แชร์

ตอนที่ 34 :  ตัดสินกับพวกพ้อง?

ผู้เขียน: หัตถ์อนันต์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-11 15:24:13

          หลังจากที่ทั้งสามคน อันประกอบไปด้วย กร มีอาและผู้ประกาศ ตกลงมาจากห้องบอสชั้นที่ 75 มาจนถึงชั้นที่ 100

          ตอนนี้ทั้งสามคนกำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบสุดๆ เพราะกำลังยืนเผชิญหน้ากับบอสประจำชั้นที่ 100 ซ้ำยังเป็นบอสที่แข็งแกร่งที่สุดในดันเจี้ยนแห่งนี้อย่างกะทันหันอีกด้วย ทั้งที่ร่างกายและจิตใจยังไม่ได้พักฟื้นจากศึกเมื่อ 10 นาทีก่อนเลยแท้ๆ

วูม!!!

          พื้นที่โดยรอบสว่างขึ้นอย่างกะทันหันด้วยแสงสีน้ำเงินทั่วทั้งห้อง จนสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมได้ทั้งหมด

          ห้องบอสในชั้นนี้ มีบริเวณกว้างขวางมากกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งมันคือความกว้างพอๆกับดันเจี้ยนชั้นเดียว กรจึงคาดว่าห้องบอสนี้น่าจะใช้หลักการเดียวกับห้องบอสในชั้นที่ 50

          พื้นของห้องถูกปูด้วยอิฐสีน้ำเงินเข้มวางสลับกันเหมือนกำแพงอิฐแดง ทั่วทั้งชั้นมีเสากรีกโรมันสีฟ้าขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เมตร ตั้งเรียงกันเหมือนตารางหมากรุก โดยเสาทุกต้นที่อยู่ใกล้ทั้งด้านซ้าย ขวา หน้าและหลังจะห่างกันประมาณ 100 เมตร เท่าๆกันทุกเสา เพดานทำจากหินอ่อน และเป็นแหล่งให้แสงสว่างแก่ชั้นนี้ไปในตัว ซึ่งแสงสว่างที่วาก็เป็นสีน้ำเงินอีกนั่นแหล่ะ นั่นจึงทำให้ทั่วทั้งบริเวณที่มองเห็นได้เต็มไปด้วยแสงสีน้ำเงินกระจายอยู่ทั่วทั้งชั้น

แกร็บๆ!!!  ตู้ม!!!

          เสียงของเสาหินที่พังทลายดังมาจากทางที่บอสของชั้นที่ 100 ปรากฏตัวออกมา มันใช้มือข้างซ้ายทั้ง 10 ข้างทาบกับเสาแล้วบีบด้วยแรงกายจนเสาต้นนั้นแหลกละเอียด แล้วเศษหินก็ตกกระแทกพื้นจนเกิดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งชั้น

          บอสที่ว่ามีขนาดสูงถึง 150 เมตร อย่างที่ว่าไป ว่ามันคือยักษ์ที่มีสีเขียว แต่งกายคล้ายกับนักแสดงโขน สวมหัวโขนของทศกัณฑ์ หากแต่ว่านั่นก็คือศีรษะของจริงไม่ใช่เครื่องแต่งกายสำหรับการแสดงแต่อย่างใด แต่จะต่างจากนักแสดงโขนก็ตรงที่ แขนทั้ง 20 ข้าง มีปลอกแขนเหล็กที่ดูภายนอกยังรู้ว่าหนา ครอบคลุมจากข้อมือไปจนถึงหัวไหล่ ส่วนข้อต่อก็ทำด้วยวัสดุคล้ายยางแต่ทนทานพอๆกับเหล็กกล้า แถมเครื่องแต่งกายช่วงล่าง ตั้งแต่กางเกงจนถึงข้อเท้าก็เป็นเกราะแบบยุคกลางจนดูขัดตาไม่ใช่น้อย จะมีก็แต่ ท่อนบนนั่นแหล่ะที่มีเพียงเครื่องประดับเล็กน้อยแขวนอยู่จนเห็นกล้ามเนื้อที่อัดแน่นของมันอย่างชัดเจน

บ้าชิบ! เวลาตั้งตัวไม่มีแล้ว แถมไม่มีเวทย์ที่ใช้กู้สถานการณ์เลยซักนิด!

ที่หลบก็มีแต่หลังเสา…. หรือจะกระโดดแล้วหนีขึ้นไปชั้นบน!?———

〖หึหึ〗

〝!!!!〞

          หลังจากที่มันทำลายเสาไปต้นนึงด้วยแรงบีบอย่างสบายๆ มันก็มองมาทางที่พวกกรยืนอยู่ และหัวเราะออกมาเบาๆราวกับจะเยาะเย้ย พลางฉีกยิ้มออกจนเห็นฟันทุกซี่ เสียจนดูน่าขนลุกไปพร้อมๆกันเลยทีเดียว

          ในขณะที่ยังคงสีหน้าหยอกล้อเล่นอยู่ ทศกัณฑ์ก็ยื่นมือ 10 ข้างที่เหลือทางขวามาทางจุดที่ทั้งสามคนยืนอยู่อย่างช้าๆ ราวกับกำลังหยอกล้อกับแมลงหรือมดปลวกอยู่ยังไงอย่างงั้นเลย

〝มีอา! มาหลบหลังฉันเร็วเข้า!!!!〞

〝แต่ว่า!!!!———〞

          พอมือของทศกัณฑ์ยื่นเข้ามาใกล้มากขึ้น จนมีระยะห่างเพียง 10 เมตรเท่านั้น แต่ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬาร จึงดูเหมือนว่ามันใกล้แค่นิดเดียว แต่แม้กรจะสั่งออกไปแบบนั้น มีอาก็ไม่ได้เข้าไปหลบหลังเขาแต่อย่างใด ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเธอกำลังสับสนกับสถานการณ์แบบสุดๆนั่นแหล่ะ และก่อนที่สถานการณ์จะย่ำแย่ไปกว่านี้ ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังของกร ซึ่งคนๆนั้นก็คือ ผู้ประกาศนั่นเอง

〝ชิ! ช่วยไม่ได้...【ไพรเวทไดเมนชั่น•สต๊อป!!!!】

วูม!!!

          ทันทีที่เธอทำการประกาศใช้เวทย์ บรรยากาศบริเวณศูนย์กลางของเวทย์เช่นเธอก็บิดเบี้ยว และขยายตัวออกในเสี้ยววินาที แล้วเข้าครอบคลุมทั่วทั้งห้องบอส ผลลัพธ์ก็คือทุกๆอย่างตั้งแต่เสาหินที่กำลังแตกสลายและร่วงหล่นลงมายังพื้นตามแรงโน้มถ่วง ฝุ่นละอองที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศทั้งหมดอยู่ในสภาพหยุดนิ่งอย่างสิ้นเชิง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น แม้จะในระดับนาโนเมตรก็ตามที รวมถึงทศกัณฑ์ที่เป็นบอสประจำชั้นที่แข็งแกร่งที่สุดเองก็ไม่มีข้อยกเว้น จะมีก็แต่กร มีอาและผู้ประกาศเท่านั้นที่ยังคงขยับได้อยู่

ตุ๊บ!

〝มีอา!〞

          ทันทีที่สถานการณ์ตรงหน้าผ่อนคลายความตึงเครียดลง แม้จะชั่วคราวก็ตาม มีอาที่ยืนสั่นจนถึงเมื่อครู่ก็ล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกับพื้นในทันที กรที่เห็นแบบนั้นจึงรีบเข้าไปประคองเธอเช่นกัน

〝ขะ ขอโทษนะกร ฉัน———〞

〝ไม่เป็นไร! อย่าฝืนเลยนะมีอา〞

〝อะ อืม... ขอบคุณนะกร〞

          เพราะเห็นว่ามีอากำลังกังวล กรจึงวางมือบนหัวเธอและลูบไปมาเบาๆในทันที

          หลังจากที่มีอานั่งอยู่แบบนั้นพักนึงและกลับมาใจเย็นเหมือนเดิมแล้ว กรก็ถอนหายใจออกมาครั้งนึงเบาๆเพื่อปรับอารมณ์ จากนั้นก็ยันตัวขึ้นแล้วก็หันหลังไปพูดกับผู้ประกาศที่อยู่ข้างหลังตัวเองในทันที

〝ก่อนอื่นขอบคุณที่ช่วยนะคุณผู้ประกาศ... หรือฉันเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า?〞

〝ไม่ต้องห่วง… ฉันช่วยนายไว้แน่นอน〞

อัตราการเต้นของหัวใจยังปกติดี… สายตาโฟกัสปกติ กล้ามเนื้อมีอาการเกร็งเนื่องจากสถานการณ์ตรึงเครียดเมื่อกี้เท่านั้น...

ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงจริงๆสินะ โล่งอกไปที...

〝ขอโทษล่วงหน้านะถ้าเสียมารยาท… แต่เวทย์ของเธอปลอดภัยแน่ใช่ไหม?〞

〝โฮ่! คิดว่าฉันเป็นใครกันหล่ะ?〞

ยังจะมาเล่นมุขหน้าระรื่นอีก! แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน  ถ้าเธอยังใจเย็นขนาดนี้ ก็เป็นไปได้ว่าเวทย์ของเธอปลอดภัยจริงๆ 

〝จริงสิ! แล้วที่หยุดเวลาแบบนี้ จะทำดาเมจใส่บอสได้รึเปล่าหล่ะ?〞

〝น่าเสียดายที่ทำแบบนั้นไม่ได้... พอฉันคลายเวทย์ออก สภาพของเรารวมถึงสสารอย่างอื่นยกเว้นความทรงจำจะกลับไปอยู่ในสภาพเดิมก่อนที่จะใช้เวทย์นี้ แน่นอนว่าต่อให้รักษาแผลพวกนี้ไป... พอคลายเวทย์บาดแผลก็จะกลับมาอยู่ดี〞

อ๋อเหรอ? โลกนี้ไม่มีอะไรง่ายจริงๆแฮะ แต่ถึงงั้นก็คงจะเชื่อใจได้ในระดับนึงอยู่หรอกมั้ง เพราะอย่างน้อยก็ช่วยให้มีเวลาวางแผน....

แต่เดี๋ยวดิ! จะว่าไปแล้ว ผู้ประกาศเองก็เป็นพวกเดียวกับฟรังซ์ ออลเดล... เป็นพวกเดียวกับบอสไม่ใช่เหรอ? แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องช่วยพวกเราเนี่ย?

〝ครับๆ เรื่องนั้นเชื่อก็ได้... ว่าแต่ขอถามเหตุผลที่ช่วยหน่อยได้รึเปล่า?〞

          กรจำใจตบมุขผู้ประกาศพอเป็นพิธีเพราะกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ นั่นเลยทำให้ผู้ประกาศไม่พอใจนิดหน่อย แต่พอได้ยินคำถามของกรก็กลับมาแสดงสีหน้าจริงจังอีกครั้งในทันที

〝แค่เพิ่มโอกาสรอดของตัวเองเท่านั้นแหล่ะ〞

〝โอกาสรอดของเธอเหรอ? หมายความว่าไง? อธิบายมาให้ละเอียดหน่อยซิ〞

〝จะอะไรซะอีก... สามหัวมันต้องดีกว่าหัวเดียวกระเทียมลีบอยู่แล้วนี่จริงไหม?〞

เดี๋ยวสิ… ไหงพูดเหมือนกับโดนทิ้งแบบนั้นหล่ะฟ่ะเนี่ย

ว่าแต่เธอหน่ะ เป็นผู้ประกาศไม่ใช่เหรอ? เป็นคนในแท้ๆ ไหงต้องมาลงมาเสี่ยงเองด้วยเนี่ย?

〝อย่าบอกนะว่าเธอ... ถูกทิ้ง?〞

〝ไม่ใช่ย่ะ!〞

อ่ะ! ตะโกนด้วย

〝แล้วทำไมหล่ะ?〞

〝เฮ้อ! มันน่ารำคาญนะ ที่ต้องอธิบายหน่ะ〞

〝แต่ยังไงก็ต้องอธิบายอยู่ดีไม่ใช่รึไง? ...เพราะงั้นก็รีบบอกมาเถอะ〞

          ผู้ประกาศถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ทันทีที่กรถามเหตุผล แต่เธอเองก็รู้ว่าไม่อธิบายก็ไม่ได้ จึงตอบกรกลับไปแทบจะทันที

〝เพราะออกไปไม่ได้ต่างหาก... ห้องบอสทุกห้องเป็นแบบเข้าได้แต่ออกไม่ได้เหมือนกันหมด รวมถึงวิธีนอกเหนือจากเข้าทางประตูตามปกติอย่างการพังเพดานลงมาด้วยก็เหมือนกัน แล้วห้องบอสชั้นนี้ก็เป็นแบบห้ามใช้เวทย์ประเภทเคลื่อนย้ายด้วย ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดนั่นเป็นเวทย์ที่ใช้โดยไม่แบ่งแยก... หรือก็คือมีผลกับทุกคนไม่แม้แต่ดันเจี้ยนมาสเตอร์หรือตัวคนสร้างเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเหมือนกัน〞

〝จะบอกว่าไม่มีทางออกว่างั้นเหอะ?〞

〝...ตามนั้น〞

          แล้วกรกับผู้ประกาศก็มองหน้ากันและถอนหายใจออกมาอย่างแรงพร้อมกันอย่างหน่าย โดยปล่อยให้มีอาที่นั่งพับเพียบอยู่ใกล้ๆเอียงคอสงสัยอย่างน่ารักน่าชังเหมือนทุกทีอยู่แบบนั้นพักนึง

ให้ตายสิ... ไม่รัดกุมเอาซะเลยนะ อีแบบนี้ถ้าเกิดติดกับดักเข้าซะเอง เจ้าหนูนั่นหรือคนสร้างเองออกไม่ได้เหมือนกันสิ...

〝ว่าแต่เดิมทีแล้ว ใครมันเป็นคนทำเรื่องยุ่งยากแบบนั้นกันหล่ะเนี่ย?〞

ปึด!

          เสียงเส้นเลือดปูดโปนดังขึ้นมาทางผู้ประกาศอีกครั้งนึง นั่นจึงทำให้กรเพิ่งมารู้ว่าตัวเองเหยียบกับระเบิดเข้าให้อีกแล้ว

〝ค่ะๆ! ขออภัยด้วยนะคะ ที่『ทำ-เรื่อง-ยุ่ง-ยาก』แบบนั้นไป... นะ-คะ〞

          แล้วเธอก็ฝืนยิ้มแหยๆมาทางกรทั้งที่กำลังหงุดหงิดอยู่  แต่นั่นกลับดูน่าขันและน่ารักมากกว่าน่ากลัว กรจึงอมยิ้มอยู่ในใจแทนที่จะกลัวเธอไปเสียอย่างงั้น

〝จริงสิ... จะว่าอะไรไหมถ้าจะถามอีกซักข้อสองข้อ?〞

〝ขึ้นอยู่กับเนื้อความ… ว่ามา〞

          แล้วกรก็หาจังหวะเปลี่ยนบรรยากาศโดยใช้คำถามใหม่ทันที ผู้ประกาศที่เลิกหัวเสียแล้วกลับมาใจเย็นอีกครั้งก็ตอบกรกลับได้ในทันทีเช่นกัน

〝ไอ้ทศกัณฑ์... ไม่สิ ไอ้ยักษ์นั่นมันอะไรกัน?〞

ก็แหม ฉันสงสัยสุดๆเลยนี่หว่า… ว่าไอ้ตัวที่หลุดออกมาจากแบบเรียนภาษาไทยนี่มันมาได้ไง

ไม่ได้เข้ากันเล้ย!!! ถึงขั้นขัดหูขัดตาเลยด้วยซ้ำ... ทั้งที่บรรยากาศมันเป็นยุคกลางตะวันตกมาตลอดแท้ๆเชียว

〝อา... ถ้าเรื่องนั้นหล่ะก็...〞

〝อื้มๆ! ถ้าเป็นเรื่องนั้นหล่ะก็?〞

〝บอกไม่ได้〞

〝เอ๋!!!———〞

          ผู้ประกาศเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนที่จะบอกปักคำถามของกรอย่างสิ้นเชิง

〝ทะ ทำไมเล่า!!!〞

〝ไม่อยากตอบ มีไรมะ?〞

          ผู้ประกาศยิ้มออกมาอย่างร่าเริง ด้วยท่าทางขี้เล่นจนดูกวนประสาทในขณะที่ตอบกรออกไป นั่นจึงทำให้กรที่รอคำตอบอย่างจริงจังหงุดหงิดขึ้นมาในทันที

ฮึ่ย! หนอยแน่ยัยบ้านี่! นี่คิดจะกวนประสาทกันรึไงฟ่ะ!

ก่อนหน้านี้ก็กวนส้นมาหลายครั้งแล้วนะ.. รู้สึกอยากอัดคนเว้ยยยยย!!!

พอกันที... ณ จุดนี้ กระผมจะไม่ทนอีกแล้วววววว!!!!!!!!!!!

〝หมดความอดทนแล้วเฟ้ย! ยัยแว่นนี่ คิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันเป็นยังไงกันฟ่ะ! ถ้าไม่แชร์ข้อมูลแล้วจะสู้ด้วยกันยังไงหา!!!!〞

〝หนวกหูย่ะ! แค่จะร่วมมือกันสู้ จะรู้ข้อมูลยิบย่อยไปทำไม รำคาญจะตายชัก... แล้วเดิมทีแค่ร่วมมือกันก็ไม่ได้นับว่าเป็นพวกพ้องซักหน่อย!!!〞

          แล้วทั้งสองคนก็เริ่มปะทะฝีปากกันอีกครั้ง มีอาที่นั่งอยู่ใกล้เห็นกรโดนตะคอกใส่ก็ฉุนเฉียวจนถึงกับจะเข้าโหมด『อัลติเมทมีอา(ชื่อไม่เป็นทางการ)』เลยทีเดียว แต่เคลเบรอสที่เธอสะพายอยู่กระซิบบอกมีอาเบาๆประมาณว่า〖ใจเย็นไว้โยม〗 เธอก็เลยผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็มากพอที่จะไม่เข้าโหมดยันเดเระ(แบบกรเป็นฝ่ายถูกเสมอ) เช่นทุกครั้ง

〝ยัยนี่!!! การสู้แบบปาร์ตี้ สำคัญที่สุดคือทีมเวิร์คนะเฟ้ย!!!〞

〝หึ! ใครสนหล่ะ!!! นายกับเธอตรงนั้นหน่ะ ทำตัวว่านอนสอนง่ายแล้วเป็นเบี้ยให้ฉันใช้ก็พอแล้ว!〞

ใจจริงคือแบบนี้เองหรอกเร้อ!!!!!

〝นี่ไม่ได้กะจะร่วมมือตั้งแต่แรกแล้วสินะเนี่ย!〞

〝ก็ใช่หน่ะสิ! คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกในอนิเมะรึไง? โลกนี้ไม่มีอะไรง่ายหรอกนะพ่อหนุ่ม... รู้ไหมว่ากว่าเบ*(ตื้ด!)ต้า จะกลายมาเป็นพรรคพวกเต็มตัวหน่ะ... มันลำบากแล้วก็นานขนาดไหน?〞

พ่อหนุ่มบ้านป้าเธอสิ! วางท่าใหญ่โตมาจากไหนกัน เป็นลูก สส. ที่ไหนรึไง!?

แล้วทำไมต้องเป็นดรา*(ตื้ด!)บอล ด้วยฟ่ะ! ...ไม่สิปัญหามันใช่ตรงนั้นซะที่ไหน!!!!

〝เออๆ เรื่องนั้นช่างหัวมันก่อน! แต่ยังไงฉันกับมีอาก็จะไม่มีวันยอมให้เธอสั่งแน่ๆ〞

〝รู้น้อยยังมาวางกล้ามใหญ่โตอีกนะ〞

〝ใครสนเรื่องนั้นกันเล่า! ขืนให้เธอคุมปาร์ตี้ มีหวังพวกเราตายหยังเขียดเพราะกลายเป็นตัวล่อใช้แล้วทิ้งแหงๆ... แล้วเดิมทีเธอบอกเองไม่ใช่รึไง ว่าจะตอบคำถามถ้าฉัน『ชนะ』หน่ะ〞

〝เอ๋!!!!!!!!!!!!!〞

〝หืม!!!!!!!!!!!!!〞

          ทันทีที่กรพูดออกมาแบบนั้น ผู้ประกาศและตัวคนพูดเช่นกรก็ตกตะลึงจนเบิกตาโพลงกับคำว่า『ชนะ』ออกมาในทันที

〝ฮะฮ่า! จะว่าไปแล้ว.... การประลองของพวกเราก็ยังไม่รู้ผลเลยนี่หว่า〞

〝หึหึ! ก็ดีนี่! …มาตัดสินกันตอนนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า〞

หึ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!———

          ทั้งสองคนหัวเราะออกมาพร้อมๆกันอย่างบ้าคลั่งราวกับนัดแนะกันไว้ แต่ผู้ประกาศดูจะยังรักษามาดผู้ดีไว้ได้มากกว่ากร เธอจึงไม่ได้อ้าปากหัวเราะออกมาเสียจนเห็นลิ้นไก่เช่นกร

〝ดะ เดี๋ยวก่อนสิกร!!! จะสู้กันอีกงั้นเหรอ?〞

          และก็แน่นอนว่าถ้าเกิดการปะทะกันจริง มีอาก็ต้องเป็นห่วงกรอยู่แล้ว เธอจึงตะโกนออกไปแบบนั้นแทบจะทันทีที่ทั้งสองคนแผ่บรรยากาศไม่เป็นมิตรใส่กันเมื่อครู่

〝ไม่ต้องห่วงมีอา... หนนี้ฉันจะไม่สู้กับยัยนี่หรอก... ก็วิธีตัดสินมันไม่ได้มีแต่การสู้กันนี่นา〞

〝เอ๋!?〞

〝โฮ่! รู้สึกหงุดหงิดที่คิดเหมือนกับนายก็จริง... แต่ฉันเองก็ไม่คิดจะสู้ให้เปลืองกำลังเล่นหรอกนะ〞

〝แล้วทั้งสองคนจะตัดสินกันยังไงเหรอ?〞

〝อืม...〞

ถึงจะถามกระผมแบบนั้นก็เถอะ... แต่ก็ยังไม่ได้คิดซะด้วยสิ

อย่างแรกก็คือ ต้องไม่ใช่เรื่องเปลืองกำลังอย่างการขยับร่างกายนู่นนี่นั่น... เพราะงั้นก็ต้องเป็นการตัดสินโดยใช้สมองนี่หล่ะที่เข้าท่าสุด

ไม่ต้องขยับร่างกาย... ถ้างั้นก็คงต้องตัดสินกันด้วยเกมหล่ะนะ...

แต่จะให้เป่ายิ้งฉุบนี่ก็ไม่เอาหรอก... ก็ถ้าพิสูจน์ได้ว่าใครฉลาดกว่ากัน ก็พิสูจน์ได้เหมือนกันนี่นาว่าใครเหมาะจะเป็นคนคุมทีม...

อืม... ถ้างั้นก็มีอยู่เกมเดียวแล้วหล่ะที่เหมาะกับการตัดสินแบบนี้หน่ะ

〝นี่เธอหน่ะ! ถ้ารู้จักอนิเมะในโลกของฉัน ก็แสดงว่าวัฒนธรรมอย่างอื่นก็ต้องรู้จักด้วยหล่ะสินะ〞

〝อา... ถ้าเป็นเรื่องทั่วไปหล่ะก็นะ... ตั้งแต่อาหารการกิน ชีวิตประจำวัน ประวัติศาสตร์... อย่างเรื่องยิบย่อยเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปก็รู้หมดแหล่ะ… แถมอีกอย่าง เรื่องเกมและกีฬาเองก็อยู่ในหัวด้วยนะ〞

หืม... ยัยนี่ รู้ลึกกว่าที่เราคาดซะอีกแฮะ

ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่าเธอรู้เรื่องพวกนั้นได้ยังไง... ว่าแต่ทำไมถึงรู้จักแต่อนิเมะกันหล่ะฟ่ะ!

แล้วพูดว่าเกมกับกีฬาด้วย.. แสดงว่าเธอเองก็พอจะรู้แล้วสินะว่าเราจะใช้อะไรตัดสิน

แต่ก็เพราะเรื่องนั้นแหล่ะ... เลยทำให้สามารถใช้เกมในโลกเดิมของเราตัดสินได้

〝ถ้างั้นก็ค่อยคุยกันง่ายหน่อย... งั้นก็เอาหล่ะนะ【วู้ดเมด!!!】〞

          ทันทีที่กรสั่งใช้งานเวทย์พฤกษา ก็ทำการจำลองภาพในหัว แล้วสิ่งที่คิดก็ปรากฏออกมาในทันที อันประกอบไปด้วยกระดานลายขาวดำขนาด 8*8 ช่อง ขนาดพอเหมาะ รวมถึงตัวหมากที่มีรูปร่างต่างกันอาทิ อัศวิน บิชอบ เบี้ย(พอน) ฯลฯ ก็ก่อรูปร่างขึ้นมาจากไม้พร้อมๆกัน

〝นี่มัน... อะไรกันเนี่ย〞

          มีอาที่ลุกขึ้นมายืนแล้วก็เดินเข้ามาหากรตั้งแต่ที่ร่ายเวทย์แล้ว เป็นคนถามออกมาแบบนั้น เห็นได้ชัดว่า มันไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่โดยทั่วไปของโลกนี้

〝เป็นอีกครั้งที่น่าโมโหจริงๆ ...ดูท่าว่าเราจะคิดเหมือนกันนะ〞

〝แสดงว่าเธอรู้จักเจ้านี่จริงๆสินะ...〞

〝อา... นี่เป็นเกมที่ฉันกับฟรังซ์เอาไว้เล่นฆ่าเวลาในช่วงนี้เลยหล่ะนะ〞

〝งั้นก็ดีเลย จะได้ไม่ต้องมาอธิบายกฎให้เสียเวลา...〞

ที่ปรากฏตรงหน้าของฉันก็คือ กระดานแบนราบที่มีลายขาวดำสลับเป็นช่องขนาด 8*8 ช่อง

ตัวหมากมีสีดำและสีขาว ประกอบด้วยเบี้ยฝั่งละ 8 ตัว

มีบิชอบ เรือ อัศวิน อย่างละ 2 ตัว... และมีควีนกับคิงอีกอย่างละตัว

ก็คิดว่าน่าจะรู้อยู่แล้วหล่ะ แต่ถึงแบบนั้นก็อยากจะบอกให้รู้อีกครั้งหล่ะนะ

〝งั้นก็มาเริ่มกันเลยเถอะ... ตัดสินกันด้วย『หมากรุก』นี่แหล่ะ!!!〞

❖❖❖❖❖

          หมากรุก... เกมกระดานแนววางแผน โดยมีเงื่อนไขในการชนะอีกฝ่ายคือ การทำให้หมากที่เรียกว่า『คิง』ของอีกฝ่ายถูกยึดและเดินหนีไม่ได้ โดยการใช้ตัวหมากที่มีวิธีการเดินและกินที่แตกต่างกัน อันได้แก่เบี้ย บิชอบ เรือ อัศวิน และควีน ในการโจมตีอีกฝ่ายจนกว่าจะถึงตาเดินสุดท้ายที่อีกฝ่ายเข้าเงื่อนไขพ่ายแพ้ เรียกว่า รุกจน หรือ เช็คเมท

          หมากรุกไม่มีเรื่องดวงมาเกี่ยว เป็นเกมที่ต้องใช้ไหวพริบและการคิดวิเคราะห์ล่วงหน้าถึงตาเดินของอีกฝ่าย ดังนั้นมันจึงถือเป็นเกมที่ใช้ตัดสินสติปัญญาได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งในกรณีของกรและผู้ประกาศนั้น ต้องเรียกว่าเป็นเกมที่ใช้ตัดสินได้อย่างยุติธรรมและอีกฝ่ายยอมรับได้อย่างแท้จริงเลยทีเดียว

          อนึ่ง หมากรุกที่ทั้งสองคนใช้ตัดสินกันคือ หมากรุกสากล เพราะในตอนแรกกรนั้นคิดว่าเธอคงไม่รู้จักหมากรุกไทย จึงใช้ของที่เป็นที่รู้จักมากกว่าอย่างหมากรุกสากลแทน แต่พอถามดูผู้ประกาศก็กลับรู้กฏของหมากรุกไทยเสียอย่างงั้น แต่เพราะหมากรุกไทยใช้ตาเดินมากกว่า ทั้งสองคนที่อยากจบศึกโดยเร็วจึงเห็นพ้องต้องกันว่าจะใช้หมากรุกสากลในการตัดสินนั่นเอง

〝ตัดสินกันในรอบเดียวเลยโอเคไหม?〞

〝ครั้งเดียวนั่นแหล่ะดีแล้ว... เล่นหลายครั้งก็เหนื่อยเปล่าๆ〞

          หลังจากที่กรสร้างกระดานและหมากครบแล้วก็ทำการเปลี่ยนที่จากจุดที่เคยอยู่ไปไกลพอสมควร เพราะจุดเดิมอยู่ใกล้กับบอสนั่นแหล่ะ แม้จะรู้ว่ามันขยับไม่ได้แต่ยังไงก็ยังทำให้เสียสมาธิอยู่ดี

          หลังจากที่ทั้งสามคนหาที่นั่งเหมาะๆได้ ก็วางกระดานลงแล้วกรก็นั่งขัดสมาธิ อยู่ทิศตรงข้ามกับผู้ประกาศที่นั่งทับขาแบบเทพธิดาอย่างเรียบร้อย ส่วนมีอานั้นนั่งพับเพียบเหมือนทุกทีอยู่ข้างหลังกรโดยเยื้องไปทางขวาของกรนิดหน่อยเพื่อให้มองเห็นกระดานได้อย่างชัดเจน

〝นายนี่... ท่าจะชอบหมากรุกมากเลยนี่นา〞

〝!!!〞

กึก!

          ทันทีที่ผู้ประกาศพูดออกมาแบบนั้น ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเรียงหมากกันอยู่ กรก็ตกตะลึงจนชะงักและหยุดมือของตัวเองในทันที  แต่ซักพักก็ขยับมือเพื่อจัดหมากต่อ

〝เห๋! ทำไมถึงคิดงั้นหล่ะ?〞

〝ก็หลังจากที่สู้เสร็จทุกครั้ง... นายก็พูดว่า เช็คเมท! ด้วยนี่นา...〞

〝นี่เธอเป็นสตอร์คเกอร์รึไง?〞

〝เรียกว่าสิทธิพิเศษของผู้ประกาศจะดูดีกว่านะ... ว่าแต่จะตอบได้รึยังหล่ะ!?〞

〝…….〞

          กรที่แม้จะพยายามเบี่ยงประเด็นต่อคำถามไร้มารยาทเพราะถามเรื่องส่วนตัวมากเกินไปของผู้ประกาศแต่ก็ไม่อาจเลี่ยงได้ จึงทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่เงียบๆซักพัก ก่อนที่จะตอบออกไปตามตรงโดยไร้ซึ่งท่าทางเสแสร้งใดๆ

〝ก็ชอบหน่ะสิ... ก็เพราะหมากรุก... เป็นเกมที่พ่อเค้าชอบเล่นนี่นา〞

          กรพูดแบบนั้นพลางก้มหน้าลงต่ำราวกับนึกถึงความหลังที่ตัวเองเล่นหมากรุกกับพ่อที่เสียไปแล้วของตัวเองอยู่อย่างเศร้าๆ ซึ่งนั่นทำให้มีอาที่นั่งอยู่ข้างหลังของกรสังเกตได้ และรู้สึกสลดตามไปนิดหน่อย แต่ทั้งที่อยากให้กำลังใจ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นั่นเพราะ…

〝และเพราะแบบนั้นแหล่ะ ฉันถึงจะ... แพ้ไม่ได้เด็ดขาด!!!〞

          กรพูดออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง หนักแน่นและฉะฉาน หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที กรที่กำลังสลดก็เปลี่ยนสายตาเป็นจริงจังและเฉียบคมขึ้นมาในทันที และส่งสายตานั่นจ้องเขม็งไปยังผู้ประกาศที่อยู่ตรงข้ามจนร่างเธอกระตุกไปเล็กน้อยเลยทีเดียว

〝เข้าใจหล่ะ… ขอโทษที〞

〝ไม่ล่ะ... ต้องขอบใจเธอที่ถามออกมาแบบนั้น... ตอนนี้ฉันเครื่องร้อนสุดๆเลยหล่ะ!〞

〝งั้นเหรอ น่าชื่นชมจริงๆ ...ขอยอมรับในจุดนี้ของนาย แต่ว่า!!!〞

ก๊อง!

          ฝ่ายผู้ประกาศที่เป็นหมากสีขาว เริ่มก่อนในทันทีที่พูดแบบนั้นออกไป ทันทีที่พูดแบบนั้นเธอก็ขยับเบี้ยตัวแรก เข้าไปหากรถึงสองช่องในตาเดินแรกในทันที

〝ขอบอกนายไว้เลยนะ... ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยแพ้เลยซักครั้งเดียวนะจะบอกให้〞

〝อ๋อเหรอ!〞

ก๊อง!

          กรพูดประชดออกไปแบบนั้นพลางขยับเบี้ยตัวริมสุดออกไปหนึ่งช่องในตาเดินแรกเช่นเดียวกัน

〝แต่ฉันเนี่ยสิ! ตั้งแต่เกิดมายังเอาชนะพ่อไม่ได้เลยซักครั้ง〞

〝โอ๊ะโอ๋! แล้วแบบนี้จะไหวไหมจ๊ะเนี่ย?〞

〝ก็คอยดูเอาแล้วกันน่า...〞

.

.

.

.

〝เช็ค!〞

〝บ้าชัดๆ!〞

          หลังจากเกมดำเนินไปได้ถึงช่วงท้าย กรเป็นคนประกาศรุกผู้ประกาศอย่างต่อเนื่อง แล้วคนที่สบถแบบนั้นออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ก็คือผู้ประกาศที่กำลังหัวเสียนั่นเอง

          ในช่วงแรกนั้นผู้ประกาศได้เปรียบเสียจนคิดว่ากรแพ้ 100% เลยทีเดียว นั่นเพราะยังไม่ถึง 5 ตาแรก กรก็เสียควีนที่เป็นหมากที่เก่งที่สุดให้กับเธอแบบโง่ๆเสียแล้ว แล้วพอถึงตาที่ 15 กรก็เสียบิชอบไป 1 ตัว เสียเรือไปทั้งหมด และเสียเบี้ยไป 2 ตัวอีกต่างหาก แตกต่างจากฝั่งผู้ประกาศที่เสียเบี้ยไป 4 ตัว อัศวินและบิชอบอีกอย่างละ 1 ตัวเท่านั้น

         

          แต่หลังจากช่วงตาที่ 30 ผู้ประกาศเริ่มบุกเข้าเขตกรยากขึ้น ต่างจากกรที่ใช้อัศวินทั้ง 2 ตัวที่เหลืออยู่บุกเข้าเขตของผู้ประกาศเรื่อยๆอย่างเหนือชั้น และใช้อัศวินเก็บกวาดเบี้ยที่ขวางทางอยู่อย่างต่อเนื่อง แตกต่างจากผู้ประกาศที่ถูกเบี้ยของกรที่เหลือ 4 ตัว และบิชอบอีก 1 ตัว รวมคิงที่ควรอยู่ในที่ปลอดภัย แต่กรเองก็ใช้เดินมันออกมาจนถึงกลางกระดานเลยทีเดียว กว่าที่ผู้ประกาศจะรู้ตัว หมากบนกระดานของเธอทั้งหมดก็ถูกควบคุมโดยโครงสร้างที่กรจงใจสร้างไว้ตั้งแต่แรกไปแล้ว

ก๊อง!

〝เช็ค!〞

〝หนอย!〞

          กรกดดันคิงของผู้ประกาศไปเรื่อยๆ โดยใช้อัศวินแค่สองตัว พร้อมทั้งเก็บกวาดตัวที่อยู่ใกล้เคียงไปพร้อมกับ โดยการเดินด้วยวิธีนี้ สามารถกินได้หลายทางแต่หากคิงถูกอัศวินรุกอยู่ หมากตัวอื่นที่อยู่ในรัศมีการกินของอัศวินก็ต้องถูกกินไปโดยปริยายเพราะไม่สามารถเลือกคิงตายได้

          และในขณะที่กรกดดันเข้าไปเรื่อยๆ แม้จะมีบ้างในจังหวะที่กรไม่ได้ทำการรุก ผู้ประกาศก็จะเดินหมากเพื่อหวังรุกคืนบ้าง แต่ก็กลับถูกขัดด้วยหมากของตัวเองแทนเสียอย่างงั้น เพราะหลังจากที่กรกินหมากของผู้ประกาศครั้งล่าสุด กรก็เพิ่งกินบิชอบตัวปัญหากับอัศวินที่เหลืออีก 1 ตัว และเบี้ยอีก 2 ตัวของผู้ประกาศไป

          แม้ตอนนี้เธอจะเหลือควีนแต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะถูกผนึกโดยเบี้ยทั้ง 2 ตัว และหมากที่เหลือ ซึ่งในจังหวะปัจจุบันนี้ หากเธอขยับควีนหนี มันก็คือการเปิดรุกทันที และเพราะแบบนั้นเลยทำให้หมากขวางทางเดินของคิงที่อยู่สุดขอบของตารางฝั่งตัวเองตลอดแนวเป็นทางยาวราวกับจัดฉาก แถมหมากทั้งหลายที่ขวางทางอยู่นี้เองก็อยู่ในสภาพเดียวกับควีนคือหากเปลี่ยนตำแหน่งจะเป็นการเปิดรุกทันที นั่นจึงทำให้คิงได้แต่รอความตายโดยที่ไม่สามารถนำหมากตัวอื่นมาขวางเป็นตัวตายตัวแทนได้เลยทีเดียว

          แล้วพอกรทำการเดินเบี้ยตัวที่นำบุกเข้ามาโดยใช้เบี้ยอีก 1 ตัวที่มาด้วยกันเป็นเหยื่อก็เข้าไปถึงสุดขอบของตารางซึ่งเป็นแนวเดียวกับคิงได้ ผู้ประกาศที่เห็นกรเดินเบี้ยไปจนสุดกับเห็นคิงที่เดินได้แค่ซ้ายกับขวาก็รู้สภาพของตัวเองได้ในที่สุด

〝โปรโมชั่น ควีน! เช็คเมท!〞

〝ชิ! บ้าชัดๆ! ไหนบอกว่าไม่เคยชนะไง... โกหกกันนี่นา〞

          ผู้ประกาศที่แพ้อย่างขาดลอยในทางยุทธวิธีรบ ทำท่างอนแก้มป่องออกมาอย่างน่ารักน่าชังราวกับจะกลบเกลื่อนเรื่องที่พูดไปตอนเริ่มแข่งจนดูน่ารักไม่หยอกทีเดียว

〝ไม่ได้โกหกซักหน่อย! ฉันไม่เคยชนะพ่อก็จริง... แต่กับคนอื่นหน่ะ ฉันไม่เคยแพ้เลยซักครั้งเดียว〞

〝ฮึ่ย! นิสัยไม่ดี〞

〝เธอเข้าใจผิดไปเองนี่นา〞

นี่ขนาดแข่งกับคนที่มีสุดยอดการประมวลผลเหมือนกัน เรายังชนะง่ายๆเลยเหรอเนี่ย

กะแล้ว... พ่อเรานี่สุดยอดจริงๆแฮะ ไม่ใช่คนแล้วมั้งเนี่ย...

          แล้วพอผ่านไปซักพัก กรก็ฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกย้อนกลับไปในตอนที่เขาเล่นหมากรุกกับพ่อแล้วไม่เคยชนะได้เลยซักครั้ง ถึงจะเคยเฉียดมาบ้างแต่ก็โดนพลิกกระดานจนแพ้เหมือนเดิม พอคิดถึงความสนุกในตอนนั้นแล้ว ตัวกรเลยคิดขึ้นมาบ้างว่าอยากกลับไปเล่นหมากรุกกับคุณพ่ออีก แต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว เขาจึงส่ายหน้าเบาๆครั้งนึงเพื่อปัดเป่าความเศร้าออกจากใบหน้าและจิตใจ ก่อนที่จะดึงสติกลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง

〝เอาเถอะ! สัญญาก็คือสัญญา... นายชนะแล้ว〞

〝อืม… ต่อจากนี้ ฉันคือหัวหน้าปาร์ตี้โอเคนะ...〞

〝ไม่ขัดข้อง… ถ้าสั่งให้ไปตายก็จะไปตายเลยคอยดู〞

อะไรจะขนาดนั้นฟ่ะ! ยัยแว่นนี่ต้องล้อเล่นแหงมๆ

〝ไม่เอาน่า เลิกล้อเล่นก่อนเถอะ 〞

〝โดนจับได้ซะแล้ว〞

〝กะแล้วเชียว〞

          กรถอนหายใจออกมาครั้งนึงเบาๆก่อนที่จะพูดต่อไป

〝ถ้างั้น... ถึงเธอน่าจะรู้จักพวกเราอยู่แล้วเพราะแอบดูอยู่ตลอด———〞

〝เสียมารยาท! 〞

〝เถอะน่า! ...เพราะงั้นคราวนี้ก็มาแนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการได้แล้วมั้ง〞

〝ในฐานะอะไรหล่ะ... ลูกน้องในปาร์ตี้ พวกพ้องที่ร่วมเป็นร่วมตาย หรือว่าเบี้ยใช้แล้วทิ้ง?〞

          แม้คำพูดของผู้ประกาศจะฟังดูเหมือนล้อเล่น แต่แววตาของเธอกลับดูดุดันและจริงจังมาก ซึ่งมันมากกว่าตอนที่เธอบอกว่าจะฆ่ากรในตอนที่แปลงร่างในตอนที่อยู่ชั้นที่ 75 เสียอีก กรจึงได้ยินเสียงจากสัญชาตญาณอันแม่นยำของตัวเองว่าจะตอบคำถามนี้พล่อยๆหรือส่งเดชไม่ได้ ก็ตอบเธอกลับไปด้วยท่าทีจริงจังและจริงใจที่สุดในชีวิตออกไป

〝ในฐานะ『เพื่อน』ยังไงหล่ะ!!! 〞

〝!!!〞

【เพื่อน.... เหรอ?】

          ผู้ประกาศค่อนข้างตกใจกับคำตอบที่สั้นและเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความจริงใจของกร จึงรำพึงคำพูดของกรซ้ำๆอยู่ในลำคอหลายครั้ง ก่อนที่พวกกรจะเป็นคนเริ่มแนะนำตัวก่อน

〝เธอคนนี้ชื่อมีอา… เป็น เอ่อ... ฟะ แฟนฉันเอง!〞

〝มีอา ค่ะ ฝากตัวด้วย...〞

〝อืม...〞

          กรที่เป็นฝ่ายแนะนำมีอาด้วยตัวเอง พอต้องบอกสถานะระหว่างตัวเองกับมีอาออกไปก็กลับอายจนหน้าแดง ผู้ประกาศที่เห็นแบบนั้นก็อมยิ้มออกมาเล็กน้อย

〝ชื่อของฉันคือ กร... เรียกสั้นๆแบบนี้แหล่ะ〞

〝มีอา... กร อืม... งั้นทีนี้ก็ตาของฉันหล่ะสินะ...〞

          ผู้ประกาศพูดชื่อของทั้งสองคนซ้ำอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัวเองแก่กรและมีอาเป็นครั้งแรก

〝ฉันเป็นหนึ่งในผู้ดูแลดันเจี้ยนแห่งนี้... ชื่อของฉันคือ『เมอร์ลิน』ฝากตัวด้วย〞

          ผู้ประกาศพูดชื่อของตัวเองออกมาอย่างเขินๆราวกับไม่มีใครเรียกชื่อนี้นานแล้วยังไงอย่างงั้นเลย แต่พอกรและมีอาได้ยินชื่อของเธอเป็นครั้งแรก ก็ยิ้มออกมาและตอบกลับไปในทันที

〝อา... ฝากตัวด้วยนะ เมอร์ลิน!〞

〝มาพยายามกันเนอะ เมอร์ลิน!〞

〝....อื้ม〞

          ผู้ประกาศที่ได้รับการตอบกลับอย่างอบอุ่นก็อมยิ้มเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ก็ตอบกลับทั้งสองคนไปเบาๆด้วยอาการขวยเขินราวกับเพิ่งเจอคนแปลกหน้า โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอจะเป็นคนที่เธอสนิทด้วยที่สุดทั้งที่เพิ่งเคยพบหน้า และทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าจะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า『ครอบครัว』ที่สำคัญที่สุดของเธอไปจนถึงวันที่เธอสิ้นลมหายใจเลยทีเดียว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 225 : ความสำเร็จเกิดจากการยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง (จบบทที่ 4)

    ช่วงหลังมานี้... หลังจากที่เหล่าภรรยาของฉันได้รู้ทุกอย่างและยอมรับสิ่งที่ฉันเป็นหรือเจอมา จำนวนครั้งที่ฝันร้ายก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดใช่ มันไม่ได้หายไปหรอก... ฉันรู้ตัวดี และสัมผัสได้ก็เพราะความกังวลยังมีอยู่นั่นแหละนะแต่ก็ต้องขอบคุณความอ่อนโยนของทุกคน มันถึงไม่ได้เลวร้ายเหมือนเมื่อก่อนเพราะมีพวกเธออยู่เคียงข้าง ฉันเลยไม่ได้กลัวจนสติแตกเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่... ต่อให้ฝันร้ายถึง ‘เรื่องในอดีต’ ฉันก็ไม่ได้กลัวหรือว่าเศร้าอีกแล้วเพราะงั้น... ความรู้สึกปั่นป่วนในอกนี่ จึงใกล้เคียงกับความกังวลมากกว่า กรรู้สึกชื่นชมความใจเย็นของตัวเอง มั่นใจว่าอย่างน้อยมันก็ดีขึ้นกว่าก่อนแน่ ไม่อย่างนั้น... ภาพของชายหาดที่เต็มไปด้วยซากศพรอบกายของเขา คงทำเอารู้สึกผิดจนทรมานตัวสั่นไปแล้วเป็นฝันร้ายที่ไร้รสนิยมซะจริง กรรู้สึกขนลุกจนหน้าเหยเกแม้จะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแค่ความคิด ด้วย ‘สุดยอดการประมวลผล’ มันไม่ยากอยู่แล้วที่จะรู้ตัวขณะหลับ ...มันสุดยอดจนถึงกับรู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นสาเหตุของการฝัน ชายหาดนี้ไม่ใช่ที่ที่กรรู้จัก แต่จำนวนศพที่มากขนาดนี้ เดาได้เลยว

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 224 : ผีเสื้อกระพือปีก สะเทือนถึงผืนฟ้าแลสะท้านถึงอเวจี

    ————สามวันต่อมา, ทวีปอีเดน - ใจกลางเมืองหลวงแอสการ์ด ใจกลางทวีปอีเดนนั้น ปกติแล้วคือสวนอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่าเทพผู้ปกครอง ซึ่งมีไว้ใช้เพื่อกำหนดทิศทางของสรวงสวรรค์หรือหมายรวมถึงโลกมนุษย์เบื้องล่าง ถนนสายหลักของตระกูลทั้งเจ็ดล้วนแล้วแต่เข้ามาบรรจบ ณ ที่สวนพฤกษานี้ เมื่อไรก็ตามที่มีหัวหน้าตระกูลมาเยือน ทางเข้าของสวนจากถนนเส้นนั้นจะมีมือขวาข้ารับใช้เฝ้าถนนเส้นนั้นไว้เป็นปกติ ...ทว่าในวันนี้กลับแตกต่างเป็นพิเศษ เพราะจำนวนข้ารับใช้ของทั้งหกตระกูลที่มานั้นมีจำนวนกว่าร้อยคน แถมทางเข้าสวนจากถนนแต่ละเส้นยังติดธงประดับตราประจำตระกูลอีก ซ้ำร้าย... ธงที่ว่ายังเป็นลักษณะเดียวกับที่ใช้ในสงคราม มันเคยถูกใช้ทั้งกับจอมมารในอดีตกาลหรือกับราชาปีศาจในปัจจุบัน นั่นแลคือสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ โดยเฉพาะใจกลางสวนพฤกษา ที่ตั้งของโต๊ะกลมทำจากหินอ่อนซึ่งเป็นสถานที่ประชุมของเหล่าหัวหน้าตระกูลยกเว้นกาบริเอล สีหน้าทุกคนนั้นอยู่ไม่สุข ทั้งกังวลและโกรธเกรี้ยวบ้าง สับสนบ้าง ...และสาเหตุของเรื่องนั้น ก็คือกระดาษแผ่นน

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 223 : ความหวังและสิ้นหวัง คือสองด้านของเหรียญที่ชื่อศรัทธา

    หลังจากที่อัพเดทข้อมูลกับเหล่าสหายภาคีโต๊ะจัตุรัส กรก็ต้องกลับไปแต่งชุดเพื่อเข้าพิธีรับมอบรางวัลต่อ เพราะตัวเอกของงานคือพวกกรทั้ง 4 ฝ่าย และมีเหล่าราชาจากอาณาจักรในสังกัดสภาโลกเป็นผู้มอบรางวัล นั่นหมายความว่าเหล่าภรรยาของกรที่เป็นกำลังหลักในการปราบอาร์เคมีดีสก็ต้องร่วมงานรับรางวัลด้วย ไม่สิ... ‘ดาร์คไนท์ซิริอุส’ ที่เป็นกำลังหลักนี่แหละคือตัวเอกหลักของงาน ไม่ร่วมเห็นทีคงจะไม่ได้เพราะงั้นพวกเราก็เลยได้ห้อง VIP ไว้แต่งตัว ต้องขอบคุณแอนดรูว์เลยแหละแล้วระหว่างที่รอสาว ๆ เขาแต่งองค์ทรงเครื่องกัน ฉันก็ไปอัพเดทข้อมูลรอถึงจริง ๆ จะอยู่ในห้องตอนสาว ๆ แต่งตัวได้แบบไม่เป็นไรก็เถอะ (ก็เห็นกันทุกซอกทุกมุมแล้วนี่นา)แต่ในแง่ของความรู้สึก... ขืนจ้องของสวย ๆ งาม ๆ ขนาดนั้นนานเข้า พูดตามตรงว่ามันจะของขึ้นจนไม่เป็นอันทำงานเอาน่ะสิฉันก็รู้นิสัยตัวเองดีอ่ะนะ เลยขอป้องกันไว้ก่อนดีกว่า กรอมยิ้มแห้งกับขีดจำกัดของตัวเองเหมือนทำใจ ก่อนเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เขากับสาว ๆ เช่าพัก“อ๊ะ! กรกลับมาแล้ว!”“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมกร?” มีอากับรินเดินเข้ามารับกรก่อนใคร

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 222 : แก้โจทย์ได้เมื่อใด ปัญหาใหม่ย่อมตามมาเสมอ

    หลังจากที่เมอร์ลินบอกว่าเครื่องเคลื่อนย้ายออกแบบเสร็จแล้ว พวกเราก็ทำตัวเอื่อยเฉื่อยกันอีกแปปนึงก่อนจะกลับบ้านพวกเราแจ้งข่าวเรื่องนี้กับทุกคน โดยเฉพาะรินกับอลิซพวกเธอดีใจเข้ามากอดแล้วก็ร้องไห้โฮใหญ่เลยแต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก ก็จากบ้านมากตั้ง 5 เดือนแล้วนี่นาไหนจะทั้งคุณลุง คุณน้าที่รออยู่ที่บ้าน... ชีวิตประจำวันที่ผ่านมาตลอด 17 ปีมันทดแทน 5 เดือนไม่ได้หรอก (ถ้าไม่นับเรื่องที่ได้คบกันล่ะนะ)เพราะงั้นจะอยากกลับไปก็คงไม่แปลกเราเองก็เถอะ... ถึงกลับบ้านไปจะไม่มีใครอยู่แล้ว แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยความทรงจำที่ทำให้เราเป็นอย่างทุกวันนี้เป็นสถานที่ให้กำเนิดความฝันของเรา ...และเราก็ไม่ได้รังเกียจมันอีกแล้วด้วยเพราะงั้นเราจะกลับไปให้ได้! เครื่องมือมีพร้อมหมดแล้วที่เหลือก็มีแต่การจัดแจงสถานการณ์ ให้กลับไปได้โดยที่โลกเดิมไม่มีปัญหา...แต่เรื่องนั้นแหละที่ยากที่สุด❖❖❖❖❖————สองวันต่อมา, โรงแรมเดอะกลอรี่ ณ สหพันธ์แห่งความรุ่งโรจน์ หลังจากวันหยุดของกรและครอบครัวสิ้นสุด แผนการขั้นถัดไปของภาคีโต๊ะจัตุรัสก็เสร็จสมบูรณ์ด้วย ...และก็เป็นการเริ่มแผนด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนั้น ก

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 221 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนจบ (Mia and Merlin have a Date)

    “โดนแกล้งอีกแล้วอ่า!”“น่า ๆ ไม่เป็นไรนะกร”“แล้วจะโทษใครได้ล่ะหืม?” ได้ยินแฟนหนุ่มเดินบ่นกลางป่า มีอากับเมอร์ลินจึงได้ลูบหัวปลอบใจไปคนละกรุบ ...ถึงต้นเหตุจะเป็นเพราะพวกเธออยู่แล้วก็เถอะว่าแต่ นี่เดจาวูป่ะเนี่ย?ไหงรู้สึกเหมือนเรื่องคล้าย ๆ กันเพิ่งเกิดขึ้นเลย“!!!?” ระหว่างที่คิดอะไรไร้สาระอยู่ มีอากับเมอร์ลินก็เข้ามาควงแขนกรเหมือนกับตอนที่มาถึง กรเลยคิดว่า ‘โอเค ช่างมันละกัน’ แล้วหันไปสนใจกับการเที่ยวลมชมวิวกับภรรยาทั้งสองดีกว่า จากก่อนหน้านี้... หลังจากพักผ่อนในตึกกลางสำหรับติดต่อ พวกกรก็ออกเดินเท้าไปตามทางที่ทำไว้ เห็นว่าหากเดินตามทางนี้จะสามารถชมวิวได้ครบทุกแห่งและวนไปยังกระท่อมที่จองไว้ได้พอดี“กรดูสิ! มีแม่น้ำด้วย!”“ตื้นพอให้ลงไปเล่นได้ด้วยแฮะ” มีอากับเมอร์ลินดูจะสนใจแม่น้ำทางขวาที่ทั้งสามกำลังเดินเลียบผ่าน ความใสของมันทำให้เห็นดินและกรวดก้นแม่น้ำได้ แถมความสูงของมันยังแค่ครึ่งแข้งเอง เรียกว่าเหมาะกับการเล่นสุด ๆ มีอากับเมอร์ลินจึงไม่รอช้า พวกเธอถอดรองเท้าแล้วจูงมือกรลงไปในแม่น้ำ“ไปกันเถอะกร! น่า

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 220 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนต้น (Mia and Merlin have a Date)

    หลังจากถ่ายรูปกันอย่างหวานแหวว เวลาก็ยังเหลืออีกนิดหน่อย พวกเราเลยจะไปเดินเล่นกันต่อ...และแน่นอน คุณรินกับอลิซก็ยังคงตามแกล้งฉันเหมือนเดิมช่างใจร้ายเหลือร้าย ตั้งแต่ในโรงหนังแล้วนะ!มาปลุกเร้ากันขนาดนี้ในสถานการณ์ที่ทำได้แค่อดทน นี่มันการทรมานประเภทไหนกันเนี่ย!?เหมือนเอาเนื้อสเต็ก A5 มาจ่อลิ้นแต่ไม่ยอมให้กินเลยนะเฮ้ย!จะทั้งชาลอตกับซาช่าที่ขยันเซอร์วิสให้ตอนช่วงเช้า หรือรินกับอลิซที่มาแกล้งกันทั้งช่วงบ่ายฉันเลยต้องกัดฟันทนน้ำตาไหลเป็นโลหิตไปจนถึงตอนกลางคืนโน่นเลย!พอถึงเวลาหม่ำ ๆ ฉันก็เลยล้างแค้นด้วยการกินพวกเธอเกือบทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับได้นอนทำกันยังกับเป็นกระต่ายเลยเชียวล่ะ!...ก็ พอมานึกดู ฉันอาจจะหนักมือไปหน่อยแต่พวกเธอมาแกล้งฉันก่อนนี่หว่า! จะโดนเอาคืนมันก็ไม่แปลกนี่นา!!!เหมือนที่เคยมีใครบางคนพูดไว้นั่นแหละ‘ผู้ที่จะเขมือบได้ก็มีแต่คนที่เตรียมใจจะโดนเขมือบเท่านั้น’ อื้ม ๆ! กรตื่นเช้ามาก็พยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองใหญ่ทั้งที่ไม่จำเป็น แต่ก็ต้องขอบคุณศึกอันหนักหน่วงเมื่อวานด้วย ความงุ่นง่านในตัวกรเลยลดลงไปมากจนระบบความคิดปกติเริ่มกลับมาทำงาน เขา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status