“เหอะ ก็แค่สามีในนาม ถึงยังไงคุณสิบก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับผิง”มือหนากำหมัดแน่นด้วยโทสะ เธอกล้าพูดได้ยังไงว่าแค่สามีในนาม หรือเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้เสพสมกับเธอเหมือนผัวเมียคู่อื่น เธอถึงได้กล้าพูดเช่นนี้“อ้อเหรอ แค่สามีในนามงั้นเหรอตรีชฎา ได้ งั้นก็เป็นทางพฤตินัยตอนนี้เลยก็แล้วกัน”เพราะความโกรธที่เธอพูดออกมาเช่นนั้น บวกกับความหึงหวงโดยไม่รู้ตัว ทำให้สิบทิศบันดาลโทสะ กระชากร่างบางเข้ามาจูบมือบางพยายามผลักไสเขา แต่ท่อนแขนแกร่งกลับกอดรัดตัวเธอจนเจ็บกระดูกไปหมด จมูกโด่งคมสันซุกไซ้ที่ซอกคอ ริมฝีปากก็ขบเม้มไปทั่วจนเป็นรอยแดงช้ำ“คุณสิบ ปล่อยนะ ปล่อย”ริมฝีปากสวยบัดนี้บวมเจ่อจากพิษจูบร้องขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดการกระทำลงได้เลย“ไหนคุณสิบบอกว่ารังเกียจผิง แต่ที่คุณสิบทำมันหมายความว่าคุณสิบกำลังหึงผิงอยู่นะคะ”ได้ผลเขาหยุดการกระทำลงทันที แล้วผลักเธอออกอย่างรังเกียจ“ฉันไม่ได้หึงเธอ ไม่มีวันหึงด้วย”ไม่ใช่เด็ดขาด เขาเนี่ยนะหึงเธอ เขาไม่ได้รักเธอเสียหน่อยร่างสูงก้าวยาว ๆ ออกจากห้อง ปิดประตูลงเสียงดังปึง ทิ้งให้ตรีชฎาทรุดตัวลงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดที่หัวใจเหลือเกินสิบทิศนั่งดื่มเหล้าอยู่ริ
หลังจากเดินแบบเสร็จ มาเรียก็ชวนสิบทิศไปรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารในโรงแรมหรู สิบทิศเองก็ไม่ได้ขัดอะไร ทั้งสองเดินเคียงคู่กันมา ไม่เกรงกลัวสื่อแต่อย่างใดเมื่อมาถึงพนักงานต้อนรับก็พาสิบทิศกับมาเรียไปยังโต๊ะอาหารที่ติดกับกระจก สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกรุงยามค่ำคืน ชายหนุ่มหยิบเมนูอาหารที่ห่อหุ้มด้วยปกสวยงามขึ้นมาดู ซึ่งรายการอาหารแต่ละอย่างนั้นราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียว“ผมขอสเต็กเนื้อสันที่นึง ส่วนคุณจะเอาอะไรก็สั่งเอาแล้วกัน”มือหนายื่นรายการอาหารให้มาเรียในขณะที่มาเรียยังคงดูรายการอาหารอยู่ สิบทิศก็มองดูวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยเปื่อย พลันสมองก็ไพล่คิดไปถึงหญิงสาวผู้เป็นภรรยา‘ป่านนี้ตรีชฎาคงจะอาบน้ำนอนแล้วละมั้ง เพราะตอนนี้ก็เริ่มจะดึกแล้ว เออ แล้วเราจะคิดถึงยายนั่นทำไมเนี่ย’ เขาสะบัดศีรษะเล็กน้อย ขับไล่ความคิดออกจากสมอง แต่เมื่อหันไปมองรอบห้องอาหาร สายตาคมก็ต้องสะดุดอยู่ที่ชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังนั่งรับประทานอาหาร หัวร่อต่อกระซิกกัน เสมือนว่าโลกทั้งโลกมีแต่ความสุข“ตรีชฎา”เสียงเข้มดุเค้นลอดไรฟัน เขานึกว่าเธอนอนอยู่ที่บ้าน ที่ไหนได้เธอกลับออกมาระริกระรี้อยู่กับผู้ชายที่ไม่ใช่เขา แล้ว
“ก็แล้วแต่เธอจะคิด เอ่อ มาเรีย เดี๋ยวผมขอดูเอกสารเดี๋ยวเดียว แล้วเราค่อยไปก็แล้วกัน”ชายหนุ่มว่า ก่อนจะหันมาพูดกับมาเรีย ปล่อยให้ตรีชฎามองเขาด้วยความน้อยใจยิ่งนัก มาเรียปรายตามองตรีชฎาด้วยความสะใจอยู่ลึก ๆ ที่ถูกสิบทิศไล่ ‘หึ อย่างเธอ ก็เป็นได้แค่เมียที่นอนกอดทะเบียนสมรสเท่านั้นแหละ นังตรีชฎา’“ไปสิ จะมายืนหาอะไรไม่ทราบ ไป!”สิบทิศตวาดไล่อีกครั้ง ทำให้ตรีชฎาเสียใจไม่น้อยที่เขากล้าหักหน้าเธอต่อหน้าคู่ขาเก่าของเขาแววตาเศร้าสร้อยจ้องมองเขานิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหมุนตัววิ่งออกจากห้องไป โดยที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นน้ำตาที่ไหลพรากอาบแก้มนวลตรีชฎาเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยเปื่อยอย่างไม่รู้จะไปไหน จนมาถึงร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งน้อยใจ เธอเป็นถึงภรรยาของเขา แต่เขากลับไม่เคยสนใจเธอเลยตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาร่วมอาทิตย์ เคยมีบ้างไหมที่เขาให้ความสนใจเธอ ถนอมน้ำใจเธอ หรือให้เกียรติเธอในฐานะภรรยา แล้วมาวันนี้เขาก็ไล่ตะเพิดเธอ ทำให้เธอต้องอับอายต่อหน้าแม่คู่ขาของเขานึกถึงตอนนี้น้ำตาก็พาลจะไหลลงมาอีกระลอก เย็นนี้เขาจะไปกับแม่นางแบบนั่น แล้วต่อจากนั้นก็คงจะอยู่ด้วยกันทั้งคืน
นับตั้งแต่ตรีชฎาได้เข้ามาเป็นสะใภ้ของธาราธรณ์ คนรับใช้และเหล่าบอดี้การ์ดของสิบทิศต่างก็ได้ลาภปากกันทุกวัน เนื่องจากนายหญิงคนสวยมักจะทำอาหารบ้างก็ขนมมาแจกจ่ายให้ทุกคนในบ้านไม่เว้นแต่ละวัน จนทุกคนอิ่มหนำสำราญกันเป็นแถวและด้วยความที่เข้ากับคนง่าย ทุกคนในบ้านจึงเคารพรักเธอไม่ต่างไปจากคุณหญิงสิรินดากับสิบทิศเลยแม้แต่น้อยสิบทิศเองก็เช่นกันตั้งแต่มีตรีชฎาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ชีวิตประจำวันของเขาก็เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนต้องเลือกเสื้อผ้าในตู้มาใส่เอง หญิงสาวก็เตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ เวลาจะไปทำงาน เธอจะเดินมาส่งเขาที่รถทุกเช้า แล้วถึงได้ขับรถไปที่ร้านเสื้อ ตอนพักกลางวัน ปกติเขาจะให้เลขานุการสั่งอาหารขึ้นมาให้ หรือไม่ก็ออกไปรับประทานกับบอดี้การ์ด แต่เดี๋ยวนี้เมื่อถึงเวลาเธอจะนำอาหารที่เขาชอบใส่ปิ่นโตมาให้ที่บริษัทแต่ถึงเธอจะดีกับเขาสักเพียงใด ก็ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า เพราะเขาไม่ได้มองเธอในแง่ดีบ้างเลย“คุณลี ช่วยเอารายงานการประชุมพรุ่งนี้เข้ามาให้ผมหน่อย”เสียงทุ้มเข้มของท่านประธานกรอกลงไปในอินเตอร์คอม และอีกไม่กี่นาทีถัดมาคนด้านนอกก็เคาะประตูตามมารยาท“เชิญ” เขากล่าว โดยไม่ไ
แสงแดดสาดส่องในเช้าวันใหม่ ตรีชฎาตื่นขึ้นมาใส่บาตรกับคุณหญิงสิรินดาตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยความสดชื่น เพราะเมื่อคืนพอหัวถึงหมอนเธอก็หลับลึกจนถึงเช้า ด้วยความเหนื่อยจากงานแต่งงานที่ถูกสะสมไว้ในร่างกายมาตลอดทั้งวัน หลังจากใส่บาตรแล้วเธอก็เข้ามาในห้องครัว เพื่อจะมาช่วยนางพรทำอาหารมื้อเช้า“คุณผิงไม่ต้องช่วยป้าหรอกค่ะ คุณเป็นเจ้านายนะคะ มันไม่เหมาะ”แม่บ้านใหญ่แย้ง เพราะหญิงสาวเป็นถึงสะใภ้ของบ้านและเป็นเจ้านาย จะมาทำงานงก ๆ ในครัวให้เนื้อตัวเหม็นกลิ่นอาหารได้อย่างไร“ทำไมจะไม่เหมาะคะป้าพร ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ผิงอยากช่วย และนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผิงก็จะมาช่วยป้าพรทำอาหารทุกวันเลยด้วย ช่วยกันทำหลาย ๆ คน จะได้เสร็จเร็ว ๆ ไงคะ”สะใภ้หมาด ๆ กล่าว พร้อมกับเดินไปหยิบหม้อเตรียมตัวจะทำอาหาร“โธ่ คุณขา คุณจะเหนื่อยเอาเปล่า ๆ นะคะ ไหนจะต้องตื่นตั้งแต่เช้าอีก แทนที่จะได้นอนพักผ่อนเยอะ ๆ ลำบากเปล่า ๆ ค่ะ”นางพรยังคงแย้งอย่างไม่เห็นด้วย ยึดหม้อจากมือบางไม่ยอมให้เธอทำ“ไม่ลำบากเลยค่ะป้าพร ปกติผิงก็ตื่นเช้าเป็นประจำอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้สบายมาก ให้ผิงช่วยเถอะนะคะป้าพรขา”ตรีชฎากอดเอวนางพรอย่างออดอ้อน ด้วยความ
“ทำไมยังไม่อาบน้ำอีกล่ะ”ร่างสูงที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียง เห็นหญิงสาวเดินออกมา เขาจึงถามด้วยความสงสัย“เอ่อ คือว่า ผิงรูดซิปไม่ได้” ตรีชฎาตอบเสียงอ่อย“คุณสิบขา ช่วยรูดซิปให้ผิงหน่อยได้ไหมคะ”เสียงหวานเอ่ยขอความช่วยเหลืออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“หันหลังมาสิ”สิบทิศบอกด้วยความเห็นใจ เพราะชุดแต่งงานถูกออกแบบมาเพื่อให้คนอื่นถอดให้มือหนารูดซิปด้านหลังให้หญิงสาวจนซิปแยกออกจากกันอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นแผ่นหลังนวลเนียนน่าสัมผัส เล่นเอาสิบทิศถึงกับหายใจติดขัด มือสั่นเทาจากอารมณ์บางอย่าง กำลังร้อนระอุอยู่ภายในร่างกายอย่างมิอาจห้ามใจได้มือหนาเอื้อมไปตรงหน้า หมายจะสัมผัสกับความเนียนนุ่มด้วยความหลงใหล แต่เมื่อปลายนิ้วกำลังจะแตะลงบนผิวกายของเธอ เขาก็ชักมือกลับคืนทันที เมื่อสำนึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้โสมมเกินกว่าที่เขาจะแตะต้อง“เสร็จแล้วก็รีบ ๆ ไปอาบน้ำสิ มัวแต่มายืนอ่อยอยู่ได้”เสียงห้วนตวาดใส่ ตรีชฎางงเป็นไก่ตาแตก เมื่อกี้เขาก็ยังดี ๆ อยู่เลย เผลอแป๊บเดียวด่าทอเธอเสียอย่างนั้น“ค่ะ”น้ำเสียงเบาหวิวรับคำ ก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ เข้าห้องน้ำไปสิบทิศนอนหลับตาอยู่ได้สักพักแล้วตั้งแต่หญิงสาวอาบน้ำ ดวงตาคมกริบค่อย