Share

บทที่ 125 ครอบครัวเดียวกัน

last update Last Updated: 2025-07-30 09:30:41

บทที่ 125

ครอบครัวเดียวกัน

            กลางฤดูใบไม้ผลิในปีนั้น กงเยียนซูกับลู่ซินฟางเข้าวังหลวง ขอพระราชทานสมรสแบบส่วนตัว

            1 เดือนต่อมา ณ เมืองเล่ออัน

            งานแต่งระหว่างลู่ซินฟางกับกงเยียนซูก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองคนต่างหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย งานเลี้ยงจึงต้องจัดขึ้นถึงจนถึงเช้าของอีกวัน  

            อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางแม้เป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา แต่ก็ได้รับการยอมรับในฐานะชายาขององค์ชายแปดโดยไม่มีใครคัดค้าน

            อย่างที่รู้กันดี สำหรับกงเยียนซูตำแหน่งองค์ชายก็แค่ในนาม นับตั้งแต่ผลันตัวมาเป็นพ่อค้า เขาก็เป็นอิสระจากทุกสิ่ง และที่สำคัญ ท้องพระคลังมั่งคั่งได้ก็มาจากเงินภาษีของเขา ยามนี้กรมคลังยังได้เงินภาษีจากตระกูลลู่เพิ่มเข้ามาอีก ถ้าให้พูดอย่างเข้าใจง่ายคงเป็นล้วนได้รับผลประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

            แต่เหนือสิ่งอื่นใด หากไม่ใช่ความรักของพ่อแม่ กงเยียนซูก็คงไม่ได้รับการสนับสนุนมากมายขนาดนี้

            หลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน วันเวลาล่วงเลยมาอีกหนึ่งอาทิตย์ 

            ยามเช้าท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงของดวงอาทิตย์ทอประกายเข้ามาทางหน้าต่างราวกับเส้นไหมสีทอง บนเตียงหลังใหญ่ กงเยียนซูนอนตะแคง มองดวงหน้าของภรรยาด้วยสายตาลึกล้ำรักใคร่ 

            บนผิวขาวเนียนละเอียดของนางยังมีร่องรอยความรักขณะทำกิจกรรมระหว่างสามีภรรยาทุกคืน

            พอคิดเรื่องนั้นขึ้นมา ร่างกายของกงเยียนซูพลันร้อนผ่าว ดวงตาคมเข้มเลื่อนจากผิวกายขึ้นมาจ้องมองกลีบปากแสนสวย  

            ไม่รู้ตัวเลยว่าจ้องมองริมฝีปากของนางมานานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นว่าหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นแล้ว 

            “นอนไม่หลับหรือ ทำไมได้ตื่นเช้านัก” นางถามพลางยื่นมือลูบใบหน้าของชายหนุ่ม

            กงเยียนซูจับมือของภรรยา จูบหลังมือของนางเบาๆ ทีหนึ่งก่อนจะตอบ  

            “เพราะข้ามีความสุขมากเหมือนกับว่ายังอยู่ในความฝัน จึงอยากมองเจ้าให้ชัดๆ น่ะ”

            หญิงสาวฟังแล้วก็ยิ้มอย่างจนใจ

            ตั้งแต่กงเยียนซูรู้ใจตัวเอง ปากกับใจของเขาตรงกันมาก แต่นางก็ไม่ได้รังเกียจที่เขาเป็นเช่นนี้

            ระหว่างมองชายหนุ่ม ไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาสองคู่สบประสานกันนิ่ง กงเยียนซูที่ยังกุมมือของลู่ซินฟางไว้ อดใจกับความเย้ายวนของภรรยาไม่ไหว ปลายนิ้วจึงสะกิดลูบไล้เบาๆ กับหลังมือของนาง

            ลู่ซินฟางสัมผัสได้ถึงผิวกายที่ร้อนผ่าวของกงเยียนซู ทันใดนั้นแก้มของนางพลันแดงเรื่อด้วยเข้าใจความหมายที่สื่อผ่านทางร่างกาย 

            กงเยียนซูขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ ภรรยา วงแขนแข็งแรงโอบกอดเอวบางเอาไว้อย่างแนบแน่น ผ่านไปชั่วครู่ ริมฝีปากของเขาก็แตะลงบนหน้าผากมน แล้วไล่ลงมาที่ริมฝีปาก

            แผ่วเบาราวกับขนนก แต่อบอุ่นเหมือนสายลมในฤดูร้อน

            แม้จะผ่านค่ำคืนแรกมาแล้ว แต่ลู่ซินฟางก็ยังไม่ชินกับความใกล้ชิดระหว่างสามีภรรยา จึงทั้งประหม่าทั้งเขินอายจนอยากมุดเตียงหนี

            และแล้ว กงเยียนซูก็ขยับผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ถึงเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่นางก็สัมผัสได้ถึงร่างกายที่เต็มเปี่ยมด้วยความปรารถนา 

            “เอ่อ…พวกเราต้องลุกจากเตียงได้แล้ว วันนี้ต้องไปร่วมแสดงความยินดีกับอาจารย์อิ้ง”

            จากความร่วมมือของลู่ซินฟางและกงเยียนซู สถานศึกษาของอิ้งเหยียนถูกสร้างเสร็จภายในฤดูใบไม้ผลิพอดี 

            วันนี้เป็นวันเปิดสถานศึกษาวันแรก ต้องไปร่วมแสดงความยินดีเสียหน่อย

            “ไปสายหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก”

            กงเยียนซูกระซิบข้างหูภรรยา น้ำเสียงของเขายั่วยวนและแหบพร่า

            ลู่ซินฟางจักจี้ใบหูจนขนลุก 

            ในตอนที่ลู่ซินฟางไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างบอบบาง ก้มใบหน้าหล่อเหลาลงแล้วดูดกลืนริมฝีปากของนางแรงๆ

            หัวใจของลู่ซินฟางเต้นแรง ร่างกายเริ่มอ่อนระทวย จังหวะนั้นกงเยียนซูพลันสอดลิ้นเข้ามาในโพลงปาก

            “อะ อือ...”

            ลู่ซินฟางหลับตาลง ปล่อยตัวไปตามสัญชาตญาณ

            ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา สองร่างขยับไหวเป็นจังหวะอย่างเร่าร้อนเกินต้าน เสียงครางหวะหวิวของหญิงสาวดังขึ้นเป็นพักๆ ผสานกับเสียงหอบหายใจของชายหนุ่ม

            หลังทำกิจกรรมของคู่รักเสร็จหนึ่งรอบ คลื่นความร้อนก็ค่อยบรรเทาลง กงเยียนซูกอดลู่ซินฟางทั้งที่ร่างกายของทั้งคู่ยังเปลือยเปล่า ทั้งจูบทั้งพร่ำบอกรักนางคำแล้วคำเล่า

            ลู่ซินฟางส่ายหน้าอย่างจนใจ ต้องย้ำหลายครั้งว่าทุกคนรออยู่ข้างนอก กงเยียนซูถึงยอมปล่อยมือจากนางด้วยสีหน้าเสียดาย

            พอเห็นแบบนี้ ริมฝีปากของหญิงสาวก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอ่อนโยน 

            ลู่ซินฟางกับกงเยียนซูออกมาจากห้อง เห็นเจ้าแฝดกำลังนั่งเตะขาบนเก้าอี้ ท่าทางจะรอคอยพวกเขานานแล้ว

            “เฉิงเอ๋อร์ เป่าเอ๋อร์ พวกเจ้าคงรอแม่นานเลยสินะ”

            หญิงสาวพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดนิดๆ

            “ท่านแม่”

            “ท่านแม่”

            เจ้าแฝดกระโดดลงจากเก้าอี้ วิ่งเข้ามาเกาะแขนทั้งสองของมารดา จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วว่า “รอไม่นานขอรับ/เจ้าค่ะ”

            “อย่างนั้นหรือ...งั้นพวกเราไปหาอาจารย์อิ้งกันเลยเนอะ”

            ลู่ซินฟางพูดจบก็จูงมือลูกๆ เดินออกจากคฤหาสน์ แต่เด็กทั้งสองกลับยืนนิ่ง นางจึงหยุดฝีเท้าก้มมองพวกเขา พลันพบว่าเจ้าแฝดเหลือบมองกงเยียนซูด้วยดวงตาที่บ๊องแบ๊ว

            กงเยียนซูกับลู่ซินฟางไม่เข้าใจกับท่าทีของเด็กทั้งสอง

            ผ่านไปสักพัก ริมฝีปากเล็กๆ ของเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ก็ขยับพร้อมกับเรียกกงเยียนซูด้วยน้ำเสียงลังเล

            “ทะ ท่านพ่อ”

            กงเยียนซูเบิกตากว้าง สีหน้าตะลึงอย่างยิ่ง

            เจ้าแฝดรีบหลบหลังลู่ซินฟาง คงคิดว่ากงเยียนซูไม่ชอบให้พวกเขาเรียกเช่นนั้น ทว่า...ชายหนุ่มกลับคลี่ยิ้มอย่างเบิกบาน ย่อตัวลงนั่งยองๆ ตรงหน้าเด็กๆ

            “พวกเจ้า ช่วยเรียกข้าแบบนั้นอีกได้หรือไม่”

            เจ้าแฝดหันมองหน้ากัน ก่อนจะโผล่ใบหน้าออกมาจากหลังของมารดา

            “ท่านพ่อ!”

            ชั่ววินาทีนั้น ความปลาบปลื้มอันแสนอบอุ่นพลันจู่โจมเข้ามาเต็มอกของกงเยียนซู เขาซาบซึ้งใจจนแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา

            “ในที่สุดพวกเจ้าก็เรียกข้าว่า ‘พ่อ’ แล้ว มาให้ข้ากอดที”

            เมื่อกงเยียนซูกางสองแขนออก เจ้าแฝดที่หลบหลังลู่ซินฟางก็เดินออกมา โผเข้าไปหาชายหนุ่ม พร้อมเรียก ท่านพ่อๆ

            กงเยียนซูกอดเจ้าแฝดด้วยความดีใจ

            ด้านลู่ซินฟางเองก็อดจะยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้

            เด็กทั้งสองอยากเรียกกงเยียนซูว่าพ่อนานแล้ว เพียงแต่เขินอาย ไม่กล้าเรียกเท่านั้นเอง แต่เรื่องนี้นางไม่บอกเขาจะดีกว่า เดี๋ยวจะยิ่งได้ใจ

            “ใกล้จะได้เวลาเปิดสถานศึกษาแล้ว พวกเราไปหาอาจารย์อิ้งกันเถอะ” ลู่ซินฟางกล่าวขัดจังหวะ

            กงเยียนซูเงยหน้ามองภรรยาก่อนจะลุกขึ้น เขาอุ้มเป่าเอ๋อร์ ส่วนลู่ซินฟางจูงมือเฉิงเอ๋อร์ จากนั้นทั้งสี่ก็ออกจากคฤหาสน์ไปด้วยกัน มองแบบนี้ช่างเป็นครอบครัวอบอุ่นไม่มีใครเกิน 

            ชุนกับจิ่นเซี่ยเดินตามหลังทุกคน อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

            ตอนนั้นเอง องครักษ์หนุ่มยื่นมือไปกุมมือของหมาป่าสาว

            “อะไรของเจ้า” ชุนมุ่นหัวคิ้วถาม แต่ก็ไม่ได้สะบัดมือหนี พักหลังนางเริ่มชินกับนิสัยชอบทำอะไรปุบปับของจิ่นเซี่ยแล้ว

            “ขอจับมือของเจ้าได้หรือไม่”

            เพราะบรรยากาศพาไป จู่ๆ ก็อยากจับมือของนางขึ้นมา

            “จับไปแล้วถึงถามเนี่ยนะ” ชุนพูดพลางส่ายหน้า

            องครักษ์หนุ่มไม่ได้แก้ตัวใดๆ หากแต่ยิ้มอย่างอบอุ่นและเบิกบาน

            เมื่อเห็นสีหน้าของจิ่นเซี่ยผุดรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข ชุนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

            “แค่ถึงหน้าประตูเท่านั้นนะ”

            “อืม ได้”

            จากนั้นทั้งคู่ก็จูงมือเดินตามหลังเจ้านาย

            เบื้องหน้าคือครอบครัวสี่คนพ่อแม่ลูก เบื้องหลังคือคู่รักหนุ่มสาว รอบตัวของพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุข

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (5) จบบริบูรณ์

    ตอนพิเศษ (5)จบบริบูรณ์ หลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว จิ้งจอกสาวก็เช็ดน้ำตาบนแก้มจนแห้ง สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปขอโทษหลางไป๋ ทว่าทุกครั้งที่นางเข้าใกล้ เขากลับผละหนี แสร้งทำทีเป็นยุ่งง่วนกับงาน ท่าทางแบบนั้นราวกับจงใจหลบหน้านางไม่มีผิด เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น เจียงจวีก็น้ำตาซึม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นับวันหัวใจของนางก็ยิ่งปวดแปลบ ท้ายที่สุด นางที่รู้สึกระอายใจเป็นทุนเดิม ยิ่งไม่กล้าสู้หน้าเขา หลายวันต่อมา เจียงจวีเก็บข้าวของ หนีกลับเผ่าจิ้งจอก ณ เผ่าจิ้งจอก ผู้นำเผ่าจิ้งจอกในร่างของชายวัยคนกับจิ้งจอกหนุ่มต่างยืนกอดอกหน้าตาขึงขัง ในขณะที่มองจิ้งจอกสาวกอดเข่าน้ำตาซึม “ตั้งแต่นางกลับมาก็เอาแต่นั่งอมทุกข์ทั้งวันทั้งคืน สงสัยจะเจอแย่ๆ มา หากรู้อย่างนี้ ข้าไม่น่าอนุญาตให้นางออกไปเจอโลกภายนอกเลย เป็นข้าที่ตัดสินใจผิดพลาดเอง” ผู้นำเผ่าพูดกับลูกชาย “ท่านพ่อไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดหรอกขอรับ ให้นางออกไปเผชิญโลกภายนอก นับเป็นประสบการณ์ของนางด้วย” จิ้งจอกหนุ่มกล่าว

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (4)

    ตอนพิเศษ (4) หลังจากเห็นว่าเจียงจวีเหมาะกับตำแหน่งพนักงานขาย หลางไป๋ก็ให้นางทำงานในร้านซินหลินคู่กับห่จือเหมย เพียงไม่กี่อาทิตย์ เจียงจวีก็เป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ของร้าน ด้วยความที่เป็นจิ้งจอกใสซื่อ จึงทำให้ผู้คนชื่นชอบและเอ็นดูไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่หลางไป๋ “ทำงานแค่ไม่กี่อาทิตย์ เจ้าก็ทำกำไรให้ร้านซินหลินไม่น้อย…ทำดีมาก” หลางไป๋เอ่ยชมเจียงจวี พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะ ตอนแรก หมาป่าหนุ่มทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นจิ้งจอกสาวผงะ ทั้งแก้มนวลเนียนยังขึ้นสีแดงระเรื่อ มือใหญ่ที่กำลังลูบศีรษะของนางพลันชักกลับมา จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินไปตรวจงานแผนกอื่น และไม่พูดไม่จาใดๆ หัวใจของเจียงจวีเต้นระส่ำระส่ายไม่หยุด แม้ยกมือขึ้นลูบหน้าอกพร้อมสูดหายลึกๆ แล้ว หากแต่หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา อย่างไรก็ตาม อาการใจเต้นแรงนี้ ทำให้จิ้งจอกสาวอดรู้สึกกังวลไม่ได้ หมิงฮวาเข้าร้านมาในจังหวะนั้นพอดี นางมองหลางไป๋สลับกับมองเจียงจวี สักครู่ ดวงตาของอสรพิษสาวก็หรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นหลางไป๋ขึ้นไปที่ชั้

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (3)

    ตอนพิเศษ (3) วันต่อมา จิ้งจอกสาวหอบห่อผ้ามาที่ฟาร์มอีกครั้ง แต่หนนี้นางมาพร้อมกับพี่ชาย “พวกเจ้าสองพี่น้องจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกันหรือ” หลางไป๋สอบถาม การได้คนหน่วยกร้านดีเพิ่ม มีใครบ้างไม่ชอบ ทว่าจิ้งจอกหนุ่มโบกมือแล้วตอบ “ไม่ใช่ขอรับ ข้าแค่มาส่งน้องสาว อีกอย่าง ที่มาวันนี้ก็เพื่อขอร้องท่านให้ช่วยดูแลนางด้วย นางค่อนข้างซื่อน่ะขอรับ” หลางไป๋พยักหน้าเหมือนเข้าใจ หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกยิ้มใสซื่อ โค้งศีรษะให้กับหลางไป๋ทีหนึ่ง “จากนี้ข้าต้องขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ” หลางไป๋หันไปยิ้มให้กับหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกพลางตอบว่า “ทางนี้ก็ต้องฝากตัวด้วยเช่นกัน” จากนั้นก็หันไปพูดกับทางพี่ชายด้วยสีหน้าเสียดาย “พูดก็พูดเถอะ เจ้าเองก็หน่วยกร้านดีไม่เบา น่าจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกัน” “ความจริงข้าก็อยากมาทำงานที่นี่นะขอรับ แต่เพราะท่านพ่อของพวกเรากำลังป่วย ข้าที่เป็นลูกชาย และยังเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าคนต่อไป ต้องคอยจัดการหลายๆ เรื่อง ตอนนี้ก็เลยออกจากเผ่าไม่ได้” “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” “ขอบคุณท่านผู

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (2)

    ตอนพิเศษ (2) สถานที่นี้เรียกว่าฟาร์ม มีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ทุ่งดอกไม้ โรงเรือนเพาะต้นกล้า ไหนจะโรงผลิตสารพัดที่เพิ่มขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด หนำซ้ำ ยังมีหมู่บ้านของเหล่าสัตว์อสูร ถนนที่ปูด้วยอิฐ ตรงลานกว้างของเมืองก็มีน้ำพุขนาดใหญ่ พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…น่าอิจฉาและดูน่าสนุกกันจังเลย จิ้งจอกสาวคิด ก่อนจะถอนหายเฮือกออกมาหนึ่ง หญิงสาวชอบความตื่นตาตื่นใจของฟาร์ม ถึงได้แอบมาดูทุกวัน ในตอนที่ลำแสงสีทองสาดเข้ามาในป่ารกทึบ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็มีวิวัฒนาการกลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนั้นนางตื่นเต้นมาก กระโดดโลดเต้นรอบป่า ยิ่งค้นพบว่ายังมีสัตว์เผ่าอื่นที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งอยากเป็นเพื่อนกับทุกคน เพราะอย่างนั้นตอนที่หมาป่าเพศผู้นามว่าหลางไป๋มาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอก นางอยากให้ท่านพ่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านภูต แต่ว่า ท่านพ่อกลับปฏิเสธ แม้ผิดหวังอย่างมาก แต่คำสั่งของผู้นำเผ่าถือเป็นเด็ดขาด เช้าตรู่ของวันนี้ จิ้งจอกสาวก็ยังแอบมาที่ฟาร์ม นางหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (1)

    ตอนพิเศษ (1) ต้นฤดูหนาวของปีนั้น ชุนกับจิ่นเซี่ยได้จัดพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย โดยหลางไป๋เป็นญาติฝ่ายหญิง ส่วนจิ่นเซี่ยนั้น เนื่องจากองครักษ์หนุ่มผู้นี้เป็นเด็กกำพร้า ญาติฝ่ายชายจึงเป็นกงเยียนซู แม้เป็นงานแต่งที่เรียบง่าย แต่เพราะได้ลู่ซินฟางเป็นแม่งาน อาหารสุราจึงขึ้นเต็มโต๊ะตลอดทั้งวันทั้งคืน แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนกันเอง งานแต่งของชุนกับองครักษ์หนุ่ม จึงเหมือนกับวันรวมญาติมากกว่าเป็นงานมงคล ลู่ซินฟางอนุญาตให้ชุนหยุดได้เท่าที่ต้องการ หลังเสร็จสิ้นงานแต่ง ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม หลายวันหลังจากนั้น อุณหภูมิเริ่มลดต่ำ สายลมหนาวเย็นพัดมาเป็นระลอก ลู่ซินฟางยืนอยู่บนระเบียง มองพวกเด็กๆ วิ่งเล่นกันที่ลานกว้าง “เด็กๆ เนี่ย ไม่รู้จักความหนาวกันเลยหรือไงนะ” ลู่ซินฟางพึมพำด้วยความเอ็นดู “แอร๊…!” ตอนนั้นเอง เสียงเล็กๆ ของจินเอ๋อร์ดังมาจากในเปล ลู่ซินฟางผละสายตาออกจากพวกเฉิงเอ๋อร์ เดินกลับมาหาลูกน้อยที่นอนในเปล จินเอ๋อร์อา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 128 บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์

    บทที่ 128บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์ เมื่อกลับมาจากมิติ ซินหลินก็มาหาลู่ซินฟางที่คฤหาสน์ เจ้าแฝดพอเห็นพี่ชายมาหา ก็วิ่งเข้าไปเกาะแขน กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “พี่ชายซินหลิน เมื่อกี้พวกเราไปมิติมาด้วย” “พี่ชายซินหลิน พวกเราไปอ่านหนังสือกันเถอะ” ซินหลินส่ายหน้าพร้อมเคาะปลายจมูกน้อยๆ ของเด็กทั้งสองเบาๆ คนละที “พวกเจ้าเรี่ยวแรงเหลือเฟือจริงๆ เลยนะ เพิ่งกลับมาจากมิติไม่ใช่หรือ คิดจะเล่นกันอีกแล้ว?” “ฮะๆ” “คิๆ” เจ้าแฝดหัวเราะชอบใจ ซินหลินยิ้มให้กับน้องๆ ก่อนหันมาบอกลู่ซินฟางว่า “ข้าเพิ่งเอาผักไปให้เหนียงซิ่น นางบอกว่าอากาศน่าจะเริ่มหนาวแล้ว นางว่าจะทำหม้อไฟชุดใหญ่ เลยให้ข้ามาบอกน่ะ” “ขอบใจมาก รอเยียนซูกลับมาแล้วข้าจะพาเด็กๆ ไปที่คฤหาสน์นะ” ลู่ซินฟางตอบกลับ “อืม” “หม้อไฟ” “เย่ หม้อไฟ!” หม้อไฟฝีมือเหนียงซิ่นอร่อยมาก แถมนานๆ ครั้งจะได้สักที พวกเด็กๆ จึงชูแขนร้องด้วยความดีใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status