LOGINรอยยิ้มที่แสนจะดีใจของเด็กน้อยวัยหกขวบปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของมิล เธอยื่นมือไปรับตุ๊กตาที่ท่านแม่ส่งให้ด้วยความสุข “ท่านแม่ ตุ๊กตานี้ช่างงดงาม” สายลมจากฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านตัวเธอและลูกน้อยไป เมลรู้ดีว่าร่างกายของเธอกำลังย่ำแย่ราวกับใบไม้ที่กำลังจะปลิดปลิวด้านนอก เธอจะไม่เห็นรอยยิ้มที่แสนจะงดงามนี้อีกแล้ว พอคิดถึงความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นจากการจากลา ในหัวใจก็มิอาจจะกลั้นน้ำตาออกมาได้อีก “ท่านแม่ ท่านร้องไห้งั้นหรือคะ?” เมลดึงเด็กน้อยที่ประดุจแก้วตาดวงใจเข้ามาโอบกอด “แม่เพียงดีใจมิล แม่ดีใจที่เห็นลูกชอบตุ๊กตาที่แม่ทำ….” ฤดูใบไม้ผลิได้ผ่านพ้นไป ผ่านมาจนถึงฤดูหนาว หิมะที่โปรยปรายลงมาพัดพาเอาความหนาวเหน็บมาสู่จิตใจของเด็กน้อย “ข้ามิอาจจะเลี้ยงเด็กที่มิใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของแมรี่ได้!!” “ท่านจะทำเช่นนี้กับข้ามิได้!! มิลมีสัญญาหมั้นหมายกับริชแมนแล้ว!!” เธอพยายาม พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะให้ลูกสาวของเธอได้มีสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลริชแมน เพื่อที่มิลจะได้เติบโตอยู่ที่แมรี่ต่อไป… “ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!! เจ้ากล้าดูถูกข้า!! ดูถูกแมรี่!!” คำด่าทอต่างๆ ของท่านพ่อกำลังซึมซาบเข้ามาในจิตใจของเด็กน้อย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชายผู้นั้นก็ไม่อนุญาตให้เธอเรียกเขาว่าท่านพ่ออีก… แถมสายคนอื่นๆ ในคฤหาสน์ต่างก็มองมาที่มิลาด้าเปลี่ยนไป… แต่ไม่เป็นไร เพราะเธอคิดว่าเธออยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยผู้อื่น ขอเพียงเธอมีท่านแม่คนเดียวก็พอ “มิล ลูกต้องเรียนให้เยอะ เราจะต้องมีความรู้ หากวันหนึ่งคนรักของลูกหมดรักในตัวลูก อย่างน้อยที่สุดเจ้าก็ยังมีความสามารถ ริชแมนมีธุรกิจที่ดีมาก แต่พวกเขาไม่อาจบริหารให้มันออกมาประสบความสำเร็จ หากลูกเข้าไปเป็นเคาน์เตสลูกต้องเปลี่ยนตระกลูนั้นให้เป็นของลูก มาซาคู่หมั้นของลูกแม่เคยเห็นมาแล้ว เขาเป็นเด็กหนุ่มที่เรียบร้อยและอ่อนโยน แม่เชื่อเหลือเกินว่าหากเจ้าเอาใจเขาสักหน่อย เขาจะรักและยอมมอบสิทธิ์ทุกอย่างในริชแมนให้เจ้าดูแลแน่นอน!!” “เหตุใดข้าถึงครอบครองริชแมน….” “มิลลูกรัก เจ้าเห็นชีวิตของแม่ตอนนี้รึเปล่า เราอยู่ที่นี่อย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี หากว่าเจ้าไม่มีสัญญาหมั้นกับริชแมนพวกเขาคงจะสั่งฆ่าเราไปแล้ว!! เจ้าเห็นชีวิตที่แสนจะเจ็บปวดของแม่ไหม?” เพราะความรัก…มันไม่มีอยู่จริงงั้นหรือ? ท่านพ่อหมดรักท่านแม่แล้ว ก็เลยทอดทิ้งพวกเรา เช่นนั้นจะมีความรักไปทำไม ในเมื่อมันเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ทุกงานเลี้ยงที่แมรี่จัดขึ้นมา มิลาด้าไม่เคยได้เข้าไปร่วมงาน เธอทำได้เพียงแค่รอพี่สาวคนใช้เอาขนมมาให้เท่านั้น สายตาของมิลลาด้ามองไปเห็นครอบครัวที่กำลังเดินมา ชายที่แลดูสูงวัยอุ้มเด็กชายตัวน้อยขึ้นหอมและกอดอย่างรักใคร่ ส่วนสตรีที่ดูงดงามอุ้มเด็กแรกเกิดเอาไว้แนบอก เกิดคำถามในใจของมิลาด้ามากมายว่าในตอนที่เธอยังเป็นเด็ก ท่านพ่อเคยอุ้มเธอเช่นนี้รึเปล่า “ยินดีต้องรับครับเคาน์เคนเนดี้ เชิญด้านในก่อน…” พ่อของเธอเดินออกมาต้อนรับครอบครัวนั้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เคนเนดี้งั้นหรือ? ดูอบอุ่นจังเลยนะ มิลาด้ายกยิ้ม ชายและหญิงสองคนนั้นดูเป็นคนใจดี ครอบครัวของพวกเขาจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ เลย “คุณหนูรีบเข้าไปด้านในเถอะค่ะ เดี๋ยวนายท่านมาเห็นเราจะถูกทำโทษได้” มิลาด้าพยักหน้า เธอเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงให้เชื่อฟังและเจียมตัว เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถเรียกร้องหรือว่าดื้อได้ เหมือนเช่นเด็กคนอื่น เพราะว่าเธอมีเพียงท่านแม่คนเดียว และท่านแม่ในตอนนี้ก็ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะลุกออกจากเตียง…. ฤดูหนาวพัดผ่านมาอีกครั้ง มิลาด้าวัยสิบขวบทรุดลงที่ข้างเตียง ความหนาวเหน็บที่ผิวกายยังไม่เท่าความเหน็บหนาวในหัวใจของเธอ “มิล อย่าร้องไห้เลยลูกรัก เจ้าจะต้องเติบโตขึ้นมาอย่างมีเกียรติ เป็นเคาน์เตสที่งดงามและเฉลียวฉลาดของริชแมน…” เสียงของท่านแม่นั้นแผ่วเบาจนเธอแทบจะไม่ได้ยิน… “แล้วทำลายเคนเนดี้ลงซะ!! ให้สาสมกับที่เคาน์เคนเนดี้ทำกับแม่ ให้สาสม..กับที่เขาทอดทิ้งเราสองแม่ลูกให้มีสภาพเช่นนี้!!” เสียงสุดท้ายที่แผ่วเบาของท่านแม่ มันสลักลึกลงไปในจิตใจของมิลาด้า…เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของท่านแม่และความเจ็บปวดของตัวเธอเอง… เคนเนดี้มีครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น พวกเขามีลูกที่แสนจะน่ารักถึงสองคน…แล้วเธอล่ะ? เธอกับท่านแม่ต้องเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเจ็บปวดของแมรี่ ทุกคนที่แมรี่นำความโกรธและเกลียดมาลงที่เธอและท่านแม่!! แต่เคาน์เคนเนดี้กลับมาความสุข ทั้งที่เขาคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด! เหตุใด ถึงยังสามารถทำใจให้มีความสุขได้ คนสารเลวพวกนั้น!!! เธอจะทำลายทั้งหมดเอง!! หลังจากท่านแม่สิ้นใจ เธอก็ทนอยู่ที่แมรี่อีกสี่ปี สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเธอก็คือตุ๊กตาที่ท่านแม่เป็นคนทำ ของแทนใจสิ่งเดียวที่ท่านแม่หลงเหลือเอาไว้ให้ มิลาด้ายกยิ้ม ตอนนี้เธอกำลังอยู่บนรถม้าที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ริชแมน เธอกอดตุ๊กตาตัวนั้นเอาไว้แนบอก… พอมาถึงที่ริชแมนทุกคนที่นี่ต้อนรับเธออย่างอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาซา คู่หมั้นของเธอ เขาดูเป็นเด็กชายที่อ่อนโยนอย่างที่ท่านแม่กล่าวเอาไว้จริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของมิลาด้าสั่นไหวก็คือเอซ เขาคือน้องชายของมาซา ที่เขาดึงดูดสายตาของมิลาด้าก็เพราะว่าหน้าตาของเขามันเหมือนกับตุ๊กตาในมือของเธอ เขางดงามจนมิลาด้าไม่อาจจะละสายตาไปได้เลย…เธอพยายามข่มใจแล้วแต่ก็ทำไม่ได้!! เธออยากโอบกอดเขา..เพราะราวกับว่าเขาคือสิ่งของแทนใจจากท่านแม่ หากว่าเธอกอดเขาจริงๆ มันจะเหมือนอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของท่านแม่ไหมนะ? เมื่อห้ามความอยากในจิตใจของตัวเองไม่ได้ มิลาด้าก็จำเป็นที่จะต้องวางแผนการ…เริ่มต้นทำลายเคาน์และเคาน์เตสริชแมน เพราะว่าเธอมั่นใจว่าเธอสามารถควบคุมมาซาได้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำลายเขา… มิลาด้าก้าวขาเข้ามาในทุกกิจการของริชแมนเต็มตัว เธอจะเป็นคนคุยทุกเรื่องเกี่ยวกับหุ้นส่วนและการลงทุนของริชแมนด้วยตัวเธอเอง และความเก่งกาจของมิลาด้า ก็ได้ไปเข้าตาดยุคแม็คซิมัส เธอคิดว่าเขาคือหมากตัวสำคัญในกระดานของเธอจึงได้ยอมมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเขา และงานแรกที่ให้เขาทำก็คือการสร้างอุบัติเหตุให้กับเคาน์และเคาน์เตสเคนเนดี้ มิลาด้าคิดว่าหากเคนเนดี้ไร้เสาหลักไป เด็กน้อยทั้งสองคนนั่นก็จะพังทลายลง..และนั่นก็คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นเพราะว่าพวกเขามีความสุขกันมามากเกินพอแล้ว… เธอพยายามจะเข้าหาเอซแต่ไม่เป็นผลเลย เพราะเขาตั้งกำแพงเอาไว้สูงมากทีเดียว หรือว่าเธอต้องจัดการมาซา… หากว่าไม่มีมาซาแล้ว เอซก็จะได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล พอถึงตอนนั้นเด็กชายที่ไร้เดียงสาผู้นี้ก็จะต้องพึ่งพาเธอ..และเขาจะรักเธอได้ไม่ยาก ใช่ ใช่แล้วการกำจัดมาซาคือทางเลือกที่ดีที่สุด ทว่าไม่ใช่แบบนั้น… ไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เพราะเอซยังไม่ยอมรักเธอ อีกทั้งเขายังทำท่าเย็นชาใส่เธออีก!! แต่ไม่ว่าเขาจะทำยังไงเราก็ไม่อาจหนีพ้นกันไปได้ เพราะริชแมนอยู่ในกำมือของเธอ และเขาก็รักริชแมนมาก บางทีเอซอาจจะต้องการเวลา หากมีเวลาให้เขาคิดมากกว่านี้เขาอาจจะยอมรักเธอ และให้เธอกอดเขา อ้อมกอดที่เธอรอคอยมาอย่างยาวนาน… มิลาด้ายกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม เธอยกยิ้มอย่างสมเพชให้ตัวเอง ก่อนจะเควี้ยงแก้วไวน์ลงไปที่พื้นข้างๆ ที่เบลล่านั่งอยู่ “อ่า เสียของชะมัด!! เจ้าควรเอามาให้ข้าดื่มสิ!!” “เหอะ! จะตายอยู่แล้วยังปากดี” เบลล่าถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “เหตุใดต้องจับข้ามา…” มิลาด้าลุกขึ้น เธอมองไปที่เบลล่าและคิร่า “เพราะว่าเจ้าทั้งสองคน แย่งความสุขไปจากข้า!!” เบลล่าหัวเราะ “มิลาด้า ต่อให้ไม่มีข้า เขาก็ไม่รักเจ้า เอซไม่มีทางรักเจ้าหรอก!!” มิลาด้าชักดาบออกมาก่อนที่เธอจะเดินไปหาเบลล่า แล้วแทงไปที่ท้องของคิร่าอย่างแรง “ฉึก!!” “!!!” “หึ..เปลี่ยนสีหน้าแล้วสินะเบลล่า นึกว่าเจ้าจะทำหน้าอวดดีไปได้ตลอด…วางใจเถิดที่ข้าแทงนางก็เพราะอยากฆ่านางเดี๋ยวข้าก็จะแทงเจ้าด้วยเช่นกัน….” เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมาตามแรงดึงดาบของมิลาด้า เธอดึงดาบออกมาก่อนจะยกไปจ่อที่คอของคิร่าแทน “….เจ้าไม่สมควรจะเกิดมาด้วยซ้ำ พ่อของเจ้าก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายที่มักมากคนหนึ่ง” ที่ท้องของคิร่ามันไม่เจ็บเลย แต่เธอรู้สึกชาแทน คิร่าพยายามที่จะไม่ก้มไปมองเลือดที่กำลังไหลออกมา มือของเธอถูกมัดเอาไว้ด้านหลัง…นี่เธอจะมาจบชีวิตตรงนี้จริงๆ งั้นหรือ!! ไม่ได้ เธอไม่ยอม!! “ข้ารู้แล้วนะคะ ว่าท่านเป็นพี่สาวของข้า!! มิลาด้ามองที่คิร่าอย่างตกใจ “ข้ารู้มาตลอดเพราะท่านพ่อบอกข้า ข้าและท่านพี่โคลด์อยากไปหาท่านพี่มาตลอด แต่เพราะท่านคือเคาน์เตสริชแมนที่แสนจะร่ำรวย พวกเราสองพี่น้องก็เลยไม่กล้าไปหาท่านพี่….” เบลล่ามองที่คิร่า น้ำเสียงที่เอ่ยมานั้นสั่นเครือเพราะความเจ็บปวดจากพิษบาดแผลอีกทั้งตอนนี้เลือดของคิร่ามันไหลออกมาอย่างน่ากลัว… โกหก!! คิร่ากำลังโกหกเพราะว่าเธอกำลังถ่วงเวลา เบลล่าเม้มปากแน่น!! อาเชอร์ทำอะไรอยู่กันนะ!! เหตุใดถึงมาช้านัก!!
เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







