Share

บทที่ 113 การพบกันที่คาดไม่ถึง

last update Last Updated: 2025-07-29 10:09:58

บทที่ 113

การพบกันที่คาดไม่ถึง

            เดินทางเข้าเมืองหลวงครั้งแรก หากลู่ซินฟางบอกว่าไม่ตื่นเต้นก็คงโกหก

            จากซีรี่ย์หลายๆ เรื่องจะเห็นว่าเมืองหลวงเป็นเมืองที่กว้างใหญ่ คลาคล่ำไปด้วยผู้คน

            ดังนั้นระหว่างเดินทาง ส่วนใหญ่แล้วลู่ซินฟางจะชวนกงเยียนซูคุยเกี่ยวกับเมืองหลวง

            ครึ่งวันหลังจากออกเดินทางมา ทุกอย่างราบรื่นอย่างยิ่ง

            รถม้าจอดพักใต้ร่มไม้ ซึ่งน่าจะเป็นจุดแวะพักของนักเดินทาง เพราะพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างเป็นหญ้าเรียบเตียน ไม่รกแม้แต่น้อย ซ้ำยังมีร่องรอยของการจุดกองไฟ

            พอปูผ้ารองนั่งเสร็จ หลางไป๋เปิดกล่องอาหารทีละชั้นวางลงตรงหน้าอย่างพิถีพิถัน หมาป่าหนุ่มตื่นตั้งแต่เช้ามืด เตรียมอาหารหลักและของว่างด้วยตัวเอง

            ชายหนุ่มหมุุนกระบอกไม้ไผ่ รินน้ำชาที่ยังอุ่นอยู่ยื่นให้กับลู่ซินฟาง

            “น้ำชาขอรับ”

            กระบอกน้ำที่หลางไป๋พกมาทำจากไม้ไผ่ขัดจนเรียบเงา วิธีเปิดปิดกระบอกน้ำก็ใช้แบบหมุน

            กงเยียนซูและคนติดตามต่างมองกระบอกไม้ไผ่นั้นด้วยสายตาสนใจ

            “นายหญิง อาหารกลางวันพร้อมแล้วขอรับ”

            ไม่เพียงแต่น้ำชา หลางไป๋ยังคีบอาหารใส่จานแล้วส่งให้ลู่ซินฟาง ช่างเป็นผู้ดูแลที่ใส่ใจทุกรายละเอียดของเจ้านาย

            “ขอบใจนะ เจ้าก็มากินด้วยกันสิ”

            “ขอรับ”

            พอตอบกลับแล้ว หลางไป๋ก็จานและตะเกียบออกมาอีกหนึ่งชุด คีบอาหารใส่จานตัวเองและยังรินน้ำในแก้วไม้ไผ่

            ทั้งสองกินอาหารกลางวันด้วยกันเงียบๆ ผ่านสักครู่ กงเยียนซูเดินเข้ามาถามราวกับหักห้ามใจไม่ไหว

            “สิ่งนั้นคืออะไรหรือ” กงเยียนซูมองไปยังกระบอกไม้ไผ่และแก้วไม้ไผ่

            หมาป่าหนุ่มวางจานอาหารลง ก่อนจะตอบ

            “สิ่งนี้คือกระบอกน้ำสำหรับพกพาขอรับ”

            “กระบอกน้ำพกพาหรือ น่าสนใจ น่าสนใจ” กงเยียนซูพึมพำ

            “จริงสิ ท่านก็มานั่งกินข้าวกลางวันด้วยกันสิเจ้าคะ” ลู่ซินฟางชวนชายหนุ่ม

            “เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจนะ” กงเยียนซูพูดจบก็นั่งลงข้างๆ หญิงสาว “ผู้ดูแลหลาง ข้าขอดูกระบอกน้ำพกพานั้นได้หรือไม่”

            “ได้ขอรับ”

            หลางไป๋ยื่นกระบอกน้ำให้กับกงเยียนซู

            ชายหนุ่มยิ่งประหลาดใจมากขึ้น หลังจากรับกระบอกน้ำมาถือ เพราะชาในกระบอกยังอุ่นอยู่

            “ตอนออกเดินทาง ปกติพวกเราจะใช้ถุงหนังใส่น้ำ แน่นอนว่าเก็บรักษาระดับความร้อนของน้ำไม่ได้ แต่กระบอกน้ำนี้สามารถทำได้ ในร้านของเจ้ามีขายหรือไม่” กงเยียนซูพูดและถามในประโยคเดียวกัน ท่าทางสนอกสนใจอย่างมาก

            “ไม่มีเจ้าค่ะ แต่ถ้าท่านอยากได้ ข้าจะสั่งให้คนทำเพิ่ม”

            “ขอบใจมาก แต่ว่า...ข้าคิดว่าคนอื่นๆ ก็คงอยากได้เหมือนกัน เจ้าควรผลิตออกมาขายนะ” กงเยียนซูเสนอ

            “จะขายได้จริงๆ หรือเจ้าคะ”

            “ขายได้แน่นอนอยู่แล้ว”

            “ท่านกง อาหารของท่านได้แล้วขอรับ”

            ระหว่างสองหนุ่มสาวคุยเรื่องกระบอกน้ำ หลางไป๋ก็ตักอาหารใส่จานเสร็จพอดี เขายื่นจานอาหารให้กับกงเยียนซู

            กงเยียนซูกล่าวขอบใจ รับจานมา จากนั้นนั่งกินอาหารกลางร่วมกับทั้งสองพลางคุยเรื่องทั่วไป

            หลังจากผู้ติดตามตรวจสอบความเรียบร้อยของรถม้าเสร็จ การเดินทางช่วงบ่ายก็ดำเนินต่อไป 

            รถม้าวิ่งตามเส้นทางอันขรุขระ ลู่ซินฟางกับหลางไป๋เพิ่งนั่งรถม้าไกลๆ เป็นครั้งแรก เมารถม้าจนหลับ

            ในยามบ่ายแก่ๆ หลางไป๋ขอยืดเส้นยืดสายด้วยการลงไปควบม้ากับจิ่นเซี่ย และก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน ทั้งสองหนุ่มควบม้าล่วงหน้าไปจองห้องพักโรงเตี๊ยมที่อยู่ข้างทาง

            ตอนรถม้ามาถึงโรงเตี๊ยมก็เป็นช่วงพลบค่ำพอดี

            เช้าตรู่ออกเดินทาง กลางวันแวะพักข้างทาง ส่วนยามกลางคืนพักในโรงเตี๊ยม การเดินทางเป็นเช่นนั้นตลอดเจ็ดวัน

            ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงเมืองหลวงอันกว้างใหญ่อันเต็มไปด้วยผู้คน และจุดหมายปลายทางคือโรงเตี๊ยมตระกูลกง สาขาเมืองหลวง

            ในตอนแรกลู่ซินฟางตั้งใจหาที่พักกันเอง เนื่องจากไม่อยากรบกวนกงเยียนซูมากเกินไป แต่ชายหนุ่มยืนกรานว่าอยากรับรอง นอกจากนี้ยังคุยงานกันได้อย่างสะดวก

            หญิงสาวคิดแล้วก็เห็นด้วย ช่วงที่ดูงานในเมืองหลวงจึงพักโรงเตี๊ยมตระกูลกง

            ทันทีที่รถม้าจอด ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา หน้าตาละหม้ายคล้ายกับกงเยียนซูก็ออกมาต้อนรับ

            “เยียนซู เดินทางเป็นอย่างไรบ้าง...ทางนี้คือแขกคนสำคัญของเจ้าที่บอกไว้ในจดหมายหรือ” กงโม่หยวนทักทายกงเยียนซูอย่างเป็นกันเอง หากท่วงท่าและสีหน้ายังคงแสดงอย่างสุขุม

            “การเดินทางราบรื่น แล้วก็ ทางนี้คือแขกคนสำคัญของข้า” กงเยียนซูตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นก็แนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน

            กงโม่หยวนโค้งศีรษะให้ลู่ซินฟางอย่างให้เกียรติ สายตาที่มองนางก็เต็มไปด้วยความเลื่อมใส เดาว่ากงเยียนซูคงเล่าเรื่องของนางให้ญาติของตนฟังมาไม่น้อย

            “ระหว่างอยู่เมืองหลวง พวกท่านเชิญพักที่โรงเตี๊ยมของเราได้ตามสบาย ขาดเหลืออะไรบอกได้ตลอด อย่าได้เกรงใจ”

            “ขอบคุณท่านมาก” หลางไป๋เป็นตัวแทนของลู่ซินฟางกล่าวขอบคุณกงโม่หยวน

            “เดินทางกันมาเหนื่อยๆ เรื่องงานเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้เชิญพวกท่านขึ้นไปพักก่อนเถิดขอรับ ข้าจะนำทางให้” กงโม่หยวนผายมือเข้าไปในโรงเตี๊ยม เดินนำทุกคนขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง

            ห้องพักของลู่ซินฟาง หลางไป๋และผู้ติดตามอยู่ใกล้กัน เป็นห้องส่วนตัวอันเงียบสงบทางฝั่งตะวันออก และเนื่องจากลู่ซินฟางไม่ได้พาหญิงรับใช้ติดตามมาด้วย กงโม่หยวนจึงให้ลูกจ้างสาวของโรงตี๊ยมมาคอยรับรองนางเป็นกรณีพิเศษ  

            กงเยียนซูยังคงอยากพูดคุย ใช้เวลาร่วมกับลู่ซินฟางต่ออีกนิด แต่ก็รู้ดีว่านางเดินทางไกลครั้งแรกย่อมเหนื่อย ให้รบกวนเวลาพักผ่อนคงไม่ดีเท่าไร ชายหนุ่มจึงกัดฟันอดทน รอเจอนางตอนมื้อค่ำ

            นั่งรถม้าระยะไกลทำให้ลู่ซินฟางเพลียมาก พอเก็บของเข้าที่เข้าทางเสร็จ นางก็มานั่งเอนหลังบนเตียง ผ่านสักพัก หญิงสาวหลับสนิทอย่างไม่รู้ตัว 

            ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เป็นตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตู

            ก็อก ก็อก...

            “นายหญิง ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วขอรับ” 

            “หลางไป๋หรือ เข้าใจแล้วเดี๋ยวข้าออกไป”

            “ขอรับ”

            สถานที่รับรองคณะของลู่ซินฟางคือห้องจัดเลี้ยงใหญ่ เป็นอาคารแยกฝั่งใต้ นอกจากนี้ กงโม่หยวนยังสั่งปิดใช้บริการอาคารรับรองแห่งนี้ ภายในอาคารรับรองจึงไม่มีใครอื่นนอกจากคณะของลู่ซินฟางและคนของกงเยียนซู  

            อาหารที่นำมรับรองล้วนเป็นของขึ้นชื่อของเหมืองหลวง

            “น่ากินทั้งนั้นเลยเนอะ” ลู่ซินฟางพูดพลางมองอาหารบนโต๊ะด้วยตาเป็นประกาย

            “ใช่ขอรับ” หลางไป๋ตอบ

            กงโม่หยวนยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วกล่าว

            “เชิญพวกท่านานตามสบายเลยขอรับ”

            เมื่อลู่ซินฟางคีบอาหารส่งเข้าปาก คณะติดตามของนางก็เริ่มลงมือจัดการกับอาหารด้วยความกระตือรือร้น ด้านกงเยียนซูและกงโม่หยวนก็ไม่ต่างกัน

            กินดื่มกันสักพักหนึ่ง กงโม่หยวนก็กล่าวกับหลางไป๋ว่า “ท่านหลางเป็นผู้ติดตามของนายหญิงลู่สินะขอรับ”

            “ถูกต้องแล้ว หน้าที่ของข้าก็คล้ายกับท่านกงโม่หยวนนั่นละขอรับ”

            “อย่างนี้เอง...เป็นผู้ดูแลไม่ง่ายเลย ท่านคิดอย่างนั้นหรือไม่ขอรับ” กงโม่หยวนจิบชาพลางถาม ก่อนจะเริ่มบ่น “ตรวจสอบบัญชีเอย ดูแลเรื่องจิปาถะเอย ไหนจะรับมือกับลูกค้าเรื่องมาก เหนื่อยเอาการเลยนะขอรับ”

            “ท่านพูดถูก วันๆ ต้องเจอปัญหาเฉพาะหน้าหลายอย่าง แต่ว่า...ตอนสะสางปัญหาเหล่านั้นลุล่วง ข้ากลับรู้สึกว่าท้าทาย และสนุก ก็เลยชอบหน้าที่นี้มาก”

            กงโม่หยวนพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเห็นด้วย

            “ข้าก็เหมือนกัน ตอนสะสางกับปัญหาเหล่านั้นจนลุล่วง รู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์มากทีเดียว”

            “ถูกต้อง”

            ยิ่งคุยกัน สองหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกถูกคอ

            เห็นแบบนั้นลู่ซินฟางยิ้มอย่างภูมิใจ เพราะในที่สุดหลางไป๋ก็มีสหายที่เป็นมนุษย์กับเขาสักที 

            “กงโม่หยวนเป็นคนทำงานคล่องแคล่ว แต่รอบคอบ เห็นว่าพรุ่งนี้จะพาพวกเจ้าไปทำเลร้านที่หาไว้ล่วงหน้า” กงเยียนซูบอกลู่ซินฟาง

            หญิงสาวยิ้มกว้าง “งานเสร็จเร็วเพราะพวกท่านจริงๆ ขอบคุณพวกท่านมากเจ้าค่ะ”

            กงเยียนยิ้มแย้มอย่างดีใจเมื่อถูกชม 

            ทุกคนกินมื้อค่ำกันไปพูดคุยกันไป

            อาหารอร่อย การสนทนาก็ยิ่งออกรสออกชาติ

            จังหวะนั้นเอง จู่ๆ น้ำเสียงสดใสของใครบางคนพลันดังขึ้นหน้าประตู

            “แหมๆ บรรยากาศช่างน่าสนุกยิ่งนัก เหตุใดพวกเจ้าไม่ชวนข้ามาร่วมวงด้วย ใจร้ายเสียจริง”

            คำพูดนั้นแสดงออกถึงความน้อยอกน้อยใจนิดๆ

            สิ้นคำพูด ทุกคนในห้องรับรองหันมองสตรีหน้าประตูเป็นสายตาเดียว

            สตรีผู้มาเยือนอายุอานามใกล้วัยกลางคน รูปร่างสมส่วน ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่งแม้จะมีอายุมากแล้ว อาภร์ที่สวมใส่ก็เป็นผ้าไหมปักเย็บอย่างละเอียดประณีต มากไปกว่านั้น ดูอย่างไรก็เป็นสตรีสูงศักดิ์

            กงเยียนซูสูดหายใจลึก

            “เสด็จแม่!”

            สตรีผู้มาเยือนแย้มยิ้มและตอบกลับอย่างเป็นมิตร

            “เสด็จแม่เองจ๊ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (5) จบบริบูรณ์

    ตอนพิเศษ (5)จบบริบูรณ์ หลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว จิ้งจอกสาวก็เช็ดน้ำตาบนแก้มจนแห้ง สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปขอโทษหลางไป๋ ทว่าทุกครั้งที่นางเข้าใกล้ เขากลับผละหนี แสร้งทำทีเป็นยุ่งง่วนกับงาน ท่าทางแบบนั้นราวกับจงใจหลบหน้านางไม่มีผิด เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น เจียงจวีก็น้ำตาซึม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นับวันหัวใจของนางก็ยิ่งปวดแปลบ ท้ายที่สุด นางที่รู้สึกระอายใจเป็นทุนเดิม ยิ่งไม่กล้าสู้หน้าเขา หลายวันต่อมา เจียงจวีเก็บข้าวของ หนีกลับเผ่าจิ้งจอก ณ เผ่าจิ้งจอก ผู้นำเผ่าจิ้งจอกในร่างของชายวัยคนกับจิ้งจอกหนุ่มต่างยืนกอดอกหน้าตาขึงขัง ในขณะที่มองจิ้งจอกสาวกอดเข่าน้ำตาซึม “ตั้งแต่นางกลับมาก็เอาแต่นั่งอมทุกข์ทั้งวันทั้งคืน สงสัยจะเจอแย่ๆ มา หากรู้อย่างนี้ ข้าไม่น่าอนุญาตให้นางออกไปเจอโลกภายนอกเลย เป็นข้าที่ตัดสินใจผิดพลาดเอง” ผู้นำเผ่าพูดกับลูกชาย “ท่านพ่อไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดหรอกขอรับ ให้นางออกไปเผชิญโลกภายนอก นับเป็นประสบการณ์ของนางด้วย” จิ้งจอกหนุ่มกล่าว

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (4)

    ตอนพิเศษ (4) หลังจากเห็นว่าเจียงจวีเหมาะกับตำแหน่งพนักงานขาย หลางไป๋ก็ให้นางทำงานในร้านซินหลินคู่กับห่จือเหมย เพียงไม่กี่อาทิตย์ เจียงจวีก็เป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ของร้าน ด้วยความที่เป็นจิ้งจอกใสซื่อ จึงทำให้ผู้คนชื่นชอบและเอ็นดูไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่หลางไป๋ “ทำงานแค่ไม่กี่อาทิตย์ เจ้าก็ทำกำไรให้ร้านซินหลินไม่น้อย…ทำดีมาก” หลางไป๋เอ่ยชมเจียงจวี พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะ ตอนแรก หมาป่าหนุ่มทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นจิ้งจอกสาวผงะ ทั้งแก้มนวลเนียนยังขึ้นสีแดงระเรื่อ มือใหญ่ที่กำลังลูบศีรษะของนางพลันชักกลับมา จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินไปตรวจงานแผนกอื่น และไม่พูดไม่จาใดๆ หัวใจของเจียงจวีเต้นระส่ำระส่ายไม่หยุด แม้ยกมือขึ้นลูบหน้าอกพร้อมสูดหายลึกๆ แล้ว หากแต่หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา อย่างไรก็ตาม อาการใจเต้นแรงนี้ ทำให้จิ้งจอกสาวอดรู้สึกกังวลไม่ได้ หมิงฮวาเข้าร้านมาในจังหวะนั้นพอดี นางมองหลางไป๋สลับกับมองเจียงจวี สักครู่ ดวงตาของอสรพิษสาวก็หรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นหลางไป๋ขึ้นไปที่ชั้

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (3)

    ตอนพิเศษ (3) วันต่อมา จิ้งจอกสาวหอบห่อผ้ามาที่ฟาร์มอีกครั้ง แต่หนนี้นางมาพร้อมกับพี่ชาย “พวกเจ้าสองพี่น้องจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกันหรือ” หลางไป๋สอบถาม การได้คนหน่วยกร้านดีเพิ่ม มีใครบ้างไม่ชอบ ทว่าจิ้งจอกหนุ่มโบกมือแล้วตอบ “ไม่ใช่ขอรับ ข้าแค่มาส่งน้องสาว อีกอย่าง ที่มาวันนี้ก็เพื่อขอร้องท่านให้ช่วยดูแลนางด้วย นางค่อนข้างซื่อน่ะขอรับ” หลางไป๋พยักหน้าเหมือนเข้าใจ หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกยิ้มใสซื่อ โค้งศีรษะให้กับหลางไป๋ทีหนึ่ง “จากนี้ข้าต้องขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ” หลางไป๋หันไปยิ้มให้กับหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกพลางตอบว่า “ทางนี้ก็ต้องฝากตัวด้วยเช่นกัน” จากนั้นก็หันไปพูดกับทางพี่ชายด้วยสีหน้าเสียดาย “พูดก็พูดเถอะ เจ้าเองก็หน่วยกร้านดีไม่เบา น่าจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกัน” “ความจริงข้าก็อยากมาทำงานที่นี่นะขอรับ แต่เพราะท่านพ่อของพวกเรากำลังป่วย ข้าที่เป็นลูกชาย และยังเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าคนต่อไป ต้องคอยจัดการหลายๆ เรื่อง ตอนนี้ก็เลยออกจากเผ่าไม่ได้” “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” “ขอบคุณท่านผู

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (2)

    ตอนพิเศษ (2) สถานที่นี้เรียกว่าฟาร์ม มีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ทุ่งดอกไม้ โรงเรือนเพาะต้นกล้า ไหนจะโรงผลิตสารพัดที่เพิ่มขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด หนำซ้ำ ยังมีหมู่บ้านของเหล่าสัตว์อสูร ถนนที่ปูด้วยอิฐ ตรงลานกว้างของเมืองก็มีน้ำพุขนาดใหญ่ พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…น่าอิจฉาและดูน่าสนุกกันจังเลย จิ้งจอกสาวคิด ก่อนจะถอนหายเฮือกออกมาหนึ่ง หญิงสาวชอบความตื่นตาตื่นใจของฟาร์ม ถึงได้แอบมาดูทุกวัน ในตอนที่ลำแสงสีทองสาดเข้ามาในป่ารกทึบ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็มีวิวัฒนาการกลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนั้นนางตื่นเต้นมาก กระโดดโลดเต้นรอบป่า ยิ่งค้นพบว่ายังมีสัตว์เผ่าอื่นที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งอยากเป็นเพื่อนกับทุกคน เพราะอย่างนั้นตอนที่หมาป่าเพศผู้นามว่าหลางไป๋มาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอก นางอยากให้ท่านพ่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านภูต แต่ว่า ท่านพ่อกลับปฏิเสธ แม้ผิดหวังอย่างมาก แต่คำสั่งของผู้นำเผ่าถือเป็นเด็ดขาด เช้าตรู่ของวันนี้ จิ้งจอกสาวก็ยังแอบมาที่ฟาร์ม นางหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (1)

    ตอนพิเศษ (1) ต้นฤดูหนาวของปีนั้น ชุนกับจิ่นเซี่ยได้จัดพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย โดยหลางไป๋เป็นญาติฝ่ายหญิง ส่วนจิ่นเซี่ยนั้น เนื่องจากองครักษ์หนุ่มผู้นี้เป็นเด็กกำพร้า ญาติฝ่ายชายจึงเป็นกงเยียนซู แม้เป็นงานแต่งที่เรียบง่าย แต่เพราะได้ลู่ซินฟางเป็นแม่งาน อาหารสุราจึงขึ้นเต็มโต๊ะตลอดทั้งวันทั้งคืน แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนกันเอง งานแต่งของชุนกับองครักษ์หนุ่ม จึงเหมือนกับวันรวมญาติมากกว่าเป็นงานมงคล ลู่ซินฟางอนุญาตให้ชุนหยุดได้เท่าที่ต้องการ หลังเสร็จสิ้นงานแต่ง ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม หลายวันหลังจากนั้น อุณหภูมิเริ่มลดต่ำ สายลมหนาวเย็นพัดมาเป็นระลอก ลู่ซินฟางยืนอยู่บนระเบียง มองพวกเด็กๆ วิ่งเล่นกันที่ลานกว้าง “เด็กๆ เนี่ย ไม่รู้จักความหนาวกันเลยหรือไงนะ” ลู่ซินฟางพึมพำด้วยความเอ็นดู “แอร๊…!” ตอนนั้นเอง เสียงเล็กๆ ของจินเอ๋อร์ดังมาจากในเปล ลู่ซินฟางผละสายตาออกจากพวกเฉิงเอ๋อร์ เดินกลับมาหาลูกน้อยที่นอนในเปล จินเอ๋อร์อา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 128 บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์

    บทที่ 128บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์ เมื่อกลับมาจากมิติ ซินหลินก็มาหาลู่ซินฟางที่คฤหาสน์ เจ้าแฝดพอเห็นพี่ชายมาหา ก็วิ่งเข้าไปเกาะแขน กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “พี่ชายซินหลิน เมื่อกี้พวกเราไปมิติมาด้วย” “พี่ชายซินหลิน พวกเราไปอ่านหนังสือกันเถอะ” ซินหลินส่ายหน้าพร้อมเคาะปลายจมูกน้อยๆ ของเด็กทั้งสองเบาๆ คนละที “พวกเจ้าเรี่ยวแรงเหลือเฟือจริงๆ เลยนะ เพิ่งกลับมาจากมิติไม่ใช่หรือ คิดจะเล่นกันอีกแล้ว?” “ฮะๆ” “คิๆ” เจ้าแฝดหัวเราะชอบใจ ซินหลินยิ้มให้กับน้องๆ ก่อนหันมาบอกลู่ซินฟางว่า “ข้าเพิ่งเอาผักไปให้เหนียงซิ่น นางบอกว่าอากาศน่าจะเริ่มหนาวแล้ว นางว่าจะทำหม้อไฟชุดใหญ่ เลยให้ข้ามาบอกน่ะ” “ขอบใจมาก รอเยียนซูกลับมาแล้วข้าจะพาเด็กๆ ไปที่คฤหาสน์นะ” ลู่ซินฟางตอบกลับ “อืม” “หม้อไฟ” “เย่ หม้อไฟ!” หม้อไฟฝีมือเหนียงซิ่นอร่อยมาก แถมนานๆ ครั้งจะได้สักที พวกเด็กๆ จึงชูแขนร้องด้วยความดีใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status