แชร์

บทที่ 4.1 แม่ตัวอย่าง

ผู้เขียน: ชงเมิ่ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-15 20:52:00

บทที่ 4.1

แม่ตัวอย่าง

“เจ้าเด็กไม่มีพ่อ แกกล้าตีลูกฉันเหรอ วันนี้ฉันจะสั่งสอนแทนพวกพ่อแกที่ตายไปเอง”

ไม่มีพ่อ คำพูดที่ออกมานี้แม้ไม่หยาบคายแต่กลับทำให้เด็กชายทั้งสองเจ็บปวดจนตัวสั่น

“เขารังแกอาชุนก่อน”

“แล้วอย่างไร แกทำเขาหัวแตกวันนี้ฉันก็จะตีพวกแกให้ตัวแตกเช่นกัน”

สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาประกาศเสียงก้อง พร้อมกับหยิบไม้ขนาดพอดีมือง้างขึ้นหมายฟาดไปบนตัวเด็กน้อยตรงหน้า

หลี่หมิงหมุนตัวหันมากอดหลี่ชุน ก่อนจะเม้มริมฝีปากกัดฟันเกร็งตัวรอรับแรงทุบตีจากสะใภ้บ้านเฉา ทุกครั้งก็เป็นเช่นนี้ เมื่อไหร่ที่ถูกรังแกพวกเขาล้วนไร้คนปกป้อง ผู้ใหญ่รอบตัวล้วนเข้าข้างเพียงลูกหลานตัวเอง ดังนั้นจึงมีเพียงพวกเขาที่ปกป้องกันและกัน

ทว่าในจังหวะที่ไม้ในมือของสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาฟาดลงมา ร่างของเขากลับถูกวงแขนหนึ่งโอบรัด ความเจ็บปวดที่เขาคิดว่าจะได้สัมผัสกลับแปลเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น

พลั่ก! “แม่!”

หลี่หมิงและหลี่ชุนเบิกตากว้างเมื่อหันมาเห็นว่าแม่ของเขาถูกสะใภ้บ้านเฉาฟาดลงมาจนเต็มแรง คิ้วเรียวขยับเข้าหากัน ก่อนที่ดวงตาหวานจะตวัดมองไปยังคนที่ลงมือด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

กล้าตีลูกๆ ของเธออย่างนั้นหรือ

“เกิดอะไรขึ้น!”

เสียงเข้มหนักแน่นดังขึ้น ดวงตาคมมองสามแม่ลูกที่นั่งกอดกันอยู่บนพื้นด้วยความไม่พอใจ สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาถูกสายตาคมจ้องมองมาก็รีบโยนหลักฐานในมือทิ้งก่อนจะจับลูกชายที่ใบหน้าอาบเลือดออกมายืนเบื้องหน้า

“คุณถังคะ คุณดูสิเจ้าเด็กบ้านหลี่ไร้พ่อพวกนั้นตีอาอี้ของพวกเราจนหัวแตกเลยค่ะ”

ถังซานตวัดสายตามองเด็กน้อยสองคนที่อยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่นของหลี่ชุน หรือแม้แต่ท่าทางโกรธเกรี้ยวจนตาแดงของหลี่หมิง ทำให้เขาที่เห็นเด็กๆ เป็นดั่งลูกชายแท้รู้สึกขุ่นเคืองจนกำมือแน่น ทว่ายังไม่ทันเอ่ยปากปกป้องคนหญิงสาวที่โอบกอดเด็กชายก็ลุกขึ้นพูดเสียงก้อง

“เป็นเจ้าเด็กบ้านอื่นตีลูกของฉันก่อน เขาตีกลับก็เพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น”

เฉินซิ่วลี่ขยับเท้าก้าวออกมาเผชิญหน้ากับผู้คนรอบตัว ถึงแม้เธอจะทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ไม่นาน แต่เฉินซิ่วลี่มั่นใจว่าเด็กน้อยทั้งสองไม่มีทางลงมือกับผู้อื่นอย่างไร้เหตุผลแน่นอนโดยเฉพาะหลี่หมิง เขาลงมือแบบไม่ไว้หน้าคนเช่นนี้แน่นอนว่าอีกฝ่ายต้องลงมือต่อเขาหนักหนาพอกันหรือไม่ก็แตะต้องน้องชายของเขา

ถึงแม้เวลานี้ในใจของเฉินซิ่วลี่อยากจะพุ่งเข้าไปจัดการคนแต่ก็ยังคงไว้หน้าถังซาน สูดลมหายใจเข้าออกแล้วเอ่ยบอกเขาเสียงสั่นอย่างขุ่นเคือง

“คุณถังเรื่องนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบของคุณ หวังว่าคุณจะตัดสินอย่างยุติธรรม”

คิ้วหนาของถังซานขยับเข้าหากันในทันที หญิงสาวที่วันวันเอาแต่ด่าทอทุบตีเด็กชายทั้งสองวันนี้กลับออกโรงปกป้องพวกเขาด้วยตัวเอง นี่พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกหรือไง

“ตัดสินอะไรกัน เห็นๆ อยู่ว่าลูกชายของเธอทำร้ายลูกชายคนอื่น”

“หากลูกชายของคุณไม่ทำร้ายพวกเขาก่อน พวกเขาจะโต้กลับหรือ”

หลี่หมิงช้อนตามองแผ่นหลังที่ปกป้องเขาและน้องชายด้วยหัวใจที่สับสน มารดาไม่เอ่ยถามเรื่องราวก็ประกาศก้องออกไปอย่างมั่นใจในความบริสุทธิ์ของพวกเขา ความเชื่อใจเช่นนี้ช่างดียิ่งนัก ทว่าเมื่อเห็นรอยทางยาวบนหลังเสื้อมารดาหัวใจของเขาก็พลันเกิดความโกรธแค้น ดวงตาคมมองไปยังหญิงร่างท้วมตรงหน้าราวกับจะจดจำอีกฝ่ายเอาไว้

“เธอไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จะรู้อะไร พวกลูกชายของเธอมันเป็นเด็กอันธพาล”

“เป็นพี่เฉาอี้ที่ทำร้ายอาชุนก่อน”

หลี่หมิงได้ยินคนกล่าวหาตนเองกับน้องชายก็อดทนไม่ไหวเอ่ยบอกความผิดของอีกฝ่ายเสียงหนักแน่น ทว่าสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาไหนเลยจะยอมกล่าวโทษลูกชายของตนเอง ยังหันมาตำหนิเด็กน้อยอีกหนึ่งประโยค

“ผู้ใหญ่กำลังพูดคุยสอดปากเข้ามาได้อย่างไรกัน ช่างเป็นเด็กที่ไร้การอบรมจริงๆ”

เฉินซิ่วลี่กำมือแน่น พยายามบอกกับตนเองว่าการใช้กำลังไม่ใช้ทางออกเธอต้องมีสติและเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กๆ ได้เห็นถึงวิธีการใช้ปัญญาแก้ไขปัญหา

“เมื่อครู่คุณถามฉันว่าไม่อยู่ในเหตุการณ์จะรู้อะไร เช่นนั้นก่อนหน้านี้คุณอยู่ในเหตุการณ์หรือไม่”

“ฉัน...”

สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาถูกหญิงตรงหน้าย้อนกลับด้วยคำพูดของตนเองก็โมโหจนคิดคำพูดโต้แย้งไม่ทัน หากตอบว่าก่อนหน้านี้เธออยู่ในเหตุการณ์ เธอที่เป็นผู้ใหญ่ไม่ห้ามปราบเด็กๆ จนมีเรื่องย่อมต้องถูกตำหนิ ไม่รวมถึงว่าตอนนี้เป็นเวลาทำงานอาจถูกถังซานไล่ออกจากงานได้อีกด้วย แต่หากบอกว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คำพูดของเธอก่อนหน้าก็จะย้อนเข้าตัว สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาขมวดคิ้วขบกรามพยายามหาทางโต้กลับเมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองมีเลือดอาบหน้าก็จับไหล่เล็กดันมาเบื้องหน้า

“อาอี้หัวแตกเลือดอาบหน้าขนาดนี้ไม่ต้องอยู่ในเหตุการณ์ก็คาดเดาได้ว่าลูกของเธอรังแกคน”

“คำก็รังแก สองคำก็ตีคน อาชุนกับอาหมิงเป็นเด็กสามขวบ เอาอายุพวกเขาสองคนรวมกันยังไม่เท่าอายุของลูกคุณเลยจะเอาอะไรไปรังแก ไปตีลูกคุณได้ แต่ลูกชายคุณสิตัวโตเสียยิ่งกว่าวัวในคอกกลับรังแกเด็กเล็กกว่า ช่างเป็นเด็กที่ได้รับการอบรมมาดีจริงๆ”

คำโต้กลับเปรียบเทียบของเฉินซิ่วลี่ทำให้คนรอบๆ อดที่จะกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่ได้ ในที่สุดก็มีคนที่สามารถโต้แย้งได้เท่าทันสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาเสียที

“แต่... แต่อาอี้ก็ถูกตีจนหัวแตกไม่ใช่หรือ ไม่รู้ล่ะเรื่องนี้อย่างไรฉันก็ไม่ยอมนะคุณถัง”

เมื่อโต้แย้งด้วยเหตุผลไม่ได้ สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาก็หันไปร้องทุกข์ต่อถังซาน ทว่าเธอมีปากร้องทุกข์ได้คนเดียวหรือไงกัน

“ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกัน!”

ถังซานขมวดคิ้วหนาเข้าหากันมากขึ้น มองคนที่ออกโรงปกป้องเด็กแฝดทั้งสองสุดกำลังด้วยความสนใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คนเช่นเฉินซิ่วลี่รู้จักปกป้องเด็กๆ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอโต้แย้งสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาได้อย่างเท่าทัน 

“เธอเอาอะไรมาไม่ยอมกัน ลูกชายเธอตีคนจนเลือดอาบใครๆ ก็เห็น”

“ลูกชายเธอรังแกเด็กเล็กกว่า ใครๆ ก็เห็นเช่นกัน”

เมื่อพูดเช่นนี้ผู้คนรอบตัวก็พากันคล้อยตาม นิสัยชอบรังแกคนของเฉาอี้พวกเขาล้วนรู้ดี หลายครั้งพวกลูกๆ ของเขาก็ยังโดนรังแกด้วย แต่เมื่อโต้แย้งกันพวกเขาไม่เคยมีใครสู้ฝีปากของสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาได้เลย สุดท้ายจึงได้แต่เก็บความแค้นนี้ไว้ในใจมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้สายตาที่มองมายังเฉาอี้กับมารดาก็เปลี่ยนจากเห็นใจเป็นดูแคลน

“ก็แค่เด็กๆ เล่นกันเท่านั้นแต่ลูกเธอมันอันธพาลใช้กำลังเกินควร”

คำก็อันธพาล สองคำก็อันธพาล ความอดทนของเฉินซิ่วลี่ก็ใกล้ถึงขีดจำกัดเต็มที มือบางกำเข้าหากันแน่น แต่เพราะข้างหลังมีสายตาของเด็กน้อยจดจ้อง คำว่าแม่คือแบบอย่างที่ดีจึงค้ำคอ จำต้องข่มกลั้นโทสะของตนเองเอาไว้

“ในเมื่ออาอี้รังแกคนอื่นก่อนถูกตีกลับย่อมเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับ แต่อาหมิงการใช้ความรุนแรงไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะยาว ครั้งหน้าหากมีเรื่องเช่นนี้อีกลุงจะลงโทษทั้งสองคน”

ถังซานที่มองเห็นว่ามารดาของเด็กๆ ใกล้จะหมดความอดทนเต็มทีจึงเอ่ยไกล่เกลี่ยให้จบความ เมื่อเขาตัดสินเช่นนี้แล้วสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาที่ยังต้องพึ่งพาการทำงานในไร่ตระกูลถังก็จำต้องยอมจำนนอย่างไม่เต็มใจ

ถังซานหรี่ตามองท่าทางฮึดฮัดของสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาอย่างไม่พอใจ หากแต่เขาเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่ต่อปากต่อคำกับสตรีเช่นนี้ เฉินซิ่วลี่ถอนหายใจยาวนึกขอบคุณในความอดทนของตนเองในที่สุดก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กๆ เห็นได้ หญิงสาวย่อตัวจับไหล่ลูกชายทั้งสองมองสำรวจหาร่องรอยบาดแผลอย่างห่วงใย

“เห็นแก่ที่พวกเขากำพร้าพ่อ ไร้บิดาอบรมสั่งสอน เรื่องนี้ฉันจะไม่เอาความก็แล้วกัน”

สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาพูดเสียงเย้ยหยันก่อนประคองลูกชายเดินจากไป เฉินซิ่วลี่มองเห็นดวงตากลมที่ไหววูบเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำของเด็กๆ ความอดทนในใจก็ขาดลงในทันที มือนุ่มขยับวางลงบนสองแก้มของพวกเขาแล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยน

“อาหมิง อาชุน หลับตาลง ถ้าแม่ไม่บอกก็ห้ามลืมตาขึ้นเข้าใจไหม”

“ครับ”

เด็กน้อยขานรับและหลับตาลงในทันที เฉินซิ่วลี่ตวัดสายตามองไปยังคนด้านหลังก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น ก้มลงหยิบท่อนไม้ที่ถูกโยนทิ้งเมื่อครู่มาถือ แล้วง้างแขนขึ้นกำลังฟาดลงไปบนแผ่นหลังตรงหน้าถึงสองทีรวด

ในเมื่อจะตีคืนก็ต้องตีให้ได้กำไร

“โอ๊ย! โอ๊ย!”

หญิงร่างท้วมถูกตีแบบไม่ทันตั้งตัวก็เสียหลักล้มลงไปในทันที เด็กชายที่เลือดอาบหน้าตกใจเบิกตากว้างขึ้นมา เขาเคยเห็นแต่แม่ตีคนอื่น นี่นับเป็นครั้งแรกที่แม่ของเขาถูกคนอื่นตี

“เฉินซิ่วลี่ หญิงสารเลวแกกล้าตีฉันเหรอ”

“หึ! ก่อนหน้านี้คุณตีฉัน ฉันตีคืนก็ถือว่าหายกันไม่ใช่หรือ”

เฉินซิ่วลี่โยนไม้ในมือทิ้ง หมุนตัวเดินกลับไปหาลูกชาย ทว่าสะใภ้ใหญ่บ้านเฉานั้นไม่ใช่คนยอมคน เมื่อเห็นเฉินซิ่วลี่เผลอก็ลุกขึ้นหมายตีคืน

“หยุดนะ!”

พลั่ก! ถังซานที่ร้องห้ามเบิกตากว้างมองภาพสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาล้มลงไปกองกับพื้นอีกรอบ ไม่ทันพูดอะไร คนที่เมื่อครู่กำลังจะถูกตีจากด้านหลังก็สาวเท้าขึ้นไปคร่อมตัวคน ง้างแขนฟาดมือลงบนใบหน้าอีกฝ่ายไปถึงสองครั้ง ในจังหวะที่สะใภ้บ้านเฉากำลังจะสวนคืนถังซานก็รีบสาวเท้าเข้ามาใช้วงแขนหนาสอดรัดเอวบางยกตัวคนขึ้นด้วยมือข้างเดียว 

"เฉินซิ่วลี่ หยุดได้แล้ว"

เสียงเข้มดุคนที่ดิ้นไปมาในอ้อมแขนก่อนจะหันไปตวาดอีกคนที่กำลังลุกเดินเข้ามา

“สะใภ้ใหญ่บ้านเฉา คุณก็พอได้แล้ว!”

"ฉันไม่พอ แกนางเฉินซิ่วลี่ วันนี้ฉันจะตบสั่งสอนแกให้หนัก”

สะใภ้ใหญ่บ้านเฉาที่ผมเผ้าหลุดลุ่ยใบหน้าบวมเป่ง พุ่งตัวเข้ามาหาคนอย่างโกรธแค้น ถังซานปล่อยคนในวงแขนลงยืนขยับตัวมาด้านหน้ายืนคั่นระหว่างผู้หญิงทั้งสอง ทว่าไม่ทันได้เอ่ยห้ามร่างของสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาก็ล้มลงไปอีกครั้ง

“ห้ามทำแม่ผมนะ”

เป็นหลี่หมิงที่วิ่งเข้ามาผลักคนจนล้มลง ขณะที่หลี่ชุนหยุดยืนขวางอยู่เบื้องหน้าถังซาน

“ไอ้เด็กไร้พ่อ แกกล้าผลักฉันเหรอวันนี้ฉันจะตีพวกแกกับแม่ให้ตายเลย”

“ถ้าคุณกล้าก็ลองดู!”

ถังซานก้าวเท้ามาเบื้องหน้าเด็กน้อยทั้งสอง หางตามองดูสามแม่ลูกด้านหลังด้วยความห่วงใย ก่อนจะตวัดแววตาแข็งกร้าวจ้องมองไปยังคนเบื้องหน้า

“สะใภ้ใหญ่บ้านเฉา เผื่อคุณจะยังไม่รู้ อาหมิงกับอาชุนคือลูกบุญธรรมของผมที่กำลังรอทำเรื่องรับเลี้ยงอย่างถูกต้อง พวกเขาไม่ใช่เด็กไร้พ่อ”

“ละ... ลูกบุญธรรม”

ใบหน้าของสะใภ้ใหญ่บ้านเฉาพลันซีดเผือดขึ้นมาในทันที ยิ่งเห็นแววตาดุดันของถังซานในใจของเธอก็เกิดความวิตกขึ้นมาเป็นทบทวี

"คุณถังคะ เรื่องนี้คือฉัน..."

“ต่อจากนี้ไปอย่าให้ผมเห็นคนบ้านเฉามาทำงานที่ไร่ตระกูลถังอีก”

.........................................

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   ตอนพิเศษ

    “คุณพ่อ คุณแม่ อาเหม่ยอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้”เสียงเด็กหญิงไว้ 3 ขวบร้องบอกคนเป็นพ่อและแม่ กวงซุนหลี่ยิ้มรับทว่าขณะที่กำลังจะเดินไปซื้อของให้ลูกสาวคนเล็ก มือข้างซ้ายก็ถูกดึงรั้งเอาไว้เสียก่อน“อาเหม่ยเพิ่งซื้อของเล่นไปเมื่อสัปดาห์ก่อน หากจะซื้อชิ้นใหม่ต้องเป็นเดือนหน้า”เฉินซิ่วลี่ห้ามปรามเด็กหญิงตัวน้อยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้ากลมสดใสพลันสลดน้ำตาคลอก้มหน้ามองพื้น หลี่ชุนในวัย 10 ขวบรีบเข้ามาอุ้มน้องสาวตัวน้อยขึ้นแล้วเอ่ยกระซิบปลอบประโลม“ไม่เป็นไรนะอาเหม่ย เดี๋ยวเดือนหน้าพี่ซื้อให้”ด้วยฐานะทางบ้านของพวกเขาตอนนี้ แค่ของเล่นเพียงชิ้นเดียวไม่ใช่เรื่องยากที่จะซื้อหามาครอบครอง แต่เพราะพวกเขาเคยผ่านความยากลำบากมาก่อนจึงได้เรียนรู้คุณค่าของเงิน ในบ้านจึงมีกฎให้ซื้อของเล่นได้เพียงเดือนละ 1 ชิ้นเท่านั้น“ผมเอาตัวนี้ ใส่ถุงให้ด้วยครับ”เสียงเข้มราบเรียบเอ่ยบอก ทุกสายตาพลันหันมาจดจ้องที่หลี่หมิงขณะที่พนักงานขายรีบหยิบตุ๊กตาที่เด็กหญิงร้องบอกอยากได้เมื่อครู่ใส่ถุงอย่างรวดเร็ว“อาหมิงลูกกำลังจะทำลายกฎของบ้านเรา”เฉินซิ่วลี่เอ่ยบอกเสียงราบเรียบ แม้จะไม่ได้มีน้ำเสียงหรือท่าทางตำหนิ แต่สายตานั้นชัดเจ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(จบ)

    “คืนนี้พวกเราจะได้น้องสาวแล้วใช่ไหมครับ”หลี่ชุนกระซิบเสียงเบา มุมปากของคนเป็นพ่อยกขึ้นสูงก่อนจะพยักหน้ารับด้วยสายตามุ่งมั่น“พ่อรับรองว่าเดือนหน้าน้องสาวของลูกต้องมาแน่ๆ”เมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของคนเป็นพ่อสองเด็กชายก็ย้ายไปนอนที่ห้องถัดไป ขณะที่ร่างสูงโปร่งของกวงซุนหลี่ขยับเดินเข้าห้องลงกลอนแน่นหนาฉับไว “อื้ม...”เฉินซิ่วลี่ร้องครวญในลำคอเมื่อร่างกายถูกรบกวน ความเย็นจากภายนอกเข้ามาปะทะผิวกายทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น ก่อนที่ดวงตาจะเปิดออก“คุณกวง! เข้ามาทำไมคะ”เพราะความแนบชิดที่ไม่เหมาะสมทำให้เธอตื่นตระหนกรีบมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง“หยุดนะคะ เดี๋ยวเด็กๆ เห็น”“เด็กๆ ย้ายไปนอนอีกห้องแล้ว”คนตัวโตที่ปลดเปลื้องผ้าของเธอจนเหลือเพียงร่างที่เปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเขากระซิบบอกเสียงแหบพร่า แนบชิดร่างกายกำยำลงทาบทับบนตัวนุ่ม“คุณกวงหยุดก่อนค่ะ เราต้องคุยกันให้ชัดเจนก่อน”“เดี๋ยวค่อยคุยนะ”ริมฝีปากร้อนขยับจากลำคอขาวกดแนบชิดบดเบียดริมฝีปากบาง พร้อมกับวางมือบีบเคล้นอกอวบอิ่มทั้งสองข้าง ร่างกายของเฉินซิ่วลี่พลันตื่นตัวขนกายสาวลุกชัน สองเนื้อนิ่มแข็งสู้กับมือหนากวงซุนหลี่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ถอนริมฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(5)

    “แค่ทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุกก็พอ”ใบหน้าของกู้เหยียนพลันร้อนผ่าวแดงก่ำไปจนถึงลำคอ เดิมทีเขาเสนอตัวช่วยแก้ปัญหานี้ก็เพราะว่าเงื่อนไขของคุณหนูกวงเพียงแค่อยากแต่งงาน แต่ไม่ต้องการความสัมพันธ์ทั้งทางกายและใจ ให้แยกบ้านเธอก็ยินดี ในเมื่อชีวิตนี้เขาเองก็ไม่คิดแต่งงานกับใครอีกแล้ว ให้แต่งหลอกๆ เป็นหุ่นเชิดให้เธอก็ไม่นับว่าเสียหายอะไร แต่งเสร็จเขาก็กลับไปเมืองเจียงเป็นคุณหมอกู้ของชาวบ้านต้าหยางต่อไปก็เท่านั้นเพียงแต่แค่เรื่องหลอกๆ เรื่องหนึ่งทำไมต้องให้เขานอนกับเธอด้วย ทำแบบนี้กวงจือหลินย่อมต้องถูกผู้คนครหาติฉินนินทา ทว่าเขาไม่ทันได้เอ่ยปฏิเสธกวงจือหลินก็ตอบรับแผนการของกวงซุนหลี่ไปแล้ว“ได้!”“ดี! อาหย่งเอาเหล้ามา”กู้เหยียนมองเหล้าดีกรีแรงตรงหน้าแล้วกลืนน้ำลายฝืดลงคอ ทั้งชีวิตของเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเส้นทางอบายมุขไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ ฝิ่น การพนัน และผู้หญิง ล้วนไม่เคยข้องเกี่ยว ดังนั้นเมื่อกวงซุนหลี่ส่งแก้วเหล้าให้ มือหนาจึงยื่นไปรับด้วยท่าทางลังเล“อาหลี่ ฉัน... ไม่กินได้หรือไม่ นายก็รู้ว่าฉัน...”กู้เหยียนพูดยังไม่ทันจบประโยคแก้วเหล้าในมือก็ถูกกวงซุนหลี่จับจรดที่ริมฝีปากของเขา ตอนนี้แม

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(4)

    “นอกจากเธอฉันไม่เคยสัญญาจะแต่งงานกับใครทั้งนั้น”เฉินซิ่วลี่ขมวดคิ้วเรียวมองคนตรงหน้าด้วยสายตาสับสน กวงซุนหลี่จับมือซ้ายของเธอมากอบกุมแล้วกดจุมพิตที่หลังมือนุ่มก่อนจะสวมใส่แหวนลงไปที่นิ้วนางเธอเหมือนเดิม“คุณกวง คุณจะทำอะไร ฉันไม่ยินดีแต่งเป็นภรรยารองให้คุณหรอกนะ หรือต่อให้เป็นภรรยาเอก ฉันก็ไม่ยินดี”“เอาไว้ไปถึงบ้านฉันจะอธิบายเรื่องพวกนี้ให้เธอฟัง แต่นับจากนี้ห้ามเธอถอดแหวนวงนี้อีก และห้ามเธอทอดทิ้งฉันด้วย แค่คิดก็ไม่ได้เข้าใจไหม”น้ำเสียงกระซิบอ้อนวอนราวกับสาวน้อยถูกรังแก ทำให้ความกรุ่นโกรธในใจของเฉินซิ่วลี่จางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น “ได้! ฉันจะรอฟังคำอธิบายของคุณ แต่ถ้าเหตุผลไม่เพียงพอเรื่องของเราก็ยังคงต้องยุติ”“ไม่ได้! ฉันไม่ยอม”กวงซุนหลี่เอ่ยบอกอย่างดื้อดึงพร้อมกับกระชับอ้อมแขนแน่น เฉินซิ่วลี่ถอนหายใจยาวไม่คิดทำเรื่องที่เสียแรงเปล่าอย่างการดิ้นรนขัดขืนเขา รั้งรอจนรถหยุดลงกวงซุนหลี่ก็อุ้มคนลงจากรถเดินเข้าบ้านในทันที“คุณกวงปล่อยฉันนะคะ ฉันเดินเองได้”“ไม่!”เสียงเข้มหนักแน่นตอบกลับพลางก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปในห้องโถงแล้วนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวโดยยังคงกอดรัดเฉินซิ่วลี่ไว้บนตักไม่ยอมปล

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(3)

    นี่เขาคงไม่คิดจะประกาศแต่งงานกับเธอในเวลานี้หรอกนะดวงตาคมของคนบนเวทีมองตอบกลับสอดประสานดวงตาเรียว ก่อนที่เขาจะประกาศก้องอีกครั้ง“ลี่ลี่ แต่งงานกับฉันนะ”เมื่อได้ยินกวงซุนหลี่เอ่ยชื่อหญิงสาวที่เขาต้องการแต่งงาน บรรดาแขกในงานก็ส่งเสียงวิจารณ์อื้ออึงอีกครั้ง“ลี่ลี่เหรอ ใครกัน”“นั่นสิ! คุณกวงไม่ใช่ว่ากำลังคบหาดูใจกับคุณหนูกวงจือหลินอยู่หรือ ทำไมถึงประกาศแต่งกับคนอื่นได้”“แบบนี้คุณกวงจือเหลียงจะยอมหรือ”“กวงซุนหลี่ เขาไม่รักลมหายใจของตนเองแล้วหรือไง”คำพูดของผู้คนมากมายดังก้องไปทั่วงานจนกวงซุนหลี่ขบกรามแน่น หากแต่ใครจะพูดอย่างไรเขาล้วนไม่สนใจ ที่เขาสนใจมีเพียงเฉินซิ่วลี่ที่ยังนั่งนิ่งไม่ตอบรับคำขอของเขา“ลี่ลี่ ฉันสัญญาหากเธอตกลงแต่งงานกับฉัน ฉันจะมีแค่เธอ จะปกป้องดูแลเธอและครอบครัวของเราด้วยชีวิตของฉัน”หัวใจของเฉินซิ่วลี่พลันสั่นระรัว มองสบดวงตาคมด้วยแววตาสั่นไหว ดูแลด้วยชีวิต เมื่อได้ยินคำพูดนี้ความรู้สึกในวันที่เธอคิดว่าเขาตายจากไปแล้วก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง จะมีสักกี่คนที่มีโอกาสแบบเธอ ในเมื่อมีโอกาสแล้วยังต้องยึดติดกับทิฐิและข้อสงสัยมากมายทำไมกัน เมื่อคิดได้เช่นนี้เฉินซิ่วลี่ก็โยนท

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(2)

    เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของกวงซุนหลี่ เฉินซิ่วลี่ก็เลือกสวมชุดสีฟ้าเข้ารูปคอสูงเพื่อปกปิดร่องรอยที่กวงซุนหลี่ทิ้งเอาไว้บนลำคอระหง แล้วออกเดินทางไปยังสถานที่จัดเลี้ยงกู้เหยียนใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ขับรถมาถึงหน้าโรงแรมจัดเลี้ยง ชายในชุดสูทแบบตะวันตกก็เดินมาเปิดประตูรถทั้ง 4 ด้าน กู้เหยียนส่งกุญแจรถให้พนักงานตรงหน้านำรถไปจอดในสถานที่จอดรถ ส่วนตัวเขาเดินมารับเฉินซิ่วลี่ ขณะที่หลี่หมิงและหลี่ชุนเดินขนาบข้างซ้ายขวาหวังรั่วซีตามหลังคนเป็นแม่เข้างานอย่างสงบเสงี่ยมรู้ความและในทันทีที่เฉินซิ่วลี่ก้าวเท้าเข้ามาในงาน ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น จึงทำให้สายตาชายหนุ่มในงานจดจ้องมาที่เธออย่างมากมาย หากไม่เพราะข้างกายเธอมีกู้เหยียนเคียงข้างอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าคืนนี้เฉินซิ่วลี่คงไม่อาจนั่งอย่างสงบแน่นอน“คุณกวงจัดที่นั่งไว้ให้คุณเฉินและผู้ติดตามเป็นพิเศษ เชิญพวกคุณทางด้านนี้ครับ”เมื่อทุกคนในงานได้เห็นตำแหน่งที่นั่งของเฉินซิ่วลี่ผู้คนในงานต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานะความสำคัญของเธอและกู้เหยียน จวบจนกระทั่งกวงซุนหลี่ก้าวเท้าเข้ามาความสนใจของผู้คนจึงเปลี่ยนไปที่เขาแทน“สวัสดีค่ะคุณก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status