Share

บทที่ 16

last update Last Updated: 2025-06-06 07:37:55

บทที่ 16

“ถ้าเธอไม่ทำแล้วใครทำ! ในเมื่อมีแต่เธอเท่านั้นที่อยู่กับศศิตอนเกิดเรื่อง!”

ไม่ใช่แค่ตะคอกถามเสียงเกรี้ยวกราด แต่มือใหญ่ทั้งสองยังตะปบลงบนต้นแขนเล็ก แล้วบีบเข้าเต็มแรงพร้อมกับเขย่าร่างบางด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ซึ่งอัดแน่นอยู่ข้างในมานานหลายวัน และตอนนี้มันกำลังระเบิดออกมาราวกับลาวาร้อนๆ ที่พ่นจากปากปล่องภูเขาไฟ

“จันทร์ไม่ทราบค่ะ จันทร์ไม่ทราบ” เสียงหวานเอ่ยสั่นเครือ น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาอย่างหวาดกลัวต่ออารมณ์ของคนที่เคยเป็นพี่ชายใจดีของตน

“หยุด! อย่ามาบีบน้ำตาให้ฉันสงสาร เพราะนับจากนี้ไปฉันจะไม่มีวันสงสารเด็กร้ายลึกอย่างเธออีกเด็ดขาด”

“คุณตะวันปล่อยค่ะ...จันทร์เจ็บ...”

“เจ็บเหรอ! ความเจ็บของเธอมันเทียบไม่ได้กับความเจ็บของศศิกับความเจ็บปวดที่ฉันได้รับอยู่ตอนนี้หรอก”

“ถ้าคุณตะวันโทษว่าเป็นความผิดของจันทร์จริงๆ จันทร์ก็ยินดีจะไปจากบ้านหลังนี้ หรือคุณจะเรียกตำรวจมาจับจันทร์เข้าคุกก็ได้นะคะ”

“มันง่ายไปจันทริกา ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอลอยนวลหรอก”

เรียวปากหยักแสยะยิ้มอย่างชวนหวาดหวั่น ลมหายใจที่เจือด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ดังฟืดฟาด สายตาเหี้ยมเกรียมที่สาดซัดมายังเธอนั้นดูคุกรุ่น จนจันทริกาตัวสั่นด้วยความกลัว เธออยากจะหนีไปให้พ้นหน้าเขาเสียตอนนี้ แต่มือที่พันธนาการแขนทั้งสองข้างของเธออยู่ กลับเป็นอุปสรรคอันใหญ่โตที่ขัดขวางไม่ให้จันทริกาทำได้อย่างที่ใจคิด

“คุณจะทำอะไรจันทร์”

“ฉันก็จะทำให้เธอรู้ซึ้งน่ะสิ ว่าการอยู่แบบตายทั้งเป็น รสชาติมันเป็นยังไง”

จบคำมือใหญ่ที่ตะปบอยู่บนต้นแขน กระชากร่างเล็กเข้ามาหา  แล้วบดขยี้ริมฝีปากจูบไปทั่วใบหน้าที่เขาเคยมองว่าช่างหวานใสอย่างรุนแรงป่าเถื่อน โดยไม่หลงเหลือความพะวงว่า จะทำให้ความสวยใสนั้นมีร่องรอยหรือบาดแผลเลยแม้แต่น้อย

จันทริกาผวาเฮือก แก้วนมที่อยู่ในมือร่วงลงไปกระทบกับพื้นพรม พร้อมกับที่ของเหลวสีขาวขุ่นไหลเลอะ ก่อนจะถูกซับหายไปกับความหนาของพรมอย่างรวดเร็ว เด็กสาวพยายามดิ้นรนเท่าที่เรี่ยวแรงจะมี หน้าเบี่ยงหลบการระดมจูบอันสุดดิบเถื่อนนั้นอย่างแตกตื่นใจ ทว่าหลบเท่าไหร่ก็หลบไม่พ้น เพราะทั้งปากทั้งจมูกของเขาบดขยี้ลงมาอย่างคนไร้สติ ลมหายใจอุ่นๆ ซึ่งเจือมากับกลิ่นแอลกอฮอล์ราดรด พร้อมกับไรหนวดไรเคราครูดกับผิวอ่อนบางจนเธอเจ็บไปหมด แต่ก็ไม่เท่ากับความหวาดหวั่นต่ออารมณ์ของรังสิมันต์ในยามนี้

“พี่ตะวัน...อย่าค่ะ...จันทร์ขอร้อง”

คำขอร้องอ้อนวอนของเด็กสาวไร้ผลโดยสิ้นเชิง ซ้ำมันยังไปเพิ่มความโกรธให้กับเจ้าของชื่อ เพราะเธอบังอาจเรียกเขาด้วยถ้อยคำที่เพิ่งถูกสั่งห้ามไปหยกๆ

ทันทีที่ถ้อยคำของเธอดังไปกระทบโสตประสาท ร่างบางก็ถูกเหวี่ยงลงไปนอนบนเตียงกว้างซึ่งมีสภาพยับย่น เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาดูแลทำความสะอาดหลายวันแล้ว

ร่างใหญ่โถมตัวลงมาทาบทับ ความใหญ่โตของร่างนั้นทำเอาร่างเล็กบางแทบจะจมหายไปกับที่นอน แต่รังสิมันต์ไม่สนใจ เขารวบสองมือของเธอกดตรึงเอาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าฆาตกรตัวเล็กๆ ที่ตอนนี้ขึ้นสู่ลานประหารจะหนีไปได้ ทั้งๆ ที่เรี่ยวแรงของจันทริกาทั้งหมดมีไม่ถึงครึ่งของเขาด้วยซ้ำ

“ฆาตกรอย่างเธอไม่มีสิทธิ์เรียกฉันว่าพี่ อย่าได้บังอาจอีกเด็ดขาด”

เสียงคำรามนั้นดังลอดไรฟันออกมาตอกย้ำ จันทริกาน้ำตาเอ่อคลอ ทั้งกลัว ทั้งหวาดหวั่นพรั่นพรึง ทั้งเจ็บปวดต่อคำกล่าวหาอันรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น

“จันทร์ขอโทษ...ขอโทษ...จันทร์จะไม่เรียกคุณแบบนี้อีก...ได้โปรด...”

“มันง่ายไปจันทริกา คำขอโทษเพียงไม่กี่คำกับสิ่งที่เธอพรากมันไปจากฉัน มันเทียบกันไม่ได้เลย เธอจะต้องชดใช้”

“จันทร์ไม่ได้ทำ...ให้จันทร์ได้อธิบายสักนิดเถอะนะคะ...”

จันทริกาพยายามจะยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองออกมาอีกครั้ง ทว่ารังสิมันต์ไม่คิดจะสนใจฟัง สิ่งเดียวที่เขาคิดในตอนนี้ก็คือ จันทริกาจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ

“เธอมันผู้ร้ายปากแข็ง ตีหน้าซื่อบริสุทธิ์ทั้งที่หัวใจมีแต่ความมืดดำ รักฉันมากใช่ไหม หวังในตัวฉันมากใช่ไหม ได้...ฉันจะให้เธอได้ลิ้มลองมัน เตรียมตัวรับมันได้เลย”

ตาคู่สวยเบิกกว้างได้แค่ไม่ถึงเสี้ยววินาที รังสิมันต์ก็ซุกหน้าลงมาหาอีกครั้ง คราวนี้ปากของเขาไม่ได้จูบที่แก้ม หากแต่มันประกบลงกับเรียวปากจิ้มลิ้มของเธอ แล้วขยี้จูบสลับกับใช้ปากงับอย่างรุนแรงจนจันทริการับรู้ถึงรสชาติของเลือดที่เอ่อซึมออกมา

เสื้อผ้าซึ่งเพิ่งจะใส่ได้ไม่ถึงชั่วโมงหลุดออกจากร่าง ด้วยการถูกกระชากจนบางชิ้นขาดวิ่น ก่อนที่มันจะปลิวว่อนลงไปข้างเตียง ขณะที่น้ำตาหยดใสๆ ไหลเป็นทางไม่ขาดสาย

“อย่าค่ะ...คุณตะวัน...อย่า...ได้โปรด...หยุด...”

ปากเปล่งเสียงขอร้องอ้อนวอนละล่ำละลัก เมื่อรังสิมันต์ละปากออกจากจูบอันดิบเถื่อน แล้วซุกหน้าต่ำลงไปยังซอกคอขาวละมุนด้วยสัมผัสที่หยาบกระด้างดิบเถื่อนไม่ต่างกัน

ในยามนี้เลือดในกายของรังสิมันต์เหมือนกับร้อนขึ้นเป็นเท่าตัว ความนุ่มเนียนอุ่นละเอียดของร่างเล็กเปลือยเปล่า ทำให้ความปรารถนาของเขาพลุ่งพล่านขึ้นมาเจือประสานกับความโกรธแค้นอย่างรุนแรง และอารมณ์ทั้งหมดนั้นก็ถูกระบายลงกับคนที่กำลังถูกเขาพิพากษาอย่างไร้ความปรานี!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 50

    บทที่ 50“แต่คุณปรัชญ์ขอร้องนะคะ จันทร์ไม่อยากผิดคำพูดกับ...”จันทริกายังพูดไม่ทันจบ นิ้วแกร่งเรียวยาวก็แตะลงบนเรียวปากนุ่ม เพื่อห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ“ฉันไม่อนุญาตให้เธอเห็นคนอื่นสำคัญกว่าฉัน”พูดจบนิ้วที่แตะอยู่บนเรียวปากนุ่มก็เลื่อนออก แต่เรียวปากหยักร้อนกลับเคลื่อนเข้ามาแทนที่ ร่างบางเกร็งขึ้นเพราะกลัวว่ารังสิมันต์จะทำรุนแรงเช่นเดิมอีก หากแต่จูบครั้งนี้เป็นจูบที่แสนอ่อนโยน จูบที่คล้ายจะไถ่โทษ จูบที่เว้าวอน จนอาการเกร็งนั้นมลายหายไป และยืนนิ่งให้เขาจูบอยู่เนิ่นนาน“เมี้ยว...”เสียงร้องของเมสซี่ที่ดังขึ้น ทำให้อารมณ์ที่กำลังอ่อนไหวของทั้งคู่สะดุดลง จันทริกาได้สติจึงรีบผละออกห่างจากการโอบกอดของเขาอย่างรวดเร็ว แล้วย่อตัวลงไปอุ้มเมสซี่ขึ้นมาแนบอก คล้ายกับจะใช้มันเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เขาเข้าถึงตัวได้อีกรังสิมันต์ออกจะเขม่นแมวตัวโปรดเป็นครั้งแรก แต่ไหนแต่ไรมันรู้งาน และไม่เคยทำตัวเป็นก้างขวางคอ แต่ทำไมวันนี้มันถึงมาขัดจังหวะก็ไม่รู้“ฉันเพิ่งบอกเธอไปหยกๆ ว่าไม่ให้เห็นใครสำคัญกว่าฉัน”“แต่นี่เมสซี่แมวของคุณนะคะ คุณให้อาหารมันหรือยังคะ” จันทริกาถามอย่างพอจะเข้าใจอากัปกิริยาของเมสซี่ดีว่าที

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 49

    บทที่ 49ร่างสูงเดินดุ่มไปหาคนทั้งคู่อย่างไม่รีรอ สีหน้าบอกชัดว่าไม่สบอารมณ์และไม่พอใจเป็นอย่างมาก ปรัชญ์จึงพยักหน้าให้จันทริกาหลบไปก่อน ส่วนเขาเป็นฝ่ายอยู่รับหน้ารังสิมันต์ “แกมาทำอะไรที่บ้านฉัน” รังสิมันต์ถามเสียงห้วนกระด้างอย่างไม่คิดจะเก็บอารมณ์“มาหาจันทร์”“มาหาทำไม?”“มาจีบมั้ง” ปรัชญ์ตอบกวนๆ ยิ่งเห็นรังสิมันต์ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้นก็ยิ่งพอใจที่ได้ยั่วให้เพื่อนโกรธได้ แต่ดูแค่ตาเดียวก็รู้ว่าที่รังสิมันต์ทำหน้าแบบนั้นก็เพราะกำลังหึงหรือไม่ก็หวงก้าง“มันใช่เวลาไหม” รังสิมันต์ย้อนถามด้วยน้ำเสียงโทนเดิม“ทีแกยังเคยคิดจีบเมียฉัน ทำไมฉันจะจีบเมียแกบ้างไม่ได้” ปรัชญ์ยักไหล่และตอบกวนๆ เช่นเดิม ทั้งๆ ที่ในใจแอบหัวเราะคนออกอาการอยู่เงียบๆ “ฉันบอกแล้วไงว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่เมียฉัน” แม้จะออกอาการว่าหึงหวงปานใด แต่ปากก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง ซึ่งนั่นกลับยิ่งเข้าทางปรัชญ์“ไม่ใช่ก็ยิ่งดีใหญ่ ฉันจะได้ทำอะไรสะดวกๆ”“แกกำลังจะแต่งงานกับน้องเล็กนะเว้ย เลวให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหมไอ้เวร”“หวงก้างว่างั้น”“แกแม่งกวนตีนไม่เลิกว่ะ แล้วแต่แกเถอะไอ้เลวอยากทำอะไรก็ทำ” เมื่อถูกจี้แบบถูกจุดซ้ำแล้วซ้ำอีก รังสิ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 48

    บทที่ 48วันนี้เป็นวันหยุดของรังสิมันต์ซึ่งเพิ่งจะกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ อุ้ยคำจึงลากลับบ้านไปหาครอบครัว ส่วนหนานอินซึ่งเป็นรปภ.เฝ้าป้อมหน้าบ้านก็ขอลาหยุดเช่นกัน จึงกลายเป็นว่าวันนี้จันทริกาต้องอยู่บ้านหลังใหญ่นั้นกับเจ้าของบ้านตามลำพังรังสิมันต์อยู่กับเมสซี่ในห้องนั่งเล่น ส่วนจันทริกาตากผ้าอยู่หลังบ้าน มือเล็กที่กำลังจับผ้าขึ้นแขวนบนราวตากชะงักครู่หนึ่งพลางเงี่ยฟัง เมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน ปกติแล้วหน้าที่เปิดประตูรั้วจะเป็นของหนานอินซึ่งเป็นรปภ.เฝ้าหน้าป้อม แต่วันนี้หนานอินลางาน จันทริกาจึงต้องละมือจากการตากผ้า แล้วเร่งฝีเท้าไปยังประตูหน้าบ้านอย่างรู้ดีว่าเป็นหน้าที่ตัวเอง“มาหาใครคะ” เสียงหวานถามคนที่มากดกริ่งอย่างสุภาพ ก่อนที่ดวงตาสวยปนเศร้าจะเบิกกว้างและเปลี่ยนเป็นเปล่งประกายด้วยความดีใจ เมื่อเห็นหน้าคนที่มากดกริ่งในระยะใกล้“พี่เล็ก...”เจ้าของชื่อที่เธอเรียกคือรุ่นพี่ที่เธอเคยสนิทสนมมากในตอนเรียนมัธยม เพราะเคยอยู่ชมรมดนตรีด้วยกันนั่นเอง “จันทร์...” “ดีใจจังค่ะที่ได้เจอพี่เล็ก พี่เล็กสวยขึ้นจนจันทร์เกือบจะจำไม่ได้เลยค่ะ”

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 47

    บทที่ 47สำหรับคนที่จมอยู่ในห้วงของความทุกข์ใจ วันเวลามักผ่านไปช้าเสมอ คนในบ้านที่รังสิมันต์ส่งไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าของเขา ยังไม่มีใครได้กลับมา ดังนั้นจันทริกาจึงต้องทำงานบ้านทุกอย่างแทบจะคนเดียวเช่นเดิม และยังมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าหน้าที่ของคนรับใช้ทั่วไป นั่นคือเธอต้องคอยรองรับไฟปรารถนาของรังสิมันต์ ไม่ว่าเขาต้องการยามใด เธอก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธได้สักครั้ง จันทริการู้ดีว่าเขาทำไปเพื่อระบายความแค้นเท่านั้น หากแต่ตอนนี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเริ่มจะผูกพันกับเขาอย่างลึกซึ้งมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทำให้เธอทุกข์ใจไม่น้อย หากจะมีสิ่งที่ทำให้เธออยู่บ้านหลังนี้ได้อย่างมีความสุข ก็คงจะเป็นความน่ารักของเมสซี่กับความเอ็นดูจากลุงหนานอินซึ่งเป็นรปภ.กับอุ้ยคำเท่านั้น ส่วนเจ้าของบ้าน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังคงใจร้ายและเย็นชาใส่เธอดังเดิม แม้บางครั้งเขาเหมือนจะอ่อนโยน แต่นั่นก็เป็นเพียงเพราะเขาลืมตัว ครั้นพอเขาคิดได้ว่าเกลียดชังเธอแค่ไหน จันทริกาก็มักจะได้รับผลจากความเคียดแค้นชิงชังของเขาดังเดิมเช้านี้จันทริกาไม่ได้ทำอาหาร รังสิมันต์บอกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 46

    บทที่ 46“คำว่าเกมหัวใจ มันไว้สำหรับคนที่มีใจให้กัน”“แกไม่ได้คิดอะไรกับจันทร์ว่างั้น” จากที่ถูกไล่ต้อนตอนนี้ปรัชญ์เปลี่ยนเป็นฝ่ายไล่ต้อนรังสิมันต์บ้าง“คิด...คิดว่าเด็กคนนั้นทำให้เมียฉันตาย”“แน่ใจว่าคิดแค่นั้น แล้วนี่แต่งตัวจะไปไหน”“กลับเชียงใหม่สิวะ จะอยู่ทำไมล่ะ ก็ผู้หญิงที่ฉันตั้งใจจะมาจีบกลายเป็นเมียแกไปแล้วนี่ หรือแกจะให้ฉันแย่งเมียเพื่อนก็ได้นะฉันไม่ถือ”“ก่อนจะถามฉัน ถามตัวเองก่อนว่าคิดจะแย่งเมียฉันจริงๆ หรือแค่อยากให้เมียตัวเองหึง”คำพูดที่เหมือนกับมานั่งอยู่ในใจเช่นนั้น ทำให้รังสิมันต์ต้องทำหน้าตึงกลบเกลื่อน แม้สิ่งที่ปรัชญ์พูดมาจะไม่ตรงกับความจริงนักแต่ก็เฉียดสุดๆ เขาไม่ได้อยากให้จันทริกาหึง แค่อยากให้เธอเจ็บจริงหรือที่ว่าต้องการแค่นั้น?รังสิมันต์ถามตัวเอง...แล้วทำไมตอนที่เด็กคนนั้นทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเขา เขาถึงได้หงุดหงิดนัก“ต้องให้ย้ำกี่ครั้งว่าเมียฉันตายแล้ว แกความจำเสื่อมหรือไงไอ้เชี่ยปรัชญ์” คนถูกต้อนคืนทำเสียงฉุนๆ ใส่“ฉันไม่ได้หมายถึงคนที่ตายแล้วเว้ย แต่หมายถึงคนที่แกอยู่ด้วยตอนนี้”“จันทริกาไม่ใช่เมียฉัน”“แล้วเป็นอะไร แค่อดีตน้องเมียที่ตอนนี้ถูกลดฐานะล

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 45

    บทที่ 45“เธอนอนหรือยัง” ถามทั้งๆ ที่รู้ว่าดึกดื่นขนาดนี้ จันทริกาต้องนอนแล้ว เพราะปกติถ้าคืนไหนที่เขาไม่ได้ให้เธอขึ้นไปหา หรือเป็นฝ่ายลงมาหาเธอ เด็กคนนั้นจะหลับเร็วเป็นพิเศษ“นอนแล้วค่ะ คุณโทร.มามีอะไรหรือเปล่าคะ”“ฉันแค่โทร.มาถามว่าเมสซี่เป็นยังไงบ้าง” ปากพูดไปตามที่สมองเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า หากแต่เสียงในใจเสียงหนึ่งกลับตะโกนก้องขึ้นมาว่า เพราะอยากได้ยินเสียงนุ่มๆ เรียบๆ ของเธอต่างหาก“เมสซี่อยู่กับจันทร์ค่ะ ตอนนี้หลับไปแล้ว”“ก็ดี ฉันแค่เป็นห่วงมัน”“ไม่ต้องห่วงนะคะจันทร์จะดูแลเมสซี่อย่างดี และสมบัติทุกชิ้นของคุณในบ้านหลังนี้ยังอยู่ครบค่ะ” จันทริกาพูดกับคนโทร.มาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะเป็นการบอกกล่าวตามปกติ ทว่าหัวใจกลับปวดแปลบ เมื่อตระหนักถึงความจริงที่ว่า คุณตะวันเป็นห่วงแค่เมสซี่เท่านั้น ไม่ได้ห่วงเธอแม้แต่นิด หากจะห่วงก็คงห่วงว่าเธอจะพาใครมาขโมยของในบ้านอย่างที่เขาพูดไว้ก่อนไปมากกว่า เพราะเธอเป็นผู้ร้ายในสายตาเขามาตลอดตั้งแต่ศศิประภาตายไป จันทริกาจึงต้องบอกเขาไปเช่นนั้น หากแต่คนฟังกลับรู้สึกว่าเธอกำลังประชด“สมบัติของฉันที่เธอว่าอยู่ครบทุกชิ้น รวมถึงเธอด้วยหรือเปล่า”จันทริกาห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status