Home / รักโบราณ / ตื๊อรักวาณิช / สตรีมีครรภ์ (?) 1

Share

สตรีมีครรภ์ (?) 1

Author: lianlian
last update Huling Na-update: 2025-05-24 07:24:33

ยามไฮ่[1] แล้ว ท้องถนนเงียบสงัด ทางเดินว่างเปล่าไร้เงาผู้สัญจร ชาวบ้านร้านตลาดปิดร้านกันเงียบเชียบ มีเพียงแสงไฟจากโคมสีแดงที่แขวนไว้หน้าร้านส่องให้แสงสว่าง

ทว่า ท่ามกลางความเงียบงันนั้น กลับมีเสียงเอะอะดังมาจากร้านยาของหมอหวงที่อยู่สุดปลายถนนใหญ่ 

"ท่านหมอ! ได้โปรดเถอะ!! คนของข้าจะไม่รอดแล้ว!! ท่านหมอ!!" 

ร่างเปียกโชกของเฉี่ยวเหมยยืนตากฝนที่กำลังโปรยปรายลงมาไม่หยุด มือยังคบทุบอยู่ที่ประตูร้านหมออย่างไม่ยอมแพ้

"ข้าอยากไปอยู่หรอกนะ แต่ว่า..." หมอชราเอ่ยเสียงสั่น กิตติศัพท์ความน่าสะพรึงของจวนผีสิงนั่นดังกระฉ่อน ถ้าเกิดไปเจอผีสาวในจวนนั้นล่ะก็ หัวใจเขาคงได้หัวใจหยุดเต้นแน่นอน

เฉี่ยวเหมยคุกเข่าลงอ้อนวอน มือก็ทุบประตู้ไม้ที่กั้นเขากับท่านหมอหวงไม่หยุด

"ท่านหมอ ได้โปรด ท่านจะเรียกค่ารักษาเท่าใดก็ได้ ข้ามีเงินนะท่านหมอ!"

หมอหวงชะโงกหน้าผ่านซี่ลูกกรงไม้ เมื่อเห็นสารรูปเฉี่ยวเหมยก็สั่นหัว...ไหนว่ามีเงิน ร่มสักคัน ผ้าคลุมสักผืนก็ไม่มี...

"กลับไปเถอะ พ่อหนุ่ม ข้าไปไม่ได้จริงๆ"

"ข้ากราบล่ะท่านหมอ ท่านช่วยคิดดูอีกทีเถอะนะ" ชายหนุ่มยอมละทิ้งศักดิ์ศรี ถึงขนาดยอมกราบกราน โขกศีรษะให้ท่านหมอ แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบกริบ จนสุดท้ายเฉี่ยวเหมยก็หมดความอดทน

เอาวะ...

"ท่านหมอ ข้าขอโทษที่โกหกท่าน ได้โปรดเมตตาช่วยเหลือฮูหยินของข้าด้วยเถอะ!

'ขออภัยด้วยนะขอรับ นายท่าน เอาไว้ท่านหายดี จะลงโทษข้าเยี่ยงไรก็สุดแต่ใจท่านเถอะ' เฉี่ยวเหมยโอดครวญอยู่ในใจ ก่อนเอ่ยต่อ "ฮูหยินข้าถูกคนชั่วทำร้าย ทำให้โดนพิษบาดเจ็บสาหัส ถ้าท่านไม่รักษานางต้องตายแน่นอน"

ขอล่ะ...ขอให้สำเร็จเถอะ ถ้ายังไม่สำเร็จอีก ข้าจะอ้างว่าท่านมีเด็กอยู่ในท้องแล้วนะ!

"..." ไม่มีเสียงตอบรับจากท่านหมอตามคาด...เอาวะ เวลาไม่คอยท่า...

"ฮ...ฮูหยินข้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ถ้าเกิดรักษาไม่ทันการณ์ อาจกลายเป็นหนึ่งศพสองชีวิตนะขอรับ" ว่าไปก็ทำเสียงคร่ำครวญอย่างน่าสงสารไป

ท่านหมอหวงเริ่มทำสีหน้าอ่านยาก ลำบากใจเสียเหลือเกิน ทันใดก็มีเสียงหวานสดใสดังแทรกขึ้นมา

"ท่านหมอหวงจะใจร้ายใจดำถึงขนาดไหนก็ไม่น่าดูดายหญิงตั้งครรภ์ที่ถูกพิษเช่นนี้ได้หรือเจ้าคะ?"

"ถ้าเจ้ารู้ว่าข้าต้องไปรักษานางที่ไหน เจ้าจะไม่พูดแบบนี้แน่ นังหนู"

"จะเป็นสถานที่ไหนมันสำคัญด้วยหรือท่านหมอ" หมิงเสวี่ยบุ้ยปาก ร้านยาร้านนี้อยู่ระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยมของนางพอดี เมื่อครู่ได้เห็นท่าทางอ้อนวอนของชายหนุ่มก็อดทอดถอนใจ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือไม่ได้ ยิ่งพอได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงมีครรภ์ ไม่ว่าต้องทำเช่นไร นางก็จะช่วยให้ถึงที่สุด

"คนไข้กำลังจะตาย ผู้เป็นหมอยังเกี่ยงงอนสถานที่รักษาได้อีกหรือ?"

"แต่ที่นั่นคือจวนผีสิงที่เขาร่ำลือกันนะ!" หมอชราเอ่ย "ขนาดกลางวันแสกๆยังไม่มีใครกล้าเดินผ่าน แล้วให้ไปกลางคืนเช่นนี้"

หมิงเสวี่ยหยุดคิดไปหนึ่งอึดใจ

"เจ้าน่ะ" นางเรียกเฉี่ยวเหมย "อยู่บ้านร้างนั่นใช่ไหม"

เฉี่ยวเหมยกลอกตาไปมาแล้วพยักหน้า

"ที่นั่นมีผีรึ?"

"ไม่มี"

"นั่นปะไร โลกนี้มีผีที่ไหนกัน" หมิงเสวี่ยตำหนิท่านหมอ "ท่านเองก็อย่าเอาแต่กลัวเลยเจ้าค่ะ ท่านรีบไปเถอะ ชักช้าจะไม่ทันการณ์

"นังหนูนี่ปากกล้านัก ถ้าไม่กลัวก็ไปด้วยกันซะเลยสิ!" หมอหวงกลับขึ้นเสียงใส่

"ขออภัยด้วยนะเจ้าคะ แต่ข้าก็ต้องรีบกลับเช่นกัน" นางยิ้มเมื่อนึกถึงหงเช่อที่รอนางอยู่ที่โรงเตี๊ยม "ข้าต้องขอตัวก่อน"

"เหอะ ทำเป็นพูดดี..." หมอชราแค่นเสียงออกมาราวกับฝากไปกับลม

หมิงเสวี่ยชะงักเท้า เริ่มมีโทสะที่หมอคนนี้เล่นตัวนัก

"ท่านว่าอะไรนะ!" นางหันไปยืนเท้าเอวจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาเริ่มไม่เป็นมิตร

"ทำเป็นพูดดี เจ้าเองก็กลัวใช่ไหมเล่า?

"ข้าเนี่ยนะกลัว ข้ายังมีพ่อมีพี่ชายต้องดูแลอยู่ที่บ้าน ไม่อย่างนั้นมีหรือจะไม่ไปด้วย ว่าแต่ท่านเถอะ เห็นคนลำบากยังไม่ช่วย แต่เอ..ข้าก็ลืมไปว่า หมอคิดคดอย่างท่าน อย่างไรก็ไม่มีดีอยู่แล้ว!" นางหันไปทางเฉี่ยวเหมย "พี่ชาย ท่านไปหาหมอคนอื่นเถอะ หมอคนนี้ขี้โกง เลี้ยงไข้ตลอด ชอบลดปริมาณยาสมุนไพรที่ใส่ คนป่วยจะได้หายช้า มาหาเขาได้เรื่อยๆ!"

"นะ...นังหนูนี่ พูดอะไรน่ะ!!? ข้าเคยทำแบบนั้นไหนกัน!?"

[1] 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 6

    "นี่ๆ เหอหลาง มาดูชุดของเด็กๆ กัน น่ารักมากเลย" หมิงเสวี่ยชวนคุยเบี่ยงประเด็น "เรียกซือเสียนมาด้วย จะได้ให้ลองชุดพร้อมกับเซียนเซียน"สามีของนางจึงจำต้องพับความคิดนั้นไปก่อน และให้สาวใช้ไปตามซือเสียนมาเพื่อลองชุด"เสวี่ยเอ๋อร์...""เจ้าคะ?" นางหันไปยิ้มสดใสให้เขา"เจ้าตื่นเต้นหรือไม่?""นิดหน่อยเจ้าค่ะ" หญิงสาวว่าพลางวางมือไว้ที่หว่างอกตนเอง"แต่ข้าตื่นเต้นมาก..."หมิงเสวี่ยหัวเราะออกมา เจ้าบ่าวของนางน่ารักเหลือเกิน นางอ้าแขนออกและกอดรอบเอวเขา "ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ มีข้าอยู่ด้วย ไม่ต้องตื่นเต้นนะ" นางกอดเขาแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงคลายออกแต่ยังไม่ทันได้คลายเขาก็ดึงนางกลับไปกอดอีก "กอดอีกหน่อยสิ ข้าชอบ...""เดี๋ยวเสื้อยับหมดเจ้าค่ะ""น่านะ เสวี่ยเอ๋อร์คนดี"ฮูหยินน้อยอมยิ้มและกอดกระชับ จิ้งจอกหน้าตายผู้นี้บทจะอ้อนนางก็อ้อนเสียราวกับเป็นเด็กเล็กๆ เลยทีเดียว"ข้ากอดด้วยๆ!" ซือเซียนน้อยวิ่งไปรอบๆ และมุดเข้ามาแทรกตรงกลาง แขนเล็กนั้นชูขึ้นทั้งสองข้างขอให้อุ้ม"ได้สิ" ไป๋จิ้งเหอยิ้มก่อนอุ้มลูกสาวขึ้นมาแล้วหมิงเสวี่ยก็กอดสองพ่อลูกพร้อมกัน"ท่านพ่อ ท่านแม่...!" ซือเสียนที่สาวใช้เพิ่งพาเข้ามาวิ่งมากอดข

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 5

    หมิงเสวี่ยกลับยืนเท้าสะเอว และถลึงตามองสามี คนผู้นี้ร้ายกาจนัก! แล้วเช่นนี้หยกลายเมฆที่นางรับฝากไว้เมื่อใดจะได้ไปคืนสู่เจ้าของเล่า!นางว่าพลางนึกขึ้นได้ว่าตอนเปลี่ยนชุดเมื่อครู่นางถอดถุงผ้าที่ใส่หยกนั้นไว้ นางรีบค้นร่างตัวเองหามันเอ...ไปไหนนะ"ท่านพ่อเจ้าขา ข้าเจอถุงผ้านี้ล่ะ สวยจังเลย""ไหน" จิ้งเหอยื่นมือหมายจะรับถุงผ้าในมือลูกสาวไปดูลำตัวหมิงเสวี่ยพลันชาวาบ เซียนเซียนเอ๋ย! ลูกสาวคนดี! หาเรื่องให้แม่แล้วอย่างไรเล่า!"นี่ถุงผ้าของท่านแม่นี่นา" เขาบอกพลางเงยหน้ามองหมิงเสวี่ยที่เหงื่อชื้นมือ"ช...ใช่เจ้าค่ะ" หมิงเสวี่ยยิ้มแหย "ขอคืนนะเจ้าคะ"เขามองนาง มองถุงผ้า และยัดมันใส่อกเสื้อ "ข้าเก็บไว้ให้ก่อน เดี๋ยวเจ้าทำตกอีก"ไม่นะ! หมิงเสวี่ยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ไม่เป็นไร ตอนกลางคืนเดี๋ยวค่อยไปล้วงควักเอาคืน! ตอนนี้จะทำเป็นอยากได้หรือรั้นจะเอาคืนไม่ได้อย่างเด็ดขาด หากจิ้งจอกผู้นี้เห็นนางหวงมันเป็นพิเศษต้องจับได้แน่ๆ"ได้เจ้าค่ะ" นางกลับไปยิ้มแย้มต่อ "มาเจ้าค่ะ ได้เวลาท่านลองชุดแล้วเช่นกัน""ท่านพ่อเจ้าขา ขอถุงผ้าให้ข้าเล่นหน่อยนะเจ้าคะ" ซือเซียนตัวน้อยอ้อนวอน เกาะแขนบิดาไม่ปล่อย"มันเป็

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 4

    "ท่าน...แกล้งข้าอีกแล้ว" นางว่าทั้งๆ ที่หอบหายใจ ตาหรี่ปรือแทบจะลืมไม่ขึ้น เขายิ้มน้อยๆ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ..ให้ตายสิ นางเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของเขานัก นอกจากเขาจะไม่ตอบ ยังถอนสิ่งนั้นออกจากนาง หมิงเสวี่ยเอามือปิดหน้าราวกับรู้ชะตากรรมของตนเอง ตั้งแต่เขาอาการดีขึ้น ก็มักจะเล่นงานนางบนเตียงเสียจนนางแทบลุกไม่ขึ้นทุกครา คราวนี้ก็คงเป็นเช่นนั้น...และจริงอย่างที่นางคิด มือแกร่งจับนางพลิกตัวคว่ำหน้าแนบกับฟูกนอน ใบหน้าหวานสะบัดเงยเมื่อเขากดกายลงมาอีกครั้ง เสียงร้องครางกระเส่าไม่หยุดปากเพื่อบรรเทาความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้ มือเล็กจิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนแทบแหลกแรกเริ่มนางนั้นคึกคักยิ่ง แต่หลังจากถึงฝั่งฝันไปถึงสองรอบนางก็ชักจะหมดแรง ยิ่งตอนนี้ถูกเขาจับคว่ำหน้า นางยิ่งมิอาจขัดขืน"เหอ...เหอหลาง" หมิงเสวี่ยเสียงแผ่ว นางใกล้จะหมดสติแล้วนะแต่ถึงกระนั้น การกระทำของเขาก็ยังคงส่งนางขึ้นสู่จุดสูงสุดได้อีกบางครานางก็เกลียดตนเอง เหนื่อยแทบขาดใจ ก็ยังเสพสุขไม่หยุด นางเจียนจะคลั่งเมื่อเขาขยับตัวรุนแรงขึ้น ทั้งยังโน้มกายลงบีบเคล้นทรวงอกอิ่ม และยอดอกของนางอีก"หมดแรงแล้วรึ?"หมิงเสวี่ยเงยหน้ากัดฟันกรอด ยัง

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 3

    "ตรงไหนดีนะ...?" นางใช้ศอกดันตัวขึ้นเข้าหาเขาเล็กน้อยริมฝีปากเล็กทำท่างับเบาๆ ที่ริมฝีปากเขาราวกับแกล้งหยอก "ตรงนี้ก็ดี..."เขายังคงนิ่ง ปล่อยให้นางชิมเขาต่อไป"ตรงนี้ก็ดี" นางจูบที่แก้มเขา ก่อนงับที่ซอกคอเขาเบาๆ"แมวน้อยช่างเลือกกินยิ่ง..." เขาพูดขึ้นและใช้มือผลักนางนอนลงอย่างทนไม่ไหว "แต่จิ้งจอกมันตะกละตะกลาม จะกินแมวน้อยตัวนี้มิให้เหลือแม้แต่เส้นขนทีเดียว"ผู้เป็นฮูหยินกลับไม่มีท่าทียี่หระ ทั้งกลับเป็นฝ่ายยกวงแขนคล้องคอเขา กดศีรษะเขาลงมาให้นางได้ชมชิมริมฝีปากหวานฉ่ำ"ท่านก็กินข้าหมดทั้งตัวแล้วนี่ เหอหลางของข้า" นางเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อริมฝีปากของทั้งสองผละจากกัน"กินแล้วก็กินอีก ข้ายังกินไม่หนำใจ..." ว่าพลางเริ่มจุมพิตย้ำกับริมฝีปากนางต่อ"อืม...เช่นนั้นข้าจะให้ท่านกินข้าไปชั่วชีวิต" มือซนเริ่มสอดยังสาบเสื้อแล้วลูบไล้แผ่นอกแกร่งของเขา "แล้วสตรีหน้าไหนก็อย่าหวังได้กินท่านด้วย"มือน้อยที่หลายปีก่อนเคยหยาบกระด้าง ทว่าตั้งแต่มาอยู่กับเขาก็ไม่เคยได้จับงานหนักจนกลายเป็นมือน้อยที่นุ่มเนียน ถูกนางลากไล้จนแตะลงที่แผลเป็นอันเป็นรอยทางยาวจากกลางอกไปจนถึงไหล่ขวาของเขา บาดแผลที่ฉู่หลานเทียนฝากไว้

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 2

    "ที่นี่อาจจะดูใหญ่โต ผู้คนมากมาย แต่ก่อนหน้านี้ข้าก็เหงามากเชียวล่ะ...""ตอนนี้ไม่เหงาแล้วนะเจ้าคะ" หมิงเสวี่ยกอดแขนสามีไว้แน่น แล้วอิงแก้มอุ่นกับแขนเขา "เพราะข้ากับเด็กๆ จะคอยป่วนท่านทุกวันเลย"ชายหนุ่มอมยิ้ม เพราะมีนางและลูกๆ ชีวิตเขาจึงมีความสุขมากจริงๆ "ข้าชินกับความซุกซนของเจ้าแม่ลูกเสียแล้วล่ะ"ความสดใสของหมิงเสวี่ย บางทีก็ทำให้เขารู้สึกคล้ายกับว่านางเป็นลูกคนโตที่เอาแต่ใจยิ่ง และมักจะเป็นหัวโจกนำลูกๆ ของเขาและเฉี่ยวเหมยไปทดลองเล่นอะไรแปลกๆ เยอะแยะไปหมด วันทั้งวันมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ทำให้ชีวิตเขาไม่เคยขาดสีสันไปเลยแม้แต่วันเดียวเขาพานางเดินเลี้ยวไปมา จนกระทั่งมาหยุดที่เรือน "อิงฮวา" (ดอกซากุระ) "นี่คือ...?""ห้องของเรา..." เขาเปิดประตูพานางเข้าไปชมด้านใน หมิงเสวี่ยถึงกับอ้าปากค้าง ภายในห้องตกแต่งอย่างสวยสดงดงามและหรูหรา เมื่อเทียบกับจวนที่ซีหนิงแล้ว ที่นี่ดีงามกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า"อย่าขโมยอะไรล่ะ หากอยากได้ก็ขอข้าดีๆ เข้าใจหรือไม่?"หมิงเสวี่ยย่นจมูกใส่เขา "ขโมยไปทำไมกัน ข้าขโมยหัวใจท่านอย่างเดียว ของทุกอย่างนี่ก็กลายเป็นของข้าแล้ว ง่ายดายยิ่ง""ร้ายนักนะ นางแมวขโมย

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 1

    สามปีให้หลังจากนั้น...เย็นวันนี้เมืองฉางอันครึกครื้นยิ่ง จากที่เป็นเมืองหลวงที่ครึกครื้นอยู่แล้ว วันนี้ก็มีเรื่องให้ชาวบ้านได้พูดคุยกันเช่นเคยขบวนรถม้าหรูหราบ่งบอกฐานะร่ำรวยและทรัพย์ศฤงคารอันมั่งคั่งค่อยๆ เคลื่อนผ่านประตูเมือง มุ่งหน้าสู่เขตบ้านพักของผู้มีอันจะกินทั้งหลาย และจอดลงที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลไป๋"ยินดีต้อนรับกลับขอรับ นายท่าน ฮูหยินน้อย และคุณหนูทั้งสอง" พ่อบ้านเฮยที่อยู่เบื้องหน้าขบวนต้อนรับประสานมือคารวะผู้เป็นนาย ขณะที่หมิงเสวี่ยก้าวลงจากรถม้าด้วยอาการตะลึงพรึงเพริดเจ้าจิ้งจอกนี่ร่ำรวยเพียงนี้เชียวรึ?!บ้านช่องใหญ่โตโอ่อ่า ใหญ่กว่าจวนผู้ว่าของซีหนิงที่ว่าใหญ่ที่สุดในเมืองซีหนิงอีกเท่าตัว! ไหนจะบ่าวไพร่คนรับใช้ที่ตั้งแถวรอรับพวกนางอยู่นี่อีกเล่า! ถ้ารู้ว่ารวยขนาดนี้ คงยอมพลีกายแต่งงานด้วยไปนานแล้ว!!"ท่านแม่ๆ นี่บ้านของพวกเราหรือเจ้าคะ?" ซือเซียนในวัยสามขวบ เกาะชายกระโปรงมารดาเอ่ยถามหมิงเสวี่ยหันไปดึงแขนเสื้อไป๋จิ้งเหอ "นี่ เราไม่ได้มาผิดบ้านใช่ไหม?""ไม่ผิดหรอก นี่ล่ะ บ้านของเรา" ไป๋จิ้งเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเมื่อเห็นท่าทีตกตะลึงพรึงเพริดนั้น"ใหญ่กว่าบ้านที่ซีหนิงอีก!"

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status