แชร์

อพยพออกจากแคว้น 1

ผู้เขียน: พิมพ์สีทอง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-19 08:00:21

ตราที่มีอายุมากกว่าสิบปีนี้ยิ่งทำให้คนของทางการเชื่อสนิทใจว่าพวกเขาค้าขายมานานแล้วจริง ๆ

รถม้าสามคันเคลื่อนตัวออกจากเมืองในเวลาเช้าตรู่ กว่าคนจะรู้ว่าสกุลไป่ไม่อยู่ที่นั่นแล้วก็เป็นหลายวันถัดมา ตอนนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองชายแดนแล้ว

“ออกมาหน่อยไหม” ไป่จวิ้นเลิกผ้าม่านออกให้เห็นคนข้างใน

รถม้าคันหน้ามีเขากับภรรยาและบิดาของนางโดยสาร ในตัวรถยังวางของใช้และหีบห่อสัมภาระเอาไว้ปะปนกัน ส่วนคนอื่น ๆ นั่งอยู่คันหลังโดยมีม้วนผ้าอำพรางไว้

จางอวี๋จิงถือยาดมสมุนไพรไว้ไม่เคยห่างตัว ตั้งแต่ออกเดินทางนางก็วิงเวียนและอาเจียนบ่อยมาก ทรมานกายแต่ก็ต้องฝืนทนเพื่อให้ผ่านพ้นไป

นางไม่มีแม้แต่แรงจะตอบรับสามีจึงพยักหน้าเฉย ๆ

“ตอนนี้ยังหน้าซีดอยู่เลย ออกมาก่อนเถอะ

สูดอากาศบ้างก็น่าจะดีนะ”

“คนคุ้มกันล่ะเจ้าคะ?”

“พวกเขาไปรายงานที่สำนักคุ้มภัยแล้ว เสร็จงานแล้ว ไม่อยู่แถวนี้หรอก”

สำนักคุ้มภัยทำงานตามชื่อ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าและกองคาราวานที่ต้องการคนคุ้มครอง กองคาราวานที่ใหญ่มาก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   อพยพออกจากแคว้น 3

    วันต่อมาพวกเขาเดินเท้าไปดูสถานที่ต่าง ๆ ในเมือง พอเดินต่อเนื่องนาน ๆ ภรรยาของไป่จวิ้นก็เริ่มไม่ไหว ถึงจะแวะพักทุกสองเค่อก็ยังไม่ดีขึ้น สุดท้ายจึงให้รถลากพาไปสังเกตการณ์ตามจุดต่าง ๆ แทนพวกเขาเฝ้าดูเมืองนั้นทั้งกลางวันกลางคืน พูดคุยกับชาวบ้าน ดูวิธีแก้ปัญหาของทางการเวลามีคนก่อความวุ่นวาย สุดท้ายก็เลือกว่าจะอยู่ที่เมืองนี้ นางตัดสินใจแล้วก็ต้องหาที่อยู่อาศัยสองแห่งสำหรับสองครอบครัว รวมถึงที่ดินทำกินจางอวี๋จิงอยากอยู่ให้ห่างใจกลางเมืองหน่อยเพื่อความสงบ พวกเขาจึงดูบ้านว่างใกล้ ๆ หลังเมืองแทน จากตรงนี้ออกไปที่พื้นที่เกษตรด้านนอกใกล้กว่าด้วยที่ดินสินเดิมของจางอวี๋จิงสองที่สามารถซื้อที่ในเมืองนี้ได้แค่แห่งเดียวสำหรับทำการเกษตร แต่ด้วยทรัพยากรที่มีหลังจากนี้นางค่อยถอนทุนคืน และกอบโกยกำไรจากการค้าก็ไม่สาย บวกกับทรัพย์สินของทางฝั่งสามีพวกเขายังซื้อที่ได้อีกหลายแปลง“มีแต่พวกเราที่มีที่ดินทำเกษตรในชื่อตัวเอง คนส่วนใหญ่ต้องเช่าที่ทำกิน ฐานะของเราที่นี่ก็ไม่แย่นะเจ้าคะ”“ถือว่าปานกลางละมั้งนะ” เขาก็ไม่มั่นใจเรื่องนี

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   อพยพออกจากแคว้น 2

    จางอวี๋จิงออกมานั่งรับลมจนถึงเช้าทุกครั้งที่ได้นอนค้างแรม ตอนนี้ถึงจะมีคนรู้ว่า พวกเขาย้ายถิ่นก็ไม่เป็นไรแล้ว แคว้นเล่อไม่ส่งคนมาตามหาประชาชนตัวเล็ก ๆ ที่หนีไปคนเดียวหรอกถึงจะเดินทางอย่างเปิดเผยแล้ว แต่จางอวี๋จิงก็ยังรักษาระยะห่างกับคนอื่นอยู่เหมือนเดิม“อีกสองวันน่าจะพ้นเขตป่านี้แล้วเจอถนนสายหลัก ตอนนั้นรถม้าคงไม่โคลงเคลงให้เจ้าเวียนหัวแล้วละนะ” ไป่จวิ้นถือชามอาหารมาให้ภรรยาที่มานั่งปลีกวิเวกอยู่คนเดียว“เรื่องงานไม่ได้อยู่ในหัวข้าแล้วเจ้าค่ะ สภาพข้าตอนนี้ไม่มีเวลาจะไปคิดเรื่องอื่นเลย แค่ทำให้ตัวเองกินข้าวได้บ้างก็เต็มกลืนแล้ว”ไป่จวิ้นขยับเก้าอี้มาชิดใกล้แล้วนั่งอิงแอบกับนาง หวังว่าไออุ่นและความรักจะช่วยปลอบประโลมช่วงเวลายากลำบากนี้ของนางได้ อารมณ์ของหญิงสาวเริ่มแปรปรวน เพราะมีความกดดันร่วมระหว่างเดินทาง กว่านางจะสงบแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็คงหลังจากที่หาที่ลงหลักปักฐานได้อย่างมั่นคงแล้ว“หลังจากไปถึงเมืองแล้วอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”“...เป็ดน้ำแดง”“ได้ ๆ ข

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   อพยพออกจากแคว้น 1

    ตราที่มีอายุมากกว่าสิบปีนี้ยิ่งทำให้คนของทางการเชื่อสนิทใจว่าพวกเขาค้าขายมานานแล้วจริง ๆรถม้าสามคันเคลื่อนตัวออกจากเมืองในเวลาเช้าตรู่ กว่าคนจะรู้ว่าสกุลไป่ไม่อยู่ที่นั่นแล้วก็เป็นหลายวันถัดมา ตอนนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองชายแดนแล้ว“ออกมาหน่อยไหม” ไป่จวิ้นเลิกผ้าม่านออกให้เห็นคนข้างในรถม้าคันหน้ามีเขากับภรรยาและบิดาของนางโดยสาร ในตัวรถยังวางของใช้และหีบห่อสัมภาระเอาไว้ปะปนกัน ส่วนคนอื่น ๆ นั่งอยู่คันหลังโดยมีม้วนผ้าอำพรางไว้จางอวี๋จิงถือยาดมสมุนไพรไว้ไม่เคยห่างตัว ตั้งแต่ออกเดินทางนางก็วิงเวียนและอาเจียนบ่อยมาก ทรมานกายแต่ก็ต้องฝืนทนเพื่อให้ผ่านพ้นไปนางไม่มีแม้แต่แรงจะตอบรับสามีจึงพยักหน้าเฉย ๆ“ตอนนี้ยังหน้าซีดอยู่เลย ออกมาก่อนเถอะ สูดอากาศบ้างก็น่าจะดีนะ”“คนคุ้มกันล่ะเจ้าคะ?”“พวกเขาไปรายงานที่สำนักคุ้มภัยแล้ว เสร็จงานแล้ว ไม่อยู่แถวนี้หรอก”สำนักคุ้มภัยทำงานตามชื่อ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าและกองคาราวานที่ต้องการคนคุ้มครอง กองคาราวานที่ใหญ่มาก

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   ผลกระทบจากสงคราม 2

    พวกเขานั่งอิงกันเงียบ ๆ อยู่บนเตียง ต่างคนต่างจมลงไปในห้วงภวังค์ของตนการตัดสินใจนี้กะทันหันมาก และมีเรื่องต้องจัดการเต็มไปหมด เรื่องนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถข่มตาหลับได้จริง ๆ จางอวี๋จิงเอาแผนที่มาวางว่ามีแคว้นไหนที่ค่อนข้างสงบสุขบ้าง ข้อด้อยของที่ไหนกระทบกับนางน้อยที่สุด หญิงสาววิเคราะห์อย่างจริงจังจนผู้เป็นสามียังประหลาดใจ“ข้าจะรักษาสัญญา” ไป่จวิ้นเอ่ยพึมพำออกเสียงโดยไม่รู้ตัว จางอวี๋จิงหันมามองเพราะคิดว่าเขาพูดกับนางหญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่งหลังได้สบตากับสามี ดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองมาสะกดให้นางลืมหายใจ ดวงตาเป็นประกายแบบนั้นนางเคยเห็นอยู่ทุกวัน เพราะบิดาของนางใช้มันมองท่านแม่เสมอ“สัญญาอะไรหรือเจ้าคะ”“ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี ไม่ให้ต้องลำบากอีก”“อา…สัญญาเมื่อตอนนั้นนี่เอง”ไป่จวิ้นผู้ประคองกายนางเข้าหา มอบอ้อมกอดแนบแน่นกู่ตะโกนบอกแทนคำมั่นสัญญา เขาจะไม่มีทางให้นางพบกับฝันร้ายเป็นครั้งที่สามวันต่อมาจางอวี๋จิงก็เดินทางไปพบพ่อแม่ของนาง ไปเยี่ยมเยียนท่านยายที่ป่วยไข้ตามประสาคนชรานางขอพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวในบ้านพวกเขาจึงค่อนข้างเงียบเสียง เรื่องที่บุตรสาวพึ่งบอกมาทำเอาบุพการีทั้งสองใจห

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   ผลกระทบจากสงคราม 1

    “ทำไมคนเดินทางมาทางนี้เยอะจังล่ะ ช่วงพ่อค้าข้ามแดนหรือขอรับ”“ไม่รู้สินะ อาจใช่ก็ได้”ถึงจะตอบเด็กหนุ่มไปแบบนั้น แต่เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่ ไป่จวิ้นรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น และเขาควรจะทำอะไรต่อ ทว่าเรื่องนี้ด่วนตัดสินใจไม่ได้ เขาต้องปรึกษาครอบครัวก่อน เมื่อได้คำตอบจึงจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด รอช้าไม่ได้ไม่อย่างนั้นอาจไม่ทันการ“ไว้พี่เขยแน่ใจแล้วจะบอกเจ้าแล้วกัน”“เรื่องใหญ่หรือขอรับ”ดูจากสีหน้าเคร่งเครียดของไป่จวิ้น จางฟงคิดไปทางดีไม่ออก เขาที่เป็นคนร่าเริงยิ้มง่ายเวลาอยู่กับพี่สาวตอนนี้ยิ้มไม่ออกแม้แต่นิดเดียวท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่มากจริง ๆเด็กหนุ่มคาดเดาไว้ในใจว่า มันคงไม่ใช่เรื่องที่จัดการได้ง่าย แต่ในภายหลังที่เขาได้รับรู้เรื่องนี้ก็รู้สึกว่าตนคิดน้อยไป เพราะมันใหญ่เกินไปมากจนเขาในวันนั้นไม่มีทางคิดออกแน่ไป่จวิ้นมองไปยังถนนเบื้องล่างที่ผู้คนสัญจรเข้าออก ดูแล้วก็เหมือนเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ผ่านทางมาเพื่อจะไปยังเมืองค้าขายอื่น มันเป็นภาพที่ดูปกติ และไม่มีอะไรน่าสนใจหากเขาไม่ได้รับรู้เรื่องอื่นมาก่อนหน้านี้ไม่รู้จะยื้อได้อีกนานเท่าไร ข้าต้องรีบแล้ววันหนึ่งสามีกลับมาบ้านช้ากว่าปกติ ทำใ

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   ถูกดูแลอย่างดี 2

    เจ้าก้อนแป้งในท้องโตได้โตดี แม่กินอะไรเข้าไปก็ดูดสารอาหารไปหมด ให้นางกินของบำรุงมากอย่างไรก็รู้สึกอ่อนเพลียมากเหมือนเดิม“ทำหน้าซังกะตายอะไรขนาดนั้น เบื่ออย่างนั้นหรือ”“นิดหน่อยเจ้าค่ะ แต่สภาพข้าตอนนี้ให้เดินออกจากบ้านยังไม่รู้สึกว่าตัวเองจะไหวเลย ร่างกายกับจิตใจข้ากำลังเรียกร้องไม่สัมพันธ์กัน”“อดทนอีกนิดนะ อีกไม่กี่เดือนก็ได้เจอหน้าลูกแล้ว”“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ แต่ก็อดอึดอัดไม่ได้ การเป็นแม่นี่ยากจังเลยนะเจ้าคะ”หงเสวียนซู่ไม่ได้ออกความเห็นอะไร แค่ตอบรับเป็นครั้งคราวไม่ให้นางเหงาปาก อารมณ์หญิงมีครรภ์ไม่มั่นคงเพราะร่างกายไม่เหมือนเดิม แถมยังรู้สึกไม่สบายตัวอีก แม้เจ้าตัวจะเข้าใจว่ากำลังประคับประคองและทะนุถนอมชีวิตใครอีกคนหนึ่ง แต่ลึก ๆ ก็อดจะหงุดหงิดกับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ดี“พวกเจ้าคิดชื่อลูกเอาไว้หรือยังล่ะ”“มีคิดไว้เจ้าค่ะ ทั้งของผู้หญิงผู้ชายแต่ยังไม่เลือกกันจริงจัง แค่คิดว่ามีชื่อไหนที่ชอบบ้างเอาไว้เท่านั้น”“ดีแล้วละ คิดเอาไว้ล่วงหน้าจะได้ไม่ต้องหัวหมุนเหมือนข้า ตอนมีเจ้าลูกชาย ข้ากับสามีคิดกันไม่ออกเลย สุดท้ายก็เลือกตัวอักษรที่ชอบจากหนังสือหน้าเดียว” หงเสวียนซู่นึกไปถึงต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status