Share

ตอนที่ 105 ครอบครัว

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:40:16

แสงแดดอ่อนส่องลอดกิ่งหลิวลงมาทาบบนผืนน้ำใส เสียงคลื่นเล็ก ๆ ซัดสาดเบา ๆ เคล้าไปกับเสียงนกน้ำที่บินโฉบผ่าน ศาลาริมน้ำที่ถูกสร้างด้วยไม้เนื้อหอมมีกลิ่นอบอวลอ่อน ๆ กลายเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและเปี่ยมด้วยบรรยากาศอันละมุน

ซูจิ่งหลง นั่งอยู่ตรงเบื้องหน้าสตรีผู้เย็นชาในหัวใจของเขา แววตาคมที่เคยเยือกเย็นในสนามชีวิตพลันสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ แฝงความลำบากใจจนแทบปกปิดไม่อยู่

“หลานเยว่… เจ้า…คงไม่ได้โกรธเคืองข้าใช่หรือไม่…ที่ในพิธีมงคลนั้น ท่านแม่กับท่านพ่อของข้าไม่มา”

ประโยคเรียบง่าย แต่สะท้อนน้ำหนักในใจของชายผู้ไม่เคยก้มหัวให้ใคร ความสุขที่ได้ครองคู่กับนาง กลับแฝงด้วยเงามืดของอดีตที่ไม่เคยเลือนหายเขาก้มหน้าลงเล็กน้อย ลมหายใจขาดห้วง ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อนเอ่ยเปิดเผยเรื่องราวที่เก็บงำมานาน “แท้จริงแล้ว…ท่านแม่ของข้า เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของฮ่องเต้หรงจวิ้น”“นาง…กลับเลือกเดินเส้นทางที่ต่างไปจากที่ทุกคนคาดหวัง นางตกหลุมรักกับบุรุษผู้หนึ่ง…ผู้ที่ไม่มีฐานะใด เป็นเพียงพ่อค้าธรรมดาคนหนึ่ง และนางยอมละทิ้งทุกสิ่งทั้งเกียรติ ทั้งฐานันดร เพื่อแลกกับการได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนรัก”

เสียงของซูจิ่งหลงสั่นเครือเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงอดีต เขาไม่เคยพูดถึงสิ่งนี้ต่อผู้ใดมาก่อน แต่อยู่ต่อหน้านาง…เขาไม่ต้องการเก็บงำอีกต่อไป

“ในยามนั้น องค์ฮ่องเต้โกรธเคืองเป็นอย่างมาก แต่ท้ายที่สุด…ก็เลือกจะช่วยเหลือพี่สาวของตน ทรงป่าวประกาศไปต่อโลกว่าท่านแม่ของข้า…สิ้นใจด้วยโรคร้าย”

เขาเงยหน้าขึ้น แววตาคมพร่าเลือนสะท้อนประกายแห่งความเจ็บปวด“เพราะหากปล่อยให้นางใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาโดยไม่ปกปิดฐานะที่แท้จริง ย่อมเป็นอันตรายต่อตัวนางและครอบครัว…นับแต่นั้นเป็นต้นมา นางต้องอยู่ในเงามืดตลอดชีวิต ข้าเองก็เช่นกัน…”

ศาลาริมน้ำยังคงอบอวลด้วยไอแดดอ่อนที่สาดลอดกิ่งไม้ เสียงน้ำกระทบฝั่งดังเป็นจังหวะเนิบสงบ ขณะที่ ซูจิ่งหลง เผยความลับที่เก็บงำมานานออกมา ใบหน้าคมคายยังฉายความกังวล ดวงตาคมสั่นระริก ราวกับกำลังรอคอยการตัดสินจากสตรีตรงหน้า

แต่ทว่า… หลานเยว่ กลับไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วสักน้อย นางฟังทุกถ้อยคำด้วยสีหน้านิ่งสงบเช่นเดิม หัวใจของนางไม่เคยยึดติดกับสายเลือดหรือชาติกำเนิดอยู่แล้ว สิ่งเดียวที่นางโอบกอดมาตลอด…คือบุตรชายของตน และบัดนี้คือชีวิตที่ค่อย ๆ ก่อรูปขึ้นกับบุรุษผู้หนึ่งที่ชื่อซูจิ่งหลง

นางเอียงใบหน้าขึ้นเล็กน้อย แววตานิ่งสงบทอดมองเขา ก่อนเอื้อนเอ่ยเสียงเรียบง่าย ทว่ากลับอ่อนโยนลึกซึ้งยิ่งกว่าถ้อยคำหวานใด ๆ

“ก็ไม่เห็นเป็นไร…”

ถ้อยคำสั้น ๆ หากแต่ดุจสายน้ำเย็นที่ชะล้างความกังวลในใจของเขาจนหมดสิ้น

“เย็นนี้ ท่านแม่กับท่านพ่อของเจ้า…ก็จะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นกับพวกเราด้วยมิใช่หรือ” ประโยคที่เปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ ราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่สิ่งใหญ่โตอันใดและยิ่งเพราะความเรียบง่ายนี้เอง จึงทำให้หัวใจของ ซูจิ่งหลง แทบจะหลอมละลาย รอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่เคยมีต่อผู้ใดนอกจากนางผุดขึ้นบนริมฝีปาก

ยามอาทิตย์คล้อยต่ำ แสงสีส้มทองทอดทาบลงบนผืนถนน ขบวนรถม้าเคลื่อนเข้าสู่หน้าจวนของ หลานเยว่ ฝุ่นผงคลุ้งขึ้นตามล้อรถ เสียงม้าสะบัดเท้ากระทบหินดังเป็นจังหวะมั่นคง ขบวนคุ้มกันที่ติดตามมาด้วยต่างยืดอกเคร่งขรึม ราวกับแสดงเกียรติให้กับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายใน

เบื้องหน้าประตูใหญ่ ซูจิ่งหลง ยืนเคียงข้าง หลานเยว่ สองร่างสูงสง่านิ่งรออยู่ด้วยท่าทีสงบเยือกเย็น แต่หัวใจของซูจิ่งหลงกลับเต้นแรงไม่ต่างจากหนุ่มน้อยที่รอคอยการตัดสินจากบิดามารดา

เมื่อประตูรถม้าเปิดออก ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ก้าวลงมา ใบหน้าคมเข้มฉายแววใจดี ทว่าปากคอกลับคมคายยิ่งนัก เขามองลูกชายเพียงครั้งเดียวก่อนแค่นหัวเราะ แล้วตะโกนเสียงดังจนคนคุ้มกันหลายคนเผลอก้มหน้าหัวเราะคิก

“ไอ้สารเลว! ในที่สุดแกก็หาเมียได้ซะที! แก่รู้ไหมว่าข้ารอให้แกมีหลานให้อุ้มอยู่นานแล้ว!”

น้ำเสียงหยอกเย้าส่งแรงสะเทือนเข้ามาในใจของซูจิ่งหลงจนหน้าตึงไปทั้งแถบ ใบหน้าคมเข้มที่เคยทำให้ศัตรูนับร้อยหวาดกลัว พลันกลายเป็นสีแดงระเรื่อคล้ายชายหนุ่มที่โดนล้อกลางตลาด

ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยตอบ เสียงสตรีแผ่วนุ่มแต่ทรงอำนาจก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ชุดผ้าไหมชั้นสูงสะบัดเบาเมื่อ หญิงวัยกลางคนผู้มีใบหน้างดงามสง่างาม ก้าวลงจากรถม้า นางเอื้อมมือเรียวคว้าชายเสื้อของผู้เป็นสามี ดึงเบา ๆ พลางเอ่ยเสียงเข้มแต่แฝงความห่วงใย

“ท่านพี่ โปรดรักษามารยาทหน่อย”

เพียงแค่เสียงนั้นดังขึ้น บรรยากาศโดยรอบก็สงบลงโดยไม่ต้องใช้คำสั่งใดเพิ่มเติม หลานเยว่ เหลือบสายตามองนางเพียงครั้งเดียว ก็รู้ได้ทันทีนี่คือ สายเลือดแท้จริง ของราชวงศ์ ผู้เป็นพี่สาวแท้ ๆ ขององค์ฮ่องเต้หรงจวิ้น มิเพียงแต่ความสง่างามที่เปล่งออกมา หากแม้แต่รูปหน้าคมชัดก็ยังคล้ายคลึงกับองค์จักรพรรดิอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

ในแววตาของหลานเยว่มีเพียงความนิ่งสงบ แต่นางก็รู้แน่ชัดว่าหญิงผู้นี้หาใช่ใครอื่นไม่ คือสตรีที่ครั้งหนึ่งยอมละทิ้งบัลลังก์เพื่อรักแท้ และเป็นผู้ให้กำเนิดชายผู้ยืนอยู่ข้างกายนางในเวลานี้

บรรยากาศในห้องโถงใหญ่สว่างไสวด้วยแสงโคมทอง อาหารเลิศรสนานาชนิดเรียงรายบนโต๊ะกลม ทุกคนล้วนอยู่พร้อมหน้า แม้แต่ หลานจิ่วอวิ๋น เด็กน้อยก็ได้มานั่งร่วมด้วย รอยยิ้มใสซื่อของเขาทำให้บรรยากาศที่กดดันคลายตัวลงเล็กน้อย

ซูเทียนหมิง ชายวัยกลางคนผู้เป็นบิดา นั่งอยู่หัวโต๊ะ แววตาคมเข้มกวาดมองเด็กชายอย่างไม่วางตา ความเอ็นดูแฝง      อยู่ลึก ๆ แม้จะพยายามปกปิดก็ตาม สุดท้ายก็ยกมือใหญ่กวักเรียกเด็กน้อยมานั่งข้างตน

ก่อนที่ความเงียบจะยืดยาวเกินไป เขากลับหันสายตาคมไปยังบุตรชาย น้ำเสียงเข้มก้องสะท้อนทั่วห้อง“เจ้าจะแต่งกับนางแน่ใช่หรือไม่”

ซูจิ่งหลง ที่นั่งตรงข้ามพลันเกร็งไปทั้งร่าง แม้เป็นบุรุษผู้ไม่เกรงกลัวศัตรูนับพันในโลกมืด แต่ต่อหน้าบิดาผู้ให้กำเนิดกลับไม่อาจซ่อนความตึงเครียดได้ เขาก้มศีรษะตอบหนักแน่น น้ำเสียงสั่นเล็กน้อยแต่เต็มไปด้วยความมั่นคง“ขอรับ…ท่านพ่อ เพราะนางคือหัวใจของลูก”

ซูเทียนหมิงนิ่งฟัง ดวงตาคมวาบพราวก่อนจะพยักหน้าเชื่องช้า สีหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ“ดีมาก… แต่เจ้ารู้ใช่ไหม หากเจ้าทำร้ายหัวใจของชายแก่เช่นข้าสิ่งใดจะตามมา”

น้ำเสียงที่กล่าวประโยคนั้นเฉียบคมดุจคมดาบ ฟาดลงกลางอกของซูจิ่งหลงจนเขาได้แต่ก้มศีรษะรับโดยไม่กล้าโต้ตอบ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเคร่งขรึมจนแทบไม่มีใครกล้าหายใจแรง

แต่เพียงชั่วอึดใจต่อมา ความเข้มข้นกลับพลิกผัน เมื่อซูเทียนหมิงหันไปหาเด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าคมดุเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอบอุ่นจนต่างกันราวฟ้ากับเหว เขายื่นมือวางเบา ๆ บนไหล่เล็ก แล้วเอ่ยเสียงนุ่มที่ไม่เคยใช้กับบุตรชายของตน

“หลานจิ่วอวิ๋น… ต่อไปนี้ เจ้าจะกลายเป็นหลานคนแรกของข้า”

พร้อมถ้อยคำ เขาหยิบเครื่องหมายสัญลักษณ์ชิ้นหนึ่งจากอกเสื้อ มอบให้อย่างจริงจัง แสงสะท้อนจากเนื้อโลหะทำให้ทุกคนบนโต๊ะพลันหันมาสนใจ

“จงเก็บนี่ไว้ มันคือตัวแทนของข้า… เจ้าสามารถใช้มันซื้อสิ่งใดก็ได้ในร้านใหญ่ทั่วทั้งเมืองหลวง”

หลานจิ่วอวิ๋น รับสิ่งนั้นไว้ด้วยดวงตาใสซื่อ แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นไร้เดียงสา ก่อนจะยกมือเล็กประคองสมบัติล้ำค่า แล้วเอ่ยออกมาด้วยเสียงสดใส“ขอบคุณขอรับ!”

เสียงใสนั้นก้องสะท้อนในหัวใจของทุกคนบนโต๊ะ อบอุ่นนักจนกระทั่งแม้แต่ชายผู้คมเข้มอย่างซูจิ่งหลง ยังอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมาเงียบ ๆ ราวกับนี่ไม่ใช่เพียงแค่มื้ออาหาร แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ของ ครอบครัวอย่างแท้จริง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status