Home / รักโบราณ / ชายาอ๋องตัวร้าย / ตอนที่4.2 มิใช่ความฝัน

Share

ตอนที่4.2 มิใช่ความฝัน

last update Last Updated: 2025-06-20 07:05:02

“ได้ เจ้าว่าเช่นไร ข้าล้วนเห็นด้วย” เหยาหวังเหว่ยคลี่ยิ้มอย่างคลายกังวล

เขารู้ดีว่านางมีแผนการบางอย่างซ่อนเร้นเอาไว้ แต่เขาก็ยังยินดียอมตกลงไปในบ่อที่นางขุด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ปานสุนัขจิ้งจอกของนาง ถึงอดีตนางพยายามจะใช้มารยาของสตรีในเรือนหอหลายครั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนี้ นางเป็นเพียงสตรีในเรือนหอที่ไร้เดียงสา ดวงตาที่นางมองมาที่เขาเป็นเพียงแววตาที่สตรีใช้มองบุรุษที่ตนรักเท่านั้น แตกต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

“เช่นนั้นท่านอ๋องปล่อยข้าน้อยก่อนได้หรือไม่ หากมีใครมาเห็นเกรงว่าจะดูไม่เหมาะนะเพคะ” นางเอ่ยเสียงหวาน

เหยาหวังเหว่ยค่อย ๆ คลายแขนออกจากสตรีบอบบางอย่างช้า ๆ ราวกับว่าเขายังอยากมีนางไว้ในอ้อมแขนให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ในเมื่อเขารับปากนางแล้วย่อมต้องทำให้นางเห็น จึงไม่คิดฝืนใจนาง

“ท่านอ๋องเพคะ พวกเรากลับเข้าไปในงานเลี้ยงดีหรือไม่เพคะ” หญิงสาวส่งยิ้มหวาน

“ใจข้าอยากอยู่กับเจ้าเช่นนี้อีกสักครู่ แต่ในเมื่อเจ้าต้องการ ข้าก็จะไม่ฝืน เพียงแต่ข้าขอกอดเจ้าอีกสักคราได้หรือไม่”  เขาเอ่ยเสียงอ่อย ๆ ในประโยคท้ายราวกับกระด้างอายที่จะเอ่ย

ฟางหนิงหลินถึงกับวางตัวไม่ถูกใบหน้าของนางร้อนวูบวาบ ริมฝีปากบนล่างพะเยิบขึ้นลงกึ่งยิ้มกึ่งหุบไม่รู้จะเอ่ยอันใด สมองของนางมึนงงไปชั่วขณะเพราะไม่คิดว่าบุรุษแสนเย็นชาเช่นเขาจะเอ่ยคำเช่นนี้ออกมาได้

แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวเลือดในตัวของนางราวกับมารวมไว้บนใบหน้า เมื่อบุรุษตัวสูงกว่าคว้าตัวนางเข้าไปสวมกอด นางยืนนิ่งราววิญญาณออกจากร่าง กว่าจะรู้สึกตัวบุรุษตรงหน้าก็ผละตัวออกเสียแล้ว นางทำได้เพียงหลบตาต่ำทำอันใดไม่ถูก

ใจของเหยาหวังเหว่ยก็อยากจะกอดนางให้นานกว่านี้ เพียงแต่เขากลัวว่าจะอดใจไว้ไม่ไหวจนต้องผิดคำพูดกับนาง แต่ยามนี้เมื่อเขาได้เห็นใบหน้าของสตรีที่แดงปานลูกตำลึงก็อดไม่ไหวที่จะจุมพิตลงไปบนหน้าผากนางอย่างเอ็นดู

“ไปกันเถอะ หากยังอยู่ตรงนี้ข้าคงต้องผิดคำพูดแล้ว”

ฟางหนิงหลินที่ยืนอึ้งหลังจากถูกจุมพิตที่หน้าผาก รีบสาวเท้าออกจากศาลาไปในทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขา

บุรุษตัวโตยืนยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นสตรีตัวน้อยสาวเท้าเดินออกไปอย่างเขินอาย เขามองแผ่นหลังเรือนร่างบอบบางที่ค่อย ๆ เดินห่างออกไป  แต่มิได้คิดจะเดินตามนางไป เพราะกลัวว่าจะมีผู้ไม่หวังดีเอานางไปนินทาเสีย ๆ หาย ๆ ดังเช่นในอดีตอีก

 “เพราะเรื่องวางยากำหนัดวันนี้ในชาติก่อนทำให้ข้าหมางเมินเจ้ามาตลอด ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าหาใช่ฝีมือเจ้าไม่ ข้าผิดเองที่มิเชื่อคำเจ้า จึงตกหลุมพรางที่ผู้อื่นขุดไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้ครอบครัวของเจ้าและตัวเจ้าต้องดับสูญ ครานี้ข้าจะเอาคืนพวกมันที่ทำให้เจ้าต้องแบกรับความอัปยศอดสูจนถูกตราหน้าว่าเป็นสตรีไร้ยางอาย” เขาพึมพำกับตนเองเบา ๆ

เหยาหวังเหว่ยเงยหน้ามองดวงจันทรากลมโตที่ลอยเด่นอยู่บนนภายามราตรี ทำให้เขานึกถึงลมหายใจสุดท้ายที่โรยรินของตนเองในอดีต เพราะถือดีอวดเก่งดื้อรั้นถือทิฐิจึงไม่ยอมให้อภัยนางเสียที ทั้งที่เขาเองก็มีใจให้นางแต่กลับไม่ยอมรับ กว่าจะรู้ความจริงทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว แม้แต่ใบหน้าของนางเขาเองก็มิอาจได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นใจ

ฟางหนิงหลินสาวเท้าเดินมุ่งหน้าไปยังที่จัดงานเลี้ยง เมื่อพ้นบริเวณสระบัวนางก็ลดความเร็วลงก่อนที่จะหันไปมองดูด้านหลัง เมื่อนางไม่เห็นเหยาหวังเหว่ยเดินตามมาจึงหยุดเดินพร้อมเอามือลูบที่หน้าอกของตนเองเบา ๆ เพื่อให้ผ่อนคลาย

“หนิงหลินนะหนิงหลิน เจ้าตั้งสติหน่อยอย่าได้หลงไปกับความรู้สึกชั่ววูบเช่นนี้ เจ้าลืมจุดจบของตนเองไปแล้วหรือไร ถึงชาตินี้เจ้าจะยังไม่ออกเรือน แต่ชาติก่อนเจ้าก็ผ่านมือชายมาแล้ว สัมผัสเพียงเท่านี้ไยต้องเขินอายจนตั้งสติไม่ได้เช่นนี้” นางเอ่ยตำหนิตนเองเสร็จแล้วจึงเดินต่อ

ในขณะที่เดินมาใกล้ถึงงานเลี้ยงนั้น นางก็คิดขึ้นมาได้ว่า ชาติก่อนนางเป็นชายาของเหยาหวังเหว่ยได้เพราะนางวางยากำหนัดเขา แต่จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เกิดอันใดขึ้นกับนางถึงสามารถบีบเค้นนางให้ลงมือทำเช่นนั้นได้ เพราะนางรู้อยู่แก่ใจดีว่าเหยาหวังเหว่ยเป็นคนเช่นไร หากนางใช้วิธีต่ำช้าเช่นนั้นกับเขาผลที่ได้นั้นไม่จำเป็นต้องคิดให้เปลืองสมอง เพราะเพียงแค่นางหลับตาลงก็สามารถจินตนาการถึงผลที่จะตามมาได้อย่างชัดเจน

ตลอดทางเดินกลับไปในงานเลี้ยงฟางหนิงหลินพยายามนึกถึงเรื่องในอดีตมาตลอดทาง เพราะนางอยากรู้เหตุผลที่ทำให้นางต้องทำเช่นนั้น นางครุ่นคิดจนคิ้วทั้งสองแทบจะขมวดกันเป็นปม แต่ไม่ว่าจะนึกเท่าใดนางก็นึกไม่ออก จนในที่สุดนางก็เดินมาถึงบริเวณงานจัดเลี้ยง

เหยาลี่เซียนเพียงเห็นสหายเดินเข้ามาในงานก็รีบสาวเท้าถี่เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง เพราะวันนี้ท่าทีของฟางหนิงหลินดูแปลก ๆ ไป เมื่อเดินไปถึงตัวฟางหนิงหลินนางก็รีบเดินเข้าไปเอามือคล้องแขนของฟางหนิงหลินทันที

“หนิงหลิน รู้สึกดีขึ้นแล้วหรือไม่” เหยาลี่เซียนเอ่ยเสร็จก็ส่งยิ้มให้สหาย

“ข้าดีขึ้นแล้ว ทำให้องค์หญิงต้องเป็นห่วงแล้ว” ฟางหนิงหลินยิ้มตอบ

ทั้งคู่พากันไปนั่งจิบสุราฟังดนตรีอีกทั้งดูการแสดงที่ทางวังได้จัดเตรียมเอาไว้อย่างหน้าชื่นตาบาน คงมีเพียงเจียงเจียวซินที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก ถึงใบหน้าของนางจะยิ้มแย้มอยู่ก็ตาม

ถึงอย่างนั้นฟางหนิงหลินที่หันไปเห็นก็หาได้สนใจ และไม่คิดที่จะเอ่ยถามว่าใครทำให้นางไม่พอใจถึงแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์เช่นนี้ หากเป็นเมื่อก่อนฟางหนิงหลินคงเอ่ยปากถามเจียงเจียวซินด้วยความเป็นห่วงเป็นใยไปแล้ว แต่ตอนนี้ฟางหนิงหลินรู้แล้วว่านางเป็นคนเช่นไร จึงทำเป็นไม่เห็นและสนทนากับองค์หญิงเหยาลี่เซียนต่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่10 อยากเป็นคนเฝ้าประตูNc

    “จะว่าหม่อมฉันได้เช่นไรเพคะ ต้องโทษพระองค์ที่ทำตัวไม่เหมาะ ทั้งรถม้าเอย ทั้งเรือนนอกเมืองเอย อีกทั้งยังส่งองครักษ์คนสนิทไปคอยดูแลไหนเลยใครเห็นจะไม่เข้าใจผิด พระองค์รู้หรือไม่ยามนี้คนทั่วเมืองต่างพากันสงสัยแล้วว่าท่านอ๋องหรือท่านองครักษ์ซูที่เป็นบิดาของเด็กในท้อง จนถึงขั้นเปิดเดิมพันที่โรงพนันหลินหลงแล้วเพคะ”“เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะส่งซูโม่อี้ไปลงพนันกับพวกเขาเสียหน่อย แต่ว่ายามนี้ข้าอยากพักผ่อนแล้ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลงในช่วงท้าย“เช่นนั้นก็นอนเถอะเพคะ หม่อมฉันจะไปเตรียมยากับอาหารไว้ให้” ฟางหนิงหลินระบายยิ้มอ่อน ๆ ส่งให้สามี พร้อมกับลุกขึ้นความหมายคำว่า ‘พักผ่อน’ ของเหยาหวังเหว่ยนั้นมิได้หมายความว่าเขาจะนอน เมื่อเห็นภรรยาตัวนอนลุกขึ้นเขาจึงรีบคว้ามือของนางทันที พร้อมเอ่ยกับภรรยาตัวน้อยด้วยเสียงออดอ้อน“หนิงหลินเจ้าจะเป็นสตรีเพียงคนเดียวที่ข้าจะเฝ้าเจ้าคลอดลูก เช่นนั้นเจ้าคลอดบุตรชายบุตรสาวให้ข้าได้หรือไม่”ใบหน้าของฟางหนิงหลินขึ้นสีเล็กน้อย นางค่อย ๆ พยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ เพียงได้คำตอบจากภรรยา สวามีตัวสูงก็ดึงแขนภรรยาตัวน้อยลงมาพร้

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่9 เข้าใจผิด

    ตลอดทางที่อยู่ในรถม้า คนตัวสูงได้แต่นอนพิงคนตัวเล็กกว่าจนหลับไป ฟางหนิงหลินน้ำตาไหลเพราะนึกว่าเขานั้นหมดสติ นางเร่งคนขับรถม้าให้เพิ่มความเร็วขึ้น สารถีเมื่อได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของพระชายาก็เร่งความเร็วขึ้นตามผู้เป็นนายสั่งฟางหนิงหลินพยายามปลุกเหยาหวังเหว่ยให้ตื่น แต่ทว่าบุรุษตัวโตไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมาเพื่อให้นางสบายใจ เหยาหวังเหว่ยมิใช่ไม่ได้สติแต่เขานั้นอยากเอาคืนนางเสียหน่อยที่นางนั้นมิยอมเชื่อใจเขา และไม่แม้แต่จะฟังเขาอธิบายเมื่อมาถึงตำหนักเหล่าองครักษ์ก็พากันมาแบกเหยาหวังเหว่ยเข้าไปยังในตำหนัก เหยาหวังเหว่ยยังคงแกล้งไม่ได้สติจนกระทั่งหมอที่ซูโม่อี้ตามมาทำความสะอาดแผลพร้อมกับใส่ยาและพันแผลให้เหยาหวังเหว่ยเสร็จ เขาจึงแสร้งทำเป็นได้สติและลืมตาขึ้น“พระชายาอย่าได้เป็นกังวลไปพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องมีพระวรกายแข็งแรงไม่ช้าก็จะหายดี เพียงแต่ช่วงนี้อย่าให้ท่านอ๋องออกแรงมากมิเช่นนั้นแผลอาจฉีกอีก และระวังอย่าให้เป็นไข้มิเช่นนั้นอาจมีโรคอื่นแทรกซ้อนนะพ่ะย่ะค่ะ” หมอชราเอ่ยพร้อมยิ้มให้ฟางหนิงหลินก่อนจะกลับ“ขอบคุณท่านหมอมาก” ฟางหนิงหลินเอ่ยจบก็ยิ้มตอบ“ท่านหมอเ

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่8 จุดจบความหมางเมิน

    “หลินเอ๋อร์เจ้าใจเย็นก่อน เดี๋ยวพี่จะไปจัดการเขาให้เอง” สวีจื้อซานรีบเอ่ย ถึงเรื่องที่เหยาหวังเหว่ยมีอนุเขานั้นไม่อาจสอดมือเข้าไปยุ่งได้ แต่เรื่องที่เหยาหวังเหว่ยได้ใหม่ลืมเก่ารังแกน้องสาวของเขาเช่นนี้เขาย่อมไม่อยู่เฉยฟางหนิงหลินมิได้เอ่ยตอบ นางหมุนตัวเพื่อเดินกลับเข้าไปด้านหลังร้าน เพราะไม่อยากให้ผู้ใดเห็นน้ำตาความรู้สึกผิดหวังถาโถมใส่กลางใจหญิงสาวเมื่อเดินมาถึงเรือนหลังร้านน้ำตาก็ไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่กำลังไหลรินเงียบ ๆ ไม่มีเสียงสะอื้นไห้ แต่ทว่าความเจ็บปวดร้าวนั้นทำนางแทบจะขาดใจหลังจากที่ฟางหนิงหลินเดินหายเข้าไปหลังร้าน เสียงซุบซิบภายในร้านก็ดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน สวีจื้อซานกับเหยาซิงอีและเสิ่นหลิวหยางรับปากกับเหล่าสตรีว่าพวกเขานั้นจะไปคุยกับเหยาหวังเหว่ยให้รู้เรื่อง ให้พวกนางใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งวู่วามแต่ยังไม่ทันที่เหล่าบุรุษจะก้าวเท้าออกไป บุรุษที่เพิ่งก้าวเท้าออกจากร้านไปก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมมุ่งหน้าตรงไปยังหลังร้าน เพื่อไปหาภรรยาของเขาทั้งสตรีทั้งบุรุษที่เป็นสหายเดินตามเหยาหวังเหว่ยเข้ามาถึงห

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่7 หย่า

    เหยาซิงอีจ้องมองดวงตาของสตรีตรงหน้าที่กำลังสั่นไหว นัยน์ตาของนางดูเศร้าราวกับโลกที่เคยเบิกบานของนางทลายลง ความเสียใจทั้งหมดทั้งมวลแสดงออกมาทางใบหน้า เขาทนไม่ไหวที่จะเห็นนางเป็นเช่นนี้ โทสะที่บังเกิดขึ้นก่อนหน้าหายไปเพียงแค่ได้เห็นตาและจมูกที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดงระเรื่อ ท่าทางที่เหมือนกับนางกำลังจะร้องไห้ทำให้เขาต้องรีบเอ่ยประโยคที่ยังไม่ทันได้เอ่ยโดยพลัน“เพราะมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เราจะให้เกียรติเป็นพระชายาของเรา เช่นนั้นจะให้เราให้เกียรติเจ้าเหมือนสตรีนางอื่นได้เช่นไร”ดวงตาของลี่อินเบิกกว้างอย่างตกตะลึง นางนั้นพยายามตั้งสติเพราะคิดว่าตนเองอาจหูฝาดไป แต่เมื่อได้ยินคำอวยพรรวมทั้งคำยินดีจากสหายและลูกค้าที่อยู่ในร้านก็ทำให้นางรู้ว่าที่นางนั้นได้ยินไม่ผิด ใบหน้าหวานของนางขึ้นสีระเรื่อ ลี่อินเบือนหน้าหนีแสร้งหลบตาอย่างเขิน ๆท่วงท่าเขินอายของลี่อินเสริมเสน่ห์ให้นางจนเหยาซิงอีนั้นยากจะอดใจไหว เขาจับคางเล็กให้เงยขึ้นก่อนจะประกบปากลงไปจุมพิตริมฝีปากงาม โดยไม่สนใจสายตาของคนในร้านแม่นางน้อยใหญ่ที่อยู่ในร้านเมื่อได้เห็นการแสดงความรักของจวิ้นอ๋องเหยาซิงอีก็ต่างพากัน

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่6 มีทางเลือกอย่างนั้นหรือ

    ยามนี้เป็นเวลาทำงานของสวีจื้อซาน กว่าคนของเขาจะฝากคนส่งข่าวเข้ามารายงานได้ก็กินเวลาไปเกือบ2เค่อแล้ว และกว่าที่เขานั้นจะออกมาจากพระราชวังได้ก็ป่าไปเกือบครึ่งชั่วยามทางด้านเหยาซิงอีที่เมื่อคืนร้อนใจจนนอนไม่หลับจึงได้ชวนเสิ่นหลิวหยางดื่มสุราด้วยกันที่จวนของเขานั้น เมื่อได้ยินรายงานจากคนของตนก็ไม่รอช้ารีบออกจากจวนไปทันที โดยมีเสิ่นหลิวหยางตามติดมาด้วยตอนแรกเหยาซิงอีจะไปหาลี่อินแต่เช้า แต่เสิ่นหลิวหยางบอกให้รอเหยาหวังเหว่ยมาจัดการเรื่องทุกอย่างก่อน ไม่เช่นนั้นที่ลี่อินเพียงแค่หมางเมินใส่อาจจะกลายเป็นทะเลาะกันก็เป็นได้ เหยาซิงอีจึงเชื่อคำของสหายไม่ไปหาลี่อินแต่เช้ากว่าเหยาซิงอีกับเสิ่นหลิวหยางจะมาถึง เหล่าสตรีก็นั่งพักจิบน้ำชากินขนมที่โรงน้ำชาไป่เหอกันเสียแล้ว เพียงพวกเขาทั้งสองเดินเข้ามาในโรงน้ำชา สายตาของพวกเขาทั้งสองก็มุ่งตรงไปยังกลุ่มของสตรีทั้งห้าคนทันที ถึงบุรุษทั้งสองจะมิใช้สายตามองผู้ใดนอกจากสตรีทั้งห้า แต่ทว่าบุรุษที่อยู่ในร้านที่จ้องมองพวกนางอยู่นั้นก็รีบเก็บสายตาและหันหน้าหนีทันทีทันใด เพราะไอสังหารที่แผ่ออกมาจากบุรุษทั้งสองนั้นมีมากพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวเหยาซิงอีเมื่อมาถ

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่5 ช่อดอกไม้งาม

    วันต่อมาลี่อินกับเสี่ยวเยาตื่นแต่เช้า พวกนางออกมาจ่ายตลาดเพื่อจะได้เตรียมอาหารเช้าให้สตรีคนอื่น ๆ ที่ยังคงนอนไม่ตื่น และอีกอย่างเพราะเจียงเจียวซินออกมาค้างคืนข้างนอกกะทันหัน ยาบำรุงที่ควรจะดื่มในทุกวันจึงไม่ได้เอาออกมาด้วย เสี่ยวเยาจึงต้องมาโรงหมอที่เคยมารับยาทุกครั้ง เพื่อซื้อยาบำรุงให้คุณหนูของนาง“ข้ามาหาท่านหมออี้” เสี่ยวเยาเอ่ยถามเด็กรับใช้ที่อยู่ในโรงหมอ“ขอโทษทีขอรับ เมื่อคืนนี้ทั้งท่านหมออี้และอี้ฮูหยินออกไปนอกเมือง ถึงยามนี้ก็ยังไม่กลับมาขอรับ” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบแขกผู้มาเยือนด้วยท่าทีนอบน้อม“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านหมออี้ไปทำอะไรที่นอกเมืองและจะกลับมาเมื่อใด” เสี่ยวเยาเอ่ยถาม เพราะถ้าหากกลับช้าคุณหนูของนางอาจจะกินยาบำรุงไม่ตรงเวลา เช่นนั้นนางคงต้องกลับไปจวนตระกูลสวีเพื่อเอายา“ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ ข้าน้อยรู้แต่ว่าทหารของตำหนักชินอ๋องมาเชิญท่านหมออี้และอี้ฮูหยินไปทำคลอดให้สตรีที่อยู่นอกเมืองขอรับ ส่วนจะกลับมาเมื่อไรนั้นข้าน้อยไม่อาจคาดเดาได้”เพียงได้ยินคำตอบลี่อินและเสี่ยวเยาก็ต่างมองหน้ากัน พวกนางรู้เหตุผลแล้วว่าใยเมื่อคืนนี้ชินอ๋องเหยาหวังเหว่ยจึงไม่รีบกลับมาง้อฟางหนิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status