เขาขับรถออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปที่โครงการของลูกค้า แป้งมองหน้าจอกับข้อความที่เข้ามาแบบรัวๆ ซึ่งเป็นของคนเดิมๆ เธอเลยเลือกที่จะบล็อกเขาออกจากรายชื่อ
ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอก็ตัดสายทิ้ง เธอตัดสายทิ้งจนตัดสินใจปิดเครื่อง เตชินท์รู้สึกว่านี่มันผิดปกติ เขาอยากรู้เหลือเกินว่าเธอปิดเครื่องหนีใคร
"คุณตั้งใจจะไปเที่ยวที่ไหนเหรอวันนี้"
"ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ตอนแรกกะว่าจะนอนอยู่ที่โรงแรมรองานเลี้ยงตอนเย็นเลย"
"ทำไมล่ะ เมื่อคืนนอนไม่พอเหรอ"
ได้ผล เขานึกขำกับท่าทางน่ารักที่ปิดไม่มิดของเธอมาก แป้งนั่งตัวแข็งทื่อก่อนจะรีบปรับท่าทีและตอบเขา
"คือว่าเมื่อคืนนี้แฮงค์ค่ะ ก็เลยนอนไม่ค่อยสบายเท่าไหร่"
"งั้นเหรอ"
แป้งหันหน้าหนีไปทางอื่น เธอถูกถามเรื่องนี้มาสองรอบแล้ว ตกลงเขาจำได้หรือไม่ได้กันแน่นะ เธอไม่อยากเดา เตชินท์เห็นคนข้างๆมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาจึงไม่ถามอะไรเธออีก
ในเมื่อเธอไม่อยากยอมรับเรื่องเมื่อคืน เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องเอามาใส่ใจ เพราะอย่างไรเธอก็เป็นพนักงานของเขา และเขาก็ไม่อยากเสียคนเก่งแบบเธอไป
"ถึงแล้วล่ะ"
"ไม่เห็นมีใครเลยนี่คะ"
แป้งเปิดประตูเดินตามเขาเข้าไปที่โรงแรมที่ทำใกล้จะเสร็จแล้วพร้อมกับพนักงานต้อนรับสาวสวยที่เดินเข้ามาถามเตชินท์
"ผมมาพบคุณชริณ"
"จะให้แจ้งว่าใครมาพบคะ"
"ผมเตชินท์จาก TC ดีไซน์ครับ"
"ได้ค่ะ รบกวนนั่งรอสักครู่นะคะ"
พนักงานคนนั้นหายไปสักพักก็ออกมาพร้อมกับเจ้านายของเธอ เป็นผู้ชายวัยใกล้เคียงกับเตชินท์หน้าตาดีพอๆกับเตชินท์ เขามองมาทั้งคู่พร้อมกับทักทาย
"คุณเตชินท์คุณมาพอดีเลย"
"สวัสดีครับคุณชริณ นี่คุณนิรชา อินทีเรียร์ของผมครับ"
"สวัสดีครับคุณ.."
"สวัสดีค่ะคุณชริณ แป้งค่ะ เรียกแป้งก็ได้ค่ะ"
"คุณแป้ง ยินดีครับ"
ชริณรู้สึกสะดุดตาสาวสวยตรงหน้า เตชินท์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เขามองเธอแบบนั้นจนเขาต้องเป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศนั้นเอง
"เห็นบอกว่าหน้างานมีปัญหาเหรอครับคุณชริณ"
"อ้อ จริงๆก็ไม่มีอะไรมากครับดูเหมือนว่าช่างจะปูสีกระเบื้องในห้องน้ำผิดน่ะครับ ผมเลยจะรบกวนคุณเตชินท์มาดูหน่อยเชิญทางนี้ครับ"
เขาเดินนำทั้งคู่ไปที่โครงการใหม่ที่อยู่ใกล้ๆกัน ดูเหมือนว่าโรงแรมนี้จะเปิดตัวไปได้ไม่นานและต้องการขยายเพิ่มเนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาพักเพราะความแปลกใหม่ของห้องพักนั่นเอง
"สีผิดจริงๆด้วย นี่มันต้องเป็นดีไซน์ของอีกห้องหนึ่ง"
"แต่การที่จะรื้อแล้วปูใหม่มันจะไม่ทันกำหนดการเปิดน่ะสิครับ"
แป้งเดินดูรอบๆห้องที่เป็นคนละสีกับกระเบื้องที่ตกแต่งที่จริงห้องนี้ต้องตกแต่งเป็นแนววินเทจแต่กระเบื้องในห้องน้ำกลับเป็นสีฉูดฉาด ซึ่งไม่เข้ากับบรรยากาศในห้อง
"มีทางแก้ไขมั้ยครับคุณเตชินท์"
"ขอโทษนะคะ ขนาดของห้องน้ำกว้างพอสมควร ให้น้ำจะมีอุปกรณ์อะไรบ้างเหรอคะ"
"เอ่อ ก็จะมีอ่างอาบน้ำครับ แล้วก็โซนห้องน้ำกับอ่างล้างหน้า"
"พื้นกระเบื้องสีฉูดฉาดก็จริง แต่ก็ใช่จะแก้ไม่ได้ค่ะ่"
"คุณมีไอเดียงั้นเหรอ"
เตชินท์ถามเธอ แป้งหันมามองเขาแล้วยิ้มให้"
"แบบนี้นะคะ ถ้าเราวางอ่างอาบน้ำตรงนี้ และแบ่งโซนจัดสวนเอาไว้ตรงนี้เพื่อให้เข้ากับกระเบื้องเอาจริงๆคือปิดสีกระเบื้องเพื่อกลืนกับบรรยากาศนั่นแหละค่ะ”
“และก็ตรงอ่างล้างมือให้ห้อยไม้เลื้อยปลอมเอาไว้พร้อมกับมีน้ำพุเล็กๆตรงนี้ให้เหมือนบรรยากาศเหมือนอาบน้ำในสวน แค่นี้ก็หมดปัญหากระเบื้องแล้วค่ะ ของตกแต่งพวกนี้หาไม่ยากค่ะ ซื้อสำเร็จมาแล้วตกแต่งได้เลย"
"ไอเดียนี้เข้าท่านะครับคุณแป้ง ผมชักอยากเห็นแล้ว คุณเตชินท์ว่าไงครับ"
"ผมก็อยากเห็นครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปหาซื้อของมาเพื่อลองตกแต่งดูนะครับ"
"ผมไปด้วยสิครับ ผมคนพื้นที่ รู้แหล่ง คุณแป้งบอกมาได้เลยนะครับว่าอยากได้อะไรบ้าง"
"ได้ค่ะ"
แป้งเดินไปคุยไปกับชริณทำให้เตชินท์ที่เดินตามทั้งคู่ไปรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ชริณเป็นลูกค้าและเรื่องนี้ก็ผิดพลาดเพราะทีมงานของเขา แป้งที่มาช่วยแก้งานให้จริงๆเขาต้องขอบคุณเธอ แต่ความหงุดหงิดนี้เขาสลัดไม่หลุดเสียที
"เอารถตู้โรงแรมผมไปดีกว่าครับ จะได้ขนของได้สะดวกด้วย"
"ดีครับ"
"คุณแป้งเชิญเลยครับ"
แป้งเดินเข้าไปนั่งที่แถวกลาง เมื่อชริณจะเดินเข้าไป เตชินท์จึงรีบดึงเขาไว้
"คุณชริณนั่งเบาะหน้าบอกทางคนขับเถอะครับ ผมไม่ค่อยชินทาง"
"ได้ครับๆ"
เตชินท์เดินไปนั่งข้างๆแป้งที่นั่งดูข้อมูลและเธอก็เริ่มร่างแบบที่วาดเอาไว้ในหัวลงในไอแพดที่ถือมา เตชินท์มองดูอย่างนึกทึ่งกับความสามารถของเธอที่มาหน้างานเพียงไม่นานก็ร่างแบบออกมาได้อย่างรวดเร็ว
"คุณแป้งจะซื้ออะไรก่อนครับ ผมจะได้บอกคนขับไปถูกที่"
"ร้านที่มีต้นไม้ปลอมกับพวกอุปกรณ์น้ำพุขายค่ะ"
"ได้ครับ"
แป้งยังนั่งวาดต่อโดยไม่สนใจคนที่นั่งข้างๆเธอ เมื่อเริ่มลงมือทำงานแล้วเธอมักจะเป็นแบบนี้เสมอ คือตั้งใจและไม่สนใจคนอื่นๆ
"คุณเห็นหน้างานแค่แป๊บเดียวก็จำได้แล้วเหรอ"
"มันเป็นงานของอินทีเรียร์นี่คะ"
เขายังมองรูปที่เธอวาดอย่างสนใจจนขยับเข้าไปจนชิดเธอ แป้งเริ่มรู้สึกว่าถูกเบียดเมื่อเขาเข้ามาใกล้เกิน
"เอ่อ บอสคะ แป้งวาดไม่ถนัด"
"อ่อ ขอโทษที พอดีผมมองเพลินไปหน่อย"
เขาขยับออกมา แต่ก็ไม่มาก พอให้เธอแค่มีพื้นที่วาดเท่านั้น พวกเขานั่งไปไม่นานก็ถึงร้านของตกแต่งที่แป้งบอก เธอเดินเลือกของพร้อมกับชี้สิ่งที่ต้องการ คนขับรถค่อยๆทยอยนำของที่ซื้อขึ้นรถไป
"น้ำพุนี่น่าจะต้องให้ร้านนำไปส่งนะคะ เราไม่ควรยกไปเอง"
"ทำไมล่ะครับคุณแป้ง"
แป้งเดินเข้าไปใกล้ๆชริณเพื่อกระซิบให้เขาได้ยิน
"เพราะถ้าเกิดแตกหักกลางทางเขาจะหาเรื่องไม่เคลมให้เราค่ะ ทางที่ดีให้เขารับผิดชอบเอาไปส่งให้ปลอดภัยกว่าค่ะ"
"อ่อ แบบนี้นี่เอง คุณแป้งรอบคอบจริงๆครับ"
เตชินท์ทันเห็นภาพนั้นพอดี เขาเดินไปดึงตัวเธอออกมาพร้อมกับความตกใจของแป้งและหันมาค้อนเขา โชคดีที่ชริณไม่ทันเห็นเพราะเขาหันไปสั่งคนขับรถให้บอกเจ้าของว่าให้นำน้ำพุตามไปส่งที่โรงแรม
"โอ๊ย บอส เจ็บนะคะ คุณทำอะไร"
"อย่าทำพฤติกรรมแบบนั้น มันน่าเกลียด อย่าให้ผมเห็นคุณทำอีกนะ"
เตชินท์เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาหน่อยๆแต่ก็รู้สึกตื่นเต้นด้วย เสียงแป้งเงียบลงไป ดูเหมือนว่าเธอจะไม่อยู่ที่นี่“แป้งคุณอยู่ไหนน่ะ”“มาแล้วค่ะ”เสียงแหบพร่านั้นกระซิบที่หูเขาทำเอาเขาขนลุกไปทั้งตัว“คุณจะทำอะไร”แป้งยังไม่ตอบเขา แต่เธอเลื่อนไปแกะกระดุมเสื้อเชิ๊ตแบรนด์ดังที่เขาสวมอยู่ช้าๆและจัดการดึงมันออก“แป้งนี่คุณ อ๊า แป้ง เดี๋ยวก่อน อา....”ลิ้นของเธอกำลังวนเล่นอยู่ที่ยอดอกสีเข้มที่มีไรขนขึ้นรอบๆ เธอสังเกตเห็นขนอ่อนของเขาที่ลุกไปทั้งร่างเพราะรับการโจมตีนี้ไม่ทัน“ที่รัก คุณพร้อมหรือยังคะ”“พร้อมเรื่องอะไร แป้งเดี๋ยวสิ คุณ อา....”แป้งเลื่อนไปถอดเข็มขัดและกางเกงของเขาออกพร้อมกับดึงสิ่งที่เธอต้องการออกมาพร้อมกับรูดมันขึ้นลง เตชินท์ได้แต่กัดฟันเอาไว้เพราะเดาไม่ออกว่าเธอกำลังจะทำอะไรกับเขา มันเป็นความตื่นเต้นที่ต้องคอยลุ้นตลอดเวลา แม้ว่าจะดีมากแต่เขากลับไม่นึกอยากให้เธอทำแบบนี้นานนัก“แป้ง ผมจะไม่ไหวแล้ว อย่าแกล้งกันแบบนี้สิ ที่รัก อ๊า.....”แป้งไม่ตอบเขาแต่ดันเจ้าท่อนแกร่งนั้นเข้าไปในปากทันที เตชินท์พยายามแกะเชือกด้านหลังของเขาออกแต่เพราะสัมผัสที่รุกเร้าที่เร่าร้อนของคู่หมั้นสาวของเขานั้นร
ทั้งคู่หันไปมอง เตชินท์ลุกขึ้นมาเอาตัวบังแป้งไว้ แต่เสียงนั้นเกิดจากเครื่องยิงพลุปาร์ตี้ที่หมอรุต ออแกน เนยและคุณหญิงเพลินพิศเตรียมเอาไว้เพื่อรอแสดงความยินดีกับทั้งคู่“ยินดีด้วย ในที่สุดภารกิจขอแต่งงานก็สำเร็จไปได้ด้วยดี ออแกนต้องตัดชุดรอแล้วสินะคะ”“ตกใจหมดเลยออแกน เล่นอะไรน่ะ พี่กับแป้งคิดว่า…”“คิดว่าจะมีผู้ร้ายเข้ามาเหรอครับ ไม่มีทางครับ ที่นี่มีทั้ง รปภ และตำรวจ กว่าจะผ่านด่านขึ้นมาก็เจอบอดี้การ์ดของออแกนอีก ยากครับคุณชินที่จะเข้ามาถึงตัวพวกคุณได้”“ความคิดใครครับเนี่ย”“ก็ต้องภรรยาผมอยู่แล้วสิครับ เธอไปจัดแจงกับคุณป้าเอาไว้ ร้ายจริงๆ”“แหมม ตอนคุณขอออแกนก็ฉากแบบนี้เหมือนกัน แค่ตอนนั้นไม่มีใครจุดพลุให้เราแค่นั้นเอง”“จริงเหรอคะคุณออแกน หมอรุตขอคุณตอนป่วยเหรอคะ”“ใช่เลยค่ะ ที่สำคัญคือห้องนี้ด้วยล่ะค่ะ เซอร์ไพรส์มั้ยล่ะคะ”“เดี๋ยวก่อนๆ แม่จำได้ว่าเอาแหวนไว้ให้นี่ ไหนละแหวน ตาชินสวมแหวนให้น้องสิเร็วเข้าๆ”“แม่ละก็ ทำผมทำอะไรไม่ถูกแล้วเนี่ย ผมวางแผนมาซะดิบดีพังเพราะแม่คนเดียวเลย”“ช้าหรือเร็วแกก็ต้องแต่งกับแป้ง แม่ไม่รับคนอื่นแล้ว แม่รับแป้งคนเดียว แกจะไปจัดการขอกันอีกกี่รอบก็แล้วแต
“แม่ครับ แม่อย่าได้พูดเรื่องขอร้องแทนคุณกัลยาอีกเลยครับยังไงผมก็ไม่มีทางยอมความ ผมสั่งไปแล้วว่าไม่เจรจาไม่ไกล่เกลี่ย และให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”“เปล่า แม่ไม่ได้ห้ามแกแม่แค่จะถามว่าดำเนินการหรือยัง จะใช้ทนายของบ้านเราไปช่วยก็ได้นะคุณเอกวิทย์ก็ชำนาญเรื่องนี้มาก”“แม่ เมื่อวานนี้ที่เขาไปทำร้ายแป้งแม่ก็โดนด้วย แล้วทำไมแม่ไม่ให้หมอตรวจดูหน่อยละครับ”“เล็กน้อยน่ะ เทียบกับที่หนูแป้งโดน เฮ้อ ไม่คิดเลยจริงๆ ถูกแล้วล่ะเอาให้หลาบจำเสียบ้าง”“ยังดีที่แม่เห็นด้วยนะครับ”“แป้งตื่นหรือยังไปดูสิป้าผิน”“ค่ะคุณหญิง”ป้าผินเดินเข้าไปดูแป้งขยับตัวและหันมามองคนที่มายืนที่ปลายเตียงของเธอและรีบลุกขึ้นมองป้าผินด้วยความสงสัยว่าเธอเป็นใคร หรือว่าเข้าห้องผิด“สวัสดีค่ะคุณป้า มาเยี่ยมใครเหรอคะ หรือว่าเข้าห้องผิด ให้หนูช่วยมั้ยคะ”“ไม่หรอกค่ะคุณหนูแป้ง ป้าชื่อป้าผินค่ะ ป้ามากับคุณหญิงเพลินพิศเพื่อมาดูแลคุณหนูค่ะ”“มากับคุณหญิงงั้นเหรอคะ”“ตื่นแล้วเหรอ เด็กคนนี้นี่ บอกแล้วว่าให้เรียกแม่ไงล่ะ”“เอ่อ คุณแม่ มานานหรือยังคะ แป้งพึ่งจะตื่นค่ะก็เลยไม่เห็น”“ไม่เป็นไรๆนอนพักมากๆดีแล้ว รุตบอกแม่แล้วว่าให้ยาหนูไปก็เลยนอ
“คุณอย่ามาหื่นตอนนี้สิคะ แป้งบาดเจ็บอยู่นะ”“เฮ้อ ดูสิ ผมรึอุตส่าห์รีบเคลียร์งาน คิดว่าคืนนี้จะโต้รุ่งกับคุณซะหน่อย ที่ไหนได้กลายเป็นว่าต้องเปลี่ยนที่นอนมานอนเฝ้าคุณที่โรงพยาบาล เสียดายวันหยุดพรุ่งนี้จริงๆ”“รีบสั่งข้าวให้สักทีสิคะ หิวจะแย่อยู่แล้ว”“คร๊าบๆๆ รับพระบัญชาขอรับองค์หญิงรอสักครู่นะครับ”“ภาษาอะไรของคุณ ตลกจริงๆ”เตชินท์โทรสั่งอาหารให้เธอพร้อมกับสั่งของตัวเองมาด้วยเลยทีเดียว ไม่นานอาหารที่สั่งก็มาส่งถึงที่ตามมาด้วยชานนท์และผิงที่เดินเข้ามาในห้อง“แป้ง เป็นยังไงบ้างพี่รู้จากพี่นนท์ก็เลยมาเยี่ยม”“พี่ผิง แป้งไม่เป็นอะไรแล้วค่ะอีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”“แต่แผลเต็มตัวเลยนะ เฮ้อ ดีนะที่สมองไม่เป็นไร ไหนดูสิ สมองไหลรึเปล่า ฮ่าๆ”“พี่ผิงอ่ะ ตลอดเลยสมองไหลต้องตอนที่ดื่มมากค่ะ ไหลรั่วมาพร้อมกันหมด”“ยังไม่เข็ดอีกนะเราอ่ะ”“แหะๆ”“คุณผิง อาทิตย์หน้าผมมีอะไรเร่งด่วนต้องทำมั้ย”“เอ่อ นอกจากเรื่องโปรเจคซีที่พัทยากับเรื่อง เอ่อ คดีของแป้งก็ไม่ได้มีอะไรด่วนแล้วค่ะ”“งั้นผมอาจจะไม่เข้าออฟฟิศทั้งอาทิตย์เลยนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมก็แล้วกัน”“ได้ค่ะบอส”“บอสคะ คุณจะโดดงานทั้งอาทิตย์แบบน
แป้งตกใจกับสิ่งที่เห็น เพลินพิศเดินมาจับมือเธอเอาไว้และบีบแน่น “เป็นเพราะฉันพากัลยามา ทำให้เธอต้องเจ็บตัว ไม่คิดว่ากัลยาจะกล้าลงไม้ลงมือกับเธอต่อหน้าฉัน ขอโทษด้วยนะ ฉันขอโทษจริงๆ”“คุณหญิงคะ แป้งไม่โกรธคุณหญิงหรอกค่ะ แป้งรู้ดีว่าคุณหญิงไม่ทราบเรื่องนี้ค่ะ อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะคะ แป้งไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ อย่าให้แป้งรู้สึกผิดมากกว่านี้เลยนะคะ”“เธอเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้รู้สึกยังไง ดูสิ แผลเต็มตัวเลย ถ้าเธอเป็นอะไรไป ตาชินคงตัดแม่ตัดลูกกับฉันแน่ๆ”“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แป้งไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นนะคะ”“อย่าโกหกเลย ฉันไม่เคยเห็นลูกชายฉันเกรี้ยวกราดขนาดนี้ และยังไม่เคยเห็นเขาทำอะไรไม่ไว้หน้าแม้แต่แม่อย่างฉันแบบนี้มาก่อน นั่นแสดงว่าเธอมีความสำคัญกับเขามากนะ ฉันคิดว่าฉันกำลังจะได้รับข่าวดีเร็วๆนี้แล้วใช่มั้ย”“เอ่อ เรื่องนี้…อุ๊บ..เนย!!…”“เธอ…เธอเป็นอะไร…ตารุุต ตาชิน เร็วเข้ารีบเข้ามา!!”ทั้งหมดวิ่งกรูเข้ามาในห้อง เพลินพิศหันไปคว้ากระโถนล่างเตียงส่งให้แป้งที่กำลังอาเจียนออกมา หมอรุตและเตชินท์วิ่งเข้าไปถึง เตชินท์วิ่งไปลูบหลังให้เธอ เนยหาน้ำรอให้แป้งเอาไว้บ้วนปาก“ทุกคนออกไปก่อนนะครับ”“ผมไม่ไป!
กัลยาตะโกนสุดเสียงและมองไปที่เตชินท์ซึ่งตอนนี้ในสายตาเขาไม่มีวี่แววเกรงใจเธออยู่เลย เธอรู้ว่าครั้งนี้ออกจะวู่วามเกินไปหน่อย แต่ว่า….“ตาชิน ใจเย็นๆก่อนนะ ถ้าจะมีคนผิดก็ต้องเป็นแม่ ที่พาป้ากัลยามาในวันนี้ ที่จริงแม่แค่ต้องการมาคุยกับนิรชาดีๆเรื่องน้องแพรว”“ที่พวกคุณเห็นนั่น เรียกว่าคุยกันดีๆงั้นเหรอครับ แม่ครับแม่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมเตือนไปไม่รู้กี่ครั้ง คบใครอย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อน นี่มาเดือดร้อนถึงผมกับคนของผม แม่คิดว่าเรื่องนี้จะจบง่ายๆงั้นเหรอครับ แค่ผมบอกว่าไม่เอาเรื่องก็จบงั้นเหรอครับ”“แต่เธอเป็นแค่ลูกน้องนะคะ แค่คุณบอกว่าไม่เอาเรื่อง เธอก็น่าจะ….”“แล้วลูกน้อง หรือคนที่คุณทำร้ายเขาไม่มีพ่อ ไม่มีแม่งั้นเหรอครับ คุณอย่าลืมสิว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ไม่ใช่ปกป้องและขอร้องแทนลูกสาวคุณเหรอ แล้วคุณคิดบ้างมั้ยว่านิรชาเธอก็มีพ่อแม่!!”กัลยาทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง เธอหมดหนทางที่จะพูดโต้ตอบกับเตชินท์ เพลินพิศเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร อีกฝ่ายก็ลูก อีกคนก็เพื่อน แต่มาวันนี้เธอเลือกได้แล้วว่าควรจะเลือกใคร ลูกเธอเตือนเธอมาตลอดเรื่องกัลยา แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะทำให้ลูกชายของเธอ