แชร์

บทที่  7 ความสัมพันธ์ในอดีต(2)

ผู้เขียน: ชงเมิ่ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-20 14:35:47

“ฉันคือญาติของเด็กชายหลี่จื่อรั่วค่ะ!”

ซ่งเจียซินหยุดเท้าที่หน้าพยาบาลสาวแล้วรายงานตัว

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ”

“ฉัน...”

“เธอเป็นแม่ของพวกเราครับ”

หลี่จื่อหมิงเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ามีท่าทีอึดอัด มือเล็กกำหมัดแน่น รู้ดีว่าในใจของเสวี่ยชิงหยวนผู้นี้ไม่เคยคิดว่าพวกเขาสามพี่น้องเป็นลูก แต่ในเวลานี้พวกเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ การตัดสินใจทางการแพทย์จำเป็นต้องให้เธอที่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้วรับรอง ดังนั้นไม่ว่าเธอจะยินดีหรือไม่ เขาก็จำเป็นต้องให้เธอยอมรับสถานะนี้ชั่วคราวเพื่อให้การรักษาหลี่จื่อรั่วไม่มีปัญหา

ซ่งเจียซินตกใจกับคำตอบของเด็กชาย แต่ก็รู้สึกดีที่เด็กชายรู้จักประเมินสถานการณ์ และวางตัวได้เหมาะสม

“ใช่ค่ะ... ฉันเป็นแม่ของจื่อรั่ว”

“เช่นนั้นเชิญคุณทางนี้เลยค่ะ คุณหมอโจวรออยู่”

พยาบาลสาวผายมือแล้วเดินนำทางซ่งเจียซินไปยังห้องข้าง ๆ เมื่อมาถึงหน้าห้องแพทย์ซ่งเจียซินก็ชะงักเท้าเล็กน้อย ปรายตามองเด็กชายด้านหลังแล้วเอ่ยถามพยาบาลตรงหน้าด้วยท่าทางสุภาพ

“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าฉันสามารถพาลูก ๆ และคนติดตามเข้าไปด้วยได้ไหม”

แม้ซ่งเจียซินจะรู้ว่าสิ่งที่แพทย์ในห้องต้องการพูดคุยคืออาการเจ็บป่วยของหลี่จื่อรั่ว แต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้เหมาะสมให้เด็กชายด้านหลังรับรู้หรือไม่

ดังนั้นการพาเด็กชายทั้งสองเข้าไปในห้องแพทย์โดยพลการนั้นนับเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมนัก แต่ขณะเดียวกันเธอเองก็รู้ว่าเด็กแฝดทั้งสองห่วงหลี่จื่อรั่วแฝดคนน้องเป็นอย่างมากและคงไม่ยินยอมง่าย ๆ หากเธอเป็นคนเอ่ยปากห้ามปราม เธอจึงยกเรื่องนี้ให้พยาบาลสาวตรงหน้าเป็นคนตัดสิน

“ได้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

เมื่อพยาบาลสาวตรงหน้าเอ่ยอนุญาตซ่งเจียซินก็ยิ้มกว้าง นั่นเพราะมันหมายความว่าอาการของหลี่จื่อรั่วไม่ร้ายแรงและสามารถให้เด็กชายทั้งสองรับรู้ได้

“สวัสดีค่ะ ฉันซ่ง... เสวี่ยชิงหยวน แม่ของเด็กชายหลี่จื่อรั่วค่ะ”

ซ่งเจียซินเอ่ยแนะนำตัวกับนายแพทย์ตรงหน้า

“สวัสดีครับ เชิญคุณเสวี่ยนั่งก่อน”

“ขอบคุณค่ะ”

“ผมหมอโจว เป็นแพทย์เจ้าของไข้ของเด็กชายหลี่จื่อรั่วครับ เบื้องต้นผมต้องชมเชยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นของคุณมาก ๆ”

ปกติแล้วผู้คนที่ถูกน้ำร้อนลวกมา หากไม่พามาทั้งสภาพเละเทะ ก็จะพันด้วยผ้ามาจนแน่นไปหมด เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปิดดูบาดแผลเพื่อประเมินระดับความรุนแรงจึงทำให้ผิวหนังชั้นนอกหลุดลอกติดไปกับผ้าที่พัน ทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นไปอีก

“ขอบคุณค่ะ แล้วไม่ทราบว่าอาการของจื่อรั่ว เป็นยังไงบ้างคะรุนแรงมากไหม”

“ไม่รุนแรงมากครับ ถ้ามองด้วยตาเปล่าบาดแผลอาจจะดูมีขนาดใหญ่ แต่ความรุนแรงเป็นเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ต่อไปแค่ทำแผลทุกวัน ดูแลเรื่องทำความสะอาดให้ดีก็พอแล้วครับ”

“ขอบคุณค่ะ ฉันยังกังวลกลัวว่าบาดแผลของเขาจะร้ายแรง”

“ไม่ต้องห่วงครับ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่หากมีเรื่องอะไรร้ายแรงผมสามารถขอคำปรึกษาจากอาจารย์หมอหยังได้ตลอดเวลา”

เมื่อได้ยินคนตรงหน้าเอ่ยถึง อาจารย์หมอหยัง ซ่งเจียซินก็ยิ้มกว้าง เพราะถึงแม้ว่าในชีวิตก่อนเธอจะไม่ได้ทำงานในสายอาชีพสาธารณสุข แต่ประวัติอันน่าทึ่งของ นายแพทย์หยังจือจุ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการรักษาแผลถูกไฟลวกในยุคอดีตก็ทำให้เธอนึกชื่นชมเขามาโดยตลอด

“ผมสั่งยาให้แล้วครับ เชิญคุณรับยาและใบนัดที่พยาบาลหน้าห้องได้เลย”

“ขอบคุณคุณหมอโจวมากเลยนะคะ”

“ครับ”

ซ่งเจียซินเดินออกมาจากห้องหมอโจวก็ให้หูหลินอิงและเด็กชายทั้งสองรอรับหลี่จื่อรั่วที่หน้าห้องฉุกเฉิน ในขณะที่ตนเองเดินไปจัดการเรื่องรับยาและค่าใช้จ่าย

“แม่ครับ”

เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นด้านหลัง ซ่งเจียซินที่จ่ายเงินและรับยาเรียบร้อยแล้วหันมาเห็นเด็กชายที่แขนซ้ายถูกพันด้วยผ้าพันแผลอีกทั้งยังคล้องผ้าห้อยคอเอาไว้ก็ยิ้มกว้าง

“จื่อรั่ว เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม”

“ไม่เจ็บครับ พี่พยาบาลในห้องใจดีและมือเบามากครับ”

หลี่จื่อรั่วบอกหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม หากแต่ด้วยตาที่แดงก่ำและบวมนิด ๆ ของเขาก็ทำให้ซ่งเจียซินรู้ว่าเด็กชายเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาแน่ ๆ หญิงสาววางมือลงบนแก้มนุ่มของเขาแล้วส่งยิ้มกว้าง

“อย่างนั้นกลับบ้านเรากันนะ”

ซ่งเจียซินพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยน หลี่จื่อรั่วพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง ขณะที่หลี่จื่อชิงทำเสียงค่อนขอดในลำคอ

กลับบ้านเรา อะไรกัน นั่นมันบ้านของพ่อกับแม่พวกเราต่างหาก”

คำพูดของหลี่จื่อชิง แม้จะไม่ดังมากแต่ซ่งเจียซินก็ได้ยินชัดเจน รอยยิ้มบนใบหน้าจึงสะดุดไปเล็กน้อย แต่พริบตาก็กลับมาสดใสดังเดิม หลี่จื่อหมิงเห็นน้องชายพูดจาไม่เหมาะสมก็ตวัดสายตาปรามเขา คนช่างพูดจึงเงียบเสียงลงแล้วเมินหน้าไปอีกทาง เขาพูดอะไรผิดกัน

ซ่งเจียซินไม่ได้ถือสาคำพูดของหลี่จื่อชิง อย่างไรเขาก็เป็นเพียงเด็กชายเจ็ดขวบเท่านั้น จะรักมารดาผู้ให้กำเนิดมากกว่ามารดาเลี้ยงเช่นเธอก็ไม่แปลก

“พวกเรากลับกันเถอะ”

หญิงสาวกล่าวชวนอีกครั้งโดยจงใจตัดคำว่า บ้านเรา

ออกไป แต่เพราะขากลับซ่งเจียซินแวะซื้อของที่ตลาด ดังนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ใช้เวลาถึงสองชั่วโมง ทั้งที่ด้วยระยะห่างจากบ้านหลี่ไปจนถึงโรงพยาบาลนั้นใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

“จื่อรั่ววันนี้นอนพักให้มาก ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ อิงอิงฝากเธอดูแลเขาด้วยนะ”

“ค่ะ”

“ถ้าไม่เพราะคนบางคนมัวแต่เดินเที่ยวเล่น จื่อรั่วก็คงได้กลับมาพักตั้งนานแล้ว”

หลี่จื่อชิงพูดโดยไม่สบตาใคร แน่นอนว่าซ่งเจียซินรู้ดีว่าคนบางคนที่เขาเพิ่งพูดถึงก็คือเธอนั่นเอง แต่อีกฝ่ายอายุแค่เจ็ดขวบไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องไปทะเลาะด้วย ดังนั้นจึงทำเพียงถอนหายใจแล้วส่งของในมือให้สาวใช้หูหลินอิง

“อิงอิง มื้อเย็นทำเมนูปลาเพิ่มสักสองอย่าง จื่อรั่วเป็นแผลกินโปรตีนเสริมจะได้ฟื้นตัวไวขึ้น”

พูดจบคนก็เดินกลับขึ้นห้องพักไป หลี่จื่อหมิงมองตามแผ่นหลังเล็กที่แท้มารดาเลี้ยงของเขาลงไปเดินซื้อของร่วมชั่วโมงกว่าก็เพื่อ หาซื้อของมาทำอาหารบำรุงให้หลี่จื่อรั่ว 

“จื่อชิง ต่อไปพูดให้น้อยหน่อย ระวังคำพูดด้วย”

“จื่อหมิง นายคงไม่คิดเข้าข้างหญิงใจร้ายคนนั้นใช่ไหม อย่าลืมสิเธอไม่ใช่แม่จริง ๆ ของพวกเรา แม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยงไม่มีทางดีกับพวกเราอย่างจริงใจ ทั้งหมดเธอต้องแกล้งทำดีกับพวกเราแน่ ๆ”

“อย่างนั้นพวกเราก็แค่แกล้งทำดีกลับ แบบนี้ก็ถือว่าเสมอกันไม่ใช่หรือไง”

ไม่ว่าเรื่องในวันนี้เธอจะเสแสร้งหรือเธอจะเปลี่ยนไปจริง ๆ ขอแค่เป็นเช่นนี้ไปตลอด เขาก็สามารถแกล้งยอมรับเธอได้เช่นกัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 55 ชดใช้คืนให้

    “คุณหนูเสวี่ยครับเกิดเรื่องแล้ว”“เรื่องอะไร”“นางแบบที่จะสวมชุดเครื่องเพชรของร้านเราขึ้นเวทีเป็นลมหมดสติไปกะทันหันครับ”ซ่งเจียซินขมวดคิ้วเรียวแน่น ในแววตามีความกังวลและสงสัยเกิดขึ้นทันทีที่ฟังคำรายงานของตงซางจบ เพียงแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่การหาสาเหตุการเกิดปัญหา แต่คือการหาวิธีแก้ไขปัญหา“คุณแม่คะ ฉันฝากเด็กๆ ไว้สักครู่นะคะ”“ได้!แม่จะดูแลพวกเขาเอง ลูกไปจัดการธุระเถอะ”“แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลน้องๆ เอง”หลังจากได้รับคำตกลงจากมารดา และคำมั่นจากหลี่จื่อหมิงซ่งเจียซินก็วางใจเร่งเดินไปที่ห้องด้านหลังเวทีในทันที“คุณเสวี่ย พวกเราจะทำยังไงดี”อันลู่ซื่อถามด้วยความร้อนใจ บรรยากาศในห้องแต่งตัวเวลานี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเหตุสุดวิสัย และทางสมาคมหมิงหลันไม่ได้ตำหนิพวกเธอร้านเสวี่ย แต่สำหรับซ่งเจียซินแล้วนี่กลับเป็นการขาดทุนมหาศาลหากไม่ได้ขึ้นเวทีเครื่องเพชรของเธอก็จะไม่ได้ถูกนำเสนอ ชื่อร้านเสวี่ยก็จะไม่มีการประกาศ เช่นนี้แล้วทุกอย่างที่ลงแรงไปก็เท่ากับศูนย์เปล่า“นางแบบเป็นยังไงบ้าง พาไปโรงพยาบาลหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วครับ”ในสถานการณ์เช่นนี้ซ่งเจียซินไม่ไ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 54 ความถนัดที่โดดเด่น

    อย่างนั้นพวกเราก็มากินกันเลย”“ดีครับ!”จากนั้นทั้งสี่คนแม่ลูกก็นั่งล้อมวงกินข้าวมื้อเย็นง่ายๆ ด้วยกัน หลี่จื่อรั่วที่ขยับตัวลงจากตักของคนเป็นแม่บังเอิญเหลือบตามองไปเห็นภาพวาดสร้อยหงส์จึงเอ่ยถามมารดาเลี้ยงด้วยความสนใจ“แม่ครับภาพวาดนี่คือสร้อยหงส์เคียงมังกรหรือครับ”“ใช่ สวยหรือไม่”“สวยครับ แต่ผมชอบนกยวนยางมากกว่าครับ”“นกยวนยาง? ทำไมล่ะหงส์เป็นนกที่ใครๆ ก็มองว่าสูงส่งและสวยที่สุดเลยนะ ทำไมจื่อรั่วถึงไม่ชอบล่ะ”เพราะหงส์และมังกร แสดงถึงความสูงส่งและสง่างามของผู้สวมใส่ ดังนั้นจึงถูกเลือกนำมาใช้ทำเป็นต้นแบบอยู่เสมอ“หงส์สูงส่งแค่ไหนก็เป็นนกไม่ใช่หรือครับ จะใช้ชีวิตเคียงคู่กับมังกรจริงๆ ได้ยังไงกัน แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นการข้ามสายพันธุ์หรือครับ”ซ่งเจียซินฟังคำตอบของเด็กชายแล้วยิ้มกว้างขบขันในความคิดที่ใช้หลักการความเป็นจริงของเด็กชายตัวน้อย ก่อนจะสะดุดกับคำพูดของเขาในประโยคเมื่อครู่สูงส่งแต่ไม่อาจเคียงคู่อย่างแท้จริง คล้ายความคิดที่ขาดหายของซ่งเจียซินได้รับการเติมเต็มขึ้นมากะทันหัน ก่อนจะจับศีรษะเล็กมาแนบอกแล้วกดจมูกลงบนเส้นผมนุ่ม“จื่อรั่วของแม่เก่งที่สุด”“เรื่องภาพวาดจื่อรั่วเก่งอยู

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 53 แผนการของเด็กๆ

    หลังจากที่ส่งเด็กชายทั้งสามขึ้นรถไปโรงเรียนแล้ว หลี่โจวอี้คิดจะพูดคุยกับเสวี่ยชิงหยวนให้ชัดเจนถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ เพียงแต่ยังไม่ทันเอ่ยปากหูหลินอิงก็เข้ามาแจ้งว่าทางกรมทหารโทรศัพท์มาหาเขา หลังจากปลีกตัวไปพูดคุยเพียงไม่กี่ประโยคเขาก็หันมามองเสวี่ยชิงหยวนด้วยสีหน้าจริงจัง“ผมมีเรื่องด่วนต้องเร่งไปจัดการ”“อย่างนั้นฉันไปช่วยคุณเก็บของนะคะ”เห็นท่าทางใส่ใจของหญิงสาวในใจของหลี่โจวอี้ก็อิ่มเอมขึ้นมา พยักหน้ารับคำอาสาของเธอก่อนจะเร่งขึ้นไปเปลี่ยนชุด เก็บกระเป๋าเดินทาง“คุณจะเอาอะไรไปบ้าง หยิบมาวางบนเตียงเลย เดี๋ยวฉันช่วยเก็บใส่กระเป๋าให้ค่ะ”เพราะไม่รู้ว่าปกติแล้ว หลี่โจวอี้นำของส่วนตัวอะไรติดตัวเข้ากรมบ้าง ดังนั้นจึงทำได้แค่เอ่ยปากบอกให้เขาหยิบของที่ต้องการมาให้ตน ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงทุกอย่างก็เรียบร้อย“เดินทางปลอดภัยนะคะ ไม่ต้องห่วงเด็กๆ ฉันจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี”“อืม... ขอบคุณ”หลี่โจวอี้กล่าวขอบคุณพลางรับกระเป๋ามาจากหญิงสาว จากนั้นก็ยืดตัวแอ่นอก ขยับแขนทั้งสองให้ห่างจากตัวเล็กน้อยเพื่อให้เธอสอดมือสวมกอดอำลาได้อย่างถนัด“ลุงเหอขับรถระวังด้วยนะคะ หากกลับมาไม่ทันรับเ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 52 ทำลายสัญญา

    คุณหลี่! คุณจะทำอะไร”“ทำหน้าที่สามีให้คุณไง”ดวงตาของซ่งเจียซินเบิกกว้างหลงลืมเรื่องราวทั้งหมดก่อนหน้าไปชั่วขณะ หลี่โจวเห็นท่าทางเช่นนี้ของเธอก็คิดว่าหญิงสาวเคลิบเคลิ้มหลงใหลในตัวเขาจนสติหลุดลอย ดวงตาคมมองริมฝีปากบางสีหวานแล้วยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงหมายจุมพิต เพียงแต่ขยับตัวแค่เล็กน้อยเพื่อเข้าหาหญิงสาวที่กลางลำตัวก็คล้ายมีแรงปะทะเข้ามากะทันหันนี่เสวี่ยชิงหยวน... ถีบผมเหรอ!!หลี่โจวอี้ไม่คิดว่าซ่งเจียซินจะตอบสนองกลับเช่นนี้จึงไม่ได้ระวัง รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็กระแทกพื้นห้องเสียงดังลั่นโครม!! สติของซ่งเจียซินกลับมาในทันที รีบลงจากเตียงไปยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง ท่าทางที่พร้อมจะเปิดประตูวิ่งหนีของเธอทำให้คนที่นอนจุกบนพื้นขบกรามแน่น ค่อยๆ พยุงตนเองลุกขึ้นยืน แล้วเอ่ยถามลอดไรฟัน“เสวี่ยชิงหยวน นี่คุณ... หมายความว่ายังไง ทำไมถึงได้... ถีบผม”“ก็ใครใช้ให้คุณมาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันก่อนล่ะคะ”“ผมทำตัวรุ่มร่ามอะไรกัน ไม่ใช่คุณหรือไงที่อยากให้ผมทำแบบนี้”“ฉันอยากให้คุณทำตั้งแต่เมื่อไหร่”หลี่โจวอี้ขมวดคิ้วหนา ตั้งแต่วันแรกของการแต่งงานเสวี่ยชิงหยวนก็วางยาปลุกกำหนัดเขา ในวันเกิดมาร

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 51 เรื่องในอดีต

    หลังกินมื้อเย็นเสร็จ เด็กชายทั้งสามก็แยกเข้าห้องนอน ซ่งเจียซินสังเกตเห็นว่าวันนี้หลี่โจวอี้เงียบผิดปกติ อีกทั้งยังมีหลายครั้งที่เขาลอบมองเด็กๆ สลับกับเธอ คล้ายมีบางอย่างอยากจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ดังนั้นเมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องนอนจึงหาจังหวะสอบถามเขา อย่างน้อยหากเธอสามารถช่วยให้ความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขาแน่นแฟ้นขึ้น ในวันที่ต้องไปจากบ้านหลังนี้เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องของเด็กๆ ทั้งสามเพียงแต่แค่คิดว่าวันหนึ่งจะต้องจากไป ความรู้สึกวูบโหวง เจ็บแปลกๆ ในใจก็เกิดขึ้นกะทันหัน ก่อนที่ซ่งเจียซินจะสลัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปแล้วตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน“คุณหลี่ คุณมีเรื่องอะไรอยากพูดกับฉันไหมคะ”หลี่โจวอี้หยุดเท้าลง มองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดนอกหน้าต่างห้องแล้วถอนหายใจเบาๆ หนึ่งครั้งก่อนจะหันกลับมาถามซ่งเจียซินด้วยสีหน้าจริงจัง“เสวี่ยชิงหยวน คุณบอกความจริงผมมาก่อนที่คุณจะแต่งงานกับผม คุณเคยมีลูกมาก่อนใช่ไหม”มีลูก! ซ่งเจียซินที่ได้ยินคำถามนี้ของเขาก็ตกใจจนหน้าเหวอ ก่อนจะตั้งสติทบทวนความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างว่าเคยแต่งงานมีสามี หรือมีลูกมาก่อนหรือไม่ ทว่าท่าทาง ตื่นตกใจและนิ่งเงียบไม่ตอ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 50 บาดแผลในใจ

    "แม่? ... พวกลูกหมายถึง...""แน่นอนว่าต้องเป็นแม่ที่อยู่ตรงหน้าพวกเรา"หลี่จื่อหมิงเข้าใจดีว่ามารดาเลี้ยงต้องการจะสื่ออะไร ดังนั้นจึงตอบโดยที่ไม่รอให้เธอถามจบ ซ่งเจียซินพลันยิ้มด้วยดวงตาแดงก่ำกวาดสายตามองภาพทั้งสามอย่างจริงจัง ก่อนที่ดวงตากลมจะร้อนผ่าว ภาพของหลี่จื่อชิงเป็นรูปภาพเด็กชายสามคนนอนดูดวงดาว โดยมีชายหญิงสองคนที่นอนขนาบด้านข้าง นี่เป็นเหตุการณ์ในวันแรกที่หลี่โจวอี้ขาเจ็บแล้วเธอเปลี่ยนมื้อเย็นมากินที่ระเบียงห้องไม่ใช่หรือไรถัดมาเป็นของหลี่จื่อรั่วที่เป็นภาพเด็กชายสามคนกำลังวิ่งเล่นกับหญิงสาวตัวโต โดยมีชายขาเจ็บนั่งมอง พลันภาพวันที่เธอกับหลี่โจวอี้พาเด็กชายทั้งสามไปกินบะหมี่นอกบ้านก็สะท้อนเข้ามาในความคิดภาพสุดท้ายเป็นของหลี่จื่อหมิง เป็นภาพหน้าบ้านหลังหนึ่งที่มีเด็กชายสามคนและสองชายหญิงขนาบข้างยืนเรียงแถวหน้ากระดานจับมือกัน ภาพนี้แม้เรียบง่ายแต่กลับสะท้อนถึงความคิดของคนวาดได้ชัดเจนจับมือกัน ตัวเธอเองก็อยากจับมือพวกเขาเอาไว้แบบนี้ตลอดไปเช่นกัน ดวงตากลมมองภาพที่แม้ลายเส้นจะยุ่งเหยิง ตัวคนที่วาดก็ไม่สมบูรณ์แบบ สีที่ลงก็เละเทะ แต่กลับสะท้อนความรู้สึก ความทรงจำ และความปรารถนาขอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status