LOGIN10 แหลกละเอียด
พรึ้บบ!! ขาเรียวถูกกระชากออกจากกันอย่างไร้ความปราณี ปรางปรีญาร่ำไห้ใจจะขาด อ้อนวอนให้ชายหนุ่มเห็นใจ แต่อคิราห์กลับหัวเราะเยาะราวกับเป็นเรื่องตลกขบขันเพราะเขาไม่เชื่อว่าคนอย่างปรางปรีญายังบริสุทธิ์ “ได้โปรดอย่าทำฉัน…อย่า....” เธอร้องไห้แทบขาดใจ เมื่อความยิ่งใหญ่ถูกดันมาจ่อที่ปากถ้ำ มือหนาฉีกถุงยางอนามัยแล้วโยนเศษถุงใส่คนตัวเล็ก ก่อนจะรูดลงที่ปลายหัวเห็ดบานใหญ่เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกัน เขาไม่รู้ว่าปรางปรีญาผ่านใครมาบ้าง หน้าใสๆซื่อๆแบบนี้ร้ายจะตาย “ร้องออกมาเลย ฉันชอบให้เธอร้อง เพราะหลังจากนี้….ฉันจะทำให้เธอตายทั้งเป็นเอง!” “ไม่!! อย่าทำ!” ปรางปรีญาเกร็งร่างหนีสัมผัสร้าย มือหนาคว้าต้นขาของเธอเอาไว้แล้วกระชากให้แยกออกจากกัน กลีบกุหลาบสีชมพูล่อตาลอใจนั้นทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป ใช้หัวเห็ดบานใหญ่สะกิดติ่งวาวใสขึ้นลง “แล้วคุณจะต้องเสียใจ ฮึก…ฮื้อๆๆ” “ฉันไม่มีวันเสียใจหรอก เพราะคนที่ต้องเสียใจคือเธอต่างหากที่โดนฉันฟันแล้วทิ้ง ฉันจะทำให้เธอรับรู้ถึงความเจ็บปวดว่าการถูกหักหลังมันเจ็บแค่ไหน!” ซ้วกก!!! “กรี๊ดดด!!” ท่อนเอ็นยาวใหญ่ถูกดันเข้าไปในร่องสวาทอย่างแรงส่งผลให้คนใต้ร่างผวาเฮือกด้วยความเจ็บปวดสุดชีวิต ตามด้วยเสียงกรีดร้องดังระงมทั่วห้อง อคิราห์มองภาพนั้นด้วยความงุนงงเหมือนกำลังตกตะลึงที่จู่ๆก็มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากส่วนนั้นของเธอ หนำซ้ำมังกรยักษ์ยังเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียว ปรางปรีญายังบริสุทธิ์! “ได้โปรดเอามันออกไป ไม่ไหว….ฉันเจ็บ ฮื้อๆๆ” “นะ….นี่เธอยังไม่เคยมีอะไรกับใครหรอ” หูของเธอไม่ได้ยินหรือรับรู้อะไรเพราะความเจ็บปวดที่เขามอบให้กำลังทำให้ร่างทั้งร่างฉีกออกจากกัน เส้นบางๆที่ถูกรักษาไว้อย่างดีขาดพึง แม้ว่าเธอจะยังรักเขาหมดหัวใจ แต่เขาไม่ได้รักเธอแล้ว มันไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยซ้ำ แล้วใครบอกว่าเธอไม่เจ็บ…เธอถูกผู้ชายที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบทิ้งไปอย่างไม่ใยดีในช่วงที่อ่อนแอที่สุด มองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมิด เธอไม่ได้อยากเลิกกับเขา ไม่คิดจะเลิกเลย ...ไม่คิดหรอว่าเธอเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน “เอามันออกไป ฮึก! ได้โปรด ฉันเจ็บ….ไม่ไหวแล้ว ฮรืออ….” แต่แทนที่อคิราห์จะหยุด เขากลับดันท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดลำ และครั้งนี้ก็ล้วงลึกเข้าไปได้สำเร็จจนสุดโคน เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยไฟราคะรีบก้มลงไปประกบปากเพราะรำคาญเสียงร้องของเธอ ก่อนที่สะโพกสอบจะขยับขึ้นลงตามจังหวะ และเมื่อได้ที่เขาก็เร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ ปึก!ปึก!ปึก! ปรางปรีญาเจ็บจนร่างเกร็ง ผวาเฮือกทุกครั้งที่เขากระแทกใส่หนักๆ และดูเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อคิราห์ดึงถุงยางอนามัยออกแล้วกระแทกท่อนเอ็นเข้าไปอีกครั้ง ยิ่งขยับแรงเท่าไหร่ร่างของเธอก็ยิ่งเกร็งขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าเนียนสวยที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นขาดหายเป็นจังหวะ “ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ” มือใหญ่เอื้อมไปกระชากใบหน้าสวยให้หันมาสบตา และทันทีที่สบตากัน ปรางปรีญาก็ส่งเสียงสะอึกสะอื้นอีกครั้ง เขาจึงตบแก้มเธอเบาๆสามทีก่อนจะก้มลงไปกระซิบเสียงแผ่วเบาด้วยความเย้ยหยัน “แต่ฉันไม่สนใจหรอก เพราะฉันมีแพรขวัญแล้ว” ประโยคนั้นเหมือนฉุดความรู้สึกของปรางปรีญาให้ดำดิ่งลง ร่างกายชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า จุกหน่วงหัวใจขึ้นมาทันที “หลังจบงานอยากได้เท่าไหร่ว่ามาเลย คิดซะว่าเป็นค่าพรหมจรรย์ของเธอก็แล้วกัน” “ฉันไม่มีวันรับเงินสกปรกจากคุณหรอก ฮึก! คุณมันเลว ไร้หัวใจ!” สันกรามเล็กขบเข้าหากันแน่น เจ็บปวดทั้งกายและใจ ที่โดนผู้ชายใจหยาบดูถูก เขาพรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอ แถมยังตีตราด้วยเงินราวกับเป็นสิ่งของ แล้วความรู้สึกของเธอล่ะ? เงินมันซื้อได้หรือเปล่า “ไม่มีจะยาไส้อยู่แล้วยังปากเก่ง อย่าคลานมาขอเศษเงินจากฉันละกัน” อคิราห์มอบลีลาอันสุดแสนลึกซึ้งชนิดที่ซาบซ่านไปถึงใจให้ปรางปรีญา แต่คนที่ยังไม่พร้อมกลับได้รับเพียงความเจ็บปวด ร่ำไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าอดสู ทั้งข้อมือที่ถูกพันธนาการเอาไว้เสียดสีกับเข็มขัดจนเกิดเป็นรอยริ้วถลอก ยิ่งได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องก็แทบอยากกลั้นใจตายลงตรงนั้น “ร้องออกมาสิปรางปรีญา ร้องออกมาเลย! เจ็บปวดใช่ไหมร้องออกมาเลย!” ปึก!ปึก!ปึก! ปรางปรีญาได้แต่นอนแน่นิ่งยอมรับสภาพของตัวเองว่าตอนนี้ได้สูญเสียสิ่งล้ำค่าให้เขาไปแล้ว หลังจากนี้โลกทั้งใบคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากเดิมที่แทบไม่มีความสุขอยู่แล้วยิ่งตอกย้ำความทุกข์ทรมานเข้าไปอีก อคิราห์แสยะยิ้มเยือกเย็นเมื่อเห็นคนใต้ร่างค่อยๆสิ้นฤทธิ์ มือหนาเคลื่อนเข้ามายกสะโพกงอนขึ้นแล้กระแทกเข้าไปถี่รัว ตับ!ตับ!... และหน้าอกอวบใหญ่ที่กำลังเด้งขึ้นลงเป็นจังหวะทำให้เขาอดใจไม่ไหว โน้มหน้าเข้าไปดูดดื่มอย่างเร่าร้อนในขณะที่ช่วงล่างกระแทกแรงจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ปรางปรีญารู้สึกเหมือนใจกำลังจะขาด ความเจ็บปวดแผ่ซ่านทั่วร่างกาย เจ็บปวดที่สุดในชีวิต เจ็บจนอยากให้ตัวเองสลบไปซะตอนนี้เลย และที่เจ็บไปมากกว่านั้นก็คือใจของเธอ ถูกอคิราห์บดขยี้จนแหลกละเอียด ไร้ความเห็นใจ ไร้ความปราณี เขาไม่รู้หรอกว่าช่วงที่เลิกกันไปชีวิตเธอต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ในขณะที่เขามีผู้หญิงในฮาเร็มข้างกาย ส่วนเธอยังเจ็บปวดกับความรักจนไม่กล้าเปิดใจให้ใครอีก นี่หรือที่เคยบอกว่ารักกัน….เลิกไปได้ไม่นานก็มีผู้หญิงใหม่ข้างกาย เปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น แบบนี้เรียกว่ารักตัวเองมากกว่า และในที่สุดปรางปรีญาก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหว สติอันน้อยนิดค่อยๆมืดดับลง และก่อนที่ภาพทุกอย่างจะตัดไป หูของเธอแว่วได้ยินเสียงของอคิราห์กำลังคำรามลั่นด้วยความสุขสม “อ้าส์!! สุดยอดมากปรางปรีญา เสร็จแล้วฉันขอต่ออีกรอบนะ เดี๋ยวฉันให้ทริปเพิ่ม” -----------------50 รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง@เช้าวันถัดมาปรางปรีญารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบร่างของอคิราห์ยืนกวาดเศษใบไม้อยู่หน้าบ้าน นี่มันบ้านของเธอนะ เขามีสิทธิ์อะไรมายุ่งวุ่นวาย เพราะนี่มันไม่ใช่ที่ของเขา“ตื่นแล้วหรอ” อคิราห์ที่ยืนกวาดเศษใบไม้อยู่หน้าบ้าน เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังยืนตาจ้องเขม่งอยู่บนบ้านเมื่อวานเห็นว่าเศษใบไม้กองอยู่ที่หน้าบ้านของปรางปรีญาเยอะมาก วันนี้เลยตั้งใจตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำความสะอาดหน้าบ้านให้เธอ เผื่อมีสัตว์มีพิษซุกอยู่ในกองใบไม้ ปรางปรีญาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามไม่สนใจอีกฝ่ายและกำลังจะก้าวลงจากบ้านเพื่อไปเก็บดอกไม้ ด้วยความหวังดี อคิราห์รีบวางไม้กวาดและกำลังจะก้าวเข้าไปประคองร่างเล็กลงมาจากบันได ขันทองที่อยู่ในมือของปรางปรีญาก็ขว้างมาโดนศีรษะของเขาอย่างแรงปึก!“โอ้ยย!! ปรางตีพี่ทำไม”“ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!” ปรางปรีญากระแทกเสียงใส่ อคิราห์จำเป็นต้องก้าวหลบออกจากบันไดเพื่อให้หญิงสาวเดินลงได้สะดวก ปรางปรีญาเดินไปก้มเก็บขันที่เพิ่งเขวี้ยงใส่คนหน้าด้านขึ้นมา แล้วเดินหลบไปยังสวนดอกไม้ แต่อคิราห์ก็ยังไม่ลดละความพยายาม เดินตา
49 เธอเปลี่ยนไปอคิราห์รีบหอบเอาร่างอันแสนบอบช้ำกลับมาที่บ้านพัก ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพมีรอยแดงเพราะถูกน้ำร้อนลวก ปรางปรีญาเล่นสาดน้ำร้อนใส่เหมือนเขาเป็นหมาเลย โชคดีที่โดนแค่ท่อนแขน ไม่อย่างนั้นคงเสียโฉมไปแล้ว ปรเมศที่นั่งรออคิราห์อยู่ที่หน้าบ้าน ตกใจเมื่อเห็นพื่อนสนิทกลับมาในสภาพไม่ปกติ“นะ...นั่นมึงไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้กลับมาในสภาพ...เอ่อ...เหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก”“เมียกูเอาน้ำร้อนสาด” เขาตอบสั้นๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายบริเวณหน้าบ้าน กว่าจะพาตัวเองกลับมาได้ ทุลักทุเลพอสมควร ตอนนี้อาการปวดแสบปวดร้อนเริ่มปะทุขึ้น ท่อนแขนบวมแดงคล้ายกำลังจะพุพอง“ไปทำอีท่าไหนเขาถึงสาดน้ำร้อนใส่”“ก็แค่บุกเข้าไปในบ้านเขาเฉยๆ ไม่คิดว่าปรางปรีญาจะกล้าทำขนาดนี้”“โชคดีแค่ไหนแล้วที่น้องเขาไม่สาดใส่หน้ามึง ไม่งั้นคงได้บินไปศัลยกรรมที่เกาหลี แต่จะว่าไป สาดใส่หน้าก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเอาหน้าหล่อๆไปหลอกฟันใครอีก”“พอเถอะ แค่นี้กูก็เจ็บปวดมากพอแล้ว อย่าให้กูต้องเจ็บกับคำพูดของมึงอีกเลยเพื่อน”“มึงรู้อะไรไหม กูโครตสะใจเลยที่มึงโดนซะบ้าง ปากเก่งมาตั้งนาน สุดท้ายเอาตัวไม่รอด” ปรเมศเค้นหัวเราะออกมาเ
48 มาทางไหนกลับไปทางนั้น“นี่มันอะไร” ปรางปรีญามองจดหมายฉบับนั้นด้วยความงุนงง แต่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นลายมือของใคร“น้าของปรางเขียนจดหมายฉบับนี้ไว้ก่อนที่ท่านจะเสีย”ปรางปรีญารับจดหมายไปไล่อ่านด้วยความตกใจ เนื้อหาในจดหมายบอกถึงค่ำคืนที่เธอได้ไปขอร้องให้รินรดาเลิกยุ่งกับราเชษ“แสดงว่าคืนนั้นปรางแค่โกหกน้าดาใช่ไหม ปรางไม่ได้หลอกพี่จริงๆใช่ไหม”“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าวันนั้นฉันพูดอะไรกับน้าดา” ปรางปรีญาเงยหน้าถาม“พอพี่รู้เรื่องน้าดากับอาเชษ พี่ตั้งใจขับรถไปหาปรางที่บ้านเพราะอยากไปถามให้แน่ใจ แต่พี่ดันไปได้ยินเรื่องที่ปรางพูดกับน้าดาพอดี”“คืนนั้น…คุณไปหาฉันที่บ้านหรอ” ปรางปรีญาส่งจดหมายกลับ พร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าวันนั้นอคิราห์ไปหาเธอที่บ้าน“ใช่ พี่ตั้งใจไปหาปราง และพี่ก็ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่ปรางคุยกับน้าดา ตอนนั้นพี่เสียใจมากที่ได้ยินเรื่องแบบนี้ พี่นั่งร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียว ทั้งๆที่พี่ควรจะเดินเข้าไปถามปราง แต่พี่ก็ดันเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน พอรู้อะไรแบบนั้นมันก็เริ่มทำให้พี่มองปรางเปลี่ยนไป”“…” ปรางปรีญานิ่ง ยืนฟังอีกฝ่ายด้วยสีหน้านิ่งเรียบไร้ความ
47 ดวงใจดวงเดิมก็อก…ก็อก…เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะการนอนของอคิราห์ ชายหนุ่มลืมตาขึ้น พลิกตะแคงร่างด้วยความหงุดหงิดเพราะเมื่อสักครู่กำลังนอนหลับฝันหวาน…ฝันว่าได้นอนกอดปรางปรีญากับลูกอคิราห์หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ถอนหายใจพรืดใหญ่ ยกมือขยี้ผม สีหน้าบอกบุญไม่รับ เขาไม่อยากเปิดประตูออกไปแล้วเจอภาพของปรเมศกำลังจู๋จี๋กับศรุตา เพราะมันทำให้เขาคิดถึงปรางปรีญามากขึ้นจนไม่อาจทนดูภาพพวกนั้นได้ทำไมถึงไม่มีเมียให้นอนกอดแบบนี้บ้าง เห็นแล้วก็นึกอิจฉาไม่ได้จริงๆ“อะไร” อคิราห์เปิดประตูออกมา ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ“กูมีข่าวดีจะบอก”“ข่าวอะไรของมึง”“เดี๋ยวให้ตาเป็นคนบอกดีกว่า”“ถ้างั้นพวกมึงก็กลับไปเถอะ ขัดจังหวะการนอนของกูจริงๆ” อคิราห์ปิดประตูใส่ แต่ถูกปรเมศดึงกลับมาเหมือนเดิม “ไหนมึงบอกว่าอยากเจอเมีย”“ก็อยากเจอ แต่มันไม่เจอไง”“แล้วถ้าเจอล่ะ”“มึงว่าอะไรนะ” อคิราห์ถามกลับอย่างรวดเร็ว“วันนี้ตาไปเดินตลาดแล้วบังเอิญเจอปรางปรีญา”“ว่ายังไงนะ ทะ…ที่ไหน!!” อคิราห์ตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวไปนานถึงเจ็ดเดือนกลับมาเต้นโครมครามอีกครั้ง “ท้ายหมู่บ้าน”อคิราห์เดินทางมาที่บ้า
46 บังเอิญเจอ ปรเมศใช้เวลาขับรถแค่สองชั่วโมงนิดๆ ในที่สุดก็มาถึงจังหวัดกาญจนบุรี ศรุตาที่ตอนนี้ท้องแก่ใกล้คลอดเดินออกจากบ้านพักตากอากาศเพื่อมารอรับสามีกับเพื่อนสนิทอย่างอคิราห์ อคิราห์ก้าวลงจากรถพร้อมกันกับปรเมศ ศรุตารีบวิ่งเข้ามาสวมกอดสามี ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถทนดูภาพนั้นต่อได้ รีบเบือนหน้าหนีด้วยความเจ็บปวดหัวใจเพราะมันทำให้เขานึกถึงปรางปรีญาทุกทีที่เห็น ศรุตากับปรางปรีญาน่าจะตั้งท้องไล่เลี่ยกัน ป่านนี้ก็คงท้องแก่ใกล้คลอดแล้วไปอยู่ที่ไหนกันนะปรางปรีญา ฉันอยากดูแลเธอกับลูกเหลือเกิน“ลมอะไรหอบโซ่มาถึงที่นี่” ศรุตาเอ่ยแซวเพื่อนสนิท หล่อนได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของสามี ไม่คาดคิดว่าคาสโนว่าตัวพ่อจะตกอยู่ในสภาพนี้“ไม่รู้สิ อาจจะลมบ้าหมู” เขาตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ พยายามไม่มองศรุตากับปรเมศที่กำลังยืนจู๋จี๋กัน พวกมันจะรู้หรือเปล่าว่าเขาไม่อยากเห็นภาพนี้ เห็นแล้วเจ็บใจทุกทีเพราะคิดถึงเมีย“ตาคิดว่าโซ่น่าจะเป็นบ้าจริงๆ ดูสภาพโซ่ในตอนนี้สิ ไม่ใช่คุณอคิราห์ที่ตาเคยรู้จักด้วยซ้ำ”“เอาน่า เราอย่าไปตอกย้ำมันเลยนะ” ปรเมศเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนสนิท “ผมว่าเราเข้าบ้านกัน
45 มิตรแท้ไม่มีคำว่าปลอบใจ...เจ็ดเดือนต่อมา...“ไงเพื่อน ลมอะไรหอบมึงมาหากูถึงที่นี่” ปรเมศเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในบ้าน ช่วงนี้เขากับเพื่อนไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่เพราะอีกฝ่ายงานยุ่ง“ลมคิดถึงเมีย”“เมียคนไหน” ปรเมศชอบแซวแบบนี้เป็นประจำ ใจหนึ่งก็นึกสงสาร อีกใจก็สมน้ำหน้า ทำกับเขาไว้เยอะ ก็ไม่แปลกที่เขาจะไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา“เมียกูมีคนเดียวเว้ย!”“ไม่รู้สิ ตอนนั้นเห็นมึงคบหลายคน”“อย่าเพิ่งกวนประสาทกูไอ้เมศ ตอนนี้กูอารมณ์ไม่ค่อยดี” อคิราห์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับปรเมศ ก่อนจะยกมือก่ายหน้าผากเหมือนคนหมดอาลัยกับชีวิต ปรเมศเห็นภาพนี้จนชินแล้ว บางวันก็เมาหัวราน้ำจนคนในครอบครัวเอื้อมระอา เพราะพักหลังๆอคิราห์แทบไม่เป็นผู้เป็นคน “กูก็เห็นมึงอารมณ์ไม่ดีทุกวันนั่นแหละเพื่อน”“จะไปอารมณ์ดีได้ยังไง นี่ก็ผ่านมาเกือบเจ็ดเดือนแล้ว กูยังหาเมียไม่เจอเลย”“แล้วนักสืบที่มึงจ้างวานว่ายังไงบ้าง”“ไม่เจอ ทั้งๆที่เป็นนักสืบฝีมือดีที่สุดของเมืองไทย แต่ทำไมถึงยังหาปรางปรีญาไม่เจอวะ”“กูเคยบอกมึงแล้วไงเพื่อน ถ้าเชื่อกูตั้งแต่ตอนนั้น มึงก็คงไม่เสียปรางปรีญาไปแบบนี้หรอก ตอนมี







