Share

บทที่ 11

รอยยิ้มกลบเกลื่อนของเยว่อวิ๋นไม่นับว่าแนบเนียน แต่ตัวเซี่ยฉงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ทั้งคู่จึงไม่ทันมองออกถึงความในใจที่ต่างคนก็ต่างซ่อนเก็บไว้

“นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าวสารกับไข่ถึงได้เหลือแค่นี้!”

เสียงร้องตะโกนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เยว่อวิ๋นราวกับได้ย้อนไปวันแรกที่นางฟื้นมาในร่างนี้แล้วมียายแก่แซ่เยว่นั่งก่นด่าอยู่ข้างหูอย่างไรอย่างนั้น

หญิงสาวเหลือบมองไปทางด้านนอกประตู ก่อนจะค่อยๆ ประคองร่างบนเตียงให้เอนลงนอน “เจ้านอนพักไปก่อน รอข้าจัดการธุระแล้วจะมาเช็ดตัวให้”

นางกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย ทว่าเซี่ยฉงอวิ๋นกลับรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ต่อให้นางเป็นภรรยาที่แต่งเข้ามา เขาก็รู้สึกไม่คุ้นชินอยู่ดี แต่ยังไม่ทันเอ่ยปฏิเสธผู้พูดก็ก้าวเท้าหายลับออกจากห้องไปแล้ว

เยว่อวิ๋นได้ยินเสียงเมื่อครู่ ก็พอนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องครัว นางแค่ดูจากร่างกายของเด็กๆ กับเซี่ยฉงอวิ๋น ก็พอคาดเดาได้แล้วว่าในยามปกติพวกเขาคงไม่ได้กินอิ่มท้องกันนัก โดยเฉพาะเด็กน้อยเสี่ยวอวี้

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ในยุคสมัยที่นางจากมา ผู้คนก็มักให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเช่นกัน ตัวยายเฒ่าเซี่ยเองก็ดูไม่ใช่ผู้อาวุโสที่เที่ยงธรรมอันใด นางมาเห็นเจ้าเด็กเสี่ยวอวี้กินข้าวเยอะขนาดนั้น ไม่แหกปากร้องโวยวายก็คงเสียชื่อแย่

เมื่อเยว่อวิ๋นมาถึงห้องครัว เหตุการณ์ด้านในก็ไม่ผิดจากที่นางคาดการณ์เอาไว้สักนิด หญิงสาวมองต้าเป่าที่พยายามกางแขนป้องกันน้องสาวไปพลาง ขอร้องหญิงชราผู้เป็นย่าไปพลาง ในแววตาพลันปรากฏโทสะลุกโชน

“นี่แน่ะ! ตัวขาดทุน ตัวล้างผลาญ เลี้ยงพวกเจ้าไปก็ไร้ประโยชน์ ตีเสียให้ตาย ตีเสียให้ตาย” แม่เฒ่าเซี่ยทั้งปวดใจ ทั้งโมโห ไม้ในมือขยับฟาดไม่ยั้งแรง

เยวอวิ๋นมองแขนขาเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยรอยยาวแล้วขบกรามกรอด หากไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นแม่สามี นางคงเดินเข้าไปถีบอกเข้าให้แล้ว

“เอะอะโวยวายเสียงดังอะไรกัน” เสียงเย็นเยียบดุจธารน้ำในฤดูหนาวดังขึ้น ต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ประหนึ่งพบเจอที่หลบภัย พากันวิ่งหนีมาซ่อนด้านหลังผู้มาใหม่ทันที

“อะไรกัน ข้าเพิ่งแต่งเข้าบ้านสกุลเซี่ยเมื่อวาน วันนี้ท่านแม่ก็มากรีดร้องทุบตีคนเสียแล้ว นี่ท่านแม่ต้องการจะแสดงความไม่พอใจต่อสะใภ้คนนี้อย่างงั้นหรือ”

เยว่อวิ๋นวางชามในมือลง มองสองพี่น้องที่สภาพทุลักทุเลด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่รู้ว่าเด็กสองคนนี้ทำสิ่งใดผิด ท่านถึงได้ลงไม้ลงมือรุนแรงขนาดนี้”

แม่เฒ่าเซี่ยอายุอานามไม่น้อยแล้ว นางเดินจากบ้านมากระท่อมก็ใช้เรี่ยวแรงไปไม่น้อย ทั้งมาถึงยังไม่ทันพักก็ออกแรงตีเด็กสองคนไปอีกยกหนึ่ง ตอนนี้จึงเหนื่อยหอบเสียจนพูดไม่ออก ได้แต่ยืนถลึงตาใส่เยว่อวิ๋นอยู่เป็นนาน

เยว่อวิ๋นเองก็ดูออก นางฉวยจังหวะนี้กล่าวคำพูดยืดยาว “ท่านแม่ ข้าเองก็ไม่อยากจะพูดมากหรอกนะ แต่ท่านทำแบบนี้มิใช่ว่าจงใจหักหน้าข้าหรอกหรือ ข้าเพิ่งแต่งเข้าบ้านท่านวันที่สอง ท่านก็บุกเข้ามาทุบตีลูกเลี้ยงของข้าเสียแล้ว ถ้าหากพวกเขามีบาดเจ็บหรือมีบาดแผลขึ้นมา ผู้อื่นเห็นเข้า ใครบ้างจะไม่นึกว่าเป็นฝีมือข้า ท่านแม่ ท่านต้องการใช้วิธีนี้บีบให้ข้าหย่าร้างกลับบ้านเดิมใช่หรือไม่ นี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้วกระมัง ท่านเห็นว่าข้าเยว่อวิ๋นอยู่หมู่บ้านนี้ตัวคนเดียวจึงจงใจกลั่นแกล้งสินะ”

แม่เฒ่าเซี่ยที่พยายามหายใจเข้าออกพลันมีอาการสำลักไอโขลกอีกครั้ง นางแค่รู้สึกปวดใจกับข้าวสารและไข่ที่หายไปจนลืมตัว ตีสั่งสอนลูกหลานไปไม่กี่ที ไฉนกลายเป็นการกลั่นแกล้งรังแกบีบคั้นลูกสะใภ้ใหม่ไปได้เล่า

“จะ…เจ้า! ใครคิดบีบคั้นให้เจ้าหย่ากัน ถุยๆ อย่ามาพูดมั่วๆ นะ” เสียสินสอดไปแล้ว ปล่อยคนไปจะไม่ยิ่งขาดทุนรึ นางเด็กนี่จงใจหาเรื่อง หรือยายเฒ่าบ้านเยว่จะสอนให้นางทำแบบนี้กัน ต้องใช่แน่ๆ ยายแก่น่าตายนั่นคงคิดละสิ ว่าหากนางเด็กนี่ทำให้ตนไล่ออกกลับไป จะได้จับนางแต่งกับผู้อื่นเพื่อเอาสินสอดอีก

“ฝันไปเถอะ! เจ้าแต่งให้ลูกชายข้าแล้ว อย่าหวังว่าจะได้หย่า จำเอาไว้ว่าอนาคตเจ้าเป็นคนของสกุลเซี่ย ถึงตายก็ต้องเป็นผีสกุลเซี่ย!” แม่เฒ่าเซี่ยประกาศลั่น

แน่นอนว่าเยว่อวิ๋นย่อมไม่ได้คิดจะหย่าร้างเพื่อกลับบ้านเดิมให้ครอบครัวขายอีกจริงๆ นางเพียงแค่ต้องการแต้มต่อในการเจรจาเรื่องต่อจากนี้ และเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอีกฝ่ายจากเจ้าหัวไชเท้าแฝดนี่ก็เท่านั้น

“ต้าเป่า เจ้ากับน้องช่วยไปดูแลท่านพ่อแทนข้าที ได้มั้ย”

“ขอรับ เสี่ยวอวี้ไปกันเถอะ” ต้าเป่ารับคำดวงตาเป็นประกาย ฉุดมือน้องสาววิ่งจากไปทันที ในใจนึกเลื่อมใสอย่างที่สุด มารดาเลี้ยงพูดไม่กี่ประโยค ก็สามารถทำให้ท่านย่าหยุดการกระทำพูดไม่ออกแล้ว สุดยอดมาก

ส่งเด็กๆ ออกไปหาบิดาเสร็จ เยว่อวิ๋นก็หันมาทางแม่สามี เห็นดวงตาคมกริบตวัดมองมาที่ตน แม่เฒ่าเซี่ยพลันประหม่าจนเผลอก้าวถอย

“อะ อะไร” สะใภ้รองผู้นี้อายุแค่สิบกว่าปี แต่มีบรรยากาศกดดัน จนนางไม่กล้าสบตา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ทำไม! ลูกหลานทำความผิด ข้าผู้อาวุโสสั่งสอนไม่ได้หรือ เจ้าทำแบบนี้คิดจะต่อต้านงั้นรึ”

“ท่านแม่ ข้าวสารกับไข่ล้วนเป็นข้าที่นำมาทำอาหาร และก็เป็นข้าอีกที่อนุญาตให้พวกเขากิน เด็กๆ กินอาหารที่ข้าทำจึงมีความผิด เช่นนี้ท่านยังกล้าบอกว่าไม่เกี่ยวกับข้าอีกหรือ”

“เจ้าเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ รู้หรือไม่ ว่าข้าวสารถุงนี้ปกติกินได้เป็นสิบมื้อด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับกินหมดครึ่งหนึ่งในมื้อเดียว ไหนจะไข่อีก ตัวล้างผลาญ ตัวล้างผลาญจริงๆ เจ้าคิดว่าอาหารเหล่านี้หล่นมาจากฟ้าหรืออย่างไร” แม่เฒ่าเซี่ยปวดใจจนเอามือกุมอก นางก่นด่าด้วยน้ำเสียงคับแค้นที่ไม่สามารถผ่าท้องอีกฝ่ายเอาของเหล่านั้นกลับคืนมาได้

เยว่อวิ๋นกลอกตามองบน สิบมื้อ! มิน่าเล่า สภาพเซี่ยฉงอวิ๋นกับเจ้าไชเท้าน้อยถึงได้ไม่ต่างจากโครงกระดูกหุ้มหนังมนุษย์ ขออภัยหากรู้แล้วต้องอดอยากจนมีสภาพแบบสามพ่อลูก นางขอไม่รู้ต่อไปจะดีกว่า

“ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้เลยว่าการกินอาหารให้อิ่มจะมีความผิดถึงขนาดนี้ และข้าก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองต้องแต่งให้กับสามีที่พิการและตาบอดเช่นนี้ อ่อ…ท่านแม่ แล้วท่านเล่า รู้หรือไม่”

เยว่อวิ๋นมั่นใจว่าบ้านเซี่ยไม่ได้บอกอาการของเซี่ยฉงอวิ๋นกับแม่เฒ่าเยว่ตามความจริงเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นยายแก่สารพัดพิษแซ่เยว่นั่นมีรึจะพลาดโอกาสรีดไถตำลึงงามๆ แบบนี้

“แม่สามี ท่านว่าการกระทำพวกนี้ถือเป็นการหลอกลวงแต่งงานหรือไม่ เอ…แบบนี้ ถ้าหากข้าไปฟ้องร้องกับทางการ ท่านว่าคนทำจะมีโทษหรือไม่เจ้าคะ”

เห็นแม่เฒ่าเซี่ยแสดงสีหน้าดุจคนโดนผีหลอก เยว่อวิ๋นก็อารมณ์ดีขึ้นมาอีกหลายส่วน นางเผยอรอยยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง

“อันที่จริงถึงจะมี โทษนี้ก็คงไม่หนักมาก เพียงแต่ว่า…”

“เพียงแต่ว่าอะไร!” แม่เฒ่าเซี่ยนึกเกลียดประโยคลากยาวนี้เหลือเกิน นางเป็นชาวบ้านธรรมดาย่อมมีความหวาดเกรงทางการซึมลึกอยู่ในกระดูก ยามนี้นางได้แต่นึกสาปแช่งตัวเองที่อยู่ดีไม่ว่าดี ดันคิดวางแผนแต่งเยว่อวิ๋นให้บุตรชายคนรอง

“เพียงแต่ว่ามันจะมีผลกระทบยังไงล่ะเจ้าคะ” แม้จะรู้จักแม่สามีมาผ่านคำนินทา ทว่าเยว่อวิ๋นที่เป็นอดีตแม่ทัพผู้บัญชาการรบกลับเข้าใจความคิดและลักษณะนิสัยรวมถึงจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้กระจ่างยิ่ง

“ผลกระทบที่สำคัญมากสำหรับคนที่คิดจะรับราชการก็คือชื่อเสียง” ยายเฒ่านี่หวังฝากอนาคตไว้กับบุตรชายคนที่สาม มีหรือจะยอมเสี่ยง “หากคนใกล้ชิดทำความผิดจนต้องคดีความ คนผู้นั้นจะยังรับราชการอยู่ได้หรือเจ้าคะ มีมารดาเป็นคนต้องโทษนี้ชื่อเสียงเขาย่อมตกต่ำ ถูกผู้คนก่นด่ากล่าวประณาม แล้วคนเช่นนี้จะเป็นขุนนางภายใต้รัชสมัยของโอรสสวรรค์ได้อย่างไร แม่สามี ท่านว่าจริงไหมเจ้าคะ”

เซี่ยฉงอวิ๋นไม่ใช่แค่พิการแต่ยังตาบอดเป็นเพียงภาระบวกกับบ่อน้ำที่ไร้ก้น เซี่ยซื่อจึงต้องการแต่งนางมาแบกรับภาระแทน อีกฝ่ายจึงวางแผนใช้สินสอดเล็กน้อยกับข้าวสารไม่กี่จินเพื่อเตะส่งพวกเขาสามพ่อลูก

อันที่จริงนางไม่ขัดหากอีกฝ่ายจะสลัดคนทิ้งไว้ให้นาง เพียงแต่จะให้เสียเปรียบเปล่าๆ นางก็ไม่อยากเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นก่อนจากก็ขอขูดเลือดอีกฝ่ายติดไปด้วยละกัน

แยกบ้านงั้นหรือ… ฮึ! ก็แยกสิ!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 371

    “น้องรองเจ้าพูดเกินไปแล้ว ที่เหว่ยเอ๋อร์บาดเจ็บเช่นนี้ก็เพราะทำตามคำสั่งของท่านพ่อ เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือจงใจคิดบิดเบือนเรื่ิงราวกัน”“นี่… นี่” สวีหย่วนพูดไม่ออก เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคำสั่งของบิดา แต่จะให้เขากล่าวโทษท่านพ่อมันมันก็ไม่ได้ใช่ไหมเล่า อีกทั้งนี่ยังเป็นครั้งแรกที

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 370

    “ฉงเอ๋อร์มาแล้วหรือ มานั่งก่อนสิ” ถึงจะโตมาเป็นบุรุษหน้าเหม็นเหมือนบิดา แต่อย่างไรก็เป็นบุตรชายตน มู่หรงเซียนย่อมไม่ละเลยเซี่ยฉงอวิ๋น รอจนอีกฝ่ายมานั่งข้างเยว่อวิ๋น ฉิงฮวนที่รู้ใจผู้เป็นนายก็ยกน้ำและของว่างที่เตรียมไว้ออกมามู่หรงเซียนชักชวนให้บุตรชายรับของว่างรองท้อง ก่อนจะหันไปชวนสะใภ้ของตนสนทนาต่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 369

    การเริ่มต้นทักทาย…ทักทายผู้ใดกันเล่า!หลีจวินขบคิดอยู่นาน หลังจากพบว่าตนเองไม่สามารถเข้าใจคำพูดที่เซี่ยฉงอวิ๋นเอ่ยออกมาเลย เด็กหนุ่มก็ปล่อยวางพลางกล่าวน้ำเสียงอ่อนลง“ช่างเถอะ แค่ท่านไม่เสียเปรียบก็พอแล้ว”ฟังมาถึงตอนนี้มุมของสือจิ่วที่ฟังอยู่เงียบๆ พลันกระตุกถี่รัวอย่างควบคุมไม่อยู่ องครักษ์มองหน้

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 368

    เพียงแต่… สวีจ้าวเหว่ยนั้นไม่รู้เลยว่าต่อให้เป็นตัวเขาไปเอง ก็ยังไม่อาจปกปิดความต้องการของตัวเองต่อหน้าเซี่ยฉงอวิ๋นได้เลย“ข้าบอกแล้วนี่ สองแสนตำลึงถ้วน ขาดแม้แต่อีแปะเดียวก็เลิกพูดกันไปได้เลย” เซี่ยฉงอวิ๋นที่รอคอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ในกระแสเสียงเจือแววบังคับเผด็จการอย่างผู้เหนือกว่าอยู่ในที

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 367

    “ท่านคือเถ้าแก่ร้านซินเยว่ เจ้านายของเซี่ยเฉิงจริงหรือ” บุรุษวัยกลางคนถาม ใบหน้าปกปิดไม่มิดถึงความแปลกใจ ไม่คิดว่าเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้จะอายุน้อยเพียงนี้ ทำเอาคนคาดไม่ถึงจริงๆ“ข้าคือเซี่ยฉงอวิ๋น ทำไมพวกเจ้าถึงผิดนัดหมายเมื่อวาน ควรให้คำอธิบายเรื่องนี้แก่ข้ามากกว่าหรือไม่” เซี่ยฉงอวิ๋นตอบคำถาม ก่อ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 366

    แน่นอนว่าความคิดนี้ของเซี่ยฉงอวิ๋น ผู้เป็นภรรยาของเขานั้นไม่ได้รับรู้ด้วยเลยแม้แต่น้อย กว่าที่เยว่อวิ๋นจะลืมตาตื่นจากความอ่อนเพลียและฤทธิ์ยา ก็พบว่าในบ้านว่างเปล่าเหลือเพียงแค่ตนเองกับแม่สามีสองคนเสียแล้ว“หลีจวินไม่ได้ไปสำนักศึกษากับพวกต้าเป่า แต่ถูกคุณชายใหญ่พาออกไปอย่างนั้นหรือ” เยว่อวิ๋นทวนคำของ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status