หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์ / บทที่ 70 ลู่ซินฟางก็คือนายหญิง (ครึ่งหลัง)

แชร์

บทที่ 70 ลู่ซินฟางก็คือนายหญิง (ครึ่งหลัง)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-22 11:32:53

บทที่ 70

ลู่ซินฟางก็คือนายหญิง (ครึ่งหลัง)

            หลังจากบอกให้ซินหลินกับสยงอู๋กลับไปพักที่คฤหาสน์กันก่อน ลู่ซินฟางก็มานั่งดื่มชาอย่างไม่ทุกข์ร้อนในห้องรับรองที่อยู่ชั้นสอง คุยเล่นเรื่อยเปื่อยกับหลางไป๋

            เวลานี้ ชิงเหลียนตรวจบัญชีในห้องทำงาน ลูกจ้างคนอื่นทำงานของพวกเขาต่อไป เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์อยู่ที่คฤหาสน์ พวกเขาคงกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน

            เพราะรู้ว่าหนีไปก็ไร้ความหมาย คนที่ไม่อยากเจอ อย่างไรก็ต้องเจออยู่ดี ลู่ซินฟางจึงใช้ชีวิตตามปกติ รอดูว่าคนน่ารำคาญพวกนั้นมาตามหานางด้วยเรื่องอะไร

            ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมน่าจะดีกว่า

            เพียงไม่นาน หลางไป๋ก็พาคนเข้ามา

            ลู่ซินฟางชายตามองพวกเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย

            นางเหอกวาดตารอบๆ ห้อง สักพักสายตาดูแคลนก็พุ่งมาจิกลู่ซินฟางทันที

            “เห็นอดีตแม่สามียืนตรงหน้าแล้วยังนั่งนิ่งอีกรึ ไร้มารยาท ไม่มีสัมมาคารวะ!”

            ลู่ซินฟางถามกลับเสียงเบา “ข้าต้องร้องไห้ลงไปคุกเข่าด้วยความซาบซึ้ง ที่ได้เจอคนอย่างท่านด้วยหรือ”

            นางเหอสูดหายใจลึก เตรียมจะต่อว่าลู่ซินฟางชุดใหญ่ นางอาวุโสกว่า และเคยเป็นอดีตแม่สามี ถึงหย่าไปแล้ว ลู่ซินฟางต้องเคารพนางถึงจะถูก

            แต่…นั่นคือความคิดของคนยุคโบราณ ลู่ซินฟางที่อยู่ตรงนี้เป็นผู้หญิงจากยุคสมัยใหม่ ความคิดกดขี่ทางเพศแบบนั้นไม่ได้อยู่ในหัว และจะให้ความเคารพเฉพาะคนที่คู่ควรเท่านั้น

            ด้านเหอถิงรู้สึกถึงความผิดปกติของลู่ซินฟางตั้งแต่ลูกจ้างในร้านเรียกนางว่า ‘นายหญิง’ กระทั่งเข้ามาในห้องนี้ สายตาและท่าทีของลู่ซินฟางเห็นชัดว่าไม่ใช่คนเดิม

            พอคิดจบ ชายหนุ่มก็ส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับมารดา

            “ท่านแม่ พูดไปนางก็ไม่ฟังท่านอยู่ดี อย่าพูดอีกเลย”

            “อาถิง…”

            นางเหอปิดปากลงด้วยเชื่อฟังลูกชาย

            เหอถิงกล่าวกับลู่ซินฟางต่อ “เจ้าคงเป็นนายหญิงที่คนในร้านพูดถึงกัน อย่างน้อยก็ควรเชิญแขกให้นั่งลงก่อนไม่ใช่หรือ”

            “เช่นนั้น…”

            ลู่ซินฟางกำลังขยับปากเตรียมบอกให้พวกเขานั่งลง แต่ถูกนางเหอโพล่งแทรกเสียงแหลม พร้อมทำสีหน้าตกใจ

            “อะไรนะ ลู่ซินฟางคนนั้นเป็นนายหญิงของที่นี่หรือ!?”

            “ท่านแม่ เงียบก่อน”

            เหอถิงปรามเบาๆ แต่นางเหอกลับพูดฉอดๆ ทั้งยังมองลู่ซินฟางด้วยสีหน้าดูแคลน

            “ถ้าคนในร้านเรียกนางว่านายหญิง ก็หมายความว่าต้องเป็นภรรยาเอกของเถ้าแก่ร้าน อนุไม่สามารถถูกยกย่องเช่นนี้ได้ แต่คนอย่างนางเนี่ยนะ ถูกยกให้เป็นภรรยาเอก ข้าชักจะอยากเห็นหน้าเถ้าแก่คนนั้นแล้วสิ”

            “ยังเป็นคนขี้โวยวายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” ลู่ซินฟางพึมพำอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนปรายตามองคนทั้งสองแล้วเชิญให้นั่ง

            ท่าทางของหญิงสาวสงบเยือกเย็น และไม่เหมือนประชด เหอถิงไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหน แต่ก็จูงมือมารดาเข้าไปนั่งดีๆ สงสัยอะไรค่อยพูดกันหลังจากนี้

            นางเหอไม่ชอบลู่ซินฟางมานานแล้ว พอเห็นนางมีสง่าราศีราวกับเป็นคนละคน ไม่ว่าจะมองตรงไหนก็รู้สึกขัดตาไปหมด นางเดินกระแทกเท้าเข้าไป ทิ้งร่างอวบๆ ลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

            “ในเมื่อได้ดิบได้ดีขนาดนี้ทำไมไม่ส่งข่าวมาบอกสักหน่อยเล่า”

            “ท่านไม่ใช่แม่ข้า ไยข้าต้องบอกท่านด้วย”

            “เจ้านะเจ้า…!”

            “เข้าเรื่องเถอะ ได้ยินว่าพวกท่านมาตามหาข้า มีธุระอะไร” ลู่ซินฟางถามแทรกเพื่อตัดบท ก่อนส่งสายตาให้หลางไป๋ชงชามาเสิร์ฟพวกเขา

            แม้ไม่ชอบขี้หน้า แต่ก็ต้องต้อนรับให้หมือนกับลูกค้าคนอื่น แน่นอนว่าต้องอยู่ในขอบเขตที่ทำได้

            “พวกเรามารับตัวเฉิงเอ๋อร์” เหอถิงเข้าประเด็น

            หางคิ้วของลู่ซินฟางกระตุก

            ด้านหลางไป๋พอได้ยินคำพูดนั้น นัยน์ตาหมาป่าพลันส่องประกายเย็นยะเยือก

            ลู่ซินฟางสูดหายใจลึกๆ พยายามทำใจเย็นแล้วถามกลับ “ทำไมถึงต้องการตัวเฉิงเอ๋อร์”

            “พวกเราเห็นว่าเจ้าลำบากต้องเลี้ยงลูกแฝดคนเดียว ก็เลยจะช่วยแบ่งเบาภาระ”

            “พวกท่านมองข้าใหม่อีกที ตรงไหนที่บอกว่าข้าลำบาก แล้วอีกอย่าง ลูกของข้า ข้าไม่คิดว่าเป็นภาระ”

            ไม่เพียงพูดเปล่า ลู่ซินฟางยังกางสองแขนออกเล็กน้อย ให้พวกเขาเห็นเสื้อผ้าที่นางสวมชัดๆ

            แม้นางยังชอบสวมเสื้อผ้าสีอ่อน เครื่องประดับน้อยชิ้น แต่ดูแล้วสบายตา อีกอย่าง ทั้งเสื้อผ้าทั้งเครื่องประดับแต่ละชิ้นที่อยู่บนตัวของนาง แค่เห็นก็รู้ว่ามีราคาแพงมาก

            ไม่ใช่แค่นั้น ชายหนุ่มชุดขาวที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่ซินฟางราวกับพ่อบ้านคนนั้น รวมไปถึงลูกจ้างในร้าน ทุกคนสวมชุดสะอาดสะอ้านและใหม่เอี่ยม แม้แต่แก้วชาบนโต๊ะ ใบชาที่อยู่ในจอก ล้วนเป็นของดี ราคาสูงทั้งสิ้น

            ใช่ ลู่ซินฟางตอนนี้ไม่เหมือนคนลำบากสักนิด

            และนางยังเป็น ‘นายหญิง’ ของร้านใหญ่โตนี้ด้วย

            “วาสนาของเจ้าดีไม่น้อย สามีใหม่คงรักและเอ็นดูเจ้ามากใช่หรือไม่” เหอถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบๆ แต่ลึกๆ ในใจเกิดความรู้สึกซับซ้อน

            ได้ยินลูกชายพูดเข้าที นางเหอก็แทรกขึ้นเหมือนตรงจังหวะ

            “ในเมื่อเจ้าได้สามีใหม่ที่รวยขนาดนี้ เจ้าเองก็ยังสาว มีลูกใหม่สักคนสองคนก็ยังได้ ส่งเฉิงเอ๋อร์มาให้พวกเราช่วยเลี้ยงไม่ดีกว่าหรือ พวกเจ้าสามีภรรยาจะได้มีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น”

            ตั้งแต่ที่นางเหอเปิดปากพูด ลู่ซินฟางก็เอาแต่ยิ้มบางๆ บนมุมปาก นางไม่คิดจะแก้ตัว คนที่มีความคิดโสมมอยากคิดอะไรก็คิดไป แต่ที่ไม่เข้าใจ ทำไมพวกเขาถึงต้องสนใจเฉิงเอ๋อร์ขนาดนั้น

            “เฉิงเอ๋อร์…ไม่สิ ไม่ใช่แค่เฉิงเอ๋อร์ แต่เป่าเอ๋อร์ก็ด้วย ทั้งสองคนเป็นลูกของข้า ข้าเลี้ยงพวกเขามาตั้งแต่พวกเขาเกิดยังไม่รู้สึกเหนื่อย คนที่ไม่เคยชายตาแลมองเด็กทั้งสองอย่างพวกท่านจะมาเหนื่อยแทนข้าไปทำไม”

            “พวกเราแม่ลูกอุตส่าห์พูดกับเจ้าดีๆ แล้วนะ อย่าลืมสิ เมื่อก่อนตอนที่อาถิงพาเจ้ามาอยู่ที่บ้านเหอ เจ้ามีกินมีใช้ ไม่ใช่เพราะพวกเราหรอกหรือ” นางเหอพูดทวงบุญคุณ

            ลู่ซินฟางคนเก่าเป็นคนหัวอ่อน ถึงเข้าไปอยู่ในบ้านเหอ แต่เหอถิงกับคนอื่นๆ ก็ไม่ได้มองว่านางเป็นสะใภ้ อยู่ที่บ้านหลังนั้นนางเหมือนคนใช้ที่อุ่นเตียงให้กับลูกชายคนโตของบ้านเหอได้ ส่วนลูกแฝดของนางเองก็ถูกคนบ้านเหอรังแกทุกวัน ราวกับเป็นที่ระบายอารมณ์ แม้แต่บ่าวในบ้านยังดูถูกพวกนางแม่ลูก เรื่องดีๆ ไม่เคยมีในความทรงจำ แล้วยังต้องขอบคุณอะไรหรือ!?

            ถึงอย่างนั้น นางเหอยังพูดฉอดๆ ต่อไป

            “ว่าไปแล้ว ที่เจ้ามาเป็นนายหญิงได้ ไม่ใช่เพราะพวกเราอีกหรือไง หากข้าไม่ปล่อยให้เจ้าออกมาเผชิญโลกภายนอกด้วยตัวเอง เจ้าก็คงไม่จับผู้ชายรวยๆ ได้หรอก”

            “พูดเอาดีเข้าตัว แถไปเรื่อย ท่านว่าเป็นแบบนั้นหรือไม่ขอรับนายหญิง” หลางไป๋ทนฟังไม่ไหว  โน้มตัวลงมา ทำทีเป็นกระซิบถามลู่ซินฟาง

            หญิงสาวยิ้มมุมปากพร้อมพยักหน้าตอบว่า “อืม แถจนสีข้างถลอกหมดแล้วเนอะ” แล้วทั้งสองก็หัวเราะคิก เหมือนจงใจเยาะเย้ยนางเหอ

            พอได้ยินคำพูดของทั้งสองที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย นางเหอก็ตบหน้าอกตัวเอง สูดหายใจลึกทำท่าเหมือนลมตีขึ้นมาจุกอก

            “อาถิง เจ้าดู! พวกเขาทำตัวอวดดีใส่ข้าก่อน ข้ารึอุตส่าห์ทำดีกับนางมาตลอด เห็นว่าท้องโตมาอยู่บ้านเรา ไม่มีญาติที่ไหน แต่นางกลับไม่รู้จักบุญคุณคน” ยิ่งพูด เสียงของนางเหอยิ่งแหลมปี๊ดและดังขึ้นเรื่อยๆ “ข้าบอกเจ้าแล้ว นางไม่ใช่ผู้หญิงดีอะไร คนดีๆ ที่ไหนจะท้องโตตามมาบ้านผู้ชายกันเล่า อีกอย่าง พอออกจากบ้านเราปุบก็มีสามีใหม่ทันที เจ้าดู เจ้าดู!”

            “ท่านแม่ หยุดได้แล้ว” เหอถิงปรามมารดาให้หยุดพูด

            ในตอนแรก เขาคิดว่าถ้ามาเจอนางในสภาพที่ตกระกำลำบากอยู่กับลูกแฝด เขาอาจจะเกลี้ยกล่อมมารดากับจี๋หลินให้รับนางเข้าบ้านอีกครั้ง ถึงอย่างไรนางก็เคยเป็นภรรยาเขา แต่พอมาเห็นนางกินดีอยู่ดี ก็เกิดรู้สึกเจ็บใจเหมือนถูกหักหลัง

            “ไม่ทงไม่ทนมันแล้ว!” นายเหอร้องโวยวายด้วยความโกรธ มิหนำซ้ำยังลุกขึ้นยืนเท้าสะเอว “ตอนข้าไล่นางออกจากบ้าน นางมีเงินแค่ไม่กี่เหรียญติดตัว แต่นางก็ไม่ได้ลงไปคุกเข่าอ้อนวอน กลับหอบลูกเต้าออกจากเมืองชิ่งอย่างไม่ลังเล คิดๆ ดูแล้วนางทำเหมือนไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ดีไม่ดี ตอนนั้นนางคงขโมยเงินบ้านเราแล้วรอจังหวะหนีออกมาก็ได้”

            ในอดีต ตอนที่ลู่ซินฟางคนเก่ายังอยู่บ้านเหอ นางเหอกับสะใภ้รองมักปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ร้ายลู่ซินฟางและกลั่นแกล้งพวกนางแม่ลูก พอไม่เจอหลายเดือน ไม่คิดว่านางเหอจะมีจินตนาการได้เลอเลิศยิ่งนักเขียนบทละคร

            ขโมยเงินบ้างละ ได้สามีใหม่เลี้ยงดูบ้างละ แต่ละคำที่พวกเขาพ่นออกมา ทำให้ลู่ซินฟางเริ่มเอือมระอา

            ลู่ซินฟางหรี่ตามองนางเหอที่ยืนโหวกเหวกโวยวายเหมืองลิง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ดูแล้วเป้าหมายของพวกท่านจะไม่ใช่เฉิงเอ๋อร์ ได้สิ ถ้าอยากเรียกร้องเงินคืนนักก็ไปหาหลักฐานมา นัดเจอกันที่ศาลาว่าการได้เลย!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status