LOGINวันต่อมา...
“ฮาญามาแล้วค่ะ” เสียงของไอริสร้องเรียกเพื่อนสาวดังขึ้นมาแต่ไกล ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปจูงมือเพื่อนสาวให้เดินตามเธอมาในทันที
“มีอะไรเหรอ?” ฮาญาเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าของเธอออกมาด้วยความสงสัย แต่เธอก็ยังคงเดินตามคนตรงหน้าไปแต่โดยดี
“พี่เนเน่อยากคุณกับฮาญาน่ะ”
“คุยกับเรา?” ฮาญาชี้มาที่หน้าของตัวเองก่อนจะพึมพำออกมาด้วยความสงสัย
“คุยอะไรอะ?”
“เดี๋ยวก็รู้”
“ฮาญามาแล้วค่ะ” ฮาโมนี่เอ่ยบอกกับรุ่นพี่ของเธอออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่เธอจะขยับเข้าไปยืนข้างกายเพื่อนสาว
“มีอะไรรึเปล่าคะ?” ฮาญาเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับมองไปยังรุ่นพี่อย่างรอคำตอบ ก่อนที่เธอจะมองออกไปทางด้านหลังของรุ่นพี่สาวสวยตรงหน้า เธอเห็นร่างสูงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีกำลังมองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว ‘พี่ไต้ฝุ่น’
“ไม่อยากเป็นดรัมเมเยอร์เหรอคะน้องฮาญา” เนเน่เอ่ยถามรุ่นน้องออกมาเสียงใส พร้อมกับแสร้งยกยิ้มหวานออกมาให้กับเด็กสาวตรงหน้า
“...”
“หากน้องต้องการพวกเรายินดีตอนรับนะคะ...”
“ขอบคุณมากนะคะ แต่คงไม่ดีกว่าค่ะ...ฮาญาไม่อยากเป็น”
“แต่เพื่อนๆ ของน้องก็เป็นกันหมดเลยนะ จะไม่เปลี่ยนใจจริงๆ เหรอคะ?”
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ชวน แต่ฮาญาไม่ได้อยากเป็นดรัมเมเยอร์จริงๆ ค่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วฮาญาขอตัวก่อนนะคะ” ฮาญาเอ่ยบอกกับกลุ่มรุ่นพี่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ริมฝีปากบางค่อยๆ ยกยิ้มขึ้นมา ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากตรงนั้นในทันที
“.../...”
“พี่ไต้ฝุ่น”
“มีอะไรรึเปล่าคะ?” ไต้ฝุ่นเอ่ยถามน้องสาวออกมาด้วยความเป็นห่วง มือหนาลูบลงที่หัวของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“...”
“รุ่นพี่เขามาชวนฮาญาไปเป็นดรัมเมเยอร์น่ะค่ะ” เด็กสาวเอ่ยบอกกับพี่ชายของเธอกลับไปเสียงอ่อน
“น้องไม่อยากเป็นใช่ไหมคะ ถึงได้เดินออกมาแบบนี้” ไต้ฝุ่นเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาอย่างรู้ทัน
“ใช่ค่ะ น้องไม่อยากเป็น ร้อนก็ร้อน แถมยังต้องไปจำท่าอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ...”
“...”
“พี่ฝุ่นก็รู้ว่าน้องหัวทึบจะตาย จำอะไรพวกนี้ไม่ได้หรอกค่ะ” ฮาญายกยิ้มออกมา ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับคนตรงหน้ากลับไปเสียงหงอย ตากลมโตกระพริบถี่รั่วอย่างต้องการความเห็นใจจากร่างสูงตรงหน้า
“หึหึ น้องสาวของพี่ไม่ได้หัวทึบสักหน่อยนี่คะ เขาเรียกว่าผู้มีปัญหาทางด้านความจำ”
“แรงมากค่า” ฮาญาเบะปากใส่พี่ชายของตัวเอง ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับเขากลับไปอย่างงอนๆ
“พี่แกล้งหยอกเล่นเฉยๆ ค่ะ ถ้าน้องหัวทึบจริงๆ คงไม่สามารถจำสูตรอาหาร สูตรขนมที่คุณแม่สอนได้หรอก...พี่พูดถูกไหม?” ไต้ฝุ่นเอ่ยบอกกับน้องสาวเสียงอ่อน พร้อมบีบแก้มนุ่มนิ่มของคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“ถูกต้องที่สุดเลยค่ะ”
“หึหึ”
“เราไปกันเถอะใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้องค่ะ” ไต้ฝุ่นเอ่ยบอกกับเด็กสาวตรงหน้าเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มหวานไปให้กับเธอ
“ก็ได้ค่ะ วันนี้น้องยอมหนึ่งวันค่ะ” ฮาญายอมทำตามที่พี่ชายของเธอบอกอย่างว่าง่าย ฮาญาควงแขนพี่ชายเอาไว้แน่นก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินไปยังห้องเรียนของฮาญา
“ถึงแล้วค่ะ”
“พี่ฝุ่นรีบไปเรียนได้แล้วค่ะ”
“รับทราบค่ะ” ไต้ฝุ่นยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะทำตามที่น้องสาวของเขาบอกอย่างว่าง่าย
“น้องฮาญา...”
ไต้ฝุ่นเดินกลับมายังห้องเรียนของตัวเอง ก่อนที่เขาจะชะงักไปทันทีที่ได้ยินชื่อของน้องสาวของเขาดังขึ้นมาจากภายในห้องเรียน ชายหนุ่มหยุดนิ่งพร้อมกับมองออกไปตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย
“มันคงไม่อยากเป็นดรัมจริงๆ ล่ะมั้ง”
“มีใครบ้างไม่อยากเป็นดรัม มันคงคิดว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนูแล้วจะหยิ่งใส่ใครก็ได้สินะ”
“หน้าตาก็งั้นๆ ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องสาวของไต้ฝุ่น กูไม่มีทางรับเข้าทีมดรัมของพวกเราอย่างแน่นอน”
“แล้วเพื่อนของมันล่ะ มึงจะรับมันเข้าทีมไหม?”
“ไม่! กูอยากให้พวกมันทะเลาะกันเอง” เนเน่เอ่ยบอกกับเพื่อนสาวของเธอเสียงแข็ง พร้อมกับมุมปากบางแสยะยิ้มร้ายออกมา
“ยัยคุณหนูจอมหยิ่งนั่นมันจะได้ไม่เหลือเพื่อนเลยสักคน”
ปัง!!
เสียงมือบางทุบลงกับโต๊ะเรียนอย่างแรง ก่อนที่ร่างบางของเจ้าของเสียงจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“หึหึ” เสียงหัวเราะดังออกมาจากลำคอแกร่งของชายหนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากลุ่มของเนเน่ ทุกคนต่างพากันมองมาที่ไต้ฝุ่นเป็นตาเดียวด้วยความตกใจ
“ไต้ฝุ่น / ไต้ฝุ่น”
“คิดว่าเด็กๆ พวกนั้นจะฉลาดน้อยกว่าเธออย่างนั้นเหรอ?”
“อะ เอ่อ...”
“แล้วอีกอย่างนึงนะ...น้องสาวของฉันน่ะไม่ได้หยิ่งเลยสักนิด” ไต้ฝุ่นเอ่ยออกมาเสียงเรียบพร้อมกับจ้องมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย
“ก่อนที่เธอจะว่าใครลองส่องกระจกชะโงกดูตัวเองซะบ้าง”
“ตะ ไต้ฝุ่น”
“อย่างคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกับตัวเอง เพราะมันเป็นความคิดของพวกไม่มีสมอง” ไต้ฝุ่นเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจหญิงสาวตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางสายของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ที่มองมาที่เขาและกลุ่มของเนเน่เป็นตาเดียวโดยพร้อมเพียงกัน
หลายๆ คนเรียนร่วมชั้นมากับไต้ฝุ่นมาหลายปีไม่เคยมีสักครั้งเลยที่ผู้ชายที่มีนิสัยสุขุม และเป็นสุภาพบุรุษอย่างเขาจะเอ่ยปากว่าใคร เขาไม่ใช่คนที่จะแสดงด้านมืดออกมาให้ใครเห็นง่ายๆ ถ้าคนคนนั้นไม่ไปแตะต้องครอบครัวที่เขารักก่อน...
“ไต้ฝุ่นน่ากลัวจังเลยเนอะ”
“นั้นสิ ถ้าเราเป็นเนเน่เราคงไม่กล้ามีหน้าไปเจอใคร”
“มันจะไม่แรงเกินไปเหรอไต้ฝุ่น?” เนเน่เดินเข้ามาหาชายหนุ่มที่โต๊ะเรียนของเขา ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกมาอย่างโกรธจัด
“แล้วที่เธอว่าน้องล่ะมันไม่แรงเกินไปเหรอเนเน่?” ปลาดาวเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของไต้ฝุ่นเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกมาเสียงเรียบอย่างหมดความอดทนไม่ต่างกัน
“แล้วเธอมาเสือกอะไรด้วย”
“ฉันก็ไม่ได้อยากเสือกหรอก...”
“พอได้แล้วทั้งคู่เลย...เชิญแยกย้ายครับ” สายฟ้าที่เห็นสถานการณ์เริ่มไปกันใหญ่แล้วจึงเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างเนเน่กับปลาดาวเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกให้ทั้งสองคนแยกย้ายกันกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง
“ไม่เอาน่าอย่าไปทะเลาะกับคนพวกนี้เลย เธอก็รู้จักนิสัยของคนพวกนี้ดีไม่ใช่รึไง...”
“แต่มันน่า...”
“พอแล้วปลาดาวนั่งลงเถอะ” ไต้ฝุ่นเอ่ยบอกกับเพื่อนสาวเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่เรียบเฉย
“นั่งลงได้แล้ว” สายฟ้าเอ่ยสมทบขึ้น พร้อมกับกดไหลมนของเพื่อนให้นั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง
“ชิ!” ปลาดาวเบาะปากให้กับสายฟ้าเพื่อนรักของตัวเอง ก่อนจะนั่งลงอย่างว่าง่าย
ช่วงบ่ายของวัน...
“ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ?” ฮาญาเอ่ยถามไอริสกับฮาโมนี่เพื่อนรักของเธอออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เด็กสาวจะเดินเข้าไปนั่งลงข้างกายของทั้งสองคน
“เราไม่ได้เป็นดรัมแล้วนะ”
“อ้าว! ทำไมล่ะ? หรือว่าเป็นเพราะ...?”
“ไม่ ไม่ใช่เพราะญ่าหรอกนะ” ไอริสรีบเอ่ยบอกกับเพื่อนสาวของเธอในทันทีพร้อมกับดึงมือบางของฮาญาไปกุมเอาไว้ ก่อนที่ฮาโมนี่จะเอ่ยสมทบขึ้นอีกคน
“เป็นเพราะเราสองคนเต้นไม่ได้เรื่องต่างหาก ฮ่าฮ่าฮ่า”
“นั่นสิท่าเต้นเราตลกชะมัด ฮ่าฮ่าฮ่า”
“โอ้ๆ ไม่เป็นไรนะ ไอกับโมมาอยู่ทีมบริการกับเราก็ได้” ฮาญายกยิ้มออกมา ก่อนที่เธอจะดึงเพื่อนสาวทั้งสองคนของตัวเองเข้ามากอดเอาไว้
“โอ้ยยยยย!! โล่งใจจัง” ไอริสร้องออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนที่เธอจะหยิบนมกล้วยตรงหน้าขึ้นมาดื่มอย่างสบายใจ
“ใช่โล่งใจจริงๆ ถ้าเขาไม่ปฏิเสธเราก่อน โมก็ว่าจะชวนไอลาออกอยู่แล้ว”
“ทำไมล่ะ?” ฮาญาเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่หยิบนมเมล่อนตรงหน้าขึ้นมาเจาะกล่องดื่มด้วยอีกคน
“พอได้อยู่ใกล้แล้ว พวกรุ่นพี่ไม่ได้น่ารักอย่างที่พวกเราเห็นเลยน่ะ” ฮาโมนี่อธิบายถึงสิ่งที่ตัวเองและไอริสได้ไปประสบพบเจอมากับตัวเองขณะที่พวกเธอไปฝึกซ้อมดรัมมาเยอร์
“...”
“โดยเฉพาะเรื่องที่พวกเขาทำกับญ่า...ขอโทษด้วยนะเราไม่คิดว่าพวกเขาจะพูดแบบนั้น เพราะถ้าเรารู้เราคงไม่มีทางพาญ่าไปเจอพวกเขาอย่างแน่นอน”
“ญ่าไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องโทษตัวเองนะ”
“ญ่ารู้ปะว่าพวกเราเครียดมากเลยน่ะ ดีแล้วที่เต้นไม่เป็นสักที ฮ่าฮ่าฮ่า”
“สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม?” ฮาญาเอ่ยถามเพื่อนสาวทั้งสองคนของเธอออกมาเสียงอ่อน
“สบายใจมาก”
“สบายใจสุดๆ ไปเลย”
“พวกเธอสบายใจก็ดีแล้วล่ะ” ริมฝีปากบางของฮาญายกยิ้มหวานออกมาอย่างเอ็นดูเพื่อนๆ ทั้งสองคนของเธอ ก่อนที่ทั้งสามจะดูดนมในกล่องที่ตัวเองกำลังถืออยู่จนหมด
วันงานกีฬาสี“นี่ญ่าเสร็จรึยัง?”“พี่ไต้ฝุ่นกำลังจะลงแข่งบอลรอบชิงชนะเลิศแล้วนะ”ไอริสกับฮาโมนี่รีบเก็บอุปกรณ์เชียร์ในมือของตัวเองลงกล่อง ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งไปหาเพื่อนรักที่กำลังเก็บของเข้าที่อย่างใจเย็นอยู่ไม่ไกลในทันที“จริงด้วย!” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบหยิบของตรงหน้าใส่กล่องพลาสติกอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง“เรานำไปก่อนนะ”ฮาญาวิ่งนำเพื่อนๆ ของเธอไปยังสนามฟุตบอลใหญ่ในทันที ตั้งแต่เริ่มงานเด็กสาวทั้งสามคนแทบจะไม่มีเวลาได้นั่งพักเลย ทีมของพวกเธอต้องคอยซับพอร์ตทุกทีมไม่ว่าใครใช้ให้ไปทำอะไรทั้งสามคนก็น้อมรับและทำตามที่สั่งอย่างว่าง่าย“ฮาญาทางนี้” กำปั้นกวักมือเรียกน้องสาวเสียงดัง ก่อนที่เขาจะหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนเสื่อตรงหน้าออก“น้องนั่งนี่ได้เหรอคะ?” ฮาญาเอ่ยถามพี่ชายออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับมองไปทางซ้ายทีขวาทีก่อนที่เธอจะเห็นว่าไม่มีที่นั่งตรงไหนดีกว่าตรงนี้อีกแล้ว และพื้นที่ส่วนใหญ่รอบสนามฟุตบอลแห่งนี้ก็ถูกจับจองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“ได้สิครับ เสื่อนี่พี่ปูเองกับมือเลยนะ”“ถ้าอย่างนั้นเราทั้งสามคนไม่เกรงใจแล้วนะคะ”“เชิญครับ”
วันต่อมา...“ฮาญามาแล้วค่ะ” เสียงของไอริสร้องเรียกเพื่อนสาวดังขึ้นมาแต่ไกล ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปจูงมือเพื่อนสาวให้เดินตามเธอมาในทันที“มีอะไรเหรอ?” ฮาญาเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าของเธอออกมาด้วยความสงสัย แต่เธอก็ยังคงเดินตามคนตรงหน้าไปแต่โดยดี“พี่เนเน่อยากคุณกับฮาญาน่ะ”“คุยกับเรา?” ฮาญาชี้มาที่หน้าของตัวเองก่อนจะพึมพำออกมาด้วยความสงสัย“คุยอะไรอะ?”“เดี๋ยวก็รู้”“ฮาญามาแล้วค่ะ” ฮาโมนี่เอ่ยบอกกับรุ่นพี่ของเธอออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่เธอจะขยับเข้าไปยืนข้างกายเพื่อนสาว“มีอะไรรึเปล่าคะ?” ฮาญาเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับมองไปยังรุ่นพี่อย่างรอคำตอบ ก่อนที่เธอจะมองออกไปทางด้านหลังของรุ่นพี่สาวสวยตรงหน้า เธอเห็นร่างสูงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีกำลังมองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว ‘พี่ไต้ฝุ่น’“ไม่อยากเป็นดรัมเมเยอร์เหรอคะน้องฮาญา” เนเน่เอ่ยถามรุ่นน้องออกมาเสียงใส พร้อมกับแสร้งยกยิ้มหวานออกมาให้กับเด็กสาวตรงหน้า“...”“หากน้องต้องการพวกเรายินดีตอนรับนะคะ...”“ขอบคุณมากนะคะ แต่คงไม่ดีกว่าค่ะ...ฮาญาไม่อยากเป็น”“แต่เพื่อนๆ ของน้องก็เป็นกันหมดเลยนะ จะไม่เปลี่ยนใจจริงๆ เหรอคะ?”“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่
ณ คฤหาสน์ฮันเตอร์“เด็กๆ กลับมากันแล้วเหรอคะ” ตะวันยกยิ้มหวานออกมาจากห้องครัวด้วยความดีใจ ก่อนที่เธอจะรีบเดินออกมารับลูกๆ ของเธอที่หน้าประตูบ้านบานใหญ่ในทันที“...” คิ้วเรียวของหญิงสาววัย 31 ปีขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยในทันทีที่เธอเห็นใบหน้าสวยหวานที่ถอดแบบมาจากคุณแม่แท้ๆ ของเธอกำลังบึ้งตึง ร่างบางเดินเข้ามาภายในบ้านอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก...“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีครับ / สวัสดีครับ”“มีอะไรกันรึเปล่าคะ?”“ทำไมลูกสาวของคุณแม่หน้าบึ้งตึงแบบนี้ล่ะคะ” ตะวันเอ่ยถามลูกสาวของเธอออกมาด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเธอกับฮันเตอร์ แต่เด็กสาวก็เกิดขึ้นมาจากความรักของฮันนาน้องสาวเพียงคนเดียวของฮันเตอร์กับกวินเพื่อนรักอีกคนของเขา และถึงแม้ว่าทั้งคู่จะจากโลกใบนี้ไปนานมากๆ แล้ว แต่พวกเขาก็ได้ฝากของล้ำค่าไว้ให้ฮันเตอร์กับเธอตะวันได้ดูแลมาจนถึงทุกวันนี้......ของล้ำค่าสิ่งนั้นก็คือ ‘ฮาญา’ เด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าของตะวันในตอนนี้นั่นเอง“พวกพี่ๆ เขามีความลับกับฮาญาค่ะ”“ความลับเหรอคะ?” ตะวันพึมพำออกมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองลูกชายบุญธรรมของเธอทั้งสองคน ก่อนที่มุมปากบางของเธอจะ
“เอาล่ะ...พี่จะไม่พูดให้มากความ น้องคนไหนถนัดกีฬาพี่ขอเชิญทางด้านโน้น ส่วนใครที่ต้องการมาร่วมกับทีมสันทนาการพี่เรียนเชิญด้านหน้าครับ...” ประธานสีประกาศผ่านโทรโข่งเสียงดังลั่นประชุม ก่อนที่นักเรียนแต่ละเกรดจะแยกย้ายกันไปลงชื่อยังกิจกรรมที่ตนเองสนใจ“ฮาญาพวกเราไปลงดรัมเมเยอร์กันดีไหม?” ไอริสเพื่อนสาวของฮาญาเอ่ยขึ้นมาเสียงใส“นั่นสิเราก็อยากไป” ฮาโมนี่เพื่อนรักอีกคนของฮาญาก็เอ่ยสมทบขึ้น ฮาญามองไปยังเพื่อนรักทั้งสองคนก่อนจะยกยิ้มกว้างออกมา“พวกเธอไปสมัครกันเลย เราไม่อยากเป็นดรัมอะ” หญิงสาวเอ่ยบอกกับเพื่อนรักออกไปตามตรง ถึงเธอจะชอบเข้าสังคมมีเพื่อนเยอะแยะมากมาย แต่ที่เธอไม่ชอบที่สุดเลยคือการพาตัวเองไปลำบาก..“ถ้าอย่างนั้นเธอจะไปทำฝ่ายไหน?”“ใช่...จำได้ใช่ไหมคุณครูบอกว่าพวกเราทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้”“จำได้ เราจะไปฝ่ายบริการ”“จริงๆ เลยยัยเพื่อนคนนี้” ไอริสโยกหัวเพื่อนสาวไปมาเบาๆ ก่อนที่มือบางของเธอจะบีบแก้มขาวเนียนของฮาญาอย่างหมั่นเขี้ยว“เราไม่แปลกใจ...” ฮาโมนี่พยักหน้าให้เพื่อนสาวก่อนที่เธอจะยกยิ้มหวานออกมาฮาโมนี่กับไอริสเป็นเพื่อนกับฮาญามาเกือบ 5 ปี พวกเธอรู้ดีว่าเพื่อนรักคนนี้เป็น
ASI International School“ถึงโรงเรียนแล้วค่ะ” ตะวันเอ่ยบอกกับลูกๆ ของเธอเสียงหวาน ก่อนที่มือบางจะเอื้อมไปจัดกระโปรงนักเรียนให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของเธออย่างเบามือไม่รู้ว่าลูกๆ บ้านอื่นจะเป็นเหมือนกันไหน แต่ลูกชายในบ้านของตะวันเรียบร้อยกว่าลูกสาวเป็นไหนๆ นั่นก็เป็นเพราะว่า ‘ฮาญา’ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้าง แถมเธอยังมีพี่ชายที่คอยประคบประหงมถึง 2 คน และยังมีน้องชายคนเล็กที่รักและตามใจเธอยิ่งกว่าใครในบ้าน ถึงแม้ว่าฮาญาจะไม่ใช่เด็กที่เรียบร้อยสักเท่าไหร่นัก แต่เธอก็เป็นเด็กสาวที่สดใส ร่าเริงและเป็นที่รักของทุกๆ คนในบ้าน“คุณแม่ขา...”“ขาลูก” ตะวันยกยิ้มออกมาก่อนจะขานรับเสียงเรียกของลูกสาวของเธอกลับไป“คุณแม่ช่วยบอกพี่ไต้ฝุ่นกับพี่ปั้นหน่อยได้ไหมคะ”“หืมมมม ให้คุณแม่บอกกับพี่ๆ เขาว่าอะไรเหรอคะ?”“ห้ามพวกเขาไม่ให้ไปส่งฮาญาที่ห้องค่ะ”คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ก่อนที่เขาจะมองไปยังลูกชายบุญธรรมของเธอทั้งสองคนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยปกติฮาญาติดพี่ๆ ของเธออย่างกับอะไรดี แล้วทำไมอยู่ดีๆ สาวน้อยในวัย 16 ขวบของตะวันถึงได้ผลักไสพี่ชายแบบนี้“ทำไมล่ะคะ พี่ๆ เขาเป็นห่วงถึง







