Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน / ตอนที่ 70 กงล้อแห่งชะตากรรม

Share

ตอนที่ 70 กงล้อแห่งชะตากรรม

last update Last Updated: 2025-12-03 12:13:39

ทุกผู้คนล้วนตระหนักดีว่า จุดจบของชีวิตคือความตายแต่สำหรับหลานเยว่แล้ว ความตาย...เป็นเพียงปลายทางสิ่งที่สำคัญกว่าคือ ก่อนจะตายนั้นใครสมควรได้รับสิ่งใดบ้างนางไม่รู้หรอกว่าหลังความตายจะมีสิ่งใดรออยู่จะมีสวรรค์ นรก หรือเพียงความว่างเปล่าแต่เมื่อสวรรค์ยังไม่ลงมือนางจะเป็นผู้บันดาล โทษทัณฑ์ให้ด้วยมือของตนเอง

เขา...ผู้สังหารบิดาตนเองอย่างเลือดเย็น เขา...ผู้สั่งฆ่าผู้อื่นมากมายเพื่อกลบเกลื่อนความผิดเมื่อโชคชะตายังเปิดโอกาสให้คนเช่นนั้นได้มีชีวิตอยู่ใต้ฟ้าเดียวกับนางหลานเยว่ย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือนางตั้งมั่นแล้วจะมอบโทษที่คู่ควรให้สมกับกรรมชั่วที่มันได้กระทำและในค่ำคืนนี้...มันจะเป็นจุดเริ่มต้น

ภายในห้องโถงเงียบสงบแสงตะเกียงไหวอ่อนราวจะล่วงรู้ความคิดอันมืดดำในใจนางหลานเยว่จิบชาช้า ๆ รสขมแตะปลายลิ้น ดวงตาสงบนิ่งแต่ลึกซึ้งก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบเย็นแต่ทุกถ้อยคำหนักดั่งสายฟ้า

“คืนนี้ ข้าต้องการมือดีที่สุด...สิบคน”

หลังสิ้นคำสั่งของหลานเยว่าไม่นานร่างของบุรุษสิบคนก็ค่อย ๆ ก้าวออกจากเงามืดทีละคน...พวกเขาปรากฏตัวราวกับลมหายใจของความตายไร้เสียง ไร้การเคลื่อนไหวเกินจำเป็นทุกสายตาแน่วแน่ ไม่มีแววลังเลหรือสงสัยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนรูปสลักจากหินเย็น พวกเขาไม่ใช่นักฆ่าธรรมดาหากคือ มือขวาแห่งความเงียบ ที่หลานเยว่หล่อหลอมขึ้นมาด้วยเลือด เนื้อ และอดีตอันแหลกสลาย

คนเหล่านี้ ล้วนเคยเป็นเพียงทาสไร้ค่า ถูกเหยียบย่ำมาทั้งชีวิตแต่ใต้การชุบเลี้ยงของนาง พวกเขากลับกลายเป็นดั่งเงาที่ไร้ปรานีประสบการณ์และความเจ็บปวดได้หล่อหลอมหัวใจพวกเขาจนไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิงทันทีที่ทั้งสิบคนมายืนรวมกันต่อหน้านางบรรยากาศภายในโถงรับรองพลันเย็นยะเยือกลงราวกับฤดูเหมันต์ไม่ใช่จากลม ไม่ใช่จากอากาศแต่คือไอสังหารจากหัวใจที่เย็นชาของคนทั้งสิบ

หลานเยว่กวาดตามองช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สงบ ราบเรียบ...แต่เฉียบคมยิ่งกว่าคมดาบ

“ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่การฆ่า...แต่คือการแย่งชิง” ปลายเสียงของนางแฝงรอยเหยียดหยันจาง ๆ“เมื่อมันคิดจะปล้นข้า...แล้วทำไมคนอย่างข้าจะปล้นมันไม่ได้?” ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงการพยักหน้าหนึ่งครั้งจากทั้งสิบนางไม่จำเป็นต้องอธิบายมากกว่านี้ในคืนนั้น...เงาทั้งสิบเอ็ดสาย รวมถึงนางออกเดินทางอย่างไร้ร่องรอยการเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วจนแม้แต่เงาจันทร์ยังมิทันขยับตามไร้เสียงฝีเท้า...ไร้แรงลมสะเทือนแม้แต่ผืนหญ้าที่เหยียบย่ำ ยังไม่สั่นไหว

เมื่อพวกเขามาถึงจวนของซ่งอี้เฉินทหารเฝ้ายามที่มันเคยภาคภูมิใจนักหนา ต่างนอนหลับใหลในความฝันอันไร้เดียงสาไม่มีใครแม้แต่คนเดียว...สัมผัสได้ถึงการมาถึงของความมืดจากนั้น...การกวาดล้างก็เริ่มต้นประตูคลังถูกเปิดออกอย่างไร้เสียงหีบทอง หยก เครื่องประดับ ตราประจำตระกูล เหรียญตราเกียรติยศ แม้กระทั่งสมุดบัญชีสำคัญและจดหมายลับในห้องส่วนตัวไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายตาพวกเขา

ของมีค่าทุกชิ้นภายในจวน ถูกเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วราวกับเงาพัดพาของทั้งหมดออกไปในชั่วพริบตาผ้าม่านไม่สะเทือน ไส้เทียนไม่ไหว ทุกสิ่งดำเนินไปในความเงียบงันที่น่าสะพรึงและเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นทั้งหลานเยว่และเหล่ามือสังหารของนางก็สลายหายไปในความมืดปล่อยให้จวนของซ่งอี้เฉินยังคงเงียบสงบ...ไม่ต่างจากก่อนพวกเขาจะมา

หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น หลานเยว่ไม่คิดจะลงมือ นางเลือกที่จะปล่อยให้กงล้อแห่งชะตากรรมค่อย ๆ หมุนไปเองนางรู้ดีว่าบาดแผลบางอย่าง หากปล่อยไว้ให้นานพอมันจะเน่าในเอง โดยไม่ต้องแตะต้องอีกแม้ปลายนิ้ว

กาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานถึงครึ่งเดือนจนกระทั่งวันหนึ่งวันที่ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติแต่แล้ว…ทุกสิ่งก็ปริแตกวันนี้คือวันจ่ายค่าแรงของเหล่าข้ารับใช้ในจวนตระกูลซ่งพ่อบ้านประจำจวนรีบตรงไปยังห้องเก็บสมบัติด้วยความเคยชินแต่สิ่งที่เขาเห็น…คือความว่างเปล่าไม่มีทอง ไม่มีหยก ไม่มีแม้แต่เศษเหรียญห้องทั้งห้องว่างเปล่าราวกับไม่เคยมีสิ่งใดถูกเก็บไว้เลยตั้งแต่แรกใบหน้าของพ่อบ้านซีดเผือด เขารีบวิ่งหน้าตื่นไปยังเรือนใหญ่ประตูถูกผลักออกอย่างร้อนรน ร่างเขาทรุดลงคุกเข่าต่อหน้าซ่งอี้เฉิน

“นายท่าน! แย่แล้วขอรับนายท่าน... จวนของพวกเราถูกปล้น!” ซ่งอี้เฉินที่กำลังนั่งจิบชาเงียบ ๆ ถึงกับชะงักเลือดในร่างคล้ายจะไหลย้อนกลับร่างของเขาแข็งค้างในวินาทีที่ได้ยินคำนั้นเขาฝืนขยับริมฝีปาก พยายามรักษาน้ำเสียงให้สงบนิ่ง

“พวกมันเอาไป...เท่าไหร่” พ่อบ้านเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาสั่นระริกด้วยความตกใจสุดขีด

“ทั้งหมดขอรับ…เจ้าพวกคนชั่วนั่นมันปล้นเอาทุกสิ่งไปหมด ไม่มีเหลือแม้แต่กล่องไม้เปล่า…”

สิ้นคำตอบ ซ่งอี้เฉินนิ่งงันไปทั้งร่างเหมือนลมหายใจสุดท้ายในอกถูกดูดกลืนไปพร้อมคำว่า ทั้งหมด เขามองออกไปยังลานจวนเบื้องนอกทุกอย่างยังดูสงบเหมือนเดิม ฟ้าโปร่ง แสงแดดอ่อน หากแต่ภายในหัวใจของเขานั้น พังทลายลงราวกับแผ่นดินที่ทรุดตัวโดยไม่มีสัญญาณเตือน

"นายน้อยผู้ทรงเกียรติ...นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?" เสียงเอ่ยถามของหนึ่งในลูกน้องดังขึ้นอย่างเยือกเย็นน้ำเสียงของมันไร้ความเคารพ ไม่มีรอยเกรงใจหลงเหลือแววตาที่เคยมองเขาด้วยความจงรักภักดีบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นความห่างเหินและคมกริบราวใบมีดพวกมัน...คือสุนัขล่าเนื้อที่เคยจงรักภักดีต่อผู้ที่ป้อนอาหารแต่เมื่ออาหาร หมดลง ความภักดีนั้นก็พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเขี้ยวเล็บ

“เหอะ...เจ้าขี้ข้าชั้นต่ำ อย่าได้บังอาจเอ่ยคำไร้มารยาทเช่นนี้กับข้าอีก!” ซ่งอี้เฉินตวาดลั่น น้ำเสียงของเขายังเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและฉุนเฉียวแม้แววตาจะแฝงด้วยความกระวนกระวายอย่างปิดไม่มิดเขาไม่เชื่อเขาไม่อาจยอมรับได้ว่า...ตนเองถูกปล้นจนสิ้นเนื้อประดาตัวเพื่อยืนยันคำตอบ เขาก้าวฉับ ๆ นำหน้าพวกมันไปยังห้องเก็บสมบัติห้องแล้วห้องเล่าถูกเปิดออกทีละบานแต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังประตู...คือความว่างเปล่าไม่มีทอง ไม่มีหยก ไม่มีแม้แต่กล่องไม้ทุกอย่างถูกกวาดเกลี้ยง ราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อนสีหน้าของซ่งอี้เฉินค่อย ๆ ซีดลง มือที่เคยแผ่อำนาจกลับเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เขาเงียบงัน...ไร้คำแก้ตัวและในความเงียบนั้นเองเสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นอย่างแสบแก้วหู

“ไอ้สารเลว… แกใช้แรงงานพวกเราอย่างกับทาส แต่กลับไม่มีปัญญาจ่ายค่าจ้าง?” เสียงนั้นเปล่งออกมาจากหนึ่งในลูกน้องที่เคยค้อมศีรษะให้เขาแต่บัดนี้มันกำหมัดแน่น สายตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวปนสมเพชซ่งอี้เฉินหันไปมองฝูงสุนัขที่เคยเชื่องบัดนี้แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยแรงสังหารเขารู้ทันทีว่าเมื่อเศษอาหารหมดจากมือเจ้าของ…ฝูงสุนัขย่อมไม่ลังเลที่จะกัดย้อน

"หุบปากเดี๋ยวนี้ ไอ้ขี้ข้า!" เสียงตวาดลั่นของซ่งอี้เฉินดังสนั่นไปทั่วลานจวนเขาก้าวถลาออกมาหนึ่งก้าว แววตาแดงก่ำด้วยโทสะและความตื่นตระหนก

“เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นบุตรของใคร!?” คำพูดนั้นเปล่งออกมาด้วยความหวังหวังว่านามหนึ่งซึ่งเขาเคยเคารพบูชานามของบุรุษผู้เป็นเสาหลักของตระกูลจะยังคงมีน้ำหนักพอที่จะหยุดฝูงสุนัขที่กำลังจะกัดย้อนเจ้าของ

ชื่อของบิดา แม่ทัพซ่งไห่หยาง ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หวังใช้เป็นเกราะกำบังสุดท้ายแม้ว่าชื่อที่เขาเอ่ยออกมา…จะเป็นของคนที่เขาเองลงมือฆ่าอย่างเลือดเย็นราวกับลืมไปว่าเงาแห่งความผิดนั้นยังคงตามหลอกหลอนราวกับลืมไปว่า เลือดในคืนนั้น ยังไม่ทันแห้งจากปลายนิ้วของเขาเอง

แต่ฝูงคนเบื้องหน้า...หาใช่พวกโง่เขลาเหมือนวันวานพวกมันไม่ได้ถอยหนีตามเสียงอีกต่อไปมีเพียงรอยยิ้มเย็นชาและแววตาที่ไม่สะทกสะท้านใครบางคนหัวเราะเบา ๆ ในน้ำเสียงที่ปนเย้ยหยัน"เจ้าคิดว่าชื่อของคนที่เจ้าฆ่าเอง...จะช่วยเจ้ารอดหรือ?"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status