ายินดีรับโทษทุกประการ ขอเพียงแค่พระองค์ปล่อยมิลาด้าไป” “เหตุใดถึงคิดว่าข้าจะปล่อยนางไปเล่า….มิลาด้าในวันนี้ต่อให้มีสิบชีวิตก็ยังไม่เพียงพอต่อความเคียดแค้นของข้าเลย…” “ข้า..เป็นคนทำทุกอย่างเอง ไม่เกี่ยวกับโลเวล ขอองค์รัชทายาทให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย” มิลาด้ามองที่โลเวลก่อนที่เธอจะยกยิ้ม… ความรักความอบอุ่นที่เธอโหยหามาตลอดชีวิต อยู่ตรงหน้าเธอนี่เอง เพียงแค่เธอเอื้อมมือไปกอดเขา และปล่อยวางเรื่องในอดีตซะ เพียงแค่นั้นเธอก็จะพบความสุข มิลาด้ายกมือขึ้นมากุมหน้าของโลเวลเอาไว้ “ขอบคุณที่รักข้า และขอโทษที่ข้าเห็นความรักของท่านช้าเกินไป….” เบลล่าลืมตาขึ้นมาช้าๆ เธอรู้สึกชาที่ขา อาจจะเป็นเพราะเธอยังเจ็บปวดกับการถูกแทง ทว่าพอเธอลุกขึ้น…เธอก็ล่วงรู้ถึงสาเหตุของการชา อาเชอร์กำลังนอนทับขาเธออยู่ เบลล่ารีบยกขาขึ้นมาถีบเขาลงไปจากเตียง “โอ๊ย!! นี่เจ้ากล้าถีบข้างั้นเหรอ!!” “ใครใช้ให้เจ้าขึ้นมานอนบนเตียง!!” “นี่ ข้ารักษาเจ้าจนไม่มีบาดแผลใดๆ อยู่บนตัวเจ้าแม้แต่นิดเดียว พลังชีวิตของข้าแทบจะหมดลง!! เจ้าไม่รู้หรอกว่าเมื่อคืนข้าถูกขู่ฆ่ากี่รอบ ท่านดยุคโอเว่นเอาดาบมาจ่อคอของข้าเป็นร้อยๆ ครั้ง!!” “คิร่าเป็นยังไงบ้าง” อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดปากที่กำลังหาวนอน “หายดีแล้ว องค์รัชทายาทพานางไปที่พระราชวัง” “แล้วคนอื่นไปไหนหมด?” เบลล่ามั่นใจว่าตอนนี้เธออยู่ที่คฤหาสน์โอเว่น แล้วเลโอหายไปไหนกันนะ “มิลาด้า ถูกประหารโดยการแขวนคอเมื่อเช้า ที่น่าตกใจคือดยุคแม็คซิมัสฆ่าตัวตายตามนางไปทันที หน้าลานประหาร…” เบลล่ายกมือขึ้นมากุมหัวใจเธอเอาไว้… ให้ตายเถอะทั้งๆ ที่ไม่ควรจะรู้สึกเจ็บปวดแท้ๆ เธอหัวใจของเธอก็อดรู้สึกบอบช้ำไม่ได้อยู่ดี… มันน่าเสียดาย..เกินไป เสียดายความรู้สึกของดยุคแม็คซิมัสที่ส่งไปไม่ถึงมิลาด้า “ตอนนี้เขาทั้งสองคนอาจจะอยู่ด้วยกันก็ได้…เราทุกคนต่างก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดกับเรื่องนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ถึงความโล่งใจ อย่างน้อยที่สุดก็คงไม่มีมีใครคิดจะทำลายเจ้าและคิร่าแล้ว” เบลล่ายกยิ้มจางๆ “ในนิมิตบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” อาเชอร์ไม่ได้ตอบเขาเพียงส่งยิ้มให้เบลล่าเท่านั้น “ข้าคงจะต้องกลับไปให้โจลี่บ่นก่อน ข้าหายมาครึ่งค่อนคืนเช่นนี้นางน่าจะเป็นห่วงแล้ว” “เจ้าควรจะแวะซื้อช่อดอกไม้ติดมือไปฝากนางบ้าง..” “อ่า นั่นคือความคิดที่ไม่เลวเลย ว่าแต่ค่าจ้างข้าล่ะ!!” เบลล่าถอนหายใจ เธอคิดว่าตัวเองเห็นแก่เงินมากแล้ว แต่ไม่ใช่เลย อาเชอร์คือคนที่เห็นแก่เงินมากกว่าเธอหลายเท่า “ข้าได้สั่งคนให้เตรียมเงินไว้ให้นักบุญแล้ว เดินลงไปเอาที่พ่อบ้านได้เลย” เลโอเดินเข้ามาพอดี เขาเดินตรงดิ่งไปหาเบลล่าที่นั่งอยู่บนเตียงก่อนจะสวมกอดเธออย่างแรง อาเชอร์รีบลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอกอย่างรู้หน้าที่ “รู้ไหมว่าตอนข้าพบเจ้า ที่มีสภาพเลือดท่วมตัวข้ารู้สึกเช่นไร!!” เบลล่ายกยิ้ม เธอยกมือขึ้นมาโอบกอดเขาเอาไว้แน่น “ขอโทษค่ะ มันผิดแผนไปหน่อย..” “อย่าได้คิดจะทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้อีก หัวใจของข้าไม่อาจรับเรื่องที่ร้ายแรงนี้ได้อีกแล้ว!!” เอซเดินเข้ามาในห้องก่อนที่เขาจะปิดประตู เขาเดินเข้าไปหาเบลล่าด้วยความเป็นห่วง “ปลอดภัยดีใช่ไหม” เอซก้มลงหอมแก้มเบลล่าเบาๆ ก่อนที่เขาจะซบลงบนไหล่ของเธอ “…ใครใช้ให้เจ้าเข้ามา!!” “นี่ท่านดยุค เบลไม่ใช่ของท่านคนเดียว และก็ไม่ใช่ท่านคนเดียวที่เป็นห่วงนาง!!” “แต่ที่นี่คือคฤหาสน์โอเว่น และนี่ก็คือห้องนอนของข้า!!” “ในคราแรกข้าบอกให้พาเบลไปที่เอเซล่าแต่ท่านก็ไม่ยินยอม ทีอย่างนี้จะมาบอกว่าเป็นของตัวเอง!!” อ่า..พวกเขาจะเถียงกันเพื่ออะไรนะ “เลโอ ท่านไม่ควรไปว่าท่านเคาน์…อะ เอ่อ เอซ เช่นนั้น..” เลโอหน้ามุ่ยเขาเงยหน้าขึ้นมากัดที่ริมฝีปากล่างของเบลล่าเบาๆ “อย่าได้เอ่ยเข้าข้างคนอื่นอีกข้าไม่ชอบ!!” เอซขมวดคิ้ว เขาไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย!! “ข้าก็เป็นคนรักของเบลเช่นกัน หาใช่คนอื่นอย่างที่ท่านดยุคกล่าว” เบลล่าถอนหายใจ “ข้าไม่เข้าใจว่าพวกท่านจะเถียงกันให้มันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้วเราก็ควรจะมีความสุขกันไม่ใช่รึไง?” เบลล่ากล่าวอย่างเบื่อหน่าย เธอรู้สึกเหนื่อยเพราะเสียเลือดไปมาก เธออยากจะให้เขาทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันแล้วปล่อยให้เธอพักผ่อนสักที ทว่าใบหน้าของเลโอกับเอซมันกำลังขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ “หากเจ้า..ต้องการเช่นนั้น ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร…” “ดะ..เดี๋ยวก่อนนี่ท่านเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า!! อื้อ!!” เอซเงยหน้าขึ้นมาจูบปิดปากของเบลล่าเอาไว้ ส่วนเลโอกำลังดึงเชือกที่มัดชุดนอนของเธอออกด้วยใบหน้าที่กำลังสนุกเบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ