แป้งถึงกับผงะ เธอคิดไม่ถึงว่าจะโดนคำสั่งแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าขัดเพราะความเป็นเจ้านาย เขาสั่งก็ต้องทำ เธอเดินไปเอาซุบกับขนมปังของเธออย่างเงียบๆ เนยรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจึงได้แต่ส่งไลน์ไปหาแป้ง
"เกิดอะไรขึ้น"
"โดนสั่งให้มานั่งเพื่อใช้งานไงล่ะ พี่นนท์ไม่อยู่"
"ใจเย็นไว้นะ ข้อหนึ่งๆๆ"
"อืมๆ"
" "
" สู้ๆนะ"
เขามองเธอนั่งเล่นโทรศัพท์และนึกหงุดหงิดที่เธอไม่สนใจเขา ที่จริงเขาไม่ได้ทำงานเลย เขาแกล้งทำเป็นว่าอ่านเมล ส่งเมลให้ลูกค้าเพื่อให้เธอมานั่งด้วย แต่ดูท่าทางแล้วหญิงสาวตรงหน้าคงไม่ยอมรับเรื่องเมื่อคืนนี้แน่ๆ เขาคงต้องลองดูหน่อย
"เมื่อคืนหลับสบายมั้ย"
แป้งสะดุดกับคำถามจนเกือบสำลักซุบที่พึ่งกินเข้าไป เขารีบดึงทิชชูและส่งให้เธอ
"ขอบคุณค่ะ"
"คุณเป็นอะไร ผมแค่ถามว่าหลับสบายมั้ยแค่นั้นเอง หรือว่าห้องที่โรงแรมจัดให้นอนไม่สบาย"
"เปล่าค่ะๆๆ สบายมากเลยค่ะ หลับสนิททั้งคืนเลยค่ะ วันนี้เลยตื่นสายเลย"
เขามองหน้าคนที่ตอบที่เอาแต่หลบสายตาเขา เธอเลือกที่จะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับสินะ เอาแบบนั้นก็ได้
"งั้นเหรอ"
"ค่ะบอส คือว่าบอสคะ แป้งอิ่มแล้ว บอสยังต้องการเติมอะไรอีกมั้ยคะ"
"รอเดี๋ยวขอรับสายก่อน"
เขารับโทรศัพท์พร้อมกับพูดกับปลายสายอย่างซีเรียส
"อะไรนะครับ หน้างานมีปัญหางั้นเหรอ พอดีผมอยู่แถวนี้ เดี๋ยวแวะเข้าไปดูให้นะครับ ไม่เป็นไรครับเป็นหน้าที่ผมอยู่แล้ว ครับ"
"เอ่อ บอสคะ"
"คุณแป้ง คุณออกไปกับผมหน่อย หน้างานลูกค้าโปรเจคเดอะบีชมีปัญหา คุณรีบไปเอากระเป๋ามาแล้วลงมารอผมที่ลอบบี้"
"คือว่า แต่ว่าแป้งไม่ได้...."
"ผมให้เวลาคุณห้านาที"
เธอกำลังจะบอกว่าไม่ได้เอาอุปกรณ์อะไรมาเลยนอกจากไอแพด แต่เขาไม่ได้ฟังและยังสั่งให้เธอรีบไปเก็บของแล้วมาเจอเขาที่ลอบบี้อีกห้านาที
"ก็ได้ค่ะ งั้นแป้งเอาเนยไปด้วย"
"คุณคนเดียวก็พอ ผมไม่อยากรบกวนเวลาเที่ยวของคนอื่น"
"แต่ว่าเนยน่าจะช่วยได้..."
"ผมบอกว่าผมรีบไง นี่ผ่านไปสองนาทีแล้วนะ รีบไปจะได้รีบกลับ"
"ค่ะๆ ก็ได้ค่ะบอส รอเดี๋ยวนะคะ"
เธอทั้งโมโหและโกรธกับคำสั่งของเขาในวันที่เธอกำลังวางแผนจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนสนิท เนยเห็นว่าแป้งรีบเดินออกจากห้องอาหารจึงรีบวิ่งตามไปทันที คนที่สั่งนั่งยิ้มอย่างพอใจอยู่ที่โต๊ะ ไม่นานชานนท์ก็กลับมา
"กระเป๋าครับบอส"
"ขอบใจนะ วันนี้คุณเลิกงานแล้วไปเที่ยวเถอะ"
"แต่ว่าผมไม่ต้องอยู่กับบอสเหรอครับ"
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมจะไปดูงานให้ลูกค้ากับอินทีเรียร์"
"แล้วผมละครับ"
"ก็บอกให้ไปพักผ่อนไง มาพัทยาทั้งที ก็พาแฟนไปเที่ยวสิ ผมไปก่อนนะ"
"แปลก แปลกเกินไปแล้ว นี่มันโบนัสก่อนสิ้นปีงั้นเหรอวะ"
ชานนท์มองตามหลังบอสที่เดินออกจากห้องอาหารไปที่ลอบบี้ เขาออกไปโดยไม่ให้ชานนท์ขับรถไปให้แล้วบอกว่าไปกับอินทีเรียร์ หรือว่า....
"หรือว่าบอสกับแป้ง...ฮึ่ยยย ขนลุก เป็นไปได้เหรอวะนั่น ไอ้แป้งเนี่ยนะ ไม่หรอกมั้ง ฟ้าจะฝ่าเอาสิ"
เขากับแป้งและเนยรู้จักกันและค่อนข้างสนิทกันมากในที่ทำงาน แต่ก็ไม่ได้เกินเลยขนาดนั้น ชานนท์รู้จักแป้งและเขารู้สึกว่าแป้งนิสัยลุยๆมากกว่าเนยที่เป็นสาวจ๋า แป้งแทบจะเหมือนผู้ชายเลยก็ว่าได้ทั้งความห้าว กล้าได้กล้าเสียและลุยงาน ถึงและแข็งแรง
"แป้งๆๆ แกจะรีบไปไหน มีอะไร เกิดอะไรขึ้น"
"ก็...ไอ้ๆๆๆ.."
"เฮ้ยย เดี๋ยว เข้าลิฟต์ก่อนน"
เนยหอบเพื่อนรักเข้าลิฟต์และปิดพร้อมกับกดชั้นสิบห้าพร้อมกับหันมามองเพื่อที่กำลังโมโหอยู่
"เกิดอะไรขึ้น"
"ไอ้บ้านั่น ไอ้บอสโหดนั่น วันนี้มันวันเที่ยวอิสระ แต่ว่าเขาสั่งให้ฉันไปหน้างานกับเขา แกจะไม่ให้โมโหได้ไง ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต เผด็จการ ลาออกเลยดีมั้ย"
"ใจเย็นๆ เดี๋ยวนะ แล้วไปกันสองคนเหรอ"
"เออดิ ถามแล้วว่าให้เอาแกไปด้วย แต่เขาบอกว่ารีบไปรีบกลับ อะไรของเขา"
"แล้ว เขาพูดเรื่องเมื่อคืนนี้มั้ย"
"พูดบ้าอะไรล่ะ เดี๋ยวใช้ปิ้งขนมปัง เดี๋ยวเติมกาแฟ เดี๋ยวเทน้ำ แล้วก็สั่งให้ออกไปกับเขา"
ลิฟต์มาถึงชั้นสิบห้าแล้ว แป้งเดินเข้าห้องคว้ากระเป๋าและไอแพดมาและเดินออกจากห้อง
"ขอโทษนะเนย แกต้องเที่ยวคนเดียวแล้วล่ะ"
"เออๆไปเหอะ ฉันนอนต่ออีกหน่อย ฉันไม่ค่อยชอบเที่ยวเท่าไหร่อ่ะ แกกลับมาก็โทรมาแล้วกัน"
แป้งรีบกดลิฟต์ลงไปตามคำสั่ง เขาให้เวลาแค่ห้านาที เมื่อลิฟต์เปิดออก เธอจึงรีบเดินไปหาเขาที่นั่งที่ลอบบี้รอเขา สายตาของแขกสาวๆทั้งคนไทยและต่างชาติต่างมองไปที่เขาด้วยความสนใจ
น่าหมั่นไส้ที่เขาหล่อนี่แหละ แป้งกำลังเดินจะเข้าไปหาเขาพอดีกับมาผู้หญิงสาวสวยสองคนเดินเข้าไปหาเขา
"ขอโทษนะคะ คือว่าอยากรู้จักค่ะ อยากขอไลน์ไว้ได้มั้ยคะเอาไว้นัดทานข้าวกัน"
แป้งมองไปที่พวกเขาคุยกันพร้อมกับเบ้ปากใส่พวกเขา
"เหอะ ขนาดอยู่แบบนี้ยังมีคนมาจีบ แล้วบอกจะรีบไปทำงาน"
เธอยืนกอดอกรอพวกเขาคุยกันแต่ไม่ได้ยินเท่าไหร่ว่าคุยอะไรกัน
"ขอโทษนะครับ ผมมีแฟนแล้วครับ แฟนผมขี้หึง นั่นไง เธอมาพอดี ขอตัวนะครับ"
แป้งมองไปที่พวกเขาที่หันมาหาเธอและเขาที่เดินมาโอบไหล่เธอเดินออกไป
"บอสคะ นี่.."
"ขอโทษนะครับ ผมขอตัวก่อน"
เขาพาเธอเดินออกมา แล้วเธอก็เข้าใจ เขาใช้เธอเป็นไม้กันหมานี่เอง เธอหยุดนิ่งและสะบัดแขนเขาออกและเดินไปที่รถพร้อมเขา เขารู้สึกงงที่เธอสะบัดตัวออกจากแขนเขาและเดินไปขึ้นรถอีกฝั่ง
"คุณหงุดหงิดอะไรงั้นเหรอ"
"รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวไปถึงลูกค้าช้างานจะไม่เสร็จ"
"ผมยังไม่รีบ ผมอยากรู้ว่าคุณหงุดหงิดเรื่องอะไร ไม่พอใจที่ผมใช้งานคุณงั้นเหรอ"
"บอสคะ แป้งเป็นแค่พนักงานของคุณนะคะ จะกล้าไม่พอใจเจ้านายได้ยังไงคะ ไปกันเถอะค่ะ"
เขาโน้มตัวมาจนใกล้เธอ ลมหายใจของเขารดอยู่ที่แก้มของเธอ แป้งหลับตาปี๋เพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอ
ซึ่งเตชินท์เองก็เกือบจะจูบคนปากดีตรงหน้าเสียแล้ว มือเขาเอื้อมไปดึงสายเข็มขัดมาคาดให้เธอ แป้งลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรพาดผ่านตัวเธอไป
"คุณลืมคาดเข็มขัด"
"ขอบคุณค่ะบอส"
เตชินท์เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาหน่อยๆแต่ก็รู้สึกตื่นเต้นด้วย เสียงแป้งเงียบลงไป ดูเหมือนว่าเธอจะไม่อยู่ที่นี่“แป้งคุณอยู่ไหนน่ะ”“มาแล้วค่ะ”เสียงแหบพร่านั้นกระซิบที่หูเขาทำเอาเขาขนลุกไปทั้งตัว“คุณจะทำอะไร”แป้งยังไม่ตอบเขา แต่เธอเลื่อนไปแกะกระดุมเสื้อเชิ๊ตแบรนด์ดังที่เขาสวมอยู่ช้าๆและจัดการดึงมันออก“แป้งนี่คุณ อ๊า แป้ง เดี๋ยวก่อน อา....”ลิ้นของเธอกำลังวนเล่นอยู่ที่ยอดอกสีเข้มที่มีไรขนขึ้นรอบๆ เธอสังเกตเห็นขนอ่อนของเขาที่ลุกไปทั้งร่างเพราะรับการโจมตีนี้ไม่ทัน“ที่รัก คุณพร้อมหรือยังคะ”“พร้อมเรื่องอะไร แป้งเดี๋ยวสิ คุณ อา....”แป้งเลื่อนไปถอดเข็มขัดและกางเกงของเขาออกพร้อมกับดึงสิ่งที่เธอต้องการออกมาพร้อมกับรูดมันขึ้นลง เตชินท์ได้แต่กัดฟันเอาไว้เพราะเดาไม่ออกว่าเธอกำลังจะทำอะไรกับเขา มันเป็นความตื่นเต้นที่ต้องคอยลุ้นตลอดเวลา แม้ว่าจะดีมากแต่เขากลับไม่นึกอยากให้เธอทำแบบนี้นานนัก“แป้ง ผมจะไม่ไหวแล้ว อย่าแกล้งกันแบบนี้สิ ที่รัก อ๊า.....”แป้งไม่ตอบเขาแต่ดันเจ้าท่อนแกร่งนั้นเข้าไปในปากทันที เตชินท์พยายามแกะเชือกด้านหลังของเขาออกแต่เพราะสัมผัสที่รุกเร้าที่เร่าร้อนของคู่หมั้นสาวของเขานั้นร
ทั้งคู่หันไปมอง เตชินท์ลุกขึ้นมาเอาตัวบังแป้งไว้ แต่เสียงนั้นเกิดจากเครื่องยิงพลุปาร์ตี้ที่หมอรุต ออแกน เนยและคุณหญิงเพลินพิศเตรียมเอาไว้เพื่อรอแสดงความยินดีกับทั้งคู่“ยินดีด้วย ในที่สุดภารกิจขอแต่งงานก็สำเร็จไปได้ด้วยดี ออแกนต้องตัดชุดรอแล้วสินะคะ”“ตกใจหมดเลยออแกน เล่นอะไรน่ะ พี่กับแป้งคิดว่า…”“คิดว่าจะมีผู้ร้ายเข้ามาเหรอครับ ไม่มีทางครับ ที่นี่มีทั้ง รปภ และตำรวจ กว่าจะผ่านด่านขึ้นมาก็เจอบอดี้การ์ดของออแกนอีก ยากครับคุณชินที่จะเข้ามาถึงตัวพวกคุณได้”“ความคิดใครครับเนี่ย”“ก็ต้องภรรยาผมอยู่แล้วสิครับ เธอไปจัดแจงกับคุณป้าเอาไว้ ร้ายจริงๆ”“แหมม ตอนคุณขอออแกนก็ฉากแบบนี้เหมือนกัน แค่ตอนนั้นไม่มีใครจุดพลุให้เราแค่นั้นเอง”“จริงเหรอคะคุณออแกน หมอรุตขอคุณตอนป่วยเหรอคะ”“ใช่เลยค่ะ ที่สำคัญคือห้องนี้ด้วยล่ะค่ะ เซอร์ไพรส์มั้ยล่ะคะ”“เดี๋ยวก่อนๆ แม่จำได้ว่าเอาแหวนไว้ให้นี่ ไหนละแหวน ตาชินสวมแหวนให้น้องสิเร็วเข้าๆ”“แม่ละก็ ทำผมทำอะไรไม่ถูกแล้วเนี่ย ผมวางแผนมาซะดิบดีพังเพราะแม่คนเดียวเลย”“ช้าหรือเร็วแกก็ต้องแต่งกับแป้ง แม่ไม่รับคนอื่นแล้ว แม่รับแป้งคนเดียว แกจะไปจัดการขอกันอีกกี่รอบก็แล้วแต
“แม่ครับ แม่อย่าได้พูดเรื่องขอร้องแทนคุณกัลยาอีกเลยครับยังไงผมก็ไม่มีทางยอมความ ผมสั่งไปแล้วว่าไม่เจรจาไม่ไกล่เกลี่ย และให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”“เปล่า แม่ไม่ได้ห้ามแกแม่แค่จะถามว่าดำเนินการหรือยัง จะใช้ทนายของบ้านเราไปช่วยก็ได้นะคุณเอกวิทย์ก็ชำนาญเรื่องนี้มาก”“แม่ เมื่อวานนี้ที่เขาไปทำร้ายแป้งแม่ก็โดนด้วย แล้วทำไมแม่ไม่ให้หมอตรวจดูหน่อยละครับ”“เล็กน้อยน่ะ เทียบกับที่หนูแป้งโดน เฮ้อ ไม่คิดเลยจริงๆ ถูกแล้วล่ะเอาให้หลาบจำเสียบ้าง”“ยังดีที่แม่เห็นด้วยนะครับ”“แป้งตื่นหรือยังไปดูสิป้าผิน”“ค่ะคุณหญิง”ป้าผินเดินเข้าไปดูแป้งขยับตัวและหันมามองคนที่มายืนที่ปลายเตียงของเธอและรีบลุกขึ้นมองป้าผินด้วยความสงสัยว่าเธอเป็นใคร หรือว่าเข้าห้องผิด“สวัสดีค่ะคุณป้า มาเยี่ยมใครเหรอคะ หรือว่าเข้าห้องผิด ให้หนูช่วยมั้ยคะ”“ไม่หรอกค่ะคุณหนูแป้ง ป้าชื่อป้าผินค่ะ ป้ามากับคุณหญิงเพลินพิศเพื่อมาดูแลคุณหนูค่ะ”“มากับคุณหญิงงั้นเหรอคะ”“ตื่นแล้วเหรอ เด็กคนนี้นี่ บอกแล้วว่าให้เรียกแม่ไงล่ะ”“เอ่อ คุณแม่ มานานหรือยังคะ แป้งพึ่งจะตื่นค่ะก็เลยไม่เห็น”“ไม่เป็นไรๆนอนพักมากๆดีแล้ว รุตบอกแม่แล้วว่าให้ยาหนูไปก็เลยนอ
“คุณอย่ามาหื่นตอนนี้สิคะ แป้งบาดเจ็บอยู่นะ”“เฮ้อ ดูสิ ผมรึอุตส่าห์รีบเคลียร์งาน คิดว่าคืนนี้จะโต้รุ่งกับคุณซะหน่อย ที่ไหนได้กลายเป็นว่าต้องเปลี่ยนที่นอนมานอนเฝ้าคุณที่โรงพยาบาล เสียดายวันหยุดพรุ่งนี้จริงๆ”“รีบสั่งข้าวให้สักทีสิคะ หิวจะแย่อยู่แล้ว”“คร๊าบๆๆ รับพระบัญชาขอรับองค์หญิงรอสักครู่นะครับ”“ภาษาอะไรของคุณ ตลกจริงๆ”เตชินท์โทรสั่งอาหารให้เธอพร้อมกับสั่งของตัวเองมาด้วยเลยทีเดียว ไม่นานอาหารที่สั่งก็มาส่งถึงที่ตามมาด้วยชานนท์และผิงที่เดินเข้ามาในห้อง“แป้ง เป็นยังไงบ้างพี่รู้จากพี่นนท์ก็เลยมาเยี่ยม”“พี่ผิง แป้งไม่เป็นอะไรแล้วค่ะอีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”“แต่แผลเต็มตัวเลยนะ เฮ้อ ดีนะที่สมองไม่เป็นไร ไหนดูสิ สมองไหลรึเปล่า ฮ่าๆ”“พี่ผิงอ่ะ ตลอดเลยสมองไหลต้องตอนที่ดื่มมากค่ะ ไหลรั่วมาพร้อมกันหมด”“ยังไม่เข็ดอีกนะเราอ่ะ”“แหะๆ”“คุณผิง อาทิตย์หน้าผมมีอะไรเร่งด่วนต้องทำมั้ย”“เอ่อ นอกจากเรื่องโปรเจคซีที่พัทยากับเรื่อง เอ่อ คดีของแป้งก็ไม่ได้มีอะไรด่วนแล้วค่ะ”“งั้นผมอาจจะไม่เข้าออฟฟิศทั้งอาทิตย์เลยนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมก็แล้วกัน”“ได้ค่ะบอส”“บอสคะ คุณจะโดดงานทั้งอาทิตย์แบบน
แป้งตกใจกับสิ่งที่เห็น เพลินพิศเดินมาจับมือเธอเอาไว้และบีบแน่น “เป็นเพราะฉันพากัลยามา ทำให้เธอต้องเจ็บตัว ไม่คิดว่ากัลยาจะกล้าลงไม้ลงมือกับเธอต่อหน้าฉัน ขอโทษด้วยนะ ฉันขอโทษจริงๆ”“คุณหญิงคะ แป้งไม่โกรธคุณหญิงหรอกค่ะ แป้งรู้ดีว่าคุณหญิงไม่ทราบเรื่องนี้ค่ะ อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะคะ แป้งไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ อย่าให้แป้งรู้สึกผิดมากกว่านี้เลยนะคะ”“เธอเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้รู้สึกยังไง ดูสิ แผลเต็มตัวเลย ถ้าเธอเป็นอะไรไป ตาชินคงตัดแม่ตัดลูกกับฉันแน่ๆ”“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แป้งไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นนะคะ”“อย่าโกหกเลย ฉันไม่เคยเห็นลูกชายฉันเกรี้ยวกราดขนาดนี้ และยังไม่เคยเห็นเขาทำอะไรไม่ไว้หน้าแม้แต่แม่อย่างฉันแบบนี้มาก่อน นั่นแสดงว่าเธอมีความสำคัญกับเขามากนะ ฉันคิดว่าฉันกำลังจะได้รับข่าวดีเร็วๆนี้แล้วใช่มั้ย”“เอ่อ เรื่องนี้…อุ๊บ..เนย!!…”“เธอ…เธอเป็นอะไร…ตารุุต ตาชิน เร็วเข้ารีบเข้ามา!!”ทั้งหมดวิ่งกรูเข้ามาในห้อง เพลินพิศหันไปคว้ากระโถนล่างเตียงส่งให้แป้งที่กำลังอาเจียนออกมา หมอรุตและเตชินท์วิ่งเข้าไปถึง เตชินท์วิ่งไปลูบหลังให้เธอ เนยหาน้ำรอให้แป้งเอาไว้บ้วนปาก“ทุกคนออกไปก่อนนะครับ”“ผมไม่ไป!
กัลยาตะโกนสุดเสียงและมองไปที่เตชินท์ซึ่งตอนนี้ในสายตาเขาไม่มีวี่แววเกรงใจเธออยู่เลย เธอรู้ว่าครั้งนี้ออกจะวู่วามเกินไปหน่อย แต่ว่า….“ตาชิน ใจเย็นๆก่อนนะ ถ้าจะมีคนผิดก็ต้องเป็นแม่ ที่พาป้ากัลยามาในวันนี้ ที่จริงแม่แค่ต้องการมาคุยกับนิรชาดีๆเรื่องน้องแพรว”“ที่พวกคุณเห็นนั่น เรียกว่าคุยกันดีๆงั้นเหรอครับ แม่ครับแม่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมเตือนไปไม่รู้กี่ครั้ง คบใครอย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อน นี่มาเดือดร้อนถึงผมกับคนของผม แม่คิดว่าเรื่องนี้จะจบง่ายๆงั้นเหรอครับ แค่ผมบอกว่าไม่เอาเรื่องก็จบงั้นเหรอครับ”“แต่เธอเป็นแค่ลูกน้องนะคะ แค่คุณบอกว่าไม่เอาเรื่อง เธอก็น่าจะ….”“แล้วลูกน้อง หรือคนที่คุณทำร้ายเขาไม่มีพ่อ ไม่มีแม่งั้นเหรอครับ คุณอย่าลืมสิว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ไม่ใช่ปกป้องและขอร้องแทนลูกสาวคุณเหรอ แล้วคุณคิดบ้างมั้ยว่านิรชาเธอก็มีพ่อแม่!!”กัลยาทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง เธอหมดหนทางที่จะพูดโต้ตอบกับเตชินท์ เพลินพิศเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร อีกฝ่ายก็ลูก อีกคนก็เพื่อน แต่มาวันนี้เธอเลือกได้แล้วว่าควรจะเลือกใคร ลูกเธอเตือนเธอมาตลอดเรื่องกัลยา แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะทำให้ลูกชายของเธอ