หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์ / บทที่ 69 ลู่ซินฟางก็คือนายหญิง (ครึ่งแรก)

แชร์

บทที่ 69 ลู่ซินฟางก็คือนายหญิง (ครึ่งแรก)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-22 11:32:13

บทที่ 69

ลู่ซินฟางก็คือนายหญิง (ครึ่งแรก)

            อาคารไม้สองชั้นกลางเมืองเล่ออัน กว้างขวางและใหญ่โต ป้ายไม้หน้าร้านแกะสลักด้วยคำสองพยางค์ ‘ซินหลิน’ สภาพป้ายยังใหม่เอี่ยม แค่เห็นก็รู้ ร้านค้าแห่งนี้เพิ่งเปิดทำการได้ไม่นาน

            ข้าวของในร้านมีขายเยอะมาก คนเข้าออกร้านก็เยอะเช่นกัน แต่กลับไม่รู้สึกว่าเบียดเสียดเพราะทางเดินในร้านค่อนข้างกว้าง

            การแบ่งโซนสินค้าก็ทำออกมาได้ดี ทั้งยังจัดวางสินค้าออกมาอย่างเป็นระเบียบ พนักงานของร้านก็ไม่ได้เทียวไล่ถามลูกค้าจนทำให้รู้สึกรำคาญ

            ทั้งหมดทั้งมวลนี้ แสดงถึงความสามารถของเถ้าแก่เจ้าของร้าน

            เหอถิงคิดพลางเดินดูสินค้าในร้าน ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกโตเมื่อเห็นตะเกียงแก้วตั้งแสดงบนชั้นวางสินค้า

            ตะเกียงแก้วแบบนี้ ‘จี๋หลิน’ ภรรยาของเขาเพิ่งซื้อให้เมื่อเดือนที่แล้ว นางบอกว่าต้องสั่งจองล่วงหน้าถึงหนึ่งเดือนกว่าจะซื้อจากร้านไฉฟู่สาขาเมืองหลวงมาได้ ราคาของตะเกียงสูงถึง 2 ตำลึงเงินกับอีก 50 เหรียญ

            ส่วนตะเกียงที่แสดงในร้านซินหลิน ขายในราคา 2 ตำลึงเงินถ้วนๆ เดาว่าร้านไฉฟู่คงรับสินค้าจากร้านซินหลินไปขายต่อ ส่วนแบ่งกำไรคือ 50 เหรียญ

            “อาถิง แม่เดินหาทั่วร้านก็ยังไม่เจอนางเลย อีกอย่างนะ เจ้าดูสิ พนักงานในร้านมีแต่หนุ่มๆ สาวๆ อายุไม่น่าเกินยี่สิบ ลู่ซินฟางแก่กว่าหนุ่มสาวพวกนี้ตั้งหลายปี แม่คิดว่าพวกเรามาตามหาคนผิดร้านแล้วละ”

            หลังจากสำรวจรอบร้านจนครบหนึ่งรอบ นางเหอก็เดินกลับมาบอกลูกชายที่กำลังยืนดูบางอย่าง เมื่อสายตาของนางเหอมองตามสายตาของลูกชาย พบว่าสิ่งนั้นคือตะเกียงแก้ว นางก็ร้อง “ว้าย!” ดังลั่นร้าน

            ลูกจ้างในร้าน รวมถึงลูกค้าคนอื่นหันมามองแม่ลูกตระกูลเหอเป็นตาเดียว

            เหอถิงย่นคิ้วทำหน้าดุดันใส่มารดา

            จริงๆ แล้ว เขาไม่ได้อยากพามารดามาด้วย นางเป็นคนชอบเอะอะโวยวาย แต่จี๋หลินขอร้องให้พามา เพราะบางเรื่องเขาก็ไม่สะดวกออกหน้าพูดคุยเอง

            ด้านนางเหอ รีบยกมือขึ้นปิดปาก ทำท่าเขินๆ ก่อนจะเข้ามากระซิบด้วยเสียงเบา

            “แม่ขอโทษนะอาถิง แม่ตกใจราคาตะเกียงแก้วใบนี้ ไม่เพียงแค่เหมือนของเจ้าที่อยู่ในห้องหนังสือ แต่เจ้าดูราคานี่สิ ทำไมถึงได้แพงขนาดนั้น ว่าแต่… เจ้าเพิ่งรับตำแหน่งขุนนางได้ไม่นาน เงินเดือนน้อยนิด เอาเงินเดือนมาซื้อของพวกนี้แล้วจะไม่ลำบากเอาหรือ”

            “จี๋หลินเป็นคนซื้อให้ข้าน่ะ” เหอถิงบอกมารดาด้วยสีหน้านิ่งๆ

            มารดาของเขาชอบเงิน จึงควบคุมทุกอย่างภายในบ้านด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าจะเสียผลประโยชน์

            ตามจริงแล้ว เหอถิงที่เป็นลูกชายคนโตของบ้านเหอ ใช้เงินส่วนตัวเพื่อซื้อของให้กับตัวเองไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ความคิดของนางเหอตรงกันข้าม หากเงินลูกชายขาดไปสักแดง ผลประโยชน์ของนางก็จะลดน้อยลง

            พอเห็นว่าตะเกียงแก้วราคา 2 ตำลึงเงิน นางเหอกลัวว่าเงินที่ควรจะได้จากลูกชายจะลดลงไปด้วยก็เลยตกใจ

            แต่พอเหอถิงบอกว่าเงินที่ซื้อตะเกียงเป็นของจี๋หลินที่เป็นสะใภ้ใหญ่ สีหน้าของนางเหอก็อ่อนลง

            “โถ สะใภ้ใหญ่คนดี ถึงบ้านตระกูลจี๋จะร่ำรวย แต่ถึงขั้นซื้อของแพงให้เจ้าแบบนี้ นางต้องรักเจ้ามากขนาดไหน อาถิง เจ้าต้องทำดีกับนางไว้ล่ะ”

            เหอถิงถอนหายใจเอือมๆ แล้วตอบว่า “ขอรับ” 

            เพราะเสียงของนางเหอที่ร้องดังลั่นในร้าน ลูกจ้างหญิงคนหนึ่งจึงเดินเข้ามาถาม

            “ท่านลูกค้า มีอะไรให้ช่วยหรือไม่เจ้าคะ”

            ลูกจ้างหญิงคนนี้อายุน่าจะเพียง 16-17 ปี แต่มีดวงตาที่แสดงถึงไหวพริบดี พูดจาฉะฉาน เวลาต้อนรับลูกค้าก็ทำได้อย่างคล่องแคล่ว ยิ่งไปกว่านั้น นางยังหน้าตาน่ารัก เหอถิงคิดพลางมองเด็กสาวอย่างเหม่อลอย

            หู่จือเหมยนั้น ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขั้นมองเจตนาของเหอถิงไม่ออก แต่กระนั้น นางกลับแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ยิ้มแย้มปกติแล้วถามอย่างมืออาชีพอีกครั้ง

            “ท่านลูกค้า มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าเจ้าคะ”

            เหอถิงที่ดึงสติกลับมารีบวางท่าทีสุขุม ในขณะที่กำลังจะอ้าปากเอ่ยบางอย่าง นางเหอกลับแทรกเสียก่อน

            “ที่ร้านนี้มีคนชื่อลู่ซินฟางหรือไม่”

            “พวกท่านหมายถึงนายหญิงหรือเจ้าคะ” สาวน้อยทวนคำถามซ้ำ

            “ลู่ซินฟาง! ข้าหมายถึงลู่ซินฟาง ไม่ใช่นายยงนายหญิงของพวกเจ้า”

            “เอ่อ…”

            หู่จือเหมยลังเล

            พวกนี้น่าจะไม่ใช่คนในเมืองเล่ออัน เพราะหากเป็นคนเมืองนี้ ไม่มีใครไม่รู้ว่านายหญิงร้านซินหลินมีนามว่าลู่ซินฟาง

            “พวกท่านมีธุระอะไรกับนายหญิงหรือ” หู่จือเหมยถามต่อ เนื่องจากสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรในน้ำเสียงที่หญิงท้วมกลางคนผู้นี้เอ่ยออกมา

            นางเหอทำหน้าไม่พอใจ พร้อมกับโต้แย้งเสียงแหลม “ข้าก็บอกอยู่ว่าลู่ซินฟาง ไม่ใช่นายหญิงอะไรนั่น”

            เหอถิงเริ่มรู้สึกตัวว่าในบทสนทนานี้มีอะไรแปลกๆ เขาจึงเรียก “ท่านแม่…” เพื่อยั้งให้นางหยุดพูดก่อน

            ทว่าในจังหวะนั้น เสียงทุ้มของชายหนุ่มคนหนึ่งดังแทรก ต่อมา เจ้าของร่างสูงโปร่งในชุดสีขาวก็เดินมาหยุดตรงหน้าพวกเขา

            “พวกท่านต้องการพบท่านลู่ซินฟางหรือ” ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาเอ่ยถาม

            นางเหอถึงกับตะลึงในความหล่อของชายหนุ่ม เหอถิงจึงเป็นคนตอบคำถามนั้นแทน

            “ใช่แล้ว พวกเรามาตามหาลู่ซินฟาง”

            ชายหนุ่มในชุดสีขาวไม่ได้ตอบแม่ลูกตระกูลเหอในทันที แต่ก้มใบหน้าลงพูดกับหู่จือเหมย

            “เสี่ยวเหมย เจ้าไปต้อนรับลูกค้าท่านอื่นต่อเถอะ ตรงนี้ข้าจะรับรองเอง”

            “เจ้าค่ะ พี่หลางไป๋”

เมื่อเด็กสาวเดินออกไปต้อนรับลูกค้าคนอื่นต่อ ดวงตาของชายหนุ่มชุดขาวพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ก่อนจะกล่าวกับแม่ลูกตระกูลเหอ

“ท่านทั้งสอง เชิญทางนี้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status