แชร์

บทที่ 647

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางเย่อหยิ่งลำพองใจของถังเสวี่ยหนิงแล้ว ดวงตางามก็หลุบลงเล็กน้อย รอยยิ้มเยาะหยันวาบผ่านส่วนลึกของดวงตา

คุณหนูผู้ดีเหล่านี้ช่างไม่ประสาเรื่องราวทางโลกโดยแท้ ทั้งไม่ตระหนักถึงความยากลำบากของชาวบ้าน เรื่องอย่างการแจกโจ๊กก็ยังนำมาใช้เอาชนะคะคานกันได้?

น่าเสียดาย นางไม่สนใจการแข่งขันแบบนี้เลยสักนิด ในเมื่อถังเสวี่ยหนิงชอบนัก เช่นนั้นถอยทางให้นางเสียก็ได้!

“ที่แท้แม่นางถังก็ใจกว้างเช่นนี้เอง มีท่านช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบทุกข์ได้ยากอยู่ตรงนี้ ช่างเป็นวาสนาของทุกคนโดยแท้”

ซ่งรั่วเจินยิ้มพราย เครื่องหน้าประณีตพริ้มเพราราวกับดอกบัวโผล่พ้นเหนือผิวน้ำท่ามกลางแสงอาทิตย์ดุจเกล็ดทองคำ แลดูอ่อนโยนสง่างามยิ่งนัก

ถังเสวี่ยหนิงเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของซ่งรั่วเจินแล้ว ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ ไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!

ชื่อเสียงดีงามของตระกูลซ่งถูกนางแย่งชิงมาแล้ว ซ่งรั่วเจินกลับยังสงบเยือกเย็นแบบนี้อยู่ได้งั้นรึ?

สายตาของนางกวาดมองไปรอบด้าน พบว่าผู้ลี้ภัยรอบๆ นั้นมีไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกตน ถึงตอนนี้ค่อยเข้าใจ ที่แท้ก็กำลังเสแสร้งอยู่ต่อหน้าผู้ลี้ภัยเหล่านี้นี่เอง!

“ข้าจ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 648

    “การรับมือคนประเภทนี้ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ...การทำลายด้วยคำชม!”เฉินเซียงอึ้งไป “คุณหนู การทำลายด้วยคำชมคืออันใดเจ้าคะ?”“ผู้ลี้ภัยนอกเมืองมีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ ลำพังแจกโจ๊ก ค่าใช้จ่ายแต่ละวันก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ แล้ว”“แม้ว่าเมืองหลวงจะไม่เคยเกิดอุทกภัยมาก่อน แต่เนื่องจากอุทกภัยทางใต้ ราคาอาหารจึงแพงขึ้นพรวดพราด เมืองหลวงก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ข้าวสารกับแป้งในยามนี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึง ราคาเนื้อก็ยังเพิ่มสูงตาม”“ซาลาเปามื้อเดียวไม่นับเป็นอย่างไร แต่ถ้ากินไปทุกมื้อเล่า?”ดวงตางามของซ่งรั่วเจินหรี่ลงเล็กน้อย นางไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนดีมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกับคนที่เทียวมาหาเรื่องนางด้วยแล้ว!“ปล่อยให้พวกผู้ลี้ภัยเหล่านี้พูดไปเถอะ พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจ ดีที่สุดคือช่วยแพร่งพรายข่าวนี้ออกไป ทำให้ชาวบ้านทุกคนรับรู้ว่าแม่นางถังมีจิตใจดีงามเพียงไหน ไม่แจกโจ๊กแต่แจกซาลาเปาเนื้อ!”เรื่องอย่างการช่วยน้อยเป็นคุณ ช่วยมากเป็นโทษ ถังเสวี่ยหนิงยังคงมีประสบการณ์น้อยเกินไป ปล่อยให้นางดีใจไปเถอะ ถึงตอนเก็บกวาดหลังจากนี้...จะได้น่าสนุกเป็นพิเศษเฉินเซียงที่แต่เดิมยังไม่เข้าใจได้ฟ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 649

    “วันนี้หม่อมฉันมาแจกโจ๊กนอกเมือง คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอแม่นางซ่งที่นี่ เรื่องก่อนหน้านี้เป็นหม่อมฉันเองที่ทำไม่ถูก โชคดีที่แม่นางซ่งให้อภัยหม่อมฉัน ไม่ทราบว่าพวกท่านจะไปที่ใดกันหรือเพคะ?”ดวงตางามดำสนิทดุจหมึกของซ่งรั่วเจินฉายแววนึกสนุก ยามนี้ถังเสวี่ยหนิงฉลาดขึ้นแล้ว เริ่มเสแสร้งเป็นคนดีที่รู้จักถอยเพื่อรุกแล้วสินะ?นางมองชายหนุ่มข้างกายโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าฉู่จวินถิงจะหลงกลมารยาเช่นนี้หรือไม่?บนโลกนี้...ผู้ชายส่วนใหญ่ล้วนหลงใหลได้ปลื้มหญิงงามเจ้ามารยาแบบนี้ดวงตาคมกริบของฉู่จวินถิงกวาดผ่านถังเสวี่ยหนิง ใบหน้าหล่อเหลาไม่ธรรมดามีเพียงความเย็นชา“ไม่เกี่ยวกับเจ้า”เขากล่าวจบก็มองซ่งรั่วเจิน ความเย็นชาในแววตาแปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นที่หาได้ยาก กระทั่งน้ำเสียงเย็นชายังเจือด้วยความอบอุ่น“พวกเราไปกันเถอะ”ซ่งรั่วเจินมองฉู่จวินถิงอย่างค่อนข้างประหลาดใจ ปฏิกิริยาแบบนี้...สมกับเป็นฉู่อ๋องที่ยากเข้าหาจริงๆ!ถังเสวี่ยหนิงได้ยินประโยคที่ฉู่จวินถิงกล่าวกับตนเองอย่างเย็นชาแล้ว ใบหน้าก็ปั้นยากจนถึงที่สุดนางกำมือในแขนเสื้อแน่น ขบฟันจนกรามแทบแตกเลยทีเดียวจึงสามารถข่มกลั้นไม่ให้ตนเองระเบิดโ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 650

    ความจริงซ่งรั่วเจินไม่สนใจชื่อเสียงจอมปลอมเหล่านี้ แต่ว่าพูดถึงเรื่องนี้พอดีจึงเอ่ยขึ้นมาก็เท่านั้น จู่ๆ ได้รับคำตอบจริงจังเช่นนี้จากฉู่จวินถิง นางกลับรู้สึกประหลาดใจเสียอีก“ท่านจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?”“ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นข้าเองที่กำลังพยายามเข้าไปอยู่ในสายตาของแม่นางซ่ง”น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มเปี่ยมเสน่ห์ดึงดูด รอยยิ้มประดับอยู่บนริมฝีปาก ประกายสีสันของดวงตากลับเข้มขึ้นกว่าเดิมหลายส่วนโดยไม่รู้ตัว เขาจ้องมองนางอย่างจริงจังชั่วขณะนั้น ซ่งรั่วเจินสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองบนดวงตาของชายหนุ่มนางพลันรู้สึกเหมือนมีอะไรปัดผ่านหัวใจไป เสสายตาไปทางอื่นโดยไม่รู้ตัว กล่าวว่า “ต่อให้ท่านอ๋องยอมพูด นั่นก็ต้องให้ทุกคนเชื่อด้วยถึงจะได้หรอกนะเพคะ”หลังจากถูกถอนหมั้นตอนนั้น นางก็ได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่ไม่มีใครต้องการในเมืองหลวง แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะดีขึ้นแล้ว แต่เมื่อยืนอยู่ด้วยกันกับฉู่อ๋อง ไม่ว่าใครก็คงรู้สึกว่าทั้งคู่ไม่เหมาะสมกันกล่าวถึงตรงนี้ นางพลันนึกถึงตอนที่ฉู่จวินถิงมอบของขวัญที่ล่ามาได้ให้นางต่อหน้าคนมากมายในเขตล่าสัตว์ก่อนหน้านี้ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวพิจารณาสีหน้าตก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 651

    “ท่านอ๋อง ถึงวัดอวิ๋นฉานแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เสียงของอวิ๋นหยางดังลอดเข้ามาจากภายนอกรถม้าซ่งรั่วเจินเลิกผ้าม่านขึ้นก็ได้ยินเสียงวุ่นวายขวักไขว่ ผู้คนที่สัญจรไปมาไม่น้อยจริงๆ เห็นได้ว่าวัดอวิ๋นฉานเต็มไปด้วยผู้มาสักการะ“วันนี้มาสายแล้ว ทั้งยังเข้าแถวไม่ทัน คงไม่ได้พบไต้ซือแล้ว”หญิงสูงศักดิ์ผู้หนึ่งสีหน้าเต็มด้วยความเสียดาย นางได้ยินมาว่าที่วัดอวิ๋นฉานมีไต้ซือผู้หนึ่งที่เก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งใจมาหาเดิมคิดว่าตนมาได้เช้าพอสมควรแล้ว กลับกลายเป็นว่าแม้แต่โอกาสได้พบไต้ซือก็ไม่มี“ฮูหยิน ได้ยินว่าบัดนี้ผู้ที่ต้องการพบไต้ซือนั้นมีมากมาย หลายคนถึงกับพักแรมอยู่บนเขาสักคืน แต่ถึงกระนั้นวันถัดไปก็ใช่ว่าจะจัดแจงจนได้พบเจ้าค่ะ” สาวใช้กล่างอย่างจนใจซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงสบตากันแวบหนึ่ง ดูท่าไต้ซือผู้นี้จะฝีมือไม่ธรรมดา การจะพบสักคราจึงได้ยากเย็นเพียงนี้“คุณหนู หากท่านตั้งแผง คนจะไม่เยอะยิ่งกว่าหรือเจ้าคะ?”เฉินเซียงสองตาเป็นประกาย บัดนี้นางประจักษ์ถึงความสามารถคุณหนูของตนแล้วว่าเยี่ยมยอดเพียงใด คำนวณว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ!ไต้ซือท่านนี้ก็คงฝีมือดีได้ไม่เท่ากับคุณหนู!อวิ๋นหยาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 652

    “อย่างไรท่านพ่อข้าก็บอกไว้แล้ว ให้ข้าทำเรื่องดีๆ ต้องการเงินเท่าใดก็เบิกจากห้องบัญชีโดยตรง จะกลัวไปไย?”สาวใช้พยักหน้า “เจ้าค่ะ คุณหนู”ยิ่งซาลาเปาเนื้อมากขึ้นเท่าใด กระทั่งประชาชนจำนวนหนึ่งในเมืองก็ยังเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นหน่อยแสร้งเป็นผู้ลี้ภัย เพียงครอบครัวหนึ่งเพิ่มคนมาไม่กี่คน ก็ได้ซาลาเปาเนื้อก้อนโตไปไม่น้อย!ในวันนี้ ประตูเมืองทิศทักษิณเรียกได้ว่าคึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อน!เพียงแต่เมื่อผู้คนยิ่งมากขึ้น หลังจากซาลาเปาเนื้อที่มีอยู่ในเมืองแทบทั้งหมดถูกถังเสวี่ยหนิงซื้อไปจนหมดแล้ว ผู้ดูแลที่อยู่ข้างๆ ก็อดกล่าวไม่ได้“คุณหนู ซาลาเปาเนื้อราคาแพงนัก ค่าใช้จ่ายวันนี้มากเกินไปจริงๆ ก่อนนี้นายท่านบอกแค่เพียงแจกจ่ายโจ๊ก แต่ไม่ได้บอกให้แจกซาลาเปาเนื้อ…”“แล้วอย่างไร? เจ้าไม่เห็นหรือว่าประชาชนที่ได้ซาลาเปาเนื้อไปยินดีกันเพียงใด?”“ประชาชนเหล่านี้เดิมก็น่าสงสารอยู่แล้ว ต้องระเห็จลี้ภัยมาถึงนี่ ก็แค่ซาลาเปาเนื้อลูกเดียว เจ้าจะตระหนี่ไปไย?”“พรุ่งนี้เจรจากับร้านค้าในเมืองให้เรียบร้อย ให้พวกเขาเตรียมไว้มากหน่อย อย่าให้เป็นเช่นวันนี้อีก ที่แค่พริบตาเดียวก็หมดแล้ว!”ถังเสวี่ยหนิงส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 653

    “ท่านอ๋อง กระหม่อมไปสอบถามมาแล้ว ไต้ซือเทียนจีพำนักอยู่ที่เรือนด้านหลังนี้พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากันว่าเขาจะพบผู้ที่มาสักการะเพียงสามคนต่อวันเท่านั้น หากมิใช่ผู้ที่ถูกชะตาก็จะมิยอมพบ เงื่อนไขเข้มงวดยิ่ง แต่ก็เพราะยากที่จะได้เข้าพบ ทุกวันจึงได้มีผู้มาสักการะขึ้นมายังที่แห่งนี้ไม่น้อย”“และแน่นอนว่าจำนวนผู้ที่มาสักการะที่วัดอวิ๋นฉานจึงได้มากขึ้นตามไปด้วย”อวิ๋นหยางนำข่าวที่สืบทราบมารายงานไปตามความจริงท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ออกเดินทางจากเมืองหลวงมาก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว เส้นทางขึ้นเขานี้ เมื่อถึงที่หมายท้องฟ้าทั้งผืนก็กลายเป็นภาพอาทิตย์อัสดงเสียแล้ว“ถึงแม้จะพบเพียงสามคนต่อวัน ก็เพียงพอให้เขากอบโกยได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว” ดวงตาของซ่งรั่วเจินที่คล้ายหมอกควันแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันเบาๆ ตั้งแต่โบราณมา เรื่องไม่ดีที่ไม่อาจเปิดเผยต่อผู้คนก็ทำเงินได้ดีที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นอนุอวิ๋นหรือผู้ที่ลงมือกับพระชายาเซียงอ๋อง ก็จะต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่ออัญเชิญผีน้อย การโก่งราคาสูงลิบก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรเสีย เดิมทีก็เป็นเรื่องทำลายคุณธรรม หากเงินไม่ถึงก็ย่อมไม่มีผู้ใดยอมทำให้“ตอนนี้ผู้มาสักการะก็กลับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 654

    ในเมื่อยามนี้ฝ่ายตรงข้ามหนีไปแล้ว เพียงรอให้จวนฉู่อ๋องจับตัวกลับมาก็พอ ส่วนเรื่องที่เหลือ คาดว่าคงไม่ต้องหนักใจอีกต่อไป ทางการสามารถจัดการเองได้เสียงโลหะกระทบกันด้านหลังยิ่งทวีความรุนแรงขึ่น ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินอย่างลึกซึ้งอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนชักกริชเล่มหนึ่งส่งให้นาง“เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย”“วางใจเถิดเพคะ”เมื่อฉู่จวินถิงออกไปแล้ว ซ่งรั่วเจินก็ไม่ได้รั้งรอ นางและเฉินเซียงรีบมุ่งออกไปด้านนอก ระหว่างเดินไปนางอดครุ่นคิดขึ้นมาไม่ได้ ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของไต้ซือเทียนจีผู้นี้ช่างไม่ธรรมดาเลย ฉู่จวินถิงวิทยายุทธแก่กล้า บนสนามรบเรียกได้ว่ากำจัดศัตรูราบคาบ ส่วนองครักษ์เกือบทั้งหมดล้วนเคยผ่านศึกมา วิทยายุทธทิ้งห่างจากองครักษ์ประจำจวนทั่วๆ ไปเป็นอย่างมากเมื่อครู่พวกเขามากันถึงสิบกว่าชีวิต เวลานี้กลับถูกจัดการจนหมด มิหนำซ้ำยังตกอยู่ในอันตราย เห็นได้ว่ากลอุบายของฝ่ายตรงข้ามแยบยลนัก อย่างไรก็ดี เพิ่งจะก้าวขาออกจากเรือนได้ไม่กี่ก้าว สีหน้าของซ่งรั่วเจินก็พลันเปลี่ยน“คุณหนู เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”เฉินเซียงเห็นใบหน้าของคุณหนูตนพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ดวงตาก็ฉายแววเป็นกังวล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 655

    “คุณหนู รีบหนีไปเจ้าค่ะ!”สองตาของเฉินเซียงแดงก่ำ น้ำเสียงสั่นเครือ รีบผลักไสซ่งรั่วเจินให้หนีไปซ่งรั่วเจินหันกลับมา เห็นสาวใช้ที่ตั้งมั่นคอยติดตามนางในยามนี้สีหน้าเต็มด้วยความเด็ดเดี่ยว ดวงตากลับแน่วแน่ยิ่งกว่า เห็นได้ชัดว่านางเตรียมพร้อมที่จะสละชีพแล้วหัวใจของนางราวถูกค้อนทุบกระแทกอย่างแรง กล่าว “พวกมันมากมายเพียงนี้ หญิงสาวตัวคนเดียวเช่นเจ้าจะขัดขวางอะไรได้?”“ขัดขวางได้เพียงชั่วขณะก็ชั่วขณะเจ้าค่ะ”ในดวงตาของเฉินเซียงเปี่ยมด้วยความเสียใจ “ล้วนเป็นที่ข้าไร้ประโยชน์ ปกป้องคุณหนูไม่ได้ ท่านอ๋องอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ขอเพียงถ่วงเวลาไว้ได้สักหน่อย จะต้องตามมาทันแน่!”“ยังไม่ถึงคราวต้องตาย อย่ากลัวไปเลย”ซ่งรั่วเจินหยิบกระดาษเขียนยันต์ออกมาแผ่นหนึ่ง เพียงนางชูมือขึ้นก็เกิดไฟลุกวาบผ่าน เพียงชั่วพริบตากระดาษยันต์ก็เผาไหม้ ตามติดมาด้วยเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นด้านหลังของพวกนางในพริบตาพร้อมกันนั้น นางหยิบยันต์อีกสองแผ่นติดลงบนกายของตนเองและเฉินเซียง“ยันต์เร่งความเร็ว รีบไป!”เฉินเซียงยังไม่ทันเข้าใจคำพูดของคุณหนูตนดี ก็รู้สึกถึงสองเท้าของตนที่มีลมพัดผ่าน ห้วงพลังที่ไม่เคยมีมาก่อนแผ่

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status