Share

ตอนที่ 31 :  แว่นตาคือหน้าต่างของหัวใจ

last update Dernière mise à jour: 2025-04-10 12:36:44

          หลังจากที่กรและมีอา เข้ามาในห้องบอสของชั้นที่ 75 และพบเข้ากับหญิงสาวซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ปรกาศมาโดยตลอดตั้งแต่ที่กรลงดันเจี้ยนมาเข้า ก็เกิดประหลาดใจที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น และเกิดอาการหงุดหงิดอย่างแรงที่คิดไปเองคนเดียวว่า เรื่องที่การคาดการณ์ของตัวเองผิดพลาดนี้จะทำให้ตัวเขาดูโง่ในสายตาของมีอาขึ้นมา

          นั่นเลยทำให้กรที่ตอนนี้เกิดอาการหงุดหงิดปนตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก บวกกับสาวแว่นจอมเวทย์ที่อ้างว่าตัวเองเป็นบอสประจำชั้นเองที่แสดงความรำคาญออกมา เนื่องด้วยความเบื่อหน่ายที่ไม่ต้องการมารับการทดสอบกรด้วยตัวเอง นั่นเลยทำให้ทั้งคู่สร้างบรรยากาศไร้เสียงขึ้นมาโดยรอบตัวเองเป็นวงกว้าง จนไม่มีใครกล้าเปิดการสนทนาต่อเลยซักคน…

〖โอ๊ะ!  สายัณห์สวัสดิ์คุณนาย〗

〝……….…ไงเคลเบรอส สภาพดูไม่จืดเลยนะนั่นหน่ะ〞

          แล้วคนที่เป็นคนเปิดการสนทนาก็คือคนกลางเช่นเคลเบรอสนั่นเอง และดูเหมือนสาวแว่นคนนี้เองก็ตามน้ำไปกับเคลเบรอสด้วยเช่นกัน อาจเป็นเพราะเธอรำคาญจากสภาพแบบนี้หรืออยากจะจบการทดสอบโดยเร็วก็แล้วแต่

          แต่เสียงตอบกลับเรียบๆของเธอนั่นก็ทำให้บรรยากาศปั้นหน้ายากของทุกคนหายไปอย่างสิ้นเชิง และกลับเข้าสู่บรรยากาศเตรียมพร้อมรบอีกครั้งหนึ่งในทันที รวมถึงกรที่แสดงอาการหงุดหงิดออกมาอย่างเปิดเผยก่อนหน้านี้เอง ก็ดึงสติของตัวเองกลับมาได้ และดึงความเยือกเย็นของตัวเองกลับมาได้ในทันทีพร้อมๆกับที่เธอคนนั้นตอบเคลเบรอสกลับไป

〖เฮอะ! เพราะข้าดันไปอยู่กับเจ้านายแปลกๆเข้านั่นแหล่ะ!〗

〝เฮ้ยๆ พูดแบบนี้หมายความว่าไงฟ่ะเจ้าหมา… ไหนแกบอกว่าฉันเป็นเจ้านายไง? มีที่ไหนฟ่ะมาด่าเจ้านายงี้หน่ะ! 〞

〖ขออภัย ด้วย-ขอ-รับ-เจ้า-นาย อาจเป็นเพราะกระผมไม่ระวัง เลยทำให้ติดเชื้อบ้ารักษาไม่หายมาจากนายท่านเข้า… ก็-เป็น-ได้〗

〝นี่ยังมากวนประสาทกันในเวลาแบบนี้อีกงั้นเหรอ! เฮ้อ ให้ตายสิ…. 〞

          แล้วเคลเบรอสก็หยอกล้อกับกรเหมือนเช่นทุกที แต่กรก็ตอบกลับเคลเบรอสด้วยเสียงเรียบๆต่างจากทุกที อันเป็นเครื่องบ่งบอว่ากรในตอนนี้กลับมาเยือกเย็นแล้วนั่นเอง

          และแน่นอนว่าที่เคลเบรอสแกล้งกรแบบที่ว่าไป ก็เพื่อเป็นการดึงสติกรทางอ้อม กรที่ใจเย็นลงแล้วเข้าใจเจตนาแฝงของเคลเบรอสได้เป็นอย่างดี กรจึงได้ตอบกลับไปแบบไม่คิดอะไรมากนักนั่นเอง

〝กลายเป็นพี่เลี้ยงไปแล้วงั้นสิ… รู้สึกนายจะเปลี่ยนไปหน่อยๆนะเนี่ย〞

〖อย่าพูดแบบนั้นเลยน่าคุณนาย คนเรามันก็เปลี่ยนกันได้ตลอดเวลานั่นแหล่ะ〗

〝อาๆ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ…. แต่ฉันว่าน่าจะได้เวลาทำหน้าที่ของผู้ประกาศซักทีแล้วไม่ใช่เหรอ?〞

          และดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่กรที่รู้เจตนาของเคลเบรอสเท่านั้น แต่สาวแว่นที่คุยอย่างสนิทสนมกับเคลเบรอสราวกับรู้จักกันมานานเองก็รู้ได้เช่นกัน แต่กรที่เห็นว่าหากคุยออกนอกทะเลมากกว่านี้จะกลับเข้าฝั่งไม่ได้เสียที จึงได้รีบตัดบททั้งสองคนโดยเร็ว

〝….นายนี่มันน่าโมโหซะจริง〞

〝เอาเถอะน่า  เอาจริงๆฉันก็ไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้ด้วยสิ เพราะงั้นก็ถือว่าช่วยๆกันหน่อยน่า เธอเองก็เบื่อเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?〞

〝ชิ!〞

          และดูเหมือนที่กรพูดขัดจังหวะไปนั่นจะเป็นการยั่วโมโหเธอเข้าให้แล้ว หากแต่ว่านั่นเป็นสิ่งที่กรจงใจเพื่อให้เธอสูญเสียความเยือกเย็นไปแทน เหมือนกับเขาตอนแรกนั่นเอง

          กรนั้นได้รับบทเรียนมาแล้วว่า การไปแหย่หนวดเสือเข้านั้นเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองดีๆนี่เองจากครั้งของเคลเบรอส แต่แน่นอนว่านั่นไม่ใช่กับคนที่มีระดับพลังใกล้เคียงกัน นั่นเพราะกรในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นจากตอนนั้นมากถึงมากที่สุดไปแล้ว การใช้ลูกเล่นอย่างจิตวิทยาจึงเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวสำหรับเขา แต่ปฏิกิริยาของสาวแว่นคนนี้ดูจะน้อยกว่าที่คาด กรจึงระวังเธอมากยิ่งขึ้นเมื่อเธอคนนี้เป็นประเภทที่เคี้ยวยากกว่าที่กรเห็นภายนอก

〝เฮ้อ! เข้าใจแล้วๆ ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนกัน ถือซะว่าพบกันครึ่งทางก็แล้วกัน…. 〞

〝อืม… แบบนั้นช่วยได้มากเลย แล้วก็… ขอโทษเรื่องที่ตะโกนเมื่อกี้ด้วยหล่ะ ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะครับผม〞

〝เอาเถอะ… จะให้มาถือสามดปลวกชั้นต่ำไร้มารยาทที่คืบคลานอยู่บนผืนดินแบบนั้น มันก็เป็นเรื่องแปลกอยู่แล้วนี่นา… ฉันไม่คิดมากหรอกวางใจได้〞

〝………….〞

          หลังจากที่กรขอโทษสาวแว่นคนนี้อย่างจริงใจ กับการกระทำที่ไร้มารยาทของตัวเขาเมื่อครู่ เธอคนนี้กลับตอบกลับกรกลับมาด้วยประโยคประชดประชันสุดเจ็บแสบ แถมเธอคนนี้ยังดันแว่นตัวเองขึ้นพลางส่งสายตาเฉียบคมกลับมาทางกรราวกับจะบอกว่าการกระทำของตัวเองเป็นการยั่วโมโหอย่างจงใจ เพื่อพลิกให้กรเป็นฝ่ายไขว้เขวเสียเอง มีอาที่ยืนอยู่ข้างหลังกรเอง พอได้ยินคำด่าทอส่งมายังคนรักของตัวเองอย่างรุนแรงก็กลับเป็นฝ่ายโมโหแทนกรแบบสุดๆเสียอย่างงั้น เพียงแต่ว่า….

〝….โห๋! แล้วถ้าเกิดมีคนโดนมดปลวกที่ว่าเหยียบย่ำจนจมดินซะเองเนี่ย จะไม่เรียกว่าน่าสมเพชยิ่งกว่าหนอนแมลงชั้นต่ำอีกงั้นเหรอ?〞

〝………….〞

          แต่กรกลับไม่ได้ตะคอกเธอกลับไปแต่อย่างใด กลับกันแล้ว เขายังตอบกลับเธอไปด้วยประโยคประชดประชันเช่นเดียวกัน ด้วยเสียงเรียบๆและสายตาเฉียบคมที่มองสาวแว่นคนนั้นกลับ มีอาที่เห็นแบบนั้นจึงสงบใจลงไปได้หน่อยนึง และนั่นเลยทำให้สาวแว่นคนนี้ตะลึงเล็กน้อย

          แต่เธอที่โดนกรจ้องกลับก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่สังเกตได้มากเกินความจำเป็นเลยซักนิด นั่นแสดงให้ทั้งคู่เห็นว่าไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายไขว้เขวด้วยการะปะทะทางวาจาซึ่งเป็นของถนัดของตัวเองได้สำเร็จเลยซักนิด ทั้งคู่จึงยังคงความเยือกเย็นและท่าเตรียมพร้อมไว้ตลอดเพื่อทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้จะได้เป็นฝ่ายเปิดฉากนั่นเอง

〝ให้ตายสิ! ดูเหมือนต่อให้ปะทะฝีปากกันไปก็เสียเวลาเปล่าสินะ〞

〝นายนี่บ้ารึเปล่าเนี่ย? ปกติมีใครที่ไหนมายืนคุยกับศัตรูอยู่แบบนี้กัน?〞

〝แหมๆ ก็ฉันมันเป็นพวกบ้านนอกหน่ะ ไม่รู้กฎพื้นฐานอะไรแบบนั้นหรอกนะ… เพราะงั้นก็เริ่มกันซักทีเถอะ! วิธีปกติที่เขาทำกันเวลาเจอศัตรูหน่ะ〞

จิตวิทยาได้ผลน้อยกว่าที่คิดแฮะ….

ดูเหมือนเธอคนนี้เองจะเป็นประเภทขยับสมองก่อนร่างกายซะด้วย… แถมยังระวังตัวแบบสุดๆอีก

จริงๆ ก็เป็นเพราะนิสัยรำคาญง่ายนั่นแหล่ะ ที่น่าจะเป็นสาเหตุ… เริ่มยุ่งยากขึ้นมาแล้วสิ

〝เฮ้อ! ก็ได้… งั้นจะเริ่มอธิบายแล้วนะ〞

〝อา….. รบกวนด้วย〞

          หลังจากที่กรตอบรับเธอด้วยคำพูด หญิงสาวก็กระแอมครั้งนึงเบาๆก่อนที่จะเริ่มอธิบายหฎอย่างจริงจังอีกครั้ง

〝อย่างที่บอกไปแล้ว บอสก็คือฉันคนนี้นี่แหล่ะ !!!〞

          ในเวลาเดียวกับที่เธอประกาศออกมาแบบนั้น มีอาก็ตั้งท่าเตรียมที่จะโจมตีเธอทันที แต่กรก็เอามือไปขวางไว้ก่อน นั่นเลยทำให้มีอาชะงักและหยุดเคลื่อนที่ในทันที แต่สาวแว่นที่เป็นสาเหตุกลับไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยทั้งยังฉีกยิ้มออกมาที่ริมฝีปากนิดหน่อยไปพร้อมกันอีก นั่นเลยทำให้กรคิดว่าเธอคนนี้จะต้องมีไพ่ตายอะไรซักอย่างสองอย่างซ่อนอยู่แน่ จึงไม่อยากให้มีอาเข้าไปเสี่ยงนั่นเอง

          แล้วจากนั้นเธอก็อธิบายกฎต่อในทันทีราวกับไม่สนการกระทำของมีอาเลยแม้แต่น้อย จนดูสมเป็นผู้ประกาศมืออาชีพขึ้นมาเลย

〝….. เงื่อนไขในการลงไปสู่ชั้นถัดไปมีเพียงข้อเดียว นั่นคือ การ』 ชนะ 『ฉันคนนี้ให้ได้เท่านั้น…

หากผ่านเงื่อนไขดังกล่าวได้ การทดสอบจะถือเป็นอันเสร็จสิ้น แล้วทางลงไปชั้นต่อไปก็จะเปิดออกโดยอัตโนมัติ—— 〞

〝โทษที ขอถามอะไรหน่อย〞

〝อะไรอีกหล่ะ?〞

          หลังจากการอธิบายของผู้ประกาศเสร็จสิ้น กรก็เริ่มถามอีกครั้ง แน่นอนว่านั่นก็เพื่อขัดจังหวะเธออีกนั่นแหล่ะ ทั้งยังจ้องตาเธอกลับพลางส่งแรงกดดันทางสายไปยังเธอก่อนที่จะถามอีกด้วย แต่ก็อย่างที่คาดสาวแว่นผู้ประกาศคนนี้ไม่มีปฏิกิริยาตกใจหรือหวั่นไหวอะไรกลับมาเลย

〝ถึงจะบอกให้『ชนะ』เธอก็เถอะ…. แต่จะให้ทำไงหล่ะ? 〞

〝เฮ้อ! …..ไม่ยังไงทั้งนั้นแหล่ะ ไม่มีกฎเพิ่มเติมอะไรทั้งนั้น… จะเข้ามาสู้พร้อมกันเลยก็ได้ ทั้งสองคนนั้นแหล่ะ!〞

ยัยนี่จะขี้รำคาญไปถึงไหนฟ่ะ… ที่ถามหน่ะหมายถึง ชนะด้วยวิธีไหน? ต่างหากเฟ้ย

แต่ตีความจากที่บอกว่าเข้ามาทั้งสองคนเลยเนี่ย… อย่างที่คิด คือต้องทำให้เธอคนนี้ยอมแพ้ ไม่ก็หมดสภาพในการต่อสู้ หล่ะมั้งนะ

แต่ถึงจะบอก ให้เข้ามาทั้งสองคนเลยก็ได้ ก็เถอะนะ… แต่ยังไงเรื่องแบบนั้นก็——

〝ไม่เอาด้วยหรอก!〞

〝อะไร?〞

〝ฉันขอสู้คนเดียวจะดีกว่า…. มีอาเธอไปดูอยู่ข้างบนนั้นก็แล้วกันนะ〞

〝เอ๋!!!!!〞

          แล้วพอกรตอบเธอคนนั้นกลับไปและบอกจุดประสงค์ของตัวเองแล้ว คุณผู้ประกาศก็แสดงอาการประหลาดใจออกมาเล็กน้อย พอสมกับที่กรคาดไว้อยู่บ้าง เพียงแต่คนที่ตกใจที่สุดกลับเป็นคนที่กรไม่อยากให้ตกใจออกมาเสียอย่างงั้น และแน่นอนว่าคนๆนั้นก็คือ มีอา นั่นเอง แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่กรคาดเอาไว้แล้วเช่นกัน ตัวกรเองจึงไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไรออกมา

〝ทะ ทำไมหล่ะกร!!!? ฉันต่อสู้ได้นะ! เป็นกำลังให้นายได้! ระ หรือว่าไม่เชื่อใจฉัน—— !!!〞

ฟุบ!

          ทันทีที่มีอาพูดแบบนั้นออกมาด้วยสีหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ กรก็เอามือขวาของตัวเองวางบนหัวของเธอและลูบไปมาอย่างอ่อนโยนเพื่อให้เธอผ่อนคลายลงในทันที

〝มันต้องไม่ใช่อย่างงั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันต้องเชื่อใจเธอที่สุดอยู่แล้วไม่ใช่รึไง〞

〝ถ้างั้นก็ให้ฉันช่วยด้วยสิ! ฉันอยากให้นายพึ่งพานะ! อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของนายนะ!〞

          แล้วเธอก็โน้มตัวเข้ามาทางกรทั้งที่กรยังวางมืออยู่ ก่อนที่จะช้อนตามองขึ้นมาทางกรเพื่อขอร้องกรราวกับลูกสุนัขที่กำลังหาอาหารอยู่ยังไงอย่างงั้น

〝ขอบคุณนะมีอา… แต่อย่ากังวลไปเลย…. ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า〞

          กรพูดแบบนั้นออกไปพลางเลื่อนมือของตัวเองลงมาบริเวณแก้มของมีอา

〝แล้วอีกอย่าง… ฉันหน่ะแข็งแกร่งนะ! เธอเองก็รู้ไม่ใช่เหรอ…. เพราะงั้นคราวนี้ก็ช่วยเชื่อใจฉันด้วยได้รึเปล่า?〞

〝!!!〞

          หลังจากที่กรพูดแบบนั้นออกไปด้วยน้ำเสียงหนักๆ ที่สื่อถึงความจริงจังของตัวเองไปแล้วทั้งที่ยังลูบแก้มของมีอาอย่างอ่อนโยนอยู่ เลยทำให้มีอาที่ได้ยินแบบนั้นมองตาของกรแวบนึงและเห็นสายตาจริงจังของกรเขาไปอีก เลยทำให้เธอต้องจำใจทำตามที่กรบอกแต่โดยดี

〝ขอบคุณนะมีอา〞

〝ห้ามตายเด็ดขาดเลยนะ…. ถ้าไม่งั้นฉันจะ… กัดลิ้นตัวเองแล้วตายตามนายไปด้วยเลย〞

〝นะ นั่นไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมมีอา?〞

〝ฉันเอาจริงแน่ๆหล่ะ… ถ้าไม่มีนายอยู่ ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องมีชีวิตอยู่ซักหน่อย〞

〝เฮ้ยๆ! ไม่เอาน่ามีอา ไอ้แบบนั้นมัน——〞

〝เพราะงั้นก็ชนะให้ได้สิ〞

          แล้วหนนี้มีอาก็กลับเป็นฝ่ายกดดันกรกลับแทนจนกรตกตะลึงแต่ก็ยังไม่ได้ชักมือที่แนบอยู่กับแก้มของมีอาออกแต่อย่างใด และนั่นเลยทำให้กรจำต้องลบความเป็นไปได้ที่ตัวเองแพ้ออกจากหัวของตัวเองไปจนหมดสิ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่มีอาพูดออกมาอย่างจริงจังนั่น

ก็นะ… ถ้าเป็นแบบที่มีอาพูดออกมาจริงหล่ะก็

ต่อให้เราโชคดีจุติอีกครั้ง แต่ตอนที่ตายไป มีอาเกิดฆ่าตัวตายขึ้นมาหล่ะก็…

หวา… เวรแล้วไง!!! แบบนั้นโคตรปวดตับเลย ถ้าเธอทำแบบนั้นไปจริงๆหล่ะก็ บางทีฉันอาจจะทำแบบเดียวกัน…

ไม่สิ… ถ้าเราตายไป แล้วพวกรินหล่ะ… สัญญากับอลิซหล่ะ! การตามหาพี่มารีก็ด้วย!

แน่นอนว่าคงไม่มีโชคดีอย่างการจุติเกิดขึ้นมาอีกแล้วหล่ะ

ถึงจะไม่คิดจะตายอีกแล้วก็เถอะ… แต่คุณผู้ประกาศคนนี้ดูก็รู้แล้วว่าแข็งแกร่ง แถมยังน่าจะกดกันไม่ลงง่ายๆอีกด้วย

แล้วทำไมสถานการณ์มันถึงได้กดดันขึ้นมาซะได้เนี่ย! …อ่อ คงเพราะทิฐิบ้าๆของเราหล่ะสินะ

แต่เพราะงั้นแหล่ะเลยทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้… ให้ตายสิไม่น่าเลยเรา

แต่ยังไงเราก็แพ้ไม่ได้อยู่แล้วไม่ใช่รึไงน้า… งั้นก็เลิกคิดมากได้แล้วมั้ง!?

.

.

〝เฮ้อ! ดูเหมือนหนนี้จะแพ้ไม่ได้จริงๆแล้วสิเนี่ย เธอนี่ร้ายจริงๆเลยนะ〞

〝หิหิ! ถ้างั้นก็พยายามเข้านะ〞

〝อา ไว้ใจฉันได้เลย!〞

          แล้วจากนั้นกรก็ผละมือของตัวเองออกมา แล้วมีอาก็เดินไปทางอัฒจันทร์เพื่อเตรียมที่จะถีบตัวขึ้นไปนั่งข้างบนทันที

〝อ๊ะ! แล้วก็นะมีอา เอาไอ้นี่ไปด้วย!!〞

〝!!!!!〞

ฟุบ!

〝อ๊ะ! หวาๆๆ〞

          หลังจากที่มีอาหันไปทางตรงข้าม และเดินจากกรไปเพียง 3 ก้าว กรก็ถอดดาบที่สะพายอยู่ข้างหลังของตัวเองออกในทันทีแล้วจากนั้นก็โยนไปทางมีอา แม้มีอาจะตกใจที่ถูกเรียกและโยนของให้อย่างกะทันหัน แต่เธอก็สามารถรับได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนกับที่กรโยนรองเท้าบูทให้มีอาครั้งแรกไม่มีผิดเพี้ยนเลย

          หลังจากนั้นมีอาก็หันหน้ามาทางกรและทำแก้มป่องใส่เขาครั้งนึงอย่างน่ารักน่าชัง หากเป็นเธอก่อนหน้านี้คงไม่มีทางทำแบบนี้เพราะเกรงใจกรเป็นแน่ เพียงแต่ตอนนี้ทั้งคู่เป็นคนรักที่ผ่านศึกเสี่ยงตายกันมามากมายจนเรียกได้ว่า ทั้งคู่ได้เกิดความเชื่อและเข้าใจกันและกันจนหมดสิ้นแล้วเลยทีเดียว เลยทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมากถึงมากที่สุดหากเปรียบเทียบกับครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกัน

          พอมีอารับดาบของกรไปแล้วก็ส่งสายตามาทางกรให้ พยายามเข้า! อีกครั้ง ก่อนที่จะถีบตัวขึ้นไปข้างบนด้วยแรงกายและขึ้นไปนั่งดูกรและผู้ประกาศอยู่บนอัฒจันทร์หินอ่อนกับเคลเบรอสกันสองคน

          ในด้านของกรพอส่งดาบให้มีอาและรับกำลังใจอันเต็มเปี่ยมมาจากเธอเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้าไปใกล้สาวแว่นที่เป็นผู้ประกาศคนนั้นอย่างช้าๆ จนยืนอยู่ห่างจากเธอเพียง 10 เมตรเท่านั้น

〝นายหน่ะ ขอถามเหตุผลที่สู้คนเดียวหน่อยได้ไหม…〞

〝ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ ก็แค่… ทิฐิบ้าๆของฉันเท่านั้นเอง〞

〝ทิฐิ?〞

〝ก็… ฉันเองก็เป็นลูกผู้ชาย คงทำเรื่องอย่างการตะลุมบอนผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่คนเดียวแบบเธอไม่ได้หรอกนะ〞

〝!!!!!〞

ปึด!

          หลังจากที่กรพูดแบบนั้นออกไป กรก็รู้สึกเหมือนกับว่าจะได้ยินเสียงเส้นเลือดผุดออกมาบริเวณศีรษะของหญิงสาวยังไงอย่างงั้น รวมถึงต้นเหตุเช่นหญิงสาวก็แสดงใบหน้าไม่พอใจออกมาเช่นกัน

〝พะ ผู้หญิงตัวเล็กงั้นเหรอ!? ฉันเตี้ยกว่านายแค่ 5 เซนต์เองนะ!〞

〝ก็แค่เปรียบเทียบเท่านั้นเองน่า!〞

〝ฮึ่ย!〞

อ้าวเฮ้ย! นี่คิดมากด้วยเหรอฟ่ะเนี่ย!

นี่เราเผลอไปเปิดสวิตซ์แปลกๆเข้าแล้วรึเปล่า?

〝ขอโทษครับ〞

〝ไม่ให้อภัย!〞

          ทันทีที่กรขอโทษ เธอก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงโมโหแบบสุดๆ แต่ก็ยังแสดงท่าทีเงียบขรึมไว้อยู่ และเพราะใบหน้าของเธอคนนี้น่ารักสุดๆนั่นแหล่ะเลยทำให้ดูน่าขบขันมากกว่าน่ากลัวไปเสียอย่างงั้น

          แต่เพราะเธอยังคงท่าทีเยือกเย็นไว้ได้อยู่ กรจึงเลิกล้อเล่นกับเธอแต่เพียงเท่านี้ และหายใจเข้า-ออก ครั้งหนึ่งแรงๆเพื่อตั้งสติ และทำการรวบรวมสมาธิเพื่อทำการสังเกตคู่ต่อสู้ตรงหน้าด้วยความเยือกเย็นเช่นเดียวกัน

          หญิงสาวเองพอเห็นกรเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหันก็หายใจเข้าจนเต็มปอด และหายใจออกแรงๆครั้งนึงเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะเลื่อนคฑาที่ดูน่าเกรงขามอันประดับไปด้วยลวดลายหัวมังกร ซึ่งอยู่ในมือขวาของตัวเองไปข้างหน้าในทันที ส่วนกรเองก็เลื่อนเท้าซ้ายไปข้างหน้านิดหน่อยและปรับสมดุลทั่วร่างไปพร้อมกันด้วยเช่นกัน นั่นก็เพื่อตอบสนองการเตรียมพร้อมของคุณผู้ประกาศก่อนหน้านั่นเอง

〝ขอถามเพื่อความแน่ใจก่อนนะ… ถ้าฉันชนะเธอได้ ต่อให้มีอาไม่ต้องมาสู้ด้วย ก็สามารถลงไปยังชั้นต่อไปด้วยกันได้ใช่ไหม?〞

〝แน่นอน… จะยกให้เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน〞

〝หืม! ทำไมหล่ะ?〞

〝ก็เพราะพวกนาย.. เป็นพวกแรกที่สามารถลงมาถึงห้องนี้ได้ยังไงหล่ะ มันก็ต้องตบรางวัลกันหน่อยหล่ะ 〞

〝เห๋! ไม่ใช่ว่าจริงๆแล้วก็แค่ขี้เกียจสู้หลายๆรอบหรอกเหรอ?〞

〝ชิ! อย่าพูดเหมือนรู้ดีไปหน่อยเลย〞

          แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ทั้งคู่คุยโต้ตอบกันไป ในขณะที่เลื่อนตำแหน่งไปมาเป็นวงกลมโดยมีอีกฝ่ายอยู่ทิศตรงกันข้ามอย่างช้าๆไปพร้อมกัน เพื่อดูท่าทีและหาช่องว่างของอีกฝ่ายในการเปิดศึกนั่นเอง

〝เรื่องนั้นต้องขอโทษด้วย! ก็แค่ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันก็จะทำแบบเดียวกันหน่ะนะ〞

〝โห๋! จะบอกว่าเข้าใจฉันงั้นเหรอ?〞

〝แน่นอน! ถ้าให้เลือกทำงานระหว่างบนโต๊ะกับบนเตียง ฉันจะเลือกที่จะนอนบนเตียงอย่างไม่ลังเลเลย และแน่นอนว่าจะไม่ทำงานด้วย〞

〝หืม! งั้นเองหรอกเหรอ? เพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ใกล้แค่นี้เอง… แต่ที่พูดแบบนั้น คงไม่ใช่ต้องการให้ฉันเขวหรอกใช่ไหม… ไม่สิเมื่อกี้พูดจากใจเลยสินะ〞

〝ก็ส่วนหนึ่งหน่ะนะ… ไอ้เรื่องการเคลียร์ดันเจี้ยนนี่เองก็ด้วย ถ้าไม่ติดว่าเจ้าเด็กนั่นช่วยฉันไว้หล่ะก็… ฉันก็ไม่คิดที่จะลงมาถึงนี่หรอกนะ ก็ฉันไม่อยากติดหนี้ใครนี่นา〞

〝ทิฐิสูงชะมัดเลยนะนายเนี่ย!〞

〝เข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่ไม่อยากถูกทวงบุญคุณทีหลังเท่านั้นเอง….〞

          จนถึงตอนนี้ ทั้งคู่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเข้าปะทะกันเลยซักนิดเดียว แต่ทั้งคู่กลับยังคงเคลื่อนไหวไปรอบๆอย่างช้าๆ รวมถึงใช้คำพูดต่างๆนานากับอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องทั้งที่รู้ว่าแทบไม่ได้ผล นั่นเพราะทั้งคู่ระวังตัวอีกฝ่ายเป็นอย่างมากพอๆกัน รวมถึงทั้งคู่นั้นระวังและกลัวอีกฝ่ายมากเกินไปด้วยนั่นแหล่ะ

          ซ้ำร้าย ทั้งคู่พยายามที่จะโจมตีอีกฝ่ายตลอดทั้งที่พูดอยู่ด้วยซ้ำ กรเองพอพูดจบในทุกๆประโยคก็จะยึดเท้าขวาไว้กับพื้นและเตรียมถีบตัว ส่วนผู้ประกาศพอพูดจบในทุกประโยคก็จะชี้หัวคฑามาทางกรเช่นกัน แต่ทั้งหมดก็ถูกอีกฝ่ายตั้งท่าตั้งรับไว้ได้หมด แม้จะยังไม่ได้โจมตีแต่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าการโจมตีของตัวเองทำอะไรอีกฝ่ายไมได้ นั่นจึงทำให้ไม่มีใครเริ่มโจมตีเสียที

บ้าชิบ ยัยนี่! ไม่มีช่องว่างเลย แถมดูเหมือนจะมีกับดักอยู่ด้วย ถ้าเข้าไปซัดตรงๆมีหวังซวยแหงๆ

จะระวังตัวไปไหนฟ่ะ! แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่โจมตี แสดงว่าเราเองก็แสดงเนียนอยู่เหมือนกันสินะ

แต่ถ้าเป็นแบบนี้คงไม่ได้เริ่มกันพอดี ถึงจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ แต่เราทั้งคู่ดูคล้ายกันหน่อยๆแฮะ

ถ้างั้นเห็นทีเราคงต้องเปิดก่อนสินะ

〝แล้วที่นายไม่ใช้ดาบสู้เองก็เป็นทิฐิเหมือนกันเหรอ? หรือว่ากำลังดูถูกกันอยู่〞

〝? ไม่เลยๆ เรื่องประมาทหน่ะไม่มีทางหรอก〞

〝หืม! แล้วทำไมหล่ะ?〞

〝…บอกตามตรง ทั้งดาบและปืน ฉันเพิ่งเคยใช้เมื่อไม่นานมานี้เอง… แต่กลับกันแล้ว!〞

ชึบ!

〝!!!〞

          พริบตาที่กรพูดแบบนั้น เขาก็หยุดอยู่กับที่พลางกำหมัดขวาและยื่นมันมาทางผู้ประกาศในทันทีแต่ก็ยังไม่ได้เข้าไปโจมตีแต่อย่างใดเพราะเธอยังคงระวังตัวแจ ผู้ประกาศเองก็ยื่นลูกแก้วที่อยู่บนคฑาขึ้นมาแล้วชี้ไปทางกรในทันทีเช่นเดียวกัน

〝หมัดหน่ะ มันถนัดกว่ากันเยอะ!〞

〝……แปลก! ทั้งที่ดูจากภายนอกแล้ว นายน่าจะเป็นพวกเลือกที่จะหนีมากกว่าสู้แท้ๆ〞

〝เรื่องนั้นไม่ปฎิเสธ ถึงเห็นตัวฉันแบบนี้ก็เถอะนะ… แต่เมื่อก่อนฉันคนนี้หน่ะ เคยถูกเรียกว่า『ยักษ์สวมฮู้ด』เลยเชียวนะ〞

〝หืม! ก็ฟังดูดีนี่นา… ว่าแต่ว่า——〞

ก๊อง!

          จากนั้นสาวแว่นผู้ประกาศก็กลับเอาปลายไม้เท้าเคาะกับพื้นอย่างแรงจนมันตั้งฉากกับพื้น กรก็ตอบสนองด้วยการยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาตั้งการ์ดแล้วกำหมัดทั้งสองไว้แน่นราวกับนักมวยอาชีพ แล้วผู้ประกาศสาวที่ทิ้งช่วงคำพูดของตัวเองไปก็ดันแว่นตาขึ้นอีกครั้งพร้อมกับส่งสายตาเฉียบคมไปยังกร ก่อนที่จะพูดสิ่งที่ทำให้กรตกตะลึงอย่างที่สุดออกมา

〝นั่นเป็นเรื่องตอนที่อยู่โลกนี้หรือว่าเป็นเรื่องตอนที่อยู่ที่โลกเดิม… ที่『ดาวโลก』ของนายนั่นกันหล่ะ?〞

〝!!!!!!!!!!〞

โลกเหรอ? บ้าหน่ะ!!!  นี่มันบ้าชัดๆ!!!!

ถึงจะรู้ว่ามาจากต่างโลก แต่รู้ได้ยังไงกันว่ามาจากที่ไหนหน่ะ หา!!!?

ไม่สิ! เดิมทีไม่น่าจะรู้ด้วยซ้ำว่าเรามาจากต่างโลก แล้วทำไม!!!

〝นี่เธอ!!! ทำไมถึง——〞

〝มีช่องว่าง!!!〞

〝กร!!!!!〞

ฟิ้ว!!!!

ตู้ม!!!!

          ทันทีที่เธอพูดออกไปแบบนั้น ร่างของกรก็กระตุกและสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ผู้ประกาศคนนี้จึงไม่ปล่อยโอกาสที่กรหวั่นไหวนี้หลุดมือ พริบตาที่เธอตะโกนแบบนั้นดังลั่น ก็มีศรแสงสีขาวพวยพุ่งออกมาจากเงามืดของกำแพง จำนวน 5 ดอก พุ่งมายังจุดที่กรยืนอยู่อย่างรวดเร็ว มีอาเองก็ยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและตะโกนเรียกกรจากข้างบนเช่นกัน แต่ก็สายไปเสียแล้ว พอศรแสงทั้งหมดกระทบเข้ากับตัวของกรโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ก็ได้เกิดเสียงระเบิดขึ้นจนดังลั่นไปทั่วลานประลองเลยทีเดียว

〝จนได้สินะ! ขี้โกงนี่หว่าเธอหน่ะ〞

〝!!!!!〞

          และทันทีที่ฝุ่นควันจางหายไป ก็ปรากฏภาพของกรที่ทั่วทั้งร่างถูกห่อหุ้มไปด้วยออร่าสีขาว พร้อมทั้งสร้างโล่สีขาวบริสุทธิ์ประดับด้วยลวดลายอันสง่างามทั้ง 2 อันไว้ได้ทันเวลาพอดี นั่นเลยทำให้การโจมตีด้วยศรแสงทั้งหมดปักเข้าที่โล่ของเขา และพอกรสั่ง โล่และศรทั้งหมดก็จางหายไปในทันที พอมีอาที่นั่งอยู่บนนั้นเห็นว่ากรยังปลอดภัยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและนั่งลงบนอัฒจันทร์เช่นเดิม

〝ขี้โกงงั้นเหรอ! พูดออกมาได้นะ ทั้งที่นายเองก็รอจังหวะแบบเดียวกันแท้ๆ!〞

〝กะแล้วเชียว เธอเองก็เหมือนกันสินะ?〞

〝เพราะงั้นคงมัวแต่ดูท่าทีกันไม่ได้แล้วหล่ะ!〞

          ทันทีที่เธอพูดแบบนั้น ด้านหลังของเธอก็เกิดวงเวทย์ขนาดเท่าลูกบอลแบนๆขึ้นมากกว่า 50 จุด แล้วจากนั้นก็มีศรสีต่างๆมากมายออกมาจากจากวงเวทย์นั่นโดยโผล่มาแค่ส่วนปลายเท่านั้น จากนั้นคฑาเวทย์ของเธอก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าเธอโดยที่เธอไม่ได้สัมผัส ก่อนที่ผู้ประกาศสาวคนนี้ก็ยืนกอดอกและวางท่าราวกับราชาที่ไหนซักแห่งพลางหัวเราะ หึหึ และยิ้มที่ริมฝีปากเล็กน้อยราวกับจะเย้ยหยันตัวกร ก่อนที่จะพูดประโยคต่อไปออกมาและทำให้กรตกใจแบบสุดๆอีกครั้งหนึ่ง…

〝รับไปซะ นี่คือ โฮกุ ระดับต่อต้านศัตรู เกทออฟบาบิ*(ตื้ด!) ยังไงหล่ะ!!!〞

〝หา!!! วะ ว่าไงนะ!!!〞

ฟิ้ว!  ฟิ้ว!  ฟิ้ว!  ฟิ้ว!  ฟิ้ว!  ฟิ้ว! 

ตู้ม!!!  ตู้ม!!!  ตู้ม!!!  ตู้ม!!! 

          แล้วจากนั้นลูกศรจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากวงเวทย์เหล่านั้นพุ่งมายังจุดที่กรยืนอยู่ โดยไม่สนกรที่อยู่ในสถานะตกตะลึงแบบสุดๆเลยซักนิด เพราะผู้ประกาศคนนี้ดันพูดประโยคที่อยู่ในอนิเมะ(และผู้อ่านน่าจะทุกท่าน)ที่เขารู้จักออกมา แต่ถึงแบบนั้นกรก็ยังคงวิ่งซิกแซกไปมาเพื่อหลบศรสีต่างๆได้หมดโดยไม่เฉียดตัวเขาเลยซักดอกเดียว

เฮ้ยๆ! นี่ยังเงิบกันไม่พออีกงั้นเหรอ?

นี่รู้จักโลกเดิมของเรายังไม่พอ… แถมยัยนี่ยังรู้จักอนิเมะอีก!!! 

แล้วทำไมต้องเป็น เฟท*(ตื้ด!)ไนท์ ด้วยหล่ะฟ่ะ! นึกว่าป๋ากิลมาเองซะอีก!!!

แหมๆ แต่เราดันรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนคุยซะงั้นอ่ะ… ไอ้เรานี่ก็แปลกดีเนอะ!?

ไม่สิ! เกือบหลงประเด็นไปอีกแล้ว

ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วยัยนี่… ไม่ได้ร่ายเวทย์หรือพูดชื่อเวทย์ก่อนโจมตีเลยไม่ใช่รึไงกัน?

〝เฮ้ย! เธอหน่ะ ทำไมถึงใช้เวทย์ได้โดยที่ไม่ต้องพูดชื่อกันฟ่ะ! ไม่สิ… แล้วรู้เรื่องโลกเดิมของฉันได้ยังไงกันหา!〞

〝โง่รึเปล่าห๊ะ นายหน่ะ! คนที่พล่ามเรื่องพลังของตัวเองให้ศัตรูฟังหน่ะ มีแต่ตัวร้ากากๆยกับพระเอกโง่ๆในอนิเมะกับมังงะเท่านั้นแหล่ะ!〞

〝เกรียนโคตรเลยเธอ!!!〞

ชัดเลย! นอกจากจะรู้จักโลกเดิมแล้ว ยังรู้จักวัฒนธรรมจากโลกเดิม——

ว่าแต่… ทำไมถึงพูดแต่เรื่องอนิเมะกันล่ะฟ่ะ พูดเรื่องอื่นไม่เป็นรึไงเฮ้ย!

〝อ้าวๆ! เสียสมาธิอีกแล้วนะนายหน่ะ〞

〝อะ อะไรอีกฟ่ะเนี่ย!〞

          พริบตาที่คุณผู้ประกาศพูดแบบนั้นออกมาด้วยเสียงเรียบๆ ก็เกิดวงเวทย์ขนาดใหญ่กว่าตัวของเธอ และใหญ่กว่ากำแพงที่อยู่ข้างหลังเธอไปอีกขึ้นมา 2 อันทางซ้ายและขวาของเธอ แล้วจากนั้นก็วัตถุปริศนาทรงกรวยขนาดใหญ่ก็ได้โผล่พ้นวงเวทย์ออกมา แล้วพอมันออกมาได้ราวๆครึ่งหนึ่งของทั้งหมด กรก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคือ สว่านสีดำสนิทนั่นเอง

〝ดูให้ดีหล่ะ! นี่หน่ะ คือสว่านที่จะทะลวงไปให้ถึงสวรรค์เลยเชียวนะ!〞

〝ว่าไงนะ!!! นี่เธอ! เป็น*(ตื้ด!)มอนนักขุด รึไงกัน!!!!〞

〝ไปหล่ะนะลูกพี่!〞

〝ใครเป็นลูกพี่หล่อนกันฟ่ะ!!!〞

〝*(ตื้ด!)ก้าาาาาาา!!!! ดริลลลลล!!!! เบรค!!!!————〞

〝อย่าพูดแบบนั้นด้วยน้ำเสียงจริงจังสิฟ่ะ!!!! แล้วทำไมต้องลากเสียงด้วยหล่ะเฟ้ยเฮ้ยยยย!!!!〞

ยัยนี่คิดจะยั่วโมโหกันอย่างงั้นรึไง? ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ!!!

บ้าชิบ! นี่เราถูกอีกฝ่ายคุมไว้อยู่หมัดเลยไม่ใช่เรอะ!

.

.

〝อย่าคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ตัวเองหวังหมดสิเฟ้ย!!!〞

ให้มันน้อยๆหน่อยยัยแว่น!!! ขอฉันเอาคืนบ้างก็แล้วกัน!!!

          ในขณะที่กรพูดแบบนั้น สว่านขนาดใหญ่ทั้งสองก็เจาะผ่านอากาศรอบๆและตรงมายังจุดที่กรอยู่อย่างรวดเร็วราวกับไม่สนใจคำพูดของกรเลยซักนิด แต่กรก็ไม่ได้หวั่นไหวกับมันเลยซักนิด ก่อนที่เขาจะหายใจเข้าและออกแรงๆอีกครั้งหนึ่งเพื่อนำความเยือกเย็นก่อนหน้านี้กลับมา จากนั้นก็ถีบพื้นจนแตกระแหงไปทั่ว และพุ่งตัวเป็นเส้นตรงเข้าไปหายอดแหลมของสว่านทั้งสองในทันทีแล้วจากนั้น

〝【วันพ้านนนนช์!!!! 】【วันพ้านนนนช์!!!!】

ตู้ม!!!  ตู้ม!!! 

          ทันทีที่หมัดทั้งสองของกรสัมผัสเข้ากับปลายของจุดยอดของสว่าน มันก็เกิดรอยปริแตกจากจุดนั้นไปจนถึงส่วนปลาย แต่กลับไม่ได้แตกสลายและกระเด็นกลับไปในทันที และเพราะความเร็วที่ลดลงนั่นเลยทำให้กรจับปลายของสว่านไว้ได้ทั้งสองอัน

〝เอาคืนไปซะ!!!!!!〞

ฟิ้ว!!!  ฟิ้ว!!! 

ตู้ม!!! 

          กรจึงไม่รอช้าที่จะเขวี้ยงสว่านที่อยู่ในมือของตัวเองทั้งสองอันกลับไปยังจุดที่ผู้ประกาศสาวคนนั้นยืนอยู่ในทันที ทั้งที่ตัวเองยังคงลอยอยู่กลางอากาศ  แล้วในตอนที่กรลงมายังพื้นและตั้งท่าเตรียมตั้งรับไว้ก่อนแล้วนั่น กลุ่มควันที่ปกคลุมจุดตกที่เขาขว้างสว่านทั้งสองไปก็หายไปพอดิบพอดี

〝อย่างที่คิด! เธอหน่ะ มีบาเรียอยู่จริงๆด้วยสินะ แถมดูเหมือนจะไม่ได้มีไว้เพื่อป้องกันอย่างเดียวซะด้วยสิ〞

          แล้วภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของกรก็คือ คุณผู้ประกาศสาวที่ยืนอยู่บนพื้นดินตรงกลางระหว่างซากสว่านของเธอเองโดยที่รอบๆเธอเหมือนกับมีโดมรูปทรงกลมสีฟ้าใสครอบเธอเอาไว้อยู่ เพียงแต่ที่น่าตกใจก็คือ สว่านที่อยู่ข้างๆเธอ บริเวณที่มันสัมผัสกับทรงกลมที่กรเรียกว่า บาเรีย ของเธอเข้า เนื้องานบริเวณของตัวสว่านนั้นก็อันตรธานหายไปทั้งอย่างงั้นราวกับมันไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกเลยทีเดียว

〝อย่างที่คิดงั้นเหรอ? แสดงว่ารู้อยู่ก่อนแล้วเลยไม่โจมตีเข้ามาหล่ะสินะ〞

〝ก็พอรู้แค่ว่าเธอมีของไว้ป้องกันอยู่บ้างเท่านั้นแหล่ะ… แต่คิดไม่ถึงว่าจะขนาดนี้〞

แย่เลยแฮะ! อีแบบนี้จะโจมตีผ่านบาเรียนั่นยังไงหล่ะ

การโจมตีทุกอย่างหายไปหมด! ถึงจะไม่รู้หลักการแต่เราก็ไม่ควรจะเสี่ยง

ยิ่งสู้ก็ยิ่งหินขึ้นเรื่อยๆเลยแฮะ! อีแบบนี้ต่อให้ใช้ดาบรึปืนก็ฝ่าไม่ได้เลยมั้ง——

〝แล้วจะเอาไงดีหล่ะ? ถ้าไม่เข้ามาก็ไม่ชนะหรอกนะ〞

〝อ๋อเหรอ?〞

วูม!!! 

          ทันทีที่กรพูดประชดคำสบประมาทของคุณผู้ประกาศสาวกลับไป บริเวณหน้าผากของเขาก็มีดวงตาสีทองอร่ามโผล่นูนขึ้นมา และเบิกเนตรออกมาจนเห็นสัญลักษณ์ของนาฬิกาแบบเข็มอยู่ตรงกลางอันเป็นตัวบอกว่า กรได้เปิดใช้สกิลเนตรทวิกาล『เอ็กซ์ตร้าโหมด』ไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

แกร็ก!

          จากนั้นกรก็ทำการเรียก『Taurus』 ปืนคู่ใจของตัวเองมาอยู่ในมือขวาแล้วทำการเปลี่ยนกรัสุนให้เป็นแบบหัวกลมมนเพื่อเน้นการเจาะทะลุ เพราะหากใช้กระสุนแบบหัวรู หากมันเข้ากระทบกับตัวเธอเข้ามีหวังเธอคนนั้นได้กลายเป็นเศษเนื้อแบบเดียวกับมอนสเตอร์อย่างแน่นอน แต่หากใช้แบบหัวกลมมนก็จะสร้างความเสียหายได้น้อยกว่า แต่ถึงแบบนั้นก็ทำให้เธอหมดสภาพได้เหมือนกัน ส่วนที่กรไม่คิดฆ่าเธอไปเลยนั้นก็เป็นเพราะเขาต้องการเค้นถามข้อมูลเรื่องโลกเดิมของตัวเองนั่นแหล่ะ เขาจึงต้องทำให้เธอขยับไม่ได้เสียก่อน แล้วหลังจบศึกและถามตอบกันแล้วจึงค่อยว่ากันอีกที

〝【ไดเรคชั่นเลส!!!!】

เปรี้ยง!!! 

          แล้วพอกรทำการเปลี่ยนกระสุนเรียบร้อย ก็ทำการเพิ่มเวทย์อีกแบบหนึ่งใส่บริเวณปากกระบอกปืนของตัวเองก่อนที่หันปากกระบอกปืนลงพื้น 45 องศาไปทางจุดที่ผู้ประกาศสาวยืนอยู่ในโดม แล้วจากนั้นก็ลั่นไกออกไปหนึ่งนัด แต่ดูเหมือนเรื่องปืนเองก็อยู่ในขอบเขตความรู้ของเธอคนนี้เหมือนกัน เพราะเธอคนนี้ไม่มีท่าทีแปลกใจและตกใจเสียงปืนเลยซักนิด

แกร็กๆ!

〝!!!!!!〞

          แล้วจากนั้นบริเวณเท้าของสาวผู้ประกาศก็สั่นเล็กน้อย เป็นเฉพาะจุดเล็กเท่านั้น จากนั้นเพียงเสี้ยววินาที ก็มีวัตถุเล็กๆพุ่งออกมาจากพื้นดินและพุ่งตรงเข้ามาบริเวณหัวไหล่ซ้ายและต้นขาขวาของเธออย่างรวดเร็ว และไม่ต้องสงสัย เพราะวัตถุที่พุ่งเข้าหาเธออยู่นี้ก็คือกระสุนของกรเองนั่นแหล่ะ

          ใช่แล้ว จากที่ดูมันเหมือนกับว่าลูกกระสุนที่กรยิงนั้นมุดดินลงไป และทะลุเข้ามาทางด้านล่างมายังสาวแว่นผู้ประกาศราวกับตัวตุ่นเลยทีเดียว นั่นเพราะเวทย์ที่กรใช้ก่อนหน้านี้ เป็นเวทย์ไร้ธาตุที่มีผลทำให้วัตุที่ถูกร่ายใส่มีทิศทางดั้งเดิมไม่แน่นอนและสามารถควบคุมทิศทางของมันได้ด้วยความคิดอย่างอิสระ นั่นจึงทำให้กรสามารถควบคุมลูกกระสุนทั้งสองผ่านเข้าไปทางใต้ดินได้แนอย่างดีเลยนั่นเอง

อย่างที่คิดเลย!!! บริเวณส่วนเท้าไม่ได้มีบาเรียคลุมอยู่ ก็เพราะมันคลุมเฉพาะส่วนที่พ้นพื้นออกมานี่นา

รู้สึกว่าเราจะชนะพนันหล่ะสินะ!  ดีหล่ะ แบบนี้ชนะแน่!

ถึงจะคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อย แต่ยังไงยัยนี่ก็หลบไม่พ้นแน่นอน

ก็เธอเป็นจอมเวทย์ระยะกลางถึงไกลนี่นา ไม่ใช่สายต่อสู้ประชิดตัวซะหน่อย การโจมตีแบบสายฟ้าแลบระยะเผาขนอย่างรวดเร็วแบบนี้จะไปหลบได้ยัง——

ซู่ม!

〝!!!!!!〞

          เพียงแต่เสียงที่กรได้ยินและสิ่งที่กรเห็นนั้น กลับเป็นกระสุนของตัวเองที่พุ่งขึ้นจากพื้นไปกระทบเข้ากับบาเรียจากภายในแล้วก็หายไปทั้งอย่างงั้นแทนเสียอย่างงั้น และแน่นอนว่าเหตุผลที่เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ก็คือ…

〝บ้าหน่ะ!!!!!!〞

หลบได้!!! หลบได้เฉยเลย!!! ได้ยังไงฟ่ะ!!!

เมื่อกี้ใช้เนตรมองอนาคตในอีก 3 วินาทีข้างหน้าไปแล้วแท้ๆ แต่ตำแหน่งของเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยซักนิดเดียว ต่อให้ผ่านไป 3 วินาที เธอก็ยังอยู่จุดที่ลูกกระสุนผ่านอย่างแน่นอน

〝ชิ! เวรเอ้ย!!!〞

เปรี้ยง!!!  เปรี้ยง!!!   เปรี้ยง!!!  เปรี้ยง!!!  เปรี้ยง!!! 

          แล้วจากนั้น กรก็ทำการกระหน่ำยิงกระสุนออกจากปากกระบอกปืนเรื่อยๆใสพื้นจุดที่เคยยิงใส่จนกระทั่งซองกระสุนหมดเลยทีเดียว

          แล้วพอกระสุนผ่านทะลุพื้นขึ้นมา กรก็ทำการควบคุมกระสุนทั้งหมดให้พุ่งชนเธอจากทิศทางต่างๆ แต่เธอก็กลับเอี้ยวตัวหลบได้ทั้งหมด ทั้งที่กรใช้เนตรในการมองอนาคตควบคู่ไปด้วยแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถโจมตีเธอคนนี้ให้โดนได้เลยซักนิด

          แต่กรก็ไม่ได้ปลอยให้กระสุนทั้งหมดกระทบเข้ากับบาเรีย ทันทีที่กระสุนพุ่งผ่านตัวของสาวแว่นคนนี้ไปโดยที่เธอหลบมันได้ กรก็จะเปลี่ยนทิศทางกลับมายังตัวเธอเรื่อยๆ แต่ก็เหมือนเดิม เธอสามารถหลบมันได้ทั้งหมดด้วยการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุดเหมือนกับตอนที่กร….

นี่มัน… ไอ้เรื่องที่สามารถหลบสิ่งที่มีความเร็วเหนือประสาทสัมผัสของตัวเองได้ทั้งหมดอย่างแม่นยำ

เรื่องเป็นไปไม่ได้ที่มักเกิดขึ้นกับตัวเราอยู่เสมอๆ ในตอนที่คับขัน…

ไม่มีทาง!!! เป็นไปไม่ได้!!!

แต่ไม่สิ! ถึงโอกาสจะน้อย แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันก็สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ไม่ใช่รึไง?

แล้วถ้าเป็นงั้นก็สามารถอธิบายเรื่องที่อ่านอนาคตไม่ออกได้อีกด้วย… ก็ถ้าเปลี่ยนอนาคตในอีก 1 วินาทีข้างหน้าได้หล่ะก็ เราที่มองล่วงหน้าไป 3 วินาทีก็ประมาทไปจริงๆ!

ให้ตายสิ… เพราะกลัวเกินไปนั่นแหล่ะไอ้บ้าเอ้ย

〝หึหึ!!!〞

〝!!!〞

          ในระหว่างที่กรกำลังครุ่นคิดถึงความผิดแปลกที่อยู่ตรงหน้า ผู้ประกาศสาวก็หันหน้ามายิ้มให้กรด้วยสีหน้าเยาะเย้ย และหยอกล้อเขาเล่นโดยฉีกยิ้มออกมาเสียจนกว้าง ทั้งที่กำลังหลบห่ากระสุนอยู่ในบาเรียของตัวเองได้อย่างสบายๆ นั่นจึงทำให้กรเข้าใจได้ถึงความลับในพลังของเธอได้ในที่สุด นั่นเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา มันก็คือสิ่งที่กรทำมาตลอดด้วยพลังพิเศษเฉพาะตัวของเขานั่นเอง

ชิ! ไม่ผิดแน่แล้วหล่ะแบบนี้!!!

ถึงจะยอมรับไม่ได้ ก็คงมีแต่ต้องยอมรับเท่านั้นแล้ว!!!

คนที่ทำเรื่องอย่าง การก้าวข้ามความสามารถของคนปกติได้อย่างไม่ยากเย็นโดยไม่ใช้เวทย์มนต์หรือสกิลไหนๆ

แถมยังอยู่ในระดับที่เรียกว่าเหนือมนุษย์…. มันเหมือนกับความสามารถที่ติดตัวมาแต่เกิดของเราไม่มีผิด…

ตัวเราที่มีความสามารถนั้นมั่นใจได้เลย…

เหมือนกับตอนที่เรา… หลบไอ้มอนสเตอร์เวรตะไลทั้ง 5 ตัวในตอนที่ไอ้เสือมันทิ้งเราไว้ไม่ผิด ทั้งที่สเตตัสห่างกันเกือบ 300 เท่า… ยัยนี่เองก็หลบกระสุนที่ประชิดตัวแถมเร็วเกือบ 30 มัคได้เหมือนกัน!

สัมผัสถึงการใช้เวทย์ของยัยนี่นอกเหนือจากบาเรียนั่นไม่ได้เลย… แสดงว่านั่นเป็นการหลบโดยใช้ร่างกายตัวเองล้วนๆเลย…

ไม่ผิดแน่ๆ… ยัยนี่หน่ะ… เหมือนกันกับตัวเรา…

.

.

.

…..มีความสามารถ『สุดยอดการประมวลผล』เหมือนกัน!

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 225 : ความสำเร็จเกิดจากการยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง (จบบทที่ 4)

    ช่วงหลังมานี้... หลังจากที่เหล่าภรรยาของฉันได้รู้ทุกอย่างและยอมรับสิ่งที่ฉันเป็นหรือเจอมา จำนวนครั้งที่ฝันร้ายก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดใช่ มันไม่ได้หายไปหรอก... ฉันรู้ตัวดี และสัมผัสได้ก็เพราะความกังวลยังมีอยู่นั่นแหละนะแต่ก็ต้องขอบคุณความอ่อนโยนของทุกคน มันถึงไม่ได้เลวร้ายเหมือนเมื่อก่อนเพราะมีพวกเธออยู่เคียงข้าง ฉันเลยไม่ได้กลัวจนสติแตกเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่... ต่อให้ฝันร้ายถึง ‘เรื่องในอดีต’ ฉันก็ไม่ได้กลัวหรือว่าเศร้าอีกแล้วเพราะงั้น... ความรู้สึกปั่นป่วนในอกนี่ จึงใกล้เคียงกับความกังวลมากกว่า กรรู้สึกชื่นชมความใจเย็นของตัวเอง มั่นใจว่าอย่างน้อยมันก็ดีขึ้นกว่าก่อนแน่ ไม่อย่างนั้น... ภาพของชายหาดที่เต็มไปด้วยซากศพรอบกายของเขา คงทำเอารู้สึกผิดจนทรมานตัวสั่นไปแล้วเป็นฝันร้ายที่ไร้รสนิยมซะจริง กรรู้สึกขนลุกจนหน้าเหยเกแม้จะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแค่ความคิด ด้วย ‘สุดยอดการประมวลผล’ มันไม่ยากอยู่แล้วที่จะรู้ตัวขณะหลับ ...มันสุดยอดจนถึงกับรู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นสาเหตุของการฝัน ชายหาดนี้ไม่ใช่ที่ที่กรรู้จัก แต่จำนวนศพที่มากขนาดนี้ เดาได้เลยว

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 224 : ผีเสื้อกระพือปีก สะเทือนถึงผืนฟ้าแลสะท้านถึงอเวจี

    ————สามวันต่อมา, ทวีปอีเดน - ใจกลางเมืองหลวงแอสการ์ด ใจกลางทวีปอีเดนนั้น ปกติแล้วคือสวนอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่าเทพผู้ปกครอง ซึ่งมีไว้ใช้เพื่อกำหนดทิศทางของสรวงสวรรค์หรือหมายรวมถึงโลกมนุษย์เบื้องล่าง ถนนสายหลักของตระกูลทั้งเจ็ดล้วนแล้วแต่เข้ามาบรรจบ ณ ที่สวนพฤกษานี้ เมื่อไรก็ตามที่มีหัวหน้าตระกูลมาเยือน ทางเข้าของสวนจากถนนเส้นนั้นจะมีมือขวาข้ารับใช้เฝ้าถนนเส้นนั้นไว้เป็นปกติ ...ทว่าในวันนี้กลับแตกต่างเป็นพิเศษ เพราะจำนวนข้ารับใช้ของทั้งหกตระกูลที่มานั้นมีจำนวนกว่าร้อยคน แถมทางเข้าสวนจากถนนแต่ละเส้นยังติดธงประดับตราประจำตระกูลอีก ซ้ำร้าย... ธงที่ว่ายังเป็นลักษณะเดียวกับที่ใช้ในสงคราม มันเคยถูกใช้ทั้งกับจอมมารในอดีตกาลหรือกับราชาปีศาจในปัจจุบัน นั่นแลคือสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ โดยเฉพาะใจกลางสวนพฤกษา ที่ตั้งของโต๊ะกลมทำจากหินอ่อนซึ่งเป็นสถานที่ประชุมของเหล่าหัวหน้าตระกูลยกเว้นกาบริเอล สีหน้าทุกคนนั้นอยู่ไม่สุข ทั้งกังวลและโกรธเกรี้ยวบ้าง สับสนบ้าง ...และสาเหตุของเรื่องนั้น ก็คือกระดาษแผ่นน

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 223 : ความหวังและสิ้นหวัง คือสองด้านของเหรียญที่ชื่อศรัทธา

    หลังจากที่อัพเดทข้อมูลกับเหล่าสหายภาคีโต๊ะจัตุรัส กรก็ต้องกลับไปแต่งชุดเพื่อเข้าพิธีรับมอบรางวัลต่อ เพราะตัวเอกของงานคือพวกกรทั้ง 4 ฝ่าย และมีเหล่าราชาจากอาณาจักรในสังกัดสภาโลกเป็นผู้มอบรางวัล นั่นหมายความว่าเหล่าภรรยาของกรที่เป็นกำลังหลักในการปราบอาร์เคมีดีสก็ต้องร่วมงานรับรางวัลด้วย ไม่สิ... ‘ดาร์คไนท์ซิริอุส’ ที่เป็นกำลังหลักนี่แหละคือตัวเอกหลักของงาน ไม่ร่วมเห็นทีคงจะไม่ได้เพราะงั้นพวกเราก็เลยได้ห้อง VIP ไว้แต่งตัว ต้องขอบคุณแอนดรูว์เลยแหละแล้วระหว่างที่รอสาว ๆ เขาแต่งองค์ทรงเครื่องกัน ฉันก็ไปอัพเดทข้อมูลรอถึงจริง ๆ จะอยู่ในห้องตอนสาว ๆ แต่งตัวได้แบบไม่เป็นไรก็เถอะ (ก็เห็นกันทุกซอกทุกมุมแล้วนี่นา)แต่ในแง่ของความรู้สึก... ขืนจ้องของสวย ๆ งาม ๆ ขนาดนั้นนานเข้า พูดตามตรงว่ามันจะของขึ้นจนไม่เป็นอันทำงานเอาน่ะสิฉันก็รู้นิสัยตัวเองดีอ่ะนะ เลยขอป้องกันไว้ก่อนดีกว่า กรอมยิ้มแห้งกับขีดจำกัดของตัวเองเหมือนทำใจ ก่อนเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เขากับสาว ๆ เช่าพัก“อ๊ะ! กรกลับมาแล้ว!”“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมกร?” มีอากับรินเดินเข้ามารับกรก่อนใคร

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 222 : แก้โจทย์ได้เมื่อใด ปัญหาใหม่ย่อมตามมาเสมอ

    หลังจากที่เมอร์ลินบอกว่าเครื่องเคลื่อนย้ายออกแบบเสร็จแล้ว พวกเราก็ทำตัวเอื่อยเฉื่อยกันอีกแปปนึงก่อนจะกลับบ้านพวกเราแจ้งข่าวเรื่องนี้กับทุกคน โดยเฉพาะรินกับอลิซพวกเธอดีใจเข้ามากอดแล้วก็ร้องไห้โฮใหญ่เลยแต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก ก็จากบ้านมากตั้ง 5 เดือนแล้วนี่นาไหนจะทั้งคุณลุง คุณน้าที่รออยู่ที่บ้าน... ชีวิตประจำวันที่ผ่านมาตลอด 17 ปีมันทดแทน 5 เดือนไม่ได้หรอก (ถ้าไม่นับเรื่องที่ได้คบกันล่ะนะ)เพราะงั้นจะอยากกลับไปก็คงไม่แปลกเราเองก็เถอะ... ถึงกลับบ้านไปจะไม่มีใครอยู่แล้ว แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยความทรงจำที่ทำให้เราเป็นอย่างทุกวันนี้เป็นสถานที่ให้กำเนิดความฝันของเรา ...และเราก็ไม่ได้รังเกียจมันอีกแล้วด้วยเพราะงั้นเราจะกลับไปให้ได้! เครื่องมือมีพร้อมหมดแล้วที่เหลือก็มีแต่การจัดแจงสถานการณ์ ให้กลับไปได้โดยที่โลกเดิมไม่มีปัญหา...แต่เรื่องนั้นแหละที่ยากที่สุด❖❖❖❖❖————สองวันต่อมา, โรงแรมเดอะกลอรี่ ณ สหพันธ์แห่งความรุ่งโรจน์ หลังจากวันหยุดของกรและครอบครัวสิ้นสุด แผนการขั้นถัดไปของภาคีโต๊ะจัตุรัสก็เสร็จสมบูรณ์ด้วย ...และก็เป็นการเริ่มแผนด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนั้น ก

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 221 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนจบ (Mia and Merlin have a Date)

    “โดนแกล้งอีกแล้วอ่า!”“น่า ๆ ไม่เป็นไรนะกร”“แล้วจะโทษใครได้ล่ะหืม?” ได้ยินแฟนหนุ่มเดินบ่นกลางป่า มีอากับเมอร์ลินจึงได้ลูบหัวปลอบใจไปคนละกรุบ ...ถึงต้นเหตุจะเป็นเพราะพวกเธออยู่แล้วก็เถอะว่าแต่ นี่เดจาวูป่ะเนี่ย?ไหงรู้สึกเหมือนเรื่องคล้าย ๆ กันเพิ่งเกิดขึ้นเลย“!!!?” ระหว่างที่คิดอะไรไร้สาระอยู่ มีอากับเมอร์ลินก็เข้ามาควงแขนกรเหมือนกับตอนที่มาถึง กรเลยคิดว่า ‘โอเค ช่างมันละกัน’ แล้วหันไปสนใจกับการเที่ยวลมชมวิวกับภรรยาทั้งสองดีกว่า จากก่อนหน้านี้... หลังจากพักผ่อนในตึกกลางสำหรับติดต่อ พวกกรก็ออกเดินเท้าไปตามทางที่ทำไว้ เห็นว่าหากเดินตามทางนี้จะสามารถชมวิวได้ครบทุกแห่งและวนไปยังกระท่อมที่จองไว้ได้พอดี“กรดูสิ! มีแม่น้ำด้วย!”“ตื้นพอให้ลงไปเล่นได้ด้วยแฮะ” มีอากับเมอร์ลินดูจะสนใจแม่น้ำทางขวาที่ทั้งสามกำลังเดินเลียบผ่าน ความใสของมันทำให้เห็นดินและกรวดก้นแม่น้ำได้ แถมความสูงของมันยังแค่ครึ่งแข้งเอง เรียกว่าเหมาะกับการเล่นสุด ๆ มีอากับเมอร์ลินจึงไม่รอช้า พวกเธอถอดรองเท้าแล้วจูงมือกรลงไปในแม่น้ำ“ไปกันเถอะกร! น่า

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 220 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนต้น (Mia and Merlin have a Date)

    หลังจากถ่ายรูปกันอย่างหวานแหวว เวลาก็ยังเหลืออีกนิดหน่อย พวกเราเลยจะไปเดินเล่นกันต่อ...และแน่นอน คุณรินกับอลิซก็ยังคงตามแกล้งฉันเหมือนเดิมช่างใจร้ายเหลือร้าย ตั้งแต่ในโรงหนังแล้วนะ!มาปลุกเร้ากันขนาดนี้ในสถานการณ์ที่ทำได้แค่อดทน นี่มันการทรมานประเภทไหนกันเนี่ย!?เหมือนเอาเนื้อสเต็ก A5 มาจ่อลิ้นแต่ไม่ยอมให้กินเลยนะเฮ้ย!จะทั้งชาลอตกับซาช่าที่ขยันเซอร์วิสให้ตอนช่วงเช้า หรือรินกับอลิซที่มาแกล้งกันทั้งช่วงบ่ายฉันเลยต้องกัดฟันทนน้ำตาไหลเป็นโลหิตไปจนถึงตอนกลางคืนโน่นเลย!พอถึงเวลาหม่ำ ๆ ฉันก็เลยล้างแค้นด้วยการกินพวกเธอเกือบทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับได้นอนทำกันยังกับเป็นกระต่ายเลยเชียวล่ะ!...ก็ พอมานึกดู ฉันอาจจะหนักมือไปหน่อยแต่พวกเธอมาแกล้งฉันก่อนนี่หว่า! จะโดนเอาคืนมันก็ไม่แปลกนี่นา!!!เหมือนที่เคยมีใครบางคนพูดไว้นั่นแหละ‘ผู้ที่จะเขมือบได้ก็มีแต่คนที่เตรียมใจจะโดนเขมือบเท่านั้น’ อื้ม ๆ! กรตื่นเช้ามาก็พยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองใหญ่ทั้งที่ไม่จำเป็น แต่ก็ต้องขอบคุณศึกอันหนักหน่วงเมื่อวานด้วย ความงุ่นง่านในตัวกรเลยลดลงไปมากจนระบบความคิดปกติเริ่มกลับมาทำงาน เขา

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status