แชร์

ตอนที่ 69 แอบสมเพชผู้เป็นนาย

ผู้เขียน: ท่านจอมยุทธ์1991
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 12:12:54

แต่เดิม ซ่งอี้เฉินเชื่อมั่นว่าเช้าวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งชัยชนะ เขาจะลืมตาขึ้นพร้อมแสงแรกของรุ่งอรุณ แล้วได้รับฟังข่าวดี ข่าวที่หลานเยว่พร้อมด้วยลูกในไส้ของนาง ได้ถูกกำจัดสิ้นและทรัพย์สมบัติทุกชิ้นที่บิดาเขาเคยยกให้หญิงแพศยาผู้นั้น...จะถูกส่งกลับคืนมาอย่างหมดจดเขาหลับลึกลงด้วยความสบายใจ นึกภาพวันใหม่ที่เขาจะยืนอยู่เหนือทุกสิ่งทว่ายังไม่ทันรุ่ง แสงแดดยังไม่ทันลอดผ่านหน้าต่าง เสียงบ่าวรับใช้ก็ดังขึ้นหน้าประตูเรือนด้วยความตื่นตระหนก

ซ่งอี้เฉินลืมตาขึ้นอย่างหงุดหงิด ร่างกายหนักด้วยง่วงและอารมณ์ขุ่นมัวเขาผลุนผลันลุกจากเตียง ทั้งที่ชุดนอนยังหลุดหลุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิงและในชั่วพริบตา...ความง่วงทั้งหมดก็สลายหายไปเมื่อได้ยินเพียงประโยคสั้น ๆ จากบ่าวคนนั้น ใจของเขาก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาทันทีเขารีบก้าวออกจากเรือนอย่างเร่งร้อนโดยไม่ทันคิดถึงลักษณะสมชายของตนเลยสักนิดทว่า...สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้ากลับไม่ใช่ภาพแห่งชัยชนะ หากเป็นภาพของหายนะ

ตรงลานจวน กองร่างของเหล่ายอดฝีมือภายใต้บัญชาการของเขานอนทับซ้อนกันเสื้อผ้าชุ่มเลือด สีแดงฉานย้อมพื้นหินให้ดูราวกับสนามสังหารบางคนยังมีลมหายใจ แต่ไร้สติ บางคนแน่นิ่งจนไม่รู้ว่าตายหรือยังไม่มีเสียง ไม่มีการขยับราวกับเวลาทั้งหมดได้หยุดลง

ซ่งอี้เฉินยืนแข็งทื่อ ใบหน้าไร้สีเลือดเขาเป็นคนขี้ขลาดโดยสันดาน และเมื่อได้เห็นภาพนี้กับตา ขาทั้งสองของเขาก็เริ่มสั่นโดยไม่อาจควบคุมได้น้ำเสียงที่หลุดจากริมฝีปากสั่นเครือ เยียบเย็นด้วยความหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลัน

“พวกมัน...ตายกันหรือยัง?” ลูกน้องผู้คุมแผนการรีบก้าวเข้าไปตรวจสอบใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ก่อนจะหันกลับมา รายงานด้วยเสียงหนักแน่นแต่ขมขื่น

“ยังไม่ตายขอรับ...แต่เส้นพลังปราณของพวกมัน ถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว” คำตอบนั้นฟังเหมือนเสียงฟ้าผ่าในใจซ่งอี้เฉินเซถอยหลังไปครึ่งก้าว มือเกือบคว้าขอบประตูไม่ทันหัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ ร่างกายอ่อนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเขารู้ดีว่าการถูกทำลายเส้นพลังปราณนั้น ไม่ต่างจากความตายทั้งเป็นและสิ่งที่เขาเพิ่งสูญเสียไป...คือกองกำลังที่เขาหวังจะใช้บดขยี้ศัตรูทั้งหมดในเมืองหลวง

ลูกน้องบางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังลอบเหลือบมองผู้เป็นนาย ดวงตาฉายแววสมเพชเล็กน้อยนี่หรือคือชายที่กล้าสั่งให้สังหารเด็กและสตรี? บัดนี้เขาไม่เหลือแม้เงาแห่งอำนาจมีเพียงความกลัว ที่ห่อหุ้มร่างเขาจนสั่นสะท้าน...เหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ที่เพิ่งตระหนักว่าตนได้เห่าท้าราชสีห์

“เราจะจัดการพวกมันอย่างไรดีขอรับ...” เสียงลูกน้องผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม แม้ภายในจะอดรู้สึกสมเพชต่อผู้เป็นนายไม่ได้เขาเพียงยืนมองซ่งอี้เฉินอย่างรอคอย แม้จะรู้ว่านายตนเองยังไม่หยุดสั่นซ่งอี้เฉินหลับตาลงครู่หนึ่ง พยายามควบคุมลมหายใจอกเขาไหวขึ้นลงอย่างหนักหน่วง ก่อนจะค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อกดทับความหวาดกลัวที่ยังคงล้นอยู่ในอกดวงตาของเขาค่อย ๆ เปิดขึ้นอีกครั้ง...เปี่ยมไปด้วยความแข็งกร้าวแบบจอมปลอม

“พวกมัน...ในยามนี้ก็ไม่ต่างจากขยะไร้ประโยชน์” เสียงของเขายังคงสั่นเบา ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความชิงชัง

“ข้าไม่มีวันยอมเสียเบี้ยแม้เพียงเม็ดเดียว กับเศษสวะที่ใช้การไม่ได้อีกแล้ว” แม้จะหวาดหวั่นจนขาแทบยืนไม่อยู่แต่ความหยาบช้าอันเป็นสันดาน ก็ยังฝังแน่นอยู่ในทุกถ้อยคำของเขาใบหน้าซ่งอี้เฉินแสยะยิ้มเบา ๆ ฝืนแสดงออกถึงความเด็ดขาดก่อนจะกล่าวต่อด้วยเสียงเย็นชา

“สังหารพวกมันให้หมด... อย่าให้เหลือแม้แต่เสียงหายใจ” เขาหันหน้าหนีอย่างไม่ใยดี “จากนั้นเอาร่างที่ไร้ค่าของมันไปทิ้งเสียให้ไกลจากจวนของข้า ข้าไม่ต้องการเห็นแม้เงา!” แม้จะพยายามวางท่าดุจผู้มีอำนาจแต่มือของเขาที่กำแน่น กลับยังคงสั่นอยู่ใต้แขนเสื้ออย่างไม่อาจปิดบัง

เมื่อคำสั่งอันโหดเหี้ยมหลุดจากปาก ซ่งอี้เฉินเชิดหน้าขึ้นสูงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความถือดีและศักดิ์ศรีจอมปลอมแววตาเย็นชา ไม่เหลือบแลซากร่างของผู้ใต้บังคับบัญชาแม้เพียงครึ่งหางตาเขาหันหลังกลับ เดินอย่างสง่ากลับไปยังเรือนพัก ราวกับไม่เคยมีสิ่งใดแตะต้องจิตใจ

แต่ทันทีที่ร่างเขาหลุดพ้นจากสายตาของผู้คนท่าทีที่แสร้งแสดงไว้ก็พังครืนในพริบตาสองมือของเขาเริ่มสั่น ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านเหมือนถูกลมหนาวกัดลึกเข้าไปถึงกระดูกฟันบนกระทบฟันล่างจนเกิดเสียงกรอดเบา ๆ ไม่อาจปิดบังได้ใบหน้าเคยหยิ่งทะนง บัดนี้มีเพียงแววตาหวาดผวาที่พยายามกดซ่อนเขาทรุดตัวนั่งลงตรงขอบเตียง ลมหายใจติดขัด สับสนเสียงพร่าจากลำคอหลุดออกมาราวกับคำถามที่ถามตนเอง

“นาง...นางเป็นใครกันแน่...” ภาพของหลานเยว่ย้อนกลับมาหลอกหลอนในหัวหญิงสาวที่เขาเคยมองว่าไร้คุณค่า เป็นเพียงเบี้ยที่เขาจะเหยียบย่ำแต่บัดนี้...นางกลับกลายเป็นเงาที่เขาไม่อาจหยั่งถึงดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว ทั้งจากความกลัว...และความไม่เข้าใจภาพของนางในใจเขา ไม่ใช่หญิงอ่อนแออีกต่อไปแต่นางคือเงาที่เยียบเย็นเยียบเย็นจนแม้แต่ใจเขาก็ไม่กล้าสบตา หลานเยว่ชื่อของนางกลายเป็นสิ่งต้องห้ามในความคิดของเขายิ่งพยายามลบเลือน…ยิ่งชัดเจน

ยามเมื่อแสงแห่งรุ่งอรุณทอแสงผ่านม่านเมฆเมืองหลวงค่อย ๆ ตื่นจากความเงียบงันของราตรีซ่งอี้เฉินยังคงยืนอยู่เบื้องหน้าจวนใหญ่ของตน สายตาเหม่อมองไปยังฟ้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีแต่แทนที่จิตใจจะสงบ...กลับเต็มไปด้วยความกระวนกระวายเขาสั่งการให้เหล่าทหารคุ้มกันจัดเวรยามอย่างแน่นหนาประตูรั้วทุกบานถูกตรวจซ้ำ เส้นทางเข้าออกถูกควบคุมแม้กระทั่งหลังคาและทางระบายน้ำ ยังมีคนเฝ้าระวังหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความระแวงแม้ไม่มีเสียงฝีเท้าใด แต่นัยน์ตาของเขายังคงเหลียวซ้ายแลขวา

เขาภาวนาเงียบ ๆ อยู่ในใจภาวนาให้นาง...ไม่รู้ภาวนาให้หลานเยว่ไม่ล่วงรู้ว่า แท้จริงแล้วผู้ที่ส่งคำสั่งฆ่าเธอคือเขาเองหากนางรู้...เขาได้แต่หวังว่านางจะเมินเฉย ปล่อยผ่านและที่สำคัญที่สุดขอให้นางไม่กลับมายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป

ซ่งอี้เฉินไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าครั้งนี้เขาเหยียบลงบนหุบเหวที่ไร้ก้นบึ้งหญิงที่เขาเคยสบประมาท บัดนี้กลายเป็นเงาอันเยียบเย็นที่แม้แต่แสงอาทิตย์ยังมิอาจส่องถึงเขาคือคนที่กล้าตะโกนใส่ใบหน้าของผู้ไร้พลังแต่กลับสั่นกลัวเมื่อเผชิญกับผู้ที่เขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้แม้จะสวมผ้าไหมหรูหราและอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่แต่ในยามนี้...เขาไม่ต่างจากหนูตัวหนึ่งที่หลบอยู่ใต้โต๊ะหวังเพียงว่าแมวจะเดินผ่านไปโดยไม่หันมาแล

“นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว... คนผู้นั้นยังไม่คิดจะเคลื่อนไหวอีกหรือ?”

เสียงของหลานเยว่เอ่ยขึ้นเบา ๆ ในขณะที่นางกำลังจิบชาร้อน ดวงตาเหม่อมองออกไปยังสวนเบื้องหน้า แต่ในใจ...กลับจับจ้องไปยังเหยื่อผู้หนึ่งที่นางกำลังเฝ้าอยู่ห่างไกลความเงียบของอีกฝ่ายสำหรับบางคนอาจตีความว่าเป็นกลยุทธ์แต่ในสายตาของหลานเยว่ มันคือความลังเลที่น่าขัน และความกลัวที่กำลังกัดกินนางวางถ้วยชาลงอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากค่อยๆ คลี่ออกเป็นรอยยิ้มหากแต่รอยยิ้มนั้น...กลับเย็นเยียบยิ่งกว่าสายลมปลายเหมันต์

“เห็นที...ข้าคงต้องเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวบ้างแล้ว”

ดวงตาของนางวาบแสงเล็กน้อยในขณะที่รอยยิ้มอันชั่วร้ายค่อย ๆ เผยตัวขึ้นบนใบหน้าที่งดงามดั่งหยกราวกับเสือที่เบื่อจะรอเหย้าเหยื่อเดินเข้าเงื้อมเล็บ... และในตอนนี้นางพร้อมแล้วที่จะล่า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status