บทที่ 116
มิตรภาพของเด็กๆ (ครึ่งหลัง)
ในตอนบ่ายจางต้วนทำธุระเสร็จก็มารับลูกทั้งสองกลับบ้าน หลังจากส่งตงตงกับเม่ยเม่ยที่หน้าประตู เป่าเอ๋อร์ก็เกาะขาของชุน ร้องถามด้วยเสียงอ้อนๆ
“ท่านแม่…เมื่อไรท่านแม่จะกลับมาหรือ”
ชุนอุ้มเด็กหญิงขึ้นมาแล้วพาเข้าบ้าน เฉิงเอ๋อร์เดินตามอยู่ข้างๆ หน้าตาซึมๆ ไม่ต่างกับน้องสาว ชุนยื่นมือไปลูบศีรษะของเด็กชาย
“อีกไม่นานนายหญิงก็กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”
“อยากเจอท่านแม่จัง” เป่าเอ๋อร์พูดพร้อมกับทำปากยู่
“ท่านแม่ไปทำงานนะ พวกเราต้องอดทนสิ” เฉิงเอ๋อร์บอกน้องสาว
“พี่ใหญ่ก็คิดถึงท่านแม่เหมือนกันนั่นแหละ”
“ก็แหม...”
ในขณะเดินเข้าบ้านพร้อมฟังเจ้าแฝดโต้เถียงกันเล็กๆ ชุนยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนเสนอวิธีแก้เบื่อ
“พวกเราไปที่มิติกันดีไหม”
“ได้หรือ!” เฉิงเอ๋อร์ถามด้วยท่าทีกระตือรือร้น
“ได้สิเจ้าคะ” ชุนตอบ
ส่วนเป่าเอ๋อร์กระโดดเหยงๆ พร้อมพูดว่า ไปๆ อยากไป
เมื่อพวกเขาเข้าในเรือน ชุนกับเด็กๆ ก็ช่วยกันเตรียมข้าวของว่าง ในตอนนั้น ถึงเวลาที่ซินหลินกลับมาจากสวนพอดี ชุนจึงขอแรงให้เด็กชายช่วยเปิดประตูมิติ ส่งทุกคนข้ามไปโลกทางนั้น
ทันทีที่ก้าวข้ามเข้ามา สายลมเย็นๆ ก็พัดปะทะใบหน้า เจ้าแฝดแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่แจ่มใส สูดกลิ่นอายของอากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์
“พวกเจ้ามาแล้ว!”
พอรับรู้ถึงการมาเยือนของเจ้าแฝด หลินก็บินมาหาพวกเขา
ชุนโค้งตัวเคารพภูตน้อย จากนั้นอธิบายเรื่องที่ลู่ซินฟางต้องไปทำงานที่เมืองหลวง เลยพาเจ้าแฝดมาเที่ยวในมิติ
หลินพยักหน้าพร้อมส่งเสียง อืมๆ ด้วยความเข้าใจ จากนั้นก็ชูแขนกระโดดกลางอากาศด้วยความร่าเริง
“ได้สิ พวกเจ้าจะมาเมื่อไรก็ได้ งั้น...วันนี้ก็มาเล่นให้สนุกกันเถอะ”
เด็กทั้งสองยิ้มแย้มอย่างเบิกบาน ท่าทางเหงาๆ เศร้าๆ ในตอนแรกหายปลิดทิ้ง
ภูตน้อยกระโดดด้วยท่าทางดีใจ
ซินหลินเองก็อยู่ที่นี่ด้วย เพราะงานของวันนี้เขาทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอได้เห็นทุกคนกำลังปรึกษากันว่าจะไปไหน เขาจึงลองเสนอ “พวกเราไปนั่งเล่นที่ลำธาร กินของว่างอร่อยๆ กันดีไหม”
“ลำธารหรือ” เฉิงเอ๋อร์ถามย้ำ
“อืม” ซินหลินตอบ
“ดีๆ ข้าอยากเล่นน้ำ พี่ใหญ่ ไปลำธารกันเถอะ นะๆ” เป่าเอ๋อร์ชอบเล่นน้ำที่สุด
หลังจากสรุปสถานที่กันได้แล้ว ทุกคนก็มุ่งหน้าตรงไปยังลำธาร
ลำธารในมิติน้ำใสแจ่ว มองลงไปแทบจะเห็นหินทุกก้อน ตอนลงไปแช่ก็ให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบาย
เป่าเอ๋อร์จูงมือของชุน อ้อนให้พาไปแช่น้ำ
ในตอนนี้ ชุนจัดอุปกรณ์และเตรียมที่นั่งใต้ร่มไม้สำหรับทุกคนเรียบร้อย นางจึงพาเป่าเอ๋อร์ลงไปเล่นน้ำ
เฉิงเอ๋อร์วิ่งตามหลังน้องสาว ลงไปแช่น้ำเล่นกับพวกนาง
ด้านภูตหลินกับซินหลิน นั่งกินขนมด้วยความอร่อย ช่างเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและเต็มไปด้วยความสุข
พอตกเย็น ถึงเวลาที่ต้องส่งเจ้าแฝดกลับคฤหาสน์ ซินหลินกางมือ กำลังจะเปิดประตูมิติ แต่ในตอนนั้น จู่ๆ เป่าเอ๋อร์กอดรั้งแขนซินหลินแล้วอ้อนคำเดิมซ้ำๆ “ไม่เอา ไม่อยากกลับ ไม่อยากกลับ”
เฉิงเอ๋อร์เองก็ก้มหน้าหงอยเหงา
ซินหลินลดมือลง หันไปถามชุน “เอายังไงดี”
ชุนหันมองภูตหลินต่อ เพื่อขอความคิดเห็น
“เจ้านายไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ใช่หรือไม่” ภูตน้อยถามพร้อมกับบินไปบินมา เมื่อชุนพยักหน้าตอบว่า เจ้าค่ะ ภูตน้อยผุดรอยยิ้มทะเล้น กล่าวขึ้นว่า “ช่วยไม่ได้น๊า...ถ้าเหงาละก็ มาค้างคืนด้วยกันเอาไหม”
เจ้าแฝดกระโดดโหยงๆ พลางร้อง เย่! ด้วยความดีใจ
ซินหลินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนข้ามมิติไปบอกเหนียงซิ่นเรื่องที่เจ้าแฝดจะค้างคืนกับพวกเขาที่บ้านในมิติ
บ้านที่หลินกับซินหลินอาศัยอยู่นี้ทำจากไม้ สองชั้น รูปทรงแบบยุโรปและมีหลายห้อง
สองพี่น้องเลือกห้องที่อยู่ติดกับซินหลิน เมื่อสรุปได้แล้ว ภูตน้อยจึงเสกเตียงขนาด 6 ฟุตตั้งไว้ข้างหน้าต่าง ยังมีหมอน ผ้าห่มนวมและตุ๊กตาอีกเพียบ
เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์เบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนเตียง
“นุ่มจัง น่ารักด้วย”
“ใช่ๆ นุ่มมากเลย”
เด็กทั้งสองกอดตุ๊กตา พร้อมกับกระโดดดึ๋งๆ เหมือนกับกระต่าย
“พวกเจ้าสมกับเป็นเด็กน้อยจริงๆ”
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ซินหลินก็กระโดดขึ้นมาบนเตียงของเจ้าแฝดเช่นกัน
เด็กๆ บนเตียงกันอีกสักพัก ก่อนพวกเขาจะล้มตัวลงแล้วหลับปุ๋ย
ชุนกับหลินหัวเราะคิกๆ
“วันนี้เล่นกันมาทั้งวัน พอเหนื่อยก็เลยหลับง่ายสินะ ว่าไปแล้ว พอมองแบบนี้ ทั้งสามคนเหมือนกันเปี๊ยบเลยนะเจ้าคะ”
“ก็เป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือ” หลินเอียงศีรษะพูด
“จริงด้วยเจ้าค่ะ ข้าลืมไปเลย”
แม้ลู่ซินฟางไม่ได้อุ้มท้องซินหลิน แต่เด็กคนนี้ก็เกิดมาจากเลือดของนาง และการแบ่งวิญญาณของภูตน้อย นับได้ว่าเป็นพี่สองสายเลือดเดียวกันกับเจ้าแฝด
“ยังไงก็เถอะ เด็กๆ เนี่ย น่ารักกันจังเลยนะ”
“เจ้าค่ะ”
ตอนพิเศษ (5)จบบริบูรณ์ หลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว จิ้งจอกสาวก็เช็ดน้ำตาบนแก้มจนแห้ง สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปขอโทษหลางไป๋ ทว่าทุกครั้งที่นางเข้าใกล้ เขากลับผละหนี แสร้งทำทีเป็นยุ่งง่วนกับงาน ท่าทางแบบนั้นราวกับจงใจหลบหน้านางไม่มีผิด เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น เจียงจวีก็น้ำตาซึม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นับวันหัวใจของนางก็ยิ่งปวดแปลบ ท้ายที่สุด นางที่รู้สึกระอายใจเป็นทุนเดิม ยิ่งไม่กล้าสู้หน้าเขา หลายวันต่อมา เจียงจวีเก็บข้าวของ หนีกลับเผ่าจิ้งจอก ณ เผ่าจิ้งจอก ผู้นำเผ่าจิ้งจอกในร่างของชายวัยคนกับจิ้งจอกหนุ่มต่างยืนกอดอกหน้าตาขึงขัง ในขณะที่มองจิ้งจอกสาวกอดเข่าน้ำตาซึม “ตั้งแต่นางกลับมาก็เอาแต่นั่งอมทุกข์ทั้งวันทั้งคืน สงสัยจะเจอแย่ๆ มา หากรู้อย่างนี้ ข้าไม่น่าอนุญาตให้นางออกไปเจอโลกภายนอกเลย เป็นข้าที่ตัดสินใจผิดพลาดเอง” ผู้นำเผ่าพูดกับลูกชาย “ท่านพ่อไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดหรอกขอรับ ให้นางออกไปเผชิญโลกภายนอก นับเป็นประสบการณ์ของนางด้วย” จิ้งจอกหนุ่มกล่าว
ตอนพิเศษ (4) หลังจากเห็นว่าเจียงจวีเหมาะกับตำแหน่งพนักงานขาย หลางไป๋ก็ให้นางทำงานในร้านซินหลินคู่กับห่จือเหมย เพียงไม่กี่อาทิตย์ เจียงจวีก็เป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ของร้าน ด้วยความที่เป็นจิ้งจอกใสซื่อ จึงทำให้ผู้คนชื่นชอบและเอ็นดูไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่หลางไป๋ “ทำงานแค่ไม่กี่อาทิตย์ เจ้าก็ทำกำไรให้ร้านซินหลินไม่น้อย…ทำดีมาก” หลางไป๋เอ่ยชมเจียงจวี พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะ ตอนแรก หมาป่าหนุ่มทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นจิ้งจอกสาวผงะ ทั้งแก้มนวลเนียนยังขึ้นสีแดงระเรื่อ มือใหญ่ที่กำลังลูบศีรษะของนางพลันชักกลับมา จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินไปตรวจงานแผนกอื่น และไม่พูดไม่จาใดๆ หัวใจของเจียงจวีเต้นระส่ำระส่ายไม่หยุด แม้ยกมือขึ้นลูบหน้าอกพร้อมสูดหายลึกๆ แล้ว หากแต่หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา อย่างไรก็ตาม อาการใจเต้นแรงนี้ ทำให้จิ้งจอกสาวอดรู้สึกกังวลไม่ได้ หมิงฮวาเข้าร้านมาในจังหวะนั้นพอดี นางมองหลางไป๋สลับกับมองเจียงจวี สักครู่ ดวงตาของอสรพิษสาวก็หรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นหลางไป๋ขึ้นไปที่ชั้
ตอนพิเศษ (3) วันต่อมา จิ้งจอกสาวหอบห่อผ้ามาที่ฟาร์มอีกครั้ง แต่หนนี้นางมาพร้อมกับพี่ชาย “พวกเจ้าสองพี่น้องจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกันหรือ” หลางไป๋สอบถาม การได้คนหน่วยกร้านดีเพิ่ม มีใครบ้างไม่ชอบ ทว่าจิ้งจอกหนุ่มโบกมือแล้วตอบ “ไม่ใช่ขอรับ ข้าแค่มาส่งน้องสาว อีกอย่าง ที่มาวันนี้ก็เพื่อขอร้องท่านให้ช่วยดูแลนางด้วย นางค่อนข้างซื่อน่ะขอรับ” หลางไป๋พยักหน้าเหมือนเข้าใจ หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกยิ้มใสซื่อ โค้งศีรษะให้กับหลางไป๋ทีหนึ่ง “จากนี้ข้าต้องขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ” หลางไป๋หันไปยิ้มให้กับหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกพลางตอบว่า “ทางนี้ก็ต้องฝากตัวด้วยเช่นกัน” จากนั้นก็หันไปพูดกับทางพี่ชายด้วยสีหน้าเสียดาย “พูดก็พูดเถอะ เจ้าเองก็หน่วยกร้านดีไม่เบา น่าจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกัน” “ความจริงข้าก็อยากมาทำงานที่นี่นะขอรับ แต่เพราะท่านพ่อของพวกเรากำลังป่วย ข้าที่เป็นลูกชาย และยังเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าคนต่อไป ต้องคอยจัดการหลายๆ เรื่อง ตอนนี้ก็เลยออกจากเผ่าไม่ได้” “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” “ขอบคุณท่านผู
ตอนพิเศษ (2) สถานที่นี้เรียกว่าฟาร์ม มีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ทุ่งดอกไม้ โรงเรือนเพาะต้นกล้า ไหนจะโรงผลิตสารพัดที่เพิ่มขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด หนำซ้ำ ยังมีหมู่บ้านของเหล่าสัตว์อสูร ถนนที่ปูด้วยอิฐ ตรงลานกว้างของเมืองก็มีน้ำพุขนาดใหญ่ พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…น่าอิจฉาและดูน่าสนุกกันจังเลย จิ้งจอกสาวคิด ก่อนจะถอนหายเฮือกออกมาหนึ่ง หญิงสาวชอบความตื่นตาตื่นใจของฟาร์ม ถึงได้แอบมาดูทุกวัน ในตอนที่ลำแสงสีทองสาดเข้ามาในป่ารกทึบ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็มีวิวัฒนาการกลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนั้นนางตื่นเต้นมาก กระโดดโลดเต้นรอบป่า ยิ่งค้นพบว่ายังมีสัตว์เผ่าอื่นที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งอยากเป็นเพื่อนกับทุกคน เพราะอย่างนั้นตอนที่หมาป่าเพศผู้นามว่าหลางไป๋มาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอก นางอยากให้ท่านพ่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านภูต แต่ว่า ท่านพ่อกลับปฏิเสธ แม้ผิดหวังอย่างมาก แต่คำสั่งของผู้นำเผ่าถือเป็นเด็ดขาด เช้าตรู่ของวันนี้ จิ้งจอกสาวก็ยังแอบมาที่ฟาร์ม นางหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แ
ตอนพิเศษ (1) ต้นฤดูหนาวของปีนั้น ชุนกับจิ่นเซี่ยได้จัดพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย โดยหลางไป๋เป็นญาติฝ่ายหญิง ส่วนจิ่นเซี่ยนั้น เนื่องจากองครักษ์หนุ่มผู้นี้เป็นเด็กกำพร้า ญาติฝ่ายชายจึงเป็นกงเยียนซู แม้เป็นงานแต่งที่เรียบง่าย แต่เพราะได้ลู่ซินฟางเป็นแม่งาน อาหารสุราจึงขึ้นเต็มโต๊ะตลอดทั้งวันทั้งคืน แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนกันเอง งานแต่งของชุนกับองครักษ์หนุ่ม จึงเหมือนกับวันรวมญาติมากกว่าเป็นงานมงคล ลู่ซินฟางอนุญาตให้ชุนหยุดได้เท่าที่ต้องการ หลังเสร็จสิ้นงานแต่ง ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม หลายวันหลังจากนั้น อุณหภูมิเริ่มลดต่ำ สายลมหนาวเย็นพัดมาเป็นระลอก ลู่ซินฟางยืนอยู่บนระเบียง มองพวกเด็กๆ วิ่งเล่นกันที่ลานกว้าง “เด็กๆ เนี่ย ไม่รู้จักความหนาวกันเลยหรือไงนะ” ลู่ซินฟางพึมพำด้วยความเอ็นดู “แอร๊…!” ตอนนั้นเอง เสียงเล็กๆ ของจินเอ๋อร์ดังมาจากในเปล ลู่ซินฟางผละสายตาออกจากพวกเฉิงเอ๋อร์ เดินกลับมาหาลูกน้อยที่นอนในเปล จินเอ๋อร์อา
บทที่ 128บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์ เมื่อกลับมาจากมิติ ซินหลินก็มาหาลู่ซินฟางที่คฤหาสน์ เจ้าแฝดพอเห็นพี่ชายมาหา ก็วิ่งเข้าไปเกาะแขน กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “พี่ชายซินหลิน เมื่อกี้พวกเราไปมิติมาด้วย” “พี่ชายซินหลิน พวกเราไปอ่านหนังสือกันเถอะ” ซินหลินส่ายหน้าพร้อมเคาะปลายจมูกน้อยๆ ของเด็กทั้งสองเบาๆ คนละที “พวกเจ้าเรี่ยวแรงเหลือเฟือจริงๆ เลยนะ เพิ่งกลับมาจากมิติไม่ใช่หรือ คิดจะเล่นกันอีกแล้ว?” “ฮะๆ” “คิๆ” เจ้าแฝดหัวเราะชอบใจ ซินหลินยิ้มให้กับน้องๆ ก่อนหันมาบอกลู่ซินฟางว่า “ข้าเพิ่งเอาผักไปให้เหนียงซิ่น นางบอกว่าอากาศน่าจะเริ่มหนาวแล้ว นางว่าจะทำหม้อไฟชุดใหญ่ เลยให้ข้ามาบอกน่ะ” “ขอบใจมาก รอเยียนซูกลับมาแล้วข้าจะพาเด็กๆ ไปที่คฤหาสน์นะ” ลู่ซินฟางตอบกลับ “อืม” “หม้อไฟ” “เย่ หม้อไฟ!” หม้อไฟฝีมือเหนียงซิ่นอร่อยมาก แถมนานๆ ครั้งจะได้สักที พวกเด็กๆ จึงชูแขนร้องด้วยความดีใจ