공유

Chapter 2. เซียวเหริน

last update 최신 업데이트: 2024-12-02 12:17:06

หลัววั่งเป็นอีกคนในหมู่บ้านที่แวะเวียนมาบ้านของเซียวเหรินทุกวัน คอยช่วยงานทั่วไป และหากมีใครเจ็บป่วยมาแล้วทำกิริยาไม่ดีต่อท่านเซียว หลัววั่งจะออกหน้าขับไล่และปกป้องเสมอ  ภายนอกเซียวเหรินคล้ายไม่สนใจผู้อื่น แท้จริงแล้วกลับห่วงใยยิ่งนัก แม้อยู่คนเดียวอย่างสันโดษ แต่ชาวบ้านผลัดกันแวะเวียนมาดูแล หลัววั่งทำไร่ไถนาดูเป็นคนไม่ค่อยฉลาดนัก แต่มีพละกำลังมหาศาล คนในหมู่บ้านจึงลงความเห็นให้หลัววั่งมาคอยดูแลเซียวเหริน หากมีเรื่องต้องแบกหามคนเจ็บคนป่วย หลัววั่งทำได้อย่างไม่ลำบาก ส่วนติงชุ่ยเป็นลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน นางแอบหลงรักเซียวเหรินตั้งแต่ที่ชายผู้นี้มาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขาเป่ยหมาง

แต่เดิมไม่มีใครรู้ว่าเซียวเหรินมีความรู้รักษาผู้คนได้  จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กตกต้นไม้บาดเจ็บสาหัส หมู่บ้านเล็กๆ ไม่มีหมอ แม่ของเด็กน้อยวิ่งมาที่ภูเขาหวังใจจะบนบานกับเทพภูเขา เซียวเหรินอยู่ระหว่างเก็บของป่าได้ยินเข้าจึงติดตามไปดูอาการของเด็กน้อย ราวกับปาฏิหาริย์เด็กน้อยผู้นั้นฟื้นคืนสติ ขาที่บิดพลิกรูปก็ถูกเซียวเหรินพลิกกลับคืนรูปร่างเดิม เด็กน้อยพักฟื้นเพียงสิบกว่าวันก็สามารถวิ่งเล่นได้อีกครั้ง

            นับแต่นั้น ยามใดที่คนในหมู่บ้านเจ็บป่วยก็พากันมาให้เซียวเหรินรักษา การรักษาอันล้ำเลิศของเซียวเหรินขจรขจายดุจกลิ่นหอมของดอกไม้ที่สายลมหอบพัดพาไปไกลสุดไกล แต่ด้วยความรักสันโดษของเซียวเหรินจึงไม่ยอมให้ใครมาพักรักษาตัวใกล้ที่พักของเขา กลายเป็นว่าคนที่เดินทางมาไกล จะมาให้เซียวเหรินตรวจวินิจฉัยอาการ แต่เมื่อจำเป็นต้องพักค้างแรม ต้องขอแบ่งปันห้องพักจากชาวบ้านแทน พวกเขาจึงมีรายได้ทางอ้อม และคอยส่งหลัววั่งมารับใช้เซียวเหริน

            “ท่านเซียวไปเก็บสมุนไพรแต่เช้ามืด กลับมาเหนื่อยๆ ประเดี๋ยวข้าทำอาหารเช้าเลยนะขอรับ”   

            ฝีมือการทำอาหารของหลัววั่งไม่นับว่าเลิศรสแต่ก็ไม่เลวร้าย เซียนเหรินพยักหน้ารับ มือใหญ่ทาบไปที่บานประตู ยังไม่ทันผลักบานประตูให้เปิดออก เสียงหวีดร้องตกใจดังขึ้นจากข้างใน หลัววั่งหน้าตาแตกตื่น ติงชุ่ยแทบจะเป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปดูหน้าสตรีที่เซียนเหรินยอมให้พักในบ้านเดียวกับเขา แม้คนที่ประกาศตัวมิให้ผู้อื่นเรียก ‘หมอ’ แต่ด้วยมโนธรรมที่มีอยู่ ชายหนุ่มรีบเปิดประตูเข้าไปทันที

            หญิงสาวผมยาวสลวยเส้นผมดุจหมึกดำนั่งบนพื้น เสื้อผ้าที่สวมนั้นเป็นของบุรุษทำให้เมื่อร่างไร้เรี่ยวแรงทรุดนั่งลง ไหล่เสื้อเลื่อนลงจนเกือบเห็นเนินอกสล้าง ใบหน้างดงามเงยขึ้นมองผู้ที่ก้าวเข้ามาด้านใน ดวงตาดุจราตรีกาลเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก ริมฝีปากสีชาดเผยอขึ้นเล็กน้อย ผิวกายเนียนละเอียดราวหยกใส รอยบอบช้ำเป็นจ้ำเขียวชวนให้รู้สึกเวทนา หลัววั่งที่ตามเข้ามาถึงกับน้ำลายหนืดกลืนลงคออย่างยากลำบาก ในขณะที่ติงชุ่ยกัดริมฝีปากแน่นไม่ส่งเสียงกรีดร้องโวยวาย นางรู้ดีว่ามีสตรีมากมายที่หวังจะได้ใกล้ชิดเซียนเหริน แต่สตรีเหล่านั้นล้วนถูกนางกีดกันออกไปจนหมดสิ้น ยกเว้น...

            เซียวเหรินก้าวเข้าไปใกล้แล้วทรุดลงนั่งเบื้องหน้านาง ยื่นมือไปกระชับเสื้อผ้าของเขาที่สวมคลุมร่างบอบบาง  ชุดเจ้าสาวของนางเปียกชื้น ยามนั้นเขาช่วยนางที่หมดสติไปแล้ว จำเป็นต้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกน้ำนี้ออก มิเช่นนั้นนางจะถูกพิษไข้รุมเร้า แต่เพราะเขาอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ไม่มีเสื้อผ้าสตรี เขาจึงเอาเสื้อคลุมตัวยาวของตนให้นางสวมแล้วใช้สายรัดเอวรวบผูกไว้ เขาไม่ได้สนใจผิวกายของนางที่เย้ายวนตา แต่รอยช้ำบนร่างกายเริ่มเด่นชัด เขาจับชีพจรทันทีของหญิงสาว

            “ซือ...จื่อ”

            ดวงตาคมกระตุกแล้วหรี่มองหญิงสาว เขามั่นใจว่าไม่เคยพบนางมาก่อน บางทีนางอาจคิดว่าเขาเป็นคนอื่นที่ชื่อเดียวกันนี้

            “ซือจื่อ” แม้น้ำเสียงจะแหบแห้ง แต่เต็มไปด้วยความดีใจ นางเป็นฝ่ายกุมมือที่กำลังจับชีพจรอยู่แล้วบีบแน่น “เป็นซือจื่อจริงๆ”

            “แม่นาง...เจ้าจำคนผิดแล้ว” เซียวเหรินจ้องมองใบหน้าอ่อนหวาน ดวงตาของนางเป็นประกาย นางส่ายหน้าไปมาแล้วส่งยิ้มกว้าง

            “ท่านเคยช่วยข้า ข้าอยู่กับคุณหนูกงเสวี่ยหลิง”

            กงเสวี่ยหลิง ชื่อที่ไม่ควรเอ่ยถึง เซียวเหรินผงะไปเล็กน้อยแต่ฝืนทำเป็นไม่เคยได้ยินชื่อนี้

            “ขออภัยด้วย ข้าจำเจ้าไม่ได้จริงๆ ”

            สีหน้าผิดหวังของนางชวนให้คนรู้สึกสงสารนัก “ท่านจำไม่ได้หรือ ข้าถูกแมวไล่กวดถูกกดจนปีกฉีก ท่านเป็นคนรักษาแล้วส่งข้าให้คุณหนูดูแลอย่างไรเล่า”

            แมวไล่กวด? ปีกฉีก? มีเรื่องประหลาดแบบนี้ด้วยหรือ?

            เซียวเหรินยังมีสีหน้างุนงง นางไม่พูดเปล่าแต่ยังกางแขนออก ชี้ให้เขาดูที่แขนของนาง

            “นี่อย่างไร ถ้าไม่ได้ท่านรักษา ข้าคงไม่ได้โบยบินบนท้องฟ้าอีกแล้ว...อ๊า!” หญิงสาวกรีดร้อง “ปะ..ปีก...ปีกของข้าไปไหน แล้วนี่อะไร...นี่”

นางหวีดร้องสีหน้าตื่นตระหนก สะบัดแขนเรียวไปมาแรงๆ ราวกับจะให้มันหลุดออกไป ติงชุ่ยที่รับมือกับบรรดาหญิงสาวที่ ‘เข้าหา’เซียน     เหริน ใช้ลูกไม้สารพัดรูปแบบ นางจึงคิดไปว่าหญิงสาวคนนี้อาจมาหลอกลวงเซียนเหรินอีกคน

            “จะอะไร! มันก็แขนอย่างไรเล่า ข้าก็มีแขนเหมือนเจ้านั่นแหละ”

ติงชุ่ยรีบเข้าไปหมายจะกระชากหญิงสาวแปลกหน้าออก แต่นางชะงักมือกลางอากาศไม่ทันได้จับแขนของหญิงผู้นั้นก็ถูกสายตาดุดันจ้องมอง ทำให้นางชักมือกลับแล้วถอยไปยืนข้างหลัววั่ง

            “แขน? เหตุใดข้ามีแขน” นางส่ายหน้าไปมา ผมยาวสยายพลิ้วไหวชวนมอง

            “หากไม่ใช่แขน เจ้าคิดเป็นสิ่งใด” เซียวเหรินถามอย่างใจเย็น ดูว่าหญิงผู้นี้จะเล่นลูกไม้ใด หากไม่เพราะว่าเขาตรวจพบว่านางบาดเจ็บจริง เขาคงปล่อยนางออกไปแล้ว

            “ปีก! ข้าเป็นนก! ข้าต้องมีปีกสิ!”

            “นก!” หลัววั่งหลุดปากพูดเสียงดัง แล้วนึกได้จึงรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเอง

            “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นนก? ” เซียนเหรินถาม

            นางพยักหน้าหงึกๆ “แน่นอน ข้าเป็นนก ข้าเป็นนกหงส์หยกของคุณหนูกงเสวี่ยหลิง ท่านจำข้าไม่ได้หรือ?”

            หญิงสาวยื่นมือมาจับแขนสองข้างของเซียวเหรินแน่น จ้องดวงตาของเขาเพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง เพราะเห็นเงาที่สะท้อนในดวงตาของเขา นางจึงหวีดร้องออกมาอีกหน รีบชักมือกลับมาลูบคลำใบหน้าตน

            “นี่...นี่...นี่ไม่ใช่ใบหน้าของข้า” นางกวาดตามองหากระจก “กระจกอยู่ไหน ข้าขอส่องกระจกหน่อยเถิด”

            ติงชุ่ยหงุดหงิดกับการแสดงของหญิงสาวคนนี้จึงสะบัดหน้าเดินไปหยิบกระจกให้ เพราะนางเป็นคนทำความสะอาดดูแลความเป็นอยู่ของเซียวเหรินจึงรู้ว่าข้าวของอยู่ตรงไหน นางหยิบกระจกแล้วส่งให้ มือสั่นระริกยื่นมาหยิบแล้วส่องดูใบหน้าตนเอง แม้กระจกนี้ไม่ดีเท่าที่นางเคยใช้

แต่มันก็พอจะมองเห็นว่าใบหน้านี้เป็นของ...

            “เป็นไปไม่ได้” นางส่ายหน้าไปมา เหตุใดเป็นเช่นนี้ นางควรเป็นนกหงส์หยกตัวน้อยที่คอยรับฟังเรื่องราวต่างๆ ของคุณหนู เหตุใดดวงจิตของนางจึงมาอยู่ในร่างของคุณหนูเช่นนี้

            แล้วคุณหนูของนางเล่า คุณหนูกงเสวี่ยหลิงที่แสนดีของนางไปอยู่ที่ใดแล้ว

            ร่างกายทั้งหมดไร้เรี่ยวแรงโงนเงนเหมือนกิ่งหลิวต้องลม มือที่จับกระจกอยู่ค่อยๆ ร่วงลงดุจใบไม้ปลิดจากขั้ว มือใหญ่ยื่นมาประคองร่างนางใช้แผ่นอกของเขาเป็นที่พักพิง

            “เจ้าพบเรื่องสะเทือนใจอย่างหนักหน่วง เวลานี้พักผ่อนเสียก่อนเถิด”

            น้ำเสียงราบเรียบแต่ชวนให้ใจสงบทำให้ดวงตาคู่งามปิดลงช้าๆ เซียวเหรินช้อนตัวหญิงสาวขึ้นอุ้มไปนอนที่ตั่งนุ่มที่เขายกให้นางนอนมาสองวันแล้ว เขาวางร่างนางให้นอนลงอีกครั้ง คลี่ผ้าห่มคลุมกายให้นางแล้วเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าอ่อนหวาน

            “ท่านเซียว” ติงชุ่ยเรียกเบาๆ ด้วยเกรงจะถูกดุเอาอีก

            “จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักจนคิดเพ้อไปว่าตนเองเป็นผู้อื่น พวกเจ้าติดตามข้ามาหลายปี ย่อมเคยเห็นมาบ้างแล้ว จะตื่นตกใจไปไยกัน”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   จบ

    หญิงสาวได้แต่ยิ้มน้อยๆ แล้วมองเด็กสองคนที่แย่งกันมองนอกหน้าต่างรถม้าที่โยกไหวไปมา นี่คือเส้นทางที่นางตัดสินใจแล้ว เขาไม่ต้องการนาง นางก็ไม่สามารถทำใจแข็งมองดูเขากับหญิงอื่นได้ ไม่รู้ทำไม ใจนางจึงชอบบุรุษผู้นั้นไปได้ ภายนอกเขาดูเย็นชาแต่เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง เขาใส่ใจนางอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างไร นางก็เป็นเพียงหญิงจากหอนางโลมที่รัชทายาทประทานให้ เมื่อเขาไม่ต้องการก็ส่งนางกลับไป คิดถึงเรื่องนี้หัวใจก็เจ็บราวถูกมีดเฉือดเนื้อหัวใจเป็นริ้วๆ“นั้นอะไร” เด็กหญิงเอ่ยถาม“ม้ายังไงเล่า” เด็กชายตอบ “มีคนขี่ม้ามาทางนี้”“คงเป็นทหารนำสาสน์ด่วนผ่านมาทางนี้” ผู้เป็นแม่อธิบาย“ข้าจะเป็นทหาร!” เด็กชายพูดขึ้น“ข้าด้วย” เด็กหญิงพูดบ้าง“เจ้าเป็นผู้หญิง เป็นทหารไม่ได้”“ข้าจะเป็นทหาร ขี่ม้าเหมือนคนผู้นั้น”“อ๋า! ใกล้มาแล้ว”จู่ๆ รถม้าก็หยุดกะทันหัน ผู้คนในรถม้าไม่ทันตั้งตัวล้มไปคนละทาง หลิวเจียวเหมยยื่นมือไปรับเด็กหญิงไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มกระแทกพื้นรถ“เกิดอะไรขึ้น!” หลิวเจียวเหมยหัวเสีย แม้จะเป็นคนของทางการแต่ทำเช่นนี้ไม่ถูก หากมีคนบาดเจ็บขึ้นมาจะทำอย่างไร หญิงสาวหงุดหงิดแล้วยื่นหน้าออกไปมองเป็นจังหว

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter71.บุรุษในดวงใจ

    หยางเฟยหลิงก้าวพรวดพราดเข้าไปหาน้องชายที่นี่นั่งอ่านตำราอยู่ สีหน้าของหยางไห่เทาไม่สะทกสะท้านแม้ถูกกระชากคอเสื้อจนตัวลอยขึ้นจากเก้าอี้ สาวใช้ตกใจส่งเสียงหวีดร้องขึ้นมาทันที “พี่ใหญ่” หยางไห่เทาคลี่ยิ้มไม่ถือสาที่ถูกพี่ชายทำเช่นนี้ “หากเจ้ายังเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ ก็บอกมาว่าซ่อนหลิวเจียวเหมยไว้ที่ใด!” “แค่สตรีนางหนึ่งเป็นแค่หญิงรับใช้ พี่ใหญ่จะต้องสนใจไปไย” “นางเป็นคนของข้า!” “ข้ารู้” หยางไห่เทายังคงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาเตรียมใจมาเจอเรื่องเช่นนี้แล้วจึงไม่ได้หวาดกลัวสิ่งใด เขายกมือขึ้นแตะหลังมือพี่ใหญ่เป็นเชิงเตือนให้ปล่อยมือ แม่ทัพหนุ่มรู้ดีว่าทำไม่ถูกนัก แต่เขาระงับใจไว้ไม่อยู่ ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกก่อนปล่อยมือจากเสื้อของน้องชาย หยางไห่เทาพรูลมหายใจเบาๆ พลางจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วผายมือเชิญให้พี่ใหญ่นั่งลงก่อน เขารินน้ำชาด้วยตนเองแล้วส่งให้ “พี่ใหญ่ไม่ต้องการนางแล้ว จะรั้งนางไว้เพื่อสิ่งใด มิสู้ปล่อยให้นางได้ใช้ชีวิตของตนมิดีกว่าหรือ?” “ผู้ใดบอกว่าข้าไม่ต้องการนาง” เขา

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter70. รสขมปร่าในอก

    บ้านเมืองสงบสุขไปหรือไร ไฉนทุกคนถึงได้เป็นห่วงเป็นไยว่าเขายังไม่ได้แต่งงาน หยางเฟยหลิงหงุดหงิดในใจทว่าไม่สามารถแสดงสีหน้าหรืออารมณ์ออกมาได้ เขายังคงนั่งจิบน้ำชาอย่างไร้ความรู้สึกต่อหน้ารัชทายาทฝูไหลที่นัดหมายพบหน้าเขาถึงที่จวน โดยแจ้งว่ามีใบชาชั้นเลิศมอบให้ คนอย่างเขาดื่มสุรามากกว่าน้ำชาด้วยซ้ำ เหตุใดจึงมอบใบชาให้เขากันเล่า และสุดท้ายก็สอบถามเขาเรื่องตบแต่งภรรยา “แม่ทัพหยางไม่ถูกใจน้องสาวของข้ารึ หรือเจ้าชอบองค์หญิงคนไหน ข้าสามารถพูดกับเสด็จพ่อได้” “ฐานะกระหม่อมไม่คู่ควร โปรดเลิกคิดเรื่องเหล่านี้เถิด” ฝูไหลไม่โกรธแต่กลับหัวเราะออกมา “หรือแม่ทัพหยางมีหญิงในดวงใจจึงไม่พึ่งใจพี่สาวน้องสาวของข้า” หญิงในดวงใจ เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตั้งแต่รับหลิวเจียวเหมยไว้ข้างกาย เขาก็ไม่ต้องสตรีนางใดอีก เขาชอบเวลาที่มีนางอยู่ใกล้ๆ นางเหมือนสายน้ำไหลเย็นที่ไร้เสียง แต่รับรู้ได้ว่ามีตัวตนในขณะเดียวกันก็ซุกซ่อนอีกด้านที่ไม่เปิดเผยให้ผู้อื่นได้สัมผัส ท่าทางแง่งอนหรือดื้อรั้น ภายใต้ท่าทีอ่อนน้อมเช่นนางจะหัวแข็งไ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter69. ข้ามีสิทธิ์รอหรือ?

    ปลายจมูกโด่งกดซุกไซ้ที่ซอกคอขาวผ่อง หญิงสาวบิดตัวไปมาพลางยกมือขึ้นปัดป้อง ทว่าสองมือกลับถูกกดลงข้างตัวทำให้คนที่หลับใหลผวาตื่นจ้องมองใบหน้าผู้บุกรุกยามวิกาล “ท่าน...ท่านแม่ทัพ...” “หรือเจ้าคิดว่าเป็นผู้ใด” น้ำเสียงหงุดหงิดเคล้ากับกลิ่นสุรารสแรงทำให้หลิวเจียวเหมยตัวเกร็งและไม่กล้าขยับตัวส่งเดชอีก ท่าทางตื่นกลัวของนางทำให้หยางเฟยหลิงหงุดหงิด เหตุใดนางจึงดูกลัวเขานักนะ ทั้งที่ร่วมหลับนอนกันมาหลายครั้งหลายคราแล้ว“ตอบสิ”“....” หญิงสาวปรับสายตาครู่หนึ่ง ยามนี้ร่างใหญ่โตของเขาคร่อมร่างนางอยู่ ไอร้อนจากตัวบุรุษโอบล้อมราวย้ำเตือนว่านางไม่อาจหลบหนีไปได้“ข้า...ข้าไม่ได้รอผู้ใดเจ้าค่ะ” ‘ข้ามีสิทธิ์รอหรือ? ข้าเป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียงท่านแม่ทัพ จะมีสิทธิ์ทำสิ่งใดได้’คล้ายไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ยิน ริมฝีปากเจือรสสุราทาบทับลงมาจูบกลีบปากดุจกลีบกุหลาบ เขาขบเม้มริมฝีปากนางอย่างแรงจนหญิงสาวนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ ร่างกายดิ้นรนต่อต้านแต่ไม่อาจสู้แรงอีกฝ่ายและแน่นอนว่าเขาไม่ได้ออกแรงเลยสักนิด ยิ่งนางต่อต้านเขายิ่งอยากเอาชนะ มือที่ว่างอีกข้างกระชากเสื้อของนางเปิดอ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter68. เหลวไหล

    คนเป็นน้องอ้าปากจะพูดแต่หญิงสาวยกน้ำชาเข้ามาก่อน แม้นางสวมชุดสาวใช้แต่กิริยามารยาทอ่อนช้อยงดงามสมกับเป็นคุณหนูในตระกูลเก่าแก่ หากไม่เพราะเลือกข้างผิดคงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ หญิงสาวรินน้ำชาเสร็จก็ค่อยๆ ก้าวออกไปอย่างเงียบเชียบโดยไม่ต้องให้ใครเอ่ยปากขับไล่ แม่ทัพหยางมองร่างบอบบางเดินออกไปแล้วจึงย้ายสายตามาจ้องมองน้องชาย “พี่ใหญ่คงรู้แล้วว่าข้าป่วยทางใจ หมอที่ใดก็เยียวยามิได้” หยางไห่เทายกน้ำชาขึ้นจิบเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อ “ไม่อาจกล่าวโทษพี่ใหญ่ที่ทำให้ครอบครัวเราจากเดิมที่เป็นเพียงคนยากไร้ได้กลับกลายเป็นคนตระกูลสูงส่งมีผู้คนนับหน้าถือตา แต่สิ่งเหล่านั้นสร้างความกดดันให้ข้าไม่น้อย ไม่ว่าจะทำสิ่งใดมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับพี่ใหญ่ผู้เกรียงไกรในสนามรบ” “เหลวไหล ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้านะ” หยางไห่เทาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนคลี่ยิ้มเหนื่อยล้า“พวกเรารู้ดีว่าพี่ใหญ่ทำเพื่อครอบครัวมากเพียงใด แต่พวกเราก็หนักใจที่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงมากมายที่มาพร้อมฐานะที่สูงขึ้น” “ข้าไม่รู้ว่า...” “เรื่องนี้พี่ใหญ่ไม่ผิด ท่านเองก็รู้ว่าในวังหลวงมี

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter67. ร้อนใจ

    “ท่านแม่พูดว่า...น้องเล็กจะกลับมาแล้วหรือขอรับ” “ใช่” หากหยางไห่เทากลับมา...น้องชายคงอยากพบหลิวเจียวเหมยเป็นแน่ แม้หลิวเจียวเหมยเคยพูดกับเขาว่านับหยางไห่เทาเป็นสหาย แต่น้องชายของเขาเล่าคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้? อาหารเลิศรสกลายเป็นฝืนคอไปทันที หลังจากกินอาหารเสร็จ พ่อลูกนั่งจิบชาอยู่ครู่หนึ่ง หยางเฟยหลิงจึงขอตัวกลับ ระหว่างที่เดินออกมานั้น เด็กน้อยวิ่งถลาเข้ามาทางเขาอย่างไม่ตั้งใจ “ตงตงระหว่างชนท่านลุง” น้องชายคนรองร้องห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว เด็กน้อยวัยสิบขวบวิ่งชนเข้าไปเต็มที แต่หยางเฟยหลิงคว้าร่างเล็กไว้ได้ทันก่อนจะชนกับเขาเข้า ซึ่งถ้าอาจทำให้เด็กน้อยเจ็บตัวได้ เด็กชายตัวจ้อยแหงนหน้ามองบุรุษร่างสูงใหญ่ด้วยความไม่คุ้นเคย ดวงตากลมกะพริบตาปริบๆ แล้วหันไปทางบิดาที่เดินตามมา “ท่านลุง?” “นี่ท่านลุงของเจ้า” น้องชายคนรองหัวเราะเบาๆ แล้วอุ้มเจ้าจอมซนเอาไว้ “พี่ใหญ่ไม่เป็นไรกระมัง” “ข้าจะเป็นอะไรได้” เขามองเด็กน้อยแล้วยิ้ม “พี่ใหญ่ก็กลับมาบ้านบ่อยๆ ลูกข้าจะได้จำหน้าท่านลุงได้...หรือไม

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status