Share

ตอนที่ 104 คำพูดเฉือนใจ

last update Last Updated: 2025-12-03 12:39:49

ยามสนธยาคลี่คลุมทั่วทั้งจวน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องลอดผ่านระแนงไม้เข้ามา แสงทองสลัวทอดเงายาวบนพื้นหินเรียบ บรรยากาศรอบกายสงบเงียบ มีเพียงเสียงสายลมพัดต้องใบไผ่ที่เสียดสีกันเป็นจังหวะอ่อนโยน

หลานเยว่ นั่งอยู่ริมหน้าต่าง เงาสะท้อนบนแววตาคมยังคงเย็นสงบตามแบบที่นางเป็นมาแต่แรก แม้หัวใจจะด้านชาเพราะถูกความมืดกลืนกินมาเนิ่นนาน แต่นางก็รู้ดีว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้นางอบอุ่นได้อย่างแท้จริงก็คือ บุตรชายของนาง เด็กน้อยคือความรักและสิ่งที่นางหวงแหนที่สุด แม้โลกของนางจะเต็มไปด้วยสีเทาและการฆ่าฟัน แต่นางยังคงปรารถนาจะมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่เขา

และในโลกมืดที่แสนเดียวดายนั้น…กลับมีบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ โดยที่นางไม่รู้ตัว ความรู้สึกที่ไม่อาจตั้งชื่อได้ก่อตัวขึ้นทีละน้อย จนบัดนี้นางรู้เพียงอย่างเดียวว่าไม่อาจขาดเขาไปได้อีกแล้ว

เงาร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาอย่างมั่นคง แววตาคมเข้มที่ผ่านศึกมานับครั้งไม่ถ้วนยังคงแน่วแน่ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความลังเลที่ไม่เคยเผยต่อผู้ใด ซูจิ่งหลง ยืนหยุดตรงหน้านาง ริมฝีปากหยักเม้มแน่นก่อนจะเปล่งถ้อยคำที่สั้น ตรง และหนักแน่นราวดาบที่ฟันลงกลางใจ

“หลานเยว่… เจ้าเข้าเรือนหอกับข้านะ”

เสียงทุ้มต่ำสั่นเล็กน้อย บุรุษผู้ชินชากับการสั่งความตาย แต่ยามนี้กลับไม่รู้จักถ้อยคำหวานใด ๆ สิ่งที่เขามอบให้นาง มีเพียงความจริงใจและการกระทำที่ผ่านมาเท่านั้นบรรยากาศพลันนิ่งงันไปชั่วขณะ สายลมพัดพลิ้ว ผ้าม่านบางสะบัดไหวราวประสานเสียงกับหัวใจที่กำลังเต้นแรงของชายผู้ยืนรอคำตอบ

หลานเยว่ หันมองเขาช้า ๆ แววตานิ่งสงบเช่นเคย ไม่ได้ฉายแววเขินอาย ไม่ได้หลบเลี่ยงเช่นสตรีทั่วไป หากแต่ตรงไปตรงมาเป็นตัวตนของนางอย่างแท้จริง

“อือ” เพียงถ้อยคำสั้น ๆ ที่หลุดออกมาอย่างเรียบง่าย แต่สำหรับซูจิ่งหลงกลับประดุจฟ้าผ่าลงกลางใจ หัวใจแข็งแกร่งที่เคยผ่านเลือดและเพลิงศึกนับไม่ถ้วนกลับสั่นสะท้านด้วยความปิติสุข รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปากที่เคยเปรอะเปื้อนด้วยคำสั่งปลิดชีพ ขณะนั้นโลกมืดที่เขาเคยดำดิ่งมาทั้งชีวิต พลันสว่างไสวด้วยถ้อยคำสั้น ๆ ของนาง ความเงียบเรียบง่าย กลับกลายเป็นคำมั่นสัญญาที่หนักแน่นที่สุดสำหรับบุรุษและสตรีผู้เคยอยู่กลางหุบเหวแห่งความมืด

ซูจิ่งหลง คุกเข่าอย่างอ่อนแรง ร่างกำยำสั่นเล็กน้อยคล้ายก้อนหินแข็งที่แตกออกเผยให้เห็นความเปราะบางภายใน ดวงตาคมที่เคยเย็นชาในโลกแห่งความมืดพลันสั่นระริก น้ำเสียงทุ้มพร่าหนักแน่นแต่แฝงแววสะอื้นหลุดออกมา

“ขอบคุณสวรรค์… ที่เจ้ายอมรับข้า”

ถ้อยคำเรียบง่ายแต่หนักหน่วงราวคำสัตย์สาบาน โลกที่เขาเผชิญมาเต็มไปด้วยเลือดและการหักหลัง แต่ยามนี้เขากลับรู้สึกถึงความโล่งอกอันบริสุทธิ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะคำตอบของนางไม่เพียงเป็นการยอมรับ หากยังเป็นการผูกพันกันไปทั้งชีวิต

เขาเชื่อมั่นว่า การศึกษาดูใจ กับ การใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยา ต่างกันราวฟ้ากับเหวเพราะเมื่อเอ่ยตอบตกลงแล้ว ก็หมายความว่าสองดวงใจยอมเป็นของกันและกันตลอดไป

ดวงตาคมที่เคยกร้าวกลับเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา ซูจิ่งหลงกัดฟันฝืนยิ้ม พยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้พรั่งพรูออกมา ริมฝีปากหยักเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่สะท้านไปถึงก้นบึ้งหัวใจ

“ข้าจะไปสู่ขอเจ้ากับพ่อของเจ้า…”

น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ แต่ทุกถ้อยคำกลับแน่วแน่มั่นคง ราวกับประกาศต่อฟ้าดิน เขามองนางและลูกของนางเป็นครอบครัวของตนมาตั้งแต่เนิ่นนาน และบัดนี้เขากำลังประกาศอย่างเปิดเผยว่าจะผูกพันนางด้วยชื่อเสียงและเกียรติยศของเขาเอง

บรรยากาศรอบกายสงบนิ่ง ราวเวลาหยุดหมุน มีเพียงเสียงลมหายใจที่สะท้อนอยู่ระหว่างคนทั้งสอง หยาดน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาของบุรุษผู้ไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร กลับกลายเป็นคำมั่นสัญญาที่จริงใจที่สุดในชีวิตของเขา

วันเดียวกันนั้นเอง ซูจิ่งหลง เดินทางไปยังเรือนพักของ แม่ทัพหลานซือเหยียน ชายผู้เคยยิ่งใหญ่ในราชสำนัก แต่บัดนี้เกษียณตัวเองออกจากทุกอำนาจและความวุ่นวาย ภาพลักษณ์ภายนอกของเขาดูคล้ายบุรุษวัยกลางคนใจดีผู้หนึ่ง ทว่าเบื้องหลังคือผู้ผ่านร้อนหนาวและการชิงอำนาจมาอย่างโชกโชนเมื่อเห็นซูจิ่งหลงก้าวเข้ามา หลานซือเหยียนยกถ้วยชาขึ้นจิบ พลางหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นแม้เรียบง่าย แต่แฝงความรู้สึกจริงใจ“ข้าคิดไม่ถึงเลยว่า…เจ้าจะเอาชนะใจนางได้จริง”

แววตาคมกร้าวที่เคยเคร่งเครียดเพราะอำนาจ บัดนี้กลับอ่อนโยนและปลื้มใจ ในที่สุดบุตรสาวของเขาก็มีบุรุษผู้หนึ่งที่จะดูแลไปตลอดชีวิตแต่ในความอิ่มเอมใจนั้นความเจ็บปวดเก่าแก่ก็ยังตามหลอกหลอน เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย น้ำเสียงพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เต็มไปด้วยความละอาย“ตลอดชีวิตที่ผ่านมา…ในฐานะคนเป็นพ่อ ข้าทำสิ่งผิดบาปต่อนางไว้มากมาย…มากเกินกว่าจะให้อภัยได้ แค่คำขอโทษ หรือแม้แต่ยกชีวิตของข้าให้…ก็ไม่เพียงพอ”

แววตาที่เคยเด็ดขาดในสนามรบ พลันหม่นลง เขารำลึกถึงบาปที่เคยก่อ ความโหดร้ายที่เคยผลักบุตรสาวให้เป็นเพียงเครื่องมือเพื่อแลกอำนาจ“เพื่ออำนาจ…ข้าเคยยกนางให้เป็นเพียงสตรีอุ่นเตียงของผู้ใต้บังคับบัญชา โดยไม่ลังเล… การกระทำนั้นไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานที่เห็นเกียรติและอำนาจของตนสำคัญกว่าลูกสาวในไส้”

เสียงของหลานซือเหยียนแผ่วลง เขาหลับตา ลมหายใจหนักหน่วงดุจแบกหินก้อนใหญ่ไว้บนบ่า“แม้ภายหลัง ข้าจะลงทัณฑ์มันผู้นั้นด้วยมือของตัวเอง…แต่เพียงเท่านั้น ไม่อาจลบล้างบาปที่ทำต่อนางได้เลย”

เมื่อเขาปล่อยวางจากอำนาจและแผนการทั้งหลาย จิตใจที่สงบนิ่งกลับยิ่งทำให้ความละอายชัดเจนขึ้นทุกวัน ความผิดนั้นได้ฝังลึกในหัวใจ และจะติดตามเป็นตราบาปไปจนสิ้นชีวิต

“ใช่…เจ้ามันเป็นเจ้าแก่สารเลว ที่เห็นอำนาจสำคัญกว่าลูกในไส้ของตนเอง”

แม่ทัพหลานซือเหยียน ถึงกับเลือดลมตีกลับ ใบหน้าเคร่งขรึมสั่นไหวเล็กน้อย คำกล่าวหานั้นแทงลึกเข้าไปในบาดแผลเดิมที่ไม่เคยสมาน แม้เขาจะเคยเป็นแม่ทัพผู้บัญชาการนับหมื่น เคยผ่านทั้งศึกและการเมืองมาอย่างโชกโชน แต่ในยามนี้…กลับไร้ซึ่งคำโต้แย้งริมฝีปากเขาเม้มแน่น สุดท้ายเพียงแค่น้ำเสียงทุ้มต่ำพร่าหนักเอื้อนเอ่ยออกมา“ปากของเจ้าช่าง…เหมาะสมกับลูกสาวของข้านัก”

คำพูดนั้นไม่ใช่การตอบโต้ หากแต่เป็นการยอมรับยอมรับว่าถ้อยคำที่เฉือนใจจนเลือดซึมนี้ไม่ต่างอะไรกับคำพูดตรงไปตรงมาของ หลานเยว่ ผู้เป็นบุตรสาวสายตาของหลานซือเหยียนสั่นระริก ก่อนคลี่ยิ้มบาง ๆ แฝงความขมขื่น         สมแล้ว…สมแล้วที่คนทั้งสองจะเป็นคู่กัน

ในใจของชายผู้เคยก้าวย่ำอยู่บนยอดอำนาจ พลันโล่งวาบราวยกภูเขาออกจากอกเพราะบัดนี้ เขารู้แล้วว่าลูกสาวที่เคยถูกเขาทำร้าย…ได้เจอผู้ชายที่เด็ดเดี่ยวพอจะปกป้องนางไปตลอดชีวิต

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status