Beranda / วาย / ดาบสังหาร (Sword of Annihilation) / สองต่อสองในบ้านสกุลไป๋

Share

สองต่อสองในบ้านสกุลไป๋

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-24 18:57:50

....เสียงฝนโปรยปรายลงบนหลังคา กลิ่นหินและดินชื้นผสมกลิ่นสมุนไพรคละคลุ้ง

ในเรือนเงียบงัน เลี่ยหยางนอนตะแคงอยู่บนเตียง ร่างเปลือยท่อนบนเผยกล้ามเนื้อแข็งแรงแต่เต็มไปด้วยบาดแผลโบยที่แตกฉาน เหงื่อเย็นเกาะทั่วผิว เขาหอบหายใจแรง ทุกจังหวะไอทำให้เลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผล

ไป๋เยว่หลิงนั่งนิ่งตรงเก้าอี้ไม้ใกล้เตียง ชุดขาวของเขาสะอาดหมดจด ตัดกับความมืดรอบห้อง สายตาคมกริบไม่กะพริบ จ้องเพียงร่างบนเตียง คล้ายไม่ใช่สายตาของมนุษย์ แต่เป็นสัตว์ร้ายที่จ้องสมบัติชิ้นเดียวในโลกของมัน

“คุณชายไป๋… จ้องข้าแบบนี้ข้ากลัวนะ ...อย่างกับจะกลืนกินเสียอย่างนั้นแหละ บรื๋อ!”

เลี่ยหยางหัวเราะแห้ง ๆ ทั้งที่เจ็บจนขยับแทบไม่ได้ 

ไป๋เยว่หลิงยกมือช้า ๆ วางลงบนอกแข็งแรงที่เปื้อนเลือด นิ้วเรียวยาวกดแน่นจนเลี่ยหยางขมวดคิ้วเพราะเจ็บ

เลี่ยหยางกัดฟันแน่น แต่ริมฝีปากยังคงยกยิ้ม “โอ้ย! คุณชาย! ข้าเจ็บนะ!”

ไป๋เยว่หลิงโน้มกายลงใกล้ กระซิบติดริมฝีปาก “นี่… เพราะเจ้าทิ้งผลไม้ข้าตกพื้น” น้ำเสียงหวานปนบีบบังคับ

เลี่ยหยางหัวเราะแหะ ๆ เบา ๆ ทั้งที่หายใจหอบ “ข้าไมได้ได้ตั้งใจคุณชาย....ข้าแค่เห็นท่านงดงาม!”

ไป๋เยว่หลิงนิ่งไปเพียงชั่วครู่ ก่อนจะกดมือแน่นลงบนบาดแผลที่แผ่นหลัง เลี่ยหยางสะดุ้งเฮือก เจ็บจนกัดฟันเลือดซึมริมฝีปาก

“อึก…(เจ็บ)!!”

“ข้างดงาม?”

ไป๋เยว่หลิงพูดช้า ๆ น้ำเสียงสั่นพร่าเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว

แต่เลี่ยหยางกลับหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา “ไม่ใช่อย่างนั้น … ข้าหมายถึงท่วงท่ากระบี่ท่านงดงาม กระบวนท่ากระบี่สุดท้ายนั่นไง”

"จนข้าเผลอทำผลไม้ท่านตกพื้น ...ข้าขอโทษ"

รอยยิ้มยียวนผสมแววตาลึกล้ำ จับมือเยว่หลิงที่กดแผลแล้วบีบตอบแน่น

เงียบ…

2 ร่างใกล้กันจนลมหายใจสอดประสาน ริมฝีปากแทบจะประสานแต่ยังเว้นระยะไว้

เลี่ยหยางหอบหายใจแรง ร่างสูงสั่นสะท้านจากความเจ็บปวด แต่ริมฝีปากยังคงยกยิ้ม ทั้งดวงตาวาววับเต็มไปด้วยแววท้าทาย

“อึก… ฮ่า ๆ … ท่านนี่เป็นคนแปลกนะ คุณชาย”

เขากัดฟันหัวเราะ แววตาเจ้าเล่ห์ฉายขึ้นแม้เลือดไหลซึมออกจากผ้าพันแผล

ไป๋เยว่หลิงก้มหน้าลงใกล้จนลมหายใจปะทะกัน เสียงทุ้มเย็นเอื้อนเบา

“เลี่ยหยาง…”

นิ้วเรียวยาวของเขาเลื่อนจากบาดแผลขึ้นมาที่ลำคอ แผ่วเบาราวกับลูบไล้ แต่แรงกดแฝงอยู่ในปลายนิ้ว แรงพอจะพรากลมหายใจได้ทุกเมื่อ

เลี่ยหยางยกคางขึ้นเอง ราวกับจงใจยั่ว “ท...ท่านจะบีบให้ข้าตายหรือไง คุณชายไป๋”

ริมฝีปากเปื้อนเลือดยิ้มท้าทาย ราวกับนักฆ่าที่ไม่เคยกลัวความตาย

ไป๋เยว่หลิงเงียบไปชั่วขณะ สายตาที่เย็นชากลับสั่นไหว ก่อนจะถอนหายใจแผ่ว สายตาเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวอันลึกล้ำ

“ข้าชื่อเยว่หลิง...”

เขากดหน้าผากลงแนบกับอีกฝ่าย ดวงตาหลับแน่น ริมฝีปากกระซิบแผ่วสั่น "อย่าเรียกคุณชาย เจ้าต้องเรียกเยว่หลิง”

เลี่ยหยางกลืนน้ำลายดังอึก ไอ้หน้าหล่อคนนี้มันโรคจิตชัด ๆ เขาหัวเราะพร่า ๆ ในลำคอ แม้หายใจติดขัดจากแรงกดที่ลำคอ

“หึ…พูดแบบนี้ ข้าขอเรียกท่านว่าหลิงหลิงแทนละกัน”

สายตาเขาอ่อนลงเพียงเสี้ยววินาที ก่อนกลับมายียวนท้าทายอีกครั้ง

“ได้ไหม หลิงหลิง?” เขาจับแขนไป๋เยว่หลิง หน้าทั้ง 2 คนชิดกันมาก

ไป๋เยว่หลิงชะงักไปชั่ววินาที สายตาเย็นจัด นิ้วเรียวกดแรงขึ้นที่ลำคอจนเลี่ยหยางขมวดคิ้ว หายใจติดขัด

“…เจ้ากล้าเรียกข้าเช่นนี้หรือ?”

เลี่ยหยางกัดฟันหัวเราะอย่างบ้าบิ่น “ช...ใช่ หลิงหลิง”

เงียบ…

แล้วทันใดนั้น ไป๋เยว่หลิงก็กดปากลงใกล้ริมฝีปากของเลี่ยหยาง ๆ หลับตาปี๋ (จะโดนผู้ชายจูบแล้วตู +_+)

"ฟู่! .....ฟู่.....ฟู่"

เลี่ยหยางแง้มลืมตามอง เห็นเยว่หลิงกำลังใช้ปากเป่าลมที่ริมฝีปากเขา

"ปากเจ้ามีแผล เจ้าเป็นร้อนใน ข้าจะไปเอายาแก้ร้อนในมาทาให้"

เสียงเท้าของคุณชายตระกูลใหญ่ค่อยๆ เลือนหายเข้าไปในห้องด้านใน ทิ้งให้เลี่ยหยางนอนตะลึงค้างอยู่บนเตียง

“…แม่งเอ๊ย… ข้ากลัวจะถูกจูบใจจะขาด แต่สุดท้ายได้ยาแก้ร้อนในแทน!”

เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนหัวเราะหึๆ ออกมาแม้จะเจ็บชายโครงแทบขาด

“เจ้าหลิงหลิง หึ!”

สายตาเขามองไปทางห้องที่เยว่หลิงเข้าไป แล้วยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

....ไม่กี่อึดใจ ไป๋เยว่หลิงเดินกลับออกมาจากห้อง มือเรียวขาวเนียนนั้นถือขวดยาเล็กๆ กับชามน้ำอุ่น เขานั่งลงข้างเตียงอย่างสงบ ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ แต่แววตากลับเหมือนจับจ้องเหยื่อที่ไม่อาจหนีไปไหนได้

เลี่ยหยางกลืนน้ำลายเอื๊อก

“หลิงหลิงเจ้าจะทำอะไรอีกล่ะ? อย่าบอกนะว่าจะจับข้ากรอกยานั่นเข้าไปทั้งขวด”

ไป๋เยว่หลิงไม่ตอบ เอื้อมมือจับคางแข็งแรงของเลี่ยหยางบังคับให้หันมา ริมฝีปากบางกระซิบชิดหู

“อ้าปาก!”

เลี่ยหยางสะดุ้ง “บ้าชิบ!… นี่มันฉากในนิยายเล่มไหนวะ!?” เขาพยายามเบือนหน้าหนี แต่แรงบีบที่คางกลับแน่นจนเจ็บ

“อ้าปาก!” ไป๋เยว่หลิงพูดซ้ำ น้ำเสียงเรียบเย็นแต่บังคับ

เลี่ยหยางกัดฟันแน่น

“ไม่อ้าโว้ย! อย่าาา ช่วยข้าด้วย ใครก็ได้!” เงียบ...เพราะทั้งบ้านมีแค่พวกเขา

ไป๋เยว่หลิงนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็… หยิบตะเกียบไม้ยาวออกมาจากแขนเสื้อ

เลี่ยหยางตาเหลือก “เฮ้ยๆๆ จะเล่นพิเรนอะไรอีกเนี่ย!?”

ก่อนที่เขาจะทันดิ้น ไป๋เยว่หลิงก็ดันตะเกียบเข้าไปในปากเลี่ยหยาง… ใช้เป็นคีมงัดฟันให้อ้าค้างไว้ แล้วหยดน้ำยาสีขาวขุ่นลงไปช้าๆ

เลี่ยหยางสำลักแทบตาย ไอแค่กๆ ตาแดงก่ำ

“อ๊าก! นี่มันขมสัดดด!! หลิงหลิงเจ้าจะฆ่าข้าด้วยยารักษาร้อนในรึไงวะ!”

ไป๋เยว่หลิงไม่ตอบ เขามองอย่างเย็นชา แล้วเอาตะเกียบออกจากปาก ราวกับไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย พลางใช้ผ้าเช็ดปากเลี่ยหยางอย่างประณีตเหมือนกำลังดูแลคนรักที่บอบบางที่สุด  ยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากเลี่ยหยางเบาๆ

“อย่าพูดมาก… เดี๋ยวแผลในปากเจ้าแตกอีก”

....ทันใดนั้น เสียงลมพัดแผ่วเข้าห้อง พร้อมกับสิ่งของบางอย่างพุ่งตรงมา

ไป๋เยว่หลิงใช้นิ้วเรียวยาวจับตะเกียบไม้คีบของบางอย่างไว้กลางอากาศ มันคือมีดบินขนาดเล็กจิ๋ว

ชายชุดดำหนึ่งคนโผล่จากหลังคา กระโดดลงมากลางห้อง กำดาบยาวตั้งท่า 

แววตาไป๋เยว่หลิงเปลี่ยนจากเย็นชา… เป็นสายตาที่ฉายกลิ่นสังหารแบบสุดขั้ว 

“อย่า… อย่าสู้กัน!” เลี่ยหยางตะโกน แม้เสียงยังแผ่วไปบ้างเพราะเจ็บแผล แต่ดวงตายังคงวาวแววตื่นเต้น

ชายชุดดำหันไปมองเลี่ยหยาง "ต...แต่ เพราะมันทำให้หัวหน้าเป็นแบบนี้ ข้าบอกแล้วว่าไม่ควรเก็บมันไว้!"

ไม่คุยเยอะ ชายชุดดำก็พุ่งเข้ามาหมายจะฆ่าเยว่หลิง จริง ๆ เขาสังเกตุมาสักพักแล้วว่าเยว่หลิงไม่มีกระบี่ในมือ

แต่เขาคิดผิด เยว่หลิงลุกขึ้นรูดเข็มขัดที่เอว ปรากฎว่ามันคือกระบี่บางๆเหนียวยืดหยุ่นสูงที่งอพันเอวเขาไว้

กระบี่นั้นไม่ได้รับดาบตรงๆแต่อาศัยแรงของผลักกลับไปให้โจมตีตัวผู้ถือเอง

ชายชุดดำถอยออกมา ทีนี้เขาตั้งท่า หมายจะใช้วิชาดาบสังหารเยว่หลิงให้ตายในดาบเดียว

เยว่หลิงจับดาบมือขวาชี้ลง เมื่อชายชุดดำพุ่งเข้ามา เขาวาดขึ้นมามาเล็กน้อยและค่อย ๆ โยนลอยเป็นวงกลมไปทางมือซ้าย

"เพลงกระบี่จันทรา!!"

เลี่ยหยางสะอึก! เขารู้ดีว่านั่นคือวิชาที่อันตรายแค่ไหน เขารีบพุ่งกระโจนออกไป

ดาบชายชุดดำหักครึ่ง ปลายกระบี่กำลังฟาดเข้าไปที่บริเวณคอของชายชุดดำหมายจะปลิดชีวิต

ทันใดนั้นเลี่ยงหยางก็เข้ามาบังชายชุดดำ เยว่หลิงตกใจ แต่ในวินาทีนั้นกระบี่ใกล้จะถึงคอเลี่ยหยางแล้ว!

แรงเหวี่ยง ....มันไม่ทันแล้ว เลี่ยหยางจะต้องถูกกระบี่ฟันคอแน่!

เยว่หลิงตาลุกโพลง กัดฟันกร่อด! ขาขวาก้าว หมุนตัวจากทางขวา ทำให้มือซื้อที่ถือกระบี่มีชะลอเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะใช้หมัดขวาชกมือซ้ายตัวเองสุดแรงเกิดจนกระบี่ถูกกระเด็นหลุดจากมือ

เนื่องจากขาพันกันจึงเสียจังหวะทำให้เขาเสียหลักล้มซบเลี่ยหยาง ๆ ใช้มือทั้ง 2 ข้างจับไหล่ประคองเยว่หลิง

"ฟู่! เหยียนลั่วหวัง(เทพผู้ปกครองนรก)ยังไม่คิดถึงข้านะ! ข้านึกว่าต้องได้ไปทำกระทะทองแดงใหม่ให้เขาแล้วจริง ๆ"

"หลิงหลิง เจ้าอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ ข้ากลัวจนจะฉี่ราดอยู่แล้วเนี่ย!" ซึ่งเป็นเรื่องจริง ขาเลี่ยหยางสั่น มีเหงื่อก้อนโตๆอยู่บนใบหน้า

เยว่หลิงมองหน้าเลี่ยหยาง ที่จริงเขาจะผงะออกเลยก็ได้ แต่เขาก็ค้างแช่อยู่แบบนั้น แถมเอาศรีษะซบลงที่หัวไหล่เลี่ยหยางอีกด้วย

ใบหน้านั่น คมเข้ม ริมฝีปากยกยิ้มที่ข้าชอบ ดวงตาวาววับเหมือนนักล่าที่มีเสน่ห์ร้อนแรง คนๆ นี้เป็นของข้าผู้เดียว

ชายชุดดำยืนตัวแข็งทื่อ จิตหลุด ในใจคิด "ไม่น่าเลยตรู หมอนี่ไม่ใช่คนที่จะมาหาเรื่องได้"

เลี่ยหยางตบไหล่ชายชุดดำให้กลับมามีสติ "ข้ารักษาตัวอยู่ที่นี่อีกสักพัก เจ้ากลับไปก่อนเถอะ" 

ชายชุดดำคำนับและรีบกระโดดหนีขึ้นกำแพงไปอย่างไว (คงเข็ดไปอีกนาน)

แล้วเลี่ยหยางก็ล้มลงเพราะเจ็บแผลซึ่งเริ่มมีเลือดไหล เยว่หลิงเลยมาประคองแทน และพาเขาไปนอนที่เตียง

"หลิงหลิง ข...ข้า...."

ฉึ่ก!

เข็มเล็ก ๆ ปักเลี่ยหยางลงที่จุดลมปราณเหวินฉวน(อยู่ตรงกลางลำคอด้านหน้าใต้คาง)

เลี่ยหยางค่อย ๆ เวียนศีรษะ ตราค่อย ๆ ปิด และสลบลงไปในที่สุด

เยว่หลินเอาผ้ามาห่มให้แล้วลุกขึ้นยืน เก็บกระบี่อ่อนนั้นใส่เอวเหมือนเดิม สายตามองมาที่ใบหน้าหล่อคมของเลี่ยหยางด้วยแววตาที่ลึกซึ้งและซับซ้อน

"พักผ่อนซะ..."

แล้วเขาก็ไปหยิบหนังสือมานั่งเก้าอี้อ่านข้าง ๆ เลี่ยหยาง กลิ่นหอมกำยาน ในบ้านหลังใหญ่ที่มีเพียงแค่พวกเขา 2 คนช่างเงียบสงบยิ่งนัก......

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   ออกเดินทาง

    ......เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ก้าวย่างเดินออกจากประตูเมืองทางตะวันออก พอพ้นมาได้นิดเดียวเยว่หลิงก็หันหน้ามามองเลี่ยหยาง "กว่างโจวไปทางไหน?"เลี่ยหยางเกาหัวแกร่กๆ "ก็ต้องลงใต้ ถ้าจะเดินทางบนบกจากตรงนี้ก็ต้องไปลั่วหยางก่อน แล้วผ่านลงไปเรื่อยๆถึงเมืองฉางซา เลยไปอีกก็ถึงกว่างโจวละ""แต่...ถ้าเจ้าอยากไปทางน้ำเราอาจต้องอ้อมหน่อยไปทางตะวันออกเพื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือหางโจวแล้วจึงลงใต้"เยว่หลิงมองหน้าอย่างเฉยชา เลี่ยหยางคิดในใจ "ให้ตรูตัดสินใจแทนอีกแล้วชิมิ""ถ้าเจ้าอยากกินซุปน้ำแกงและอาหารดอกโบตั๋น (ใช้ดอกไม้ในอาหาร) รวมถึงงานเลี้ยงรื่นเริงที่เสิร์ฟอาหารเยอะๆ 10-20 อย่าง ก็ลั่วหยาง""แต่...ถ้าเจ้าอยากกินปลามังกรน้ำใสตุ๋น, เนื้อหมูตงพอ และชาหลงจิ่ง และเจอพวกนักกลอนกวีเยอะๆ ก็ต้องหางโจว"เลี่ยอยางเอามือแตะที่ท้องบางๆของเยว่หลิง "ถามทาเถี่ย(สัตว์ในตำนานยุคโบราณ)ในท้องเจ้าดูว่ามันอยากกินอะไร?"เยว่หลิงมองหน้าอย่างเฉยชาเช่นเดิม เลี่ยหยางถอนหายใจแรง"งั้นก็ไปลั่วหยาง! เฮฮาดี ข้าเกลียดพวกกวีตุ๊งติ้ง" ว่าแล้วเลี่ยหยางก็เดินนำเลย โดยมีเยว่หลิงเดินตามหลังต้อยๆ.....เดินทางมาสักพักทั้งคู่ก็มาถึงที่ราบกว้า

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   (ภาคฉางอัน) ค่ำคืนสุดท้ายที่ฉางอัน...

    ...คืนนี้เรือนพักเงียบสงบ มีเพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันส่องวูบวาบไหวบนโต๊ะไม้ แสงนั้นทอดลงบนหน้าอกแน่นๆของเลี่ยหยาง เขาร้อนมากจึงถอดเสื้อออก เปลือยเปล่าท่อนบน กล้ามเนื้อไหล่และเแผ่นอกตึงแน่นมองเห็นได้ชัดเจน มีเหงื่อบางๆไหลซึมตามผิวอก และกล้ามท้องซิกแพ็คแน่น ๆ ของเขาเยว่หลิงอดไม่ได้ที่จะแอบดูรูปร่างอันเซ็กซี่นั้น จนเลี่ยหยางสังเกตุเห็น"อากาศว่าร้อนแล้ว แต่สายนั้นของเจ้าร้อนยิ่งกว่าอีกนะ หลิงหลิง"เลี่ยหยางยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาเยว่หลิง ใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจประสานกัน ริมฝีปากแทบจะแตะต้องกัน เยว่หลิงถอยไปจนพิงขอบประตู"หลิงหลิงเจ้าก็ถอดบ้างสิ ร้อนซะขนาดนี้"เลี่ยหยางใช้มือขวาแกะเสื้อเยว่หลิงออก จนเสื้อแหวกออกทำให้เห็นหน้าอกแล้วซิกแพ็คลีนๆของเยว่หลิง ผิวที่ขาวเนี่ยนละเอียดนั่นพอต้องแสงตะเกียงแล้วมันช่างสว่างในที่มืดเสียจริง ราวกับปุยนุ่น เลี่ยหยางกลืนน้ำลายดังอึ่ก เขาอดใจไม่ได้ที่จะใชเปลายนิ้วสัมผัสผิวขาวออร่านั้น เขาใช้ปลายนิ้วสัมผัสค่อยๆไล่จากหน้าอกลงมาถึงใต้สะดือนิดหน่อย"ผิวเจ้านี่นุ่มดีจัง มีกลิ่นหอมนิดๆด้วย" เขาเผลอพูดออกไป เยว่หลิงเอามือจับหน้าอกแน่นๆของเลี่ยหยางคืน "อกเจ้าก็ชุ

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   (ภาคฉางอัน) คำอธิษฐานแห่งดวงดาว

    .....เช้าวันนี้เลี่ยหยางชวนเยว่หลิงไปไหว้ศาลเจ้าเทพแห่งดาวดาวซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนครฉางอัน ศาลแห่งนี้สูงสง่า ประตูไม้ทาสีดำสนิท สลักลายกลุ่มดาวนับพัน เสมือนจักรวาลทั้งปวงถูกรวมไว้ในบานประตูเดียว ภายในศาลเจ้า เงียบสงัด มีเพียงกลิ่นธูปลอยคลุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า บนเพดานมีการวาดดาวฤกษ์เป็นจุดแสงทองคำ เมื่อจุดตะเกียงน้ำมันยามค่ำคืน จะระยิบระยับราวกับท้องฟ้าแท้จริงผู้คนเชื่อว่า หากมากราบไหว้จะได้รับการปกปักคุ้มครองจากเทพเจ้าแห่งดวงดาว ให้เดินทางปลอดภัย และชะตาชีวิตรุ่งเรืองทั้งสองประนมมือไหว้ แล้วเดินชมรอบ ๆ เลี่ยหยางชวยเยว่หลิงเขียนป้ายคำอธิษฐานแขวนไว้ในศาลเจ้า(ฉีหย่วนไผ๋)เหมือนคนอื่น ๆ ที่เขียนหอยแขวนไว้มากมายหลายพันชิ้น เยว่หลิงไม่ได้สนใจแต่ไม่อยากขัดเลี่ยอยางจึงนำแผ่นไม้หอมมาเขียนคำอธิษฐานโดยเลี่ยหยางไปเชื่อนักพรตในศาลเจ้าจ่ายเงินซื้อหยดหมึกผสมน้ำฟ้า(หมึกพิเศษผสมแร่เงิน) ซึ่งจะทำให้แสงจันทร์สะท้อนเป็นประกายเงิน คล้ายป้ายเรืองแสงยามราตรีได้ เสร็จแล้วทั้งคู่ก็นำไปแขวนไว้ที่เสาศิลาแกะสลักรูปดาว"เราใช้หมึกพิเศษ พอตกกลางคืนเมื่อแสงตะเกียงและแสงดาวตกกระทบ ป้ายพวกเราจะสะท้อนแสงวิบวับราวกับ

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   (ภาคฉางอัน) ในคืนจันทร์เพ็ญ

    ....คืนนั้นแสงจันทร์สาดส่องลงมาบน สวนดอกท้อของโรงแรม ดอกสีชมพูอ่อนร่วงโปรยปรายตามทางเดิน เสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ประสานกับเสียงน้ำในสระเล็กที่ถูกลมเย็นๆพัดจนเกิดเป็นระลอกคลื่นจาง ๆ สร้างบรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติกเยว่หลิงและเลี่ยหยาง นั่งบนก้อนหินที่วางอยู่ใต้ต้นท้อ โต๊ะเล็กวางไหสุราเสียน กลิ่นหอมของข้าวหมักผสมสมุนไพรลอยอบอวลในอากาศเลี่ยหยางรินสุราลงจอก ดวงตาเปล่งประกายสะท้อนแสงจันทร์บนกลีบดอกท้อ เขายกจอกขึ้นจิบ รสเข้มขมแรกแต่กลับหวานนุ่มลึกในลำคอ ส่วนเยว่หลิงแก้มเดาเพราะเมาสุราเล็กน้อย เขาเป่าขลุ่ยเสียงช่างไฟเราะแก่ผู้ฟังยิ่งนัก จนเจ้าแมวขาวประจำโรงแรมเข้ามานอนที่ตักเลี่ยหยางนอนฟังเสียงดนตรี“สุรานี้ช่างหอมเยี่ยงกลิ่นบุปผาในยามราตรี” “แต่สุขที่แท้… มิใช่รสสุรา หากคือผู้ร่วมจอกตรงหน้า” เลี่ยหยางมองหน้าเยว่หลิงด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็เมานิด ๆ สุภาษิตจีนว่าเหล้าดีหนึ่งจอก ดีกว่าทองพันชั่ง หากดื่มกับมิตรแท้ใต้เงาดอกท้อนั้นทั้งสองดื่มด่ำความสุขเรียบง่ายดั่งปุถุชนสามัญทั่วไปแล้วจู่ๆก็มีกู่เจิง(เครื่องดนตรีประเภทสายของจีน)ดังสมทบขึ้น เสียงขลุ่ยและกู่เจิงนั้นเข้ากันได้อย่างดี ฟังดูยิ่งไพเร

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   (ภาคฉางอัน) ท่านต้องเลือก

    .....เมืองเริ่มกลับมาเป็นปกติ ร้านค้าหลาย ๆ ร้านกลับมาเปิดดังเดิม เลี่ยหยางและเยว่หลิงหลังกินโจ๊กร้อนในตลาดช่วงเช้าตรู่กันไปแล้ว คุณชายไป๋ยังอยากเดินหาของกินเพิ่มอีก ทำไมมันกินเยอะขนาดนี้ ตัวก็ผอม ๆ ลีน ๆ ท้องเจ้าหมอนี่ต้องมีทาเถี่ย(สัตว์ในตำนานยุคโบราณ)อยู่จริง ๆ นั่นแหละคุณชายไป๋หยุดที่ร้านขายฮู่ปิ่ง(พิซซ่าโบราณ) มันเป็นแป้งอบแบนโรยงาด้านบน เยว่หลิงนอกจากจะซื้อแล้วยังขอเข้าไปดูว่าเขาทำยังไงอีกด้วยพอออกมาเขาก็เดินไปซื้อเจียวจื่อ ซึ่งเป็นซาลาเปาห่อไส้ รสชาติที่กัดลงไปนั้นมีเครื่องเทศจากด่านแดน(เอเชียกลาง)อยู่ด้วย มันดูแปลกใหม่กว่าซาลาเปาที่อื่นจริง ๆ สมแล้วที่เป็นเมืองแห่งเส้นทางสายไหมสำคัญที่มีหลากหลายชาติพันธุ์อยู่ที่นี่ผลไม้ก็เช่นกัน ลูกอินทผาลัมแห้ง หรือแม้แต่อแปริคอตเชื่อมก็มี แต่ราคาแพงพอสมควร ซึ่งไม่เป็นปัญหากับคุณชายกระเป๋าหนักสกุลไป๋เลยแม้แต่น้อย เขากินทุกอย่างที่เขาอยากกิน ทั้งคู่เดินตลาดกันจนถึงเกือบเที่ยง "กลับที่พักกันเถอะหลิงหลิง เจ้าเดินกินมานานแล้วนะ ข้าเดินจนเมื่อยแล้ว"แล้วเลี่ยหยางก็แอบเห็นใครสักคนกำลังวิ่งหลบเข้าไปในมุมตึก เขาคือนักฆ่ากลุ่มเจ๊แพะตุ๋นนั่นเองเล

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   (ภาคฉางอัน) เพื่อบะหมี่ซานซี

    .....ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในงานเทศกาลโคมนั้นทำให้ทั้งเมืองฉางอันวุ่นวายกันไปเป็นสัปดาห์ ร้านค้าที่เคยคึกคักก็ไม่กล้าเปิด ทหารก็เดินตรวจตรากันหนาแน่น เลี่ยหยางนั่งเซ็ง ๆ อยู่ที่หน้าต่างในโรงแรมมองดูถนนด้านล่าง"เซ็ง เซ็ง เซ็งโว้ย!"แล้วเยว่หลิงก็เดินเข้ามาใกล้ เขาจับชายเสื้อเลี่ยหยางอยากมีเลศนัย"ข้า....อยากกินบะหมี่ซานซี..." เยว่หลิงกลืนน้ำลายยลงคอดังอึก เนื่องจากเขาเป็นคนผอมสูงอยู่แล้ว เห็นลูกกระเดือกชัดเจน เวลาเขากลืนน้ำลายยิ่งทำให้เห็นการเคลื่อนไหวที่คอนั้นชัดเจนเลี่ยหยางถอนหายใจ "เห้ออออ หลิงหลิง เจ้าก็ดูสิ ร้านอร่อยตรงโน้น ๆ ๆ ๆ มันปิดหมดเลยอ่ะ ข้าก็จนปัญญาจะพาเจ้าไปกิน รออีกหน่อยได้ป่าว?"เลี่ยหยางรีบเตือนเยวหลิงก่อนเลยว่า "แล้วเจ้าอย่าโดดขึ้นไปยอดหอคอยอีกนะ ทหารเต็มไปหมดแบบนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นไปกินข้าวในคุกเอาง่าย ๆ"เยว่หลิงทำปากเบ้ใส่ แววตาเคืองอย่างชัดเจน ทำเอาเลี่ยหยางยิ่งถอนหายใจใหญ่"ท่านลุงช่วงนี้ก็ต้องอยู่นิ่ง ๆ ไปก่อนยังไปติดต่อท่านไม่ได้..."เยว่หลิงทำสายตาน้อยใจ เลี่ยหยางมองดวงตาคู่นั้นพรางนึกในใจ นี่ข้าไม่ต่างจากมารดาเจ้าหลิงหลิงเลย ต้องเอาอกเอาใจดูแลทุกอย่าง ยังก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status