บทที่ 6 สำออย
เสี่ยวหลิงเข้าไปบอกเฉี่ยวซือให้ดูแลร้านเธอจะออกไปข้างนอกพักหนึ่งก่อนจะเดินออกมา ทว่าเธอรู้สึกสายตาและรังสีที่ส่งผ่านมายังเธอจนเธออึดอัดและไม่อยากจะไปเลยแม้แต่น้อย
"ในเมื่อออกมาแล้วก็รีบไปกันเถอะเวลาของฉันเป็นเงินเป็นทอง "เทียนเฉินพูดอย่างหัวเสียเดินนำหน้าทุกคนไปที่รถของเขา ระหว่างทางไปร้านอาหารหรูมีเทียนเฉินเป็นคนขับรถส่วนหยางฟงนั่งข้างคนขับข้างหลังจึงมีมู่หรูเหยากับเสี่ยวหลิงนั่งมาด้วยกัน
"ทำไมเธอมีหน้าไม่ดีเลยหรือว่าไม่ค่อยสบาย" จู่ ๆ มู่หรูเหยาได้สังเกตเห็นสีหน้าของเสี่ยวหลิงที่นั่งข้าง ๆ ตนทำให้สายตาคู่หนึ่งรีบเหลือบมองกระจกมายังคนด้านหลังทันที
"ฉันสบายดีไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ"
"คุณเสี่ยวหลงไม่ต้องเกรงใจนะครับถ้าไม่สบายน่าจะบอกผมตั้งแต่แรกจะไม่ได้ให้คุณออกมา ผมรู้สึกผิดเลย"
"เฮอะ สำออยเรียกร้องความสนใจสิไม่ว่า " เทียนเฉินพูดพึมพำทว่าคำพูดของเขาถึงหูของเสี่ยวหลิง เธอทำได้เพียงเงียบไม่อยากจะตอบโต้ไม่อย่างนั้นมู่หรูเหยาต้องสงสัยแน่ ๆ
“ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะ” เสี่ยวหลงนั่งเงียบ ๆ จนมาถึงร้านอาหารที่เทียนเฉินเป็นคนพามาทุกคนมานั่งในร้าน เทียนเฉินรับหน้าที่เป็นคนสั่งอาหาร
“พี่เทียนเฉินคงมาที่นี่บ่อย ๆ สินะคะ สั่งอาหารเหมือนรู้ว่าอะไรอร่อย” หรูเหยายิ้มเล้กยิ้มน้อยถามเทียนแนที่นั่งข้าง ๆ ตนเอง
“ที่นี่เป็นร้านที่ฉันมากินบ่อย ๆ เพราะใกล้ที่ทำงาน รีบกินเถอะอาหารมาเสิร์ฟแล้ว” เทียนเฉินอึดอัดอยากจะแยกย้ายเร็ว ๆ เมื่อเห็นเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเห็นหยางฟงเอาอกเอาใจเสี่ยวหลิงออกหน้าออกตา
“คุณเสี่ยวหลงชอบอันนี้มั้ยครับผมตักให้นะ” หยางฟงตักผัดผักให้แก่เสี่ยวหลิงตอนนั้นนั่นเองเธอเกิดอาการเหม็นจนแทบเก็บอาการไม่ไหวลมด้านในตีขึ้นทำให้เธอพะอืดพะอมจะอ้วกออกมาทันที
“อั๊วะ!” ” เธอรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้วิ่งไปห้องน้ำก่อนที่มันจะพุ่งออกมาภายในร้านอาหาร มู่หรูเหยาตกใจเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนเธอเองก็รีบลุกขึ้นวิ่งตามหลังเสี่ยวหลิงไปห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง
“เสี่ยวหลิงเธอไม่สบายจริง ๆ ทำไมไม่บอกเดี๋ยวฉันมานะคะทั้งสองกินกันไปก่อนเลยฉันขอตัวไปดูเพื่อนสักครู่”
“ได้ครับ ๆ ” หยางฟงรีบตอบก่อนจะคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“สำออยจริงๆ ”
“ฉันว่าคุณเสี่ยวหลิงไม่ได้สำออยหรอก แกมันอคติเมื่อครู่ฉันก็ได้ยินนะ ถ้าเธอกลับมาแล้วยังอาการไม่ดีเชิญแกอยู่กับว่าที่คู่หมั้นของแกเลยเดี๋ยวฉันจะอาสาพาคุณเสี่ยวหลิงไปหาหมอเอง”
“แกเป็นอะไรกับเธอถึงได้เป็นห่วงออกหน้าอย่างนี้ แกยังไม่รู้จักนิสัยของผู้หญิงคนนี้ต่างหากทั้งมารยาสาไถ ทั้งร้ายกาจไม่มีใครอยากจะยุ่งกับผู้หญิงแบบนี้หรอก ฉันเห็นว่าแกเป็นเพื่อนของฉันหรอกนะถึงได้เตือน ” หยางฟงคิ้วขมวดมากกว่าเดิมที่เห็นท่าทีของเพื่อน ไม่นานมู่หรูเหยาก็กลับมาที่โต๊ะโดยที่ไม่มีเสี่ยวหลิงตามกลับมา
“ทำไมกลับมาคนเดียวคุณเสี่ยวหลิงอยู่ไหนแล้วครับอาการของเธอเป็นอย่างไรบ้าง” หยางฟงถามด้วยความเป็นห่วง มู่หรูเหยานั่งลงที่เก้าอี้พร้อมตอบคำถามของหยางฟง
“เสี่ยวหลิงให้ฉันกลับมาที่นี่ก่อนเธอบอกว่าเธอไม่สบายแต่ไม่เป็นอะไรมาเลยขอกลับร้านก่อนค่ะ แต่น่าแปลกจังอาการที่เธอเป็นเหมือนไม่ใช่ไม่สบายแต่เธอเหมือนเหม็นกลิ่นอาหาร อาการเหมือนสาวใช้ที่บ้านเลย อาการของคนแพ้ท้อง” มู่หรูเหยาคิ้วขมวดพลางสงสัยและเอ่ยออกมาทำให้เทียนเฉินที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ หันขวับมองเธอทันที
“เมื่อครู่เธอว่าอะไรนะ”
“พอดีสาวใช้ที่บ้านนะค่ะเธอท้องได้ประมาณสองสามเดือนเวลาได้กลิ่นอาหารมักจะอาเจียนออกมาเขาเรียกว่าอาการแพ้ท้อง แต่ว่าฉันคงคิดไปเองเพราะเสี่ยวหลิงคงไม่มีทางท้องแน่นอนถ้าเธอมีแฟนคงต้องบอกฉันเป็นคนแรก”
“ได้ยินคุณมู่หรูเหยาพูดมาอย่างนี้ผมเองก็เบาใจคิดว่าเธอท้อง แฮะ ๆ ” หยางฟงหน้าซีดเมื่อได้ยินว่าเสี่ยวหลิงท้อง แต่ทว่าอีกคนกลับมีใบหน้าเคร่งเครียดมากกว่าเดิม หากเป็นอย่างที่มู่หรูเหยาพูดตอนนั้นที่เขานอนกับเธอก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว และคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกันอีกด้วย จิตใจของเทียนเฉินว้าวุ่นรีบชักชวนทุกคนกินข้าวเพื่อกลับไปที่โรงงาน
ฝั่งด้านเสี่ยวหลิงเธอมาเข้าห้องน้ำอ้วกหลายรอบได้ยินเสียงมู่หรูเหยามาเรียกอยู่หน้าห้องน้ำ เธอรีบคิดหาทางออกจากที่นี่หากอยู่ที่นี่ต่อไม่แน่ทุกคนต้องจับได้ว่าเธอท้องอยู่แน่นอน เสี่ยวหลิงเดินออกมาหามู่หรูเหยาใบหน้าซีดเซียวไร้เลือดฝาดพูดจาน้ำเสียงแหบแห้ง
“เสี่ยวหลิงเธอเป็นอย่างไรบ้าง”
“เอ่อ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายคงเป็นเพราะช่วงนี้ฉันพักผ่อนไม่เพียงพอ เธอเข้าไปหาพวกเขาเถอะนะฉันต้องขอโทษด้วยที่ต้องขอตัวกลับก่อน”
“ได้สิ เธออย่าลืมหาหมอเอายาไปกินด้วยล่ะ”
“ได้เดี๋ยวฉันจะแวะหาหมอก่อนกลับแล้วกัน ฉันไปก่อนนะแล้วพบกันใหม่” มู่หรูเหยาพยักหน้าก่อนจะเดินกลับไปหาสองหนุ่มด้านนอก ส่วนเสี่ยวหลิงเธอเดินออกไปจากร้านอย่างเร่งรีบ
“ฉันจะไม่ให้เธอกับเทียนเฉินต้องพลัดพรากกันหรอกนะ เพราะฉันไม่คิดเป็นนางร้ายแย่งเขาแน่นอน ” เสี่ยวหลิงพูดพึมพำออกมาระหว่างทางกหลับ
หลังจากที่เทียนเฉินแยกย้ายกับมู่หรูเหยาและเพื่อนของเขาหลังกินข้าวเสร็จตอนนี้เขากระวนกระวายใจจึงได้เรียกลูกน้องคนสนิทให้เขามาหา
ก๊อก ๆ เสียงประตูดังขึ้น ลูกน้องคนสนิทของเทียนเฉินเดินเข้ามาด้านในเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเจ้านายรีบเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“คุณเทียนเฉินเรียกผมเข้ามามีเรื่องอะไรหรือครับ หรือว่างานมีปัญหา”
“เรื่องงานไม่มีปัญหาแต่ฉันมีเรื่องให้นายจัดการ ช่วยไปสืบมาทีและไปหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้มาให้ฉันหน่อย ดูว่าช่วงระหว่างนี้เธอได้เข้าโรงพยาบาลหรือไปตรวจที่ไหนหรือไม่” เทียนเฉินหยิบรูปถ่ายของเสี่ยวหลิงให้แก่ลูกน้อง เขาหยิบขึ้นมามองดูก็จำได้ทันทีนี่คือเจ้าของร้านที่เปิดอยู่ใกล้ ๆ โรงงานนี่น่า
“คุณเทียนเฉินจะให้ผมสะกดรอยตามเธอมั้ยครับ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นเจ้าของร้านที่เปิดใกล้ ๆ โรงงานของเรา”
“ไปสืบประวัติของเธอมาและให้คนสะกดรอยตามว่าช่วงนี้เธอไปที่ไหนบ้าง”
“ได้ครับ” ลูกน้องรับคำสั่งพร้อมเดินจากไป
“หึ! ที่ฉันสืบเรื่องของเธอไม่ใช่ว่าสนใจหรอกนะแค่อยากให้แน่ใจว่าเธอท้องหรือเปล่าก็แค่นั้น แต่ถ้าเธอท้องเด็กในท้องอาจจะไม่ใช่ลูกของฉันก็ได้ หากเป็นอย่างนั้นคนอย่างเธอต้องจับฉันไม่ยอมปล่อยแน่ ๆ ” เทียนเฉินจ้องมองไปด้านนอกพลางครุ่นคิด
ตอนที่ 13 นางร้ายถือกำเนิด“ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ยนังเสี่ยวหลิงมันร้าย ที่มันคอยอยู่ข้าง ๆ เธอเพราะเธอทั้งรวยและใจดี มันอิจฉาเธอและอยากมีชีวิตเหมือนเธอนะสิ มันไม่เคยเห็นใครเป็นเพื่อนหรอก ที่มันคอยอยู่ข้าง ๆ เธอเพราะเธอทั้งรวยและใจดี มันอิจฉาเธอและอยากมีชีวิตเหมือนเธอนะสิ มันไม่เคยเห็นใครเป็นเพื่อนหรอก รู้ทั้งรู้ว่าไป๋เทียนเฉินผู้ชายคนนั้นเธอแอบชอบแอบรักมานาน แต่เสี่ยวหลิงกลับหักหลังเธอได้ ทรยศความไว้ใจที่เธอมีให้ ตอนนี้เธอเห็นแล้วใช่มั้ยคนที่เธอหวังดีกลับกลายเป็นงูพิษที่แว้งกัดเธอข้างหลัง เรื่องนี้เธออย่ายอมเด็ดขาดไม่ว่ายังไงเธอกำลังจะเป็นคู่หมั้นของไป๋เทียนเฉิน ส่วนนั่งเสี่ยวหลิงเป็นได้แค่ของเล่นของเขาเท่านั้น ครอบครัวตระกูลไป๋คงรับไม่ได้แน่ ๆ ถ้ารู้ว่านังเสี่ยวหลิงมาจากครอบครัวแบบไหน พวกเราเห็นใจเธอนะหรูเหยา” หรูเหยาเจ็บใจดวงตาร้อนผ่าว ใจเต้นแรงไม่คิดว่าเสี่ยวหลิงได้แย่งทุกอย่างไปจากเธอจนหมด ตั้งแต่ตอนที่เจอเสี่ยวหลิงแรก ๆ เธอไม่ชอบใจด้วยซ้ำที่ในห้องจะมีคนที่มีใบหน้างดงามมากกว่าเธอ ไม่ว่าจะแต่งตัวซอมซ่อแค่ไหนก็ปกปิดความงามของเธอเอาไว้ไม่ได้ หรูเหยาแสร้งเป็นคนดีมีน้ำใจยอมคบเธอเป็นเพื่อ
ตอนที่ 12 ความแตกรุ่งเช้าวันต่อมาเสี่ยวหลิงเดินทางไปที่ร้านเพื่อบอกลากับเฉี่ยวซือส่วนของใช้เธอเอาไปไว้ในมิติจะได้สะดวกในการเดินทางแค่เพียงตัวของเธอที่เดินไปมายังลำบากจึงคิดว่าเอาไว้ในมิติจะง่ายกว่าเธอมาถึงร้านเห็นเฉี่ยวซือกำลังเปิดร้านอย่างขยันขันแข็งและตรงต่อเวลาทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเธอจะเข้าร้านวันไหน หากเป็นคนอื่นคงดีใจที่เจ้าของร้านไม่เข้ามา“มาแต่เช้าเลยนะเฉี่ยวซือฉันวางใจจริง ๆ ที่เห็นเธอใส่ใจและตรงต่อเวลาแบบนี้ในอนาคตเธอต้องเป็นเจ้าของร้านที่ดีแน่ ๆ ”“พี่เสี่ยวหลิงดีขึ้นแล้วหรือคะ ฉันล่ะเป็นห่วงพี่จริง ๆ เข้ามาในร้านสิคะฉันจะเอาบัญชีของร้านมาให้ตรวจสอบ มีของหลายอย่างที่หมดฉันว่าเย็นนี้จะไปหาพี่ที่ห้องโชคดีที่พี่มาหาที่ร้านก่อน” เธอดีใจยิ้มแก้มปริรีบเดินเข้ามาประคองเสี่ยวหลิงไปนั่งเก้าอี้ยกสมุดบัญชีมาให้ตรวจสอบความถูกต้อง และยกกระปุกเก็บเงินมาให้เสี่ยวหลิงได้นับว่าตรงกับในสมุดหรือไม่? เพื่อแสดงความจริงใจ แต่ทว่าเสี่ยวหลิงเลือกที่จะหยิบเงินออกมาจากกระปุกเพียงแค่จำนวนหนึ่งน้อยกว่าที่อยู่ในกระปุกเงินนั้นอยู่มาก ก่อนจะดันกระปุกและสมุดบัญชีให้เฉี่ยวซือ ทำให้เธอคิ้วขมวดเข้าหากันด้วย
ตอนที่ 11 ต้องการแค่เด็กฝั่งด้านหยางฟงเขากระชากคอเพื่อนตัวดีเข้ามาในห้องทำงานก่อนจะเหวี่ยงตัวของเทียนเฉินทุ่มลงที่เก้าอี้รับรองแขกพร้อมเค้นถามความจริงทั้งหมด“เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง นายเล่าให้ฉันฟังเดี๋ยวนี้ ทำไมถึงได้มีนิสัยเลวทรามต่ำช้ายิ่งกว่าสัตว์นรกกันห่ะ”“นายจะโมโหอะไรนักหนาว่ะ นี่นายจริงจังกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ หรือไง ก็เอาตามที่ฉันพูดสิ เมื่อไหร่ที่เธอคลอดลูกเสร็จนายก็เอาตัวเธอไปส่วนฉันจะรับเด็กไว้เอง”“เทียนเฉินนายมันยังเหลือความเป็นคนอยู่มั้ย? กล้าพูดออกมาได้ยังไงต่ำยิ่งกว่าฉันคิดจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าเพื่อนรักของฉันจะกลายเป็นคนเลวแบบนี้ ถ้าจะทำอย่างนั้นนายมอบคุณเสี่ยวหลิงกับลูกของนายให้ฉันเสียยังดีกว่าและนายก็ควรออกจากชีวิตของเธอไปซ่ะ นายไม่สมควรเป็นพ่อใครทั้งนั้นดูการกระทำของนายที่ผ่านมา ฉันคิดว่าไม่ว่ายังไงคุณเสี่ยวหลิงคงไม่ยอมให้แกพรากลูกจากเธอง่าย ๆ”“เฮอะ! ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะมีสิทธิ์อะไร อีกอย่างฉันไม่ได้เป็นคนเต็มใจที่จะหลับนอนกับเธอเสียหน่อย เธอมันเป็นผู้ที่หญิงที่มารยาหลอกล่อใส่ยาให้ฉันกิน มอมเหล้าฉันจนฉันได้เสียกับเธอนะสิ เธอนะรักความสบายคิดว่าจะจับฉันด้วยเรื่อง
ตอนที่ 10 วุ่นวายเช้าวันต่อมาเสี่ยวหลิงเปิดร้านเหมือนทุกวัน ช่วงเช้า ๆ มีคนเข้าร้านมากมาย เธอจึงมาคิดเงินและให้เฉี่ยวซือไปทำความสะอาดร้านกริ่ง..!! เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้นเสี่ยวหลิงเอ่ยทักททายลูกค้าเหมือนอย่างเคย“สวัสดีค่ะ เชิญเลือกซื้อของได้ตามสบายนะคะ”“คุณเสี่ยวหลิงสบายดีมั้ยครับ”“คุณหยางฟง ฉันสบายดีค่ะ” เมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือหยางฟงที่หายหน้าไปนานเขาจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าและมองมาที่ท้องของเธอทำให้เสี่ยวหลิงใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย“ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ ขอเวลาสักครู่ได้มั้ยครับ” เสี่ยวหลิงเริ่มอึดอัดใจเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการคุยเรื่องอะไร เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงนี้คนงานเริ่มไปทำงานกันแล้ว ลูกค้าไม่ค่อยมีเท่าตอนแรกเธอจึงยอมออกไปคุยกับเขาที่หน้าร้าน“ได้สิคะ เดี๋ยวคุณไปรอฉันอยู่หน้าร้านก่อนน ฉันจะเอาน้ำไปให้” หยางฟงพยักหน้าออกไปรอเธอที่ม้านั่งด้านนอกร้าน ไม่นานเสี่ยวหลิงเดินตามออกมาพร้อมน้ำในแก้วยื่นให้กับเขา“ขอโทษนะครับที่มารบกวนตอนแรกผมจะรอให้ถึงตอนเย็นเสียก่อน แต่ว่าเรื่องนี้มันกวนใจผมตั้งแต่เมื่อคืนทำให้ผมนอนไม่หลับเลย”“เรื่องอะไรคะที่กวนใจขอ
ตอนที่ 9 ขอฝากเพื่อนฉันด้วยนะคะตะวันบ่ายคล้อยวันนี้ท้องฟ้าอึมครึมเหมือนฝนจะตก ลูกค้าไม่ค่อยมีเท่าไหร่นักเสี่ยวหลิงออกมานั่งเล่นหน้าร้าน แม้ว่าไป๋เทียนเฉินไม่ได้มารบกวนเธอ แต่หยางฟงเพื่อนของเขาก็ยังคอยมาหาเธออยู่บ่อย ๆ ครั้งทว่าช่วงหลังมานี้เหมือนเขาจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงานทำให้เธอไม่ได้เจอเขาหลายเดือน และเขายังไม่รู้ว่าเธอนั้นกำลังท้องอีกด้วย“เสี่ยวหลิงคิดอะไรอยู่นั่งเหม่อเชียวนะ ฉันคิดถึงเธอจังเลยช่วงนี้ฉันวุ่นวายทำให้สองเดือนที่ผ่านมาไม่ได้มาหาเธอ สบายดีหรือเปล่าเอ๊ะ! นี่เธออ้วนขึ้นหรือเปล่านะดูสิสะโพกของเธอหนาขึ้นมากกว่าเดิมอีก” เสียงสูงดังขึ้นสายตาของเธอจ้องมองเสี่ยวหลิงตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ว่าจะอวบอ้วนขึ้นใบหน้าของเธอกลับผ่องใสมากกว่าเดิมเสียอีก“หรูเหยามาตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่งลงก่อนสิเดี๋ยวฉันไปเอาน้ำกับขนมมาให้”“นี่! เสี่ยวหลิงเธอไม่ได้อ้วนใช่มั้ย? ทำไมหน้าท้องของเธอถึงได้ใหญ่เหมือนคนท้องหรือว่าเธอท้อง!!” หรูเหยาคิดตามตั้งแต่ครั้งก่อนที่อาการของเสี่ยวหลิงเหมือนคนแพ้ท้องและตอนนี้ท้องเธอใหญ่ขึ้นเหมือนท้องหลายเดือนแล้ว ดวงตาของหรูเหยาเบิกโพลงอ้าปากค้างก่อนจะยิ้มออกมาระรื่
ตอนที่ 8 เขาคือลูกของฉันคนเดียว“นายตามฉันมาทำไมอีก ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่เอาไม้ฟาดที่หัวของนายฉันไม่ขอโทษหรอกนะ เพราะไม่ใช่ความผิดของฉัน” แม้ว่าจะโมโหแค่ไหนแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเทียนเฉินเธอยังเบาใจลงเล็กน้อย ต่อว่าเขาเสร็จเธอกำลังจะก้าวเดินหนี ทว่าจู่ ๆ มือหนากลับคว้ามาจับแขนของเธอเอาไว้ก่อน“เธอยังไปไหนไม่ได้ ฉันมีเรื่องจะต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง”“นายมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันอีกไม่ทราบ ฉันนะไม่มีอะไรจะคุยกับนายทั้งนั้นหรือว่าอยากจะโดนฉันตบอีก ปล่อยมือของนายออกจากแขนของฉันเดี๋ยวนี้ และเลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันเสียที ฉันไม่อยากให้เพื่อนของฉันเสียใจ”“ฮึ! คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ หรือไง เมื่อครู่เธอพูดว่าอะไรนะไม่อยากให้เพื่อนเธอเสียใจแต่คืนนั้นเธอเองมิใช่หรือไงที่มอมเหล้าและลากฉันเข้าไปในห้องนะ มานี่กับฉัน” เขาฉุดกระชากลากเธอไปที่รถยนต์ของเขาแต่เสี่ยวหลิงไม่ยอมและไม่ไปไหนกับเขาทั้งนั้น“ไม่ ปล่อยฉัน ฉันไม่ไปไหนกับนายทั้งนั้นหากนายไม่ปล่อยฉันจะร้องกรี๊ดให้ผู้คนมาช่วย”“เธอนี่มันพูดมากเสียจริง แค่ไปที่โรงยาบาลตรวจสอบแค่ไม่นาน ฉันอยากให้แน่ใจว่าลูกในท้องของเธอเป็นลูกของฉันหรือของผู้ชายคนอื