Share

ตอนที่ 103 ไฟอาฆาต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:39:22

หลายวันผ่านไป จวนของ หลานเยว่ ซึ่งเคยเป็นสถานที่เงียบสงัดและเข้าถึงได้ยากสำหรับผู้คน กลับมีชายคนหนึ่งที่เข้าออกได้ราวกับเจ้าของบ้าน ซูจิ่งหลงหากเป็นเมื่อก่อน เขาจะต้องหาข้ออ้าง นำเรื่องภารกิจหรืองานในโลกมืดมาอ้างถึงทุกครั้งที่มาเยือน แต่บัดนี้ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง

แม้นางยังคงเป็นสตรีที่เย็นชา ใบหน้านิ่งเรียบ ไร้ซึ่งรอยยิ้ม แต่ทว่าสายตาและท่าทีบางเบาที่เปิดโอกาสให้เขานั่งเคียงข้าง กลับเป็นหลักฐานเงียบๆ ว่า นางได้เริ่มเปิดประตูหัวใจต้อนรับเขาทีละน้อยบรรยากาศในเรือนเล็กยามสายสงบเงียบ กลิ่นชาหอมกรุ่นลอยคลุ้งอบอวล ภายใต้ความเงียบงันนั้นเอง เสียงทุ้มต่ำของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในโลกมืดก็ดังขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ ราวกับเด็กหนุ่มที่ไม่มั่นใจในรักครั้งแรก

“หลานเยว่… ตอนนี้พวกเราสองคน… กำลังคบหาดูใจกันอยู่ใช่หรือไม่?”

ซูจิ่งหลงเอ่ยออกมาทั้งที่หัวใจเต้นแรง แววตาคมเข้มที่ไม่เคยหวั่นเกรงศัตรูคนใดกลับฉายแววหวาดหวั่น เขากลัวว่าความรู้สึกที่ตนมอบให้อาจเป็นเพียงเงาของความหวังข้างเดียวหลานเยว่ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นแนบริมฝีปาก นางจิบชาด้วยท่าทีสงบคล้ายไร้ความรู้สึก น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเรียบเฉย ราวกับเป็นคำตอบที่ไม่ต้องใช้เวลาไตร่ตรอง

“ก็คงจะ…เป็นเช่นนั้นละมั้ง” หลังจากนั้นนางก็เบนสายตาออกไปทางอื่น ให้ความสนใจสิ่งรอบตัวมากกว่าจะมองชายตรงหน้า ท่าทีราวกับว่าคำถามนั้นไม่มีความสำคัญอันใดแต่สำหรับ ซูจิ่งหลง คำพูดเพียงสั้น ๆ นั้นกลับดังยิ่งกว่าคำสาบานในพิธีแต่งงาน หัวใจที่แข็งดั่งเหล็กกล้าของเขาแทบสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความปิติที่ไม่เคยมีมาก่อนเอ่อล้นจนยากจะปิดบัง เขาไม่อาจห้ามใบหน้าให้คลี่ยิ้มเปี่ยมสุขออกมา ราวกับว่าเพียงแค่นี้ โลกทั้งใบก็มอบความหมายใหม่ให้ชีวิตที่เคยดำดิ่งอยู่แต่ในความมืดมิด

ที่อีกด้านหนึ่งของเมืองหลวงกลับเต็มไปด้วยเสียงครางโหยหวนราวนรกแตกภายในห้องมืดอับชื้น เสียงหอบหายใจติดขัดจะดังสลับตามมา ร่างของ จ้าวหย่งหยู นอนพังพาบอยู่บนเตียงไม้เก่า ใบหน้าที่ถูกบดขยี้จนบิดเบี้ยวยับเยินยังไม่หยุดสั่น เส้นเลือดที่ขมับปูดโปนเหมือนจะระเบิด ริมฝีปากที่คดเบี้ยวพยายามขยับ เสียงหอบหืดผสมกับเศษเลือดไหลทะลักออกมาเป็นระยะ ก่อนที่มันจะเปล่งเสียงพร่าแตกออกมาเหมือนเศษกระดูกเสียดสีกัน

“แ-ค…แคร๊ก… แคร๊กกก… ฟะ-ฟัน… ของ-ขะ…ข้าาาา…”

เสียงแตกหักของซี่ฟันที่ยังเหลือกระทบกันดัง กรอบแกรบ ทุกครั้งที่มันพยายามจะเอื้อนเอ่ย ราวกับเสียงไม้แห้งถูกหักทลาย เศษฟันปนเลือดสดคายออกจากปาก ส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง

“อ่อกก… แค่กกก! แค่กกกก!”

มันไอจนตัวโยน ร่างพิการสั่นระริกราวกับสัตว์ใกล้ตาย เสียงสำลักเลือดผสมกับเสียงครางเบาหวิวชวนให้คนฟังขนลุกซู่ ทว่าดวงตาของมันกลับฉายชัดไปด้วยเพลิงโทสะและความอาฆาต ดุจเปลวไฟที่ไม่มีวันมอดดับแม้สภาพจะน่าสมเพชราวซากผี แต่ภายใต้เสียงแหบแตกนั้นกลับแฝงไปด้วยคำสาปแช่งที่น่าขนลุก

“ซู…จิ่…งหลงงง… ขะ…ข้า…จะ…ฉีก…เจ้าทั้งเป็น…” ถ้อยคำที่เปล่งออกมาไม่สมบูรณ์ คล้ายเสียงปีศาจคร่ำครวญ แต่ความอาฆาตในถ้อยคำกลับแรงกล้าจนบรรยากาศรอบห้องเย็นเยียบ ราวกับว่าเงามืดแห่งนรกได้มาเยือนถึงที่นี่

ยามค่ำคืนมาเยือน แสงโคมไฟสลัวส่องลอดผ่านผ้าม่านบางในห้องโถงใหญ่ของจวน เสียงช้อนและถ้วยกระเบื้องกระทบกันเบา ๆ แทบไม่อาจกลบเสียงหอบหืดแหบพร่าของ จ้าวหย่งหยู ได้ ร่างบิดเบี้ยวบนรถเข็นถูกเข็นมาจนถึงโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยสำรับเลิศรส แต่สำหรับเขา…ทุกคำอาหารกลับไร้รสชาติเพราะริมฝีปากที่แหลกเละและไร้ฟันเกือบหมด

ตรงข้ามกันนั้น จ้าวเจี้ยนกั๋ว นั่งอยู่ด้วยสีหน้าหนักอึ้ง ชายผู้ยิ่งใหญ่ผู้กุมอำนาจในราชสำนัก เวลานี้กลับไม่ต่างจากบิดาชราผู้มีเพียงบุตรชายเป็นศูนย์กลางของชีวิต ดวงตาที่เคยดุดันกร้าวแกร่งพลันสั่นคลอนด้วยแววเวทนา

เขาจ้องมองสภาพลูกชายที่พยายามประคองตัวตรงบนรถเข็น ใบหน้าที่บิดเบี้ยวและดวงตาที่เหลือกลอยราวคนไร้สติปกติแล้วเพียงเศษเสี้ยวความเจ็บปวดของบุตรชายเขาก็ไม่เคยปล่อยให้ผ่านตาไปได้ แต่ครานี้สิ่งที่เห็นกลับทำให้หัวใจของเขาราวถูกบีบจนแทบขาดน้ำเสียงของเขาเอื้อนเอ่ยออกมาแผ่วเบา ทว่ามีทั้งความอ่อนโยนและความปวดร้าวเจือปนอยู่ทุกถ้อยคำ “ลูกพ่อ… อาการของเจ้าดีขึ้นแล้วอย่างนั้นหรือ?”

คำพูดนั้นเหมือนเป็นทั้งคำถามและการปลอบใจในคราเดียวกัน จ้าวเจี้ยนกั๋วพยายามยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นก็ฝืนเต็มที แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงหาและความรักที่ไม่เคยเสื่อมคลาย แม้สภาพของลูกชายตรงหน้าจะทำให้คนทั่วไปหวาดกลัวและสมเพช แต่ในสายตาของเขา…บุตรชายคนนี้ยังคงเป็นแก้วตาดวงใจ

ริมฝีปากบิดเบี้ยวของ จ้าวหย่งหยู สั่นระริก เขาพยายามอ้าปาก เสียงที่เล็ดลอดออกมาไม่เพียงแค่พร่าขาดห้วง หากแต่เต็มไปด้วยพิษร้ายในใจที่คุกรุ่น

“ท่าน…พ่อ…” เสียงแรกออกมาอย่างติดขัด คล้ายสัตว์บาดเจ็บหอบหายใจ แต่ถัดมา กลับกลายเป็นเสียงคำรามต่ำแหบพร่า “สารรูป…ของข้า…ในตอนนี้…นับว่าดีแล้ว…งั้นหรือ?!”

ดวงตาขุ่นมัวถลึงขึ้น เส้นเลือดบนขมับปูดโปนด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาแยกเขี้ยวที่แทบไม่เหลือครบในปาก ใบหน้าที่แตกยับบิดเบี้ยวมากขึ้นเมื่อความเคียดแค้นพรั่งพรู

“ตัวข้า…สิ้นสติไป…หลายวัน…มันเป็นเพราะ…เจ้า…สารเลวนั่น!!” เสียงสุดท้ายแทบกลายเป็นเสียงกรีดร้องผสมกับเสียงไอแหบหอบ เลือดผสมเสมหะกระเด็นออกจากมุมปาก แต่สายตาของเขายังคงวาวโรจน์ไปด้วยไฟแค้น ราวกับคำพูดทุกคำถูกหล่อเลี้ยงด้วยพิษจากหัวใจที่บิดเบี้ยว

ขณะที่ผู้เป็นบิดาจ้าวเจี้ยนกั๋วยังคงนั่งนิ่ง ใบหน้าที่เคยสง่างามกลับแปรเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขารู้ว่าลูกชายของเขาไม่ใช่เพียงแค่บาดเจ็บทางกาย แต่ยังถูกความมืดในใจกลืนกินจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

“เจ้าจงลืมเรื่องการแก้แค้นซะ…!”เสียงนั้นดังประหนึ่งฟ้าผ่ากลางใจของจ้าวหย่งหยู ก่อนคำพูดต่อมาจะเอ่ยออกมาช้า ๆ แต่เฉียบคม“เพียงแค่ข้าสามารถพูดคุยกับซูจิ่งหลง ไม่ให้เอาความเจ้าได้… แค่นี้ก็นับว่าเป็นบุญของเจ้าแล้ว หึ!”

คำว่า บุญ นั้นดังก้องสะท้อนอยู่ในใจเจ้าง่อยผู้บิดเบี้ยว ราวกับเขาไม่ใช่บุตร แต่เป็นภาระที่ผู้เป็นบิดาจำต้องยื่นมือช่วยเหลือไว้

จ้าวเจี้ยนกั๋ว ลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันที แขนเสื้อสะบัดปลิวราวกับประกาศจุดยืนที่ไม่อาจสั่นคลอน ภายนอกเขาดุดัน แข็งกร้าวประหนึ่งขุนเขา แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยรอยร้าวบอบบาง…เพราะทุกคำพูดที่เปล่งออกมา ล้วนเกิดจากความรักที่พยายามจะปกป้องชีวิตของลูกชายเพียงคนเดียว แต่ลูกชายผู้นี้…กลับไม่เคยเห็นค่าของมันเลย เสียงฝีเท้าหนักแน่นก้องสะท้อนข้ามโถง เมื่อเขาเดินจากไปโดยไม่หันกลับ ดั่งคนตัดใจจากเงาที่ตามหลอกหลอนหัวใจ

“ท่านพ่อ… ท่านพ่อ!!!”

เสียงโหยหวนของ จ้าวหย่งหยู ดังลั่นไปทั่วห้องโถง ร่างพิการบิดเบี้ยวสั่นสะท้าน เขาพยายามยื่นมือออกไปสุดกำลัง แต่สิ่งที่ไขว่คว้าได้กลับมีเพียงความว่างเปล่า เงาหลังของผู้เป็นบิดายังคงเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ โดยไม่หยุดแม้ครู่เดียวน้ำเสียงแหบพร่าที่แฝงทั้งความเจ็บปวดและความโกรธ ทำให้ห้องอาหารอันโอ่อ่ากลับเงียบงันเยียบเย็น ราวกับเหลือเพียงเสียงสะอื้นพร่าของลูกชายพิการผู้ถูกทอดทิ้งไว้กับความสิ้นหวังและความเคียดแค้นที่กัดกินหัวใจ…

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status