แชร์

ตอนที่ 2 : สบตา

ผู้เขียน: SS.WONDER
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-13 23:08:58

-KAOTU PART-

@ บ้านข้าวตู

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป...

ลมเย็นๆ ในช่วงฤดูหนาวของเดือนธันวาคมที่พัดโชยเข้ามาปะทะเข้ากับใบหน้าหวานๆ เสียงน้ำไหลจากลำธารใกล้ๆ เสียงจิ้งหรีดเรไรรวมถึงนกน้อยใหญ่ร้องกันดังกล้องป่า สร้างความผ่อนคลายให้กับฉันเป็นอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่คิดว่าอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้จังเลย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วฉันไม่สามารถทำมันได้

~กริ๊งงงงงงงงง~

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นฉุดฉันให้ตื่นจากฝันหวาน ฉันจึงรีบลุกไปจัดการกับตัวเองชุดนักศึกษาที่ถูกทำให้เรียบอย่างบรรจงด้วยฝีมือของฉันเอง และก็ถูกสวมใส่โดยข้าวตูคนนี้นี่แหละ วันนี้ฉันเริ่มฝึกงานฉันไม่อยากไปสายตั้งแต่วันแรก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฉันก็รีบวิ่งออกจากห้อง ลงบันไดไปตามกลิ่นหอมๆ ของกับข้าวฝีมือแม่ฉันเอง ‘ฉันจมูกดีใช่มั้ยล่ะ...ใช่แหละฉันยอมรับ’

“อย่าวิ่งสิลูก เดี๋ยวก็ลื่นล้มหรอกลูก” เสียงแม่เอ็ดฉันขึ้นดเสียงดัง พร้อมกับว่างถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะอย่างเบามือ

ฟอดดดดดด!

“อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่” ฉันเข้าไปสวมกอดแม่จากข้างหลัง พร้อมทั้งหอมแก้มแม่ไปหนึ่งฟอด

“มาทานข้าวเร็วลูก จะได้ไปทำงาน” แม่เอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง

ฉันรีบทานข้าวต้ม เพื่อที่จะได้รีบออกไปทำงาน ‘วันนี้เป็นวันจันทร์ซะด้วยสิ รถต้องเยอะแน่ๆ เลย’ ฉันคงต้องรีบไปดีกว่า อย่างน้อยรถก็คงจะยังไม่ติดมากเท่าไหร่

“แม่ขา หนูไปทำงานก่อนนะคะ”

“จ้าเดินทางปลอดภัยนะลูก” เมื่อทานข้าว เก็บถ้วยเก็บจานเข้าที่เรียบร้อย ก็รีบวิ่งออกมาเพื่อไปขึ้นรถโดยสารประจำทางที่หน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านทันที ภายในใจก็ได้แต่ภาวนาขอให้คนไม่เยอะด้วยเถอะ

“...” แต่ก็นะเหมือนสวรรค์จะไม่ค่อยได้คิดคำขอของฉันแน่ เพราะตอนนี้นอกจากการจราจรตรงหน้าจะติดขัดขยับได้ที่ละนิด จำนวนผู้คนที่ยืนเบียดกันอยู่บนรถประจำทางก็เยอะมากด้วย

@บริษัท ทรี ทรู ทรานสปอร์ต

ตอนนี้ข้าวตูเด็กสาวแสนสวยคนนี้ก็มาถึงบริษัทอย่างปลอดภัย แถมทันเวลาอีกตั้งหากถึงจะใช้เวลาเดินทางกว่า 1 ชั่วโมงก็เถอะ

ฉันเงยหน้ามองตึกสูงระฟ้าตรงหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ นี่แค่ด้านนอกยังสวยขนาดนี้ ฉันอยากเห็นจังว่าข้างในจะสวยขนาดไหนนะ

ก่อนหน้านี้ฉันได้ศึกษาข้อมูลคร่าวๆ มาจากอินเตอร์เน็ตบ้างแล้ว ทำให้ฉันรู้ว่านอกจากบริษัทนี้จะเป็นบริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดแล้ว อีกหนึ่งข้อดีของที่นี่ก็คือ ‘ประธานบริษัทหล่อมากๆ แต่ข้อเสียก็คือ เขาโหดและดุมากๆ เช่นกัน’ ฉันน่ะไม่ตื่นเต้นหรอกนะกับคนหล่อ แต่ที่จะทำให้ฉันทั้งตื่นเต้น และรู้สึกกลัวก็ตรงที่เขาโหดและดุมากๆ เนี่ยแหละ เอาเป็นว่าถึงยังไงฉันก็คงไม่ได้เจอเขาหรอก ไปค่ะเข้าบริษัทดีกว่าก่อนที่จะสาย

‘ว้าวววววว.....’ ฉันเดินเข้ามาด้านในของบริษัทที่ตั้งตระหง่านใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย ภายในถูกตกแต่งอย่างหรูหรามากสมกับที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการขนส่งจริงๆ

“สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเด็กฝึกงานมารายงานตัวค่ะ” ฉันเอ่ยบอกพร้อมกับยกมือไหว้พี่พนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วยความนอบน้อม

“เดี๋ยวพี่พาไปที่ฝ่ายบุคคลนะคะ” เธอเอ่ยบอกพร้อมกับยิ้มแย้มให้กับฉันอย่างเป็นมิตร

“ขอบคุณค่ะ” ฉันก็เอ่ยตอบกลับเธอไปอย่างเป็นมิตรเช่นกัน

จากนั้นพี่พนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ก็พาฉันเดินไปยังลิฟต์ที่อยู่ด้านขวามือ ก่อนที่พวกเราจะขึ้นมายังชั้นที่ 15 ของอาคารแห่งนี้ ก่อนที่พี่เขาจะพาฉันเดินลัดเลาะจนมาถึงห้องห้องหนึ่งที่หน้าห้องระบุไว้ว่า ‘ฝ่ายบุคคล’

“พี่วรรณคะ มีน้องฝึกงานมารายงานตัวค่ะ” เมื่อมาถึงเธอก็พูดกับผู้หญิงอีกคนที่ดูอายุไม่เยอะแต่ว่าภายใต้ใบหน้าที่สวยไร้ที่ติของเธอนั้น กลับซ้อนไปด้วยดวงตาที่ดุดันน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก

“ขอบใจจ้ะ” พี่ที่ชื่อวรรณบอกกับพี่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ก่อนที่พี่พนักงานจะเดินออกไป

“สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเธอ พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้เธออย่างน้อบน้อม

“เชิญนั่ง” เธอพ่ายมือให้ฉันนั่งลงที่โซฟา พร้อมกับเด็กฝึกงานอีกสองคนที่มารายงานตัวพร้อมกัน ฉันก็ยิ้มให้กับทั้งสองด้วยความเป็นมิตร ซึ่งพวกเธอทั้งสองคนก็ยิ้มกลับมาให้ฉันเช่นกัน

“เธอชื่อปัทมา วรโชติ ใช่ไหม” พี่วรรณเธอหันมาถามฉัน ก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารในมือของเธอ ผลัดกับเงยหน้าคมของเธอขึ้นมามองหน้าฉัน สายตาเธอเต็มไปด้วยความงุนงง

“ชะ ใช่ค่ะ” เอาแล้ว... ‘ฉันทำอะไรผิดรึป่าวนะ?’ ฉันได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ ยังไม่ทันได้ทำงานฉันจะถูกไล่ออกไม่ได้นะ ข้าวตูคนนี้ต้องได้โชว์ฝีมือของตัวเองก่อนสิ

“น้องถูกเลือกให้ไปเป็นผู้ช่วยเลขานะคะ เนื่องจากพี่เลขากำลังจะลาพักร้อน” อึ้งไปเลยฉัน...พูดไม่ออกกันเลยทีเดียว แค่เด็กฝึกงานธรรมดาธรรมดาฉันก็กลัวจะแย่...นี่จะให้ฉันไปเป็นเลขา เลขาใครกัน ฉันจะรอดจนถึงวันสุดท้ายของการฝึกไหมเนี่ย แล้วถ้าฉันถูกส่งกลับก่อนกำหนดล่ะจะทำยังไงดี ‘หายใจเข้าลึกๆ ข้าวตูเธอเอาอยู่ เธอทำได้ เธอทำได้’

“เดี๋ยวพี่พาขึ้นไปพบพี่เลขา เพื่อเรียนรู้งานก่อนนะคะ”

“น้องคะ...” เหมือนหูฉันจะดับไปเลย ไม่ได้ยินเสียงใครทั้งนั้นเลยจริงๆ…

“น้องคะ น้องคะ...ไปกันค่ะ” ฉันสะดุ้งจากภวังค์ทันทีที่พี่วรรณเธอสะกิดเรียกฉัน

“คะ...ปะ...ไปค่ะ”

ฉันเดินตามพี่วรรณไปแบบงงๆ เราเดินไปที่ลิฟต์เพื่อที่จะขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึก ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร เมื่อมาถึงเราทั้งสองก็เดินต่อเข้าไปด้านในสุดของชั้นมันดูเงียบมาก พนักงานบนชั้นนี้เท่าที่ฉันเห็นมีน้อยมากนับคนได้เลย แต่ละคนมีห้องเป็นของตัวเอง จริงๆก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่เพราะชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นชั้นของผู้บริหารนี้เนอะ

พวกเราเดินเข้ามาจนถึงด้านในสุด และฉันก็กำลังกังวลว่าฉันจะได้เป็นเลขาของ ‘บ้า เป็นไปไม่หรอกน่า ไม่ใช่แน่ๆ’

แต่.....

ป้ายหน้าห้องเขียนว่า ‘ประธานกรรมการ’ เหมือนโชคชะตากำลังเล่นตลกกับข้าวตูคนนี้ซะแล้วสิ หรือว่าวันนี้เทวดาที่คอยนับแต้มบุญจะไม่มาทำงานนะ รู้สึกว่าวันนี้ฉันขออะไรไปไม่ได้กลับมาสักอย่างเลย

ตอนนี้ในหัวฉันมีแต่คำว่า ‘โหดมาก โหดมากๆ โหดมากๆๆ .....’ เต็มไปหมด

“….”

ไม่สิไม่ได้...ฉันต้องสู้ แค่ 4 เดือนเองฉันจะต้องรอด ถ้าเราทำงานอย่างเต็มที่ไม่ทำอะไรผิดพลาดเขาก็คงไม่ดุหรอกน่ะ ฉันกำลังบิ้วอารมณ์ตัวเองให้มีแรง มีกำลังใจในการทำงานไม่ให้หนีจนตะเลิดเปิดเปิงไปซะก่อน ‘ลุยข้าวตู’

“พี่ส้มคะ วรรณพาเด็กฝึกงานมาแล้วค่ะ” พี่วรรณเธอเอ่ยบอกกับพี่อีกคน หญิงร่างท้วมที่ดูมีอายุกว่าพี่วรรณอยู่มากพอสมควรเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าขึ้นมามองฉันก่อนจะยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีค่ะ” ฉันพูดทักทายพี่ส้มพร้อมกับยกมือไหว้เธออย่างนอบน้อม ก่อนจะยิ้มให้กับเธออย่างเป็นมิตร

“สวัสดีจ่ะ” เธอก็ส่งยิ้มกลับมาให้ฉันเช่นกัน พี่ส้มเธอดูดีมากเลย ถึงจะดูมีอายุ แต่ใบหน้าที่สวยคมอย่างไร้ที่ตินั้นชวนให้หน้าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก

“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ววรรณไปก่อนนะคะ” พี่วรรณเอ่ยบอกกับพี่ส้มอย่างนอบน้อม

“จ้ะ ขอบใจนะ” พอพี่ส้มพูดจบพี่วรรณเธอก็เดินออกไปทันที

“ปะ...เดี๋ยวพี่พาไปพบท่านประธาน” พี่ส้มหันมาบอกกับฉันก่อนจะว่างเอกสารตรงหน้าลง

“คะ...ค่ะ” ฉันเดินตามพี่ส้มเข้าไปในห้องท่านประธาน

“ขออนุญาติค่ะท่านประธาน”

พอเข้ามาในห้องฉันก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบ้างอย่างเหมือนกำลังจ้องมองมาที่ฉันอยู่ สายตาแต่ละคนทำให้ฉันรู้สึกว่าพวกเขากำลังรอคอยการมาของฉันอย่างไงอย่างงั้น ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมามองสบตาของพวกเขาทีละคน ก่อนจะพบเข้ากับผู้ชายยืนใส่สูตร หน้านิ่งดูหน้ากลัวๆ เขาดูเหมือนจะเป็นมือขวาของผู้ชายที่นั่งอยู่ยังโต๊ะทำงานกลางห้องใหญ่แห่งนี้ ฉันเผลอสบตากับเขาเข้าทำให้ฉันรู้เลยค่ะว่าเขาหล่อสมคำร่ำลือจริงๆ ใบหน้าเรียวได้รูป ตามคมที่แฝงไปด้วยความดุดัน จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนาหนาได้รูป มาอยู่รวมกันบนใบหน้าของผู้ชายคนนี้ทำให้เขาดูไร้ที่ติอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ  แต่ถึงท่านประธานจะหน้าตาหล่อเหลาหมดจดเพียงใด ฉันก็ยังรู้สึกได้ว่าเขาหน้ากลัวอย่างที่คนในอินเตอร์เน็ตได้กล่าวกันไว้จริงๆ

ท่านประธานเขาจ้องหน้าฉันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อฉันเข้าไปได้ทั้งตัวอยู่แล้ว ตาคมเหมือนเหยี่ยวของเขาจ้องจนฉันต้องก้มหน้าลงไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตาของเขา

“ท่านประธานคะ ส้มพาน้องฝึกงาน…”

“ออกไปให้กันหมด” ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยออกมาเสียงเข้ม เป็นน้ำเสียงที่ฟังดูมีพลัง หรืออำนาจอะไรบางอย่างจนทำให้ฉันรู้สึกเสียวสันหลังไปหมด

“คะ...ค่ะ” แค่เสียงยังหน้ากลัวขนาดนี้เลย เวลาทำงานเขาต้องดุมากแน่ๆ อย่าขัดคำสั่งเขาเลยดีกว่า คิดได้ดังนั้นฉันจึงรีบเดินตามพี่ส้มกับคุณมือขวาของเขาออกไปทันที

แต่......

“เดี๋ยว!...” เหมือนทุกอย่างรอบตัวฉันนิ่งไปหมด ฉันเริ่มสัมผัสได้ว่าอีกไม่นานจะต้องเกิดเรื่องขึ้นกับแน่ๆ

“คนอื่นออกไป...เธออยู่ก่อน” ท่านประธานพูดกับพี่ส้มและพี่มือขวาก่อนที่จะหันมาพูดกับฉัน ‘ข้าวตูซวยแล้ว...’ ฉันพึ่งเข้าใจว่า ‘หัวใจสั่นละรัว’ เป็นยังไงก็ตอนนี้นี่แหละ

ตึกตึก ตึกตึก

“มองหน้าฉัน” เมื่อทั้งห้องเหลือแค่ฉันกับท่านประธานเพียงสองคน ท่านประธานเดินเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ จนฉันรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้กันมาก มาเกินไป ถึงจะรู้แบบนั้นก็เถอะฉันไม่มีความกล้ามากพอที่จะเขยิบหนีเขา เพราะขาเจ้ากรรมดันแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต่จะสั่นด้วยซ้ำ

“เธอเอาแต่ก้มหน้าแบบนี้...มันดูไม่มีมารยาท” พอท่านประธานพูดจบประโยคเท่านั้นแหละ...

“เธอออ!!!....” ด้วยความที่ฉันตกใจกลัวที่ท่านประธานกล่าวว่าฉัน ฉันจึงรีบเงยหน้ามองท่านประธานทันที โดยที่ฉันไม่ทันได้ระวังก็เลยทำให้...หัวของฉันกระแทกเข้ากับคางของท่านประธานเข้าอย่างจัง ‘แม่จ้าพ่อจ้า ช่วยข้าวตูด้วย!!!’ ฉันได้แต่ภาวนาอยู่ภายในใจ

“ขอโทษค่ะ...หนูไม่ได้ตั้งใจ” ฉันรีบยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวขอโทษท่านประธานออกไปทันที

...

เหมือนอากาศรอบตัวฉันดูอึมครึมไปหมด เราสองคนสบตากันอยู่อย่างนั้นสักพักหนึ่ง สายตาที่ดูคลาดเดาได้ยากในตอนแรก เปลี่ยนเป็นสายตาที่พร้อมจะบีบคนหนึ่งให้แหลกคามือเขาได้อยู่แล้ว

“ออกไป!!...” 

“คะ...ค่ะ” ฉันไม่รอช้ารีบก้มหัวให้ท่านประธาน แล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปทันที ท่านประธานดูโมโหฉันมากเลยตอนนี้ ‘ข้าวตูคนนี้จะรอดใช่ไหมเนี่ย’ ทำงานวันแรกก็ก่อเรื่องขนาดนี้ซะแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 31 : ครอบครัว (จบ)

    @โรงพยาบาล SE"พี่มาร์คัส พี่นักรบคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?" ฉันถามพี่มาร์คัสกับพี่นักรบออกไปทันทีที่ฉันเดินมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน"ทำใจดีๆไว้นะข้าว" พี่นักรับเอ่ยบอกกับฉันพร้อมสีหน้าที่ไม่สู้ดีเอาสะเลย"ฮึก ฮืออออ ไม่จริงเขาต้องไม่เป็นอะไร" ฉันเอ่ยบอกกับพี่นักรบพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย"ข้าวตู..." พี่มาร์คัสเอ่ยเรียกฉันเสียงอ่อน ก่อนที่มือหนาจะลูบลงที่บ่าของฉันอย่างปลอบประโลม"ฮึก มะ ไม่จริงใช่ไหมค่ะ" ฉันเอ่ยถามพวกเขาออกไปอีกครั้ง หัวใจสั่นระรัวเหมือนกับว่ามันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว"ถ้าข้าวเป็นห่วงมันขนาดนี้ทำไมไม่ให้อภัยมันสักที?" พี่มาร์คัสเอ่ยถามฉันขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างรอคำตอบ"คะ ใครบอกว่าหนูไม่ให้โอกาสเขาล่ะคะ" ฉันเอ่ยบอกกับพี่มาร์คัสออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหนออกมา"...""หนูให้โอกาสเขาตั้งนานแล..." ฉันยังไม่ทันพูดจบพี่นักรบก็เอ่ยแทรกขึ้นมา"ได้ยินชัดแล้วนะมึง" พี่นักเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองเลยไปที่ด้านหลังของฉัน อย่าบอกนะว่าเขายืนอยู่ข้างหลังฉันควับ!!! ฉันรีบหันกลับไปมองเขาทันทีที่พี่นักรบพูดจบ"ฮืออออ พี่โซโล่..." ฉันเอ่ยเรียกเขาก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเขาไว้ทันทีราว

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 30 : ดูแล

    3 ปีก่อน...ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!!'ใครอะ?' ข้อความในมือถือของจีน่าดังเขามารัวๆ ข้อความถูกส่งมาโดยคนที่เธอไม่รู้จัดเธอจึงกดเข้าไปดูแล้วกูพบว่ามันเป็นรูปข้าวปั้นแฟนหนุ่มของเธอกับนุ่นเพื่อนสาวคนสนิทกำลังนอนกอดกำลังนอนกอดกันอยู่ในสภาพที่ทั้งคู่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น รวมถึงสภาพห้องที่ดูแล้วราวกับว่าพึ่งจะผ่านศึกสงครามมา จีน่าเธอยืนดูภาพตรงหน้านิ่งเพราะเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเรื่องจริง แต่ต่อให้พยายามหาเหตุผมที่จะมาลบล้างภาพตรงหน้าสักเท่าไรมันก็ไม่หายไปสักทีจนกระทั่งกรี๊ดดดดดดดด ฮือออออออจีน่ากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ตอนนี้มันไม่สามารถระบายเป็นความเจ็บปวดได้ทั้งแฟนที่เธอรักและเพื่อนที่เธอสนิทด้วยทั้งคู่กำลังสวมเขาให้เธอจริงๆนะหรอ?ฮึกกกก ฮืออออออจีน่าพยายามโทรหาข้าวปั้นแต่โทรเท่าไรก็โทรไม่ติดสักที เธอจึงเลือกส่งข้อความไปแทน'มันเป็นเรื่องจริงหรอปั้น?' จีน่าส่งรูปที่มีบุคคลที่สามส่งมาให้เธอให้กับข้าวปั้นพร้อมกับพิมพ์ถามเขาออกไป'ปั้น''อ่านแล้วก็ตอบเล่าสิอย่าเงียบได้ไหม'ฮืออออออออ'ปั้นทำมันลงไปจริงหรอ' ยิ่งข้าวปั้นอ่านแล้วไม่ตอบมัน

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 29 : ขอโอกาส

    -SOLO PART-@บ้านข้าวตูผมขับรถสปอร์ตหรูของตัวเองเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของข้าวตู ผมไม่รู้ว่าแม่ของข้าวตูเธอรู้เรื่องของผมมากน้อยแค่ไหนแต่สิ่งที่ตอนนี้ผมควรจะทำมากที่สุดคือเล่าความเลวของตัวเองที่ได้กระทำไว้กับข้าวตู ให้แม่ของเธอได้รับรู้จากปากของผมเอง ผมไม่ได้คาดหวังว่าท่านจะให้อภัยผม เพราะถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของผม ผมก็คงไม่ให้อภัยใครง่ายๆ เหมือนกัน แต่อย่างน้อยผมก็อยากจะขอโอกาสอีกครั้งเพื่อปรับปรุงตัวเองกริ๊ง!!! กริ๊ง!!!ผมเดินลงจากรถและไปกดกริ๊งหน้าบ้านของข้าวตู รอไม่นานแม่ของข้าวตูเธอก็เดินตรงมาหาผม"คุณมาทำไมคะ" เธอเอ่ยถามทันทีที่เธอเห็นว่าคนที่มาเป็นผม ท่าทีเธอดูนิ่งจนผมเริ่มจะแปลกใจ"สวัสดีคับ ผมขอเข้าไปข้างไนได้ไหม?" ผมกล่าวทักทายแม่ข้าวตูด้วยถ่อยคำที่สุภาพ"เชิญค่ะ""ขอบคุณครับ" พูดจบผมจึงเดินตามแม่ข้าวตูเข้าไปในบ้านของเธอ"นั่งก่อนค่ะเดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้""ไม่เป็นไรครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณแม่""ค่ะ!!!" เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ทำให้ผมไปไม่เป็นเลยทีนี้ผมว่าผมเรียกเธอว่าแม่ก็ถูกแล้วก็เธอเป็นแม่ของเมียผมนิ"เอ่อ...ผมขอโทษนะครับเรื่องที่ผมทำร้ายข้าวตู" ผมเอ่ยขอโทษแม่ขอ

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 28 : พ่อ

    "ปั้น" เสียงของจีน่าเอ่ยเรียกแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ"ครับ" ข้าวปั้นหยุดเดิน ก่อนจะขานรับคำจีน่าพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ"ปั้นไม่โกรธโซเลยหรอ?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปด้วยความสงสัย เพราะนอกจากวันนั้นที่พวกเขาทะเลาะกันที่บ้านของข้าวปั้นแล้ว เขาก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าโกรธเคืองโซโล่ออกมาอีก"โกรธสิ! เราอยากจะบีบคอมันให้ตายคามือ" ข้าวปั้นเอ่ยตอบจีน่าออกมาเสียงเรียบ"...""แต่เราไม่ทำหรอ เดี๋ยวเวณกรรมก็ตามมันเองเรารู้จักน้องเราดีถึงภายนอกข้าวตูจะดูเป็นคนอ่อนแอก็เถอะ""หมายความว่า...ปั้นรู้?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปทั้งๆที่เธอก็พอจะรู้คำตอบอยู่บ้างแล้วจากคำพูดของเขาเมื่อกี้"เรารู้มานานแล้วว่าไอ้โซชอบข้าว" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไป"ปั้นผิดแล้ว..." จีน่าตอบข้าวปั้นออกไปด้วยรอยยิ้ม"หืม แต่เราเห็นว่ามันสั่งให้ลูกน้องของมันเอาตุ๊กตามาให้ข้าวเมื่อหลายปีก่อนนะ" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไปด้วยความงุนงง มันจะผิดไปได้ไงในเมื่อวันเกินข้าวตูเมื่อ 8 ปีก่อนหลังเลิกเรียนเขาเดินกลับมาบ้านก็เห็นว่ามันยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้วางแผลกับลูกน้องของมันเพื่อที่จะนำตุ๊กตามาให้ข้าวตู ทุกอยากอยู่ในสายตาของเขาหมด รวม

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่  27 : อุบัติเหตุ

    -KAOTU PART-"จอดรถเถอะนุ่นปล่อยข้าวตูไป น้องไม่เกี่ยวอะไรด้วย" เสียงของผู้หญิงที่ชื่อจีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนคนข้างๆ"เป็นห่วงกันจริงๆเลยน้องผัวเนี่ย อ้อไม่สิหรือต้องเรียกว่าพี่สะใภ้กันนะถึงจะถูก" ฉันอึ้งไปกับคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า 'หมายความว่าเธอคนนี้ที่ชื่อจีน่า เธอเป็นน้องสาวของผู้ชายใจร้ายคนนั้น และเธอก็เป็นแฟนเก่าของพี่ปั้นพี่ชายของฉันงั้นหรอ' ฉันพูดกับตัวเองอยู่ภายในใจพร้อมกับมองไปที่คุณจีน่าไปด้วยความงุนงง ทำไมความสัมพันธ์มันซับซ้อนจัง"หยุดเถอะนุ่น" คุณจีน่าพูดเสียงเเข็ง ตอนนี้สีหน้า ท่าทางของเธอดูเหมือนกับพี่ชายของเธอไม่มีผิดทั้งท่าทีที่ดูน่าเกรงขามและน้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นฉันว่า 'บรรยากาศบนรถมันเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้วสิ' คิดได้ดังนั้นฉันจึงขยับตัวเองไปนั่งติดกับที่พิงด้านหลัง แล้วมือทั้งสองข้างฉันจับเบาะรถไว้เเน่น ฉันไม่ได้ห่วงตัวเองเลยสักนิดแต่ฉันเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กในท้องฉันต่างหาก"กูไม่หยุด มึงจะสนมันทำไมมึงไม่เกลียดพี่มันแล้วหรอ" เธอตวาดคุณจีเสียงดัง"ฉันไม่มีทางเกลียดปั้น" คุณจีก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน"..." ฉันนั่งฟังที่เขาคุยกันอย่างเงียบๆ เพราะเรื่อง

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 26 : อันตราย

    17.00 น."ข้าวตู ข้าว" ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงพี่ปั้นที่เรียกฉันดังมาจากหน้าห้องนอนของฉัน"ค่า..." ฉันขานรับพี่ปั้นกลับไปก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ"ลงไปกินข้าวกัน""โอเครค่ะ เดี๋ยวหนูตามลงไปนะ" ฉันตอบพี่ปั้นกลับไปก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แล้วจึงเดินลงไปด้านล่าง"ฮืมมม หอมจังเลยค่ะแม่" ฉันเอ่ยบอกกับออกไป"งั้นหนูต้องกินเยอะๆนะลูก" แม่เอ่ยบอกกับฉันก่อนจะเดินเข้ามาลูบหัวของฉันอย่างทะนุถนอม"กำไลใครหรอข้าว?" เรานั่งกินอาหารกันไปได้สักพักพี่ปั้นก็เอ่ยถามฉันพร้อมกับมองดูกำไลที่ข้อมือของฉันอย่างสงสัย"ข้าวก็ไม่รู้ค่ะ มีคนมาส่งตุ๊กตามาให้ข้าวอีกแล้วค่ะ และในนั้นก็มีกำไลนี้มาด้วยข้าวพยายามแกะออกแล้วนะ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ออกสักที" ฉันอธิบายให้แม่กับพี่ปั้นฟัง"งั้นเดี๋ยวเราไปดูที่กล่องว่าเขาซื้อมาจากที่ไหน แล้วถ้าวันไหนว่างพี่จะพาไปเอาออก" พี่ปั้นเอ่ยบอกกับฉัน ก่อนที่ลงมือทานอาหารตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย นานแล้วที่เราสามคนแม่ลูกไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ทำให้อาหารมื้อนี้ยาวนานกว่าที่เคย แถมฉันก็ยังเจริญอาหารมากกว่าทุกครั้งอีกด้วย3 วันต่อมา...

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status