Share

บทที่ 2 หญ้าดับไฟราคะ ตอนที่ 2/5

last update Last Updated: 2025-10-22 19:19:19

อวี้เหยียนขมวดคิ้ว เขาเดินเข้าไปใกล้แปลงดิน และมองดูต้นกล้าเล็กๆ ที่เพิ่งถูกปลูกลงไป “แล้วหญ้าสงบจิตที่เจ้าพูดถึงคือสมุนไพรชนิดใด ทำไมวิธีการปลูกของเจ้าจึงใช้เครื่องมือที่พิสดารถึงเพียงนี้” อวี้เหยียนถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่ไว้วางใจอย่างถึงที่สุด

ซูฉิงเห็นท่านหมอเทวดาสนใจ ก็รีบใช้ความรู้ทางการแพทย์สมัยใหม่มาอธิบายความสามารถของตัวเองทันที “หญ้าสงบจิต... มันเป็นสมุนไพรที่ช่วยปรับคลื่นไฟฟ้าในสมองเจ้าค่ะ มันจะช่วยบำบัดอาการเครียดสะสมและคลายปมประสาทที่ถูกกดทับมานาน”

“คลื่นไฟฟ้า ปมประสาท เจ้ากำลังใช้ศัพท์อันใด” อวี้เหยียนรู้สึกว่าความรู้ทางการแพทย์ที่เขาสั่งสมมาทั้งชีวิตกำลังถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรงโดยสตรีทะลึ่งผู้นี้

ซูฉิงมองดูสีหน้าของเขาแล้วรู้สึกตลกอย่างบอกไม่ถูก นี่แหละคือจุดประสงค์ของเธอ การทำลายกำแพงความรู้ของเขาด้วยคำพูดทะลึ่งที่แฝงไปด้วยความจริงทางวิทยาศาสตร์

อวี้เหยียนยืนอยู่ข้างแปลงสมุนไพรด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและความฉงนสนเท่ห์ เขามองดูต้นกล้าเล็กๆ ของ 'หญ้าสงบจิต' ที่เพิ่งโผล่พ้นดิน และอุปกรณ์ทำสวนที่ถูกตั้งชื่ออย่างน่าอับอาย 

“คลื่นไฟฟ้า ปมประสาท ซูฉิง เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลในเรื่องทางการแพทย์ที่ร้ายแรง หากข้าไม่ได้เห็นความสามารถในการจัดเรียงสมุนไพรของเจ้า ข้าคงไล่เจ้าออกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” อวี้เหยียนกล่าวเสียงเข้ม

ซูฉิงทำหน้าใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามควบคุมอาการ 'ปากไวใจทะลึ่ง' ที่กำลังกำเริบอย่างหนักเมื่อเห็นใบหน้าตึงเครียดของท่านหมอเทวดา 

“ท่านหมอเจ้าคะ ข้าเปล่าเหลวไหลนะเจ้าคะ ข้ากำลังอธิบายกลไกการออกฤทธิ์ทางชีวภาพของสมุนไพรอยู่ต่างหาก”

ซูฉิงรีบก้มลงไปจับใบของหญ้าสงบจิตขึ้นมาอย่างอ่อนโยน “ท่านดูที่ใบของมันสิเจ้าคะ นี่คือส่วนที่ทำหน้าที่เป็นเสาอากาศในการรับคลื่นความถี่บวกจากธรรมชาติ”

“เสาอากาศ คลื่นความถี่ เจ้าคิดว่าสมุนไพรเหล่านี้เป็นแม่น้ำสายหนึ่งหรืออย่างไร” อวี้เหยียนแทบจะยกมือขึ้นกุมขมับ

ซูฉิงส่ายหน้าอย่างช้าๆ “ท่านหมอ ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้ากำลังพูดถึงเซลล์ ใบนี้มันเต็มไปด้วยโคลโรพลาสต์ ซึ่งเป็นอวัยวะเล็กๆ ที่ใช้ในการดูดกลืนพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวิต”

ซูฉิงชี้ไปยังส่วนที่เรียกว่า ต่อมใต้สมองของพืช (ที่จริงคือส่วนที่พืชใช้ควบคุมการเจริญเติบโต) “และส่วนนี้ ส่วนนี้สำคัญที่สุดเลยเจ้าค่ะ ท่านหมอต้องดูแลมันเป็นพิเศษ เพราะมันคือต่อมควบคุมการเจริญเติบโต หรือที่ข้าเรียกมันว่าต่อมใต้สมองของพืช ถ้าต่อมนี้อ่อนแอ สมุนไพรก็จะไม่สามารถเติบโตอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์เจ้าค่ะ”

อวี้เหยียนจ้องมองส่วนที่ซูฉิงชี้อย่างจริงจัง ในฐานะหมอและนักสมุนไพรผู้เชี่ยวชาญ เขาต้องยอมรับว่าส่วนนั้นมีความสำคัญต่อการงอกจริง แต่คำว่า 'ต่อมใต้สมองของพืช' และการอธิบายถึง 'ความอ่อนแอ' ของมัน ช่างฟังดูเหมือนซูฉิงกำลังวิเคราะห์อาการของ บุรุษเพศ ที่มีปัญหาเรื่อง กำลังวังชา เสียมากกว่า

“ซูฉิง ข้าสั่งให้เจ้าเลิกใช้คำที่ชวนให้เข้าใจผิดกับคนงานเสียที เจ้าใช้คำว่าบำรุงและอ่อนแอ ราวกับว่าเจ้ากำลังรักษาอาการทางกายให้บุรุษ” อวี้เหยียนกล่าวอย่างหงุดหงิด

“ ท่านหมอ ข้าแค่พูดถึงชีวิตของพืชนะเจ้าคะ ข้าต้องบำรุงให้รากแก้วของมันหยั่งลึกและแข็งแรง เพราะรากแก้วคือแกนหลักแห่งพลังงา ของพืช ถ้าแกนหลักไม่มั่นคง พืชก็จะล้มพับได้ง่ายๆ”

ซูฉิงชี้ไปยัง กระบอกป้อนสารบำรุงหัวใจ ที่เธอใช้รดน้ำ “ดังนั้นข้าจึงใช้เครื่องมือนี้ในการป้อนสารอาหาร อย่างอ่อนโยนแต่ตรงจุด เพื่อให้รากแก้วได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ท่านหมอไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ ข้าจะดูแลแกนหลักของสมุนไพรชุดนี้อย่างดีที่สุดเลยเจ้าค่ะ”

อวี้เหยียนรู้สึกว่าความเคร่งครัดที่สั่งสมมานานกำลังถูกทำลายลงอย่างช้าๆ ด้วยคำพูดที่ไม่บริสุทธิ์ใจของซูฉิง เขามองไปที่คนงานที่กำลังฟังคำอธิบายของนางด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“พอแล้ว ข้าไม่ต้องการฟังคำอธิบายที่ส่อไปในทางต่ำทรามอีกต่อไป” อวี้เหยียนตัดสินใจสั่งห้ามทันที “ถ้าเจ้ายังใช้ศัพท์ที่ชวนให้คิดลึก ข้าจะให้เจ้าไปทำบัญชีในโรงหมอแทนการปลูกสมุนไพร”

ซูฉิงทำหน้าเสียดายเล็กน้อย “โถ่ ท่านหมอ ท่านไม่ชอบความถึงแก่นของข้าหรือเจ้าคะ ข้าแค่พยายามอธิบายกระบวนการผสมเกสรของพืชให้ท่านฟังอย่างละเอียดเท่านั้นเอง การผสมเกสรคือการถ่ายทอดความรักอันลึกซึ้งจากอวัยวะเพศผู้ ไปยังอวัยวะเพศเมีย อย่างซาบซึ้ง มันคือศิลปะแห่งชีวิตนะเจ้าคะ”

อวี้เหยียนถึงกับหันหลังให้ทันที เขาเดินออกจากแปลงสมุนไพรอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟไหม้ ความอับอายมันแล่นพล่านไปทั่วใบหน้า 

“ไป ไปให้พ้นจากแปลงสมุนไพรของข้า และจงไปจัดเรียงสมุนไพรในห้องเก็บยาต่อให้เสร็จ และห้ามพูดเรื่องอวัยวะเพศของพืชหรือสัตว์ใดๆ ในโรงหมอข้าอีก”

ซูฉิงหัวเราะคิกคัก เธอรู้ว่าถึงแม้เขาจะโกรธจนหน้าแดง แต่เขาก็ไม่กล้าไล่เธอออก เพราะความรู้ของเธอมีประโยชน์เกินกว่าจะหาใครเทียบได้ 

ท่านหมอเอ๊ย ท่านหนีข้าไม่ได้หรอก ข้าจะใช้ความรู้ทางการแพทย์และคำพูดทะลึ่งนี่แหละ ค่อยๆ ทำลายกำแพงความเย็นชาของท่านไปทีละชั้นๆ จนท่านยอมรับว่าความทะลึ่งก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตเหมือนการหายใจ นี่แหละ

ซูฉิงกลับไปที่ห้องเก็บสมุนไพร เธอหยิบ รากยั่วใจ ที่เธอตั้งชื่อเล่นไว้ขึ้นมา เธอต้องหาทางสกัดสารออกฤทธิ์จากรากนี้เพื่อนำมาใช้ในการทดลองรักษาโรคของตัวเองอย่างลับๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำรับรักโอสถ ท่านหมอเคร่งครัดกับฮูหยินปากไว   บทที่ 6 พิสูจน์รสชาติ ตอนที่ 4/4

    อวี้เหยียนหน้าตึง “ข้า... ข้าจะวัดอุณหภูมิที่... ลิ้นของข้าเอง”“ไม่ได้เจ้าค่ะ” ซูฉิงรีบปฏิเสธ “การวัดที่ลิ้นนั้นไม่แม่นยำพอ ข้าต้องวัดที่จุดสัมผัสหลักที่เป็นแหล่งรวมพลังหยางในร่างกายของท่าน” ซูฉิงพยายามจะยื่นปรอทวัดไข้เข้าไปใกล้ลำคอของเขา แต่อวี้เหยียนรีบผงะหนีไปทันที“พอแล้ว ซูฉิง ข้าจะรายงานความรู้สึกของข้าให้เจ้าฟังแทน ข้าไม่ต้องการการสัมผัสใดๆ อีก” อวี้เหยียนกล่าวอย่างหงุดหงิดซูฉิงยอมถอย เธอหยิบพู่กันขึ้นมาบันทึกข้อมูล “ก็ได้เจ้าค่ะ ท่านหมอ โปรดรายงานความรู้สึกภายในของท่านอย่างตรงไปตรงมา”อวี้เหยียนพยายามรวบรวมคำพูดที่วิชาการที่สุด “ข้า... ข้าสัมผัสได้ว่าพลังชี่ของข้ามีการไหลเวียนผิดปกติ มัน... มันพลุ่งพล่านและรุนแรงอยู่ภายในร่างกายของข้า หัวใจของข้าเต้นเร่าอย่างรวดเร็ว ข้าไม่รู้ว่านี่เป็นผลจากยาหรือจากความอับอายที่เจ้าสร้างขึ้น”ซูฉิงยิ้มอย่างมีชัย เธอรีบจดบันทึกทุกคำพูดของเขา “ยอดเยี่ยมเจ้าค่ะท่านหมอ ชีพจรเต้นเร่า พลังชี่พลุ่งพล่าน นี่คือปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่ออคติถูกทำลาย ข้าจะตีความว่ายานี้ได้ผลในการกระตุ้นการปลดปล่อย ท่านหมอไม่ต้องอับอายนะเจ้าคะ ท่านกำลังปลดปล่

  • ตำรับรักโอสถ ท่านหมอเคร่งครัดกับฮูหยินปากไว   บทที่ 6 พิสูจน์รสชาติ ตอนที่ 3/4

    ขณะที่ทั้งสองกำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะทดลอง พื้นที่ว่างที่จำกัดทำให้ร่างกายของพวกเขาใกล้ชิดกันโดยไม่ได้ตั้งใจ อวี้เหยียนพยายามรักษาระยะห่างตามสัญชาตญาณ แต่ซูฉิงกลับเอนตัวเข้าไปหาเล็กน้อยเพื่อหยิบเครื่องมือ “ท่านหมอเจ้าคะ” ซูฉิงกล่าวขณะยื่นมือเข้าไปใกล้แขนของเขาเพื่อหยิบ ปฏิทินวัดชีพจร “ข้าต้องวัดชีพจรท่านก่อนที่เราจะชิมยานะเจ้าคะ เพื่อให้เราได้ข้อมูลพื้นฐาน”อวี้เหยียนถึงกับตัวแข็งทื่อ เขาจำกฎเหล็กข้อที่ 2 ห้ามสัมผัสร่างกายได้ขึ้นใจ และถึงแม้กฎจะถูกยกเลิกแล้ว การถูกสัมผัสด้วยความใกล้ชิดเช่นนี้ก็ยังทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ “ซูฉิง ข้า... ข้าจะวัดชีพจรตัวเอง” อวี้เหยียนรีบดึงแขนกลับ แต่ซูฉิงเร็วกว่า“ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าต้องเป็นคนวัดเอง เพื่อความแม่นยำและเป็นกลาง” ซูฉิงกล่าวอย่างจริงจัง เธอจับข้อมือของอวี้เหยียนอย่างรวดเร็วและใช้นิ้วมือของเธอสัมผัสจุดชีพจรของเขาเบาๆ อวี้เหยียนรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างแล่นไปทั่วแขนของเขา เขาพยายามมองไปที่อื่นเพื่อไม่ให้ความรู้สึกส่วนตัวมาทำลายการทดลอง“ชีพจรท่าน... เต้นเร็วกว่าปกติเล็กน้อยนะเจ้าคะท่านหมอ นี่อาจจะเป็นผลจากความตื่นเต้นหรือความอย

  • ตำรับรักโอสถ ท่านหมอเคร่งครัดกับฮูหยินปากไว   บทที่ 6 พิสูจน์รสชาติ ตอนที่ 2/4

    “ถูกต้องเจ้าค่ะ” ซูฉิงพยักหน้า “แต่มันมีความเสี่ยง ข้ากลัวว่าถ้ายานี้ถูกสกัดอย่างไม่สมบูรณ์ มันอาจจะออกฤทธิ์ผิดพลาดกลายเป็นยาเพิ่มความปรารถนาให้แก่บุรุษเพศแทน”อวี้เหยียนหน้าตึงทันที คำว่า ออกฤทธิ์ผิดพลาด และ เพิ่มความปรารถนา ทำให้เขากลับเข้าสู่โหมดเคร่งครัด “แล้วเจ้ามาหาข้าด้วยเหตุใด เจ้าควรจะไปหาผู้ช่วยหญิงคนอื่นมาทดสอบ”“ท่านหมอ นั่นแหละคือสิ่งที่ข้ามาขอท่านเจ้าค่ะ” ซูฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ซูฉิงเดินเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานอีกก้าว เธอยื่นถ้วยยาอีกใบที่เตรียมไว้ให้เขา “ท่านหมอเจ้าคะ ไม่มีใครในโลกนี้ที่เหมาะสมกับการทดสอบยานี้เท่าท่านอีกแล้ว”อวี้เหยียนถึงกับตัวแข็งทื่อ เขาไม่เข้าใจความหมายของซูฉิง “อะไรนะ เจ้าหมายความว่าอย่างไร”“ข้าหมายความว่า... ท่านหมอเป็นบุรุษที่เคร่งครัดและมีการควบคุมตนเองสูงที่สุดในใต้หล้า” ซูฉิงอธิบายอย่างจริงจัง “ถ้าหากยานี้ออกฤทธิ์ผิดพลาดกลายเป็นยาเพิ่มความปรารถนาจริงๆ... ท่านหมอจะเป็นคนเดียวที่สามารถยับยั้งผลกระทบของมันได้”ซูฉิงส่งถ้วยยาให้เขาพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความท้าทาย “ดังนั้น ข้าจึงขอเชิญท่านหมอ... ร่วมพิสูจน์รสชาติครั้ง

  • ตำรับรักโอสถ ท่านหมอเคร่งครัดกับฮูหยินปากไว   บทที่ 6 พิสูจน์รสชาติ ตอนที่ 1/4

    หลังจากที่ท่านหมอเทวดาอวี้เหยียนยอมจำนนต่อความสามารถของซูฉิงและตัดสินใจเข้าร่วมแผนการบำบัดด้วยการดูแลใกล้ชิดที่ซูฉิงเสนอ โรงหมอบำรุงกายใจก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง ซูฉิงไม่ได้ละเมิดกฎเหล็กใดๆ อีก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอวี้เหยียนกลับพัฒนาไปในทิศทางที่โรแมนติกแบบลับๆแต่ซูฉิงก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถปล่อยปละละเลยโรคปากไวใจทะลึ่งของตัวเองได้ เธอต้องการให้ตัวเองหายขาดจริงๆ ไม่ใช่แค่ควบคุมอาการได้ชั่วคราวจากการที่ใจเต้นแรงเพราะท่านหมอ ดังนั้นภารกิจเร่งด่วนที่สุดของซูฉิงในวันนี้คือการทดสอบประสิทธิภาพของหญ้าสงบจิตที่เธอปลูกในแปลงข้างห้องทำงานของพระเอก“ศิษย์น้องเถียนเถียน” ซูฉิงกล่าวขณะกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ในโรงยา “วันนี้เราจะมาทำการสกัดสมุนไพรพิเศษที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนสูงสุด”เถียนเถียนตาเป็นประกาย เธอเชื่อว่าการสกัดนี้คือพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ทางการแพทย์ “เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ซูฉิง ท่านกำลังจะสกัดความรู้บริสุทธิ์จากพืชออกมาใช่หรือไม่เจ้าคะ”“ถูกต้องที่สุดศิษย์น้อง” ซูฉิงยิ้มแห้งๆ ถ้าเจ้าจะตีความให้สูงส่งขนาดนั้นก็เอาที่สบายใจเลย “หญ้าสงบจิตนี้มันซับซ้อนมาก เราต้องสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภา

  • ตำรับรักโอสถ ท่านหมอเคร่งครัดกับฮูหยินปากไว   บทที่ 5 ป้ายประกาศจับคนบ้าบิ่น ตอนที่ 4/4

    “ท่านนายหลี่เจ้าคะ ท่านควรจะหาเวลาปลดปล่อยความรู้สึกออกมาให้หมดเปลือก อย่ามัวแต่เก็บกดความปรารถนาร้อนรุ่มไว้ในใจ การได้แสดงความรู้สึกออกมาอย่างเต็มที่ จะทำให้แก่นกลางของชีวิตท่านแข็งแกร่งและมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”คำพูดของซูฉิงที่เต็มไปด้วย ความปรารถนา ร้อนรุ่ม เก็บกด ปลดปล่อย และ แก่นกลางของชีวิต มันช่างยั่วยุและตรงข้ามกับความเชื่อของคุณนายหลี่อย่างรุนแรง คุณนายหลี่เริ่มหายใจหอบถี่ ใบหน้าของนางเปลี่ยนจากสีขาวซีดเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ ความอับอาย และความสับสน นางพยายามจะตำหนิซูฉิง พยายามจะประณามคำพูดที่ไม่เหมาะสมแต่แทนที่คำตำหนิจะออกมาจากปาก... สิ่งที่ออกมาคือเสียงหัวเราะที่รุนแรงและควบคุมไม่ได้ “ฮึ ฮึ ฮ่าๆๆๆๆๆ” คุณนายหลี่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวกับคนเสียสติ นางหัวเราะจนตัวโยน น้ำตาไหลอาบแก้ม นางหัวเราะให้กับความไร้ยางอายของซูฉิง และหัวเราะให้กับความตลกของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเสียงหัวเราะสงบลง คุณนายหลี่เช็ดน้ำตา ใบหน้าของนางดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเครียดและความหวาดระแวงหายไปหมดสิ้น “ข้า... ข้ารู้สึกโล่งอย่างน่าประหลาด ข้า... ข้าไม่เคยหัวเราะได้มากถึงเพียงนี้ม

  • ตำรับรักโอสถ ท่านหมอเคร่งครัดกับฮูหยินปากไว   บทที่ 5 ป้ายประกาศจับคนบ้าบิ่น ตอนที่ 3/4

    “ถูกต้องเจ้าค่ะ คำพูดที่ชวนอับอาย นี่แหละคือยา เมื่อคนไข้มีความเครียดสูง พวกเขาจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากเกินไป ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและรู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา” ซูฉิงจ้องมองอวี้เหยียนอย่างจริงจัง “การที่ข้าพูดจาช็อกบำบัดใส่พวกเขา หรือพูดถึงเรื่องที่พวกเขาเก็บกดเอาไว้ เช่นความปรารถนาหรือความสุขทางโลก มันทำให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่รุนแรง”“ปฏิกิริยาทางอารมณ์อันใด พวกเขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งต่างหาก”“นั่นแหละคือการรักษาเจ้าค่ะท่านหมอ การหัวเราะอย่างรุนแรง หรือการรู้สึกช็อกทางอารมณ์ จะไปกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินในสมองอย่างมหาศาล สารเอ็นดอร์ฟินนี้คือยาแก้ปวดและสารแห่งความสุขที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเอง มันช่วยลดระดับคอร์ติซอลและทำให้คนไข้รู้สึกโล่งทันที”อวี้เหยียนนิ่งเงียบไปทันที เขาไม่เคยได้ยินเรื่อง คอร์ติซอล หรือ เอ็นดอร์ฟิน มาก่อน แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าผลลัพธ์ของการรักษาซูฉิงนั้นแม่นยำตรงตามที่เธออธิบาย คนไข้ทุกคนที่ได้รับการรักษาด้วยวาจาของเธอ ต่างรู้สึกโล่งและมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างประหลาด ความรู้ของนาง... มันช่างถึงแก่นแท้ของชีวิตจริงๆ แม้วิธีการนำเสนอจะไร้ศีลธรรมเพียงใดก็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status