공유

บทที่ 2

เยว่อวิ๋นมั่นใจว่าตัวเองนั้นตายไปแล้ว…

แน่นอนว่าคนที่ถูกตัดคอขาดในดาบเดียวเช่นนาง คงไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะยังมีชีวิตอยู่ดี

ความรู้สึกยามศีรษะหลุดกระเด็นแยกจากร่าง เวลาชั่วขณะนั้นยากนักที่จะอธิบาย แถมยังไม่น่าหวนนึกถึงเท่าใด เพียงแต่นางไม่คาดคิดเลยว่าความรู้สึกหลังความตายกลับย่ำแย่ยิ่งกว่า

ก่อนตายไม่ปวดหัว เหตุใดหลังตายแล้วจึงปวดนัก ก่อนตายยังไม่ทรมาน ไฉนนางตายแล้วจึงรู้สึกไม่สบายไปทั่วทั้งร่าง

ในอดีตเยว่อวิ๋นถือเป็นผู้รอบรู้คนหนึ่ง เคยพูดคุยถกความรู้กับฉงอวิ๋นตั้งมากมาย นางจดจำได้ว่ามีประโยคหนึ่งในเกร็ดพงศาวดารเรื่องเล่า เขียนบอกไว้ว่าความตายคือการหลุดพ้น ถือเป็นจุดสิ้นสุดของทุกสิ่ง มนุษย์เราเมื่อตายไปแล้วก็กลับคืนสู่เถ้าธุลีไม่เหลืออะไรมิใช่หรือ

แล้วทำไมสภาพนางตอนนี้ถึงสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่ายามมีชีวิตอยู่อีกเล่า!

“แม่เฒ่าเยว่ อันที่จริงแล้วเจ้าทำแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้องนะ เยส่เจินเจินเป็นลูกสาวเจ้า แล้วยายหนูอวิ๋นไม่ใช่หลานสาวเจ้าหรือไง เดิมทีการแต่งงานนี้ก็เป็นของนางหนูเจินเจิน ทำไมต้องบีบบังคับให้หลานสาวเป็นคนมารับผิดชอบแทนด้วยละ”

เสียงหญิงสูงวัยนางหนึ่งพูดขึ้น ในน้ำเสียงเนิบช้าแฝงด้วยอารมณ์สงสารจนเยว่อวิ๋นที่กำลังนอนหลับตาอยู่สัมผัสได้ หญิงสาวไล่เรียงความคิดอยู่สักพักใหญ่ ทว่ากลับนึกไม่ออกแม้แต่น้อยว่าคนที่กำลังพูดอยู่นั้นเป็นใคร

“ยายจาง ท่านพูดอย่างนี้มันก็ไม่ถูกนะ การแต่งงานถือเป็นเรื่องของครอบครัว ท่านแม่ข้าเป็นผู้อาวุโสจัดการงานแต่งงานให้หลานสาวมีอะไรผิดกัน” เยว่เจินเจินที่กำลังยืนชมเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี นึกไม่ถึงว่าจะถูกพาดพิงมาถึงตนเอง ตีให้ตายหม้อดำ [1] ใบนี้อย่างไรนางก็ไม่ยอมแบกรับไว้เป็นแน่

“คนเป็นอายังไม่ทันได้หมั้นหมายออกเรือน ก็รีบร้อนจัดแจงงานแต่งให้หลานสาวที่อายุน้อยกว่าเสียแล้ว ข้าเองอายุปูนนี้ก็เพิ่งจะเคยเจอ” แม่เฒ่าจางพูดพลางแสยะยิ้ม “อีกอย่าง มันคงไม่ผิดหรอก ถ้าหากการแต่งงานครั้งนี้แต่เดิมไม่ใช่ของเจ้า”

“ท่าน!” เยว่เจินเจินเถียงไม่ออก นางถลึงตาจ้องอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง "อย่ามาพูดมั่วๆ นะ"

“นี่เป็นเรื่องภายในของครอบครัวข้า ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกจะมาวิจารณ์ได้ อีกอย่างตอนที่ตาเฒ่าจัดการให้มีการหมั้นหมายนี้ ก็ไม่ได้เอ่ยเจาะจงเอาไว้ว่าเป็นใครสักหน่อย แล้วทำไมจะเป็นนางเด็กอวิ๋นนี่ไม่ได้กัน” แม่เฒ่าเยว่เห็นลูกสาวถูกไล่ต้อนก็ตวาดเสียงลั่น

เดิมแม่เฒ่าจางยังอยากช่วยพูดให้เด็กสาวที่นอนหน้าซีดอยู่อีกเสียหน่อย แต่ลูกสะใภ้ที่มาด้วยกันจับมือห้ามไว้เสียก่อน นางมองอีกฝ่ายส่งสายตาพลางส่ายศีรษะแล้วจึงถอนหายใจไม่กล่าวอะไรอีก

แม่เฒ่าเยว่เห็นแม่เฒ่าจางเงียบไม่เอ่ยวาจาต่อ ก็เผยสีหน้าผยองออกมาอย่างได้ใจ นางยืนมือเท้าสะเอวถลึงตาข่มขวัญผู้คนจนไม่มีใครกล้าสบตา

“ท่านแม่ ท่านคิดว่ามีอะไรแปลกๆ ไหมเจ้าคะ ปกตินางเด็กอวิ๋นนี่ก็ไม่ใช่คนมีความคิดอะไร แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ลุกขึ้นมาเอะอะโวยวายสร้างเรื่องใหญ่โตกัน ข้าว่า… เรื่องนี้เราคงต้องถามน้องสะใภ้รองแล้วกระมั้ง” จางชุ่ยสะใภ้คนโตกล่าวพลางปรายตามองไปยังสตรีร่างผอมบางที่ยืนด้านข้างตนเองอย่างมีเลศนัย

แม่เฒ่าเยว่ได้ยินดังนั้น สายตาที่มองถลึงใส่แม่เฒ่าจางจึงถูกเบนไปยังร่างผอมแห้งของหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างจางชุ่ยทันที ก่อนที่นางจะเปิดปากก่นด่าอีกฝ่ายด้วยท่าทีดุร้าย

“ตระกูลเยว่เราเลี้ยงตัวขาดทุนอย่างพวกเจ้าสองคนแม่ลูกมาตั้งนานไม่เคยปริปาก มาวันนี้เจินเอ๋อร์มีภาระที่ต้องกระทำ สัญญาหมั้นหมายที่บิดาเจ้าเคยตกลงไว้จึงต้องให้ลูกสาวเจ้ารับผิดชอบแทน แล้วดูสิ่งที่นางทำลงไปสิ ช่างเป็นหมาป่าตาขาว [2] จริงๆ หรือว่าเป็นเพราะเจ้าไม่พอใจที่ข้าจัดการแบบนี้ เลยแอบสั่งให้นางทำเช่นนี้ใช่ไหม”

หลิวอิงสะใภ้รองมีสถานะความเป็นอยู่ต่ำสุดในบ้าน นางไม่มีปากเสียงทั้งยังหวาดกลัวแม่สามีตัวเองที่สุด รีบร้อนปฏิเสธแทบจะร่ำไห้ว่าไม่ใช่อย่างนั้น “ท่านแม่ ข้าไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะเจ้าคะ เป็นนางที่ทำของนางเองไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย”

เพื่อนบ้านหลายคนที่มาชมดูความสนุกต่างแสดงสีหน้าเหยียดหยาม เสือที่ว่าร้ายยังไม่คิดกินลูกตัวเอง ทว่าสะใภ้รองเยว่ผู้นี้ถึงกับผลักบุตรสาวที่ยังสลบไสลไม่ได้สติออกมารับหน้าแม่สามี นับว่ามีจิตใจเลวร้ายยิ่งกว่าเดรัจฉานชั้นต่ำเสียอีก

เยว่อวิ๋นนอนหลับตานิ่งไม่ไหวติง นางฟังเสียงพูดคุยที่ไม่คุ้นเคยรอบตัวแล้วรู้สึกยิ่งปวดศีรษะ ทำไมนางถึงมีความรู้สึกว่าคนที่พวกนั้นกำลังพูดถึงอยู่ก็คือนางกันเล่า

เสียงตวาดด่าทอของแม่เฒ่าเยว่ยังคงดังต่อเนื่อง ผสานกับเสียงร่ำไห้ของหลิวอี้และคำพูดซุบซิบของชาวบ้าน ความจอแจนี้รบกวนความคิดของเยว่อวิ๋นจนไม่สามารถไปต่อได้ หญิงสาวผ่อนลมหายใจพรูหนึ่ง ก่อนจะกลั้นลมหายใจลืมตาขึ้นช้าๆ

เงาภาพพร่าเลือนค่อยๆ ปรากฏสู่สายตา เบื้องหน้าคือกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่มีใบหน้าไม่คุ้นเคย เยว่อวิ๋นเหม่อมองผนังห้องที่กระดำกระด่าง ตลอดจนเตียงนอนที่ปูด้วยผ้าเก่าๆ มอซอจนดูสีเดิมไม่ออก แล้วถามตัวเองซ้ำๆ

ที่นี่คือที่ไหน?

“ฟื้นแล้วรึ นางตัวดี ตัวอัปมงคล หมาป่าตาขาวเลี้ยงไม่เชื่อง” แม่เฒ่าเยว่ร้องก่นด่าทันทีเมื่อเห็นคนบนเตียงขยับตัวลุก นางถลาเข้าประชิดเยว่อวิ๋นพลางพ่นวาจาดุร้ายใส่หน้าไม่หยุด “ทำไม! หรือพวกเราสกุลเยว่เลี้ยงตัวชั่วร้ายอย่างเจ้ามาจนโต ไม่มีสิทธิ์จัดการงานแต่งงานให้เจ้าหรืออย่างไร”

แม่เฒ่าเยว่ขยับปากด่าทอ มือก็ไม่ได้อยู่เฉย นางทั้งทุบตีทั้งหยิกเยว่อวิ๋นไม่หยุด โดยเฉพาะบริเวณผิวเนื้อที่อยู่ใต้ร่มผ้า

เยว่อวิ๋นเพิ่งลืมตาขึ้น อาการปวดวิงเวียนศีรษะก็พุ่งจู่โจม ร่างกายสั่นเทาไร้เรี่ยวแรงจะขยับ นางจึงไม่อาจต้านทานหรือขัดขืนการกระทำของหญิงชราตรงหน้าได้

นางได้แต่นอนตัวอ่อนปวกเปียกให้อีกฝ่ายเล่นงาน โดยไม่หลุดเสียงร้องสักแอะ ทว่าในแววตาดำขลับคู่นั้นทอประกายเย็นเยียบ

ยายเฒ่าสารเลวนี่รอให้นางดีขึ้นก่อนเถอะ!

ถ้าไม่เพราะร่างกายย่ำแย่จนขยับไม่ไหว นางมีหรือจะยอมถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ ในอดีตฉายาแม่ทัพใหญ่ของนางเองก็หาได้มาเพราะโชคช่วย เพียงแต่แม่ครัวเก่งกาจมิอาจปรุงอาหารหากขาดวัตถุดิบ [3] เช่นเดียวกับนางที่แม้มีใจคิดสู้แต่ถ้าร่างกายไม่เอื้ออำนวยก็ไร้ประโยชน์

“นางตัวดี สำนึกผิดหรือยัง” แม่เฒ่าเยว่อาละวาดทุบตีคนบนเตียงจนเหนื่อยหอบถึงสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ นางสบสายตาราบเรียบดุจผิวน้ำไร้ระลอกคลื่นของเด็กสาวตรงหน้าแล้วพลันเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ปกติแค่ตนส่งเสียงดังหน่อย นางเด็กน่าชังนี่ก็จะก้มหน้าตัวสั่นงกแล้ว ทำไมวันนี้ทั้งถูกหยิกถูกตียังนิ่งเฉยได้อีกเล่า

ไหนจะแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกนั่นอีก…

“อย่าทำมาเป็นมองข้าด้วยสายตาแบบนั้นนะ นางเด็กน่ารังเกียจ ข้าขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลย ไม่ว่าวันนี้จะเป็นหรือตายเจ้าก็ต้องแต่งไปบ้านสกุลเซี่ย” แม่เฒ่าเยว่พยายามข่มอารมณ์หวาดกลัวของตน พลางแสร้งโมโหตวาดด่าทอกลบเกลื่อน “หากเจ้ากล้า…”

[1] หมายถึงรับความผิด

[2] หมายถึงคนเนรคุณ

[3] หมายถึง ต่อให้เชี่ยวชาญหรือชำนาญการแค่ไหน ถ้าไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องมือสิ่งของที่จำเป็น ก็ไม่อาจแสดงฝีมือออกมาได้
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 344

    “เสี่ยวอวี้ตัวอุ่นมากเลยนะเจ้าคะ ถ้าได้กอดตอนนอนรับรองว่าจะไม่หนาวเลย ถ้าท่านย่าไม่เชื่อก็ลองถามท่านอาคนงามดูได้เจ้าค่ะ”คำพูดไร้เดียงสาของเจ้าตัวเล็กเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าผู้เป็นย่า ทว่ากลับทำให้หลีจวินหน้าแดงกว่าเดิม สุดท้ายเจ้าตัวจึงถูกท่านอาคนงามหิ้วออกไปก่อนจะทันได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น“ฉิงฮวน เจ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 343

    อวิ๋นเอ๋อร์ของนางเป็นถึงฮูหยินน้อยจวนองค์หญิงแท้ๆ กลับไม่มีแม้แต่เครื่องประดับให้สวมใส่สักชิ้น อย่าว่าแต่ตระกูลขุนนางชนชั้นสูงเลย แม้แต่ตระกูลพ่อค้าชนชั้นทั่วไปก็ยังไม่อัตคัดเช่นนี้“ดูจากปิ่นทองนี่ก็รู้แล้วว่าเครื่องประดับที่ขายในตำบลห่างไกลแบบนี้ ทั้งคุณภาพและความสวยงามสู้ที่ขายในเมืองหลวงไม่ได้เล

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 342

    แม่สามีมาเยือนทั้งที แทนที่เขาจะให้สือจิ่วมาบอกนางล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวสักหน่อย กลับปล่อยให้นางหอบเอาสภาพดูไม่ได้มาเจอคน ดูสิคราวนี้นางเลยไม่มีหน้าจะไปเผชิญหน้ากับใครแล้ว “ท่านไม่รู้หรือไงว่าความประทับใจแรกพบมันสำคัญแค่ไหน”เซี่ยฉงอวิ๋นถูกโยนความรับผิดชอบให้อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาไหนเลยจะรู้ได้เล่าว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 341

    “ถึงอย่างไรคุณชายใหญ่ก็เป็นถึงทายาทของท่าน เยว่ซื่อนางเป็นเพียงหญิงในชนบทที่ไร้การศึกษา...” สตรีเช่นนี้จะคู่ควรกับผู้สืบทอดจวนองค์หญิงได้อย่างไรกันมู่หรงเซียนไม่ได้ตอบกลับประโยคของแม่นมเซียง นางครุ่นคิดถึงท่าทางของลูกสะใภ้ที่เพิ่งพบหน้าเมื่อครู่ ในดวงเนตรหงส์พลันเปล่งประกายวาววับเด็กสาวคนนั้นภายนอ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 340

    ก่อนหน้านี้เซี่ยฉงอวิ๋นได้เคยเล่าให้เยว่อวิ๋นฟังไว้ก่อนแล้ว ถึงฐานะที่แท้จริงของบิดามารดาในชาตินี้ของเขา แน่นอนว่าผ่านชีวิตมาชาติหนึ่ง เยว่อวิ๋นผู้เคยรับพี่ชายรูปงามที่เคยช่วยเหลือเพราะถูกใจในหน้าตาของเขาย่อมไม่รู้สึกคัดค้านอะไรในตัวตนสามีเพียงแต่...เหตุการณ์นี้มันคนละกรณีกันนะ!เห็นภรรยาส่งสายตาค

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 339

    “ในเมื่อบิดากับมารดาหย่ากัน ท่านก็ต้องคืนสินเดิมให้ท่านแม่ข้าด้วยสิ” อย่างไรเสียหลิวอิงก็เป็นบุตรสาวคนเดียวของสามีภรรยาบ้านรอง ตอนที่นางแต่งงานลุงของนางจึงได้มอบสินเดิมให้ติดตัวมาจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งข้าวของเหล่านั้นหลังจากแม่เฒ่าเยว่รู้ก็ได้ยึดเอาไปเป็นของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เยว่อวิ๋นสอบถามกับหลิวอิง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status