แชร์

ขอทานสกปรกที่ถูกรังเกียจ 2

ผู้เขียน: พิมพ์สีทอง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-25 14:45:25

"ตายแน่หรือเปล่า!?"

 "นั่นหญิงบ้าคนนั้นใช่ไหม!"

 "คุณพระช่วย!"

 ผู้ที่ตกอกตกใจและแสดงความเห็นใจออกมา ส่วนใหญ่เป็นผู้ชราที่ผ่านโลกมามาก ชายคนนั้นที่ผลักขอทานสปรกถูกประณามทางสายตาในทันทีจนต้องรีบเดินหนีหลบไป แต่การทำให้ขบวนเสด็จหยุดชะงักเป็นคนละเรื่องกัน

 หากสวี่ซือเหยาเป็นผู้ไม่หวังดีที่ตั้งใจก่อกวนขึ้นมา คงถูกบั่นคอในทันที แต่เห็นสภาพของหญิงสาววิปลาสผู้นี้แล้วพวกเขาก็ปัดตกความคิดที่ว่านั่นไป

 สวี่ซือเหยาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมตนเองมาอยู่ตรงนี้ รู้เพียงว่าสติเริ่มเลือนรางลงเต็มที ทั้งมึนหัวและวิงเวียนจนแรงจะพยุงตัวให้ลุกขึ้นยังไม่มี

 เสียงเอะอะโวยวายดังอยู่พักหนึ่ง ก็มีพลทหารมาลากร่างนั้นออกไปไม่ให้เป็นที่ระคายสายตา สวี่ซือเหยาถูกดึงขึ้นจากพื้นอย่างไม่สนว่าจะเป็นหรือตาย 

 ร่างกายที่ทรุดโทรมจากอาการป่วยสะสมทำให้นางกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ เปรอะเปื้อนจนย้อมชุดมอมแมมให้กลายเป็นสีชาด หญิงวิปลาสที่พวกชาวบ้านพากันเรียกหมดลมหายใจไปในทันที

 กลายเป็นเพียงร่างติดกระดูกที่ถูกหิ้วไปมาอย่างน่าเวทนาเกินจะทนดู

 "อะไรเนี่ย น่าขยะแขยงจริง" พลทหารนายหนึ่งเอ่ยออกมาทั้งแสดงสีหน้ารังเกียจชัดเจน

 "ลากไปทิ้งไว้สักที่ค่อยมาจัดการแล้วกัน ขบวนต้องเดินต่อ"

 จวิ้นอ๋องที่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่แรก รู้สึกเวทนาสตรีบ้าผู้นั้นยิ่งนักจึงห้ามปรามไว้

 "อย่าทำตัวไร้ศีลธรรมให้มาก พวกเราไม่ได้อยู่ในสนามรบ และนั่นก็เป็นพลเมืองคนหนึ่งของฝ่าบาท จัดพิธีส่งวิญญาณให้นาง" เขาตำหนิพอประมาณ แม้จะดูเหมือนเป็นเช่นนั้นแต่จวิ้นอ๋องก็เด็ดขาดในการสั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชา

 พลทหารผู้นั้นรีบคุกเข่ากล่าวขออภัยในทันที ก่อนจะพาร่างที่พึ่งหมดลมหายใจไปนั้นออกไปจากถนน

 ร่างของสวี่ซือเหยาถูกนำไปพักไว้ในโลงไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างลวก ๆ เป็นการชั่วคราว

 หลังหมดลมหายใจไป สวี่ซือเหยาก็ลืมตาขึ้นใหม่ในร่างโปร่งแสงที่ลอยอยู่เหนือพื้น นางรับรู้ว่ามีผู้ใจบุญทำพิธีส่งวิญญาณให้ แม้จะไม่ใช่งานเป็นทางการอะไรแต่แค่ไม่โยนร่างไร้วิญญาณของนางลงเหวไปให้แร้งจิกทึ้งก็ถือว่าเมตตามากแล้ว สวี่ซือเหยามองร่างตัวเองที่กำลังมอดไหม้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะนอกจากตัวนางในตอนนี้ก็คงไม่มีเครือญาติที่ไหนมายืนส่งอีกแล้ว ที่พวกเขาเผานางนั้นพอจะเข้าใจ การจะมีสุสานตัวเองนั้นต้องมีญาติพี่น้องหรือตระกูล แต่ตอนนี้นางเป็นเพียงสตรีวิปลาสคนหนึ่งเท่านั้น ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว

 ระหว่างที่เปลวไฟกำลังลุกไหม้โชติช่วงอยู่นั่น อยู่ ๆ ร่างวิญญาณของนางก็เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมากระชากไป สวี่ซือเหยากรีดร้องลั่นด้วยความตก สิ่งนั้นลากนางไปจนมองไม่เห็นทิวทัศน์รอบข้างได้ชัดเจน คล้ายว่าอยู่ในวังน้ำวนสีดำอย่างไรอย่างนั้น

 ยังไม่ทันได้คลายสงสัย สวี่ซือเหยาก็รู้สึกวิงเวียนจนแทบอาเจียนออกมาแม้ในท้องจะไม่มีอะไรให้สำรอกออกตั้งแต่ก่อนตายแล้วก็ตาม ร่างโปร่งแสงของนางที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง เสมือนตกจากหน้าผาสูง ดิ่งลงไปเบื้องล่างที่ไม่รู้ว่าปลายทางคือที่ไหน

 ก่อนเสี้ยวสติสุดท้ายจะหายไปอีกครั้ง สวี่ซือเหยาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่โอบประคองร่างโปร่งแสงของนางเอาไว้จนการกระทั่งการรับรู้จากประสาทสัมผัสทั้งหมดถูกตัดขาดโดยแท้จริง...

หนังสือเล่มหนาถูกปิดลงหลังอ่านถึงตัวอักษรสุดท้าย ตอนจบบริบูรณ์ของนิยายที่ไม่มีเอ่ยถึงตัวละครอย่างสวี่ซือเหยา เป็นเพียงตัวประกอบที่โผล่ออกมาแค่ไม่กี่บทให้รู้เหตุจูงใจของตัวร้ายเท่านั้น สวี่ซือเหยาไม่รู้ว่าควรประหลาดใจกับอะไรก่อนดี ระหว่างการค้นพบว่าโลกของเธอเป็นเพียงนวนิยายเรื่องหนึ่งในโลกใบนี้ แล้วโลกใบนี้ก็อาจเป็นเพียงนวนิยายในโลกอื่นด้วยเหมือนกัน

 หญิงสาวอดีตคุณหนูสกุลสวี่ ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งในร่างทารกหญิงคนหนึ่ง ที่พ่อแม่บังเอิญตั้งชื่อให้เหมือนกับชาติก่อนไม่มีผิดเพี้ยน เธอเติบโตขึ้นมาในบทบาทของหญิงสาวธรรมดาใช้ชีวิตสมวัยโดยที่ความทรงจำยังหลงเหลือ

 คิดดูดี ๆ แล้วที่กล่าวมาอาจไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่สุดยอดมากมายอะไร เพราะหากนิยายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดแล้วล่ะก็ เธอก็ได้ค้นพบความจริงบางอย่างที่น่าตกใจกว่า พี่ชายของเธอที่เคยเกลียดเขานักหนา หลังเธอตายเขากลับตามแก้แค้นทุกคน เอาคืนให้อย่างเลือดเย็น ตระกูลหลักถูกเล่นงานยับเยินอย่างไร้ความปรานี แต่สุดท้ายเขาที่ถูกวางบทให้เป็นตัวร้ายก็ตายอย่างน่าเศร้า

 สวี่ซือเหยาเจ็บในอกทุกครั้งที่นึกถึงฉากเหล่านั้นผ่านตัวอักษร หากเธอใช้สมองพิจารณาสักหน่อย อาจไม่ตามืดบอดกระทั่งตาย อาจทำให้เขาไม่ต้องมีจุดจบน่าเศร้า และเธอเองก็ไม่ต้องตายอย่างน่าสมเพช ถูกคนที่เชื่อใจหลอกใช้และปอกลอกจนกระทั่งหมดประโยชน์

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   บทส่งท้าย ครอบครัวพร้อมหน้า ไม่หวนคืนชะตาเดิม...

    พระชายาทำสีหน้าประหลาดใจอยู่เพียงครู่เดียว ก็กลับไปทำสีหน้าอ่อนโยนเช่นปกติของนาง หลายปีที่บุตรชายพลัดพรากไปนั้นจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ้างก็ไม่แปลกอะไรเลย นางเคยส่งคนไปตามสืบความเป็นอยู่ในอดีตของเขาแต่ก็รู้เพียงว่าเขาเป็นคนของสำนักคุ้มภัยมาเท่านั้น จึงไม่ได้ใส่ใจสืบหาลึกไปกว่านี้ อีกทั้งบุตรชายก็ไม่มีท่าทีอยากจะตามหาอดีตแม้จะดูเหมือนคนใจลอยอยู่ตลอดเวลาก็ตาม นางลืมคิดไปว่าบุตรชายไม่ได้เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของนางหรือสามี อาจเป็นคนอ่อนโยนหรือหัวอ่อนกว่าที่คิดก็เป็นได้ ใสซื่อเสียจนไม่น่าเชื่อว่ามีภรรยาแล้ว บุตรชายได้ความซื่อบื้อของสามีนางมากไปจริง ๆ ตัวนางก็ผิดเองที่ไม่รอบคอบสืบหาให้จริงจัง "จำได้หมดแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่" คนพึ่งได้ความทรงจำกลับมาพยักหน้าหงึก ๆ "มาคุยกับแม่ก่อน เป็นคุณหนูบ้านไหน สตรีบ้านใดเล่า" โจวเยี่ยนเฉินเล่าให้มารดาฟังตั้งแต่ต้น รวมถึงเรื่องที่ถูกบ้านเดิมภรรยาปฏิบัติไม่ดีด้วยใส่ทั้งเขาและนาง ฮูหยินอาวุโสจำชื่อตระกูลนี้ได้อย่างแม่นยำเพราะพึ่งมีประกาศลงโทษไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง "เจ้าก็พักก่อนเถอะ แม่จะไปคุยกับพ่อให้เอง" นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังให้เขาวางใจ

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   ฟื้นความทรงจำ 2

    สวี่ซือเหยาทำสีหน้าประหลาดใจ ไม่คิดว่าใครจะมีธุระที่ต้องมาหาถึงจวนพี่ชาย นางกับแม่ทัพจ้าวเจี้ยนไม่ได้เปิดเผยออกไปอย่างสาธารณะว่าเป็นพี่น้องกัน แต่ก็ไม่ได้ปิดบังเช่นกัน แต่ว่านางไม่สนิทชิดเชื้อกับคนในเมืองหลวงเลย อีกทั้งนางได้หวนคืนกลับมาความทรงจำบางอย่างก็ลืมเลือนไป ทำให้ไม่ได้สานความสัมพันธ์กับใครไว้ แต่ว่าใครมาหาก็คงไม่สำคัญเพราะอีกไม่นานสวี่ซือเหยาก็ต้องกลับไปดูแลกิจการที่เมืองเกิดมารดา และที่นั่นทำให้นางรู้สึกมีความสุขกว่าเมืองหลวงที่วุ่นวาย และคงมาเยี่ยมพี่ชายได้นาน ๆ ครั้งเท่านั้น จึงไม่ได้ให้สถานที่ติดต่อใครไว้เลย เมื่อนางจะเดินไปแต่พบว่าพี่ชายไม่ได้เดินตามจึงหันมาถาม "ไม่ไปด้วยกันหรือเจ้าคะ?" "ไม่ไปหรอก แขกของเจ้านี่นา" ไม่รู้พี่ชายท่านนี้ตั้งใจกวนประสาทอะไรนางอีก ในเมื่อตั้งใจให้นางไปลำพังนางก็คงต้องไปลำพัง สวี่ซือเหยาเดินมาถึงเรือนกลาง ในห้องรับรองนั้นมีใครบางคนรอนางอยู่ เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างและลายปักประณีตบนชุดเนื้อผ้าชั้นดี "คุณชายท่านนี้มีธุระกับข้าหรือเจ้าคะ" นางเอ่ยทักทายอีกฝ่ายไป แขกผู้นั้นหันมาตามเสียงเรียก สวี่ซือเหยาชะงักนิ่งหลังเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร โจวเยี่

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   ฟื้นความทรงจำ 1

    ค่ำคืนแห่งงานเลี้ยงจบลง โจวเยี่ยนเฉินกลับถึงจวนก็เข้านอนด้วยความอ่อนเพลียเล็กน้อย เสียงสตรีที่สวมผ้าคลุมหน้าที่ได้ยินวันนี้ แม้สนทนากันไม่กี่ประโยค แต่ก็คุ้นหูนัก เมื่อหนึ่งปีก่อนเขาฟื้นขึ้นมาโดยที่จำอะไรไม่ได้เลย นอกจากชื่อตัวเอง รู้เพียงว่าพลัดพรากจากพ่อแม่แท้ ๆ มานานหลายปี มีคนไปพบเขาหมดสติอยู่ป่า เนื้อตัวเปรอะเปื้อนและบาดเจ็บหนัก เห็นว่าหน้าตามีความคล้ายคลึงผู้เป็นนายจึงช่วยเหลือไว้ก่อน โจวเยี่ยนเฉินใช้เวลาหนึ่งปีหลังจากนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่ไม่ถูกเติมเต็ม ไม่ว่าในหัวของเขาหรือในใจของเขาล้วนมีช่องว่างบางอย่างที่ไม่สามารถกลบได้ คืนนั้นชายหนุ่มเข้าสู่ห้วงฝันด้วยภาพของสตรีที่ได้พบกันในงานแล้วสลัดออกไปจากหัวไม่ได้ เมฆหมอกบริเวณโดยรอบนั้นหนาตา แต่ภาพตรงหน้ากับชัดเจน บ้านหลังใหญ่โตหลังหนึ่งอย่างผู้มีอันจะกินอยู่อาศัยมีส่วนเล็ก ๆ โดยรอบ หรือบางทีอาจใหญ่กว่านั้นแต่ถูกกำแพงหมอกหนากลืนกินเข้ามา สตรีผู้หนึ่งอุ้มเด็กชายคนหนึ่งไว้ยิ้มร่าหัวเราะ ข้าง ๆ กันนั้นมีเด็กชายอีกคนที่ดูโตกว่าวิ่งวนไปรอบ ๆ นาง จวิ้นอ๋องคล้ายว่าสวมบทบาทเป็นคนในภาพความฝันนี้ ตัวเขายิ้มออกมาตัวที่ห้ามไม่ได้ หัว

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   สามีความจำเสื่อม 2

    บิดาของเขายังไม่ได้เร่งรัดหาคู่หมั้นหมายให้ เพราะเห็นว่าบุตรชายคนโตพึ่งได้กลับมาสู่ฐานะที่แท้จริง ยังต้องปรับตัวตามขนบวังหลวงและฐานะใหม่อีกหลายอย่าง ซึ่งสวี่ตงหวนก็ยินดีที่มันเป็นเช่นนั้น เพราะหากน้องเขยเกิดมีสตรีอื่นขึ้นมา เขาคงได้กลายร่างเป็นแม่ทัพมารเป็นแน่ บุรุษร่างกำยำควงดาบเล่นพลางวางแผนอยู่ในหัว น้องสาวตนยังมีเยื่อใยต่อสามี หากทำให้พบกันได้อาจช่วยกระตุ้นความทรงจำให้กลับมา ความประทับใจแรกก็สำคัญ แม้จะเป็นครั้งแรกไม่จริงก็ตาม เอาเถอะ ไม่คณามือข้าหรอก แม่ทัพจ้าวเจี้ยนวิ่งวุ่นอยู่กับการวางแผนจนไม่ได้มาหาน้องสาวกับหลาน ๆ เสียหลายวัน กว่าเขาจะมาพบอีกครั้งได้ เทียบเชิญก็อยู่ในมือสวี่ซือเหยาแล้ว "ตอนนี้ข้าเป็นสามัญชน เข้าไปได้หรือเจ้าคะ" นางเอียงคอถาม มองเทียบเชิญที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ "ไปในฐานะคู่เต้นรำของข้า ไม่เป็นไรหรอก องค์ชายสามยังวิงวอนให้น้องสาวช่วยเป็นคู่ให้เลย" "…ก็พวกเขายังไม่ออกเรือนกันอยู่สองคนนี่เจ้าคะ" นางตอบด้วยสีหน้ามืดมน การหาคู่ควงไปงานเต้นรำหรืองานฉลองในพระราชฐานชั้นนอก หากคู่สามีภรรยาไม่สะดวกไปร่วมงานก็มักพาเครือญาติหรือเพื่อนฝูงไปด้วยแทน ซึ่งส่วนใหญ

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   สามีความจำเสื่อม 1

    "เสี่ยวเหยา?" สวี่ตงหวนเอ่ยเรียก เห็นสีหน้านางไม่สู้ดี "ข้าไม่เป็นไร กินต่อเถอะ" นางปรับสีหน้าเรียบเฉยดังเดิมแม้จะรู้สึกร้อน ๆ ที่กระบอกตา เจิ้นหว่านคิดว่าน้องสาวผู้นี้คงตกใจที่อยู่ ๆ ก็ถูกคนแปลกหน้าเข้ามาทัก จึงอธิบายให้ฟังว่าเขาเหล่านั้นเป็นใคร "แม่นางอย่าได้กังวลไป แม้จวิ้นอ๋องจะพึ่งได้รับพระราชทานตำแหน่งมา ก็ไม่บ้าอำนาจเหมือนใครแถวนี้หรอก" สวี่ตงหวนยื่นขาไปเตะหลังเก้าดังปัง แต่คนนั่งอยู่ก็ไม่สะดุ้งสะเทือน "ท่านอ๋องน้อยอาจมีท่าทีเงอะงะไปบ้าง เพราะพึ่งคืนตระกูลเดิมได้ไม่ถึงสองปี ก่อนหน้านี้ก็ไปรบที่ชายแดนใต้มาด้วย ได้รับความดีความชอบพอ ๆ กับพี่เจ้าเลย" "คืนตระกูลเดิมหรือเจ้าคะ?" "บุตรชายฉินอ๋องพลัดพรากไปตั้งแต่ยังเป็นทารกจากเหตุลอบสังหารเมื่อครั้งนั้น ท่านอ๋องตามหาจนหมดหวังแล้ว แต่อยู่ก็มีคนพากลับมา ทำความดีความชอบไว้ก็ได้เลื่อนขั้นทันทีเลย" "เช่นนี้เอง..." ดวงตาของสวี่ซือเหยาร้อนผ่าน นางคิดถึงเขามากเกินกว่าจะพูดออกมาได้ อยากเข้าไปกอดให้หายคิดถึง แต่ก็อย่างที่ปรารถนาไม่ได้สักอย่างเดียว นางไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเขาจึงเมยเฉยเช่นนี้ ไม่รู้ตัวว่ามีนางอยู่ที่นี่เลยหรือ ความรู้สึกน

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   พบสามีอีกครั้ง...

    หลายวันต่อมาก็มีประกาศใหญ่โตถึงเรื่องลงโทษขุนนางทำผิดหลายราย ตอนได้ยินพี่ชายพูดว่าเดี๋ยวจัดการเองนางก็สงสัยอยู่ว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้ข่าวมาถึงหูนางแล้วว่าฮ่องเต้ทรงริบยศขุนนางของสวี่ซูหยางและขุนนางชั้นผู้น้อยอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกคืนจวนพระราชทาน พบความผิดนำของหลวงไปขาย นำป้ายหยกประจำตำแหน่งไปจำนำ ฉ้อโกงเงินบำนาญข้าราชการชั้นผู้น้อย แค่ที่กล่าวมานี้ก็ต้องโทษประหารได้แล้ว แต่ฝ่าบาทยังมีเมตตาสั่งเนรเทศไปนอกแคว้น จากขุนนางผู้มั่งคั่งถือดี วันนี้ไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง หลักฐานทั้งหมดพี่ชายของนางล้วนสืบเสาะหามา ยื่นเรื่องถึงฝ่าบาทด้วยตัวเอง และยังข้อหาเล็กน้อยอีกมากที่ฟังดูไร้สาระ แต่บิดาของนางกับฮูหยินรองก็ได้ละเมิดทำไปจริง ๆ มิน่าเล่า ถึงเป็นตัวร้ายที่ไล่ต้อนพระเอกจนจนมุมเสียหลายครา รุ่งขึ้นพี่ชายก็มาพบนางอีกครั้งในยามสาย โอ้อวดความดีความชอบให้น้องสาวอย่างนางฟัง หากไม่ได้พบกับครอบครัวน้าชาย สวี่ตงหวนก็เหมือนมีน้องสาวเป็นญาติที่เหลือเพียงคนเดียว แต่อยู่ ๆ ครอบครัวก็ใหญ่ขึ้นมาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว แล้วจะไม่ให้เขาออกหน้าปกป้องได้อย่างไร "มัวแต่ระลึกความหลังกันเรื่อยเปื่อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status