Share

บทที่ 2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-01 10:52:54

เยว่อวิ๋นมั่นใจว่าตัวเองนั้นตายไปแล้ว…

แน่นอนว่าคนที่ถูกตัดคอขาดในดาบเดียวเช่นนาง คงไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะยังมีชีวิตอยู่ดี

ความรู้สึกยามศีรษะหลุดกระเด็นแยกจากร่าง เวลาชั่วขณะนั้นยากนักที่จะอธิบาย แถมยังไม่น่าหวนนึกถึงเท่าใด เพียงแต่นางไม่คาดคิดเลยว่าความรู้สึกหลังความตายกลับย่ำแย่ยิ่งกว่า

ก่อนตายไม่ปวดหัว เหตุใดหลังตายแล้วจึงปวดนัก ก่อนตายยังไม่ทรมาน ไฉนนางตายแล้วจึงรู้สึกไม่สบายไปทั่วทั้งร่าง

ในอดีตเยว่อวิ๋นถือเป็นผู้รอบรู้คนหนึ่ง เคยพูดคุยถกความรู้กับฉงอวิ๋นตั้งมากมาย นางจดจำได้ว่ามีประโยคหนึ่งในเกร็ดพงศาวดารเรื่องเล่า เขียนบอกไว้ว่าความตายคือการหลุดพ้น ถือเป็นจุดสิ้นสุดของทุกสิ่ง มนุษย์เราเมื่อตายไปแล้วก็กลับคืนสู่เถ้าธุลีไม่เหลืออะไรมิใช่หรือ

แล้วทำไมสภาพนางตอนนี้ถึงสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่ายามมีชีวิตอยู่อีกเล่า!

“แม่เฒ่าเยว่ อันที่จริงแล้วเจ้าทำแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้องนะ เยส่เจินเจินเป็นลูกสาวเจ้า แล้วยายหนูอวิ๋นไม่ใช่หลานสาวเจ้าหรือไง เดิมทีการแต่งงานนี้ก็เป็นของนางหนูเจินเจิน ทำไมต้องบีบบังคับให้หลานสาวเป็นคนมารับผิดชอบแทนด้วยละ”

เสียงหญิงสูงวัยนางหนึ่งพูดขึ้น ในน้ำเสียงเนิบช้าแฝงด้วยอารมณ์สงสารจนเยว่อวิ๋นที่กำลังนอนหลับตาอยู่สัมผัสได้ หญิงสาวไล่เรียงความคิดอยู่สักพักใหญ่ ทว่ากลับนึกไม่ออกแม้แต่น้อยว่าคนที่กำลังพูดอยู่นั้นเป็นใคร

“ยายจาง ท่านพูดอย่างนี้มันก็ไม่ถูกนะ การแต่งงานถือเป็นเรื่องของครอบครัว ท่านแม่ข้าเป็นผู้อาวุโสจัดการงานแต่งงานให้หลานสาวมีอะไรผิดกัน” เยว่เจินเจินที่กำลังยืนชมเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี นึกไม่ถึงว่าจะถูกพาดพิงมาถึงตนเอง ตีให้ตายหม้อดำ [1] ใบนี้อย่างไรนางก็ไม่ยอมแบกรับไว้เป็นแน่

“คนเป็นอายังไม่ทันได้หมั้นหมายออกเรือน ก็รีบร้อนจัดแจงงานแต่งให้หลานสาวที่อายุน้อยกว่าเสียแล้ว ข้าเองอายุปูนนี้ก็เพิ่งจะเคยเจอ” แม่เฒ่าจางพูดพลางแสยะยิ้ม “อีกอย่าง มันคงไม่ผิดหรอก ถ้าหากการแต่งงานครั้งนี้แต่เดิมไม่ใช่ของเจ้า”

“ท่าน!” เยว่เจินเจินเถียงไม่ออก นางถลึงตาจ้องอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง "อย่ามาพูดมั่วๆ นะ"

“นี่เป็นเรื่องภายในของครอบครัวข้า ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกจะมาวิจารณ์ได้ อีกอย่างตอนที่ตาเฒ่าจัดการให้มีการหมั้นหมายนี้ ก็ไม่ได้เอ่ยเจาะจงเอาไว้ว่าเป็นใครสักหน่อย แล้วทำไมจะเป็นนางเด็กอวิ๋นนี่ไม่ได้กัน” แม่เฒ่าเยว่เห็นลูกสาวถูกไล่ต้อนก็ตวาดเสียงลั่น

เดิมแม่เฒ่าจางยังอยากช่วยพูดให้เด็กสาวที่นอนหน้าซีดอยู่อีกเสียหน่อย แต่ลูกสะใภ้ที่มาด้วยกันจับมือห้ามไว้เสียก่อน นางมองอีกฝ่ายส่งสายตาพลางส่ายศีรษะแล้วจึงถอนหายใจไม่กล่าวอะไรอีก

แม่เฒ่าเยว่เห็นแม่เฒ่าจางเงียบไม่เอ่ยวาจาต่อ ก็เผยสีหน้าผยองออกมาอย่างได้ใจ นางยืนมือเท้าสะเอวถลึงตาข่มขวัญผู้คนจนไม่มีใครกล้าสบตา

“ท่านแม่ ท่านคิดว่ามีอะไรแปลกๆ ไหมเจ้าคะ ปกตินางเด็กอวิ๋นนี่ก็ไม่ใช่คนมีความคิดอะไร แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ลุกขึ้นมาเอะอะโวยวายสร้างเรื่องใหญ่โตกัน ข้าว่า… เรื่องนี้เราคงต้องถามน้องสะใภ้รองแล้วกระมั้ง” จางชุ่ยสะใภ้คนโตกล่าวพลางปรายตามองไปยังสตรีร่างผอมบางที่ยืนด้านข้างตนเองอย่างมีเลศนัย

แม่เฒ่าเยว่ได้ยินดังนั้น สายตาที่มองถลึงใส่แม่เฒ่าจางจึงถูกเบนไปยังร่างผอมแห้งของหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างจางชุ่ยทันที ก่อนที่นางจะเปิดปากก่นด่าอีกฝ่ายด้วยท่าทีดุร้าย

“ตระกูลเยว่เราเลี้ยงตัวขาดทุนอย่างพวกเจ้าสองคนแม่ลูกมาตั้งนานไม่เคยปริปาก มาวันนี้เจินเอ๋อร์มีภาระที่ต้องกระทำ สัญญาหมั้นหมายที่บิดาเจ้าเคยตกลงไว้จึงต้องให้ลูกสาวเจ้ารับผิดชอบแทน แล้วดูสิ่งที่นางทำลงไปสิ ช่างเป็นหมาป่าตาขาว [2] จริงๆ หรือว่าเป็นเพราะเจ้าไม่พอใจที่ข้าจัดการแบบนี้ เลยแอบสั่งให้นางทำเช่นนี้ใช่ไหม”

หลิวอิงสะใภ้รองมีสถานะความเป็นอยู่ต่ำสุดในบ้าน นางไม่มีปากเสียงทั้งยังหวาดกลัวแม่สามีตัวเองที่สุด รีบร้อนปฏิเสธแทบจะร่ำไห้ว่าไม่ใช่อย่างนั้น “ท่านแม่ ข้าไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะเจ้าคะ เป็นนางที่ทำของนางเองไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย”

เพื่อนบ้านหลายคนที่มาชมดูความสนุกต่างแสดงสีหน้าเหยียดหยาม เสือที่ว่าร้ายยังไม่คิดกินลูกตัวเอง ทว่าสะใภ้รองเยว่ผู้นี้ถึงกับผลักบุตรสาวที่ยังสลบไสลไม่ได้สติออกมารับหน้าแม่สามี นับว่ามีจิตใจเลวร้ายยิ่งกว่าเดรัจฉานชั้นต่ำเสียอีก

เยว่อวิ๋นนอนหลับตานิ่งไม่ไหวติง นางฟังเสียงพูดคุยที่ไม่คุ้นเคยรอบตัวแล้วรู้สึกยิ่งปวดศีรษะ ทำไมนางถึงมีความรู้สึกว่าคนที่พวกนั้นกำลังพูดถึงอยู่ก็คือนางกันเล่า

เสียงตวาดด่าทอของแม่เฒ่าเยว่ยังคงดังต่อเนื่อง ผสานกับเสียงร่ำไห้ของหลิวอี้และคำพูดซุบซิบของชาวบ้าน ความจอแจนี้รบกวนความคิดของเยว่อวิ๋นจนไม่สามารถไปต่อได้ หญิงสาวผ่อนลมหายใจพรูหนึ่ง ก่อนจะกลั้นลมหายใจลืมตาขึ้นช้าๆ

เงาภาพพร่าเลือนค่อยๆ ปรากฏสู่สายตา เบื้องหน้าคือกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่มีใบหน้าไม่คุ้นเคย เยว่อวิ๋นเหม่อมองผนังห้องที่กระดำกระด่าง ตลอดจนเตียงนอนที่ปูด้วยผ้าเก่าๆ มอซอจนดูสีเดิมไม่ออก แล้วถามตัวเองซ้ำๆ

ที่นี่คือที่ไหน?

“ฟื้นแล้วรึ นางตัวดี ตัวอัปมงคล หมาป่าตาขาวเลี้ยงไม่เชื่อง” แม่เฒ่าเยว่ร้องก่นด่าทันทีเมื่อเห็นคนบนเตียงขยับตัวลุก นางถลาเข้าประชิดเยว่อวิ๋นพลางพ่นวาจาดุร้ายใส่หน้าไม่หยุด “ทำไม! หรือพวกเราสกุลเยว่เลี้ยงตัวชั่วร้ายอย่างเจ้ามาจนโต ไม่มีสิทธิ์จัดการงานแต่งงานให้เจ้าหรืออย่างไร”

แม่เฒ่าเยว่ขยับปากด่าทอ มือก็ไม่ได้อยู่เฉย นางทั้งทุบตีทั้งหยิกเยว่อวิ๋นไม่หยุด โดยเฉพาะบริเวณผิวเนื้อที่อยู่ใต้ร่มผ้า

เยว่อวิ๋นเพิ่งลืมตาขึ้น อาการปวดวิงเวียนศีรษะก็พุ่งจู่โจม ร่างกายสั่นเทาไร้เรี่ยวแรงจะขยับ นางจึงไม่อาจต้านทานหรือขัดขืนการกระทำของหญิงชราตรงหน้าได้

นางได้แต่นอนตัวอ่อนปวกเปียกให้อีกฝ่ายเล่นงาน โดยไม่หลุดเสียงร้องสักแอะ ทว่าในแววตาดำขลับคู่นั้นทอประกายเย็นเยียบ

ยายเฒ่าสารเลวนี่รอให้นางดีขึ้นก่อนเถอะ!

ถ้าไม่เพราะร่างกายย่ำแย่จนขยับไม่ไหว นางมีหรือจะยอมถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ ในอดีตฉายาแม่ทัพใหญ่ของนางเองก็หาได้มาเพราะโชคช่วย เพียงแต่แม่ครัวเก่งกาจมิอาจปรุงอาหารหากขาดวัตถุดิบ [3] เช่นเดียวกับนางที่แม้มีใจคิดสู้แต่ถ้าร่างกายไม่เอื้ออำนวยก็ไร้ประโยชน์

“นางตัวดี สำนึกผิดหรือยัง” แม่เฒ่าเยว่อาละวาดทุบตีคนบนเตียงจนเหนื่อยหอบถึงสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ นางสบสายตาราบเรียบดุจผิวน้ำไร้ระลอกคลื่นของเด็กสาวตรงหน้าแล้วพลันเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ปกติแค่ตนส่งเสียงดังหน่อย นางเด็กน่าชังนี่ก็จะก้มหน้าตัวสั่นงกแล้ว ทำไมวันนี้ทั้งถูกหยิกถูกตียังนิ่งเฉยได้อีกเล่า

ไหนจะแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกนั่นอีก…

“อย่าทำมาเป็นมองข้าด้วยสายตาแบบนั้นนะ นางเด็กน่ารังเกียจ ข้าขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลย ไม่ว่าวันนี้จะเป็นหรือตายเจ้าก็ต้องแต่งไปบ้านสกุลเซี่ย” แม่เฒ่าเยว่พยายามข่มอารมณ์หวาดกลัวของตน พลางแสร้งโมโหตวาดด่าทอกลบเกลื่อน “หากเจ้ากล้า…”

[1] หมายถึงรับความผิด

[2] หมายถึงคนเนรคุณ

[3] หมายถึง ต่อให้เชี่ยวชาญหรือชำนาญการแค่ไหน ถ้าไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องมือสิ่งของที่จำเป็น ก็ไม่อาจแสดงฝีมือออกมาได้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 3

    “อย่าทำมาเป็นมองข้าด้วยสายตาแบบนั้นนะ นางเด็กน่ารังเกียจ ข้าขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลย ไม่ว่าวันนี้จะเป็นหรือตายเจ้าก็ต้องแต่งไปบ้านสกุลเซี่ย” แม่เฒ่าเยว่พยายามข่มอารมณ์หวาดกลัวของตน พลางแสร้งโมโหตวาดด่าทอกลบเกลื่อน “หากเจ้ากล้า…”“เข้าใจแล้ว ข้าจะแต่ง”เยว่อวิ๋นตอบขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งนางนอนฟังเรื่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 4

    ทางที่ดีให้เขาบาดเจ็บหรือพิการจนต้องนอนเตียงไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ สามีคนเดียวนางเลี้ยงไหวอยู่แล้ว แม้จะมีซาลาเปาน้อยแถมมาด้วยก็ไม่เป็นไรนางไม่ถือสา แต่ขออย่าได้ลุกขึ้นมายุ่มย่ามวุ่นวายกับนางเชียวล่ะเพราะถ้าไม่อย่างนั้นนางคงไม่ลังเลที่จะส่งเขาลงไปพบกับเหยียนหลัวหวางก่อนเวลาเป็นแน่!เยว่อวิ๋นนอนนิ่งใช้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 5

    เยว่อวิ๋นฟังแล้วอดนึกขันไม่ได้ คงต้องบอกว่าคนจำพวกเดียวกันมักจะมองกันออกจริงๆ สินะ ขนาดอีกฝ่ายไม่อยู่ในขบวนรับตัวเจ้าสาวแท้ๆ กลับบรรยายการกระทำของแม่เฒ่าเยว่ได้ชัดเจนชนิดตาเห็นเลยทีเดียว ดูท่าแล้วหญิงชราผู้นี้คงเป็นแม่สามีราคาถูกของนางกระมั้ง“ท่านแม่ พวกข้าไม่ได้เสียเปรียบให้นางเลยขอรับ” เซี่ยจินกล

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 6

    ยามฟ้าสางรุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองเริ่มจับขอบฟ้า หมู่สกุณาเริงร่าร้องขับขาน เยว่อวิ๋นถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงพูดคุยเล็กๆ“ท่านพี่ ข้าหิวแล้ว” เสียงที่พอฟังออกว่าเป็นเด็กหญิงดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงตอบกลับจากเด็กชาย “ชู่ เบาๆ นางตื่นแล้ว”เยว่อวิ๋นลืมตาเหม่อมองหลังคาอยู่พักหนึ่ง นางนอนฟังเจ้าของ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 7

    “ต้องซาวน้ำล้างเศษดินทิ้งก่อนหุงเจ้าค่ะ” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ในกระแสเสียงปะปนด้วยอารมณ์หวาดหวั่นของผู้เป็นเจ้าของเยว่อวิ๋นเลิกคิ้วเล็กน้อย ในใจบางอ้อขึ้นมาทันที ที่แท้เพราะนางยังไม่ได้ล้างข้าวก่อนนี่เอง สีของน้ำจึงมิต่างจากน้ำโคลนเช่นนี้ หญิงสาวหันไปยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่แอบอยู่ด้านหลัง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 8

    “เด็กน้อย เจ้าดูไฟเป็นหรือไม่” หญิงสาวถามเบาๆเสี่ยวอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักใบหน้ารัวๆ ประดุจไก่จิกข้าวสาร“เป็นเจ้าค่ะ ตั้งแต่เสี่ยวอวี้สี่ขวบก็มีหน้าที่คอยจุดไฟให้ท่านป้าใหญ่อยู่แล้ว” เด็กหญิงบอกน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ขณะทรุดลงนั่งยองๆ หน้าเตาไฟเยว่อวิ๋นหรี่นัยน์ตามองร่างเล็กตรงหน้าอย่างพินิจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 9

    ในความคิดของเยว่อวิ๋น เด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบเหล่านี้ หากถูกเลี้ยงดูดีๆ มีใครบ้างที่ไม่ขาวอวบนุ่มนิ่มดังเช่นซาลาเปาทว่าน่าเสียดายนัก ลูกเลี้ยงของนางทั้งสองคนกลับเป็นได้แค่หัวไชเท้าน้อยเปื้อนโคลน พวกเขาไม่เพียงมีร่างกายที่ผ่ายผอมแคระแกร็น ทั้งยังเต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลฟกช้ำตามเนื้อตัวชนิดไม่มีที่ว่าง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 10

    เยว่อวิ๋นนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าเจ้าหัวไชเท้าน้อยที่นางกำลังคิดเลี้ยงดูนั้น กำลังวางแผนที่จะเลี้ยงดูนางในอนาคตเช่นกันเนื่องจากฟ้าด้านนอกยังสว่างไม่มากนัก ภายในห้องมีเพียงเแสงสว่างสลัวๆ เมื่อรวมกับกลิ่นอับชื้นอากาศจึงไม่น่าพิสมัยนัก เยว่อวิ๋นพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถือชามข้าวต้มเดินเข้าในห้องคนบนเตียงยั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03

Bab terbaru

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 142

    เรื่องอะไรนางต้องลำบากลำบนเป็นหนี้เพื่อซื้อผู้หญิงให้สามีตัวเองด้วย!“เยว่ซื่อเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนักนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องครอบครัวข้า แค่สามีข้ารู้จักสวีเหยาเจ้าก็คิดจะยัดเยียดคนเข้ามาแล้วรึ เจ้านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี”“เจ้าเองก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้เหตุผล แล้วทีเจ้าลา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 141

    เซี่ยเหล่าซานมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกสะใภ้ตัวเอง นางสงสารสวีเหยาจริงเสียที่ไหนกัน ก็แค่อยากสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นเท่านั้นแหละ“สะใภ้รองเจ้าว่างมากนักหรือไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็กลับเข้าบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้คนเขาระอาเลย” อยู่ต่อหน้าเยว่อวิ๋นเซี่ยเหล่าซานไม่สะดวกจะสั่งสอนลูกสะใภ้ จึงได้แต่ถลึงตา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 140

    พอรู้ว่าคนไปแล้วนางเจียงจึงขมวดคิ้ว บ่นสามีที่ไม่รู้ความเบาๆ “ดูเจ้าสิ อายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้ เยว่ซื่อมอบของตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าก็ไม่คิดอะไรแบมือรับอย่างเดียวหรือ”ผู้ใหญ่บ้านฟังแล้วหน้าแดง รู้สึกว่าตนบกพร่องมารยาทไปจริงๆ เจียงซื่อเห็นเขาคิดได้ก็ไม่พูดต่อ นางเพียงส่งผักที่กอดไว้ให้อีกฝ่าย

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 139

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นจัดการแบ่งใบชาที่ซื้อมาใส่ห่อพร้อมขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาอีกหนึ่งกล่อง เตรียมของเสร็จนางก็กำชับต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ให้คอยดูคนป่วยสองคนด้านใน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านบ้านของผู้ใหญ่อยู่ห่างจากบ้านของเยว่อวิ๋นพอประมานใช้เวลาเดินเกือบๆ หนึ่งเค่อ เยว่อวิ๋นเดินไปตามทางอย่างไม่ร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 138

    พอเยว่อวิ๋นจากไปในห้องก็พลันเงียบงันชั่วขณะ เซี่ยฉงอวิ๋นที่เมื่อครู่ต่อล้อต่อเถียงก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหลีจวินไม่กล่าววาจา เห็นอย่างนั้นหลีจวินก็ใจแป้วขึ้นมาทันที“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม ขะ... ข้าเป็นลูกค้าบ้านเจ้านะ” หลายวันมานี้เขาถูกคนตรงหน้ากลั่นแกล้งจนหัวหมุนขยาดไปหมดแล้ว“แล้วอย่างไร เจ้ายังไม่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 137

    เรื่องราวของสวีเหยาถูกโจษจันไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวยังไม่แต่งงานคนหนึ่ง กลับวิ่งไปหาบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้วเพื่อขอเป็นอนุ นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่น่าอับอายอย่างแท้จริงพริบตาที่เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่เพียงครอบครัวสวีที่กลายเป็นตัวตลก แต่บ้านจ้าวเองก็หนีไม่พ้นเช่นกันป้าจ้าวที่เคยเดินเชิดหน้านินทาคน

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 136

    ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 135

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 134

    ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status