Share

บทที่ 9 ผิงกั๋วเปรี้ยว

last update Huling Na-update: 2025-07-21 17:03:47

บทที่ 9

ผิงกั๋วเปรี้ยว

            เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากทำงานหลักๆ เสร็จแล้ว ลู่ซินฟางหยิบตะกร้าผิงกั่ว(แอปเปิล) เทลงในถังไม้ ตักน้ำล้างให้สะอาด

            เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านแม่ถึงเก็บผิงกั่วเปรี้ยวกลับมา แต่ก็ยังอุตส่าห์มาช่วยมารดาล้างผลผิงกั่ว

            พอล้างเสร็จก็นำไปผึ่งในกระจาดจนแห้ง

            ถึงอย่างนั้นเด็กน้อยทั้งสองกลับมองมารดาและมองผิงกั่วสลับไปมาด้วยความสงสัย

            “ท่านแม่ ผิงกั่วมีรสเปรี้ยว ท่านแม่เก็บมาทำไมเยอะแยะ”

            ในที่สุดเฉิงเอ๋อร์ก็อดทนไม่ไหวเอ่ยถามออกมา

            เป่าเอ๋อร์รอฟังคำตอบด้วยตาแป๋วแว๋ว

            ลู่ซินฟางยิ้มให้ลูกชายลูกสาว

            ถูกต้อง ผิงกั่วในโลกนี้มีรสเปรี้ยว ตอนเข้าป่าครั้งก่อน นางเห็นผิงกั่วหล่นเต็มพื้น รู้สึกเสียดายจึงเก็บขึ้นมา กัดกินคำแรกก็ต้องร้อง ยี๋

            มิน่าเล่า ทำไมชาวบ้านแถวนี้ถึงปล่อยให้ผิงกั่วหล่นเต็มพื้น ถ้าหวานอร่อยก็คงไม่ถึงปากของนางสินะ

            หากนั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ผิงกั่วที่เห็นเต็มตะกร้านี้ ส่วนหนึ่งเก็บมาจากในป่า อีกส่วนหนึ่งนำออกมาจากจากมิติ

            ผิงกั่วจากโลกนั้นรสชาติหวานกรอบอร่อย ผลแดงฉ่ำ ถึงอยากจะนำออกมาขาย แต่อย่างที่รู้ๆ กันดี ผิงกั่วในโลกนี้เปรี้ยว ไม่อร่อย ถ้านำไปขายสดๆ ทั้งลูกย่อมไม่มีใครอยากซื้อ ฉะนั้นแล้ว ลู่ซินฟางจึงอยากทดลองนำมาแปรรูปให้ดูน่ากิน แน่นอน รสชาติต้องอร่อยด้วย

            “เดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้” นางพูดด้วยสีหน้าลึกลับ

            เด็กๆ เอียงศีรษะซ้ายทีขวาทีด้วยความสงสัย

            เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์หน้าตาน่ารักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก่อนหน้านั้นแม่ลูกบ้านนี้อยู่กันอย่างอัตคัด อดมื้อกินมื้อ ร่างกายเลยผอมกระร่อง แต่เมื่อได้กินอิ่มนอนหลับ ร่างกายผอมแห้งของพวกเขาจึงเริ่มมีเนื้อมีหนัง แก้มที่เคยซูบตอบตอนนี้กลมป่องเหมือนกับกระรอก พอทำท่าสงสัยก็ยิ่งดูน่ารักขึ้นไปอีก

            ก่อนจะกลายเป็นคุณแม่คลั่งรักลูกแฝด ลู่ซินฟางกระแอมกลบเกลื่อน จากนั้นบอกให้เด็กๆ ไปนั่งพัก

            หญิงสาวเริ่มตั้งเตาเคี่ยวน้ำตาล ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมละมุน

            เมื่อน้ำตาลเคี่ยวได้ที่ ลู่ซินฟางยกกระทะลง พักเอาไว้สักครู่แล้วค่อยนำผิงกั่วเสียบไม้จุ่มลงไป

            …แต่นแต้น ผิงกั่วเคลือบน้ำตาลเสร็จสมบูรณ์!

            “ท่านแม่ ท่านแม่...มันคืออะไรหรือ”

            เป่าเอ๋อร์ตาเป็นประกายขณะมองความแวววาวของน้ำตาลเชื่อมที่เคลือบผลผิงกั่ว รู้ดีว่าผิงกั่วเปรี้ยวมาก แต่น้ำตาลฉ่ำวาวทำไมดูน่าอร่อยจัง!

            “นี่คือผิงกั่วเคลือบน้ำตาลน่ะลูก” ลู่ซินฟางตอบพร้อมกับหยิบผิงกั่วเคลือบน้ำตาลส่งให้เป่าเอ๋อร์หนึ่งไม้ “เจ้าลองชิมดู กัดให้ถึงเนื้อผิงกั่วนะ แล้วบอกแม่ว่ามีรสชาติอย่างไร”

            เด็กหญิงตัวน้อยเช็ดน้ำลาย จากนั้นรับไม้ผิงกั่วมาจากท่านแม่

            เฉิงเอ๋อร์ส่ายหน้าพร้อมกรอกตาเบาๆ

            น้องสาวของเขา นับวันจะยิ่งตระกละเข้าไปทุกที

            “เฉิงเอ๋อร์ก็ด้วย ลองชิมดูนะ”

            ลู่ซินฟางยื่นไม้ผิงกั่วให้กับลูกชาย เฉิงเอ๋อร์พยักหน้า แล้วรับผิงกั่วเคลือบน้ำตาลมาจากท่านแม่

            กร๊วบ...

            เสียงกัดที่ฟังก็รู้ว่าต้องอร่อยดังเข้าโสต

            กัดคำแรกสีหน้าของพวกเด็กๆ ยังแสดงออกอย่างสงสัย พอเริ่มเคี้ยวไปสักพักความสงสัยก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใส

            “อร่อยหรือไม่”

            เด็กทั้งสองพยักหน้ารัวๆ พร้อมกัน

            “เปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยมาก!” เป่าเอ๋อร์บอกอย่างตื่นเต้น นางไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย

            ลู่ซินฟางอยากลองบ้างจึงหยิบขึ้นมาชิมหนึ่งไม้ ความกรอบของน้ำตาล กลิ่นหอมของน้ำผึ้ง พอผสมกับรสเปรี้ยวของผิงกั่วกลับเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ

            “จริงด้วย ตอนแรกมีรสเปรี้ยว แต่พอเคี้ยวไปสักพักก็มีรสหวานนิดๆ”

            เป่าเอ๋อร์เคี้ยวเต็มปาก ทำได้เพียงพยักหน้าส่งเสียง “อืมๆ”

            “ต้องขายดีแน่ๆ ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์บอก

            ลู่ซินฟางลงมือทำผิงกั่วเคลือบน้ำตาลต่อ คราวนี้ทดลองด้วยการใช้ผิงกั่วที่เก็บจากมิติ วิธีแยกระหว่างผิงกั่วสองโลกนั้นง่ายมาก ผิงกั่วในโลกนี้มีขนาดเล็กกว่า สีไม่แดงสดเหมือนต่างมิติ

            และแน่นอน ผิงกั่วจากต่างมิติย่อมอร่อยกว่า

            หลังจากนั้นลู่ซินฟางกับลูกๆ ก็มาที่บ้านเถี่ย ภายนอกดูเหมือนเอาผิงกั่วเคลือบน้ำตาลมาให้ชิงเหลียนลองชิม แต่ความจริงตั้งใจมาสอบถามบางอย่าง

            ในตอนแรกชิงเหลียนแสดงออกเหมือนกับเด็กทั้งสอง ทั้งแปลกใจทั้งไม่อยากจะเชื่อว่าพอเอาผลผิงกั่วมาเคลือบน้ำตาลแล้วจะอร่อย ซ้ำรสเปรี้ยวของผิงกั่วกับน้ำตาลเคลือบยังเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ

            “พี่ซินฟาง นี่มันอร่อยมากจริงๆ” ชิงเหลียนกินไปยิ้มไป สักพักทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกบางอย่างออก “จริงสิ เมื่อวานข้ากับท่านพี่เข้าเมือง พอดีเจอเถ้าแก่หลี่ เขาถามว่าเมื่อไรพี่ซินฟางจะเอารองเท้าฟางมาฝากขายอีก”

            ลู่ซินฟางยิ้มอย่างลำบากใจก่อนจะตอบ

            “ใจจริงก็อยากถักรองเท้าไปฝากที่ร้านเถ้าแก่หลี่อยู่หรอก แต่อย่างที่เห็น ข้าไม่ค่อยมีเวลามากนัก กว่าจะถักเสร็จหนึ่งคู่ก็ต้องใช้เวลา”

            “ถูกของท่าน”

            ชิงเหลียนเข้าใจดี ผู้หญิงตัวคนเดียว เลี้ยงลูกสองคน ลำบากไม่น้อย

            “ถึงจะไม่ค่อยมีเวลาถักรองเท้า แต่ผิงกั่วเคลือบน้ำตาลใช้เวลาไม่นาน ข้าตั้งใจว่าจะเข้าเมือง เช่าหน้าร้านเถ้าแก่หลี่แล้ววางขายสักหน่อย”

            “พี่ซินฟาง ผิงกั่วของท่านต้องขายได้แน่นอน”

            “แล้วก็ ข้าอยากถามเจ้าอีกเรื่อง”

            “อะไรหรือ”

            “เมืองเล่ออันมีโรงเตี๊ยมเยอะแยะ แต่ข้าไม่รู้ว่าโรงเตี๊ยมใดที่คนนิยมเข้าใช้บริการ เจ้าพอจะรู้หรือไม่”

            ชิงเหลียนทำหน้าครุ่นคิดพลางส่งเสียง “อืม...” ในลำคอ สักครู่หนึ่ง ฝ่ายนั้นถึงตอบกลับว่า “ถ้าพูดถึงโรงเตี๊ยมเก่าแก่ก็ต้องโรงเตี๊ยมตระกูลฉิน แต่พี่ซินฟางถามถึงโรงเตี๊ยมยอดนิยม ที่ข้านึกออกตอนนี้ก็มีแต่โรงเตี๊ยมตระกูลกง”

            แล้วชิงเหลียนก็อธิบายเพิ่มว่า โรงเตี๊ยมตระกูลฉินเปิดมานานหลายรุ่น นับเป็นโรงเตี๊ยมเก่าแก่ แต่แล้ว เมื่อสามปีก่อน โรงเตี๊ยมตระกูลกง ซึ่งเป็นโรงเตี๊ยมขึ้นชื่อจากเมืองหลวงขยายกิจการมาถึงเมืองเล่ออัน ใช้เวลาไม่กี่เดือนก็ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง

            “ข้าได้ยินมาว่าอาหารจากโรงเตี๊ยมตระกูลกง รวบรวมของขึ้นชื่อจากเมืองต่างๆ ของแคว้นเหลียว วัตถุดิบก็เป็นของชั้นเลิศ พ่อครัวประจำโรงเตี๊ยมแต่ละสาขาล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงด้านอาหาร เพราะอย่างนั้น ผู้คนจึงหลั่งไหลเข้าออกไม่ขาดสาย ว่าแต่ พี่ซินฟางจะเอาของไปฝากขายหรือ”

            ตอนท้ายที่ชิงเหลียนถาม สีหน้าค่อนข้างกังวล

            แค่ฟังคร่าวๆ ก็รู้แล้วว่าโรงเตี๊ยมตระกูลกง คนธรรมดาอย่างลู่ซินฟางไม่อาจเอื้อมถึง

            “พี่ซินฟาง ถ้าพี่จะทำขนมไปฝากขายละก็ ลองติดต่อโรงเตี๊ยมเล็กๆ ดีหรือไม่” 

            “ขอบใจเจ้ามากชิงเหลียน...แต่จะให้ตัดใจทั้งที่ยังไม่ทันได้ลงมือ ข้าทำไม่ได้” ลู่ซินฟางพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน หากในแววตากลับแสดงออกถึงความแน่วแน่

            ชิงเหลียนอึ้งไปเล็กน้อย สักครู่ แววตาของนางก็เปลี่ยนเป็นความเลื่อมใส

            “พี่ซินฟาง ข้านับถือท่านจริงๆ”

            “หือ?”

            “พี่ซินฟางในตอนนี้เหมือนน้าเจาสมัยสาวๆ ไม่มีผิด เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ เมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่พี่ซินฟางกลับมาอยู่บ้านเดิม ทำข้าอดห่วงไม่ได้ แต่เผลอแป๊บเดียว ท่านก็เหมือนเป็นคนละคน”

            น้าเจา หรือก็คือลู่เจา มารดาของลู่ซินฟาง ที่ที่นางอยู่ในตอนนี้เป็นที่ดินเก่าแก่ของตระกูลลู่ หลังจากท่านแม่แต่งงานออกเรือน ท่านแม่ได้พาลู่ซินฟางกลับมาเยี่ยมท่านยายบ่อยๆ ด้วยเหตุนี้ ลู่ซินฟางกับชิงเหลียนจึงสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง

            เพราะพ่อแม่ของลู่ซินฟางประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตอนที่ลู่ซินฟางหย่ากับเหอถิง นางจึงอับจนหนทาง เงินติดตัวก็แทบไม่มี นางพาลูกๆ บากหน้าไปขอพึ่งพิงบ้านตระกูลเซียว ซึ่งเป็นตระกูลของท่านพ่อ เพราะเห็นว่าอยู่ในเมืองชิ่งเหมือนกัน แต่ทางนั้นกลับอ้างว่าหลังจากท่านพ่อแต่งงานกับท่านแม่ ท่านพ่อก็เลือกที่จะตัดขาดกับตระกูลเซียว

            ลุงใหญ่(พี่ชายของท่านพ่อ) ให้เงินมา 200 เหรียญ แล้วบอกว่าใช้เป็นค่าเดินทางกลับบ้านนอกไปเสีย จากนั้นก็ขับไล่พวกนางแม่ลูกออกมา

            ลู่ซินฟางคนเก่ารู้มาตลอด เพราะบ้านลู่ยากจน ท่านพ่อที่เป็นลูกชายคนรอง ทั้งเป็นแค่ข้าราชการตำแหน่งเล็กๆ ในท้องถิ่น ยิ่งพอแต่งงานกับท่านแม่ ตระกูลเซียวจึงขับท่านพ่อออกจากบ้าน 

            สรุปคือไม่มีใครต้อนรับลู่ซินฟางกับเด็กทั้งสอง ตรงข้ามกับหมู่บ้านชนบทแห่งนี้ แม้เจียงลิ่วเป็นแกนนำของเหล่าแม่บ้าน ตั้งวงติฉินนินทา พูดจาดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่คนเฒ่าคนแก่ที่รู้จักบ้านลู่ต่างต้อนรับพวกนาง 

            ลู่ซินฟางเลิกคิดเรื่องของร่างเดิม อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป

            “ตอนที่ข้ากลับมาหมู่บ้านนี้ช่วงแรก ข้ายังเสียใจที่ถูกคนผู้นั้นทรยศ แต่ตอนนี้ ข้าทำใจได้แล้ว เพราะข้ามีลูกๆ ให้ต้องดูแล”

            พูดจบก็มองเจ้าตัวเล็กที่เล่นกับเถี่ยฮ่าวซืออยู่ที่ลานหน้าบ้าน

            ชิงเหลียนมองตามสายตาของนางก็เข้าใจความหมาย สักครู่ก็โพล่งขึ้นว่า “ข้าจะเอาใจช่วยพี่ซินฟาง!”

            หญิงสาวยิ้มมองฝ่ายตรงข้าม พลางคิดว่าชิงเหลียนกับเถี่ยฮ่าวซือช่วยนางกับพวกเด็กๆ ไว้เยอะ ไว้มีโอกาสต้องตอบแทนซะแล้ว

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 86 ผู้หญิงกับงูพิษ (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 86ผู้หญิงกับงูพิษ (ครึ่งหลัง) “ถะ แถวนี้มีหมาป่าด้วยหรือ!” นางเหอถามลูกชายพร้อมขยับร่างอวบอ้วนเบียดเข้าไปนั่งข้างในสุดของห้องโดยสาร “ของพรรค์นั้นจะมีได้อย่างไร นี่ ท่านแม่ สิ่งที่พวกเราต้องกลัวตอนนี้คือตระกูลจี๋ไม่ใช่หรือ!” เหอถิงขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด พร้อมตวาดใส่มารดา “แม่ฟังผิดไปเอง นั่นไม่ใช่เสียงของหมาป่า เจ้าอย่าอารมณ์เสียงนักเลยนะ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพเอาได้” แม้จะมั่นใจว่านั่นเป็นเสียงของหมาป่า กระนั้น นางเหอกลับยอมเอ่อออตามเพื่อเอาใจลูกชาย “แต่ถ้าไม่รีบกลับไปอธิบายให้คนตระกูลจี๋เข้าใจ ตำแหน่งของข้าก็จบสิ้นเหมือนกัน” คนขับรถม้ารับจ้างที่อยู่ด้านนอก ได้ยินทุกคำพูดของคนว่าจ้าง อดจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ทั้งเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว สักวันกรรมจะต้องตามสนอง! บรู๋วววว เสียงหอนของหมาป่าดังขึ้นมาอีกครั้ง มิหนำซ้ำ หนนี้ยังยังดังใกล้เข้ามาทุกที คนขับรถม้ารับจ้างร้องสะดุ้งตัวโหยงด้วยความกลัว แต่ด้วยความรับผิดชอบของผู้ถูกจ้าง เขาพยายามควบคุมสติ บังคั

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 85 ผู้หญิงกับงูพิษ (ครึ่งแรก)

    บทที่ 85ผู้หญิงกับงูพิษ (ครึ่งแรก) แม้ว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายในร้านจะกลับมาสงบดั่งเดิม แต่หัวใจของลู่ซินฟางยังคงเต้นโครมครามไม่หยุด ใบหน้าและในลำคอร้อนผ่าวเหมือนคนมีไข้ ลู่ซินฟางรินชาดื่มเข้าไปหลายจอก หากกลับไม่สามารถดับความร้อนได้ ท้ายที่สุด ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างยอมรับ ว่าอาการว้าวุ่นใจเป็นเพราะคำพูดของกงเยียนซู ในตอนนั้น กงเยียนซูแค่พูดออกไปตามสถานการณ์ นางจะคิดเป็นจริงเป็นจังไม่ได้เด็ดขาด เมื่อสรุปเช่นนั้น ลู่ซินฟางก็สูดหายใจเข้าเต็มปลอดเพื่อพยายามสงบใจ จากนั้นตั้งสมาธิกับงานตรงหน้า สักครู่หนึ่ง ประตูห้องก็มีเสียงเคาะเบาๆ ก่อนหลางไป๋จะเปิดประตูแล้วเดินเข้ามาในห้อง “ข้ามาบอกนายหญิงว่าจะออกเดินทางเลยขอรับ ตอนนี้ซินหลินพาหมิงฮวาออกมาจากมิติแล้ว” ลู่ซินฟางพยักหน้าแล้วตอบ “อืม ระวังตัวด้วยนะ แล้วก็ ห้ามฝืนตัวเองเกินไปนัก” “ขอรับ นายหญิง” “ถึงเจ้ากับซินหลินจะศึกษาเส้นทางมาก่อนแล้ว หรือต่อให้กงเยียนซูเตรียมการล่วงหน้าไว้ให้ แต่ห้ามประมาทเด็ดขาดเลยนะ” ลู่ซินฟางย้ำด้วยความกังวลอีกค

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 84 เหอถิงถึงคราวซวย

    บทที่ 84เหอถิงถึงคราวซวย เหอถิงถึงคราวจบสิ้นแล้ว! แม้จะใช้เวลาเตรียมการถึงสี่วัน แต่ผลลัพท์ที่ได้ถือว่าไม่เลว…กงเยียนซูคิดพร้อมกับยิ้มอย่างเยือกเย็น ในขณะที่มองความลนลานบนใบหน้าสองแม่ลูกตระกูลเหอ ทางด้านของเหอถิง ได้แต่มองกงเยียนซูกับลู่ซินฟางสลับไปมาด้วยความสงสัย ตามหลักความจริง ตระกูลจี๋ที่อยู่เมืองชิ่งไม่ควรรู้การเคลื่อนไหวของเหอถิงในเมืองเล่ออันรวดเร็วถึงเพียงนี้ นอกเสียจากจะมีใครบางคนส่งม้าเร็วแจ้งข่าวไปบอก และคนคนนั้นต้องมีฐานะที่น่าเชื่อถือ ทันใดนั้น เหอถิงก็เบิกตาโพลง มองไปที่กงเยียนซูด้วยสังหรณ์ร้ายแปลกๆ “คุณชายเป็นใครกันแน่!” กงเยียนซูคลี่ยิ้มมุมปาก แต่ดวงตากลับไม่ได้ยิ้มตาม “ก่อนมาที่เมืองเล่ออัน จี๋หลิน ภรรยาของเจ้าไม่ได้บอกเอาไว้หรอกหรือ ว่าคนที่ไม่ควรยุ่งด้วยมากที่สุดคือเจ้าของโรงเตี๊ยมตระกูลกง” คำพูดเหล่านั้นทำเอาเหอถิงได้แต่ยืนแข็งทื่อ ไม่เพียงรู้จักตระกูลจี๋ ชายคนนี้ยังรู้ว่าจี๋หลินที่เป็นภรรยาของเขา อย่างไรก็ตาม คล้ายว่าจี๋หลินจะเคยเตือนให้ระวังคนส

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 83 กงเยียนซูประกาศต่อหน้าทุกคน (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 83กงเยียนซูประกาศต่อหน้าทุกคน (ครึ่งหลัง) “ของปลอม?” กงเยียนซูถามซ้ำ “ใช่แล้ว มันคือของปลอม” เหอถิงยังคงแถอย่างหน้าด้านๆ “ที่แท้ก็เช่นนี้” กงเยียนซูตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ทางด้านลู่ซินฟาง ไม่คิดจะโต้แย้งใดๆ เช่นกัน หากทว่า ยิ่งทั้งสองนิ่งเงียบเท่าไร บรรยากาศรอบตัวยิ่งกดดันอย่างน่าประหลาดมากขึ้นเป็นเท่าตัว เหอถิงสังหรณ์ใจกับท่าทีแปลกๆ ของทั้งสองคน แต่แล้ว ในฉับพลันนั้นเอง กงเยียนซูก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ “ฮะๆ” เหอถิงขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล “คุณชาย มีอะไรให้ขำหรือ?” กงเยียนซูกลั้นขำ ตอบกลับด้วยรอยยิ้มกริ่ม “ชายแก่แซ่กงหรือ เป็นเรื่องตลกที่ข้าเพิ่งเคยได้ยินเลย” “ถึงข้าไม่เคยเห็นหน้า แต่ชายคนนั้นมีตัวตนจริงแท้แน่นอน” “คนในเมืองเล่ออันพูดเช่นนั้นหรือ พวกเขาบอกว่าคนแซ่กงเป็นชายแก่ๆ หรือ” กงเยียนซูทำทีเป็นถามเหอถิง “เรื่องนี้…” เหอถิงลังเล เพรา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 82 กงเยียนซูประกาศต่อหน้าทุกคน (ครึ่งแรก)

    บทที่ 82กงเยียนซูประกาศต่อหน้าทุกคน (ครึ่งแรก) เข้าสู่วันที่สาม ที่เหอถิงกับมารดาแสดงบทรันทดอยู่หน้าคฤหาสน์ของลู่ซินฟาง แต่การแสดงที่ซ้ำซาก บวกกับคำพูดเดิมๆ ทำให้ชาวบ้านหมดความสนใจพวกเขาในที่สุด เมื่อแผนเรียกร้องความสนใจไม่ได้ผล แม่ลูกตระกูลเหอจึงเปลี่ยนมาแอบดู ‘ชู้รัก’ ของลู่ซินฟางที่หน้าโรงเตี๊ยมตระกูลกงแทน อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงตัวกงเยียนซูกลับยากยิ่งกว่า จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตาแก่แซ่กงคนนั้นสักครั้ง นอกจากจะทำได้แค่ขุดคุ้ยข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ แม่ลูกตระกูลเหอกลับเข้าไม่ถึงตัวเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นลู่ซินฟาง เฉิงเอ๋อร์ หรือเถ้าแก่กง ในที่สุด พวกเขาก็คิดว่าแผนเรียกร้องความสนใจเริ่มไม่มีประโยชน์แล้ว ทางด้านลู่ซินฟางนั้น ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติทุกวัน ทั้งที่คิดว่าเหอถิงจะลงมือหนัก อย่างการจ้างคนมาชิงตัวเฉิงเอ๋อร์หรือบุกร้าน กลับกันแล้ว พวกเขาเลือกวิธีโง่ๆ ด้วยการสร้างข่าวลือปลอม อาศัยคำติฉินนินทาของฝูงชน กดดันให้ลู่ซินฟางอับอายจนต้องยอมพาเฉิงเอ๋อร์ออกมา หารู้ไม่ วิธีพวกนั้นไม่ได้

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 81 บุรุษอันตรายทั้งสอง

    บทที่ 81บุรุษอันตรายทั้งสอง บ่ายคล้อย แสงแดดยังสาดส่อง ณ โรงเตี๊ยมตระกูลกง ชายหนุ่มสองคนกำลังหาลือธุระสำคัญอยู่ในเรือนรับรอง ในเวลานั้น เสียงเคาะประตูดังจากด้านนอกสองสามครั้ง จากนั้นจิ่นเซี่ยก็เปิดประตูเข้ามา “นายท่าน…” จิ่นเซี่ยพูดเพียงเท่านั้นแล้วปิดปากลง สายตาเหลือบมองหลางไป๋ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกงเยียนซูอย่างลังเล “ต่างฝ่ายต่างลงเรือลำเดียวกัน ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง เจ้าพูดมาเถอะ จิ่นเซี่ย” กงเยียนซูบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตายังกวาดมองรายการสินค้าบนกระดาษที่อยู่ในมือ ทางด้านองครักษ์หนุ่ม หลังจากได้รับอนุญาต เขาก็รายงานเรื่องข่าวลือที่กำลังแพร่สะพัดทั่วเมืองเล่ออัน คร่าวๆ แล้วเป็นเรื่องของลู่ซินฟางที่ร่วมมือกับกงเยียนซูปลอมแปลงใบหย่า แล้วพาลูกหนีออกจากบ้านเหอ บัดนี้ เหอถิงผู้เป็นสามีได้เดินทางมาจากเมืองชิ่งเพื่อพาภรรยากับลูกกลับ แต่ถูกลู่ซินฟางกีดกันไม่ให้เจอลูก พอฟังจบ กงเยียนซูกับหลางไป๋ก็แหงนหน้าหัวเราะออกมาพร้อมกัน “ฮะๆๆ ฮะๆ” จิ่นเซี่ยมองคนทั้งสองด้วยความงุน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status