Share

บทที่  7 ความสัมพันธ์ในอดีต(2)

last update Last Updated: 2025-02-20 14:35:47

“ฉันคือญาติของเด็กชายหลี่จื่อรั่วค่ะ!”

ซ่งเจียซินหยุดเท้าที่หน้าพยาบาลสาวแล้วรายงานตัว

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ”

“ฉัน...”

“เธอเป็นแม่ของพวกเราครับ”

หลี่จื่อหมิงเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ามีท่าทีอึดอัด มือเล็กกำหมัดแน่น รู้ดีว่าในใจของเสวี่ยชิงหยวนผู้นี้ไม่เคยคิดว่าพวกเขาสามพี่น้องเป็นลูก แต่ในเวลานี้พวกเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ การตัดสินใจทางการแพทย์จำเป็นต้องให้เธอที่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้วรับรอง ดังนั้นไม่ว่าเธอจะยินดีหรือไม่ เขาก็จำเป็นต้องให้เธอยอมรับสถานะนี้ชั่วคราวเพื่อให้การรักษาหลี่จื่อรั่วไม่มีปัญหา

ซ่งเจียซินตกใจกับคำตอบของเด็กชาย แต่ก็รู้สึกดีที่เด็กชายรู้จักประเมินสถานการณ์ และวางตัวได้เหมาะสม

“ใช่ค่ะ... ฉันเป็นแม่ของจื่อรั่ว”

“เช่นนั้นเชิญคุณทางนี้เลยค่ะ คุณหมอโจวรออยู่”

พยาบาลสาวผายมือแล้วเดินนำทางซ่งเจียซินไปยังห้องข้าง ๆ เมื่อมาถึงหน้าห้องแพทย์ซ่งเจียซินก็ชะงักเท้าเล็กน้อย ปรายตามองเด็กชายด้านหลังแล้วเอ่ยถามพยาบาลตรงหน้าด้วยท่าทางสุภาพ

“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าฉันสามารถพาลูก ๆ และคนติดตามเข้าไปด้วยได้ไหม”

แม้ซ่งเจียซินจะรู้ว่าสิ่งที่แพทย์ในห้องต้องการพูดคุยคืออาการเจ็บป่วยของหลี่จื่อรั่ว แต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้เหมาะสมให้เด็กชายด้านหลังรับรู้หรือไม่

ดังนั้นการพาเด็กชายทั้งสองเข้าไปในห้องแพทย์โดยพลการนั้นนับเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมนัก แต่ขณะเดียวกันเธอเองก็รู้ว่าเด็กแฝดทั้งสองห่วงหลี่จื่อรั่วแฝดคนน้องเป็นอย่างมากและคงไม่ยินยอมง่าย ๆ หากเธอเป็นคนเอ่ยปากห้ามปราม เธอจึงยกเรื่องนี้ให้พยาบาลสาวตรงหน้าเป็นคนตัดสิน

“ได้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

เมื่อพยาบาลสาวตรงหน้าเอ่ยอนุญาตซ่งเจียซินก็ยิ้มกว้าง นั่นเพราะมันหมายความว่าอาการของหลี่จื่อรั่วไม่ร้ายแรงและสามารถให้เด็กชายทั้งสองรับรู้ได้

“สวัสดีค่ะ ฉันซ่ง... เสวี่ยชิงหยวน แม่ของเด็กชายหลี่จื่อรั่วค่ะ”

ซ่งเจียซินเอ่ยแนะนำตัวกับนายแพทย์ตรงหน้า

“สวัสดีครับ เชิญคุณเสวี่ยนั่งก่อน”

“ขอบคุณค่ะ”

“ผมหมอโจว เป็นแพทย์เจ้าของไข้ของเด็กชายหลี่จื่อรั่วครับ เบื้องต้นผมต้องชมเชยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นของคุณมาก ๆ”

ปกติแล้วผู้คนที่ถูกน้ำร้อนลวกมา หากไม่พามาทั้งสภาพเละเทะ ก็จะพันด้วยผ้ามาจนแน่นไปหมด เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปิดดูบาดแผลเพื่อประเมินระดับความรุนแรงจึงทำให้ผิวหนังชั้นนอกหลุดลอกติดไปกับผ้าที่พัน ทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นไปอีก

“ขอบคุณค่ะ แล้วไม่ทราบว่าอาการของจื่อรั่ว เป็นยังไงบ้างคะรุนแรงมากไหม”

“ไม่รุนแรงมากครับ ถ้ามองด้วยตาเปล่าบาดแผลอาจจะดูมีขนาดใหญ่ แต่ความรุนแรงเป็นเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ต่อไปแค่ทำแผลทุกวัน ดูแลเรื่องทำความสะอาดให้ดีก็พอแล้วครับ”

“ขอบคุณค่ะ ฉันยังกังวลกลัวว่าบาดแผลของเขาจะร้ายแรง”

“ไม่ต้องห่วงครับ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่หากมีเรื่องอะไรร้ายแรงผมสามารถขอคำปรึกษาจากอาจารย์หมอหยังได้ตลอดเวลา”

เมื่อได้ยินคนตรงหน้าเอ่ยถึง อาจารย์หมอหยัง ซ่งเจียซินก็ยิ้มกว้าง เพราะถึงแม้ว่าในชีวิตก่อนเธอจะไม่ได้ทำงานในสายอาชีพสาธารณสุข แต่ประวัติอันน่าทึ่งของ นายแพทย์หยังจือจุ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการรักษาแผลถูกไฟลวกในยุคอดีตก็ทำให้เธอนึกชื่นชมเขามาโดยตลอด

“ผมสั่งยาให้แล้วครับ เชิญคุณรับยาและใบนัดที่พยาบาลหน้าห้องได้เลย”

“ขอบคุณคุณหมอโจวมากเลยนะคะ”

“ครับ”

ซ่งเจียซินเดินออกมาจากห้องหมอโจวก็ให้หูหลินอิงและเด็กชายทั้งสองรอรับหลี่จื่อรั่วที่หน้าห้องฉุกเฉิน ในขณะที่ตนเองเดินไปจัดการเรื่องรับยาและค่าใช้จ่าย

“แม่ครับ”

เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นด้านหลัง ซ่งเจียซินที่จ่ายเงินและรับยาเรียบร้อยแล้วหันมาเห็นเด็กชายที่แขนซ้ายถูกพันด้วยผ้าพันแผลอีกทั้งยังคล้องผ้าห้อยคอเอาไว้ก็ยิ้มกว้าง

“จื่อรั่ว เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม”

“ไม่เจ็บครับ พี่พยาบาลในห้องใจดีและมือเบามากครับ”

หลี่จื่อรั่วบอกหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม หากแต่ด้วยตาที่แดงก่ำและบวมนิด ๆ ของเขาก็ทำให้ซ่งเจียซินรู้ว่าเด็กชายเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาแน่ ๆ หญิงสาววางมือลงบนแก้มนุ่มของเขาแล้วส่งยิ้มกว้าง

“อย่างนั้นกลับบ้านเรากันนะ”

ซ่งเจียซินพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยน หลี่จื่อรั่วพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง ขณะที่หลี่จื่อชิงทำเสียงค่อนขอดในลำคอ

กลับบ้านเรา อะไรกัน นั่นมันบ้านของพ่อกับแม่พวกเราต่างหาก”

คำพูดของหลี่จื่อชิง แม้จะไม่ดังมากแต่ซ่งเจียซินก็ได้ยินชัดเจน รอยยิ้มบนใบหน้าจึงสะดุดไปเล็กน้อย แต่พริบตาก็กลับมาสดใสดังเดิม หลี่จื่อหมิงเห็นน้องชายพูดจาไม่เหมาะสมก็ตวัดสายตาปรามเขา คนช่างพูดจึงเงียบเสียงลงแล้วเมินหน้าไปอีกทาง เขาพูดอะไรผิดกัน

ซ่งเจียซินไม่ได้ถือสาคำพูดของหลี่จื่อชิง อย่างไรเขาก็เป็นเพียงเด็กชายเจ็ดขวบเท่านั้น จะรักมารดาผู้ให้กำเนิดมากกว่ามารดาเลี้ยงเช่นเธอก็ไม่แปลก

“พวกเรากลับกันเถอะ”

หญิงสาวกล่าวชวนอีกครั้งโดยจงใจตัดคำว่า บ้านเรา

ออกไป แต่เพราะขากลับซ่งเจียซินแวะซื้อของที่ตลาด ดังนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ใช้เวลาถึงสองชั่วโมง ทั้งที่ด้วยระยะห่างจากบ้านหลี่ไปจนถึงโรงพยาบาลนั้นใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

“จื่อรั่ววันนี้นอนพักให้มาก ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ อิงอิงฝากเธอดูแลเขาด้วยนะ”

“ค่ะ”

“ถ้าไม่เพราะคนบางคนมัวแต่เดินเที่ยวเล่น จื่อรั่วก็คงได้กลับมาพักตั้งนานแล้ว”

หลี่จื่อชิงพูดโดยไม่สบตาใคร แน่นอนว่าซ่งเจียซินรู้ดีว่าคนบางคนที่เขาเพิ่งพูดถึงก็คือเธอนั่นเอง แต่อีกฝ่ายอายุแค่เจ็ดขวบไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องไปทะเลาะด้วย ดังนั้นจึงทำเพียงถอนหายใจแล้วส่งของในมือให้สาวใช้หูหลินอิง

“อิงอิง มื้อเย็นทำเมนูปลาเพิ่มสักสองอย่าง จื่อรั่วเป็นแผลกินโปรตีนเสริมจะได้ฟื้นตัวไวขึ้น”

พูดจบคนก็เดินกลับขึ้นห้องพักไป หลี่จื่อหมิงมองตามแผ่นหลังเล็กที่แท้มารดาเลี้ยงของเขาลงไปเดินซื้อของร่วมชั่วโมงกว่าก็เพื่อ หาซื้อของมาทำอาหารบำรุงให้หลี่จื่อรั่ว 

“จื่อชิง ต่อไปพูดให้น้อยหน่อย ระวังคำพูดด้วย”

“จื่อหมิง นายคงไม่คิดเข้าข้างหญิงใจร้ายคนนั้นใช่ไหม อย่าลืมสิเธอไม่ใช่แม่จริง ๆ ของพวกเรา แม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยงไม่มีทางดีกับพวกเราอย่างจริงใจ ทั้งหมดเธอต้องแกล้งทำดีกับพวกเราแน่ ๆ”

“อย่างนั้นพวกเราก็แค่แกล้งทำดีกลับ แบบนี้ก็ถือว่าเสมอกันไม่ใช่หรือไง”

ไม่ว่าเรื่องในวันนี้เธอจะเสแสร้งหรือเธอจะเปลี่ยนไปจริง ๆ ขอแค่เป็นเช่นนี้ไปตลอด เขาก็สามารถแกล้งยอมรับเธอได้เช่นกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด (จบ)

    "ผมไม่ให้ไป!""คุณเฉิน นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวแบบนี้""สิทธิ์ในการเป็นสามีของคุณยังไงล่ะ"ได้ยินคำพูดที่เอาแต่ใจของชายหนุ่มตรงหน้าสิงฉู่หรันก็ได้แต่ขบกรามแน่น เดินเข้ามาประชิดตัวเขาแล้วพูดเสียงหนักแน่นลอดไรฟัน"อย่างนั้นฉันก็จะหย่า ต่อจากนี้ระหว่างคุณกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"เฉิงเซียวขบกรามแน่น สิงฉู่หรันเธอกล้าดีอย่างไรมาพูดเรื่องหย่ากับเขาเช่นนี้ ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำอธิบายอะไรคนโตก็ตวัดอุ้มหญิงสาวขึ้นแนบอก"ว้าย! ท่านประธานเฉิน คุณจะทำอะไร ปล่อยตัวฉู่หรันนะคะ""เธอเป็นภรรยาของผม ผมจะจับจะปล่อยคุณเกี่ยวอะไรด้วย""แต่ฉันเป็นผู้จัดการส้วนตัวของน้องฉู่หรันนะคะ""อย่างนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็ไม่ต้องเป็นอีก ผม! ไล่! คุณ! ออก!""คุณเฉิน คุณถือดีอะไรมาไล่คนของฉันออก""คนของเธออย่างนั้นหรอ ฉู่หรันชีวิตนี้คนที่สามารถใช้คำว่าคนของเธอมีแค่ฉัน เฉินเซียว! คนเดียวเท่านั้น"และนับจากเหตุการณ์นี้ดาราสาวดาวรุ่งสิงฉู่หรันก็หายไปจากวงการบันเทิง ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าเป็นเพราะสามีของเธอหึงหวงภรรยาคนสวยมาก ถึงขั้นมอบหุ้นกิจการของตระกูลเฉินครึ่งหนึ่งให้เธอเป็นข้อแลกเปล

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด (3) 

    หลังจากที่หลี่จื่อหมิงหายดีแล้ว ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เว้นเพียงเรื่องของซ่งเจียซินและหลี่โจวอี้ ที่ทุกคืนจะต้องวุ่นวายจนกลับเช้า เขาจึงยอมปล่อยให้เธอได้นอนพัก"เด็กๆ อยากได้น้องสาวมาก ช่วงนี้แม้ผมจะเหนื่อยกับคนไข้ไปหน่อยแต่ก็ยินดีทำเพื่อพวกเขา"ซ่งเจียซินถอนหายใจอย่างระอา เธอใช้ชีวิตมาสองชาติสองภพเพิ่งเคยเจอคนที่หลงและมั่นใจในตัวเองถึงเพียงนี้ "คุณเสวี่ยครับ ทางร้านเหม่ยลี่ส่งชุดมาให้แล้วครับ"ตงซานรายงานพร้อมกับส่งกล่องกระดาษห้า ใบให้กับหญิงสาวผู้เป็นนาย ซ่งเจียซินพยักหน้ารับ อาทิตย์ก่อนหลังจากที่ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมงานหมั้นของอันลู่ซือและประธานฮั่ว ซ่งเจียซินก็สั่งตัดชุดให้กับตัวเองและพ่อลูกบ้านหลี่ทั้งสี่คน"คุณเสวี่ย คุณจะพานายพลหลี่ แล้วก็เด็กๆ ไปร่วมงานด้วยจริงๆ หรือครับ"ถึงแม้ว่าหลี่โจวอี้จะเป็นนายพลที่ผู้คนนับหน้าถือตา แต่งานสังคมแบบนี้มีแต่นักธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ หลี่โจวอี้เป็นทหารเข้าไปร่วมงานอาจจะรู้สึกอึดอัดไม่สะดวกในการวางตัว"พวกเขาเป็นคนของฉัน หากเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง"เมื่อเจ้านายสาวกล่าวออกมาเช่นนี้ ตงซานก็ไม่คิดเซ้าซี้ให้มากความ หมุนตัวเดินออกไปทำหน

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด (2)

    ทางด้านซ่งเจียซินหลังจากที่หลี่โจวอี้ลงไปส่งเฟิ่งเฉิงเยว่ เธอก็ตักข้าวต้มปลาใส่ชามส่งให้เด็กๆ อย่างใส่ใจ จนพวกเขาอดที่จะคิดถึงมารดาผู้ให้กำเนิดไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่พ่อออกจากประตูไป เธอไม่เพียงไม่ใส่ใจพวกเขา ทุกคำพูดหากไม่ตำหนิพ่อ ก็ด่าทอมารดาเลี้ยง ยุยงให้พวกเขาเกียจชังอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา และที่ร้ายแรงเกินกว่าจะยอมรับก็คือการกระทำที่มารดาผู้นั้นกระทำกับลุงเฟิ่งของพวกเขา"ฝีมือของพี่อิงอิงนับว่าไม่เลว แต่ก็ยังเทียบกับมือของแม่ไม่ได้"“จริงครับ แม่ครับพรุ่งนี้คุณหมอก็จะให้จื่อหมิงกลับบ้านได้แล้ว แม่ทำข้าวต้มปลาให้พวกเรากินได้ไหมครับ”“ถ้าลูกๆ อยากกิน แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”ซ่งเจียซินเห็นเด็กๆ มีความสุขเช่นนี้ในใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นไปด้วย เพียงแต่เมื่อมองไปยังหลี่จื่อหมิงที่นั่งอยู่บนเตียงโดยไม่ตักอาหารกินสักคำ อีกทั้งสีหน้าและแววตาของเขายังเต็มไปด้วยความกังวลบางอย่าง ก็คาดเดาไปว่าเด็กชายคงคิดถึงกวงเหยียนฟางให้เธอดีแค่ไหน ก็เป็นได้แค่มารดาเลี้ยง ไม่อาจเทียบเท่ากับมารดาที่แท้จริงในใจของเธอรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแต่ซ่งเจียซินไม่ใช่คนไร้เหตุผล จิตใจคับแคบ จึงเข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทสุดท้าย แม่คนนี้ดีที่สุด

    ซ่งเจียซินลุกจากเตียงด้วยความยากลำบากก่อนจะตวัดสายตามองไปทางชายหนุ่มที่ยังนอนอยู่บนเตียงด้วยความไม่พอใจ"คุณหลี่ ทำไมคุณยังไม่รีบลุกมาแต่งตัวอีกไม่ใช่คุณบอกว่าเด็กๆ กำลังรอกินข้าวต้มปลาของฉันอยู่หรือคะ""มีเฉิงเย่วดูแลพวกเขาอยู่ จะต้องกังวลไปทำไมกัน""คุณไม่กังวล แต่ฉันกังวลค่ะ ฉันจะไปดูลูกค่ะคุณอยากจะนอนพักต่อก็ตามสบายค่ะ"พูดจบซ่งเจียซินที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินเปิดประตูออกไป โดยไม่สนใจคนบนเตียงอีกหลี่โจวอี้เห็นหญิงสาวเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามองตนเองก็อ้าปากค้างรีบลุกจากเตียง สวมใส่เสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ ก่อนจะวิ่งตามเธอลงมาด้านล่าง"ชิงหยวน คุณกำลังจะทิ้งผมอีกแล้ว"ซ่งเจียซินถอนหายใจพลางอย่างระอาใจกับความแง่งอนไร้เหตุผลของคนตรงหน้า ทว่าเวลานี้เด็กๆ กำลังรอเธออยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นเธอจึงยอมถอยให้เขาหนึ่งก้าว "ฉันจะทิ้งคุณได้ยังไงกันคะ เรารีบไปกันเถอะค่ะ เด็กๆ รอพวกเรานานแล้ว"ซ่งเจียซินบอกพร้อมกับเดินเข้ามาจับแขนของคนตัวโต เมื่อเห็นว่าเสวี่ยชิงหยวนงอนง้อตนเองด้วยท่าทางน่ารัก ใบหน้าคมเข้มของหลี่โจวอี้ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เปิดประตูรถเข้าไปประจำที่นั่งคนขับทำหน้าที่เป็นคนข

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 96 คุณคือคนสำคัญ (3)

    “ผมไม่กวนคุณแล้ว แค่อยากให้พวกเราไปนอนพักกันสักหน่อยจะได้มีแรงดูแลเด็กๆ แต่ถ้าคุณต้องการผมก็ไม่ขัด”ซ่งเจียซินตวัดสายตามองคนตัวโตอีกครั้ง สองแก้มร้อนผ่าวคิดถึงเรื่องที่ร้านเสวี่ยก่อนหน้านี้ด้วยความรู้สึกอับอาย“โต๊ะทำงานของคุณแข็งมาก คุณปวดหลังไหม”เสียงทุ้มอ่อนโยนถามด้วยความห่วงใยหลังจากวางคนลงบนเตียงกว้าง ซ่งเจียซินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนหน้านี้เขาลงมือแบบไม่มีออมแรง ตอนนี้มาถามไถ่ไม่รู้สึกว่าช้าไปหรืออย่างไร“ถ้าคุณไม่ปวดอย่างนั้นเรามา...”“คุณหลี่ หยุดนะ!เมื่อครู่คุณบอกว่าจะพักไม่ใช่หรือไง”หลี่โจวอี้มองท่าทางดึงผ้าห่มมาบังตัวของเสวี่ยชิงหยวนแล้วยิ้มกว้าง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นสีหน้าท่าทางเช่นนี้ของเสวี่ยชิงหยวน“โอ๊ย!คุณทำอะไรน่ะ ฉันเจ็บนะ”ร้องพลางยกมือขึ้นจับหน้าผากที่ถูกนิ้วยาวของเขาดีดใส่เมื่อครู่ ทว่ายังไม่ทันตำหนิอีกฝ่ายต่อ ริมฝีปากร้อนของเขาก็กดลงบนรอยแดงเล็กที่หน้าผากเนียน“แบบนี้หายหรือยัง”“คุณหลี่!”ซ่งเจียซินเบิกตากว้างรีบขยับตัวถอยห่างจากชายหนุ่ม แต่กลับถูกวงแขนแกร่งของเขาตวัดเอวเล็กมาแนบชิดแล้วดึงนอนตะแคงบนเตียงด้วยกัน“หยวนหย

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 95 คุณคือคนสำคัญ (2)

    "คุณหลี่... คุณจะทำอะไร นี่มันห้องทำงานของฉันนะคะ""ผมก็แค่จะพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายของผมให้คุณดูก็เท่านั้น""ไม่... อื้ม..."เสียงของซ่งเจียซินเงียบลงในทันที เมื่อริมฝีปากบางถูกนายพลหนุ่มจู่โจมยึดครองด้วยจุมพิตที่เร่าร้อนรุนแรง"คุณหลี่อย่าค่ะ... ที่นี่ไม่ได้... อ่ะ..."ทันทีที่ริมฝีปากบางได้รับอิสระซ่งเจียซินก็รีบเอ่ยปากร้องห้ามเขาอีกครั้ง พร้อมกับใช้สองมือออกแรงดันอกแกร่งเพื่อให้เขาถอยห่าง แต่กลับถูกเขาจับยึดเอาไว้ด้วยมือเดียว แล้วกดตัวเธอลงบนโต๊ะทำงาน"คุณหลี่ ปล่อยฉันนะ...""หยวนหยวนคุณไม่ต้องการผมจริงๆ เหรอ"หลี่โจวอี้กระซิบถามเสียงแหบพร่าพร้อมกับกดริมฝีปากไล้ไปตามลำคอระหง มืออีกข้างก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อด้านหน้าของเธอออก เผยเนินเนื้ออกอิ่มขาวเนียนตัดกับชุดชั้นในราคาแพงสีดำ ที่กำลังถูกเขาถอดออกไปให้พ้นทาง"อ่ะ... โจวอี้"ซ่งเจียซินร้องครวญเสียงกระเซ่า เมื่อยอดอกถูกริมฝีปากร้อนยึดครองดูดดึง จนเป็นรอยแดงก่ำ ความเร่าร้อน ปรารถนาในกายถูกปลุกเร้าให้ตื่นตัว จนเธอเผลอแอ่นอกอวบอิ่มเข้าหา ตอบรับสัมผัสเขาอย่างไม่รู้ตัว"อื้ม... หยวนหยวน"หลี่โจวอี้สัมผัสได้ถึงความพร้อมของเธอก็ขยับรุกเข้าห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status