Share

บทที่ 12

นี่ใช่นางเด็กบ้านเยว่ที่ตนเคยเจอจริงน่ะหรือ

แม่เฒ่าเซี่ยเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า อีกฝ่ายไม่เหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย คำพูดที่ฉาดฉานแสดงออกถึงความมั่นใจ การกระทำท่าทางทุกอย่างล้วนสง่างาม แฝงด้วยไปกลิ่นอายข่มขวัญกดดันผู้คน แม้แต่ฮูหยินนายอำเภอที่นางเคยได้เห็นไกลๆ ก็ยังไม่อาจเทียบได้

“เจ้าต้องการอะไร” แม่เฒ่าเซี่ยถาม ตอนนี้นางรู้สึกเสียใจเหลือเกินที่ตัวเองยอมรับการเปลี่ยนตัวเจ้าสาว เด็กนี่เลวร้ายยิ่งกว่าย่าของมันเสียอีก

“ข้าต้องการแยกบ้านเจ้าค่ะ”

“แต่ข้าขอเตือนเจ้า อย่าได้คิดว่าจะ… อะไรนะ!” แม่เฒ่าเซี่ยเกือบจะคิดว่าตนเองหูฝาดไปแล้ว นางตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง ประกายความยินดีแทบจะล้นปรี่ออกมาจากเบ้าตา

ที่นางกัดฟันยอมรับเงื่อนไขของยายแก่เยว่ก็เพื่อการนี้ไม่ใช่หรือ!

“สกุลเซี่ยของเราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่เอาเถอะในเมื่อเจ้าต้องการ ข้าก็ไม่ขัดขวาง นับจากวันนี้พวกเจ้าก็อยู่ที่นี่ ส่วนเสบียงอาหารข้าได้จัดแจงไว้ให้แล้ว นี่เงินห้าตำลึงมอบให้เจ้าไว้เป็นค่าใช้จ่าย เมื่อแยกบ้านแล้วก็เก็บไว้ให้ดีๆ”

แม้แม่เฒ่าเซี่ยจะคิดแยกครอบครัวลูกชายคนรองออกไป แต่ในใจนางก็ยังคิดยึดจับพวกเขาไว้ไม่ปล่อย วันนี้ที่มาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางดี สาเหตุก็เพื่อแสดงอำนาจกดข่มลูกสะใภ้ที่เพิ่งแต่งไม่ให้โงศีรษะขึ้นได้นั่นเอง

น่าเสียดายที่เรื่องราวกลับไม่เป็นตามแผนการที่นางคิดไว้ อีกฝ่ายแค่เอ่ยคำพูดไม่กี่ประโยค ก็สามารถแย่งชิงสิทธิ์การเป็นผู้นำไปจากนางได้แล้ว แม่เฒ่าเซี่ยไม่ถูกใจสิ่งนี้เป็นอย่างยิ่ง

หญิงชรากลอกตาด้วยความหงุดหงิด ตั้งแต่แม่สามีจากไป สกุลเซี่ยก็มีแม่เฒ่าเซี่ยเป็นผู้ดูแลจัดการ แม้แต่สามีที่ล่วงลับไป ยังต้องยอมลงให้นางหลายส่วน

ยิ่งคิดแม่เฒ่าเซี่ยก็ยิ่งมีโทสะ ถ้าไม่เพราะเยว่อวิ๋นเอาอนาคตของบุตรชายนางมาขู่ มีหรือนางจะยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เพียงแต่ปล่อยจริงหรือแกล้งหลอกผู้ใดจะรู้ได้เล่า

“หลังจากแยกบ้านกันไปแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะทำตัวให้ดีสมกับข้อเรียกร้อง ปรนนิบัติสามี ดูแลบุตรธิดา รักษาผลประโยชน์ของครอบครัวไว้ให้ดี”

ในคำพูดทั้งหมด ประโยคสุดท้ายจึงจะเป็นสิ่งที่นางต้องการสื่อจริงๆ แม้สิ่งของเงินทองที่มอบให้จะไม่ได้มากมาย ทว่าแม่เฒ่าเซี่ยก็ไม่ต้องการให้สะใภ้นำกลับเอาไปจุนเจือทางบ้านเดิม

“ข้าว่า ท่านแม่น่าจะเข้าใจคำว่าแยกบ้านของข้าผิดไปแล้วนะเจ้าคะ” เยว่อวิ๋นแย้มรอยยิ้มจนยิ้มตาหยี กล่าวต่อ “ที่ข้าบอกว่าต้องการแยกบ้านนั้น ไม่ได้หมายถึงการแยกที่อยู่ส่งๆ แบบนี้เจ้าค่ะ”

“หมายความว่าอย่างไร” แม่เฒ่าเซี่ยไม่เข้าใจเอ่ยถาม นางมองรอยยิ้มของลูกสะใภ้หมาดๆ แล้วพลันหนาวสันหลังวูบวาบบอกไม่ถูก

“แน่นอน การแยกบ้านที่ข้าหมายถึง คือการแยกครอบครัวเจ้าค่ะ”

แม่สามีราคาถูกผู้นี้กลิ้งกลอกเจ้าเล่ห์เพทุบาย แล้วยังไร้น้ำใจอย่างที่สุด สูบเลือดสูบเนื้อสามพ่อลูกจนแทบไม่มีเหลือ พอทำประโยชน์อันใดให้ไม่ได้ก็คิดจะเขี่ยทิ้ง คนเช่นนี้หากนางแค่พาพวกเขาแยกตัวออกมาอยู่อีกบ้าน ก็จะรังแต่เป็นการสะสมปัญหาต่อไปในอนาคตเท่านั้น

“ไม่มีทาง!” แม่เฒ่าเซี่ยปฏิเสธทันที

การที่นางแยกบ้านกับพวกเขาครั้งนี้ แท้จริงเป็นแค่การแยกกันอยู่เท่านั้น ตัวแม่เฒ่าเซี่ยเองก็รู้ข้อนี้ดี ที่นางทำเช่นนี้ ก็เพื่อต่อไปในภายหน้าหากลูกรองสามารถดีขึ้น ครอบครัวนางก็ยังสามารถรับผลประโยชน์จากเขาได้ ทว่าหากแยกครอบครัวกันแล้ว นั่นหมายความว่าอนาคตพวกนางไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ ทั้งสิ้น

ไม่มีทาง! นางไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด!

“เช่นนั้นข้าก็จะกลับบ้านเดิม” เยว่อวิ๋นกล่าวเนิบๆ ไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่น้อย “เดิมทีการแต่งงานนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า พวกท่านเปลี่ยนตัวเจ้าสาว ปิดบังยัดเยียดสามีที่เดินไม่ได้ทั้งยังตาบอดมาให้ข้า อ่อ ยังมีลูกติดที่เป็นภาระมาอีกถึงสองคน”

เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองไม่พอใจมาก เยว่อวิ๋นจึงจำเป็นต้องแสดงท่าทีรังเกียจสามพ่อลูก นางเอ่ยประโยคจี้ใจดำแม่เฒ่าเซี่ยออกมา พลางนึกยินดีที่เจ้าไชเท้าน้อยทั้งสองไม่ได้ยินถ้อยคำโหดร้ายพวกนี้

เพราะนางรู้ดีว่าไม่ว่าเมื่อใดความรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการก็สามารถทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดได้เสมอ

“อย่าฝันเลย เจ้าแต่งเข้าสกุลเซี่ยเราแล้ว อยู่เป็นคนสกุลเซี่ย ตายก็ต้องเป็นผีสกุลเซี่ย” นางเสียสินสอดให้บ้านเยว่ไปแล้ว ถ้ายังต้องเสียคนอีก นั่นจะไม่เรียกขาดทุนซ้ำซ้อนรึ

ที่สำคัญนอกจากสะใภ้คนนี้ เกรงว่าต่อให้พลิกดินหาก็คงไม่พบคนที่จะยอมแต่งให้บุตรชายคนรองแล้ว หากปล่อยนางไป ใครจะมาสานต่อรับภาระนี้จากตนเล่า

“ถ้าเช่นนั้นก็ต้องแยกครอบครัวตามที่ข้าเสนอ ไม่อย่างนั้นข้าก็จะกลับบ้านเดิม และถ้าท่านคิดจะใช้กำลังบังคับ ข้าจะไปตีกลองร้องทุกข์ที่ว่าการอำเภอ ประกาศให้ทุกคนรู้กันไปทั่ว ว่าบ้านเซี่ยจงใจหลอกลวงการแต่งงาน หากเรื่องนี้แพร่ออกไปท่านว่าผู้คนจะเชื่อใคร ท่านหรือว่าข้า”

เยว่อวิ๋นกึ่งเอ่ยเงื่อนไขกึ่งข่มขู่ นางไม่กลัวเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ตกลง เพราะเข้าใจในความเห็นแก่ตัวของแม่เฒ่าเซี่ยเป็นอย่างดี ยายแก่นี่ไม่มีทางนำเอาอนาคตบุตรชายคนเล็กมาเสี่ยงกับตนเป็นแน่

“แยกครอบครัวที่เจ้าต้องการ หมายถึงแบ่งทรัพย์สินด้วยใช่หรือไม่” แม่เฒ่าเยว่เองก็ไม่ใช่คนหัวทึบ ถึงตอนนี้ถ้านางยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเยว่อวิ๋น ข้าวที่เคยกินมาก็นับว่าเสียเปล่าแล้ว

“ท่านแม่ฉลาดยิ่ง” เยว่อวิ๋นไม่ปฏิเสธ นางยิ้มกว้างจนดวงตากลมหยีโค้ง แม่เฒ่าเซี่ยมองรอยยิ้มนั้นอึดอัดจนหายใจไม่ออก

“เรื่องนี้ข้าคนเดียวตัดสินใจไม่ได้ ต้องไปปรึกษาพวกพี่น้องของเจ้ารองก่อน” ตอนแรกที่ตกปากรับคำยายเฒ่าเยว่เปลี่ยนคนเพราะเห็นว่าสะใภ้คนนี้เป็นคนหัวอ่อน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการยกหินทุ่มใส่เท้าตนเอง [1] ไปเสียได้ แม่เฒ่าเซี่ยคิดแล้วนึกเจ็บใจจนลำไส้เขียว

“ได้สิเจ้าคะ ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอคำตอบจากท่านแม่นะเจ้าคะ” เยว่อวิ๋นไม่ดึงดัน ทว่าอาศัยความไวเอื้อมมือไปคว้าเงินตำลึงในมือแม่สามีมาถือไว้ “ส่วนเงินนี่ สามีไม่มียากิน ข้าจะนำเงินส่วนนี้ไปตามท่านหมอมาจ่ายยา ท่านแม่คงไม่ติดขัดอะไรใช่ไหม”

แม่เฒ่าเซี่ยมองตำลึงเงินที่หลุดลอยไปด้วยใบหน้าดำคล้ำ ถ้านางบอกว่าติดขัด อีกฝ่ายจะยอมคืนเงินมาให้หรือไม่เล่า

เยว่อวิ๋นสอดตำลึงใส่แขนเสื้อพลางตบอกปุๆ “ท่านแม่ท่านวางใจได้เลย ลูกสะใภ้จะใช้เงินพวกนี้อย่างคุ้มค่า เพราะการรักษาสามีสำคัญที่สุด ประเดี๋ยวข้าจะไปถามหัวหน้าหมู่บ้านว่าแถวนี้มีหมอเก่งๆ บ้างหรือไม่ จะได้ไปเชิญมา ถึงตอนนั้นค่ารักษา…”

ยังจะเอาอีกหรือ!

แม่เฒ่าเซี่ยถลึงตาโปน เงินที่ถูกชิงไปยังไม่ทันเอ่ยปากเอาคืน ลูกสะใภ้ตัวดีอ้าปากก็คิดจะเอาเพิ่มอีก ชาติก่อนนางเกิดเป็นเทาเที่ย [2] หรืออย่างไร อ้าปากทีก็กว้างซะขนาดนี้

“ข้าจะกลับไปปรึกษาพวกเจ้าใหญ่” ว่าจบแล้วก็หันหลังเดินจากไปทันที รอก่อนเถอะ นางจะไปตามสะใภ้ใหญ่ให้มาออกหน้าสั่งสอนอีกฝ่ายให้หนักเลย

เยว่อวิ๋นมองตามหลังแม่เฒ่าเซี่ยพลางโบกมือให้ด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ปรึกษาเสร็จแล้วก็รีบมานะเจ้าคะ เผื่อท่านหมอมาแล้วค่ายาไม่พอ...”

คำพูดต่อจากนั้นไม่ต้องเดาก็เข้าใจได้ แม่เฒ่าเซี่ยที่เร่งเดินออกมา ฟังแล้วถึงกับสะดุดหน้าแทบคะมำ นางกัดฟันกรอดหักใจที่จะไม่หันไปด่าอีกฝ่ายสุดชีวิต

อยู่ไม่ได้แล้ว ขืนอยู่ต่อนางต้องเจ็บใจจนตายแน่นอน!

[1] เป็นสำนวน เปรียบเปรยถึงการคิดทำร้ายผู้อื่น แต่ผลร้ายนั้นกลับย้อนมาหาตัวเอง มีความหมายตรงกับสำนวนไทยที่ว่า ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว

[2] เทาเที่ย สัตว์ในตำนานจีนที่มีมาแต่โบราณ ความหมายของชื่อคือ ความตะกละตะกลาม เป็นอสูรร้ายตัวแทนความตะกละ ละโมภ ไม่รู้จักเพียงพอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 13

    เยว่อวิ๋นมองตามหลังแม่สามีที่เดินจากไปจนลับตา จึงไม่พลาดสีหน้าท่าทางทั้งหมดของอีกฝ่าย ทว่านางไม่คิดแยแสแต่อย่างใด คนอย่างแม่เฒ่าเซี่ยยิ่งอ่อนข้อให้ก็มีแต่จะยิ่งได้ใจเท่านั้นร่างบางหันหลังเดินกลับมุ่งหน้าไปยังห้องนอนที่สามพ่อลูกอยู่ หากรอพวกเขาจนปรึกษากันเสร็จ เงินนี่คงถูกเรียกร้องขอคืนเป็นแน่ เพราะ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 14

    เยว่อวิ๋นไม่ล่วงรู้ถึงความสงสัยของเซี่ยฉงอวิ๋นเลยแม้แต่น้อยและแน่นอนว่าถึงรู้นางก็ไม่ใส่ใจอยู่ดี ชีวิตก่อนนางเป็นแม่ทัพนำทหารออกรบ พอจบศึกก็เป็นหมอรักษาผู้ใต้บังคับบัญชา ได้เห็นร่างกายบุรุษมานับไม่ถ้วน สูงต่ำดำขาวแบบใดก็ล้วนมีทั้งสิ้นผู้เป็นหมอต้องมีใจเมตตา รักษาคนไม่แบ่งแยกชายหญิง ยิ่งไม่ต้องพูดถ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 15

    ถึงจะคิดว่าอีกฝ่ายจะดูแปลกๆ แต่ในใจหมอจางก็มีความรู้สึกดีให้เยว่อวิ๋นมากว่าพวกแม่เฒ่าเซี่ยมากนัก เขากวาดสายตามองเซี่ยฉงอวิ๋นที่อยู่บนเตียง แล้วพยักหน้าพึงพอใจ แม้เสื้อผ้าจะดูเก่าซีดใบหน้ามีหนวดเครารุงรัง ทว่าเนื้อตัวสะอาดสะอ้านไม่มีกลิ่นเหม็น สภาพดูดีกว่าครั้งก่อนที่ได้เห็นนับว่าไม่เลวเลย“ตกลง ไม่ต

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 16

    เยว่อวิ๋นยังไม่ทันกล่าวคำพูด ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นเสียก่อน เมื่อหันไปมองที่มาของเสียงก็เห็นแม่เฒ่าเซี่ยเดินนำหน้าคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาคนกลุ่มนั้นประกอบไปด้วยบุรุษสองคนสตรีสองนาง สองในสี่นั้นนางพอรู้จักคุ้นหน้าอยู่บ้าง เพราะเคยพบอีกฝ่ายเมื่อวันส่งตัวเจ้าสาว เป็นเซี่ยจินกับอู๋ซื่อพี่สะใภ้ใหญ่ของนางนั

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 17

    อู๋ซื่อหันหน้ามาตามเสียงคำราม ทว่าสายตาเห็นเพียงเงาร่างพร่าเลือน จากนั้นก็ถูกแรงปะทะจนลอยละลิ่วไปปะทะผนังบ้านด้านหลังเสียงดังโครม“โอ๊ย!”แม่เฒ่าซี่ยเพิ่งตั้งหลักขยับลุกจากตัวบุตรสาวได้ เดิมคิดฉวยโอกาสนี้ตบสั่งสอนสะใภ้ของตนสักหลายฉาด ทว่ายามเห็นร่างอวบอ้วนของอู๋ซื่อถูกถีบกระเด็นไปกระแทกผนังบ้านแล้วท

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 18

    เสียงของเยว่อวิ๋นไม่ได้เบานัก ภายในบ้านที่คับแคบจึงได้ยินกันโดยทั่ว สี่คนที่กำลังถูกเปรียบเปรยเป็นสุนัขมีใบหน้าแดงก่ำ ส่วนแม่เฒ่าเซี่ยนั้นทั้งแดงทั้งดำสลับกันจนดูน่าขันที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากแม่เฒ่าเซี่ยไม่มั่นใจ ว่าประโยคเมื่อครู่ของเยว่อวิ๋นหมายถึงลูกๆ ของนาง หรือกล่าวเหมารวมไปถึงตัวนางเองด้วย เพ

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 19

    เซี่ยเหล่าซานมองภาพมารดากับบุตรกอดกันด้วยความพอใจ ดูเหมือนว่าภรรยาเจ้ารองจะไม่ใช่สตรีจำพวกเดียวกับเซี่ยซื่อ นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี“แต่เรื่องพวกนี้ตัวข้าเองก็ไม่ได้ถือสา” เยว่อวิ๋นกอดเจ้าไชเท้าน้อย พลางลูบคลำตรวจดูรอยปูดด้านหลังศีรษะอีกฝ่าย ขณะกล่าวต่อ “ทว่าวันนี้แม่สามีมาแต่เช้า พอนางพบว่าข้าต้มข้าว

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 20

    “ช้าก่อนท่านลุงสาม” หากนางยอมให้เซี่ยเหล่าซานรับภาระนี้ ไหนเลยจะสลัดปลิงอย่างบ้านสี่ออกไปได้เล่า “ลุงสามท่านเป็นคนดี ทนเห็นข้ากับสามีลำบากไม่ได้ เยว่อวิ๋นซาบซึ้งใจยิ่งนัก เพียงแต่ท่านเองก็มีครอบครัว พวกเราคงไม่อาจลากเอาทุกคนมาตกระกำลำบากไปด้วยได้”ช่างเป็นตัวอัปมงคลโดยแท้ แม่เฒ่าเซี่ยก่นด่าสาปแช่งไม

    Last Updated : 2025-04-07

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 142

    เรื่องอะไรนางต้องลำบากลำบนเป็นหนี้เพื่อซื้อผู้หญิงให้สามีตัวเองด้วย!“เยว่ซื่อเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนักนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องครอบครัวข้า แค่สามีข้ารู้จักสวีเหยาเจ้าก็คิดจะยัดเยียดคนเข้ามาแล้วรึ เจ้านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี”“เจ้าเองก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้เหตุผล แล้วทีเจ้าลา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 141

    เซี่ยเหล่าซานมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกสะใภ้ตัวเอง นางสงสารสวีเหยาจริงเสียที่ไหนกัน ก็แค่อยากสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นเท่านั้นแหละ“สะใภ้รองเจ้าว่างมากนักหรือไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็กลับเข้าบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้คนเขาระอาเลย” อยู่ต่อหน้าเยว่อวิ๋นเซี่ยเหล่าซานไม่สะดวกจะสั่งสอนลูกสะใภ้ จึงได้แต่ถลึงตา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 140

    พอรู้ว่าคนไปแล้วนางเจียงจึงขมวดคิ้ว บ่นสามีที่ไม่รู้ความเบาๆ “ดูเจ้าสิ อายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้ เยว่ซื่อมอบของตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าก็ไม่คิดอะไรแบมือรับอย่างเดียวหรือ”ผู้ใหญ่บ้านฟังแล้วหน้าแดง รู้สึกว่าตนบกพร่องมารยาทไปจริงๆ เจียงซื่อเห็นเขาคิดได้ก็ไม่พูดต่อ นางเพียงส่งผักที่กอดไว้ให้อีกฝ่าย

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 139

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นจัดการแบ่งใบชาที่ซื้อมาใส่ห่อพร้อมขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาอีกหนึ่งกล่อง เตรียมของเสร็จนางก็กำชับต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ให้คอยดูคนป่วยสองคนด้านใน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านบ้านของผู้ใหญ่อยู่ห่างจากบ้านของเยว่อวิ๋นพอประมานใช้เวลาเดินเกือบๆ หนึ่งเค่อ เยว่อวิ๋นเดินไปตามทางอย่างไม่ร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 138

    พอเยว่อวิ๋นจากไปในห้องก็พลันเงียบงันชั่วขณะ เซี่ยฉงอวิ๋นที่เมื่อครู่ต่อล้อต่อเถียงก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหลีจวินไม่กล่าววาจา เห็นอย่างนั้นหลีจวินก็ใจแป้วขึ้นมาทันที“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม ขะ... ข้าเป็นลูกค้าบ้านเจ้านะ” หลายวันมานี้เขาถูกคนตรงหน้ากลั่นแกล้งจนหัวหมุนขยาดไปหมดแล้ว“แล้วอย่างไร เจ้ายังไม่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 137

    เรื่องราวของสวีเหยาถูกโจษจันไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวยังไม่แต่งงานคนหนึ่ง กลับวิ่งไปหาบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้วเพื่อขอเป็นอนุ นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่น่าอับอายอย่างแท้จริงพริบตาที่เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่เพียงครอบครัวสวีที่กลายเป็นตัวตลก แต่บ้านจ้าวเองก็หนีไม่พ้นเช่นกันป้าจ้าวที่เคยเดินเชิดหน้านินทาคน

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 136

    ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 135

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 134

    ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status