〝 ท่านโรนี่... เหรอคะ? 〞 ชาลอตที่ตอนนี้กลับมายืนไหวแล้ว ถามกรออกมาแบบนั้นด้วยความสงสัยเช่นเดียวกับกร〝 อา.... 〞 กรตอบกลับเพื่อยืนยันอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย กรอยากจะอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงต้องการถามความเห็นของทุกคน พวกกรเลยไปหาที่นั่งอยู่ตรงมุมของกิลด์ซึ่งไม่มีคนเพื่อที่จะปรึกษากันได้แบบไร้สิ่งรบกวน〝 ว่าแต่... คุณโรนี่จ้างเราแล้วแปลกเหรอกร? 〞 มีอาที่ยังคงสงสัย ถามกรออกมาแบบนั้น〝 คืองี้มีอา... คุณโรนี่จ้างเรามาคุ้มกันทั้งที่เราเป็นเด็กใหม่หน่ะสิ นั่นแหล่ะที่แปลก... 〞 พอกรตอบไปแบบนั้น มีอาก็ยังเอียงคอสงสัยอยู่เหมือนเดิม เมอร์ลินที่ฟังมาตลอดเลยอธิบายเสริมอีกว่า〝 งานคุ้มกันนอกจากจะมีฝีมือแล้ว... ยังต้องมีความน่าเชื่อถือ เพราะถ้าคนคุ้มกันเป็นสายโจรซะเองก็คงซวย... แล้วก็ต้องมีประสบการณ์สูงในกรณีที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เด็กใหม่ไม่มี... 〞มีอาที่ได้ยินเมอร์ลินอธิบายก็เอานิ้วจิ้มแก้มในขณะวิเคราะห์ซักพัก เธอก็เข้าใจได้〝 งั้นเหรอ!? เข้าใจแล้ว! ก็เลยแปลกที่โรนี่มาจ้างเด็กใหม่แบบเราที่ไม่เหมาะกับงานคุ้มกันเลยสินะ! 〞〝 ใช่แล้วมีอา... ถึง
หลังจากกลับถึงโรงแรมด้วยความเหนื่อยล้าทั้งที่ไม่ได้ทานข้าวเที่ยง แต่เวลามันก็เลยไปแล้ว พวกกรเลยคิดว่าจะรวบไปทานมื้อเย็นทีเดียว ส่วนการดูผลสอบเลื่อนระดับก็จะไปดูพรุ่งนี้พร้อมกับการรับภารกิจของคุณโรนี่ไปพร้อมกัน แล้วจากกำหนดการ พวกกรจะต้องเดินทางในอีก 2 วันข้างหน้าตอนเช้ามืด เวลาว่างของพวกกรจึงเหลือพรุ่งนี้อีกวันเดียว พอกลับมาถึงห้องและเปลี่ยนเป็นชุดลำลองกันหมดแล้ว ทุกคนต่างก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ในขณะที่เมอร์ลินกำลังนั่งโต๊ะอ่านหนังสือ และมีอาก็กำลังนั่งงีบอย่างสบายใจโดยเอาไหล่พิงหลังกรที่นั่งอยู่ขอบเตียง กรที่คิดบางอย่างขึ้นมาได้เลยถามชาลอตซึ่งนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อยอยู่บนพื้น(สำหรับนั่งเล่น)ออกมาว่า〝 ชาลอต จะว่าไปเลเวลช่างตีเหล็กของเธอตอนนี้เป็นเท่าไหร่แล้วหล่ะ? 〞〝 ค่ะ... คือที่จริงแล้ว มันเพิ่งจะถึงเลเวล 3 ตอนที่เอาชนะบอสได้นี้เองค่ะ 〞 ชาลอตพูดแบบนั้นแล้วก็เปิดหน้าต่างสเตตัสให้กรดูเป็นการยืนยันหืม? งั้นเวลก็เต็มแล้วอ่ะดิ?สมเป็นบอสเลยแฮะ... แต่ค่าประสบการณ์กับความชำนาญมันไม่เกี่ยวกันนี่?แต่เห็นชาลอตเองก็ใช้ค้อนคล่องขึ้นเยอะเลย...คงถึงเวลาทำให้ชาลอตเปล่ง
หลังจากตื่นนอนก็ประมาณ 7 โมงครึ่ง... ถือว่าเร็วแล้วนะหลังจากออกแรงทั้งคืน... แถมตื่นก่อนชาลอตด้วย(ก็เธอถูกเมอร์ลินตั้งเวลาให้ตื่น 8 โมงนี่นา...)แน่นอนว่ารายละเอียดฉันไม่บอกหรอก! ไม่มีท๊าง!!!พอเตรียมตัวเสร็จครบทุกคน พวกเราก็ไปที่กิลด์นักผจญภัยทันที...หลังจากที่ยื่นคำขอเควสของคุณโรนี่ให้เป็นเควสที่ถูกต้องตามกฎแล้ว คุณเบลก็บอกให้ไปดูผลการสอบที่ข้างๆ กระดานเควสจะว่าไปก็เป็นเพราะเมื่อวานมันยุ่งๆ ด้วยแหล่ะนะเลยลืมไปซะสนิทเลย...แล้วระดับของพวกเราเป็นยังไงบ้างนะเหรอ?ของมีอาเป็นระดับ Cเมอร์ลินเองก็เป็นระดับ Cส่วนของเราเป็นระดับ Bจากที่ถาม... เห็นว่าในกรณีของมีอากับเมอร์ลิน ที่เลื่อนจากระดับ E เป็น C ในวันเดียวนั้น เคยมีแค่ 5 ครั้งเอง และลีโอนาโดก็เป็นหนึ่งในนั้นส่วนของเราเนี่ยสิ... คุณเบลบอกว่าเรานี่แหล่ะเป็นคนแรกที่ไต่ระดับได้เร็วขนาดนี้แถมบอกว่าจริงๆ ควรจะได้ระดับ S ก็เถอะ... แต่เพราะไม่มั่นใจในประสบการณ์เลยให้ได้แค่นี้แต่แค่นี้เราก็ดังโคตรแล้ว... มีเรื่องนี้เข้าไปอีก ตอนนี้แค่เดินไปเดินมาในเมืองเขาก็กระซิบกันแล้วหล่ะแบบประมาณว่า เฮ้ยๆ นั่นแบล็ครุคกี้ นี่หว่า! ไม่ก็... สุดยอด หม
〝 เคยเจอมาก่อน? พูดอะไรของนายกันหน่ะ? 〞 เมอร์ลินเป็นหนึ่งในคนที่ไม่เข้าใจเหตุผล เพราะตั้งแต่ที่กรมายังโลกนี้ กรก็เล่าให้ฟังก่อนแล้วว่า เขาอยู่แต่ในเมืองของอาณาจักรอาลัน ส่วนที่เหลือก็อยู่แต่ในดันเจี้ยน มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่กรจะเคยเจอกับเธอมาก่อน〝 ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน... แต่เอาเป็นว่าตอนนี้รักษาเธอก่อนแล้วกัน 〞 กรพูดแบบนั้น แล้วก็ยื่นมือไปหาเธอตรงจุดที่เป็นบาดแผลฉกรรจ์ แต่ว่า...〝 ไม่... ไม่เป็นไร... 〞 หญิงสาวหูสุนัขรีบบอกปัดกรด้วยน้ำเสียงแห้งผากอย่างเกรงอกเกรงใจ และพยายามใช้มือข้างหนึ่งยันมือกรไว้ และที่เธอเริ่มขยับได้ก็เป็นเพราะกรร่ายเวทย์ฟื้นสภาพให้ด้วยนั่นเอง〝 พูดบ้าๆหน่ะ! แผลสาหัสเต็มตัวยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก 〞〝 ! 〞 กรขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอปฏิเสธ แต่หญิงสาวที่ได้ยินคำพูดนั้นของกรกลับเบิกตาโพลงด้วยสาเหตุบางอย่างแทน〝 ฉันไม่มีเงินนะคะ... 〞 หญิงสาวบอกกับกรด้วยน้ำเสียงเกรงใจเช่นเดิม〝 ไม่คิดเงินหรอก 〞 กรพูดแบบนั้นแล้วก็ประคองเธอนั่งกับพื้น ก่อนจะเริ่มการรักษาบาดแผลสาหัสของเธอทุกจุด โดยที่ไม่ปล่อยให้เธอแก้ตัวอะไรอีก ซึ่งเธอก็ยอมแต่โดยดี และไม่
〝 เธอคนนั้น... มีพรสวรรค์งั้นเหรอคะ? 〞 ชาลอตเห็นกรดีใจอย่างออกนอกหน้าเธอเลยถามออกมาแบบนั้นด้วยความแปลกใจ〝 ใช่แล้วหล่ะชาลอต! แถมยังโกงโคตรเลยหล่ะจะบอกให้! 〞 กรยังคงยืนเกาะขอบระเบียง และยังคงเนื้อตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นไม่หาย〝 นี่ จะยังไงก็นั่งก่อนเถอะน่า 〞〝 อะ อา... โทษที 〞 พอเมอร์ลินเตือนกรให้ใจเย็นลง กรเลยเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองตื่นเต้นเกินไป เขาจึงขอโทษทุกคน ก่อนที่จะนั่งลงที่เดิม...〝 แล้วยังไงเนี่ย? อธิบายให้พวกเราเข้าใจหน่อยสิ 〞เมอร์ลินเปลี่ยนท่านั่งเป็นไขว่ห้าง ก่อนจะเอามือขวาเท้าคางถามกรด้วยความอยากรู้อยากเห็น(และหงุดหงิดเล็กน้อย) มีอากับชาลอตก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงว่าอยากรู้เหมือนกัน〝 สกิลที่เธอจะใช้ได้หน่ะเยอะพอสมควร... แต่มีอยู่อันนึงที่หาจากที่ไหนไม่ได้แน่ๆ มันสุดยอดขนาดนั้นเลยหล่ะ 〞〝 แล้วมันคืออะไรหล่ะยะ! 〞 เมอร์ลินส่งเสียงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ถึงขีดสุด กรเลยกอดอกวางท่าใหญ่โตก่อนจะตอบคำถาม ราวกับว่านั่นเป็นพลังของตัวเองยังไงอย่างงั้น〝 ความเสียหายเป็นศูนย์!!! 〞〝 หา? 〞เมอร์ลินยังคงไม่คลายข้อสงสัย มีอาและชาลอตก็ยังเอียงคอสงสัยอยู่ กรเลยต้อง
หลังจากนั้นพวกเราก็รีบออกจากร้าน แต่ตอนก่อนจะออกจากร้าน เมอร์ลินก็เดินไปที่เคาน์เตอร์...เห็นคุยกันซักพัก เมอร์ลินก็กลับมาพร้อมกับถุงใส่เงินขนาดใหญ่... เอ่อ คือมันใหญ่จริงๆนะ ใหญ่กว่ากระสอบข้าวอีกแน่ะ!แล้วพอถามว่าคืออะไร เมอร์ลินก็บอกว่า...เงินที่นายให้มาฉันลงให้นายชนะแจ็คสันหมดหน้าตักเลยหล่ะ! อ่ะนะเมอร์ลินบอกแบบนั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม...แล้วผลลัพธ์เป็นไงหน่ะเหรอ? ลงไป 865 เหรียญทองคำขาว ตัวคูณก็คืออัตราต่อรอง 50 ทางร้านหักไป 10% เป็นของร้าน...พอคำนวณออกมาแล้วก็... 38,925 เหรียญทองคำขาว!!!!!!เงินทุนเพิ่มขึ้น 40 เท่าในพริบตา! โหดสลัดรัสเซียมาก! เทียบเป็นไทย หกหมื่นสี่พันล้านบาทเชียวนะเฮ้ย!!!เมอร์ลินนี่สุดยอดเลยแฮะ เรานี่คิดไม่ถึงเลย... คิดแบบนั้นแล้วก็พุ่งเข้าไปกอดเมอร์ลิน เธองี้เขินไปเลย... โทษทีนะ แต่มันดีใจจริงๆอ่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไอ้คุณเจ้าของร้านมันหงุดหงิด... แต่ยังโวยนิดเดียวกับเงินก้อนนี้ ก็แสดงว่าผลประกอบการของร้านมันเยอะกว่านี้อ่ะดินี่สรุปไอ้เจ้าของร้านมันรวยขนาดไหนกันเนี่ย? แต่ไม่สำคัญหรอก ช่างหัวมันเถอะ!อ้อ! แล้วก็ตอนก่อนออกจากร้าน เราเอาชุดออกมาให้ซาช่าเปลี่ยนหน
เพราะนอนเร็ววันนี้เราเลยตื่นเช้า... เช้าที่ว่านี่คือ 6 โมงหน่ะนะวันนี้มีนัดเข้าไปในเมืองชั้นในกับคุณโรนี่ แต่เวลานัดคือตอนบ่าย 2หมายความว่าช่วงเช้าเราจะว่างนั่นเอง... แล้วเวลาจะเอาไปทำอะไรงั้นเหรอ?ก็ลุยดันเจี้ยนหน่ะสิครับ... ห่างจากตัวเมือง 1 กิโลเมตรทางฝั่งตะวันตกมีดันเจี้ยนระดับ A อยู่ที่นึงที่พอใช้ได้ชาลอตก็พอรู้จักดันเจี้ยนนี้อยู่... ก็จากหนังสือที่เคยอ่านนั่นแหล่ะนะ...เพราะแบบนั้นเราเลยลงไปทานข้าวเช้ากันก่อนแล้วค่อยขึ้นมาเตรียมตัว... แล้วพอทั้ง 5 คนขึ้นมาบนห้องหลังทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย พวกกรก็เริ่มเตรียมการในทันที...〝 ซาช่า เคยใช้อาวุธมาก่อนไหม? 〞 กรนั่งบนพื้นพร้อมกับนำวัสดุออกมากองไว้เพื่อเตรียมสร้างเกราะให้ซาช่า〝 คะ ค่ะ... เคยฝึกใช้ดาบกับโล่มาบ้างค่ะ 〞 ซาช่าที่นั่งพับเพียบอยู่ตรงข้ามกับกร ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเกรงใจเล็กน้อย แต่ที่ตอบกรในทันทีก็แสดงให้เห็นว่าเธอเองก็เริ่มเปิดใจให้กรบ้างแล้วดาบโล่งั้นสินะ... ภาพพจน์เหมือนกับที่คิดไว้เลยแฮะอัศวินมังกรไรเงี้ย!? เท่ไม่หยอกเลยนะเนี่ย... ในขณะที่กรคิดแบบนั้น เขาก็คัดเลือกอาวุธและโล่ที่คิดว่าดีที่สุดจาก
หลังจากนั้นพวกเราก็พาซาช่าเก็บเวลเรื่อยๆอาการกลัวก็ลดลงจนอยู่ในระดับน่าพอใจแล้วใช้เวลาเล็กน้อยให้เธอคุ้นชินกับคำสั่งของเรากับฝึกฟอร์เมชั่นพื้นฐานไปในตัวจนในที่สุดตอนนี้เราสามารถสู้ร่วมกันได้แล้ว...เคร๊ง! เสียงโลหะมีคมสัมผัสเข้ากับโล่ของซาช่าดังก้องไปทั่วบริเวณทำให้กรกลับมาสนใจสถานการณ์ปัจจุบัน ในตอนนี้พวกกรกำลังเข้าปะทะกับมอนสเตอร์จำนวน 5 ตัวเท่าจำนวนพวกกร 3 ตัวเป็นวูล์ฟแบร์ ส่วนอีก 2 ตัวเป็นมอนสเตอร์ที่มีลักษณะเหมือนลิงคิงคองขนาด 2 เมตรครึ่ง ขนทั่วทั้งตัวเป็นสีเงินและใช้หมัดเป็นการโจมตีหลักตู้ม! หมัดของคิงคองตัวที่กรรับมืออยู่อัดกระแทกลำตัวของเขา แต่กรก็ใช้มือซ้ายรับไว้ได้เหมือนทุกที〖 หมัดแรงน่าดูนะเนี่ย ไหวไหมเจ้าหนู? 〗เคลเบรอสที่อยู่ในมือขวาของกรถามออกมาด้วยความเป็นห่วงแบบกวนประสาทเล็กน้อย 〝 จะเป็นงั้นได้ไง? เดี๋ยวก็จบแล้วหล่ะ เหมือนทุกทีนั่นแหล่ะ! 〞 กรพูดแบบนั้นแล้วก็ดันหมัดของคิงคองออก ก่อนจะฟันมันด้วยเคลเบรอสในมือขวา ทำให้คิงคองที่มีร่างกายใหญ่โตหลบไม่พ้นและตายในดาบเดียว และหากมองไปทางมีอากับเมอร์ลิน พวกเธอเองจัดการคู่ต่อสู้ของตัวเอ
ช่วงเที่ยงเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่มีนัดสำคัญในช่วงบ่าย นี่เป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมในการเตรียมตัวสำหรับสองสาว... สำหรับเรเชลกับริต้า พวกเธอกำลังลองชุดสำหรับเดทในช่วงบ่ายกับแฟนหนุ่มสุดที่รักของพวกเธอ สำหรับเรเชล เรื่องชุดไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะเลือกไว้นานมาก และมีชุดตัวเก่งในแบบที่เรียบร้อยเหมาะสมกับตัวเองอยู่แล้ว ปัญหาคือชุดของน้องสาวอย่างริต้านี่แหละที่ทำให้พี่สาวคนนี้เป็นกังวลจนต้องกุมขมับ ถึงจะเป็นเสื้อยืดที่ใส่แล้วรัดรูปโชว์สะดือ และกางเกงยีนส์ขาสั้นเหมือนกับทุกทีก็เถอะ“...พี่ว่าชุดแบบนี้มันเปิดไปหน่อยนะ”“สงสัย... คุณกรน่าจะชอบ... แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?” ริต้ามองกลับมาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างบริสุทธิ์ใจ ในหัวเธอคงคิดอยู่แค่สามเรื่องเท่านั้นอันได้แก่ กร ครอบครัว แล้วก็กร ซึ่งอันที่จริงแนวคิดตรงนั้นก็ไม่ต่างจากเรเชลเท่าไรนัก ริต้ามองกวาดจากหัวจรดเท้า มองชุดเดรสแบบเปิดไหล่ของเรเชลแต่เป็นกระโปรงแบบคลุมเข่า เรียบร้อยเหมือนกับที่เรเชลใส่เป็นปกติ ความใคร่รู้ของริต้าจึงเกิดขึ้นในจังหวะนั
หลังจากเดทกับไมน์และรีเบคก้าจบลงพวกเราก็กลับบ้านเป็นเดทที่ดีอีกครั้งสำหรับสาว ๆ ที่ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเรานักเพราะถ้าว่ากันตามตรง เหล่าภรรยาของฉันหลายคนเพิ่งจะได้คบกันในช่วงที่กำลังลุยดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ ของอาร์เคมีดีสหมายถึงเจนนี่ ไมน์ รีเบคก้า ซิลเวีย ยูมิน่า ฟลอร่า แล้วก็เฮเลน่ากับคอร์ดิเรีย ทั้งแปดคนนั่นแหละพวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเดทกันเท่าไหร่ก็เลยยังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บ้างแต่ข้อดีก็คือไม่ว่าจะพาไปเดทที่ไหนพวกเธอก็ยังไม่คุ้นชินเลยมีโอกาสเรียนรู้กันและกันอีกมากหืม? แล้วความทรงจำเรื่องเดทจากเมื่อชาติก่อน ๆ ของพวกเธอที่เคยมีกับเรานี่ไม่นับเหรอ?ก็ไม่เชิงหรอกนะ... ความทรงจำเมื่อชาติก่อนมันก็เหมือนกับความทรงจำในวัยเด็กนั่นแหละ เรื่องเกิดตั้งนานแล้วใครจะไปจำรายละเอียดได้ล่ะจริงไหม?ก็จริงแหละที่ถ้าทำอะไรสักอย่างให้นึกถึง ความทรงจำพวกนั้นก็จะถูกกระตุ้นทำให้นึกออกแต่ฉันคุยกับทุกคนหลายรอบแล้วว่าอดีตก็คืออดีต จะไม่ให้มันกลายมาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้กันและกันของพวกเราหรอกก็ด้วยเหตุนั้นแหละ ทั้งแปดคนเลยยังไม่ค่อยชินกับการไปเดทแบบทั่วไป ก็เลยพาไปเดทที่ต่าง ๆ
เวลาผ่านไปจนเกินเที่ยง ฉันเลยติดต่อบอกให้ทุกคนกินข้าวรอกันไปก่อนส่วนฉัน ฟลอร่าแล้วก็ยูมิน่าไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารใกล้ ๆนับว่าเป็นการยืดเวลาเดทได้ดี สองสาวดีใจใหญ่ที่ได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น น่ารักจริง ๆ เลยน้าทั้งสองคนจากนั้นช่วงบ่ายไปถึงเย็นก็จะเป็นคิวของไมน์กับรีเบคก้า ฉันก็เลยต้องกลับบ้านไปเตรียมตัวใหม่เพราะทั้งสองคนก็รออยู่ที่บ้านเหมือนกันแหล่ะนะแถมแฟนของฉันแต่ละคนก็ชอบบรรยากาศการเดทแตกต่างกันด้วยทั้งสไตล์การแต่งตัว น้ำหอม สถานที่ เวลา หรือความใกล้ชิดในที่สาธารณะเพราะทุกคนโตมาต่างกันเลยมีความต้องการคนละแบบ ก็ปกตินั่นแหล่ะแต่ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิดเพราะฉันรู้สิ่งที่ทุกคนชอบดีอยู่แล้ว จำได้ขึ้นใจด้วยว่าไปแล้วพอพูดถึงความใกล้ชิด ไมน์กับรีเบคก้านี่ก็ออกจะเหนียมอายกว่าทุกคนหน่อยถ้าเป็นสาว ๆ ส่วนใหญ่จะเดินกอดแขนฉันกลางธารกำนัลได้สบายแต่ไมน์กับรีเบคก้าจะยังไม่ค่อยกล้าทำอย่างนั้นเท่าไหร่ ก็เป็นในทำนองเดียวกับรินนั่นแหล่ะอลิซนั้นยังพอว่าเพราะโตมาแบบรับวัฒนธรรมต่างชาติมาใช้เต็ม ๆก็ขนาดพุ่งเข้ามากอดฉันที่เป็นเพื่อนสนิทยังกับเพื่อนเพศเดียวกันได้สบาย ๆ นั่นแหล่ะ (ถึงเธอจะไม่ได้ทำแบบ
หลังจากการเที่ยวสวนสนุกของฉัน เจนนี่และเฮเลน่าจบลงด้วยความหวานชื่น พวกเราก็กลับบ้านด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มขากลับก็มีการซื้อของที่ระลึกอย่างสร้อยคอให้พวกเธอและแน่นอน นอกเหนือจากนั้นพวกเราก็ซื้อเค้กกลับไปฝากทุกคนด้วยถึงจะมีเดทกับแฟนสาว แต่ก็ต้องไม่ลืมครอบครัวที่รออยู่บ้านด้วยโดยเฉพาะลูกสาวสุดที่รักอย่างแมรี่ นี่แหล่ะหน้าที่เสาหลักของบ้านล่ะ อื้ม ๆ!เท่านี้วันแห่งการพักผ่อนก็จบไปอีกวันด้วยความสงบสุข...ถึงก่อนนอนจะมีเรื่องจริงจังให้คิดนิดหน่อยก็เถอะนั่นเพราะระหว่างวันได้มีข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดการคร่าว ๆ ของการประกาศความสำเร็จที่พวกเราทุกคนปราบอาร์เคมีดีสส่งเข้ามาน่ะสิก็มาจากพวกเสือ คัทยูชา แอดรูวส์แล้วก็พี่มารีนั่นแหล่ะดูเหมือนอีก 6 วันนับจากนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกถึงความสำเร็จของพวกเราพร้อมกับพิธีมอบรางวัลจากกษัตริย์ของอาณาจักรที่เป็นพันธมิตรก็... ฟังดูเป็นพิธีที่น่ารำคาญ แต่มันก็ขาดเสียมิได้หรอกแถมการทำแบบนั้นยังเป็นการตรวจสอบความร่วมมือจากอาณาจักรต่าง ๆ ให้ร่วมมือกันในการรับมือกับจอมมารในอนาคตด้วยแต่... ปัญหาก็คือพวกเราในตอนนี้ยังไม่มีเส้นสายในการติดต่อกับเผ่าปีศาจนี่แหล่ะ
ในห้องน้ำส่วนที่เป็นห้องแต่งตัวบ้านครอบครัวของกรก่อนหรือหลังเข้าไปใช้ห้องอาบน้ำรวมของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีใครใช้งานเป็นเวลานาน มันจึงเป็นเรื่องแปลกทีเดียวที่จะมีคนเพิ่งอาบน้ำในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ โดยเฉพาะบ้านของกรที่ต้องตื่นมากินข้าวเช้า รวมถึงอาบและแช่น้ำรวมกันทั้งบ้านเป็นกิจวัตร“แบบนี้ดีไหมนะ? หรือแบบนี้ดี?” นั่นถึงเป็นเรื่องแปลกเมื่อมีหญิงสาวกำลังจัดทรงผมด้วยสีหน้าสายตาจริงจังในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ คน ๆ นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสาวผู้มีสไตล์มากที่สุดและมีเสน่ห์ของสาวผู้ใหญ่เหลือล้นอย่างเจนนี่หนึ่งเดียวคนนี้เอง โดยปกติแล้วเธอเองก็ค่อนข้างดูแลตัวเองตลอดเวลา เรียกว่าแม้จะอยู่บ้านก็ยังแต่งหน้าแต่งตาบาง ๆ ให้ดูเป๊ะอยู่เสมอ อย่างน้อย ๆ นั่นก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แฟนหนุ่มอย่างกรรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะเธอค่อนข้างจัดเต็มมากทีเดียว ถึงแบบนั้นก็ไม่มากเกินไปกว่าระดับที่ทำให้ดูผิดธรรมชาติ“เป็นยังไงบ้างคะเจนนี่” ในจังหวะนั้นก็มีคนเดินเข้ามาในห้องพอดิบพอดี เธอเป็นสาวหูแมวผู้เงียบขรึมดูไร้อารมณ์ที่สุ
ยามเช้าอันสดใสมาพร้อมเสียงสัตว์อรุณสวัสดิ์เป็นกิจวัตรอันสร้างความสดชื่นรับวันใหม่ได้ทุกครา ไม่มีเสียงปลุกอะไรไพเราะไปกว่านี้ กับบรรยากาศสดชื่นและน่าเย้ายวนชวนให้ตื่นเช้าเช่นนี้ คงไม่มีใครหาญกล้านอนต่อได้นอกเสียจากคนที่ทำงานจนเหนื่อยล้าหรือกำลังอยู่ในช่วงขี้เกียจสันหลังยาว เว้นเสียแต่ว่าเธอคนนั้นไม่ได้หลับเสียตั้งแต่แรก ข้อยกเว้นดังกล่าวคือฟีโอน่าที่กำลังนั่งเขียนเอกสารในห้องส่วนตัวของเธอ ในบ้านส่วนตัวที่อยู่อาศัยร่วมกันกับครอบครัวของเธอตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้าตรู่นี้ อันที่จริงต่อให้เธอทำงานค้างไว้ก็คงไม่มีใครว่าเธอได้ เพราะในอาณาจักรที่เธอปกครองตอนนี้ไม่มีใครใหญ่ยิ่งไปกว่าเธออีกแล้ว ต่อให้ประกาศกับเหล่าขุนนางไปแล้วว่าจะวางมือ แต่สถานะของอดีตราชินีและหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ผู้กอบกู้โลกคงไม่มีใครกล้าหือแน่นอนต่อให้ลงจากตำแหน่งไปแล้ว สิ่งที่ผลักดันฟีโอน่าให้ทำงานจึงเป็นแรงขับเคลื่อนส่วนตัวอย่างความรับผิดชอบล้วน ๆ จะว่าต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเหล่าขุนนางก็คงได้ แต่อันที่จริง... สาเหตุหลักมันเป็นเพราะเธ
“ทนไม่ไหวแล้ว!!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นสิ่งแรกของยามเช้าอันสดใสของพวกกร ความเหนื่อยล้าจากศึกกลางคืนทำให้ทุกคนยังงัวเงีย แต่ก็ตื่นเต็มตากันหมดเพราะเสียงตะโกนของตัวป่วนประจำบ้านอย่างอลิซ ด้วยความที่ทุกคนนอนบนฟูกปูพื้นทำให้ทุกคนนอนเกลื่อนกลาด และเพราะผ่านศึกอันหนักหน่วงกันมา ทั้งสาว ๆ และกรเลยมีแค่ผ้าห่มคนละผืนทับตัวเปล่า ๆ เหมือนเด็กแรกเกิด แต่สภาพแบบนั้นไม่ได้ทำให้อลิซร่าเริงน้อยลงเลย“ได้ยินป่าว! ฉันบอกว่า ‘ทน-ไม่-ไหว-แล้ว’ อ่ะ!” เธอทำแก้มป่องทุบพื้นหลายต่อหลายที ถึงไม่รู้ว่ากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรก็เถอะ“มีเรื่องอะไรแต่เช้าเนี่ย?” กรที่หนุนหมอนอยู่ถึงชันตัวขึ้น เขาต้องค่อย ๆ ใช้แขนสองข้างประคองให้มีอากับรินลงหนุนหมอนแทนจากที่นอนซบไหล่เขามาตลอดคืน อาจเพราะแบบนั้นด้วยมีอากับรินเลยทำหน้ามุ่ย แต่พอได้กรลูบหัวไปคนละสองทีพวกเธอก็ยิ้มพริ้มกันเพลินจนต้องหลับต่อ“หรือว่าอยากกอดเหรอ? งั้นมามะ” กรอ้าแขนเชื้อเชิญด้วยใบหน้าระรื่น เพราะเขาเองก็อยากจะกอดอลิซเหมือนกัน“ไม่ใช่ย่ะ! ไม่สิ... ถึงจริง ๆ จะอยากกอดก็เถอะ แต่ที่จะพูดมันไม่ใช่เรื่
————วันรุ่งขึ้นหลังจบศึก, ณ มหาดันเจี้ยนโบราณเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยว ภายในมหาดันเจี้ยนโบราณของฟรังซ์ ออลเดลผู้เป็นเจ้าของนั้น มีดันเจี้ยนชั้นหนึ่งที่เป็นส่วนอยู่อาศัย หากนับตามลำดับคงเป็นชั้นที่ 101 ว่าไปแล้ว มันก็คือดันเจี้ยนชั้นเดียวกับที่กรและมีอาได้เข้ามาพักหลังจากที่เคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้สำเร็จแล้วนั่นเอง คฤหาสน์ของฟรังซ์นั้นมีห้องอยู่จำนวนมากทั้งที่กำลังใช้งานอยู่และที่เป็นห้องว่างพร้อมให้ปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามต้องการ ในบรรดาห้องว่างทั้งหลายเหล่านั้นคือห้องชั้นใต้ดินของอาคารหลักอันมืดมิด ได้ถูกดัดแปลงเป็นห้องกรงแบบง่าย ๆ คำว่าง่าย ๆ ที่ว่านั้น คือการใส่ลูกกรงเหล็กหน้าห้องแทนประตู พื้นที่เป็นดินไม่ได้รับการตกแต่งหรือทำความสะอาดเพื่อไว้ใช้ลงโทษ นอกเหนือจากนั้นคือกุญแจมือและเท้าที่ล่ามติดโซ่ผู้กระทำผิดเอาไว้ในฐานะนักโทษอยู่กลางห้องไม่ให้ขยับไปไหนได้ และคนที่ถูกล่าม ไม่สิ... ล่ามตัวเองอยู่นั้น ก็ไม่ได้เป็นใครอื่นนอกจากอาร์เคมีดีส ตัวอาร์เคมีดีสนั้นแม้จะถูกล่ามโซ่ในสภาพอนาถาแต่กิริยาของเขากลับยังนิ่งสงบ ทั้
————ก่อนหน้านี้เล็กน้อย“แล้ว... จะเอายังไงต่อดีล่ะเนี่ย” หลังออกมาจากมหาดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ จนมาอยู่บนชายหาดของเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด เมอร์ลินก็เอ่ยถามขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะอาเธนที่เป็นคนใช้ไอเทมทำให้ทุกคนออกมาได้รวมถึงมหาปราชญ์คนอื่น ๆ นั้นไม่ได้มาด้วย เนื่องจากจำเป็นต้องทำลายแกนพลังงานของดันเจี้ยนเพื่อลดอัตราการดูดซับเท่าที่จะทำได้แม้แกนกลางของดันเจี้ยนจะกลายเป็นลาสบอสพร้อมกับอาร์เคมีดีสไปแล้วก็ตาม และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันก็เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง คำถามของเมอร์ลิน จึงไม่ใช่อะไรนอกจากการยืนยันสิ่งที่กรจะทำหลังจากนี้ ทั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวล แต่ว่าก่อนหน้านั้น...“เดี๋ยวก่อนสิ! นี่จะไม่สนใจไอ้เจ้ายักษ์นั่นหน่อยเหรอเนี้ยว!?”“นะ นั่นสิคะ! นั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ควรกังวลมากกว่านะคะ!” ในขณะที่ฟลอร่ากับซาช่าต่างก็ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าจนเหมือนคนสติแตก ซึ่งถ้าบนนั้นมีแค่เมฆสีครามเหมือนปกติก็จะดี แต่เพราะไม่ใช่ พวกเธอถึงกลัวจนขนลุกกันขนาดนั้น เพราะที่อยู่บนนั้น คือมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ท่อนล่า