แชร์

บทที่ 95 วันเกิดของเจ้าแฝด

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-27 10:05:51

บทที่ 95

วันเกิดของเจ้าแฝด

            หลังจากนั้น วันเวลาก็ล่วงเลยมาอีกสองเดือน คฤหาสน์ของลู่ซินฟางเต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้นของงานฉลองวันเกิด

            ในความทรงจำของลู่ซินฟาง ตั้งแต่ที่เจ้าแฝดเกิดมา พวกเขาก็ไม่เคยได้เลี้ยงฉลองวันเกิดสักครั้งเดียว มากสุด นางเหอที่มีศักดิ์เป็นย่า แค่เพิ่มเนื้อเพียงไม่กี่ชิ้นลงในกับข้าวหนึ่งจาน แล้วบอกเป็นมื้อพิเศษในวันเกิดเท่านั้นเอง

            วันเกิดปีนี้ของเฉิงเอ๋อร์และเป่าเอ๋อร์ ลู่ซินฟางเลยอยากสร้างความทรงจำดีๆ ให้กับลูกทั้งสอง

            ไม่เพียงจัดอาหารขึ้นเต็มโต๊ะ ลู่ซินฟางยังชวนครู้จักของเจ้าแฝดมากินเลี้ยงวันเกิดด้วย

            ตกเย็น แขกของเจ้าแฝดเริ่มทยอยมาที่คฤหาสน์ลู่พร้อมกับของขวัญ 

            แขกกลุ่มแรกคือตงตงกับเม่ยเม่ย

            “พี่สาวเม่ยเม่ยมาแล้ว!” เป่าเอ๋อร์พูดอย่างดีใจ ยิ้มกว้างจนแก้มบาน 

            “ข้าเอาดอกไม้มาเป็นของขวัญ”

            เม่ยเม่ยพูดจบก็ยื่นกระถางที่มีดอกเก๋อซังสีเหลืองสดใสให้กับเป่าเอ๋อร์น้อย

            ดอกเก๋อซังในโลกเดิมของลู่ซินฟางจะรู้จักในชื่อสากลว่าดอกคอสมอส มีหลายสีและเห็นได้ทั่วไป ทว่าคุณค่าของของขวัญคือการให้ด้วยใจ ถึงจะมีราคาถูก แต่เป่าเอ๋อร์ชอบมาก

            “สวยมากเลย พี่สาวเม่ยเม่ย” เป่าเอ๋อร์รับกระถางดอกเก๋อซังมากอด ใบหน้าเปื้อนยิ้ม 

            “ข้า…ข้าปลูกเองเลยนะ” เม่ยเม่ยพูดอย่างเอียงอาย เด็กหญิงเพาะเมล็ดลงกระถาง คอยรดน้ำอย่างทะนุถนอมทุกวัน

            “พี่สาวเม่ยเม่ยเก่งจัง ต่อไปท่านสอนข้าปลูกดอกไม้ได้หรือไม่”

            “แต่เจ้าปลูกผักงามกว่าข้ามาก แค่ดอกไม้ ข้าคิดว่า…”

            “ไม่เหมือนกันหรอก” เป่าเอ๋อร์โพล่งก่อนที่เม่ยเม่ยจะพูดจบ “ข้าไม่เคยปลูกดอกไม้มาก่อน เลยไม่รู้ว่าต้องดูแลยังไง พี่สาวเม่ยเม่ย ท่านต้องสอนข้านะ”

            “ถ้าเจ้าพูดอย่างนั้น…ก็ได้ ข้าจะสอนเจ้า”

            “แหะๆ ดีใจจังเลย” 

            พอเห็นเจ้าตัวเล็กยิ้มแย้มอย่างสดใส เม่ยเม่ยก็ยิ้มกว้างตาม

            เม่ยเม่ยเป็นเด็กขี้อาย ขาดความมั่นใจอยู่หลายส่วน แต่ถึงอย่างนั้น นางก็เป็นเด็กหญิงที่อ่อนหวาน

            ทว่าตั้งแต่ได้เข้าเรียนกับพวกเป่าเอ๋อร์และทุกๆ คน เม่ยเม่ยกล้าพูดและกล้าแสดงออกมากขึ้น 

            “เอ้า ของขวัญของข้า” ตงตงยื่นแตงโมผลใหญ่ให้เฉิงเอ๋อร์

            แตงโมผลใหญ่ลูกนี้มาจากสวนบ้านจาง ดูเหมือนว่าช่วงนี้ตงตงจะช่วยพ่อทำสวนแล้วด้วย 

            “อืม ขอบคุณ” เฉิงเอ๋อร์รับผลแตงโมที่ได้รับมาเป็นของขวัญมาจากตงตง

            “เด็กๆ เดี๋ยวข้าจะเอาของขวัญพวกนี้ไปวางรวมกับของขวัญชิ้นอื่น พวกเจ้าไปวิ่งเล่นกันเถอะ” ชุนหิ้วแตงโมกับกระถางดอกเก๋อซังไปวางรวมที่โต๊ะวางของขวัญ

            เด็กน้อยออกไปวิ่งเล่นที่ลานกว้างใกล้ๆ 

            จากนั้นไม่นาน เถ้าแก่หลี่กับหลานชายก็มาพร้อมกับกล่องของขวัญหนึ่งใบ

            เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์วิ่งมาหาเถ้าแก่หลี่ คารวะและทักทายเถ้าแก่หลี่ รับของขวัญ จากนั้นก็ชวนหลานชายของเถ้าแก่หลี่ไปเล่นด้วยกัน

            ต่อมา เป็นกงเยียนซูกับจิ่นเซี่ย

            กล่องของขวัญของทั้งสองใบใหญ่มาก แต่ไม่ได้หนัก

            “กล่องใหญ่จัง!” ตงตงเด็กซนตาเบิกโต ชี้นิ้วไปทางชายหนุ่ม ทั้งยั้งโพล่งออกมาเสียงดัง ทำให้ทุกคนต้องหันมามอง

            แม้แต่เม่ยเม่ยที่เป็นเด็กเรียบร้อย ยังเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นไปด้วย

            เด็กๆ วิ่งมารับของขวัญ

            “ว้าว กล่องใหญ่มากเลย”

            เด็กแฝดทั้งสองปิดบังสีหน้าตื่นเต้นไม่มิดเหมือนกัน

            กงเยียนซูเห็นปฏิกิริยาของเด็กแฝดก็ยิ่งปลื้มใจ ไม่เสียแรงที่พิถีพิถันเลือกของขวัญ

ในกล่องนี้คือชุดผ้าไหมตัดเย็บเหมาะกับเด็กเล็ก ทั้งยังแก้ขนาดได้ด้วย

            “ท่านลุงเยียนซู พี่ชายจิ่นเซี่ย ขอบคุณขอรับ/เจ้าค่ะ”

            เด็กแฝดทั้งสองประสานมือไว้ตรงอก ก้มศีรษะแล้วกล่าวขอบคุณ

            หลังจากเด็กๆ รับของขวัญแล้วยื่นต่อให้ชุน จู่ๆ เสียงหัวเราะของใครบางคนก็ดังข้างๆ กงเยียนซู

            “ลุงเยียนซู จะฟังสักกี่ครั้งก็…ฮะๆๆ ฮะๆ”

            คนที่กล้าพูดอย่างเป็นกันเองกับเชื้อพระวงศ์เป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากอิ้งเหยียน มิหนำซ้ำ กงเยียนซูก็ชินกับนิสัยขี้เล่นของสหายอิ้งเหยียนแล้วเหมือนกัน เขาจึงเพียงส่ายหน้าเฉยๆ

            อิ้งเหยียนหันมายื่นของขวัญให้กับเด็กน้อยทั้งสอง 

            “นี่คือของขวัญของอาจารย์เอง”

            “ขอบคุณอาจารย์ขอรับ/เจ้าค่ะ”

            ระหว่างรออาหารถูกยกขึ้นโต๊ะ เด็กๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานในสวน โดยมีชุนกับจิ่นเซี่ยคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ

            ในที่สุดก็เตรียมอาหารเลี้ยงแขกขึ้นโต๊ะครบทุกอย่าง

            “มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่” กงเยียนซูเดินเข้ามาลู่ซินฟาง

            หญิงสาวหันมอง ทันทีที่เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของชายหนุ่มทำเอาหัวใจของนางกระตุกขึ้นมา

            โชคดีที่ลู่ซินฟางเก็บอาการเก่ง กงเยียนซูจึงไม่เห็นความผิดปกติบนสีหน้า

            “ทางนี้ข้ากับพวกเหนียงซิ่นเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านไปนั่งเถิดเจ้าค่ะ”

            “อืม”

            กงเยียนซูไม่อยากทำให้ลู่ซินฟางลำบากใจ จึงไม่ได้ตื้อต่อ แต่เดินไปนั่งโต๊ะเดียวกับหลางไป๋และอิ้งเหยียน

            เพราะเป็นคนที่มีความคิดกว้างขวางเหมือนกัน ทั้งสามคนเลยคุยกันถูกคอ

            “ข้าได้ข่าวว่า ท่านกงไม่เคยตอบรับคำเชิญร่วมงานเลี้ยงของใครเลย ทำไมวันนี้ถึงมาร่วมงานวันเกิดของเด็กๆ ได้เล่าขอรับ” หลางไป๋แกล้งถาม ทั้งที่รู้ความหมายของการมาร่วมวันเกิดของกงเยียนซูดีอยู่แล้ว

            กงเยียนซูทำหน้ารู้ทัน ถึงอย่างนั้นก็ตอบกลับอย่างไม่ปิดบัง 

            “เพราะข้ามีแผน”

            อิ้งเหยียนแสร้งทำทีเป็นเลิกคิ้วแล้วลากเสียง “หือ…” ยาวๆ “แผนอะไรกันนะ ข้าเองก็อยากรู้”

            กงเยียนซูถอนหายใจให้กับสหายก่อนตอบ “พวกเจ้าถามทั้งที่รู้ดีอยู่แล้ว…เพราะข้าตั้งใจเดินหน้าเกรี้ยวพานางน่ะสิ”

            หลางไป๋ตอบสั้นๆ ว่า “อ้อ”

            อิ้งเหยียนมองข้ามไหล่กงเยียนซู แกล้งทำทีร้องขึ้นว่า “อ้าว เถ้าแก่เนี้ยลู่!”

            กงเยียนซูไม่ได้ตระหนกหรือลนลาน เพราะทุกอย่างที่พูดมาล้วนออกมาจากใจทั้งสิ้น   

            แต่กระนั้น ก็อดขึงตาใส่เจ้าตัวร้ายทั้งสองคนไม่ได้

            กงเยียนซูหันมองข้างหลัง พอเห็นใบหน้าของลู่ซินฟางเต็มไปด้วยความเขินอาย หัวใจของเขาก็พลอยปั่นป่วนไปด้วย 

            “เออ…ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้ว ข้าคิดว่า…งานเลี้ยงควรจะเริ่มได้แล้วเจ้าค่ะ” หญิงสาวบอกด้วยท่าทีเขินๆ ก่อนจะมานั่งร่วมโต๊ะกับชายทั้งสาม

            งานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าแฝดมีคนมาร่วมงานไม่น้อย ลู่ซินฟางจึงเตรียมโต๊ะทั้งหมดสี่โต๊ะ พวกเด็กๆ แยกไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง แค่นั้นก็นั่งกันเต็มโต๊ะแล้ว

            เถ้าแก่หลี่ ครอบครัวพ่อหมี พี่น้องกระต่าย รวมถึงจางต้วน เถี่ยฮ่าวซือและซิงเหลียนนั่งโต๊ะเดียวกัน

            “ข้าขอนั่งร่วมโต๊ะด้วยได้หรือไม่”

            หมิงฮวา หญิงสาวจากเผ่าอสรพิษเอ่ยจบก็หย่อนก้นนั่งข้างๆ หลางไป๋

            หมาป่าหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ กระนั้นก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร  

            ไฉ่ลี่และเจียเหว่ยก็เป็นคนจากเผ่าอสรพิษ พวกเขานั่งร่วมโต๊ะเดียวกับเถ้าแก่หลี่

            หากพูดถึงเผ่าอสรพิษ คงต้องย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน หลังจากพาเจ้าแฝดไปเที่ยวเล่นที่มิติครั้งหนึ่ง เด็กๆ ก็อ้อนวอนอยากไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ลู่ซินฟางแวะมาหาหลิน นางจะพาเจ้าแฝดมาด้วย

ในช่วงนั้น นางเริ่มสร้างโรงเก็บสมุนไพร และโรงเรือนเพาะปลูกไว้ที่เผ่าอสรพิษตามสัญญา

            เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ที่ตามมาด้วยอยากช่วยงานท่านแม่ ทั้งยังถือโอกาสเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไปด้วย พวกเขาอ้อนลู่ซินฟางขอตามไปที่เผ่าอสรพิษด้วยความอยากรู้อยากเห็น

            ตอนแรก ลู่ซินฟางกังวลใจ แต่ภูตน้อยหลินรับรองว่าไม่มีปัญหา นางจึงพาเด็กทั้งสองมาทำความรู้จักกับเผ่าอสรพิษ

            แม้ว่าเจ้าตัวน้อยของนางจะหวาดกลัวเผ่าอสรพิษอยู่บ้าง แต่เด็กทุกคนล้วนมีลางสังหรณ์ป้องกันภัยร้าย ใช้เวลาร่วมกันไม่นาน พวกเขาก็พบว่าเผ่าอสรพิษไม่ได้มีเจตนาร้าย และเป็นคนดี งานวันเกิดครั้งนี้ พวกเด็กๆ ก็เป็นคนตัดสินใจว่าให้ชวนเผ่าอสรพิษมาร่วมด้วยตัวเอง

            ลู่ซินฟางกล่าวเปิดด้วยการขอบคุณที่ทุกคนที่มาร่วมวันเกิดของเจ้าแฝด จากนั้นก็อวยพรวันเกิดให้กับลูกๆ เพื่อไม่ทำลายบรรยากาศดีๆ และคิดว่าทุกคนคงหิวกันแล้ว นางจึงพูดสั้นๆ กระชับ แต่ได้ใจความ

            “ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานวันเกิดของเฉิงเอ๋อร์และเป่าเอ๋อร์ในวันนี้ ขอบคุณจากหัวใจเจ้าค่ะ แล้วก็…เจ้าตัวเล็กของแม่ แม่ขออวยพรให้ลูกมีความสุข ได้พบกับสิ่งดีๆ นะจ๊ะ”

            เมื่อได้รับคำอวยพร เด็กทั้งสองยิ้มแย้มอย่างสดใส

            “เอาละ มากินกันเถอะ”

            “อืม”

            ค่ำคืนนี้ นอกจากทุกคนจะกินดื่มกันอย่าสนุกสนานเป็นกันเอง ยังมีข่าวดีอีกเรื่อง นั่นคือชิงเหลียนตั้งครรภ์แล้วนั่นเอง 

            เนื่องจากพวกเขามีลูกยาก ชิงเหลียนกับเถี่ยฮ่าวซือจึงถือเคล็ด รอให้ผ่านเดือนที่สามของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงเสี่ยงถึงค่อยประกาศกับทุกคน

            ลู่ซินฟางมอบซองแดงให้เป็นของขวัญสองสามีภรรยา นางยังกำหนดวันหยุดสำหรับลาคลอดและเลี้ยงบุตร ทั้งนี้ก็เพื่อพนักงานคนอื่นๆ ด้วย

            ระหว่างกินข้าว ลู่ซินฟางมองรอยยิ้มที่สดใสของทุกคน ความสุขในตอนนี้เหมือนกับความฝันไม่มีผิด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (5) จบบริบูรณ์

    ตอนพิเศษ (5)จบบริบูรณ์ หลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว จิ้งจอกสาวก็เช็ดน้ำตาบนแก้มจนแห้ง สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปขอโทษหลางไป๋ ทว่าทุกครั้งที่นางเข้าใกล้ เขากลับผละหนี แสร้งทำทีเป็นยุ่งง่วนกับงาน ท่าทางแบบนั้นราวกับจงใจหลบหน้านางไม่มีผิด เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น เจียงจวีก็น้ำตาซึม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นับวันหัวใจของนางก็ยิ่งปวดแปลบ ท้ายที่สุด นางที่รู้สึกระอายใจเป็นทุนเดิม ยิ่งไม่กล้าสู้หน้าเขา หลายวันต่อมา เจียงจวีเก็บข้าวของ หนีกลับเผ่าจิ้งจอก ณ เผ่าจิ้งจอก ผู้นำเผ่าจิ้งจอกในร่างของชายวัยคนกับจิ้งจอกหนุ่มต่างยืนกอดอกหน้าตาขึงขัง ในขณะที่มองจิ้งจอกสาวกอดเข่าน้ำตาซึม “ตั้งแต่นางกลับมาก็เอาแต่นั่งอมทุกข์ทั้งวันทั้งคืน สงสัยจะเจอแย่ๆ มา หากรู้อย่างนี้ ข้าไม่น่าอนุญาตให้นางออกไปเจอโลกภายนอกเลย เป็นข้าที่ตัดสินใจผิดพลาดเอง” ผู้นำเผ่าพูดกับลูกชาย “ท่านพ่อไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดหรอกขอรับ ให้นางออกไปเผชิญโลกภายนอก นับเป็นประสบการณ์ของนางด้วย” จิ้งจอกหนุ่มกล่าว

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (4)

    ตอนพิเศษ (4) หลังจากเห็นว่าเจียงจวีเหมาะกับตำแหน่งพนักงานขาย หลางไป๋ก็ให้นางทำงานในร้านซินหลินคู่กับห่จือเหมย เพียงไม่กี่อาทิตย์ เจียงจวีก็เป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ของร้าน ด้วยความที่เป็นจิ้งจอกใสซื่อ จึงทำให้ผู้คนชื่นชอบและเอ็นดูไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่หลางไป๋ “ทำงานแค่ไม่กี่อาทิตย์ เจ้าก็ทำกำไรให้ร้านซินหลินไม่น้อย…ทำดีมาก” หลางไป๋เอ่ยชมเจียงจวี พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะ ตอนแรก หมาป่าหนุ่มทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นจิ้งจอกสาวผงะ ทั้งแก้มนวลเนียนยังขึ้นสีแดงระเรื่อ มือใหญ่ที่กำลังลูบศีรษะของนางพลันชักกลับมา จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินไปตรวจงานแผนกอื่น และไม่พูดไม่จาใดๆ หัวใจของเจียงจวีเต้นระส่ำระส่ายไม่หยุด แม้ยกมือขึ้นลูบหน้าอกพร้อมสูดหายลึกๆ แล้ว หากแต่หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา อย่างไรก็ตาม อาการใจเต้นแรงนี้ ทำให้จิ้งจอกสาวอดรู้สึกกังวลไม่ได้ หมิงฮวาเข้าร้านมาในจังหวะนั้นพอดี นางมองหลางไป๋สลับกับมองเจียงจวี สักครู่ ดวงตาของอสรพิษสาวก็หรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นหลางไป๋ขึ้นไปที่ชั้

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (3)

    ตอนพิเศษ (3) วันต่อมา จิ้งจอกสาวหอบห่อผ้ามาที่ฟาร์มอีกครั้ง แต่หนนี้นางมาพร้อมกับพี่ชาย “พวกเจ้าสองพี่น้องจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกันหรือ” หลางไป๋สอบถาม การได้คนหน่วยกร้านดีเพิ่ม มีใครบ้างไม่ชอบ ทว่าจิ้งจอกหนุ่มโบกมือแล้วตอบ “ไม่ใช่ขอรับ ข้าแค่มาส่งน้องสาว อีกอย่าง ที่มาวันนี้ก็เพื่อขอร้องท่านให้ช่วยดูแลนางด้วย นางค่อนข้างซื่อน่ะขอรับ” หลางไป๋พยักหน้าเหมือนเข้าใจ หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกยิ้มใสซื่อ โค้งศีรษะให้กับหลางไป๋ทีหนึ่ง “จากนี้ข้าต้องขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ” หลางไป๋หันไปยิ้มให้กับหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกพลางตอบว่า “ทางนี้ก็ต้องฝากตัวด้วยเช่นกัน” จากนั้นก็หันไปพูดกับทางพี่ชายด้วยสีหน้าเสียดาย “พูดก็พูดเถอะ เจ้าเองก็หน่วยกร้านดีไม่เบา น่าจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกัน” “ความจริงข้าก็อยากมาทำงานที่นี่นะขอรับ แต่เพราะท่านพ่อของพวกเรากำลังป่วย ข้าที่เป็นลูกชาย และยังเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าคนต่อไป ต้องคอยจัดการหลายๆ เรื่อง ตอนนี้ก็เลยออกจากเผ่าไม่ได้” “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” “ขอบคุณท่านผู

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (2)

    ตอนพิเศษ (2) สถานที่นี้เรียกว่าฟาร์ม มีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ทุ่งดอกไม้ โรงเรือนเพาะต้นกล้า ไหนจะโรงผลิตสารพัดที่เพิ่มขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด หนำซ้ำ ยังมีหมู่บ้านของเหล่าสัตว์อสูร ถนนที่ปูด้วยอิฐ ตรงลานกว้างของเมืองก็มีน้ำพุขนาดใหญ่ พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…น่าอิจฉาและดูน่าสนุกกันจังเลย จิ้งจอกสาวคิด ก่อนจะถอนหายเฮือกออกมาหนึ่ง หญิงสาวชอบความตื่นตาตื่นใจของฟาร์ม ถึงได้แอบมาดูทุกวัน ในตอนที่ลำแสงสีทองสาดเข้ามาในป่ารกทึบ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็มีวิวัฒนาการกลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนั้นนางตื่นเต้นมาก กระโดดโลดเต้นรอบป่า ยิ่งค้นพบว่ายังมีสัตว์เผ่าอื่นที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งอยากเป็นเพื่อนกับทุกคน เพราะอย่างนั้นตอนที่หมาป่าเพศผู้นามว่าหลางไป๋มาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอก นางอยากให้ท่านพ่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านภูต แต่ว่า ท่านพ่อกลับปฏิเสธ แม้ผิดหวังอย่างมาก แต่คำสั่งของผู้นำเผ่าถือเป็นเด็ดขาด เช้าตรู่ของวันนี้ จิ้งจอกสาวก็ยังแอบมาที่ฟาร์ม นางหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (1)

    ตอนพิเศษ (1) ต้นฤดูหนาวของปีนั้น ชุนกับจิ่นเซี่ยได้จัดพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย โดยหลางไป๋เป็นญาติฝ่ายหญิง ส่วนจิ่นเซี่ยนั้น เนื่องจากองครักษ์หนุ่มผู้นี้เป็นเด็กกำพร้า ญาติฝ่ายชายจึงเป็นกงเยียนซู แม้เป็นงานแต่งที่เรียบง่าย แต่เพราะได้ลู่ซินฟางเป็นแม่งาน อาหารสุราจึงขึ้นเต็มโต๊ะตลอดทั้งวันทั้งคืน แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนกันเอง งานแต่งของชุนกับองครักษ์หนุ่ม จึงเหมือนกับวันรวมญาติมากกว่าเป็นงานมงคล ลู่ซินฟางอนุญาตให้ชุนหยุดได้เท่าที่ต้องการ หลังเสร็จสิ้นงานแต่ง ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม หลายวันหลังจากนั้น อุณหภูมิเริ่มลดต่ำ สายลมหนาวเย็นพัดมาเป็นระลอก ลู่ซินฟางยืนอยู่บนระเบียง มองพวกเด็กๆ วิ่งเล่นกันที่ลานกว้าง “เด็กๆ เนี่ย ไม่รู้จักความหนาวกันเลยหรือไงนะ” ลู่ซินฟางพึมพำด้วยความเอ็นดู “แอร๊…!” ตอนนั้นเอง เสียงเล็กๆ ของจินเอ๋อร์ดังมาจากในเปล ลู่ซินฟางผละสายตาออกจากพวกเฉิงเอ๋อร์ เดินกลับมาหาลูกน้อยที่นอนในเปล จินเอ๋อร์อา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 128 บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์

    บทที่ 128บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์ เมื่อกลับมาจากมิติ ซินหลินก็มาหาลู่ซินฟางที่คฤหาสน์ เจ้าแฝดพอเห็นพี่ชายมาหา ก็วิ่งเข้าไปเกาะแขน กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “พี่ชายซินหลิน เมื่อกี้พวกเราไปมิติมาด้วย” “พี่ชายซินหลิน พวกเราไปอ่านหนังสือกันเถอะ” ซินหลินส่ายหน้าพร้อมเคาะปลายจมูกน้อยๆ ของเด็กทั้งสองเบาๆ คนละที “พวกเจ้าเรี่ยวแรงเหลือเฟือจริงๆ เลยนะ เพิ่งกลับมาจากมิติไม่ใช่หรือ คิดจะเล่นกันอีกแล้ว?” “ฮะๆ” “คิๆ” เจ้าแฝดหัวเราะชอบใจ ซินหลินยิ้มให้กับน้องๆ ก่อนหันมาบอกลู่ซินฟางว่า “ข้าเพิ่งเอาผักไปให้เหนียงซิ่น นางบอกว่าอากาศน่าจะเริ่มหนาวแล้ว นางว่าจะทำหม้อไฟชุดใหญ่ เลยให้ข้ามาบอกน่ะ” “ขอบใจมาก รอเยียนซูกลับมาแล้วข้าจะพาเด็กๆ ไปที่คฤหาสน์นะ” ลู่ซินฟางตอบกลับ “อืม” “หม้อไฟ” “เย่ หม้อไฟ!” หม้อไฟฝีมือเหนียงซิ่นอร่อยมาก แถมนานๆ ครั้งจะได้สักที พวกเด็กๆ จึงชูแขนร้องด้วยความดีใจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status