แชร์

บทที่ 221

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
อี้เฉินเฟยใช้วิชาแปลงโฉมเป็นเจียงซวี่ จากเจดีย์ชั้นที่เจ็ดลงไปยังชั้นที่หก คนเฝ้าประตูเจดีย์ก็ก้มศีรษะเคารพ โดยไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย

"วันนี้นายท่านอารมณ์ดีมาก ให้ข้าพาบ่าวรับใช้ทั้งหมดในเจดีย์ไปด้วย พวกเจ้าทั้งสองไปพาบ่าวรับใช้ในเจดีย์ออกมาที"

อี้เฉินเฟยเอ่ยพลางโยนกุญแจไป น้ำเสียงดูหยิ่งผยองนัก

"ทั้ง......ทั้งหมด......"

"ทำไม? เจ้าจะขัดนายท่านหรือ?"

"ไม่ๆ ๆ ข้าน้อยมิบังอาจ ข้าจะไปประเดี๋ยวนี้"

สมุนสองคนที่เฝ้าเวรยังคงสงสัยอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของอี้เฉินเฟยที่ดูดุร้าย พวกเขาก็ไม่กล้าสงสัยอะไรอีก เพราะเจียงซวี่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมมากในเผ่าหมอ

ตั้งแต่ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สอง พวกเขาผ่านไปได้อย่างปลอดภัย

กู้ชูหน่วนทาหน้าเยี่ยเฟิงให้ดำ และประคองเขาไปหลบในฝูงชน

ที่พูดว่าประคอง ควรพูดว่าแบกเยี่ยเฟิงยังเหมาะกว่า เพราะเขานอนพิงอยู่บนตัวของนาง แทบจะทำให้นางล้มทั้งยืน

เหล่าสมุนเฝ้าเวรที่อยู่ในเหตุการณ์เริ่มกระซิบกัน

"ในเจดีย์มีคนเกือบห้าสิบ ไม่รู้ว่านายท่านจะมีความใคร่อะไรขนาดนั้น"

"ชู่ว นายท่านมิใช่คนที่เราจะพูดถึงได้ หากคนอื่นได้ยินเข้า ต้องโดนลงโทษหนักแน่"

"ไม่ใช่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 222

    "ขอรับๆ ๆ......"เจดีย์แรกค่อนข้างราบรื่น สมุนทำตามคำสั่งของพวกเขาและได้พาผู้คนไปยังหอสัญญาณไฟกู้ชูหน่วนไม่วางใจอี้เฉินเฟยที่ไปพาบ่าวรับใช้ของเจดีย์อีกสองแห่งมาคนเดียว จึงให้บ่าวรับใช้คนอื่นๆ ช่วยกันพาเยี่ยเฟิงที่เมาสุราไปยังหอสัญญาณไฟ ส่วนตัวนางเองก็ตามอี้เฉินเฟยไปเจดีย์ที่สองก็ราบรื่นเช่นกันเมื่อลงมาถึงชั้นแรกของเจดีย์ที่สาม ก็ไม่ได้พบกับปัญหาอะไรมากนัก พวกเขาคิดว่าจะสามารถนำทุกคนไปยังหอสัญญาณไฟได้แล้วแต่ทันใดนั้น ก็มีคนตะโกนเรียกพวกเขา"หยุด พวกเจ้าพาบ่าวรับใช้จำนวนมากออกไปทำไม""กลับไปรายงานเจ้าตำหนักหลิน นายท่านได้สั่งให้พาบ่าวรับใช้ในเจดีย์ไปยังยอดเขาหลักทั้งหมด""บ่าวรับใช้ทั้งหมด? ทำไมข้าไม่เคยได้รับคำสั่งนี้?""เอ่อ......"สมุนมองไปยังอี้เฉินเฟยด้วยความลำบากใจพวกเขาก็ไม่ได้รับคำสั่ง พวกเขาไม่อยากปล่อยคนไป แต่เจ้าตำหนักเจียงมีท่าทีแข็งกร้าว หากพวกเขาไม่ทำตาม ทุกคนจะต้องเดือดร้อน และเมื่อมองดูเจ้าตำหนักเจียงแล้ว ก็ไม่เหมือนจะปลอมแปลงคำสั่ง พวกเขาจึงต้องทำตาม"ที่แท้ก็เจ้าตำหนักเจียงนี่เอง นึกว่าใครเสียอีก เจ้าตำหนักเจียงจะมือยาวเกินไปหน่อยแล้วกระมัง แม้แต่บ่าวรั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 223

    สีหน้าของเจ้าตำหนักหลินมืดมนลงไปอีกเขาพยายามพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงแรงจูงใจของอี้เฉินเฟยเขาสงสัยว่าอีกฝ่ายอาจมีเป้าหมายอื่นแต่หากเป็นคำสั่งของนายท่านที่ให้เขาพาเหล่าบ่าวรับใช้ไปจริงๆ เขาคงต้องโดนลงโทษแน่เจ้าตำหนักหลินลำบากใจหลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็เอ่ยปากขึ้นว่า "ข้ายังยืนยันคำเดิม หากปราศจากคำสั่งของนายท่าน ใครหน้าไหนก็พาบ่าวรับใช้พวกนี้ไปไม่ได้ แต่ข้าสามารถตามท่านไปยอดเขาหลักเพื่อเข้าพบกับนายท่านได้ หากเป็นคำสั่งของนายท่านจริง ข้าจะขอรับผิดเอง"กู้ชูหน่วนยกมือซ้ายขึ้น โปรยผงยาสีหน้าของเจ้าตำหนักหลินปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบปิดตาและกลั้นหายใจ หลบเลี่ยงการโจมตีของผงยาในขณะที่เขากำลังหลับตา กู้ชูหน่วนก็ยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง ปล่อยเข็มเงินจำนวนมากโจมตีเจ้าตำหนักหลินและสมุนของเขาการเคลื่อนไหวของนางเร็วมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา เจ้าตำหนักหลินไม่ทันตั้งตัว และถูกกู้ชูหน่วนดีดเข็มใส่จนสลบไปพร้อมกับสมุนคนอื่นๆกู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ง่ายและเร็วสุด พูดพร่ามกับเขาให้มากความทำไม"อี้เฉินเฟยหัวเราะไม่ออก ไม่ต้องพูดพร่าม ลอบโจมตีเลยเนี่ยนะ?"ไปกันเถอะ รีบออกจากที่นี่โดยเร็ว"กู้ชู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 224

    อี้เฉินเฟยกับกู้ชูหน่วนตรวจเลือดแล้ว ยืนยันว่าไม่มีปัญหา แต่คนจากหอสัญญาณไฟยังต้องการให้เหล่าสมุนตรวจเลือดด้วย กู้ชูหน่วนจึงตบหน้าคนผู้นั้นไปอย่างแรง“เดิมทีก็รีบอยู่แล้ว จะให้คนมากขนาดนี้ตรวจทั้งหมดจะเสร็จเมื่อไหร่? พวกเจ้าจงใจขัดคำสั่งของนายท่านรึ? หรือตั้งใจจะให้เจ้าตำหนักเจียงขัดคำสั่งกันแน่”ตบไปหนึ่งฉาดเสียงดังลั่นสมุนที่โดนตบกลั้นอารมณ์โกรธไว้เต็มอก เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของอี้เฉินเฟย และยอมรับการกระทำของกู้ชูหน่วน จึงได้แต่กลืนความโกรธเอาไว้ แล้วสั่งให้เตรียมกระเช้าและโซ่ลากมาบ่าวรับใช้ขึ้นกระเช้าด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นอีกยี่สิบคนต่อหนึ่งกระเช้า ทั้งหมดหกกลุ่ม พวกกู้ชูหน่วน อี้เฉินเฟย และเยี่ยเฟิงอยู่ในกลุ่มแรกก่อนขึ้นกระเช้า กู้ชูหน่วนหันไปยิ้มให้กับสมุนที่เพิ่งโดนตบไป แล้วเอ่ยว่า “สหาย การที่ข้าตบเจ้าเป็นคำสั่งของเจ้าตำหนักเจียง หากในใจยังโกรธแค้นอยู่ก็ไปหาเจ้าตำหนักเจียง เพราะเขาเป็นคนสั่ง”"……"“อีกเรื่อง เจ้าตำหนักเจียงยังบอกด้วยว่าเจ้าไร้น้ำยา ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ข้าไม่เชื่อ”"……"สมุนสวี่หนึ่งในผู้ดูแลเป็นถึงยอดฝีมือขั้นหนึ่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 225

    เหล่าสมุนเริ่มคลายความสงสัยลง และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "ขอให้ทุกท่านลงมาตรวจสอบตัวตนสักหน่อย"กู้ชูหน่วนโกรธจัด "ศัตรูจะตามมาทันแล้ว ยังจะมาตรวจสอบตัวตนอีก? หรือว่าเจ้าร่วมมือกับศัตรูจงใจให้พวกเขามาตามเราทัน?""เข้าใจผิดแล้ว พวกข้าจะไปร่วมมือกับศัตรูได้อย่างไร""เช่นนั้นก็รีบปล่อยให้ผ่านโดยเร็ว พวกเจ้าขวางพวกเขาไว้ก่อน แล้วค่อยตรวจสอบที่ยอดเขาที่สี่ก็ได้หนิ""เอ่อ..."อี้เฉินเฟยเอ่ยขึ้นทันควัน "ทำตามที่นางบอก จงจำไว้ หากขวางพวกเขาไว้ไม่ได้ ตั้งแต่วันนี้ไป พวกเจ้าก็ไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีกแล้ว"คำพูดของอี้เฉินเฟยฟังดูเบาๆ แต่กลับทรงอำนาจอย่างยิ่งหรืออาจกล่าวได้ว่า เจียงซวี่มักจะทำตัวหยิ่งผยองมาโดยตลอด ทำให้เหล่าลูกน้องต่างกลัวที่จะขัดใจเขาไกลออกไป เจ้าตำหนักหลินไม่รู้ว่าหากระเช้ามาจากที่ใด กำลังไล่ตามพวกเขามา พร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง"หยุดพวกเขาไว้......เร็วเข้า หยุดพวกเขาไว้"เนื่องจากระยะทางไกลเกินไป ทุกคนจึงไม่ได้ยินว่าเจ้าตำหนักหลินพูดอะไรกู้ชูหน่วนเร่งรัด "ยืนทำอะไรกันอยู่ ยิงธนู ยิงพวกเขาให้ตายทั้งหมด อย่าปล่อยให้พวกเขารอดเป็นอันขาด แม้นายท่านจะไม่สนใจชีวิตของเห

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 226

    เมื่อเข้าใกล้ยอดเขาลูกที่สี่ เหล่าสมุนกองธงที่หอสัญญาณไฟก็โบกธงผืนใหญ่มาแต่ไกล ให้พวกเขาหยุดเพื่อรับการตรวจกู้ชูหน่วนตะโกนบอกสมุนทั้งหมด "เมื่ออยู่ใกล้หอสัญญาณไฟในระยะห้าเมตรแล้ว ทุกคนจงกลั้นหายใจ"ทุกคนพยักหน้ากระเช้าเคลื่อนเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ อี้เฉินเฟยกลั้นหายใจพลางใช้มือปิดปากเยี่ยเฟิงเอาไว้กู้ชูหน่วนตะเบ็งเสียงดัง พลางยกมือโปรยผงยาใส่สมุนกองธงที่หอสัญญาณไฟ "ศัตรูบุก ศัตรูบุก ด้านหลังมีศัตรูกำลังไล่โจมตีพวกเรา"ไม่รู้ว่าผงยานั้นปรุงขึ้นมาอย่างไร ปริมาณยาเข้มข้นมากเสียจนเพียงแค่หายใจเข้าไปเล็กน้อย เหล่าสมุนกองธงที่หอสัญญาณไฟก็ค่อยๆ ล้มลงไปทีละคนกู้ชูหน่วนปัดมือ ก่อนจะกระโดดลงจากกระเช้า แล้วเปิดเครื่องบังคับสายพานเอง ให้กระเช้ามุ่งหน้าต่อไปแล้วถึงจะกระโดดกลับมาฟู่ว...แม้แต่อี้เฉินเฟยก็อดใจหายใจคว่ำไม่ได้นี่มัน...ทำให้สมุนกองธงที่หอสัญญาณไฟบนเขาลูกที่สี่สลบไปหมดเลยหรือหากไม่ได้เห็นกับตา เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ"นังหนู เมื่อครู่เจ้าโปรยสิ่งใด"ผงเมามาย เป็นยาชนิดเดียวกับยาชาเหมิงฮั่นที่มีฤทธิ์ทำให้กระดูกอ่อนยวบ ข้าพบผงยาจำนวนมากในเจดีย์ คงจะนำไปจัดการกับเชลย ข้านำม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 227

    "ผู้ที่อยู่ข้างหน้าจงหยุดให้หมด" เหล่าสมุนกองธงบนหอสัญญาณไฟโบกธง พลางเปล่งเสียงดังอี้เฉินเฟยบุกเข้าไปก่อน กระเช้ายังไปไม่ถึง ตัวเขาก็เหาะตามสายพานไปยังหอสัญญาณไฟบนเขาลูกที่สามแล้ว ทันทีที่ไปถึงก็ใช้ไม้ตาย ฝ่ามือที่เรี่ยวแรงมหาศาลทำให้เหล่าสมุนกองธงกระเด็นออกไปขณะเดียวกัน เข็มเงินในมือกู้ชูหน่วนพลันว่อนไปทั่วฟ้าดุจฝนดอกสาลี่ พุ่งไปทางนักธนู ช่วยคุ้มกันอี้เฉินเฟย"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."เข็มเงินของนางรวดเร็วแม่นยำ ทุกเข็มที่ปล่อยออกมา จะต้องมีนักธนูหนึ่งคนล้มพับไปเสมอ สภาพการณ์ดูเป็นต่อทว่ากลุ่มแรกล้มไป ก็มีอีกกลุ่มกรูกันออกมา ในนั้นยังมียอดฝีมือขั้นสองและขั้นสามอยู่จำนวนไม่น้อยดูเหมือนคนเหล่านี้จะรู้แล้ว่า ขอเพียงแค่ล้มเอี้เฉินเฟยให้ได้ คนที่เหลือก็ไม่ใช่ปัญหา จึงรวบรวมกำลังทหาร พุ่งโจมตีไปที่อี้เฉินเฟยคนเดียวอี้เฉินเฟยต้องคอยคุ้มกันทุกคนบนกระเช้า พลางประมือกับเหล่ายอดฝีมือทั้งหลาย ขณะเดียวกันก็ต้องคิดหาวิธีเปิดประตูควบคุมสายพาน ทำให้ไม่อาจหาจังหวะไปเปิดประตูและปุ่มเปิดปิดสีแดงได้กู้ชูหน่วนหรี่ดวงตา พลันเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วยนางไม่มีกำลังภายใน แต่นางมีวิชาตัวเบา อาศัยร่างกายที่คล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 228

    "น่าจะขั้นสามชั้นสูง ตาเฒ่านั่นก็แค่ขั้นสามชั้นต้นเท่านั้นแหละ เขารับมือไหว" ขอแค่ภายหลังไม่มียอดฝีมือตามมาสมทบอีกก็พอ"เช่นนั้นท่านขั้นไหน""แค่มีวิทยายุทธป้องกันตัวนิดหน่อยเท่านั้น จะไปเก่งสู้เขาได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกลอกตามองบนใส่ไปหนึ่งทีเชื่อก็บ้าแล้ว"กระเช้าไหลไปแล้ว ฝูกวงจะตามมาทันไหม""เขาเป็นองครักษ์ของเจ้าไม่ใช่หรือ องครักษ์ลับของเจ้ามีความสามารถระดับใด เจ้าควรจะรู้แจ้งมากกว่าไม่ใช่หรือ""……""เขาตามมาแล้ว""ข้าน้อยคาราวะนายหญิง" ฝูกวงปรากฏตัวราวกับวิญญาณก็ไม่ปาน ไม่รู้ว่าขึ้นมาบนกระเช้าตั้งแต่เมื่อใด เขาคุกเข่าข้างเดียวให้กู้ชูหน่วนเหล่าเชลยต่างก็พากันถอยห่างออกไป มองฝูกวงด้วยสายตาหวาดกลัวกระเช้าเคลื่อนออกไปตั้งไกลขนาดนี้ คนผู้นี้ขึ้นมาได้อย่างไรกันแน่เหตุใดพวกเขาตั้งหลายคนกลับไม่มีผู้ใดเห็นเลย คงไม่ใช่พวกภูติผีวิญญาณหรอกกระมัง"ลุกขึ้นเถอะ ทำได้ไม่เลว"ฝูกวงยิ้มเจื่อนๆ ใบหน้าดุจตุ๊กตาที่สดใสงดงามแดงก่ำไปถึงใบหู หาได้มีท่าทางดุดันเด็ดขาดเหมือนเมื่อครู่แต่อย่างใด"ใกล้จะถึงหอสัญญาณไฟที่สองแล้ว พี่ใหญ่อี้เฟยรับผิดชอบตีแนวหน้า ข้ารับผิดชอบระวังหลัง""คุณหนู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 229

    เห็ยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกู้ชูหน่วน อี้เฉินเฟยทั้งโกรธ ทั้งขำทว่ากลับทำได้เพียงแค่ออกจากกระเช้าแล้วมุ่งหน้าไปตามสายพาน เป็นฝ่ายบุกเข้าไปจัดการสมุนกองธงบนหอสัญญาณไฟหอที่สองก่อนหลังจากที่หอสัญญาณไฟหอที่สามพังไปแล้ว เหลือเพียงแค่หอที่สอง เพราะเขาลูกแรกเต็มไปด้วยหมอกพิษและค่ายกลจึงไม่มีสมุนกองธงคอยเฝ้าเนื่องด้วยพวกเขาฝ่าด่านติดๆ กันหลายด่าน ดังนั้นหอสัญญาณไฟบนเขาลูกที่สองจึงเต็มไปด้วยยอดฝีมือของเผ่าหมอความมืดมิดกลางดึก ทำให้กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ มองไม่เห็นว่าอี้เฉินเฟยสร้างความโกลาหลที่หอสัญญาณไฟบนเขาลูกที่สองเช่นไรบ้าง ได้ยินเพียงแค่เสียงฆ่าฟันกันดังสนั่น ท่ามกลางลมหนาว อบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือดขุ่นข้น ยอดเขาที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความทรมาน ไม่รู้ว่าที่หอสัญญาณไฟมีคนตายไปแล้วมากน้อยเพียงใดเหล่าเชลยหวาดกลัวจนตัวสั่น ไม่เคยมีผู้ใดเคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนประตูกั้นเปิดออกอย่างราบรื่น ทั้งยังคงเดินหน้าไปด้วยความเร็วสองเท่าเช่นเดิม หอสัญญาณไฟลูกที่สองอยู่ตรงหน้าแล้ว ทว่าสายพานที่เชื่อมระหว่างหอสัญญาณไฟที่สองและที่สามกลับถูกตัดขาดสายพานสูญเสียแรงถ่วงไปข้างหนึ่งเท

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 476

    “เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 475

    นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 474

    ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 473

    "ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 472

    ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 471

    กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 470

    ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 469

    มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 468

    ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status