แชร์

บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-27 10:12:09

บทที่ 106

เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

            สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง

            เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย

            อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว

            นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร

            หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย

            นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก

            ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด

            ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

            การพบกับมนุษย์ตัวเป็นๆ ครั้งแรก ทำให้พวกเขาทั้งตื่นเต้นและแตกตื่นจนเกือบเก็บอาการไม่ได้

            “ทะ ท่านผู้นี้คือ...นะ นายหญิงของที่นี่หรือ” ลูกสาวของผู้นำเผ่ากระต่ายเอ่ยถาม ทั้งยังเบิกตาโตขณะมองลู่ซินฟาง

            หญิงสาวทำได้เพียงยิ้มจางๆ

            ช่วยไม่ได้นะ ในมิติแห่งนี้มีแต่เหล่าสัตว์จำแลง การได้เห็นมนุษย์มายืนตรงหน้าครั้งแรก ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับพวกเขา  

            “อย่าทำตัวเสียมารยาท!” ผู้นำเผ่ากระต่ายเอ็ดใส่ลูกสาว

            ถูกดุไปทีเดียว หญิงสาวนั่งหลังตรงแน่ว แต่ทว่า ดวงตากลมโตสดใสไม่วายมองลู่ซินฟางครั้งแล้วครั้งเล่า

การเจรจาดำเนินต่อไป

            เมื่อการเจรจาจบลงด้วยดี พวกเขาขอให้ลู่ซินฟางตั้งชื่อให้ เพื่อสะดวกต่อการสื่อสารระหว่างกัน

            แต่เดิม เหล่าสัตว์อสูรไม่มีชื่อ พวกเขาจะสื่อสารกันด้วยสัญชาตญาณของสัตว์

            เรื่องตั้งชื่อเป็นสิ่งที่ลู่ซินฟางคาดเดาไว้แล้ว ก่อนมาที่มิติ นางจึงคิดและจดลงในกระดาษเตรียมไว้หลายชื่อ หลังจากมองแต่ละคน นางก็มอบชื่อง่ายๆ ที่เหมาะสมกับทุกคน อย่างเช่น เสี่ยวเถา เสี่ยวเป่า เสี่ยวซิ่ว…ให้กับพวกเขา

            หลังจากจัดการเรื่องจิปาถะจนแล้วเสร็จ ทั้งสองเผ่าได้พักอยู่ในบ้านที่จัดเตรียมไว้ชั่วคราว หมู่บ้านเผ่ากระต่ายกับเผ่ากวางป่าจะเริ่มสร้างถัดจากนี้ ส่วนเรื่องว่าใครจะทำงานส่วนไหน รับหน้าที่อะไร ก็ให้พวกเขาไปปรึกษาและตกลงกันเอง ลู่ซินฟางไม่มีสิทธิ์บังคับ 

            หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น ทุกฝ่ายแยกย้าย ลู่ซินฟาง ภูตหลิน หลางไป๋และคนติดตามก็เดินดูฟาร์มกันต่อ

            “ฟาร์มของเราเริ่มกว้างขึ้นแล้ว ต่อเติมรถม้าเอาไว้ใช้ก็สะดวกดีเหมือนกันนะ”

            หญิงสาวพูดขณะมองสวนผักผลไม้ที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา

            สำหรับลู่ซินฟางที่อาศัยพลังของหลินเคลื่อนย้ายไปมาไม่มีปัญหา แต่ว่า เหล่าสัตว์อสูรที่ไม่มีพลังนั้น ให้เดินทั่วสวนหนึ่งรอบก็หอบแฮ่กๆ แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะมีพละกำลังมากกว่ามนุษย์ก็ตาม

            “เห็นด้วยขอรับ” หลางไป๋ตอบรับ จากนั้นก็จดสิ่งที่ต้องทำเพิ่มลงบนสมุดบันทึกส่วนตัว

            “ท่านหลาง เรื่องรถม้าท่านมอบหมายให้เป็นหน้าที่ข้าได้เลยขอรับ”

            คนพูดคือซิ่วเยว่ ชายหนุ่มเผ่าหมาป่า

            ในตอนที่หลางไป๋ไปสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋พาซิ่วเยว่ไปด้วย คงเห็นว่าทำงานคล่องแคล่ว สื่อสารรู้เรื่อง และต่อสู้เก่ง จึงเลือกซิ่วเยว่มาเป็นผู้ช่วย ตอนนี้ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามของหลางไป๋

            “อืม ฝากเจ้าด้วย” หลางไป๋บอก

            ซิ่วเยว่โค้งศีรษะตอบว่า ขอรับ แล้วก้าวออกไปทันที

            เห็นอย่างนี้ ลู่ซินฟางค่อยรู้สึกวางใจ

            ใช่ว่าหลางไป๋ไม่ไว้ใจคนอื่น แต่เพราะอยากทำงานออกมาให้ดีที่สุด หมาป่าหนุ่มจึงไม่กล้ามอบหมายงานของตนให้คนอื่นทำ ถึงได้รับภาระหนักอยู่คนเดียว

            “ซิ่วเยว่ทำงานคล่องแคล่วมากเลยนะ ฝึกฝนอีกหน่อยก็ปล่อยให้เขาทำหน้าที่แทนเจ้าได้แล้ว” ลู่ซินฟางชมเชย

            “ถึงบางครั้งเจ้านั่นยังควบคุมพละกำลังไม่ได้ แต่เรื่องไหวพริบและความคล่องแคล่ว ทำออกมาได้ดีเลยขอรับ ในอนาคตก็ตั้งใจจะมอบหมายงานสำคัญๆ ให้ขอรับ”

            “อืม ดีแล้วละ” ลู่ซินฟางยิ้มอย่างพอใจ

            หลางไป๋ยังบอกอีกว่าตั้งใจจะเลือกลูกน้องเพิ่มอีกสักคน เพราะจะได้แบ่งเบางานด้านเอกสาร

            หมาป่าหนุ่มคงคิดได้แล้ว หากตนมีเวลาเพิ่ม ก็จะได้มีเวลาอยู่เคียงข้างลู่ซินฟางกับหลินเพิ่มด้วย

ไหนๆ ก็มาที่มิติแล้ว ลู่ซินฟางจึงเดินทางมาเหมืองพลอยสักหน่อย

            ภายในถ้ำเต็มไปด้วยพลอยที่ยังไม่ได้ขุด และส่องประกายแวววาวสวยงาม

            “สวยเหมือนกับดวงดาวเลย” หลินพึมพำอยางปลาบปลื้ม ก่อนหันมาถามลู่ซินฟาง “เจ้านายจะทำยังไงกับพลอยพวกนี้หรือ”

            การค้นพบเหมืองพลอย นอกจากจะเพิ่มช่องทางการค้าใหม่ๆ ยังเป็นโอกาสหาเงินอย่างมหาศาลในระยะยาว

            แต่ลู่ซินฟางในตอนนี้ร่ำรวยอยู่แล้ว หรือต่อให้ไม่มีเงิน อาหารในมิติก็มีมากมายเหลือเฟือ อีกอย่างหนึ่ง ลูกแฝดของนางก็มีเงินเก็บไม่น้อย ที่เหลือให้พวกเขาต่อยอดสร้างผลกำไรกันเอง เรียกได้ว่า ชีวิตของนางในตอนนี้สมบูรณ์ดีแล้ว ไม่ต้องรีบร้อนหาเงินสร้างฐานะ ถึงอย่างนั้น การค้นพสิ่งใหม่และขยายฟาร์มไปเรื่อยๆ ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย

            ลู่ซินฟางครุ่นคิดสักครู่ก่อนบอก “ในมิติของเรามีโรงตีเหล็ก โรงเลื่อยไม้ โรงผลิตแก้ว…ตอนนี้ก็ค้นพบเหมืองพลอย ข้าคิดว่าสร้างโรงผลิตเครื่องประดับก็น่าสนใจดีนะ”

            พูดจบ หญิงสาวดึงปิ่นประดับผมของตนออกมาแล้วยื่นให้หลินดู

            “ปิ่นนี้ทำไมหรือ” ภูตน้อยถามอย่างสงสัย

            “เครื่องประดับในยุคนี้ ส่วนใหญ่ทำจากหยกประดับไข่มุก ถ้าหรูขึ้นมาหน่อยจะเป็นของที่ทำด้วยทองคำ ต่างหูก็ทำจากหินที่นำมาเจียระไน หินพวกนี้คล้ายกับหินพลอยในถ้ำของเรา แต่ว่าไม่ได้บริสุทธิ์หรือแวววาวเท่า”

            ภูตจิ๋วคิดตามคำพูดของหญิงสาว สักครู่ก็ตอบว่า “จริงด้วย หินประดับบนปิ่นของเจ้านายไม่สดใสเท่ากับหินในเหมืองเลย”

            “ขนาดยังไม่ได้เจียระไน หินพลอยของเราสวยกว่าตั้งเยอะ” ลู่ซินฟางย้ำ

            “ใช่ๆ” หลินพยักหน้ารัวๆ

            “เพราะอย่างนั้น เรามาเปิดร้านเครื่องประดับขายกันเถอะ พลอยคุณภาพของเราต้องสร้างกำไรได้มากแน่ๆ”

            “ใช่แล้ว พลอยของเราวิบวับ สวยงาม” หลินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เริ่มเลยดีไหม วันนี้เลย!”

            ลู่ซินฟางขบขันกับคำพูดของภูตน้อย

            “ต้องค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้ร้านค้าของเรามีชื่อเสียงก็จริง แต่ถ้าจู่ๆ ก็เอาของวิบวับสวยงาม แถมมีราคาแพงแบบนั้นออกมาขายทันที คนข้างนอกต้องสงสัยในตัวข้าแน่นอน พวกเราต้องเริ่มจากสร้างแหล่งที่มาก่อน”

            “ยังไงหรือ”

            “อือ…คงสร้างเรื่องทำนองว่า พ่อค้าจากต่างแดนนำหินสวยๆ จากบ้านเกิดมาขาย ทางเราเลยรับซื้อ พอเจียระไนก็พบว่าเป็นพลอยน้ำดี ประมาณนี้ดีไหม”

            หลินพยักหน้าเห็นด้วย

            “ช่วงนี้พวกเรามาออกแบบเครื่องประดับสวยๆ เอาไว้เยอะๆ กันดีกว่า”

            “เยี่ยมเลย!”

            ลู่ซินฟางมองท่าทางตื่นเต้นดีใจของหลินก็อดยิ้มกว้างไม่ได้

            ออกแบบเครื่องประดับ แค่คิดก็น่าสนุกดีแล้ว

            ไม่เพียงแค่นั้น ลู่ซินฟางยังคิดต่อไปอีก ถ้าจะเปิดร้านขายเครื่องประดับ คงต้องสร้างร้านในเมืองใหญ่ๆ อย่างเมืองหลวง เพราะหากวางสินค้าหรูหราราคาแพงอย่างพลลอยในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ คนอื่นคงคิดว่าเป็นของปลอม อีกอย่าง กำลังซื้อของชาวบ้านในเมืองเล่ออันก็น้อย เกรงว่าจะขาดทุนมากกว่าสร้างกำไร

            คงถึงเวลาต้องขยายร้านไปเมืองหลวงแล้วสินะ

            พอคิดขึ้นมา ลู่ซินฟางชักตื่นเต้น ยอมรับว่าอยากเห็นเมืองหลวงยุคโบราณเหมือนกัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status