Share

ตอนที่ 72 รับช่วงต่อ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:15:10

สายฝนโหมกระหน่ำราวกับสวรรค์กรีดร้องเสียงฟ้าฟาดดังก้องข่มขวัญ ราวกับโลกทั้งใบกำลังส่งสัญญาณบางอย่างทั่วทั้งจวนที่เคยโอ่อ่าของตระกูลซ่ง บัดนี้เงียบงันและว่างเปล่าราวสุสานบานหน้าต่างไม้กระทบกันดัง ปัง ปัง ตามแรงลมส่วนภายในเรือนกลาง…มีเพียงแสงเทียนเล่มเดียวที่สั่นไหวอยู่ในความมืด

ร่างของซ่งอี้เฉินทรุดตัวนั่งอยู่กับพื้นชุดที่เคยเรียบหรูบัดนี้เปียกชื้นและเปรอะเปื้อนเขาโอบเข่าตัวเองไว้ น้ำตาไหลเงียบ ๆ อย่างคนหมดหนทางไม่มีใครเหลือ ไม่มีใครกลับมาเขาพึมพำกับตนเองเหมือนคนเสียสติดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นระริกเสียงสะอื้นหลุดลอดในลำคอ เบาเกินกว่าจะกลบเสียงฝนแต่แล้ว...เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากความมืดในมุมห้องแผ่วเบา เย้ยหยัน และคมกริบยิ่งกว่ามีด

“อะไรกัน...คุณชายซ่งอี้เฉินผู้งามสง่าในอดีต…ถึงกับนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในจวนร้าง?” ซ่งอี้เฉินสะดุ้งเฮือก ใบหน้าเงยขึ้นทันทีแววตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเขาหันขวับไปทางต้นเสียงทิศที่ควรจะว่างเปล่า

“เจ้า…เจ้าเข้ามาได้ยังไง…” น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ เต็มไปด้วยความกลัวที่ควบคุมไม่อยู่ยืนอยู่ตรงนั้น…คือชายชุดดำผู้หนึ่งร่างสูงเพรียว แววตาคมดุ สีหน้าราบเรียบเกินจะอ่านออกเขาคือ ซูจิ่งหลงเจ้าของโรงประมูลแต่ในโลกเบื้องหลัง เขาคือ ผู้ควบคุมเงามืด ผู้ซื้อขายความตายอย่างเลือดเย็น ซ่งอี้เฉินเคยได้ยินชื่อเขา เคยหวาดหวั่นในใจเมื่อพูดถึงแต่ไม่เคยคาดคิด…ว่าตนเองจะได้เผชิญหน้าโดยตรงซูจิ่งหลงไม่ตอบคำถามเขาเพียงยิ้มอย่างเย็นชา

“หลานเยว่…ส่งหน้าที่ต่อให้ข้าแล้ว” ก่อนที่ซ่งอี้เฉินจะทันเอ่ยอะไร ร่างเงาสองร่างก็โผล่ออกมาจากความมืดมือสวมถุงหนังเหนี่ยวรั้งร่างเขาอย่างไร้ปรานีเขาส่งเสียงร้องแต่ก็ไร้ประโยชน์ในพริบตาเดียว ร่างทั้งร่างก็ถูก ยัดลงในกระสอบหนาทึบ

ซ่งอี้เฉินดิ้นรนอยู่ภายในเสียงตะโกนของเขาอู้อี้ ลมหายใจเริ่มติดขัดกลิ่นผ้าหยาบชื้นผสมกับกลิ่นอายความตายที่เริ่มแผ่คลุมภายในรถม้ามืดสนิทซ่งอี้เฉินไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเขาไม่รู้วัน ไม่รู้คืนไม่รู้แม้กระทั่งว่าตนเองยังมี ชีวิต หลงเหลืออยู่หรือไม่

เสียงล้อรถบดทับหินกรวดอย่างช้า ๆ และต่อเนื่องเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ย้ำเตือนว่าเขายังมีสติหรืออย่างน้อย…ก็ยังไม่ตาย

เมื่อรถม้าหยุดลง เขาถูกลากออกจากกระสอบอย่างไร้ปรานีเปลือกตาที่บวมช้ำค่อย ๆ เปิดขึ้นภาพตรงหน้าคือ เหมืองหินร้าง กลางหุบเขาห่างไกลอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นฝุ่นและกลิ่นอับของเหงื่อไคลจากแรงงานนับร้อยซ่งอี้เฉิน…ผู้เคยเป็นคุณชายสูงศักดิ์บัดนี้ถูกตรวนแขน ตรวนขาด้วยโซ่หนักเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ข้อมือขูดเลือดซึมจากรอยโซ่เขาถูกผลักเข้ากลุ่มแรงงานโดยไร้คำอธิบายและเริ่มต้น ชีวิตใหม่…ในฐานะ ทาสที่ไร้ตัวตน

“ทำตัวให้มีค่าเข้าไว้ไอ้ขยะ” เสียงเฆี่ยนดัง เพียะ ลงที่แผ่นหลังเขาล้มทั้งยืน…หน้าแนบพื้นแต่ไม่มีใครมอง ไม่มีใครสนใจ

ชีวิตของเขาในเหมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยการกดขี่ข้าวที่กินแทบไม่พอประทังชีวิต น้ำดื่มขุ่นมัวมีแต่โคลนหากอ่อนแรงหรือขยับตัวช้า…จะถูกหวดด้วยแส้เหล็กจนหลังปริไม่มีคำว่า ความเมตตาเหลืออยู่

เวลาผ่านไปหลายวัน…หรืออาจจะหลายสัปดาห์ร่างของเขาเริ่มซูบซีด แขนขาไร้แรงดวงตาเคยหยิ่งผยองบัดนี้ว่างเปล่าราวกับว่า ตัวตนของซ่งอี้เฉิน ได้ตายไปตั้งแต่วันแรกที่เหยียบลงเหมืองและในค่ำคืนหนึ่งภายใต้ฟ้าคลุ้มฝนที่ไร้แสงจันทร์ลมหายใจของเขาก็เริ่มขาดห้วงร่างซูบผอมแนบลงกับพื้นหินเย็นเฉียบ…

ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไปภาพสุดท้ายที่เขามองเห็น…คือเด็กชายคนหนึ่ง ยืนอยู่กลางแสงแดดอ่อนยามเช้าเด็กคนนั้นยิ้มให้เขาดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ข้างกายของเด็กชาย…มีชายวัยกลางคนใบหน้าอ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความหวัง

บิดาของเขา…ผู้ที่เขาสังหารด้วยมือตนเองและด้านหลังสุด…เงาของชายหนุ่มอีกคนหนึ่งยืนอยู่ผู้ที่เป็นเหมือนเงา ของเขามาตลอดชีวิตพี่ชายของเขาเองน้ำตาหยดสุดท้ายรินไหลจากหางตาริมฝีปากที่แห้งผาก ขยับพึมพำแผ่วเบา

“…ข้า…ผิดไปแล้ว…” ไม่มีผู้ใดได้ยินมีเพียงความมืดมิด…ที่โอบล้อมเขาไปตลอดกาล

ใต้ต้นเหมยเก่าแก่ดินชื้นถูกกลบลงเงียบงัน ไม่มีเสียงร้อง ไม่มีพิธี ไม่มีผู้ร่วมไว้อาลัยสุสานเล็กเรียงกันสามหลุมหินจารชื่อไว้อย่างเรียบง่าย ไร้คำสดุดีหนึ่งในนั้น…คือชื่อของ ซ่งอี้เฉินบุรุษผู้เคยเป็นคุณชายสูงศักดิ์ผู้เป็นบุตรของแม่ทัพซ่งไห่หยางและเป็น อาโดยสายเลือดของบุตรชายของ หลานเยว่หลานเยว่…เลือกฝังเขาเคียงข้าง พี่ชายของเขาซ่งเจี้ยนหงและอีกหลุม…คือซ่งไห่หยางแม่ทัพผู้เคยยิ่งใหญ่ ผู้เป็นปู่ของลูกชายของนาง

สามชีวิตต่างชะตาแต่กลับหลับใหลใต้ผืนดินเดียวกัน…ในจวนของผู้หญิงคนเดียวในสายลมยามเช้า กลิ่นธูปอ่อนจางแผ่คลุมทั่วลานเสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลังนาง

“รสนิยมของเจ้านั้น…ช่างวิปริตยิ่งนัก” แม่ทัพหลานซือเหยียนเอ่ยด้วยเสียงเครียด ดวงตาเคร่งขรึมทอดมองบุตรสาวหลานเยว่ยืนนิ่ง ไม่หันกลับ ดวงตาไร้แวว จ้องหลุมศพตรงหน้า

"สวนแห่งนี้…ยังขาดร่างของท่านอยู่" คำพูดนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเกินจริงไม่เจือความโกรธ ไม่มีแม้แต่แววเศร้าราวกับนับจำนวนดอกไม้ในสวนแม่ทัพหลานซือเหยียนสะท้านทั้งร่างหัวใจชายชราผู้ผ่านสมรภูมินับร้อย…กลับเต้นแรงผิดปกติเขากลืนน้ำลายฝืดคอ สูดหายใจยาว

“ขะ…ข้าไม่พร้อมจะตายในตอนนี้…เจ้าเคยสัญญาไว้กับข้านี่…”“ว่า…หากข้ารอดจากมือซ่งไห่หยาง เจ้าจะปล่อยข้าไป…”

น้ำเสียงของแม่ทัพหลั่นลงจากคำขอ…กลายเป็นเสียงขอชีวิตหลานเยว่ยังคงไม่พูด ไม่ตอบเพียงยกชาขึ้นจิบ ราวกับสิ่งที่ได้ยินไม่เคยเกิดขึ้นแม่ทัพหลานซือเหยียนยืนอยู่ในความเงียบมองบุตรสาวของตน…ผู้ไม่ใช่หญิงสาวผู้อ่อนโยนอีกต่อไปแล้ว

“นี่หรือ…คือสิ่งที่นางเรียกว่าความยุติธรรม?” เขาพึมพำกับตนเอง เสียงลมหายใจแผ่วลงภาพจวนซ่งที่ล่มสลาย ผู้คนที่ถูกหลอกใช้ ชื่อเสียงที่ถูกทำลายโดยไม่เสียเลือดแม้แต่หยดเดียวนี่ไม่ใช่แค่การจัดการศัตรู…แต่มันคือ การเล่นสนุกกับความพังพินาศของผู้คนหลานเยว่…ไม่ได้แค่ ล้างแค้นแต่เธอทำลาย

“แม้แต่คำว่า ‘โหดเหี้ยม’ ...ยังอ่อนโยนเกินไปสำหรับนาง” แม่ทัพหลานซือเหยียนหลับตาลงช้า ๆ นั่นคือผลลัพธ์ของสิ่งที่เขา…เป็นผู้เริ่มต้นเองกับมือ

ณ เรือนหลังน้อยที่ตั้งอยู่ริมชายสวน แยกตัวออกจากตัวคฤหาสน์หลักอย่างเงียบงันที่นี่ไร้ซึ่งความโอ่อ่า ไร้กลิ่นอายของอำนาจหรือเงาของไฟแค้น หากทว่าบรรยากาศกลับอบอุ่น สงบ และเต็มไปด้วยความเรียบง่ายราวกับเป็นอีกโลกหนึ่งที่ไม่อาจเกี่ยวพันกับเรื่องราวของเลือดและดาบในอดีต

ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งแผ่กิ่งใบให้ร่มเงาตลอดทั้งวัน กลุ่มชายชราและหญิงวัยกลางคนหลายคนกำลังช่วยกันจัดเตรียมอาหารเสียงหัวเราะเบา ๆ และบทสนทนาสั้น ๆ ดังแว่วมาจากมุมครัวกลางลานบางคนกำลังคนหม้อซุปด้วยมือเหี่ยวย่น บางคนหั่นผักอย่างช้า ๆ แม้ท่าทางจะเชื่องช้า แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจเสื้อผ้าที่สวมใส่แม้จะซีดเก่า หากกลับสะอาดเรียบร้อยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเวลา ทว่าสายตากลับเปล่งประกายแห่งความสงบที่หาได้ยากในโลกวุ่นวาย

“คุณหนูหลาน…นางยังไม่ลืมพวกเราจริง ๆ” หญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นพลางยกชามข้าวไปวางเบื้องหน้าชายชราผู้หนึ่ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นองครักษ์เงาผู้จงรักภักดีของแม่ทัพซ่งไห่หยางเสียงของนางสั่นเครือ แต่น้ำเสียงกลับเปี่ยมด้วยความอิ่มเอมใจ

ชายชราพยักหน้าช้า ๆ สายตาทอดมองไปยังพุ่มไม้ที่ปลูกไว้ริมลานแสงแดดอ่อน ๆ สาดต้องผ่านช่องใบไม้อาบทั่วร่างเขา ก่อนจะกล่าวเบา ๆ ราวกระซิบกับอดีต

“ท่านแม่ทัพ…หากยังอยู่คงดีใจไม่น้อย…ที่ยังมีผู้จดจำบุญคุณของท่านได้เช่นนี้”

ไม่มีคำพูดใดต่อจากนั้นมีเพียงสายลมที่พัดผ่านเบา ๆ กลิ่นหอมของซุปต้มจาง ๆ ผสานกับกลิ่นดินเปียกยามเช้า กลายเป็นบรรยากาศที่อ่อนโยนอย่างน่าประหลาดแม้ชีวิตจะผ่านเรื่องราวอันโหดร้าย แม้พวกเขาเคยถูกทอดทิ้งจากโลกที่เคยรับใช้ด้วยหัวใจแต่ในที่แห่งนี้… ณ เรือนหลังน้อยของจวนหลานเยว่พวกเขาได้กลับมามีชีวิตที่สงบสุขอีกครั้ง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status