แชร์

บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-27 10:11:44

บทที่ 105

เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

            สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา  

            ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้

            หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง

            “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม

            “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน”

            “อืม”

            “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ”

            “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก”

            “เข้าใจแล้ว”

            “พวกท่านจะเอายังไงกับพวกเรา ถ้าจะลงโทษเรื่องที่พวกเราขโมยอาหาร ข้าขอรับผิดชอบคนเดียว จะฆ่าจะแกงยังไงก็ได้ แต่ช่วยปล่อยพรรคพวกของข้าด้วยเถอะ” หนุ่มกระต่ายบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

            “ไม่ได้ ท่านพี่ พวกเราไม่ยอมให้ท่านรับผิดคนเดียวหรอกนะ”

            “ใช่แล้ว พวกเราก็ขโมยอาหารเหมือนกัน ให้เจ้ารับผิดชอบคนเดียว ข้าทำไม่ลง”

            “ใช่ๆ”

            เหล่ากระต่ายที่เหลือร้องโวยวายเมื่อกระต่ายหนุ่มขอรับผิดชอบคนเดียว

            หลินส่ายหน้า “ข้านับถือในความสามัคคีของพวกเจ้า อีกอย่าง พวกเจ้าขโมยอาหารในโกดังเพราะเหตุสุดวิสัย ข้าไม่ลงโทษพวกเจ้าหรอก”

            “จะดีหรือ” หนุ่มกระต่ายถามด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

            เหล่ากระต่ายในกลุ่มเองก็มองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อ

            “อาหารของพวกเรามีเยอะแยะ พวกเจ้ากินไปแค่นั้นไม่มีผลกระทบอะไรกับฟาร์มของพวกเราหรอก สบายใจได้” หลินบอกด้วยความภูมิใจ

            “นั่นก็ถูก” ซินหลินผงกศีรษะเห็นด้วยกับหลิน  

            ถึงอย่างนั้น เหล่ากระต่ายก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

            ตอนนั้นเอง กระต่ายสาวโพล่งขึ้นว่า “ปล่อยให้พวกเราไปเฉยๆ แบบนี้ ข้ารู้สึกละอายใจ ให้ข้าได้รับผิดชอบด้วยการใช้แรงงานได้หรือไม่ ข้าขุดดินเก่ง เคลื่อนไหวคล่องแคล่วมากด้วย”

            เมื่อกระต่ายสาวพูดจบ กระต่ายตนอื่นๆ ก็พยักหน้ารัวๆ ทั้งยังยืนยันหนักแน่นว่าจะใช้แรงงานรับผิดชอบ

            ภูตจิ๋วเอนศีรษะไปทางซ้ายทีขวาทีด้วยท่าทางครุ่นคิด

            ซินหลินกอดอก ครุ่นคิดไม่ต่างจากหลิน วินาทีต่อมา เด็กชายก็ตอบรับอย่างเห็นด้วย

            “เป็นความคิดที่ดีนะ มีแรงงานเพิ่ม ผลผลิตในฟาร์มของเราก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย”

            “นั่นสิน๊าาา”

            “สรุปว่า พวกท่านยอมให้พวกเราชดใช้แล้วใช่หรือไม่” กระต่ายหนุ่มถามเพื่อให้แน่นอน

            “พวกเราอยากได้แรงงานเพิ่มก็จริง แต่การรับพวกเจ้ามาทำงานในฟาร์ม ไม่ใช่เพราะต้องการการชดใช้หรอกนะ พูดให้ถูก คงเป็นการ ‘ว่าจ้าง’ มากกว่า” หลินบอก

            “ว่าจ้างคืออะไรหรือ”

            พวกเขาเพิ่งวิวัฒนาการ คำบางคำจึงไม่เข้าใจ

            หลินอธิบายว่า “ก็คือการที่พวกเจ้าทำงานให้กับพวกเรา แล้วพวกเราก็จะจ่ายค่าจ้างให้ ค่าจ้างที่ว่าอาจเป็นเงินอาหาร ที่อยู่อาศัย อะไรก็ได้ที่พวกเจ้าต้องการยังไงล่ะ”

            “ถ้าพวกเจ้าอยากย้ายมาเป็นประชากรในฟาร์มของเรา พวกเรามีบ้าน มีอาหาร และยังสอนอ่านเขียนให้ด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของพวกเจ้า ถ้าจะให้ดี ควรให้ผู้นำเผ่ากระต่ายเห็นชอบก่อน” ซินหลินกล่าวเสริม

            “ดะ ดีจังเลย”

            หนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ยินแบบนั้น ล้วนแสดงสีหน้าคาดหวังและซาบซึ้งใจ

            “ตกลง ข้าจะกลับไปคุยกับท่านพ่อ” กระต่ายสาวเอ่ย

            “ท่านพ่อหรือ”

            “นางเป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าน่ะ” กระต่ายหนุ่มอธิบาย

            “ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้ากลับเผ่ากระต่ายไปปรึกษากันให้ดี พวกเราไม่ติดใจเอาความเรื่องของในโกดัง ขอแค่อย่ามาขโมยของอีกก็พอ” ภูตน้อยบอก

            “ขอบคุณมาก ท่านภูตผู้ดูแล”

            หลังจากตกลงกันได้ เหล่าหนุ่มสาวกระต่ายก็เดินทางกลับป่าของตน พร้อมกับผักผลไม้กระสอบใหญ่ที่ทางนี้จัดเตรียมให้ พวกเขาบอกว่าจะกลับมาแจ้งข่าวภายในสามวันข้างหน้า

            ภูตน้อยหลินยังบินมาส่งพวกเขาออกจากป่า และยังสังเกตทิศทางที่พวกเขามุ่งหน้าไป

            อย่างนี้เอง…

            ป่าทางที่เผ่ากระต่ายอยู่นั้น เป็นป่าทางเหนือ มีลักษณะเป็นทุ่งรกร้าง และลู่ซินฟางยังไม่ได้บุกเบิก

            พอหลินกลับมา ซินหลินกับสยงอู๋ก็เตรียมตัวข้ามประตูมิติพอดี

            “ในเมื่อเรื่องจบแล้ว ข้ากับสยงอู๋ต้องรีบเอาของไปเติมที่ร้านก่อน สายขนาดนี้แล้วด้วย เรื่องเผ่ากระต่ายข้าจะบอกซินฟางเอง” ซินหลินบอกกับภูตจิ๋ว

            “ฝากด้วยนะ” หลินโบกมือให้กับเด็กชาย

            เมืองเล่ออัน

            ร้านเฉิงเป่า

            หลังจากเติมสินค้าในร้านเสร็จ ซินหลินก็ปาดเหงื่อบนหน้าผาก ทำหน้าโล่งใจ

            “เฮ้อ ทันเวลาพอดี”

            สยงอู๋มองซินหลินพลางหัวเราะ “ถึงจะล่าช้าสักหน่อย นายหญิงก็ไม่บ่นหรอก ซินหลินเถรตรงเกินไปแล้ว”

            ซินหลินทำแก้มพองลม และยังเถียงกลับ “เจ้าต่างหากทำตัวสบายเกินไป”

            สยงอู๋ส่ายหน้าน้อยๆ แกล้งยอมรับว่า “ได้ๆ ข้าทำตัวสบายเกินไปนั่นแหละ…เอาละ ทางนี้ทำงานเสร็จเรียบร้อย งั้นข้าไปที่สวนก่อนนะ”

            “อืม ข้าจะไปหาซินฟางที่ร้านใหญ่”

            แล้วทั้งสองก็แยกกันที่หน้าร้านเฉิงเป่า

            ระหว่างทางไปร้านซินหลิน เด็กชายแวะซื้อขนม ดูของเล่นตามร้านค้าข้างทางอย่างเพลิดเพลิน ตอนมาถึงร้านซินหลินจึงเป็นช่วงสายแล้ว ลูกค้าเต็มร้าน

            “เห็นว่ามาช้า ข้ารึก็อุตส่าห์เป็นห่วง คิดว่าเจ้าหลงทางหรือถูกใครลักพาตัวไปเสียอีก ที่แท้ก็เอาแต่เที่ยวเล่นนี่เอง” หลางไป๋แกล้งแซวเด็กชาย

            ซินหลินรีบซ่อนของเล่นกับถุงขนมในมือไว้ข้างหลัง เม้มปากด้วยสีหน้าอายๆ

            หมาป่าหนุ่มยิ้มพลางส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู

            ตอนมาโลกทางนี้ครั้งแรก ซินหลินพูดบ่อยๆ ว่า ‘ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย’ แล้วมักจะทำหน้าเหมือนไม่แยแส แต่เด็กก็คือเด็กอยู่วันยันค่ำ ตื่นตาตื่นใจกับความแปลกใหม่ และสนุกสนานกับเรื่องเล็กๆ

            “ว่าแต่ ซินฟางอยู่ที่นี่หรือเปล่า ข้ามีเรื่องจะบอก”

            ได้ยินแบบนั้นหลางไป๋เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังพร้อมกับถามเด็กชาย

            “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือ”

            “อ๋อ คืออย่างนี้…”

            จากนั้นซินหลินก็เล่าเรื่องที่มิติขยายตัว เรื่องที่สัตว์ป่าทางทุ่งรกร้างฝั่งเหนือกลายร่างเป็นมนุษย์ รวมถึงเรื่องที่พบเจอกับเผ่ากระต่าย เด็กชายเล่าทั้งหมดให้หลางไป๋ฟังไม่มีตกหล่น

            พอฟังจบ หมาป่าหนุ่มก็ทำหน้าครุ่นคิด

            “จะว่าไปแล้ว ถือเป็นเรื่องน่ายินดีมากเลยนะ ถ้าได้สัตว์จำแลงพวกนั้นมาเป็นพันธมิตร พวกเราก็จะมีคนมาช่วยงานในฟาร์มเพิ่ม”

            “ข้าก็คิดแบบนั้น”

            “กิจการของเราตอนนี้กำลังรุ่งเรือง ข้ากับนายหญิงเพิ่งปรึกษาเรื่องขยายฟาร์มและรับสมัครคนงานเพิ่มพอดี หากว่าเผ่ากระต่าย…ไม่สิ ไม่ใช่แค่เผ่ากระต่าย ข้าหมายถึงเหล่าสัตว์จำแลงในป่ารกร้างนั้น หากพวกเขายอมมาเป็นพรรคพวกของเราย่อมดีไม่น้อย”

            ฟังคำพูดของหลางไป๋แล้ว ซินหลินก็พยักหน้า

            “ข้าจะไปบอกนายหญิงเอง ขอบใจที่มาบอกนะ ซินหลิน”

            “อือๆ ถ้าอย่างนั้นข้ากลับมิติแล้วนะ”

            “จริงสิ ก่อนกลับมิติ อย่าลืมแวะไปที่คฤหาสน์ก่อนล่ะ นายหญิงเตรียมของว่างอร่อยๆ ไว้ให้เจ้ากับท่านหลิน”

            “เข้าใจแล้ว”

            หลังจากนั้น หลางไป๋ก็นำเรื่องที่มิติขยายตัวมาบอกต่อลู่ซินฟางด้วยท่าทีตื่นเต้น

            หมาป่าหนุ่มยังขอลาหยุด 2-3 วันเพื่อไปสำรวจป่ารกร้างนั้น

            การขยายของมิติครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะได้รับทรัพยากรเพิ่ม เหล่าสัตว์ยังมีการวิวัฒนาการ หลางไป๋จึงอยากไปเจรจาชวนพวกเขามาเป็นพรรคพวก

            ลู่ซินฟางเข้าใจความคิดของหลางไป๋ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ นางจึงบอกให้หมาป่าหนุ่มพาคนติดตามไปด้วย

            สัตว์ป่าที่เพิ่งกลายร่างช่วงแรกจะมีความสับสน ต่อให้หลางไป๋เป็นหมาป่าและสามารถปกป้องตัวเองได้ แต่ระมัดระวังไว้ก่อนย่อมดีกว่า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status