แชร์

บทที่ 10 ฝันร้าย

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-06 19:11:16

บทที่ 10 ฝันร้าย

เมื่อส่งเด็ก ๆ เข้านอนเสร็จแล้ว หานเสี่ยว์ก็ได้เดินกลับห้องของตัวเอง เหิงเยว์มองดูนางพร้อมกับเดินตามหลังนางไปอย่าง ๆ ช้า

หานเสี่ยว์ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไม่ได้ดังเพียงแค่เท้าเดียวนางจึงหยุดเดินและหันไปมองด้านหลังก็พบเหิงเยว์ที่เดินตามมา

“นี่ท่านเดินตามข้ามาจะมาหาเรื่องอะไรข้าอีก "

“ข้าก็แค่เดินตามทางเท่านั้นไม่ได้เดินตามเจ้าเสียหน่อย ”

"แต่ว่าห้องของท่านไม่ได้มาทางนี้เสียหน่อย "

"ข้าจะเดินไปที่ใดล้วนแต่เป็นที่ของข้า ไม่ว่าข้าจะย่างกรายที่ใดมันเกี่ยวอันใดกับเจ้าเล่า"

"เฮอะ แล้วแต่ท่านเถิดเจ้าค่ะ" หานเสี่ยว์หันหน้าเดินหนีเหิงเยว์อย่างไม่สนใจแต่เขาก็ยังคงเดินตามนางอยู่จนหานเสี่ยว์รู้สึกอึดอัด นางจึงหยุดเดินเพื่อถามเขาให้รู้ความ

"นี่ ท่านจะเดินตามข้าไปถึงเมื่อไหร่ หากท่านจะเอ่ยว่าเดินไปทางใดก็เรื่องของท่าน แต่ช่วยเดินไปทางอื่นได้หรือไม่ หรือว่าท่านมีเรื่องอันใดข้องใจก็เอ่ยออกมา"

"เจ้าบอกข้ามาว่าเจ้ามีแผนอันใดกันแน่ ที่เข้าหาบุตรของข้าทั้งสองคน สตรีเช่นเจ้าข้าไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนนิสัยได้รวดเร็วปานนี้"

"เฮ้อ ! จะต้องให้ข้าทำเช่นใด ท่านถึงจะเชื่อว่าข้ามิได้มีแผนอันใด "

"แล้วเหตุไฉนเจ้าถึงไม่กลับเรือนของเจ้าไปแจ้งท่านใต้เท้าเพื่อให้บอกกล่าวพ่อของเจ้าเรื่องที่สองเราจะหย่ากัน ” หานเสี่ยว์ฉุดคิดก่อนที่นางจะป่วย นางได้บอกกับเหิงเยว์ว่าจะหย่าแต่ทว่าตอนนี้นางยังคงหย่ากับเขาไม่ได้ จึงรีบครุ่นคิดหาแผนการอยู่ที่นี่ต่อจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ

“เรื่องนั้นข้าจำได้ดี เรื่องที่ข้ากับท่านจะหย่ากันแต่ตอนนี้ข้ายังไม่อยากหย่า อย่างไรเสียเราทั้งสองต่างก็อยู่กันเพียงแค่นาม ท่านก็อยู่ของท่านข้าก็อยู่ของข้า สักวันข้าพร้อมจะหย่าให้ท่านเอง "

“ฮึ ฮึ !! ข้าคิดไว้ไม่มีผิด เจ้าไม่มีทางจะหย่าให้ข้าได้ง่าย ๆ แน่ ๆ ”

“ท่านไม่ต้องกังวลใจ ที่ข้าอยู่ต่อเพราะได้สัญญากับเด็กทั้งสองไว้ว่าจะมาส่งเข้านอนในทุกคืนเท่านั้นหากวันใดเด็ก ๆ รู้ความข้าจะหย่ากับท่านเอง " หานเสี่ยว์พูดจบก็รีบเดินไปที่ห้องตัวเอง ตอนนี้นางไม่ได้คิดจะชอบพอคุณชายเหิงเยว์เพราะนางไม่ใช่เจ้าของร่างและความรู้สึกของนางก็ไม่เหมือนกัน ส่วนเหิงเยว์ก็มองตามแผ่นหลังนางที่เดินย่ำเท้าไปอย่างรวดเร็ว เข่อซิงเดินก็รีบเดินตามไปติด ๆ

“ต่อให้เจ้ามีแผนร้ายอันใดข้าจะขัดขวางเจ้าทุกทาง " เหิงเยว์พูดจบก็ได้เดินหันหลังกลับห้องตัวเอง ก่อนที่เขาจะเข้าไปที่ห้องก็ได้เรียกคนสนิทที่คอยตามติดตัวเขานั้น สั่งให้ตามเฝ้ามองดูการกระทำของหานเสี่ยว์อย่าให้นางได้รู้ตัวหากมีเรื่องอะไรที่จะเป็นอันตรายต่อเด็ก ๆ ให้แจ้งเขาทันที 

"ตงหยาง เจ้าคอยจับตาดูหานเสี่ยว์อย่าให้นางได้รู้ตัว หากนางจะทำอะไรไม่ดีต่อลูก ๆ ของข้าเจ้ารีบมาแจ้งข้าโดยเร็ว ต่อจากนี้นี่คืองานของเจ้าและมารายงานข้าทุกวัน"

"ข้ารับ " ตงหยางก้มหัวโค้งลงรับคำสั่งเหิงเยว์ก็ได้เดินเข้าไปที่ห้องของตัวเอง 

ใกล้จะรุ่งสางของอีกวัน

หานเสี่ยว์ยังคงนอนอยู่บนเตียงอย่างสบาย จู่ ๆ ก็ได้มีเสียงเล็ก ๆ ที่ดังอยู่ใกล้ ๆ

“ท่านแม่ ท่านแม่เจ้าคะ “ หานเสี่ยว์บิดไปมาก่อนจะลืมตามองดูก็พบว่าตอนนี้ลู่เอ๋อร์ ได้มานั่งทำตาแป๋วอยู่ข้างเตียง

“เจ้ามาหาข้าแต่เช้าตรู่เช่นนี้ มีเรื่องอันใดหรือ ” เพราะดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นท้องฟ้ายังคงมีความมืดสลัว ทำให้หานเสี่ยว์รีบลุกขึ้นมาถามลู่เอ๋อร์ด้วยความเป็นห่วง

“ท่านแม่ ข้าฝันร้ายเจ้าค่ะ ” แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแถมน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาก็สั่นเครือ หานเสี่ยว์จึงคว้าร่างเล็กมาโอบกอด

“เจ้าฝันร้ายนั้นรึ ไม่เป็นอะไรนะตอนนี้เจ้าอยู่ในอ้อมกอดของข้าแล้ว ไม่มีสิ่งใดมาทำอะไรเจ้าได้” ร่างเล็กสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของหานเสี่ยว์ได้เอ่ยออกมา

“ข้าฝันว่าท่านพ่อกลับมาที่เรือนเลือดนองเต็มตัว ท่านแม่ข้ากลัวเจ้าค่ะ ข้ากลัวเหลือเกิน” หานเสี่ยว์ลูบหลังลู่เอ๋อร์เบา ๆ

“เจ้าอย่าคิดมากเลย นั้นเป็นแค่ความฝันเท่านั้น อีกอย่างท่านพ่อของเจ้าเป็นคนเก่งไม่มีผู้ใดทำอันใดพ่อของเจ้าได้ มาเถิดขึ้นมานอนบนเตียงข้าจะคอยกอดเจ้าเอง นอนต่ออีกหน่อยเถิดนะอีกหลายชั่วยามกว่าจะเช้า “ ลู่เอ๋อร์พยักหน้ากระโดดขึ้นเดียงพร้อมนอนในอ้อมกอดของหานเสี่ยว์ เมื่อนางรู้สึกสบายใจก็ได้หลับไปอย่างอบอุ่น หานเสี่ยว์เองก็ยังง่วงอยู่เมื่อเห็นว่าลู่เอ๋อร์หลับนางก็ได้ผล็อยหลับตามเช่นกัน

ไม่นานท้องฟ้าก็สว่าง เข่อซิงมาทำหน้าที่ของนางในทุก ๆ เช้า เมื่อเข้ามาในห้องนอนเพื่อยกน้ำมาให้หานเสี่ยว์ล้างหน้าก็พบว่าตอนนี้นอนกำลังนอนกอดกับคุณหนูลู่เอ๋อร์อยู่

“เอ๊ะ ! คุณหนูลู่เอ๋อร์มานอนอยู่บนเตียงกับคุณหนูหานเสี่ยว์ได้อย่างไรในเมื่อไปส่งคุณหนูที่ห้องก่อนจะกลับมาพักผ่อน” เข่อซิงวางถังน้ำไว้บนโต๊ะพร้อมพึมพำผู้เดียวแต่ตอนนี้หานเสี่ยว์ได้ตื่นนอนแล้ว

“เข่อซิง เข่อซิง” หานเสี่ยว์เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาเข่อซิงจึงได้หันไปมองตามเสียงเรียก

“ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำมาให้เจ้าค่ะว่าแต่คุณหนูลู่เอ๋อร์มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ’” หานเสี่ยว์พยายามลุกขึ้นอย่างช้า ๆ กลัวว่าลู่เอ๋อร์จะตื่น เมื่อนางลงจากเตียงนอนได้ก็ได้ห่มผ้าให้กับลู่เอ๋อร์ ส่วนตนเองนั้นก็ได้มานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะล้างหน้า เข่อซิงก็ได้ยื่นผ้าสำหรับเช็ดหน้าไว้ให้

“นางมาหาข้าตอนใกล้สว่าง นางบอกว่านางฝันร้าย "

“ฝันร้ายหรือเจ้าคะ”

“ใช่แล้ว นางฝันว่าท่านพ่อของนางนั้นกลับมาเรือนพร้อมเลือดท่วมตัว แค่ความฝันเท่านั้นไม่เห็นต้องหวาดกลัวขนาดนั้นเลย”

“จะไม่กวาดกลัวได้อย่างไรเจ้าคะ คุณหนูก็รู้นิเจ้าคะว่าหากฝันเช่นนี้มันเป็นลางแจ้งเหตุล่วงหน้า "

“นี่เจ้าคิดอย่างนั้นรึ แต่ข้าไม่เชื่อหรอกนะ ก็แค่ความฝันของเด็กเท่านั้น ”ในเมื่อนางมาจากอีกมิติหนึ่งเรื่องความฝันแจ้งเหตุล้วงหน้านั้นล้วนไร้สาระสำหรับนาง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บที่ 39  น้องของสองแฝด

    บที่ 39 น้องของสองแฝด1 ปีต่อมา หลังจากวันนั้นหานเสี่ยว์ก็ได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันกับเหิงเยว์ใช้เวลาค่ำคืนด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางนั้นได้ตั้งท้องให้กับเหิงเยว์จนตอนนี้ท้องเริ่มแก่มากแล้ว แถมฤดูนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย เหิงเยว์จึงเฝ้าประคบประหงมไม่ให้หานเสี่ยว์ไปใกล้แม่น้ำนั้นอีกเลย ในตอนแรกเขาแทบสั่งให้บ่าวนำดินมากลบบ่อน้ำนั้นไปส่ะเพราะกลัวว่าหานเสี่ยว์คิดจะกลับไปอีก แต่ถูกนางขอไว้ เพราะนี่คือความทรงจำที่ดีของนางหากไม่มีบ่อน้ำนี้ก็ไม่มีนางเช่นกัน เหิงเยว์ถึงยอมตามใจฮูหยินของเขา "คุณหนูเข้าไปด้านในเถิดเจ้าค่ะยืนนาน ๆ จะทำให้เหนื่อยเอาได้นะเจ้าคะท้องของคุณหนูก็โตมากกว่าสตรีที่อายุครรภ์เท่ากันด้วยซ้ำ หรือว่าคุณหนูจะตั้งท้องแฝดเจ้าคะ"เข่อซิงที่คอยประคองหานเสี่ยว์ได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่ท้องของหานเสี่ยว์ "จริงหรือท่านแม่ เช่นนั้นก็ดีนะสิ" เลี่ยงเฟิงที่เดินมาจากห้องของตนเองก็ได้ยินที่เข่อซิงกล่าว "ท่านแม่จะมีน้องสองคนหรือเจ้าคะ งั้นก็เป็นเรื่องดีเสียจริงข้ากับท่านพี่จะได้ไม่ต้องแย่งกัน น้องจ๋าเจ้าจงออกมาเป็นหญิงหนึ่งบุรุษหนึ่งนะได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่" ลู่เอ๋อร์ใช้มือเล็กลู

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง

    บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง"หานเสี่ยว์เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นนี่ก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ข้าเฝ้ารอเจ้าอยู่ทุกวันเด็ก ๆ ทั้งสองก็อยากเข้ามาหาเจ้าแต่ข้าก็ต้องโกหกไปว่าเจ้าไม่สบาย เพราะข้าไม่อยากให้เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ต้องเสียใจที่รู้ว่าเจ้าจากไป เจ้าอยู่ที่ใดไม่สงสารใจข้าบางหรือ ข้าทำได้เพียงเฝ้ารอเจ้าอย่างท้อใจข้ามิอาจทำเช่นใดได้เลยกับมาหาข้าเถอะนะ หานเสี่ยว์ ไม่สิซู่ซ่าน หรือว่าจิวฉิง ไม่ว่าเจ้าจะชื่อนามอันใดข้าก็รักที่เจ้าเป็นเจ้ากลับมาหาข้าเถอะนะตอนนี้หัวใจของข้าแทบสลายแล้ว อย่าจากข้าไปเลย ข้ารักเจ้า เจ้าได้ยินมั้ยว่าข้ารักเจ้าเพียงใด" น้ำเสียงโศกเศร้าใบหน้าซูบผอมของเหิงเยว์ที่คร่ำครวญอยู่ข้างร่างหานเสี่ยว์พร้อมจับมือนางแน่นไม่ยอมปล่อย "รักเพียงใดหรือเจ้าคะ" จิวฉิงที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของหานเสี่ยว์ก็ส่งยิ้มพร้อมเอ่ยถามบุรุษที่พร่ำรักนางอยู่ต่อหน้า"ข้ารักเจ้ามาก ชีวิตของข้าก็ให้เจ้าได้ เอ๊ะ! เดี๋ยวสินางยังไม่ฟื้นนี่น่าหรือว่าข้าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว " เหิงเยว์ชะงักเมื่อจู่ ๆ เขาก็ตอบคำถามหานเสี่ยว์ จึงได้ใช้มือตบหน้าตนเองเบา ๆจนหานเสี่ยว์ต้องจับมือของเขาเอาไว้"อย่าตีตนเองเลยนี่มิใช่

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป"นี่เจ้าจะทิ้งข้า ทิ้งเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ไปจริง ๆ หรือ แล้วข้าจะอยู่อย่างไรเด็กทั้งสองจะอยู่อย่างไร ไม่ข้าไม่เชื่อเจ้าต้องฟื้นสิ ท่านหมอหลอกลวงข้าเจ้าต้องฟื้น แล้วเช่นนี้ข้าจะทนได้อย่างเล่าในเมื่อตอนนี้ข้ารักเจ้าหมดทั้งหัวใจ " ความเคว้งคว้างในหัวใจของเหิงเยว์ได้ก่อตัวขึ้น เขาซบหน้าลงซบร่างกายของหานเสี่ยว์สะอึกไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ภายในห้องก็มีเพียงเสียงร้องไห้ทุกข์ระทมของทุกคน เหิงเยว์ทำอะไรมิได้ทำได้เพียงร้องไห้แม้แต่เรี่ยวแรงที่เช็ดน้ำตาของตนเขายังทำไม่ได้เสมือนโลกทั้งใบได้แตกสลายไปแล้ว ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขาได้เสียซู่ซ่านไปมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ต่อให้เขาเรียกนางซ้ำ ๆ เท่าไร่ร่างบางที่นอนแน่นิ่งก็มิอาจตอบสนอง "ข้ามิอาจจะช่วยเหลือฮูหยินของท่านได้ ต้องขออภัยอีกครั้งร่างที่นอนไร้สติของฮูหยินไม่นานชีพจรอาจจะหยุดเต้น ถึงเวลานั้นท่านคงรู้นะขอรับ หมดหน้าที่ข้าแล้วข้าขอตัว" ท่านหมอโค้งคำนับพร้อมออกจากห้องไป ปล่อยให้เหิงเยว์จมอยู่กับความทรมานใจอยู่เช่นนั้น แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นท่านหมอ แต่เมื่อเงยหน้ามองกลับพบเห็

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 36 ลาก่อน

    บทที่ 36 ลาก่อนฝั่งด้านหานเสี่ยว์นางกินอาหารเย็นเสร็จสิ้นก็ไล่ให้เข่อซิงกลับไปพักผ่อน วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นวันที่นางรอคอยมาตลอด จึงอ้างกับเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ว่านางมีอาการไม่ค่อยสบายจึงไม่ได้ไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย เด็กทั้งสองเห็นท่านแม่มีอาการแปลกไปจึงคิดว่าไม่สบายจริง ๆ และไม่อยากรบกวนให้ท่านแม่ได้พักผ่อน นางรอจนทุกคนเข้านอนเมื่อนางเปิดประตูดูสถานการณ์ด้านนอกเมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงได้เดินออกมาจากห้องเพื่อไปที่สระน้ำอยู่ด้านหลังเรือน ความเงียบสงัดทำให้หานเสี่ยว์เองก็รู็สึกเงียบเหงาเหลือเกิน นางเดินไปอย่างเชื่องช้า มองรอบ ๆ เห็นภาพความทรงจำที่ผ่านมาน้ำตาใส ๆ ก็เริ่มเอ่อนอง ความผูกพันธ์กับคนที่นี่ล้วนมีความหมายกับนางเหลือเกินมันเป็นความทรงจำที่มีค่ามาก ๆ ยิ่งก้าวเท้าเดินก็ยิ่งเจ็บถึงขั่วหัวใจ รอยยิ้มแววตาของเด็กทั้งสองที่คอยยิ้มให้ก็ยิ่งทำให้นางร้องไห้มากกว่าเดิม แต่ทุกอย่างนางต้องทิ้งไว้ที่นี่ "จากนี้ข้าคงไม่ได้พบเจอพวกเจ้าอีกแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะมีความสุขในทุก ๆ วัน ลาก่อนนะเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ " เมื่อมาถึงสะพานหานเสี่ยว์ก็ได้ก้าวเท้าขึ้นไปยังสะพานเพื่อไปอยู่ตรงกลางแม่น้ำ ก่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 35  คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลา

    บทที่ 35 คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลารุ่งสางมาเยือนอีกคราหานเสี่ยว์ร้องไห้ทั้งคืนเมื่อนางตื่นเช้ามาเปลือกตาของนางก็มีอาการบวมแดง เข่อซิงได้เข้ามานำน้ำมาให้นางล้างหน้าล้างตาก็ต้องตกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอันใดเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย"คุณหนูข้านำน้ำมาให้เจ้าค่ะ วันนี้ด้านนอกอากาศดีมากหากคุณหนูล้างหน้าเสร็จแล้วเราไปด้านนอกดีมั้ยเจ้าคะ" "ดีเช่นกัน" หานเสี่ยว์ก็ได้ล้างหน้าล้างตาเข่อซิงเองก็ช่วยแปรงผมให้ ไม่นานทั้งสองก็ได้ออกมารับลมด้านนอกต้นไม้นานาชนิดเริ่มผลิใบเขียวขจี อากาศสดชื่นยิ่งนักหานเสี่ยว์ทอดสายตามองเหล่าผีเสื้อแมลงปอต่างพากันบินวนดมเกสรดอกไม้เพื่อดำรงชีวิต "คงถึงเวลาแล้วสินะ" นางเอ่ยออกมาเมื่อถึงเวลาที่นางจะต้องไปแต่หัวใจของนางตอนนี้ช่างปวดร้าวเหลือเกิน ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางรอคอยเวลานี้มาตลอด นางคิดว่าวันที่นางไม่อยู่เด็กทั้งสองจะเป็นเช่นไรจะคิดถึงนางหรือไม่? หรือจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะคิดถึงนาง แต่หากนางไม่ไปก็เป็นห่วงคุณย่าที่รอคอยนางอยู่อีกโลก นางยังมีห่วงหากจะอยู่ที่นี่ต่อ หานเสี่ยว์ยังคงต้องรอวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงนางถึงจะกลับได้ นางถึงเอ่ยถามเข่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 34  เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ

    บทที่ 34 เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะเข่อซิงเมื่อรับรู้ว่าคุณชายเหิงเยว์ต้องการอยู่เพียงลำพังกับนายหญิงของตนนางก็ก้มหน้าเพื่อรับรู้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมนางเองก็อยากให้นายหญิงของตนมีความสุขเสียที เพราะอย่างไรตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ก็ได้แสดงท่าทีว่ารักนายหญิงของนางเข้าแล้วและพร้อมจะดูแลนางตลอดไป เพียงแต่นายหญิงของนางต่างหากที่เริ่มเปลี่ยนไป "อย่าพึ่งไปอยู่ชมจันทร์กับข้าเสียก่อน ""ไม่ข้าอยากจะพัก ข้าเหนื่อย" เหิงเยว์มองใบหน้าของหานเสี่ยว์ก่อนจะตัดสินใจอุ้มนางมาอยู่ในอ้อมแขน ทำให้นางตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัวและกลับตกจากอ้อมแขนของเขา"หากข้าอุ้มเจ้าอยู่เช่นนี้เจ้าคงไม่เหนื่อยใช่หรือไม่ ?""อ๊าย ! นี่ท่านทำอะไรของท่านปล่อยข้าลงไปนะ ""ทำไมล่ะ เจ้าเอ่ยเองว่าเจ้าเหนื่อยข้าก็ช่วยให้เจ้าได้พักอยู่นี่อย่างไรล่ะ ""มะ....ไม่ต้องปล่อยข้าลง ข้ายืนเองดีกว่า""ฮึ ก็ได้ " เขาปล่อยนางให้ยืนเอาเอง ตอนนี้หัวใจของหานเสี่ยว์เต้นแรงเมื่อร่างกายสัมผัสกันแถมเมื่อครู่ตอนที่เขาอุ้มนางได้กอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกได้ยินเสียงหัวใจของเหิงเยว์ที่เต้นไม่เป็นจังหวะทั้ง ๆ ที่นางพยายามห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status