/ รักโบราณ / ดั่งบุปผา ดุจจันทรา / บทที่ 11 บรยากาศมาคุ

공유

บทที่ 11 บรยากาศมาคุ

last update 최신 업데이트: 2025-04-21 15:32:42

หยางจิ่งที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงหันไปมองหยางเฉิงคราหนึ่ง เขาลอบกำหมัดแน่น ในใจคิดอยากจะฆ่าน้องชายร่วมบิดาให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อให้สาสมกับสิ่งชั่วช้าที่หยางเฉิงทำกับเขาและเสด็จพ่อ 

วางยาบิดาตนเอง สังหารพี่ชายตนเอง และทำให้ให้โจวหว่านหรูต้องฆ่าตัวตาย!!!

แม้จะเกลียดชังหยางเฉิงจนแทบอยากจะดื่มเลือดกินเนื้อ แต่ทว่าหยางจิ่งจำต้องทำทุกอย่างให้ไร้พิรุธ เขาปรับสีหน้าตนให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้หยางเฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติ

ในชาติก่อนหยางเฉิงยอมเขาทุกอย่าง เขาเองก็วางตนใหญ่โตข่มเหงหยางเฉิง เพราะฉินกุ้ยเฟยตัวดีสั่งสอนเขาในทางไม่ดี บอกว่าเขาเป็นถึงองค์รัชทายาท ว่าที่ฮ่องเต้เป่ยฉินในภายภาคหน้า เขาไม่จำเป็นต้องเห็นหัวผู้ใด มีแต่ผู้อื่นที่จะต้องก้มหัวให้เขา ยามนั้นเขาหลงคิดว่าฉินกุ้ยเฟยรักเขาเหมือนบุตรแท้ ๆ ยามที่เขารังแกหยางเฉิงก็ไม่ตำหนิ อีกทั้งยังเข้าข้างเขา เขาอยากทำสิ่งใดก็ไม่เคยขัดใจเลยสักครา อีกทั้งยังออกรับแทนเขายามที่ถูกเสด็จพ่อตำหนิ

แต่ความจริงแล้วมันคือกับดัก กับดักที่หลอกให้เขาตายใจ 

เขาถูกขุนนางยื่นฎีกาว่าทำตัวไม่เหมาะสม รังแกพี่น้อง ไม่สนใจเล่าเรียน ทุบตีรังแกคนที่ด้อยกว่า

ทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของฉินกุ้ยเฟยทั้งหมด นางเสแสร้งทำให้เสด็จพ่อเห็นใจที่ต้องทนกับคนนิสัยเสียเช่นเขา

ยามนี้เขารู้แล้ว หากนางรักเขาเหมือนบุตรแท้ ๆ นางย่อมไม่สั่งสอนเขาในทางที่ไม่ดีเช่นนี้

หยางจิ่งแค่นเสียงเหอะในลำคอ เขาต้องพยายามเป็นอย่างมากที่จะควบคุมอารมณ์ตนเอง

ไม่ต่างจากโจวหว่านหรูที่อยากจะลุกขึ้นเดินเข้าไปบีบคอหยางเฉิงให้ตายเช่นเดียวกัน

"น้องรอง มานั่งก่อนสิ พวกเราเพียงออกมาชมดอกเหมยและหิมะกันเท่านั้น เห็นว่าบรรยากาศดีจึงนั่งดื่มชาเสียเลย"

หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน หยางเฉิงเองก็ยิ้มตอบเขาเช่นเดียวกัน ก่อนจะหันมามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง

"แม่นางท่านนี้คือ"

"นางคือคุณหนูโจว เข้าวังมาคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียน บังเอิญได้พบเจอกันและรู้ว่าเป็นคนรู้จักกันมาแต่วัยเยาว์ ข้าจึงชวนนางมานั่งเป็นเพื่อนหยางจินจิน"

หยางจิ่งเอ่ยกับหยางเฉิงด้วยน้ำเสียงที่ไม่สนิทและไม่ห่างเหิน หยางเฉิงจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง หัวใจของเขาพลันสั่นไหวอย่างแปลกประหลาด สตรีนางนี้ช่างงดงามน่าค้นหาเหลือเกิน

โจวหว่านหรูทำเหมือนไม่ได้เห็นสายตาหลงใหลที่มองมาของหยางเฉิง นางยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้หยางจินจิน

ด้านหยางจินจินเองไม่ได้เอ่ยสิ่งใดกับหยางเฉิงมากนัก แต่ไหนแต่ไรพี่รองของนางก็เป็นพวกไม่ยุ่งกับผู้ใด วัน ๆ อ่านแต่ตำราหาความรู้ นาน ๆ ทีจะได้พบเจอกันสักครา

หยางจิ่งรับรู้ได้ถึงท่าทีที่หยางเฉิงมีต่อโจวหว่านหรูก็รู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก เขาจึงเอ่ยถามหยางเฉิงเพื่อเบี่ยงประเด็นทันที

"น้องรอง วันนี้ลมใดหอบเจ้ามากัน ทุกคราเห็นอยู่แต่ในห้องตำรา"

หยางเฉิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเต็มใบหน้าก่อนจะเอ่ย

"อยู่กับตำรานานไปก็รู้สึกเบื่อน่ะพ่ะย่ะค่ะ เลยออกมาเดินเล่น เอ่อ เมื่อครู่ข้าได้ยินเหล่าขันทีเอ่ยว่า เอ่อ..."

หยางเฉิงมีท่าทีกระอักกระอ่วนใจไม่กล้าเอ่ย หยางจิ่งยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยถาม

"ทำไมหรือ"

"จะดีหรือพ่ะย่ะค่ะ"

"เล่ามาเถิด"

"เสด็จพี่ท่านอย่าโมโหไปเล่า ขันทีและองครักษ์พวกนั้นบอกว่า ท่านเอาแต่ดื่มสุรา วันนี้เห็นว่าไปเรียนกับท่านอาจารย์เพียงครู่เดียวก็กลับออกมาแล้ว คงจะไม่ได้เรื่องอีกตามเคย เสด็จพี่ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจเป็นแน่ ข้าเองก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด พวกเขารับใช้พวกเรามานาน ท่านอย่าถือสาเลย"

หยางเฉิงเอ่ยด้วยท่าทีร้อนรน หยางจิ่งที่เห็นเช่นนั้นแทบอยากจะลุกขึ้นตบมือให้หยางเฉิงและบอกว่า เจ้าช่างเสแสร้งได้อย่างแนบเนียนยิ่งนัก หลังจากนั้นก็ยกเท้าถีบน้องชายบัดซบผู้นี้ออกไปจากศาลารับลมเสีย

แต่เขาต้องอดทนไว้ ทั้งที่อยากทุบตีหยางเฉิงใจจะขาด!!!

"เสด็จพี่"

"ช่างเถิด ข้าไม่ได้สนใจมานานแล้ว คำพูดเหล่านั้นข้าชินชาเสียแล้ว แต่ข้าขอบใจเจ้ามากนะที่มาบอกข้า ขันทีพวกนั้นคงเห็นว่าระยะนี้ข้าไม่ได้ทุบตีพวกเขากระมัง จึงมีความกล้าขึ้นมา โอ้ว น้องรอง ข้าคล้ายเห็นตัวอันใดไม่ทราบได้มันเกาะหลังเจ้า อยู่นิ่ง ๆ ก่อน"

"โอ๊ะ!!!"

หยางเฉิงสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกหยางจิ่งใช้มือตีเข้ามาที่กลางหลังของเขาอย่างเต็มแรง เขาแทบจะสำลักชาร้อนออกมาอยู่แล้ว

หยางเฉิงลอบกัดฟันกรอด นึกอยากจะต่อยหน้าหยางจิ่งสักครา แต่ทว่าเมื่อได้เห็นหน้าตาของหยางจิ่งดูไม่มีทีท่าว่าจะกลั่นแกล้งเขาเลยแม้แต่น้อย เขาจึงต้องระงับโทสะตนลงท้องไปเสีย

หยางเฉิงข่มโทสะตนก่อนจะจ้องมองหยางจิ่งด้วยความสงสัย ทุกคราที่หยางจิ่งรู้ว่ามีคนต่อว่าตนลับหลัง จะต้องไปจัดการคิดบัญชีกับคนผู้นั้นด้วยการสั่งโบยจนตาย 

แต่ครานี้กลับบอกว่าช่างมันเถิด อีกทั้งยังรั้งรอเวลาอีกด้วย

หยางเฉิงพยายามเก็บท่าทีสงสัยเอาไว้ หยางจิ่งยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะยกยิ้มมุมปากตนคราหนึ่ง

อีกไม่นานเจ้าจะโดนมากกว่าตบหลังเป็นแน่!!!

หยางเฉิงยกถ้วยชาขึ้นดื่มอีกครา ก่อนจะเอ่ยกับหยางจิ่ง

"เสด็จพี่ทรงมีเมตตานัก ไม่เอาความกับขันทีต่ำต้อย อีกทั้งยังห่วงใยน้องชายเช่นข้าอีก หากเสด็จพ่อรู้จะต้องทรงดีพระทัยเป็นแน่"

โจวหว่านหรูลอบเบ้ปากคราหนึ่ง ดูก็รู้แล้วว่าหยางเฉิงกัดฟันเอ่ยออกมา!!!

ให้ตายเถิด!! หยางจิ่ง เหตุใดท่านไม่ตบที่กลางศีรษะเขาเลยเล่า!!!

แม้ในใจจะเกลียดชังหยางเฉิงเพียงใด แต่เรื่องที่พี่น้องกำลังเล่นสงครามประสาทกัน นางคงจะไม่ยุ่ง ยามนี้นางจะต้องเริ่มต้นหาที่ทางสักที่เพื่อพาตระกูลโจวของนางหลบหนีจากการนองเลือดที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้

เวลาผ่านล่วงเลยไปราวครึ่งชั่วยาม โจวหว่านหรูเห็นว่าตนออกมานานมากแล้ว จึงขอตัวกลับก่อน ระหว่างทางที่นางกำลังจะเดินกลับที่พักของตนนั้นก็พบกับเจียงหมิงเจ๋ออีกครั้ง

โจวหว่านหรูอยากจะหันหลังเดินหนีเหลือเกิน แต่ทว่านางทำเช่นนั้นไม่ได้ ทางนี้คือทางเดียวที่นางจะสามารถเดินกลับที่พักได้ มันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงทำเป็นไม่สนใจเขา แต่ทว่าเพราะนางรีบร้อนเกินไปจนไม่ทันระวัง จึงเดินสะดุดก้อนหินและล้มลงไปนั่งที่พื้นหญ้าทันที

โจวหว่านหรูลอบสบถด่าทอตนเองในใจเป็นพันครั้ง

ให้ตายเถอะ!!! เดินมาครึ่งค่อนวันไม่ล้ม แต่มาล้มเวลานี้

เจียงหมิงเจ๋อเอียงคอมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยกับแม่นมของตน

"ไปช่วยพยุงคุณหนูท่านนั้นเถิด"

"เพคะองค์ชาย"

แม่นมรีบเข้ามาช่วยประคองโจวหว่านหรูทันที โจวหว่านหรูยิ้มให้แม่นมผู้นั้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"ขอบพระทัยองค์ชายเพคะ"

เจียงหมิงเจ๋อเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากตนพลางไอออกมาอย่างหนัก

โจวหว่านหรูที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ครุ่นคิดในใจ

ความชั่วติดคอหรือไร จึงไอไม่หยุดเช่นนั้น?

แม้ในใจจะลอบก่นด่าเขา แต่ว่าโจวหว่านหรูกลับมีสีหน้าปกติยิ่ง เจียงหมิงเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ คราหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นจับที่กลางอกของตน คล้ายคนเหนื่อยหอบ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับโจวหว่านหรู

"คุณหนูท่านนี้รู้ได้เช่นไรว่าข้าคือองค์ชาย"

โจวหว่านหรูแสร้งยิ้มให้เจียงหมิงเจ๋อเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ

"สถานะของท่านเป็นที่ล่วงรู้กันทั่วทั้งเมืองหลวงแคว้นเป่ยฉิน อีกอย่างที่วังหลวงแห่งนี้มีองค์ชายเพียงสองพระองค์ ซึ่งหม่อมฉันเคยพบหน้าพวกเขามาแล้ว เพียงได้เห็นพระองค์ หม่อมฉันก็คาดเดาได้แล้วว่าพระองค์คือผู้ใดเพคะ"

"แม่นางช่างฉลาดยิ่งนัก"

โจวหว่านหรูเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อยไม่ได้เอ่ยสิ่งใดต่อ นางไม่อยากจะสนทนากับเจียงหมิงเจ๋อมากนัก จึงขอแยกตัวออกมาทันที

เจียงหมิงเจ๋อมองตามโจวหว่านหรูไปจนลับสายตา ก่อนจะเก็บสายตาตนกลับมา พลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก 

คิดว่าเขาสังเกตท่าทีนางไม่ออกหรือ 

ท่าทีรังเกียจแต่เก็บอาการนั่นมันคือสิ่งใดกัน?

นี่เขาพบคนที่เสแสร้งเก่งเช่นเดียวกับเขาแล้วใช่หรือไม่

น่าสนใจไม่น้อยเลย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   ตอนพิเศษ

    ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก แต่ทว่าภายในตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งปรารถนาเจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูแต่งงานกันมาร่วมปีแล้ว แต่ทว่ายังคงไม่มีบุตร อาจเพราะได้รับพิษในครานั้น ทำให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องง่ายบนเตียงใหญ่ เจียงหมิงเจ๋อกำลังตระกองกอดร่างบางระหงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อนราวกับคนเอาแต่ใจ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของนางและเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามัน ยามนี้ร่างกายของคนทั้งสองเปลือยเปล่า กลิ่นหอมกำยานอ่อน ๆ ยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น เจียงหมิงเจ๋อผละริมฝีปากออกจากนาง แล้วจึงจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาเรื่อย สองมือหนาใหญ่บีบขยำดอกบัวงามทั้งสองข้างของนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ พร้อมกับครอบริมฝีปากกลืนกินจุกบัวสีหวานอย่างลำพองใจ โจวหว่านหรูส่งเสียงครางกระเส่าพลางบิดกายเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่าน กายสาวถูกบุรุษตรงหน้าลูบคลำเชยชมอย่างไม่ยอมลดละ เจียงหมิงเจ๋อสอดแทรกแท่งหยกสวรรค์เข้าไปในกายของนาง ก่อนจะขยับกายอย่างช้า ๆ แล้วเร่

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 66

    ยามนี้เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูกำลังเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเพื่อมุ่งหน้าออกจากวังหลวง ฉับพลันนางก็หันมาเอ่ยถามเขา“เจียงหมิงเจ๋อ ท่านเอ่ยสิ่งใดฝ่าบาทจึงเห็นด้วยง่ายดายเช่นนี้ ข้าคิดว่าจะไม่ทรงเห็นด้วยเสียอีก”เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมามองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โจวหว่านหรูหนังตากระตุกรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าเริ่มจะออกอาการเจ้าเล่ห์ใส่นางอีกแล้ว“อย่ามองข้าแบบนี้สิ”“ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ข้าเอ่ยเพียงว่า ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย และครอบครัวของเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ใต้หล้านี้ข้ายกให้แคว้นเป่ยฉินทั้งหมด ข้าขอมีเพียงแคว้นเยี่ยนและมีเจ้าก็พอ”โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ท่านทำได้จริง ๆ หรือ”“ทำได้สิ คนอย่างข้าไม่เคยเอ่ยวาจาโป้ปด”“แต่ท่านเคยแกล้งป่วยนะ”“โจวหว่านหรู เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ที่ข้าทำเพราะความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”โจวหว่านหรูจ้องมองเจียงหมิงเจ๋อด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย“หากไม่เชื่อ ข้าคงไม่เลือกท่าน”เจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง โจวหว่านหรูพลันใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา“เจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกข้า

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 65

    โจวหว่านหรูเดินทางกลับมาที่แคว้นเป่ยฉิน หยางจิ่งที่ได้รู้ข่าวว่าโจวหว่านหรูกลับมาถึงแล้ว ก็รีบมาพบนางในทันทีสตรีตรงหน้ายามนี้งดงามเป็นสาวงามสะพรั่งแล้ว โจวหว่านหรูหันมามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เขาเล็กน้อยหลายปีที่ไม่ได้พบกัน มันทำให้นางเข้าใจหัวใจตนเองได้อย่างชัดเจนแล้วนางไม่อาจกลับไปรักเขาเฉกเช่นเดิมได้อีก แม้ในใจของนางจะไม่สามารถตัดขาดจากหยางจิ่งได้อย่างสนิทใจ แต่ทว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเขาแล้ว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังติดค้างสิ่งใดกับนางอยู่ บางคราทุกสิ่งที่มันเปลี่ยนไปแล้วย่อมไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก จะคงไว้เพียงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่จะให้จดจำแม้จะดูเหมือนสตรีที่เห็นแก่ตัว แต่โจวหว่านหรูคิดเสมอว่าในเมื่อนางมีชีวิตอีกชาติหนึ่งแล้ว นางควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่นางต้องการคราก่อนนางยังไม่แน่ใจในหัวใจของตนเองมากเท่าใดนัก แต่เมื่อได้หลับฝันไปตื่นหนึ่ง ได้รู้ความจริงบางอย่าง ใจของนางก็เริ่มชัดเจนขึ้นหยางจิ่งคือรักแรกของนางส่วนเจียงหมิงเจ๋อคือคนที่นางเลือก เพราะไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้เขาคือคนที่ทำเพื่อนางมากที่สุด“หวานหว่าน เจ้ากลับมาแล้ว”หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 64

    เช้าวันต่อมา โจวหว่านหรูควบม้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูวังหลวง ระหว่างทางนั้นนางมองเห็นหยางจิ่งที่ยืนมองนางอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด ดูแล้วช่างงดงามสง่าราวกับเทพเซียน นางสั่งให้ม้าหยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และเดินตรงเข้ามาหาเขา หยางจิ่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"แต่งเป็นบุรุษเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลย"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"อืม"หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ย"หวานหว่าน เจ้าจะกลับมาเมื่อใด"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี ข้าอยากจะไปทำตามความฝัน ท่องไปในยุทธภพ"หยางจิ่งจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขาอยากยื่นมือไปดึงรั้งนางใจจะขาด แต่ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำลายสิ่งที่นางถวิลหา ตั้งแต่ได้รู้ว่านางตั้งใจจะไปท่องเที่ยวทั่วทั้งใต้หล้า เขาก็ตกใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะพานางเข้าวัง แต่งนางเป็นชายาเอก แต่ทว่านางกลับปฏิเสธเขาข้ายังไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดในยามนี้"ข้าจะรอเจ้า ต่อให้รอทั้งชีวิต ข้าก็จะรอ"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โจวหว่านห

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 63

    ที่ตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนยามนี้มีเหล่าทหารกำลังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยาม โจวหว่านหรูรีบตรงมาที่แห่งนี้ทันทีที่ได้ทราบเรื่องราวจากหยางจินจินแท้จริงแล้วนางไม่ได้ฝัน เป็นเขาจริง ๆ ที่ช่วยนาง เขาป้อนโลหิตให้นางดิื่มเพื่อระงับพิษไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนาง"ข้าอยากพบเจียงหมิงเจ๋อ"เหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามปรายตามองนางคราหนึ่ง แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด โจวหว่านหรูที่กำลังร้อนใจ พลันจ้องมองสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากตำหนักมังกรสวรรค์ นางสวมชุดเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามไม่น้อย นางจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็คือโจวหว่านหรูกระมัง"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง สตรีนางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าคือพระสนมเอกของฝ่าบาท ยามนี้ฝ่าบาทคงกำลังรอพบเจ้าอยู่ เจ้าเข้าไปเถิด"ฟ่านฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปไม่แม้แต่จะมองนางอีก โจวหว่านหรูไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านในทันที เมื่อมาถึงนางก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อที่กำลังเอนกายนอนพิงขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา เขาจึงหันไปมองคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 62

    หยางจิ่งนั้นยามนี้กำลังเดินออกมาจากตำหนักเหลียนฉง เมื่อออกมาก็ได้พบกับโจวอวี้หาน เฉินป๋อเหวิน รวมถึงหยางจินจินที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เขามีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้ามาได้เช่นไรกัน"โจวอวี้หานยิ้มให้หยางจิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าเป็นห่วงน้องเล็กจึงรีบติดตามมาสมทบกับเจ้า เฉินป๋อเหวินและหยางจินจินก็เป็นห่วงนางเช่นกัน จึงขอติดตามข้ามาด้วย"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยดูนางสักระยะ ข้ามีเรื่่องต้องไปจัดการ”โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที"เรื่องใดหรือ"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"สมุนไพรที่ใช้ถอนพิษไม่เพียงพอ ข้าจำต้องขึ้นเขาไปเก็บมันมา""ข้าไปกับท่านด้วย"หยางจิ่งหันไปจ้องมองเฉินป๋อเหวินคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่าในดวงตาของเฉินป๋อเหวินดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอันใดกัน เขาจึงเอ่ยกับเฉินป๋อเหวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม"ทางไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขา ข้าได้ยินว่ามันทั้งหนาวเหน็บและอันตรายไม่น้อย กลับมาแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้า...""ต่อให้ต้องตาย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status