Share

บทที่ 5 สหายสนิท

last update Dernière mise à jour: 2025-04-21 15:30:04

โจวหว่านหรูรีบเร่งฝีเท้าไปที่ศาลาริมสระบัวในทันที เมื่อมาถึงก็พบกับเฉินป๋อเหวินที่ยามนี้สวมชุดสีขาว ในมือถือพัดโบกไปมา กำลังยืนมองไปที่สระบัวเบื้องหน้าด้วยแววตาที่อ่อนโยน

"ป๋อเหวิน"

เฉินป๋อเหวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้โจวหว่านหรูคราหนึ่ง

เขากับนางนับว่าเป็นสหายสนิทกันตั้งแต่วัยเยาว์ ยามนั้นนางติดตามบิดาไปอยู่ที่ชายแดน เฉินป๋อเหวินเองก็ได้ตามท่านพ่อของเขาไปค้าขายใกล้ชายแดนเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีหลายครั้งที่ตระกูลเฉินต้องเดินทางมาที่ชายแดนเพื่อช่วยเหลือเรื่องเสบียงอาหาร ตระกูลเฉินนับว่าร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งในเมืองหลวงแคว้นเป่ยฉิน ท่านพ่อของเขาสนับสนุนเสบียงและตั๋วเงินเข้าคลังหลวงทุกเดือน ฝ่าบาทเองก็ไว้วางพระทัยตระกูลเฉินไม่น้อย บางคราเฉินป๋อเหวินต้องมาทำการค้าและพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมติดกับชายแดนอยู่หลายเดือนวัน ทำให้เขาได้พบกับนางอยู่บ่อยครั้ง ด้วยนิสัยที่กล้าหาญและซุกซนของโจวหว่านหรู นางเคยช่วยเหลือเขาอยู่หลายครา ยามนั้นเขาตกลงไปในน้ำ เป็นนางที่กระโดดลงไปช่วยเขาอย่างไม่คิดชีวิต เขาในวัยเก้าขวบปียังคงจดจำโจวหว่านหรูเด็กสาวตัวน้อยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาได้เป็นอย่างดี เขากับนางจึงสนิทสนมกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา

"หวานหว่าน ไม่พบเจ้าเสียนาน"

"อืม เจ้าสบายดีหรือไม่ ดูซูบผอมลงไปไม่น้อยเลย"

เฉินป๋อเหวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"ข้าสบายดี ระยะนี้สินค้าที่ต้องส่งไปต่างเมืองมีไม่น้อย อีกทั้งต้องระวังโจรป่าและเหล่าทหารจากต่างแคว้น ทำให้บางคราต้องคอยระวังสถานการณ์ทำให้พักผ่อนไม่เต็มที่"

"อืม เจ้าต้องดูแลตนเองให้ดี ว่าแต่กลับมาครานี้ เจ้าจะอยู่เมืองหลวงนานเท่าใด?"

"น่าจะอีกสักพักใหญ่เลย เห็นท่านพ่อบอกว่าอยากปรับปรุงกิจการที่เมืองหลวงให้เข้าที่เข้าทาง ค่อยออกไปค้าขายต่างเมืองอีกครา หากกิจการนอกเมืองหลวงคงที่แล้ว บางคราอาจจะไม่ต้องเดินทางอีก เพียงใช้ให้ผู้ดูแลร้านค้าไปจัดการแทน"

"ข้าเพิ่งกลับมาเมืองหลวงก็ไม่มีสหาย มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้น เจ้ากลับมาเช่นนี้นับว่าดีไม่น้อยเลย"

"เช่นนั้นข้าจะมาชวนเจ้าไปเที่ยวเล่นทุกวันเลย ดีหรือไม่?"

"ดีสิ"

โจวหว่านหรูยิ้มเต็มใบหน้า ก่อนจะจ้องมองเฉินป๋อเหวินด้วยแววตาที่อ่อนโยน พลันเรื่องราวในชาติก่อนก็หวนกลับมาอีกครา

ก่อนที่วังหลวงจะเกิดการก่อกบฏ เฉินป๋อเหวินมามอบเสบียงอาหารสำหรับทหารชายแดนให้แก่ฝ่าบาทในวังหลวง เขาได้แอบนำจดหมายมามอบให้เย่หยวน เย่หยวนรีบนำจดหมายฉบับนั้นมามอบให้นาง เนื้อหาในจดหมายบอกว่าบ้านเมืองยามนี้ไม่สงบเกรงว่าจะเกิดสงครามใหญ่ คาดว่าอาจจะไม่ส่งผลดีต่อเมืองหลวงเป่ยฉิน เฉินป๋อเหวินบอกว่าหาทางหนีให้นางไว้แล้ว เขามีที่ทางอยู่ในป่าแถบนอกเมืองที่หนึ่ง หากนางไปสามารถหลบซ่อนละรอดชีวิตได้ เขายินดีจะปกป้องนางให้ปลอดภัย เขาทนเห็นนางต้องทุกข์ใจเพราะหยางจิ่งไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ยามนั้นนางไม่รู้ว่าเฉินป๋อเหวินไปล่วงรู้สิ่งใดมา นางเพียงตอบจดหมายเขากลับไป เพื่อสอบถามว่าเขารู้เรื่องใดเข้า แต่ทว่ากลับไม่มีจดหมายตอบกลับจากเฉินป๋อเหวินแม้แต่ฉบับเดียว

จนกระทั่งนางได้ข่าวว่าจวนตระกูลเฉินถูกไฟไหม้จนไม่เหลือซาก กิจการร้านค้าอีกหลายที่ต่างเกิดไฟไหม้จนหมด บิดาและมารดาของเฉินป๋อเหวินตายในกองไฟ เหลือเพียงเขาที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนั้นจนขาทั้งสองข้างพิการ ต่อมาเขาก็เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว โจวหว่านหรูที่ได้ยินข่าวคราวก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง นางพยายามให้เย่หยวนไปสืบข่าวว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ แต่กลับไม่พบสาเหตุของที่มา จวบจนวันที่คนผู้นั้นยึดครองอำนาจได้สำเร็จ นางจึงได้รู้ว่าทุกสิ่งล้วนเป็นฝีมือของเขาทั้งหมด

เฉินป๋อเหวิน ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าแท้ ๆ ที่ทำให้เจ้าและจวนตระกูลเฉินเดือดร้อน

"หวานหว่าน หวานหว่าน!!!"

เสียงเรียกของเฉินป๋อเหวินทำให้โจวหว่านหรูได้สติกลับคืนมา นางจึงหันมายิ้มให้เขาคราหนึ่ง ก่อนจะเทชาร้อนใส่ถ้วยส่งให้เฉินป๋อเหวิน เขารับมันไปดื่มจนหมด ก่อนจะเอ่ยถาม

"ข้าเห็นที่ด้านหน้าจวนของเจ้ามีรถม้าจอดอยู่สองคัน มีผู้ใดมาเยี่ยมเจ้าหรือ?"

"อ้อ สหายของพี่ใหญ่น่ะ เจ้าอย่าไปสนใจเลย"

เฉินป๋อเหวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็พักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"อืม นี่หวานหว่าน ข้ามีของมาฝากเจ้าด้วยนะ"

เฉินป๋อเหวินไม่รอช้า เขารีบหยิบกล่องไม้ที่แกะสลักลวดลายงดงามประณีตส่งให้นาง โจวหว่านหรูรับมันมาเปิดออก ก่อนจะพบว่ามันเป็นปิ่นปักผมหยกขาวที่แกะสลักได้งดงามไม่แพ้เครื่องประดับที่วางขายในร้านเครื่องประดับของเมืองหลวงเลย

"ชอบหรือไม่?"

เฉิยป๋อเหวินเอ่ยถามโจวหว่านหรูด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ปิ่นนี้เขาตั้งใจซื้อมันมาฝากนาง เพราะเห็นว่ามันเหมาะกับนางที่สุด โจวหว่านหรูยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ยตอบ

"ชอบสิ งามยิ่งนัก ขอบใจเจ้ามากนะ"

"เรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องขอบใจข้าหรอก

"อืม ฝากบอกท่านลุงกับท่านป้าด้วยว่า ไว้มีเวลาข้าจะไปเยี่ยมพวกท่าน"

"ได้ ท่านพ่อท่านแม่ของข้าก็บ่นคิดถึงครอบครัวเจ้าเช่นกัน"

โจวหว่านหรูและเฉินป๋อเหวินสนทนากันอย่างสนิทสนม ภาพตรงหน้าทำให้หยางจิ่งที่แอบมองดูอยู่รู้สึกหน้าชาไปชั่วขณะ เขาหันหลังเดินกลับไปหาโจวอวี้หาน ด้วยใบหน้าฉายแววเย็นชาเล็กน้อย

เขาตามนางมาเพราะอยากจะรู้ว่านางจะสนทนาสิ่งใดกับเฉินป๋อเหวิน เขาไม่อยากพลาดเรื่องราวและความเป็นไปของนางในชาตินี้แม้แต่เสี้ยวเวลาเดียว กว่าเขาจะปลีกตัวมาจากโจวอวี้หานได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แต่เขากลับต้องมาพบเห็นภาพที่นางสนิทสนมกับบุรุษอื่นที่ไม่ใช่เขา

ทั้งที่ชาติก่อนเขาผลักไสนางทุกทางให้ไปหาเฉินป๋อเหวิน แต่ชาตินี้เขากลับเสียใจที่สองคนนั้นใกล้ชิดกัน

หยางจิ่งแค่นเสียงหัวเราะคราหนึ่ง เขานึกสมน้ำหน้าตนเองไม่น้อย 

เขาและเฉินป๋อเหวินมักพบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง เพราะเฉินป๋อเหวินจะติดตามบิดาตน เพื่อนำเสบียงและรายได้ของจวนตระกูลเฉินในแต่ละเดือนเข้ามาถวายให้เสด็จพ่ออยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเขายังรู้มาจากโจวอวี้หานว่าเฉินป๋อเหวินเป็นสหายสนิทกับโจวหว่านหรู แต่ครั้งนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าใดนัก

เขาคิดหนทางแทบตายเพื่อให้นางไปอยู่กับเฉินป๋อเหวิน นางจะได้ไปจากเขาเสียที

แต่วันนี้เขารู้แล้ว ความคิดชั่วช้าเช่นนั้น เขาก็ช่างคิดออกมาได้

หยางจิ่งหันกลับไปมองโจวหว่านหรูและเฉินป๋อเหวินอีกครา ก่อนจะตัดสินใจเดินหนีออกมา

เฉินป๋อเหวินอยู่สนทนากับโจวหว่านหรูต่ออีกไม่นานก็ขอตัวกลับ โจวหว่านหรูมาส่งเฉินป๋อเหวินที่หน้าจวนตระกูลโจวจนรถม้าของเขาลับตาไป เมื่อหันไปมองนางก็พบกับหยางจิ่งที่เดินออกมาพร้อมโจวอวี้หานพอดี

"น้องเล็ก คุณชายเฉินกลับไปแล้วหรือ?"

"เจ้าค่ะ"

"อืม"

"ท่านพี่จะออกไปที่ใดหรือเจ้าคะ?"

"พี่มาส่งองค์ชายใหญ่น่ะ"

"อ้อ เช่นนั้นหม่อมฉันน้อมส่งองค์ชายใหญ่เพคะ หม่อมฉันมีงานต้องสะสาง ขออภัยที่ไม่ได้ส่งนะเพคะ"

โจวหว่านหรูเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไป หยางจิ่งหันไปมองนางคราหนึ่ง เขาไม่ได้เอ่ยสิ่งใด แต่ทว่าในใจกลับรู้สึกสับสนไม่น้อย

เหตุใดแววตาของนางจึงไม่มีท่าทีว่าพอใจในตัวเขาเช่นกาลก่อนเลยเล่า

มันเพราะเหตุใดกัน?

..........

หลังจากกลับมาถึงวังหลวง เขาก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่หลายวัน แต่คิดเท่าใดก็คิดไม่ออก จนกระทั่งเขานึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

หรือว่านางจะย้อนเวลามาเช่นเดียวกับเขา?

มันจะเป็นไปได้หรือ?

หยางจิ่งไม่ใช่ไม่เชื่อเรื่องเช่นนี้ เขาเพียงคิดว่าการที่คนเราจะย้อนเวลามาพร้อมกันในสถานที่และเวลาเดียวกัน มันจะไม่ดูแปลกไปหน่อยหรือ

ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว เขาจึงไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก ยามนี้เขากำลังออกมาเดินรับลมที่นอกตำหนัก แต่เพราะอากาศเย็นเกินไป เขาจึงรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย เลยคิดจะกลับเข้าไปนอนพักเสียหน่อย

"แคก ๆ"

หยางจิ่งกำลังจะกลับเข้าตำหนักบรรทมของตน แต่เขากลับได้ยินเสียงไอแห้ง ๆ ของบุรุษผู้หนึ่งขึ้นมาเสียก่อน เมื่อหันไปมองก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อ องค์ชายตัวประกันที่กำลังเดินผ่านตำหนักเขาไป พร้อมกับแม่นมคนสนิทที่ติดตามมาจากแคว้นเยี่ยน แม่นมช่วยพยุงเจียงหมิงเจ๋อเดินไปตามทางด้วยความยากลำบาก ใบหน้าของเจียงหมิงเจ๋อซีดเผือด เขาช่างดูผอมยิ่งนัก 

ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนองค์ใหม่สังหารบิดาของตน และขึ้นครองราชย์แทน ทำกับองค์ชายที่อดีตฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนรักราวกับทาสรับใช้ ทั้ง ๆ ที่เป็นพี่น้องร่วมบิดากันแท้ ๆ

เมื่อคิดได้เช่นนั้นหยางจิ่งก็แค่นหัวเราะออกมาคราหนึ่ง

เจียงหมิงเจ๋อก็ไม่ต่างจากเขาในชาติก่อน

หยางจิ่งมองเจียงหมิงเจ๋อคราหนึ่ง ก่อนที่เขาจะต้องขมวดคิ้ว เมื่อได้เห็นสตรีน้อยนางหนึ่งกำลังร้องเรียกเจียงหมิงเจ๋ออย่างรีบร้อน

"องค์ชายหมิงเจ๋อ รอข้าด้วย"

หยางจินจิน?

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 6 องค์ชายตัวประกัน

    หยางจิ่งขยับกายเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ต้นไม้ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก พลางจ้องมองหยางจินจินและเจียงหมิงเจ๋อด้วยความสงสัยเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชาติที่แล้วหยางจินจินและเจียงหมิงเจ๋อจะรู้จักกันหรือว่าวันนั้นที่หยางจินจินต่อต้านการแต่งงานและบอกว่านางมีคนรักอยู่แล้ว บุรุษผู้นั้นก็คือเจียงหมิงเจ๋อเขาจำได้ว่าก่อนเสด็จพ่อจะสิ้นพระชนม์ เขาได้ข่าวว่าเจียงหมิงเจ๋อหนีออกจากเป่ยฉินได้สำเร็จ และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยามนั้นเขาไม่ได้สนใจองค์ชายกบฏผู้นี้เท่าใดนัก จึงไม่ได้รับรู้ความเป็นไปของเจียงหมิงเจ๋ออีกเลย ได้ข่าวอีกคราก็พบว่าเจียงหมิงเจ๋อขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของแคว้นเยี่ยนไปเสียแล้วหลังจากเจียงหมิงเจ๋อขึ้นเป็นฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไม่นานเสด็จพ่อของเขาก็สวรรคตในสามวันให้หลัง บ้านเมืองก็นองไปด้วยโลหิต ด้วยฝีมือคนในที่ก่อกบฏสำเร็จเขาจ้องมองไปที่เจียงหมิงเจ๋อคราหนึ่ง บางอย่างบอกเขาว่าชาตินี้เขาจะต้องจับตาดูเจียงหมิงเจ๋อให้มากกว่าชาติที่แล้วหยางจิ่งขมวดคิ้วมุ่น คล้ายว่าในชาติก่อนจะมีเรื่องราวอีกหลายเรื่องที่เขายังไม่รู้?ด้านเจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตน จึงหยุดฝีเท้าก็หันไปมองคราหนึ่

    Dernière mise à jour : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 7 สหายเล่าเรียน

    ยามเช้าของวันต่อมา หยางจินจินตื่นแต่เช้า ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ตำหนักของฉินกุ้ยเฟยในทันที ยามนี้วังหลังยังไม่มีฮองเฮาพระองค์ใหม่ ฉินกุ้ยเฟยจึงเป็นผู้ที่มีอำนาจปกครองวังหลังเพียงผู้เดียว ฝ่าบาทเองก็ทรงโปรดปรานและไว้ใจนางไม่น้อย ผู้คนต่างเล่าลือกันว่า ตำแหน่งว่าที่ฮองเฮาพระองค์ใหม่ย่อมต้องตกเป็นของฉินกุ้ยเฟยไม่ช้าก็เร็ว แต่ผู้ใดเล่าจะรู้ดีเท่าฉินกุ้ยเฟย เดิมทีพี่สาวของนางตายจากไปนานแล้ว นางเองก็อดทนกัดฟันเลี้ยงดูหยางจิ่งมาราวกับบุตรในอุทร ทั้งที่ความจริงนางเกลียดชังหยางจิ่งยิ่งนัก นางกับมารดาของหยางจิ่งเป็นพี่น้องต่างมารดากัน นางเป็นบุตรของภรรยารอง ต้องทุ่มเทกำลังแรงกายไปไม่ใช่น้อยกว่าจะมาอยู่ในตำแหน่งนี้ หากนางเป็นบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอก ยามนี้ตำแหน่งฮองเฮาคงตกเป็นของนางนานแล้ว ไม่ต้องมาทนรอคอยอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้!!!ฝ่าบาทเองก็ช่างกระไร นางทำดีถึงเพียงนี้ ผ่านมาหลายสิบปีกลับยังได้เป็นเพียงฉินกุ้ยเฟย ช่างน่าเจ็บใจนัก"ถวายพระพรฉินกุ้ยเฟยเพคะ"ฉินกุ้ยเฟยที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มพลันปรายตามองหยางจินจินคราหนึ่ง เดิมทีนางไม่ได้ใส่ใจองค์หญิงที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยผู้นี้เท่าใดนัก แต่ทว่าฝ่าบ

    Dernière mise à jour : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 8 เข้าวัง

    สามวันต่อมา ได้มีราชโองการจากฮ่องเต้หยางหลิงไท่ ประกาศให้คุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์ เข้าร่วมคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงรองหยางจินจินเดิมทีหากไม่มีราชโองการจากฝ่าบาท เหล่าขุนนางก็พอจะหลับหูหลับตาไม่ส่งบุตรสาวของตนไป องค์หญิงรองนางนี้อย่างไรเสียพวกเขาก็หาผลประโยชน์อันใดจากนางไม่ได้อยู่แล้วแต่ทว่าเมื่อมีราชโองการออกมาเช่นนี้ ย่อมไม่อาจนิ่งเฉยได้พวกเขาจำต้องส่งบุตรสาวของตนเข้าร่วมคัดเลือกเป็นพระสหายเล่าเรียนในครานี้ด้วย ไม่เว้นแม้แต่ โจวหว่านหรูยามนี้โจวหว่านหรูกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงที่เรือนใหญ่ พลางมองดูมารดาของตนกำลังเย็บปักผ้าเช็ดหน้าอย่างประณีตงดงาม หากพูดเรื่องการบ้านการเรือนนั้น นางไม่เก่งเลยสักอย่าง นางชื่นชอบการยิงธนู ขี่ม้า ฟันดาบ แม้ท่านแม่จะสอนนางเท่าใดนางก็ไม่สามารถทำออกมาได้ดีเลยสักอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นท่านแม่ก็ไม่เคยบังคับนางให้ทำในสิ่งที่นางไม่ชอบเลยแม้แต่น้อย"หวานหว่าน อีกไม่กี่วันเจ้าจะต้องเข้าวังเพื่อคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค์หญิงรอง เจ้าเตรียมตัวให้ดีเล่า""เจ้าค่ะ"โจวหว่านหรูรับคำ ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวในกาลก่อนนั้นหลังจากที่นางตกหลุมรักหยางจิ่

    Dernière mise à jour : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 9 พบโจทก์เก่า

    เจียงหมิงเจ๋อคล้ายรับรู้ได้ถึงสายตาของใครบางคนที่กำลังพุ่งเป้ามาที่ตน เขาจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาของคนทั้งสองสบประสานกันในชั่วขณะนั้น โจวหว่านหรูพลันใจเต้นตึกตักจนแทบควบคุมตนเองไม่ได้ นางรีบเก็บสายตาของตนกลับคืนทันทีหากบอกว่าคนผู้นั้นที่ก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์น่ากลัวแล้ว คนที่น่ากลัวกว่าคนผู้นั้นก็คือเจียงหมิงเจ๋อ!!!หลังจากที่เจียงหมิงเจ๋อหนีออกไปจากแคว้นเป่ยฉินได้สำเร็จ นางไม่รู้เลยว่าเขาไปอยู่ที่ใด ยามที่เขายังอยู่ในวังหลวงนางได้พบกับเขาอยู่บ่อยครั้ง ในตอนนั้นนางคิดว่าเขาช่างน่าสงสารเหลือเกิน แต่ทว่าเมื่อได้รับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเขา นางจึงได้รู้ว่าคนผู้นี้ช่างเสแสร้งแกล้งทำได้อย่างแนบเนียนจนน่าตกใจเจียงหมิงเจ๋อปรายตามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเดินจากไปพร้อมแม่นมที่คอยประคองเขา เมื่อลับสายตาผู้คน เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางคิดถึงสายตาที่โจวหว่านหรูมองตนเมื่อครู่นี้ด้วยความสงสัยเหตุใดแววตาของนางที่มองเขาจึงมีแต่ความหวาดกลัวและระแวดระวังเช่นนั้นเล่า?หรือนางจะรู้ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด? เป็นไปไม่ได้!!! ได้ยินว่านางคือเหล่าคุณหนูที่ถูกเรียกตัวเข้ามาคัดเลือกเป็นสหายเล่าเรียนขององค

    Dernière mise à jour : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 10 มีวาสนาร่วมกัน

    แน่นอนว่าการเข้าวังหลวงมาในครั้งนี้ เป้าหมายแรกไม่ใช่การเข้ามาค้นหาจุดเริ่มต้นของการเกิดโศกนาฏกรรมในชาติก่อน แต่มันคือการที่นางจะได้เข้ามาพบกับสหายรักอีกคราหยางจินจิน องค์หญิงรองผู้นี้ชาติที่แล้วคือสหายรักของนางยามที่นางเข้าวังหลวงมา ก็มักจะมีหยางจินจินที่สามารถพูดคุยด้วยได้ แม้ว่าหยางจิ่งจะไม่ชอบใจที่นางสนทนากับหยางจินจินเท่าใดนัก แต่ทว่านางหาได้ใส่ใจไม่ ทุกคราที่นางไม่สบายใจก็จะมีหยางจินจินที่รับฟังนาง องค์หญิงผู้ไร้เดียงสานางนี้ ชาติที่แล้วกลับพบจุดจบที่น่าเวทนาเหลือเกิน ยามมีชีวิตอยู่ก็ลำบากมากพอแล้ว กลับถูกพี่ชายเช่นหยางจิ่งกลั่นแกล้งและสร้างความลำบากให้เสมอ เพียงเพราะไม่ชอบหน้าและอยากหาที่ระบายอารมณ์นางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้รู้ข่าวว่าหยางจินจินถูกสังหารตายในคืนเข้าหอ นางร้องไห้จนทำสิ่งใดไม่ถูก กินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันจนถึงขั้นล้มป่วยต้นเหตุมันมาจากหยางจิ่ง ที่สนับสนุนฝ่าบาทให้ส่งหยางจินจินไปแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่แคว้นฉีคนผู้นั้นช่างน่ารังเกียจและน่าชิงชังเหลือเกิน!!!"แม่นาง เจ้าช่วยรับผิงกั๋วในมือของข้าที ข้ากำลังจะลงไปแล้ว โอ๊ะ!!!"โจวหว่านหรูยังไม่ทัน

    Dernière mise à jour : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 11 บรยากาศมาคุ

    หยางจิ่งที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงหันไปมองหยางเฉิงคราหนึ่ง เขาลอบกำหมัดแน่น ในใจคิดอยากจะฆ่าน้องชายร่วมบิดาให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อให้สาสมกับสิ่งชั่วช้าที่หยางเฉิงทำกับเขาและเสด็จพ่อ วางยาบิดาตนเอง สังหารพี่ชายตนเอง และทำให้ให้โจวหว่านหรูต้องฆ่าตัวตาย!!!แม้จะเกลียดชังหยางเฉิงจนแทบอยากจะดื่มเลือดกินเนื้อ แต่ทว่าหยางจิ่งจำต้องทำทุกอย่างให้ไร้พิรุธ เขาปรับสีหน้าตนให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้หยางเฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติในชาติก่อนหยางเฉิงยอมเขาทุกอย่าง เขาเองก็วางตนใหญ่โตข่มเหงหยางเฉิง เพราะฉินกุ้ยเฟยตัวดีสั่งสอนเขาในทางไม่ดี บอกว่าเขาเป็นถึงองค์รัชทายาท ว่าที่ฮ่องเต้เป่ยฉินในภายภาคหน้า เขาไม่จำเป็นต้องเห็นหัวผู้ใด มีแต่ผู้อื่นที่จะต้องก้มหัวให้เขา ยามนั้นเขาหลงคิดว่าฉินกุ้ยเฟยรักเขาเหมือนบุตรแท้ ๆ ยามที่เขารังแกหยางเฉิงก็ไม่ตำหนิ อีกทั้งยังเข้าข้างเขา เขาอยากทำสิ่งใดก็ไม่เคยขัดใจเลยสักครา อีกทั้งยังออกรับแทนเขายามที่ถูกเสด็จพ่อตำหนิแต่ความจริงแล้วมันคือกับดัก กับดักที่หลอกให้เขาตายใจ เขาถูกขุนนางยื่นฎีกาว่าทำตัวไม่เหมาะสม รังแกพี่น้อง ไม่สนใจเล่าเรียน ทุบตีรังแกคนที่ด้อยกว่าทุกอย่างล้วนเป็นแ

    Dernière mise à jour : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 12 สหายเล่าเรียน

    ด้านหยางเฉิงนั้นหลังจากที่แยกตัวออกมาจากหยางจิ่งแล้ว เขาจึงมุ่งหน้ามาที่ตำหนักของฉินกุ้ยเฟยมารดาของตน ฉินกุ้ยเฟยที่เห็นว่าลูกรักมาหาก็ดีใจไม่น้อย รีบให้นางกำนัลนำชาร้อนและของว่างมาให้หยางเฉิง ก่อนจะไล่เหล่าข้ารับใช้ออกไปด้านนอกจนหมด เมื่อในตำหนักเหลือเพียงพวกนางสองคนแม่ลูกแล้ว นางจึงเอ่ยถามหยางเฉิงทันที"ผู้ใดทำให้อาเฉิงของแม่อารมณ์เสียมากัน"ฉินกุ้ยเฟยเอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปจับไหล่บุตรชายของตนอย่างรักใคร่ หยางเฉิงในยามนี้นั้นสลัดทิ้งท่าทีองค์ชายรองผู้สง่างามและจิตใจดีออกไปจนหมดสิ้น แววตาของเขาดุดัน เขากำมือตนเองแน่น ก่อนจะเอ่ยกับมารดาของตน"เสด็จแม่ ข้าเกลียดหยางจิ่ง!!!""ช้าก่อน อย่าส่งเสียงดังไปสิ ใจเย็น ๆ ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ"หยางเฉิงควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว เขาอยากจะหาใครสักคนมาระบายความเกลียดชังนี้ออกไป"อาเฉิง""เสด็จแม่ หยางจิ่งดูแปลกไปพ่ะย่ะค่ะ ลูกพูดจายุแยงให้มันโมโหเหมือนทุกครา แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่ใส่ใจ อีกทั้งยังดูสนิทสนมกับหยางจินจินอีกด้วย"ฉินกุ้ยเฟยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ระยะนี้นางไม่ได้ใส่ใจหยางจิ่งเท่าใดนัก แม้เขาจะมาพบนางแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีแปลกไปมิใช่หรือ"เ

    Dernière mise à jour : 2025-04-21
  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 13 สืบ

    เมื่อออกจากวังหลวงมาแล้ว โจวหว่านหรูก็พบกับโจวอวี้หานและเย่หยวนที่กำลังยืนรอนางอยู่หน้าประตูวังหลวงพร้อมกับรถม้าของจวนตระกูลโจว โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย รู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างยิ่งชาตินี้นางจะเก็บเกี่ยวทุกความอบอุ่นและความรักจากท่านพ่อท่านแม่และพี่ใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนทางข้างหน้าเป็นเช่นไรนางเองยังไม่อาจคาดเดาได้ แต่นางจะพยายามอย่างสุดกำลัง เพื่อปกป้องคนในตระกูลโจวให้ปลอดภัยให้ได้"น้องเล็ก"โจวอวี้หานที่เห็นว่าน้องสาวของตนออกมาแล้วก็ดีใจไม่น้อย ช่วงเวลาที่โจวหว่านหรูไม่อยู่ที่จวนนั้น ภายในจวนดูเงียบเหงาไม่น้อยเลย"พี่ใหญ่""ท่านพ่อท่านแม่ให้พี่มารอรับเจ้า อีกทั้งยังมอบตั๋วเงินมาไม่น้อยเลย ท่านพ่อบอกว่าอยู่ในวังหลวงหลายวันเจ้าคงจะเบื่อเป็นแน่ จึงอยากให้เจ้าได้ผ่อนคลาย"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้น พี่ใหญ่พาข้าไปเดินเล่นที่ตลาดทีเถิด ข้าอยากจะผ่อนคลายเสียหน่อย""ได้สิ เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถิด""เจ้าค่ะ"โจวหว่านหรูก้าวเดินเข้ามาในรถม้า โจวอวี้หานตามน้องสาวเข้าไปนั่งในรถม้าด้วย ก่อนจะเร่งเดินทางไปที่ตลาดทันทีเมื่อมาถึงตลาด โจวหว่านหร

    Dernière mise à jour : 2025-04-21

Latest chapter

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   ตอนพิเศษ

    ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก แต่ทว่าภายในตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งปรารถนาเจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูแต่งงานกันมาร่วมปีแล้ว แต่ทว่ายังคงไม่มีบุตร อาจเพราะได้รับพิษในครานั้น ทำให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องง่ายบนเตียงใหญ่ เจียงหมิงเจ๋อกำลังตระกองกอดร่างบางระหงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อนราวกับคนเอาแต่ใจ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของนางและเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามัน ยามนี้ร่างกายของคนทั้งสองเปลือยเปล่า กลิ่นหอมกำยานอ่อน ๆ ยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น เจียงหมิงเจ๋อผละริมฝีปากออกจากนาง แล้วจึงจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาเรื่อย สองมือหนาใหญ่บีบขยำดอกบัวงามทั้งสองข้างของนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ พร้อมกับครอบริมฝีปากกลืนกินจุกบัวสีหวานอย่างลำพองใจ โจวหว่านหรูส่งเสียงครางกระเส่าพลางบิดกายเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่าน กายสาวถูกบุรุษตรงหน้าลูบคลำเชยชมอย่างไม่ยอมลดละ เจียงหมิงเจ๋อสอดแทรกแท่งหยกสวรรค์เข้าไปในกายของนาง ก่อนจะขยับกายอย่างช้า ๆ แล้วเร่

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 66

    ยามนี้เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูกำลังเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเพื่อมุ่งหน้าออกจากวังหลวง ฉับพลันนางก็หันมาเอ่ยถามเขา“เจียงหมิงเจ๋อ ท่านเอ่ยสิ่งใดฝ่าบาทจึงเห็นด้วยง่ายดายเช่นนี้ ข้าคิดว่าจะไม่ทรงเห็นด้วยเสียอีก”เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมามองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โจวหว่านหรูหนังตากระตุกรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าเริ่มจะออกอาการเจ้าเล่ห์ใส่นางอีกแล้ว“อย่ามองข้าแบบนี้สิ”“ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ข้าเอ่ยเพียงว่า ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย และครอบครัวของเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ใต้หล้านี้ข้ายกให้แคว้นเป่ยฉินทั้งหมด ข้าขอมีเพียงแคว้นเยี่ยนและมีเจ้าก็พอ”โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ท่านทำได้จริง ๆ หรือ”“ทำได้สิ คนอย่างข้าไม่เคยเอ่ยวาจาโป้ปด”“แต่ท่านเคยแกล้งป่วยนะ”“โจวหว่านหรู เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ที่ข้าทำเพราะความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”โจวหว่านหรูจ้องมองเจียงหมิงเจ๋อด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย“หากไม่เชื่อ ข้าคงไม่เลือกท่าน”เจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง โจวหว่านหรูพลันใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา“เจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกข้า

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 65

    โจวหว่านหรูเดินทางกลับมาที่แคว้นเป่ยฉิน หยางจิ่งที่ได้รู้ข่าวว่าโจวหว่านหรูกลับมาถึงแล้ว ก็รีบมาพบนางในทันทีสตรีตรงหน้ายามนี้งดงามเป็นสาวงามสะพรั่งแล้ว โจวหว่านหรูหันมามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เขาเล็กน้อยหลายปีที่ไม่ได้พบกัน มันทำให้นางเข้าใจหัวใจตนเองได้อย่างชัดเจนแล้วนางไม่อาจกลับไปรักเขาเฉกเช่นเดิมได้อีก แม้ในใจของนางจะไม่สามารถตัดขาดจากหยางจิ่งได้อย่างสนิทใจ แต่ทว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเขาแล้ว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังติดค้างสิ่งใดกับนางอยู่ บางคราทุกสิ่งที่มันเปลี่ยนไปแล้วย่อมไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก จะคงไว้เพียงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่จะให้จดจำแม้จะดูเหมือนสตรีที่เห็นแก่ตัว แต่โจวหว่านหรูคิดเสมอว่าในเมื่อนางมีชีวิตอีกชาติหนึ่งแล้ว นางควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่นางต้องการคราก่อนนางยังไม่แน่ใจในหัวใจของตนเองมากเท่าใดนัก แต่เมื่อได้หลับฝันไปตื่นหนึ่ง ได้รู้ความจริงบางอย่าง ใจของนางก็เริ่มชัดเจนขึ้นหยางจิ่งคือรักแรกของนางส่วนเจียงหมิงเจ๋อคือคนที่นางเลือก เพราะไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้เขาคือคนที่ทำเพื่อนางมากที่สุด“หวานหว่าน เจ้ากลับมาแล้ว”หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 64

    เช้าวันต่อมา โจวหว่านหรูควบม้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูวังหลวง ระหว่างทางนั้นนางมองเห็นหยางจิ่งที่ยืนมองนางอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด ดูแล้วช่างงดงามสง่าราวกับเทพเซียน นางสั่งให้ม้าหยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และเดินตรงเข้ามาหาเขา หยางจิ่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"แต่งเป็นบุรุษเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลย"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"อืม"หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ย"หวานหว่าน เจ้าจะกลับมาเมื่อใด"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี ข้าอยากจะไปทำตามความฝัน ท่องไปในยุทธภพ"หยางจิ่งจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขาอยากยื่นมือไปดึงรั้งนางใจจะขาด แต่ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำลายสิ่งที่นางถวิลหา ตั้งแต่ได้รู้ว่านางตั้งใจจะไปท่องเที่ยวทั่วทั้งใต้หล้า เขาก็ตกใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะพานางเข้าวัง แต่งนางเป็นชายาเอก แต่ทว่านางกลับปฏิเสธเขาข้ายังไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดในยามนี้"ข้าจะรอเจ้า ต่อให้รอทั้งชีวิต ข้าก็จะรอ"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โจวหว่านห

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 63

    ที่ตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนยามนี้มีเหล่าทหารกำลังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยาม โจวหว่านหรูรีบตรงมาที่แห่งนี้ทันทีที่ได้ทราบเรื่องราวจากหยางจินจินแท้จริงแล้วนางไม่ได้ฝัน เป็นเขาจริง ๆ ที่ช่วยนาง เขาป้อนโลหิตให้นางดิื่มเพื่อระงับพิษไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนาง"ข้าอยากพบเจียงหมิงเจ๋อ"เหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามปรายตามองนางคราหนึ่ง แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด โจวหว่านหรูที่กำลังร้อนใจ พลันจ้องมองสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากตำหนักมังกรสวรรค์ นางสวมชุดเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามไม่น้อย นางจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็คือโจวหว่านหรูกระมัง"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง สตรีนางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าคือพระสนมเอกของฝ่าบาท ยามนี้ฝ่าบาทคงกำลังรอพบเจ้าอยู่ เจ้าเข้าไปเถิด"ฟ่านฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปไม่แม้แต่จะมองนางอีก โจวหว่านหรูไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านในทันที เมื่อมาถึงนางก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อที่กำลังเอนกายนอนพิงขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา เขาจึงหันไปมองคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 62

    หยางจิ่งนั้นยามนี้กำลังเดินออกมาจากตำหนักเหลียนฉง เมื่อออกมาก็ได้พบกับโจวอวี้หาน เฉินป๋อเหวิน รวมถึงหยางจินจินที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เขามีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้ามาได้เช่นไรกัน"โจวอวี้หานยิ้มให้หยางจิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าเป็นห่วงน้องเล็กจึงรีบติดตามมาสมทบกับเจ้า เฉินป๋อเหวินและหยางจินจินก็เป็นห่วงนางเช่นกัน จึงขอติดตามข้ามาด้วย"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยดูนางสักระยะ ข้ามีเรื่่องต้องไปจัดการ”โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที"เรื่องใดหรือ"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"สมุนไพรที่ใช้ถอนพิษไม่เพียงพอ ข้าจำต้องขึ้นเขาไปเก็บมันมา""ข้าไปกับท่านด้วย"หยางจิ่งหันไปจ้องมองเฉินป๋อเหวินคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่าในดวงตาของเฉินป๋อเหวินดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอันใดกัน เขาจึงเอ่ยกับเฉินป๋อเหวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม"ทางไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขา ข้าได้ยินว่ามันทั้งหนาวเหน็บและอันตรายไม่น้อย กลับมาแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้า...""ต่อให้ต้องตาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 61

    เจียงหมิงเจ๋อปรายตามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้น เหล่าทหารแคว้นเยี่ยนของเขาก็พุ่งเข้าสังหารทหารแคว้นฉีในทันที อู๋เจี๋ยตื่นตระหนกไม่น้อย เพียงมองอาภรณ์ที่สวมใส่เขาก็พอคาดเดาได้ไม่ยากว่าผู้มาใหม่นี่คือใครฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเช่นนั้นหรือ!!!เจียงหมิงเจ๋อจ้องมองอู๋เจี๋ยคราหนึ่ง ก่่อนจะเอ่ย"เจ้าสินะ ที่ขโมยศีรษะของเจียงหย่งหลางส่งไปให้ฮ่องเต้แคว้นเป่ยฉิน ศีรษะของพี่ชายข้าก็เสียบประจานอยู่ที่หน้าประตูชายแดนดี ๆ เจ้ากลับไร้มรรยาทเอาหัวเขาไปเที่ยวเล่น ช่างบังอาจนัก!!!"อู๋เจี๋ยตกใจไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าแผนการทั้งหมดของเขาจะถูกล่วงรู้ได้รวดเร็วเช่นนี้เขารู้ว่ายามนี้ไม่อาจต่อกรได้แล้ว เจียงหมิงเจ๋อพาทหารแคว้นฉู่ที่ยามนี้รวมเป็นหนึ่งกับแคว้นเยี่ยนบุกเข้ามาเพื่อจัดการเขา มันเป็นไปได้เช่นไรไม่ใช่ว่าเจียงหมิงเจ๋อต้องสังหารหยางจิ่งหรอกหรือ!!!อู๋เจี๋ยไม่รั้งรอ เขารีบควบม้าคิดจะหนี เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก มีหรือที่เขาจะปล่อยศัตรูให้รอดไปได้ ใครที่มันคิดรุกรานเขา เขาไม่เคยเก็บเอาไว้เจียงหมิงเจ๋อคว้าคันธนูมาจากฟ่านเฉียน ก่อนจะยกขึ้นเล็งไปที่อู๋เจี๋ย ลูกธนูพุ่งฝ่าอากาศก่อนจะทะลุเข้าไปที่กลางอกข

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 60

    โจวหว่านหรูสวมชุดเกราะเตรียมออกรบ ในมือของนางถือดาบยาวที่ส่องประกายวาววับ ก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าและพุ่งทะยานออกไปที่ประตูชายแดนในทันที โดยมีหยางจิ่งและโจวอวี้หานเป็นผู้นำทัพ ยามนี้แขนของท่านพ่อนางดีขึ้นมากแล้ว เมื่อภัยมาถึงด้วยนิสัยของท่านพ่อย่อมไม่อาจอยู่เฉยได้ด้านหยางจินจินนั้นคอยดูแลเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บและถูกหามกลับเข้ามา ใจของนางสั่นไหวไม่น้อยหยางจิ่งที่ควบม้ามายังสนามรบ เมื่อได้มองเห็นกองกำลังทหารเรือนแสนที่แคว้นฉียกทัพมาก็จ้องมองด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะมองไปที่อู๋เจี๋ยซึ่งเป็นผู้นำทัพออกรบอู๋เจี๋ยจ้องมองหยางจิ่งอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนจะปรายตามามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ในใจนึกเสียดายที่ไม่อาจนำสาวงามนางนี้มาครอบครองได้ หากเขารบชนะศึกในครานี้และหยางจิ่งพ่ายแพ้ เขาจะลากตัวนางกลับแคว้นฉีและทรมานให้สาแก่ใจโจวหว่านหรูจ้องมองอู๋เจี๋ยด้วยแววตาเกลียดชัง"ไม่คิดว่าคนแคว้นฉีจะตีสองหน้าได้เก่งกาจปานนี้ อาศัยช่วงที่ทัพของข้าอ่อนไหว ตลบหลังได้อย่างหน้าไม่อาย"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ อู๋เจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ว่าแคว้นฉีขอ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 59

    หยางจิ่งรีบเข้ามากอดโจวหว่านหรูทันที ก่อนจะเอ่ย"เจ้ากลับมาแล้ว รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด ข้าแทบจะพลิกแผ่นดินตามหาเจ้า"โจวหว่านหรูไม่ได้ขัดขืนหยางจิ่ง ยังคงปล่อยให้เขากอดนางอยู่เช่นนั้น"ข้าเหนื่อยแล้ว"นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้นเรากลับเป่ยฉินกันเถิด"หยางจิ่งกำลังจะพาโจวหว่านหรูเดินไปยังรถม้า แต่ทว่านางกลับรั้งมือของเขาเอาไว้ หยางจิ่งหันกลับมามองนางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"มีสิ่งใดหรือ"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่ง ก่อนจะเอ่ย"ข้าหายไปแคว้นเยี่ยนตั้งหลายวัน ท่านไม่สงสัยข้าเลยหรือ"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือมาลูบศีรษะของนางอย่างรักใคร่"ข้าไม่สนใจ และไม่ติดใจเรื่องใดทั้งสิ้น ข้ารู้ว่าคนเช่นเจ้าหากถูกเอาเปรียบเจ้ายอมตายดีกว่า จริงหรือไม่"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าให้เขา หยางจิ่งชะงักไปชั่วขณะ เขารู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ของนางเขาไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว แต่วันนี้นางกลับยิ้มให้เขาอีกคราโจวหว่านหรูก้าวขึ้นมานั่งบนรถม้า ก่อนจะหันมามองหยางจินจินที่นั่งอยู่ หยางจินจินก็ห

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status