แชร์

บทที่ 4.3 แม่ตัวอย่าง

ผู้เขียน: ชงเมิ่ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-15 20:52:29

บทที่ 4.3

แม่ตัวอย่าง

เฉินซิ่วลี่จับมือเด็กชายสองคนเดินกลับบ้าน หลี่ชุนที่ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าแม่มีความสามารถในการคิดคำนวณและอ่านเขียนได้ดีเยี่ยมก็ชื่นชมเธอไม่หยุด

“แม่ครับ แม่สอนผมกับพี่ชายคิดบัญชีบ้างได้ไหมครับ”

“ได้สิ อย่างนั้นเริ่มจากนับเลขก่อนดีหรือไม่”

เด็กในวัยสามขวบ หากเทียบเท่าในยุคของเธอพวกเขาก็น่าจะอยู่ในช่วงอนุบาลหนึ่ง ดังเริ่มต้นเรียนรู้จากการนับลำดับก็นับว่าถูกต้องแล้ว

“อาหมิงลูกนับเลขได้หรือไม่”

เฉินซิ่วลี่ชวนเด็กชายที่เอาแต่เดินเงียบๆ สนทนา แต่หลี่หมิงก็คือหลี่หมิงเขากลับตอบเพียงสั้นๆ คำเดียวเท่านั้น

“ครับ”

“พวกลูกนับเลขได้แล้ว ใครสอนกัน”

“อารองสอนครับ แม่ลืมไปแล้วเหรอครับว่า...”

“ถึงสะพานแล้วอาชุนเดินระวัง”

อยู่ดีๆ หลี่หมิงก็พูดขัดกลางประโยค คิ้วเรียวของเฉินซิ่วลี่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เรื่องนี้ต้องมีบางอย่างที่เจ้าของร่างไปสร้างวีรกรรมเอาไว้แน่ๆ ไม่เช่นนั้นหลี่หมิงคงไม่มีท่าทีคล้ายกลับไม่อยากให้เธอจำได้เช่นนี้

เพราะไร่ตระกูลถังอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน ตอนที่เดินกลับจึงต้องผ่านลำธารสายหลักของหมู่บ้าน ขณะที่เดินข้ามสะพานเฉินซิ่วลี่เห็นปลาตัวโตกระโดดอยู่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำก็เบิกตากว้าง

“อาหมิง อาชุน อยากกินปลาเปรี้ยวหวาน กับน้ำแกงปลาไหม”

ถึงแม้จะเป็นประโยคคำถามแต่เฉินซิ่วลี่กลับไม่ต้องการคำตอบ เธอหยิบมีดออกมาจากตะกร้าบนหลัง เดินไปตัดกิ่งไม้ยาวข้างทางมาเหลาจนปลายแหลม ก่อนจะหยุดยืนที่ริมลำธารใช้สายตามองลงไปในพื้นน้ำ เพราะหมู่บ้านต้าหยาง อยู่ห่างไกลแหล่งอุตสาหกรรม น้ำในลำธารจึงใสกระจ่างไม่นานก็มองเห็นปลาตัวโตแหวกว่านผ่านตา ไม้แหลมในมือของเฉินซิ่วลี่พุ่งตรงลงไปในสายน้ำผ่านกลางลำตัวของปลาตัวโต เด็กชายสองคนมองฝีมือของแม่ด้วยความตื่นตะลึง

เฉินซิ่วลี่ยิ้มกว้างทว่าตอนที่กำลังจะกระโดดลงไปจับปลาขึ้นมา ร่างเล็กข้างๆ ก็กระโจนลงไปก่อนแล้ว

หลี่หมิงว่ายน้ำด้วยความรวดเร็วก็หยิบไม้ที่เสียบปลานำกลับมาส่งให้แม่ ถึงแม้ตรงนี้คนจะไม่พลุกพล่านแต่กว่าจะถึงบ้านยังต้องผ่านบ้านของคนอื่นอีกหลายหลัง แม่ของเขาเป็นผู้หญิงเสื้อผ้าเปียกแนบตัวคงไม่ดีนัก

โตขึ้นลูกต้องปกป้องน้องและดูแลแม่ให้ดี

เด็กชายยังจำคำของพ่อได้ ดังนั้นต่อให้ก่อนหน้านี้แม่จะปฏิบัติต่อเขาสองพี่น้องไม่ดีนัก หลี่หมิงก็ไม่เคยนึกแค้นเคืองและยังเชื่อฟังคำสอนของพ่อคอยดูแลแม่อยู่เสมอ

“อาหมิงเก่งมาก”

เฉินซิ่วลี่รับปลาจากมือลูกชายมาแล้วดึงออกจากไม้ วางตะกร้าสานบนหลังลงแล้วเอาปลาใส่ไว้

“อาชุนลูกถือตะกร้า แม่จะปาปลา ส่วนอาหมิงลูกเตรียมว่ายน้ำไปจับมานะ”

“ครับ”

สองเด็กชายขานรับพร้อมกัน เฉินซิ่วลี่เริ่มเพ่งสายตาลงในแม่น้ำอีกครั้งก่อนจะปาไม้ในมือลงไปกลางสายน้ำ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงในตะกร้าก็มีปลามากกว่าสิบตัว

“แม่เก่งที่สุดเลยครับ”

หลี่ชุนร้องชมคนเป็นแม่เสียงก้อง เฉินซิ่วลี่ยิ้มกว้างมองดูปลาในตะกร้าที่มากเกินกว่าจะกินหมดในมื้อเดียว พลันความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้น

“พวกเราไปที่ร้านสหกรณ์หมู่บ้านกัน”

“ไปซื้ออะไรหรือครับ”

หลี่หมิงถามพลางช่วยดันตะกร้าขึ้นใส่หลังแม่ เฉินซิ่วลี่หันมายิ้มกว้างให้เด็กชายช่างสงสัย

“ไปขายปลาต่างหากเล่า เยอะขนาดนี้คงทำกินไม่หมด”

แม้ในนิยายเรื่องนี้จะอ้างอิงในยุค 80 แต่คล้ายผู้เขียนจะกลัวว่านางเอกของเรื่องจะยากลำบากเกินไปในการดำรงชีวิต เรื่องราวหลายอย่างจึงมักไม่สมเหตุสมผลอย่างเช่นปลาในแม่น้ำสายนี้ ยุคที่ผู้คนยากลำบากขนาดนี้จะยังหลงเหลือปลาตัวโตให้เธอจับได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอจะเอาปลาไปขาย หากเป็นเรื่องจริงการกระทำเช่นนี้เธอคงถูกรุมประชาทัณฑ์ ด้วยเหตุผลที่ว่าเอาทรัพยากรส่วนกลางอันเป็นสาธารณะไปสร้างรายได้ส่วนตัว

“ปลาตายจะขายได้อย่างไรครับ กินไม่หมดก็ตากแห้งดีไหมครับ”

หลี่หมิงเห็นป้าชุน ซึ่งอยู่บ้านข้างๆ มักทำปลาตากแห้งบ่อยๆ จึงเอ่ยแนะนำคนเป็นแม่ไป เมื่อคิดถึงข้อนี้เฉินซิ่วลี่ก็ขมวดคิ้วแน่น ปลดตะกร้าลงจากบ่าอีกครั้ง เดินไปที่ริมแม่น้ำแล้วจัดการชำแหละปลาเป็นชิ้นขนาดพอดีปรุงอาหาร ก่อนจะจัดการห่อแต่ละตัวด้วยใบบัวขนาดใหญ่

หลี่หมิงมองการกระทำที่แปลกประหลาดของคนเป็นแม่แล้วได้แต่สบตาน้องชายอย่างท้อใจ แต่เมื่อเห็นแววตามั่นใจว่าจะต้องขายปลาเหล่านี้ได้แน่นอนเขาก็ไม่คิดเอ่ยคัดค้านให้แม่ขุ่นเคืองใจอีก ทำเพียงจับมือน้องชายเดินตามหลังคนแบกตะกร้าไปยังร้านสหกรณ์

“ซิ่วลี่! เธอ... จะซื้ออะไร”

ตงเหยา เจ้าหน้าที่ประจำร้านสหกรณ์หมู่บ้านทักทายเฉินซิ่วลี่ด้วยน้ำเสียงปกติ หากแต่กลับมีสายตาหวาดระแวงและท่าทีเว้นระยะห่างจากเธออยู่ไม่น้อยกว่า 3 ก้าว เฉินซิ่วลี่ขมวดคิ้วเรียวหากแต่ก็ไม่คิดสอบถามอะไรให้ยุ่งยากวุ่นวาย เรื่องวุ่นวายในอดีตที่เจ้าของร่างนี้สร้างเอาไว้มีมากมาย จะให้เธอตามแก้ไขทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเฉินซิ่วลี่จึงเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วอดีตของวันพรุ่งนี้ก็จะดีเอง

“ฉันไม่ได้มาซื้อของค่ะ แต่จะมาขายของ”

เฉินซิ่วลี่นำปลาที่ห่อด้วยใบบัวออกมาจากตะกร้าสานบนหลัง ตงเหยามองปลาตายและยังถูกชำแหละหั่นเป็นชิ้นด้วยความสงสัย ปกติผู้คนไม่นิยมซื้อปลาตาย ยิ่งชำแหละแล้วแบบนี้ยิ่งไม่มีคนสนใจอย่างแน่นอน

“ซิ่วลี่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากรับซื้อปลาของเธอ แต่ปลาตายแล้วแบบนี้ฉันซื้อมาก็ขายไม่ได้”

“อย่างนั้นฉันขอนั่งขายข้างๆ ตรงนี้ได้ไหมคะ”

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมุ่งมั่นจะขายปลาให้ได้ ตงเหยาก็จำใจพยักหน้าอนุญาต เพียงแต่ไม่คิดว่าผ่านไปเพียงสิบห้านาทีก็มีหญิงแก่คนหนึ่งเดินไปเลือกดูปลาของเธอ

“ปลาพวกนี้ขายอย่างไรกัน”

“1 ห่อมีปลา 1 ตัว ขายที่ห่อละ 6 เหมา สองห่อ 1 หยวนค่ะ”

ตงเหยาได้ยินราคาที่เฉินซิ่วลี่เอ่ยบอกก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ทำการค้าไม่เป็นย่อมค้าขายไม่ได้ ปลาหนึ่งตัวราคาปกติขายกันที่ 2-3 เหมา เฉินซิ่วลี่ขายถึง 6 เหมา ใครจะซื้อของเธอกัน

“อย่างนั้นฉันเอาสองตัว ตาแก่ที่บ้านไม่ได้กินน้ำแกงปลามานานแล้ววันนี้คงดีใจมากแน่ๆ”

“ขอบคุณค่ะ”

ตงเหยาได้ยินหญิงชราหยิบเงินจ่ายค่าปลาก็ขมวดคิ้วแน่น เป็นไปได้อย่างไรกัน ไม่เพียงแค่นั้นต่อมาไม่นานก็มีหญิงชราในวัยเดียวกันกับคนก่อนหน้าเดินมาซื้อปลาของเธออีกสองสามคน พริบตาปลาเพียงสิบห่อก็ขายเหลือเพียงสองห่อ

“ปลาขายหมดแล้วหรือ”

“วันนี้ขายหมดแล้วค่ะ”

เฉินซิ่วลี่เอ่ยบอกหญิงชราด้วยสายตาขอโทษอยู่ในที แววตาของหญิงชราพลันหม่นลงในทันทีก่อนจะเปลี่ยนเป็นวาวโตเมื่อเห็นว่าในตะกร้าด้านหลังยังมีปลาอีกสองห่อ

“อีกสองห่อในตะกร้าฉันขอซื้อได้หรือไม่ ฉันจ่ายห่อละ 1หยวนก็ได้นะ”

“สองห่อนี้เป็นของเด็กๆ ค่ะ ต้องขอโทษด้วย”

เฉินซิ่วลี่แม้จะเสียดายเงินหยวน แต่เธอรับปากเด็กๆ แล้วว่าจะทำปลาเปรี้ยวหวานและน้ำแกงปลาให้พวกเขากินเป็นมื้อเย็น ดังนั้นจึงได้แต่เอ่ยปฏิเสธไป

“น่าเสียดายนัก ฉันอายุมากแล้วซื้อปลาเป็นมาก็ไม่มีแรงทุบ มือไม้ก็ไม่แข็งแรงจะชำแหละปลาแต่ละทีก็ไม่ค่อยสะดวก วันนี้ได้ยินว่ามีคนเอาปลาที่ชำแหละแล้วมาขายก็เลยรีบมาซื้อ ไม่คิดว่าจะมาช้ากว่าผู้อื่นไปหนึ่งก้าว”

เฉินซิ่วลี่ได้ยินหญิงชราบอกเล่าในใจก็เกิดความเห็นใจ ก่อนจะหันมาสบตาเด็กชายทั้งสองคน ไม่ทันเอ่ยถามอะไรหลี่ชุนก็หยิบปลาออกมาหนึ่งห่อแล้วส่งให้อีกฝ่าย

“คุณยายครับ นี่เป็นปลาส่วนของผม ผมยกให้คุณยายครับ”

หญิงชราเห็นน้ำใจของเด็กชายก็ยิ้มกว้าง เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวขายปลาอย่างขอความเห็น

“ปลาห่อนั้นเป็นของอาชุน ก็แล้วแต่อาชุนเลยค่ะ”

หลังรับปลามาหญิงชราก็หยิบเงินมาส่งให้เด็กชาย แต่มือเล็กกลับดันเงินนั้นคืนไม่ยอมรับ

“แม่บอกว่าวันนี้ปลาที่ขายหมดแล้ว ห่อนี้จึงขายไม่ได้ครับ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการไม่เชื่อฟัง ปลาห่อนี้ผมยกให้คุณยายนะครับ”

คำพูดอย่างใสซื่อของเด็กชายทำให้หญิงชรายิ้มกว้าง มองสามแม่ลูกด้วยความชื่นชม

“เธอสอนลูกได้ดีทีเดียว”

เฉินซิ่วลี่ยิ้มคำชมของอีกฝ่ายจนแก้มแดงก่ำ หลี่หมิงถอนหายใจยาวอย่างระอาใจ สอนอะไรกัน มารดาผู้นี้ตั้งแต่จำความได้มีแต่สั่งให้พวกเขาทำงานเท่านั้น และเพราะหลี่ชุนแบ่งปลาให้ผู้อื่นไปหนึ่งห่อ อาหารเย็นวันนั้นจึงถูกลดลงไปหนึ่งจาน จากที่จะมีปลาเปรี้ยวหวานและน้ำแกงปลา ก็เหลือเพียงน้ำแกงปลาหนึ่งชามให้กินเท่านั้น

.........................................

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   ตอนพิเศษ

    “คุณพ่อ คุณแม่ อาเหม่ยอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้”เสียงเด็กหญิงไว้ 3 ขวบร้องบอกคนเป็นพ่อและแม่ กวงซุนหลี่ยิ้มรับทว่าขณะที่กำลังจะเดินไปซื้อของให้ลูกสาวคนเล็ก มือข้างซ้ายก็ถูกดึงรั้งเอาไว้เสียก่อน“อาเหม่ยเพิ่งซื้อของเล่นไปเมื่อสัปดาห์ก่อน หากจะซื้อชิ้นใหม่ต้องเป็นเดือนหน้า”เฉินซิ่วลี่ห้ามปรามเด็กหญิงตัวน้อยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้ากลมสดใสพลันสลดน้ำตาคลอก้มหน้ามองพื้น หลี่ชุนในวัย 10 ขวบรีบเข้ามาอุ้มน้องสาวตัวน้อยขึ้นแล้วเอ่ยกระซิบปลอบประโลม“ไม่เป็นไรนะอาเหม่ย เดี๋ยวเดือนหน้าพี่ซื้อให้”ด้วยฐานะทางบ้านของพวกเขาตอนนี้ แค่ของเล่นเพียงชิ้นเดียวไม่ใช่เรื่องยากที่จะซื้อหามาครอบครอง แต่เพราะพวกเขาเคยผ่านความยากลำบากมาก่อนจึงได้เรียนรู้คุณค่าของเงิน ในบ้านจึงมีกฎให้ซื้อของเล่นได้เพียงเดือนละ 1 ชิ้นเท่านั้น“ผมเอาตัวนี้ ใส่ถุงให้ด้วยครับ”เสียงเข้มราบเรียบเอ่ยบอก ทุกสายตาพลันหันมาจดจ้องที่หลี่หมิงขณะที่พนักงานขายรีบหยิบตุ๊กตาที่เด็กหญิงร้องบอกอยากได้เมื่อครู่ใส่ถุงอย่างรวดเร็ว“อาหมิงลูกกำลังจะทำลายกฎของบ้านเรา”เฉินซิ่วลี่เอ่ยบอกเสียงราบเรียบ แม้จะไม่ได้มีน้ำเสียงหรือท่าทางตำหนิ แต่สายตานั้นชัดเจ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(จบ)

    “คืนนี้พวกเราจะได้น้องสาวแล้วใช่ไหมครับ”หลี่ชุนกระซิบเสียงเบา มุมปากของคนเป็นพ่อยกขึ้นสูงก่อนจะพยักหน้ารับด้วยสายตามุ่งมั่น“พ่อรับรองว่าเดือนหน้าน้องสาวของลูกต้องมาแน่ๆ”เมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของคนเป็นพ่อสองเด็กชายก็ย้ายไปนอนที่ห้องถัดไป ขณะที่ร่างสูงโปร่งของกวงซุนหลี่ขยับเดินเข้าห้องลงกลอนแน่นหนาฉับไว “อื้ม...”เฉินซิ่วลี่ร้องครวญในลำคอเมื่อร่างกายถูกรบกวน ความเย็นจากภายนอกเข้ามาปะทะผิวกายทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น ก่อนที่ดวงตาจะเปิดออก“คุณกวง! เข้ามาทำไมคะ”เพราะความแนบชิดที่ไม่เหมาะสมทำให้เธอตื่นตระหนกรีบมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง“หยุดนะคะ เดี๋ยวเด็กๆ เห็น”“เด็กๆ ย้ายไปนอนอีกห้องแล้ว”คนตัวโตที่ปลดเปลื้องผ้าของเธอจนเหลือเพียงร่างที่เปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเขากระซิบบอกเสียงแหบพร่า แนบชิดร่างกายกำยำลงทาบทับบนตัวนุ่ม“คุณกวงหยุดก่อนค่ะ เราต้องคุยกันให้ชัดเจนก่อน”“เดี๋ยวค่อยคุยนะ”ริมฝีปากร้อนขยับจากลำคอขาวกดแนบชิดบดเบียดริมฝีปากบาง พร้อมกับวางมือบีบเคล้นอกอวบอิ่มทั้งสองข้าง ร่างกายของเฉินซิ่วลี่พลันตื่นตัวขนกายสาวลุกชัน สองเนื้อนิ่มแข็งสู้กับมือหนากวงซุนหลี่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ถอนริมฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(5)

    “แค่ทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุกก็พอ”ใบหน้าของกู้เหยียนพลันร้อนผ่าวแดงก่ำไปจนถึงลำคอ เดิมทีเขาเสนอตัวช่วยแก้ปัญหานี้ก็เพราะว่าเงื่อนไขของคุณหนูกวงเพียงแค่อยากแต่งงาน แต่ไม่ต้องการความสัมพันธ์ทั้งทางกายและใจ ให้แยกบ้านเธอก็ยินดี ในเมื่อชีวิตนี้เขาเองก็ไม่คิดแต่งงานกับใครอีกแล้ว ให้แต่งหลอกๆ เป็นหุ่นเชิดให้เธอก็ไม่นับว่าเสียหายอะไร แต่งเสร็จเขาก็กลับไปเมืองเจียงเป็นคุณหมอกู้ของชาวบ้านต้าหยางต่อไปก็เท่านั้นเพียงแต่แค่เรื่องหลอกๆ เรื่องหนึ่งทำไมต้องให้เขานอนกับเธอด้วย ทำแบบนี้กวงจือหลินย่อมต้องถูกผู้คนครหาติฉินนินทา ทว่าเขาไม่ทันได้เอ่ยปฏิเสธกวงจือหลินก็ตอบรับแผนการของกวงซุนหลี่ไปแล้ว“ได้!”“ดี! อาหย่งเอาเหล้ามา”กู้เหยียนมองเหล้าดีกรีแรงตรงหน้าแล้วกลืนน้ำลายฝืดลงคอ ทั้งชีวิตของเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเส้นทางอบายมุขไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ ฝิ่น การพนัน และผู้หญิง ล้วนไม่เคยข้องเกี่ยว ดังนั้นเมื่อกวงซุนหลี่ส่งแก้วเหล้าให้ มือหนาจึงยื่นไปรับด้วยท่าทางลังเล“อาหลี่ ฉัน... ไม่กินได้หรือไม่ นายก็รู้ว่าฉัน...”กู้เหยียนพูดยังไม่ทันจบประโยคแก้วเหล้าในมือก็ถูกกวงซุนหลี่จับจรดที่ริมฝีปากของเขา ตอนนี้แม

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(4)

    “นอกจากเธอฉันไม่เคยสัญญาจะแต่งงานกับใครทั้งนั้น”เฉินซิ่วลี่ขมวดคิ้วเรียวมองคนตรงหน้าด้วยสายตาสับสน กวงซุนหลี่จับมือซ้ายของเธอมากอบกุมแล้วกดจุมพิตที่หลังมือนุ่มก่อนจะสวมใส่แหวนลงไปที่นิ้วนางเธอเหมือนเดิม“คุณกวง คุณจะทำอะไร ฉันไม่ยินดีแต่งเป็นภรรยารองให้คุณหรอกนะ หรือต่อให้เป็นภรรยาเอก ฉันก็ไม่ยินดี”“เอาไว้ไปถึงบ้านฉันจะอธิบายเรื่องพวกนี้ให้เธอฟัง แต่นับจากนี้ห้ามเธอถอดแหวนวงนี้อีก และห้ามเธอทอดทิ้งฉันด้วย แค่คิดก็ไม่ได้เข้าใจไหม”น้ำเสียงกระซิบอ้อนวอนราวกับสาวน้อยถูกรังแก ทำให้ความกรุ่นโกรธในใจของเฉินซิ่วลี่จางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น “ได้! ฉันจะรอฟังคำอธิบายของคุณ แต่ถ้าเหตุผลไม่เพียงพอเรื่องของเราก็ยังคงต้องยุติ”“ไม่ได้! ฉันไม่ยอม”กวงซุนหลี่เอ่ยบอกอย่างดื้อดึงพร้อมกับกระชับอ้อมแขนแน่น เฉินซิ่วลี่ถอนหายใจยาวไม่คิดทำเรื่องที่เสียแรงเปล่าอย่างการดิ้นรนขัดขืนเขา รั้งรอจนรถหยุดลงกวงซุนหลี่ก็อุ้มคนลงจากรถเดินเข้าบ้านในทันที“คุณกวงปล่อยฉันนะคะ ฉันเดินเองได้”“ไม่!”เสียงเข้มหนักแน่นตอบกลับพลางก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปในห้องโถงแล้วนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวโดยยังคงกอดรัดเฉินซิ่วลี่ไว้บนตักไม่ยอมปล

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(3)

    นี่เขาคงไม่คิดจะประกาศแต่งงานกับเธอในเวลานี้หรอกนะดวงตาคมของคนบนเวทีมองตอบกลับสอดประสานดวงตาเรียว ก่อนที่เขาจะประกาศก้องอีกครั้ง“ลี่ลี่ แต่งงานกับฉันนะ”เมื่อได้ยินกวงซุนหลี่เอ่ยชื่อหญิงสาวที่เขาต้องการแต่งงาน บรรดาแขกในงานก็ส่งเสียงวิจารณ์อื้ออึงอีกครั้ง“ลี่ลี่เหรอ ใครกัน”“นั่นสิ! คุณกวงไม่ใช่ว่ากำลังคบหาดูใจกับคุณหนูกวงจือหลินอยู่หรือ ทำไมถึงประกาศแต่งกับคนอื่นได้”“แบบนี้คุณกวงจือเหลียงจะยอมหรือ”“กวงซุนหลี่ เขาไม่รักลมหายใจของตนเองแล้วหรือไง”คำพูดของผู้คนมากมายดังก้องไปทั่วงานจนกวงซุนหลี่ขบกรามแน่น หากแต่ใครจะพูดอย่างไรเขาล้วนไม่สนใจ ที่เขาสนใจมีเพียงเฉินซิ่วลี่ที่ยังนั่งนิ่งไม่ตอบรับคำขอของเขา“ลี่ลี่ ฉันสัญญาหากเธอตกลงแต่งงานกับฉัน ฉันจะมีแค่เธอ จะปกป้องดูแลเธอและครอบครัวของเราด้วยชีวิตของฉัน”หัวใจของเฉินซิ่วลี่พลันสั่นระรัว มองสบดวงตาคมด้วยแววตาสั่นไหว ดูแลด้วยชีวิต เมื่อได้ยินคำพูดนี้ความรู้สึกในวันที่เธอคิดว่าเขาตายจากไปแล้วก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง จะมีสักกี่คนที่มีโอกาสแบบเธอ ในเมื่อมีโอกาสแล้วยังต้องยึดติดกับทิฐิและข้อสงสัยมากมายทำไมกัน เมื่อคิดได้เช่นนี้เฉินซิ่วลี่ก็โยนท

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวร้ายในยุค 80   บทสุดท้าย(2)

    เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของกวงซุนหลี่ เฉินซิ่วลี่ก็เลือกสวมชุดสีฟ้าเข้ารูปคอสูงเพื่อปกปิดร่องรอยที่กวงซุนหลี่ทิ้งเอาไว้บนลำคอระหง แล้วออกเดินทางไปยังสถานที่จัดเลี้ยงกู้เหยียนใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ขับรถมาถึงหน้าโรงแรมจัดเลี้ยง ชายในชุดสูทแบบตะวันตกก็เดินมาเปิดประตูรถทั้ง 4 ด้าน กู้เหยียนส่งกุญแจรถให้พนักงานตรงหน้านำรถไปจอดในสถานที่จอดรถ ส่วนตัวเขาเดินมารับเฉินซิ่วลี่ ขณะที่หลี่หมิงและหลี่ชุนเดินขนาบข้างซ้ายขวาหวังรั่วซีตามหลังคนเป็นแม่เข้างานอย่างสงบเสงี่ยมรู้ความและในทันทีที่เฉินซิ่วลี่ก้าวเท้าเข้ามาในงาน ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น จึงทำให้สายตาชายหนุ่มในงานจดจ้องมาที่เธออย่างมากมาย หากไม่เพราะข้างกายเธอมีกู้เหยียนเคียงข้างอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าคืนนี้เฉินซิ่วลี่คงไม่อาจนั่งอย่างสงบแน่นอน“คุณกวงจัดที่นั่งไว้ให้คุณเฉินและผู้ติดตามเป็นพิเศษ เชิญพวกคุณทางด้านนี้ครับ”เมื่อทุกคนในงานได้เห็นตำแหน่งที่นั่งของเฉินซิ่วลี่ผู้คนในงานต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานะความสำคัญของเธอและกู้เหยียน จวบจนกระทั่งกวงซุนหลี่ก้าวเท้าเข้ามาความสนใจของผู้คนจึงเปลี่ยนไปที่เขาแทน“สวัสดีค่ะคุณก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status