Share

ตอนที่ 9

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-06-22 21:37:12

เหมันตฤดูปีนี้ช่างหนาวเหน็บจนถึงขั้วหัวใจ คนที่อยู่แดนไกลกำลังเร่งรุดเดินทางมาตามพระราชโองการของเจ้าแผ่นดิน นานมากแล้วที่มิได้พบหน้านาง เพราะต้องฝึกฝนร่างกายอยู่แต่ในค่ายทหาร กว่าที่จะรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น นางก็มิได้อยู่ที่เมืองหลวงอีกต่อไป

เดิมทีองค์จักรพรรดิมิทรงเห็นด้วยกับการจัดการหมั้นหมายในครั้งนี้ เหล่าสาวงามจากจวนสูงศักดิ์ต่างลงนามเพื่อหมายจะเกี่ยวดอง ทว่าเขากลับใช้ข้ออ้างในการปราบโจรทางแดนเหนืออยู่นานหลายปี ยื้ออยู่นานจนอายุย่างสิบเก้าปี

จนกระทั่งเสวียนกุ้ยเฟยต้องออกหน้า พูดเรื่องหมั้นหมายเมื่อครั้งยังเยาว์เอง เนื่องจากหมอหลวงซูเป็นคนช่วยชีวิตเขาและมารดาเอาไว้  หนึ่งคนสองชีวิตจึงรอดมาได้ แม้จะรู้ว่าผิดธรรมเนียม แต่การช่วยชีวิตคนนั้นสำคัญกว่า

ฮ่องเต้จึงคิดจะผูกมัดหมอหลวง ด้วยการเอาเรื่องหมั้นหมายในครั้งนั้นมาเป็นข้ออ้าง เพื่อแลกกับเรื่องที่มิสมควรนี้ถูกแพร่งพรายออกไป ครั้นจะสังหารก็นึกเสียดายความรู้ความสามารถที่หาผู้ใดเทียบมิได้ จึงทำได้เพียงขังเขาเอาไว้ข้างกายในวัง

แต่เพราะฐานะของนางในตอนนี้ เรียกได้ว่าไม่เป็นที่ยอมรับ อย่าว่าแต่ตนที่เป็นถึงองค์ชายแปด ซ้ำยังเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกร กับคุณชายตระกูลอื่น ก็ยังคงต้องตรึกตรองถึงความเหมาะสม

ในเมื่อเสวียนกุ้ยเฟยออกปาก ผู้ที่เป็นบุตรจึงมิได้ทัดทานเรื่องงานหมั้นหมายในครั้งนี้ ซ้ำยังเร่งเดินทางไม่หยุดพัก เพื่อที่จะได้เดินทางกลับมายังเมืองหลวงก่อนกำหนดสักหน่อย มิได้พบหน้านางเป็นเวลานานหลายปี ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่

เด็กน้อยตัวอวบอ้วน หาได้มีเค้าโครงความงามดังเช่นสตรีร่าง  แบบบางไม่ ทว่ากลับชวนมองให้เคลิบเคลิ้ม เสียงใสกังวานในยามที่เอื้อนเอ่ยออกมา เป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมจิตใจที่เศร้าหมอง ทำให้เมฆหมอกที่บดบังนั้นพลันหายไป เหลือเพียงท้องฟ้าที่แจ่มใส

ในจวนราชครูหลี่ ตอนนี้เรียกได้ว่ามีคลื่นลมมรสุมขนาดย่อมเกิดขึ้น ฮูหยินรองมิยินยอมให้นำสินเดิม ซึ่งเป็นของบุตรสาวของนางไปเป็นของบุตรเลี้ยง เรื่องนี้ทำเอาฮูหยินผู้เฒ่าโมโหเป็นอย่างมาก

“จางซื่อ เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เจียวเจียวนั้นถือว่าเปรียบเสมือนบุตรสาวของเจ้าผู้หนึ่ง ในเมื่อนางกลับมาแล้ว ซ้ำยังอยู่ในฐานะบุตรสาวคนโตของสกุลหลี่ สมควรแล้วที่จะต้องแต่งออกไปก่อนผู้ใด ส่วนเรื่องสินเดิมนั้น เดิมทีย่อมต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าที่เป็นมารดา เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้สมควรแล้วหรือไม่” ฮูหยินผู้เฒ่ากระทุ้งไม้เท้าคู่กายสุดแรงจนเกิดเสียงดัง ทำเอาทุกคนต่างสะดุ้งตกใจไปตาม ๆ กัน

“สะใภ้มิได้หมายความเช่นนั้น ขอฮูหยินผู้เฒ่าได้โปรดระงับโทสะ เพียงแต่สินเดิมที่จัดเตรียมให้ถิงเอ๋อร์นั้น ทางฝั่งบ้านเดิมของสะใภ้ก็เพิ่มมาให้อยู่ไม่น้อย หากเรื่องนี้ทราบถึงหูบิดามารดา เกรงว่าจะดูเป็นการไม่ให้เกียรติจวนกั๋วกงสักเท่าใดนักเจ้าค่ะ”

จางซื่อลอบมองหน้าแม่สามี เมื่อเห็นว่านางกำลังฟังตนอยู่ จึงรีบพูดโดยไม่หยุดพักหายใจ “เจียวเอ๋อร์นั้นก็เปรียบเสมือนบุตรของข้าผู้หนึ่ง แม้ว่าจะมิได้เป็นคนคลอดนางออกมา ทว่าความรักที่สะใภ้มีต่อบุตรสาวผู้นี้นั้น ลึกซึ้งยิ่งกว่าบุตรในอุทร เดิมทีตั้งใจจัดเตรียมสินเดิมให้เจียวเอ๋อร์ใหม่ เพื่อให้สมฐานะของคุณหนูใหญ่เท่านั้นเจ้าค่ะ” เมื่อเห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่ามิได้แสดงสีหน้าใด ๆ จึงลอบถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

‘คิดจะเอาสมบัติของบ้านเดิมนางอย่างนั้นหรือ ฝันไปเสียเถอะ  เหตุใดมิไปร้องไห้คร่ำครวญขอสินเดิมจากมารดาผู้ล่วงลับเล่า เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของหมอหลวงชื่อดังมิใช่หรือ เหตุใดบุตรสาวถูกเนรเทศไปยังพื้นที่ห่างไกล ซ้ำยังตายอย่างน่าอนาถ แต่คนบ้านนั้นกลับเงียบอย่างน่าใจหาย ไม่เท่ากับว่าบ้านเดิมตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้วหรือ โชคดีที่นางเข้ามาเมื่อตอนที่สามีรุ่งเรืองแล้ว มิเช่นนั้นใครจะกล้ากัดก้อนเกลือกินตามบัณฑิตยากจนผู้หนึ่งไปได้เล่า’

จางซื่อได้แต่คิดคนเดียวในใจ จวนราชครูแห่งนี้เคร่งครัดในกฎระเบียบ ทว่าขาดการขัดเกลาขนบธรรมเนียมของชนชั้นสูง

เนื่องจากเป็นตระกูลยากจน ที่ถีบตัวเองขึ้นมาจนถึงที่สูงได้ พวกเขาจึงให้เกียรตินางที่เป็นบุตรสาวของรองเสนาบดี แม้จะเป็นเพียงบุตรของอนุ แต่ก็ให้อำนาจในการดูแลจวนแห่งนี้ ถึงอย่างไรหากเป็นเรื่องใหญ่ ยังคงต้องผ่านความเห็นชอบจากฮูหยินผู้เฒ่าเช่นเคย

“ได้อย่างไรกันล่ะเจ้าคะ ถิงเอ๋อร์มิได้แต่งเข้าจวนองค์ชายแปดแล้ว สะใภ้เห็นสมควรว่าต้องลดสินเดิมของนางลงมาสักหน่อย ถึงอย่างไรก็ยังมีน้อง ๆ ที่จะต้องออกเรือน และแต่งสะใภ้เข้ามาในภายหน้าอีก เจ้าสาม เจ้าสี่ยังต้องเจรจาพูดคุยเรื่องหมั้นหมายให้เป็นเรื่องเป็นราว ตอนนี้ก็เป็นเวลาเหมาะที่จะทาบทามสู่ขอลูกหลานสกุลอื่นเอาไว้แล้ว ขอฮูหยินผู้เฒ่าได้โปรดตรองดูด้วยเจ้าค่ะ”

สวีซื่อยอมให้บ้านใหญ่เอาเปรียบมานานแล้ว แต่เพราะเห็นว่าหลานสาวคนรอง จะได้เป็นถึงพระชายาขององค์ชายแปด อีกไม่นานก็ต้องขึ้นเป็นชายารัชทายาทตามลำดับ ถึงขั้นได้เป็นแม่ของแผ่นดินต่อไป อนาคตของบุตรสาวบุตรชายของนางจำต้องราบรื่นเป็นแน่

ถึงกับยอมให้บ้านใหญ่นำเงินไปละลายแม่น้ำ จ้างอาจารย์ผู้สอนที่มากด้วยความสามารถและประสบการณ์ แน่นอนว่าค่าจ้างจำต้องสูงตามความสามารถด้วย หลายปีที่ผ่านมานี้ จวนราชครูเสียเงินจำนวนมหาศาล สำหรับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ

ผู้ใดจะไปคิดเล่าว่าการที่จะแต่งเข้าวังหลวงนั้น หลานสาวคนโตกลับมิต้องลงทุนลงแรงอันใดเลย หากไม่ติดตรงที่ฮูหยินใหญ่ถูกบ้านเดิมตัดขาด เรื่องที่นางยืนยันกระต่ายขาเดียว ว่าจะแต่งงานให้กับพี่ใหญ่ในปางก่อน เกรงว่าแม้แต่ปลายผมสกุลหลี่ก็มิอาจแตะต้องสองแม่ลูกนั้นได้

ในเมื่อทุกอย่างกลับตาลปัตรเช่นนี้ นางก็หาได้มีความจำเป็นอันใดจะต้องเกรงใจบ้านใหญ่อีก คงมีแต่ผู้ที่ยอมหลับตาข้างเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมารดาเลี้ยงและบุตรเลี้ยงนั้นย่ำแย่เพียงใด คุณหนูใหญ่เรียกได้ว่านางตัวคนเดียวแล้วในจวนแห่งนี้ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

“เหลวไหล ข้าแก่จนเลอะเลือน ถึงขั้นให้เจ้าที่เป็นสะใภ้มาเตือนสติเชียวหรือ” ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหจนเลือดลมไหลเวียนผิดที่ผิดทาง นับวันลูกสะใภ้ต่างกำเริบเสิบสาน ถึงขั้นโต้เถียงกันเรื่องสินเดิมของลูกหลานกันแล้วหรือ

แม้ว่าตระกูลของนางจะมิใช่ผู้สูงศักดิ์มาตั้งแต่เกิด แต่หากนับกันด้วยทรัพย์สินนั้นก็ถือว่ามีมากพอสมควร ทว่าเรื่องอันใดที่นางจะต้องกรีดเลือดของตนเอง เพื่อหลานสาวผู้หนึ่ง ในเมื่อทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ก็สมควรให้เป็นเช่นเดิม เพียงแค่เปลี่ยนตัวผู้รับเท่านั้น

“สะใภ้ขออภัยเจ้าค่ะ” สวีซื่อรีบคุกเข่าโขกศีรษะให้กับแม่สามี

“จางซื่อ ในเมื่อทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว เช่นนั้นก็ให้เป็นดังเดิมที่ควรจะเป็นเถอะ แม้ว่าจวนกั๋วกงจักเตรียมสินเดิมให้กับถิงเอ๋อร์ แต่เจียวเอ๋อร์ก็ถือว่าเป็นหลานสาวคนหนึ่งของพวกเขาเช่นกัน เรื่องจึงเห็นสมควรยิ่ง มิควรทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ พวกเจ้าออกไปได้แล้ว ข้าอยากพักผ่อน”

พูดจบฮูหยินผู้เฒ่าก็ลุกจากเก้าอี้ แล้วให้สาวใช้ข้างกายประคอง เข้าไปยังห้องนอนส่วนตัวในทันที หากอยู่นานกว่านี้คงได้มีเรื่องโต้เถียงกัน ไม่จบไม่สิ้นเป็นแน่

ทางด้านฮูหยินรองนั้นถึงกับกำหมัดแน่น เรื่องอันใดที่นางจะต้องเสียสละมากมายเช่นนั้น เรื่องนี้คงต้องเขียนจดหมายเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้บิดาได้รับรู้ มิเช่นนั้นสินเดิมของบุตรสาวจักต้องตกเป็นของผู้อื่นอย่างไม่ต้องสงสัย นางมิเต็มใจผู้ใดก็มาบังคับไม่ได้

“มารดามันเถอะ น่าเจ็บใจนัก ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ยอมเปิดคลังสมบัติของตน แต่กะจะชุบมือเปิบเอาหน้าให้สกุลหลี่” จางซื่อพูดเสียงลอดไรฟัน ขณะที่อยู่ห้องกันเพียงสองคนกับแม่นมคนสนิท

“ฮูหยินระวังคำพูดด้วยเจ้าค่ะ หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง พูดเช่นนี้เกิดมีคนเอาไปพูดต่อจะลำบากเอาเสียเปล่า ๆ นะเจ้าคะ” แม่นมรีบเอ่ยเตือนสติ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทวงคืน   ตอนที่ 54

    เมื่อร่างหนาล้มตัวลงนอน ซูเจียวก็นอนลงบ้างเช่นเดียวกัน แม้จะเตรียมตัวมาบ้างแล้ว ทว่านางก็ยังรู้สึกเกร็งอยู่มากเลยทีเดียว ไม่คิดไม่ฝันว่าบุรุษผู้นี้จะยังเลือกนางอยู่เห็นเขานอนสงบนิ่งไม่ไหวติง นางจึงใจกล้าขยับมือของตนเองไปสัมผัสฝ่ามือหยาบที่ร้อนผ่าว จากนั้นทั้งสองก็ประสานมือเข้าด้วยกัน ซูเจียวรู้สึกพอใจไม่น้อยกับท่าทางเช่นนี้ แต่ยังไม่ทันจะหลับตา ร่างหนาที่คิดว่าหลับไปแล้วก็พลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของนางเอาไว้“องค์รัชทายาท” ซูเจียวเรียกชื่อเขาเสียงแผ่วเบา“ท่านพี่ อยู่ด้วยกันสองคนให้เจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่ดังเช่นฮูหยิน จวนอื่นเรียกขานกัน อยู่กับเจ้าสองคนข้าก็จะเรียกเจ้าว่าฮูหยินเช่นเดียวกัน” เซ่าหมิงหยวนสบดวงตาดอกท้อคู่นั้น ใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงลมหายใจกั้นเท่านั้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบชา ทำให้สมองของนางกระจ่างแจ้ง“เจ้าค่ะ ท่านพี่”สิ้นคำนั้นริมฝีปากร้อนที่อยู่ด้านบนก็เข้ามาประกบริมฝีปากหวานในทันที ความเร็วในการรุกล้ำเข้ามานั้นเริ่มจากจังหวะช้าเนิบนาบ ผ่านไปสักพักก็เพิ่มความหิวกระหายเข้าไป จนทำเอาสตรีใต้ร่างหายใจแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่านางเริ่มประท้วง เขาก็ผ่อนแรงลง ละริมฝีปากออก แทะเ

  • ทวงคืน   ตอนที่ 53

    หลังจากที่ผ่านเรื่องราวความวุ่นวายมากมาย ก็ใกล้จะถึงกำหนดการวันอภิเษกสมรส ระหว่างองค์รัชทายาทและคุณหนูใหญ่สกุลหลี่ ซึ่งตอนหลังคนอื่นจะเรียกนางคุณหนูสกุลซู เนื่องจากหมอหลวงซูประกาศชัดเจนว่าหลี่เจียวเข้ามาเป็นคนของสกุลซู ชื่อของนางก็คือ ซูเจียว ซึ่งนางก็ชอบมากเช่นเดียวกันราชครูหลี่รู้ตัวว่าหมดความสำคัญในราชสำนัก อีกทั้งยังถูกหักหน้าเช่นนั้น ไม่สามารถอยู่ต่อในราชสำนักได้อีก จึงเขียนฎีกาลาออกยื่นถวายแด่ฮ่องเต้ ซึ่งเป็นไปตามคาด พระองค์ไม่ทรงคัดค้านเรื่องการลาออกของเขาเลยสักนิด“เจ้าลูกโง่ ลาออกก็แล้วไปเถิด เหตุใดต้องออกจากเมืองหลวง ไปด้วยเล่า” ฮูหยินผู้เฒ่าสู้ฟันฝ่ามาจนถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่มีทางกลับไปตายที่บ้านเกิดให้คนอื่นหัวเราะเยาะเป็นอันขาดชื่อเสียงเงินทองที่สะสมมา ต้องพังพินาศเพราะสองแม่ลูกนั่น บัดนี้นางเพิ่งหูตาสว่าง หากไม่ใช่เพราะถูกจางซื่อเป่าหู มีหรือผู้เฒ่าหูตาพร่ามัวเช่นนางจะหน้ามืดเพียงนี้“ท่านแม่ เป็นเช่นนี้ถือว่าฮ่องเต้ทรงเมตตาแล้ว รัชทายาทแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบพวกเรา ขืนทู่ซี้อยู่มีแต่จะเจ็บตัวเปล่า ๆ อีกอย่างเจียวเอ๋อร์ก็มีใจออกห่างจากพวกเรานานแล้ว หลายเดือนมานี้ที่น

  • ทวงคืน   ตอนที่ 52

    เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ได้กระอักเลือดออกมาแล้วรอบหนึ่ง ทำให้ครั้งนี้อาการของชินอ๋องน่าเป็นห่วง อีกทั้งหนึ่งเดือนที่ผ่านมาพักผ่อนน้อย ทั้งยังสู้รบ ทำให้ร่างกายและพละกำลังถดถอย“เจ้า” ชินอ๋องไม่มีแม้กระทั่งแรงจะเรียกชื่อหลานชายเสียด้วยซ้ำ“แต่ไม่ต้องห่วง เวลานี้บุตรชายที่รักของท่าน กำลังรออยู่ที่คุกหลวง โทษฐานลอบสังหารรัชทายาทเช่นข้า ท่านอาจจะคิดว่าเขานิสัยไม่เหมือนท่าน แต่ข้ากลับคิดว่า เขากล้าหาญกว่าท่านมากนัก เพราะกว่าที่ท่านจะกล้าลงมือก็นานนับสิบปี ตีเหล็กต้องตีตอนที่ยังร้อนเหมือนที่สวีเฮ่าทำ เพราะ ถ้ามัวแต่รอแบบท่าน สุดท้ายแล้ว เมื่อเหล็กเส้นนั้นหายร้อน นอกจากตีเป็นดาบไม่ได้ ปล่อยไว้นานวันเข้าสนิมก็เริ่มเกาะกิน เหมือนเช่นภายในใจท่านที่เกิดความลังเล” ดวงตาเซ่าหมิงหยวนฉายแววเหี้ยมโหดออกมา“ฮ่า ๆ อ๋องอย่างข้า ไม่จำเป็นต้องให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างเจ้ามาชี้นำ หากพวกเจ้าสองพ่อลูกไม่ใช้แผนสกปรก มีหรือที่ข้าจะพ่ายแพ้ คนแพ้ไม่สามารถเรียกร้องสิ่งใดได้ ระหว่างข้ากับเจ้า ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้ วันนี้ข้าผู้เป็นอ๋องอยู่ไม่สู้ตาย”พูดจบเซ่าเยี่ยนก็สั่งทหารที่ซุ่มอยู่โจมตีในทันที ทั้งสองฝ่ายต่าง

  • ทวงคืน   ตอนที่ 51

    ข่าวเรื่องอาการบาดเจ็บขององค์รัชทายาท ต่างคาดเดาไปต่าง ๆ นานา เนื่องจากว่าฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งเสวียนกุ้ยเฟยและพระคู่หมั้นอย่างคุณหนูใหญ่สกุลหลี่เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นประเด็นถกเถียงกันในราชสำนัก เหล่าขุนนางต่างหยิบยกถึงความมั่นคงของการสืบทอดบัลลังก์มาพูดกัน“เหลวไหล รัชทายาทบาดเจ็บ พวกเจ้าไม่เพียงไม่แสดงความภักดี แต่ยังแสดงออกว่าไม่เชื่อมั่นในสายตาของเราผู้เป็นฮ่องเต้ อีกอย่างเรายังไม่ตาย พวกเจ้าก็กังวลกันไปใหญ่โต เช่นนี้จะให้เราคิดเป็นอื่นได้อย่างไร” ฮ่องเต้ทรงพิโรธหนัก เหล่าขุนนางอกสั่นขวัญแขวนด้วยความกลัว รีบคุกเข่าขอความเมตตา ด้วยรู้ดีว่าโอรสสวรรค์ผู้นี้อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าสตรี“ขอฝ่าบาทอย่าทรงพิโรธ พวกเราเพียงแต่คิดเผื่อเอาไว้เท่านั้น พ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีฝ่ายซ้ายพูดขึ้น“ความหวังดีของพวกท่านเรารับรู้ เพียงแต่อยากขอให้พวกท่านอย่าได้กังวล รัชทายาทบาดเจ็บครั้งนี้ โทษของตำหนักชินอ๋องยากเกินให้อภัยได้ จำเป็นต้องรีบจับกุมตัวชินอ๋องเข้ามารับโทษไปพร้อมกับคนในตำหนัก”ทางด้านรัชทายาทเซ่าหมิงหยวน แท้จริงแล้วเขาออกจากวังตั้งแต่คืนที่ได้รับบาดเจ็บแ

  • ทวงคืน   ตอนที่ 50

    เซ่าหมิงหยวนแม้ว่าจะรวดเร็วเพียงใด แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บจนได้ หนำซ้ำยังเป็นธนูที่อาบยาพิษอีกด้วยฮ่องเต้ทราบข่าวทรงพิโรธหนัก เร่งส่งองครักษ์เสื้อแพรพร้อมทั้งทหารในวังเข้าล้อมตำหนักชินอ๋องในทันที ไม่มีผู้ใดสามารถออกมาได้ ซื่อจื่อถูกขังไว้ในคุกหลวงรอวันลงอาญาจากนั้นออกราชโองการแต่งตั้งองค์ชายแปดเป็นองค์รัชทายาท พร้อมทั้งออกประกาศติดไปทั่วทั้งเมืองหลวง ตำหนักชินอ๋องก่อกบฏ ลอบสังหารองค์รัชทายาท มีโทษประหารเก้าชั่วโคตรข่าวนี้ค่อนข้างเป็นที่ฮือฮาของชาวเมืองหลวง ทุกคนต่างเก็บตัวเงียบ ปิดประตูบ้านเรือน ไม่มีแม้กระทั่งสัตว์สักตัวเดินอยู่บนถนนมีเพียงทหารเวรยามเดินสวนไปสวนมา เพื่อรักษาความสงบเท่านั้นทางด้านจวนราชครูต่างอกสั่นขวัญแขวนไปกับข่าวที่ได้ยิน ด้วยไม่คิดว่าซื่อจื่อจะกล้ากระทำการอุกอาจเช่นนี้ แม้กระทั่งชินอ๋องยังไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน“สวรรค์ นับว่าสกุลหลี่ยังพอมีวาสนาอยู่บ้าง หากเกี่ยวดองกับตำหนักอ๋อง มีหวังได้ถูกประหารเก้าชั่วโคตรไปด้วย” ฮูหยินผู้เฒ่ากลัวจนตัวสั่นเมื่อได้ยินข่าวจากบุตรชาย“ข้ายังต้องเร่งเข้าวัง ครั้งนี้ฝ่าบาททรงพิโรธหนัก องค์รัชทายาท ถูกพิษบาดเจ็บสาหัส น่าแปล

  • ทวงคืน   ตอนที่ 49

    พริบตาเดียวอีกเพียงสามวัน ก็ถึงวันงานอภิเษกสมรสระหว่าง องค์หญิงเก้าและซื่อจื่อ ทว่าที่ตำหนักชินอ๋องกลับไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆหลายวันที่ผ่านมานี้ พ่อบ้านอยากจะกรอกยาพิษใส่ปากตัวเอง วันละหลายร้อยรอบ ทว่ากลับทำไม่ลง เนื่องจากสงสารซื่อจื่อ อยู่ไม่สู้ตาย หลายวันที่ผ่านมาเขาจึงเป็นคนจัดการเตรียมงานทุกอย่าง ดีที่มีคนจากในวังเข้ามาช่วยจัดการ ทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบมากขึ้นงานอภิเษกองค์หญิงออกนอกวัง ไม่ยุ่งยากเท่ากับการรับพระชายาเข้าวัง เนื่องจากแต่งออกไปแล้วก็ถือว่าเป็นคนของตำหนักชินอ๋อง ถึงอย่างนั้นขั้นตอนและพิธีการต่าง ๆ ก็ถือว่าซับซ้อนมากกว่าคนทั่วไปมากนัก“ซื่อจื่อ องค์ชายแปดมาขอรับ” ต้าหลางลนลานเข้ามารายงาน“อืม” เขาไม่แปลกใจที่เห็นเซ่าหมิงหยวนมาที่นี่ ด้วยความสามารถของอีกฝ่ายแล้ว ย่อมสามารถหลบหลีกสายตาของเหล่าองครักษ์เงาได้เป็นอย่างดีเซ่าหมิงหยวนเดินเข้ามาในห้องหนังสือ แท้จริงแล้วภายในห้องนี้ ยังมีเส้นทางลับสำหรับออกไปข้างนอก ซึ่งเขาก็ใช้ทางลับนี้เข้ามายังที่นี่ด้วยเช่นกัน เดิมทีคิดว่าญาติผู้น้องคนนี้ต้องหาทางติดต่อกับเขา แต่กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายเก็บตัวเงียบ ยอมทำตามคำสั่งของชิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status