“ก็ยายมารผจญนั่นดิ หมูกำลังจะหามอยู่แล้วเชียว ดันเอาคานมาสอดเฉย เล่นเอาข้าหน้าแตกยับเลย ฮึ่ย! เจ็บใจจริง ๆ แถมยายนั่นยังหลอกด่าข้าว่าไอ้ชีกอลามกอีก เหอะ ถ้ายายบ้านั่นไม่เข้ามาขัดจังหวะซะก่อนนะ ป่านนี้ข้าคงจะ...ฮึ่ย!”
หนุ่มเจ้าสำราญเข่นเขี้ยวด้วยความโมโหปนอาย ที่ยายมารผจญทำให้เขาต้องอับอายขายขี้หน้าต่อหน้านางฟ้าสุดสวย
“จริงเหรอวะเนี่ย ไม่น่าเชื่อ ว่าจะมีผู้หญิงไม่ชอบขี้หน้าเอ็งด้วย ฮะ ๆ สะใจจริงจริ๊ง เพลย์บอยหนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆ นามว่า ณัฐพงษ์ กิตติอนันท์ หน้าแตกดังเพล้งต่อหน้าหญิง หึ ๆ น่าอายชะมัด”
น้ำเสียงขบขันแกล้งเยาะเย้ยณัฐพงษ์ ยิ่งทำให้เพลย์บอยหนุ่มรู้สึกอับอายเข้าไปใหญ่ หมดกันชื่อเสียงของเขาที่อุตส่าห์สะสมมา
“เอ็งไม่ต้องมาหัวเราะเยาะข้า ไว้เอ็งโดนบ้างแล้วจะรู้สึก หึ!”
ร่างสูงกระแทกหลังพิงโซฟาแรง ๆ ทั้งหงุดหงิดใจทั้งน้อยใจที่โดนเพื่อนรักล้อ
“เฮ้ย ไอ้ณัฐ เอ็งโกรธข้าเหรอ”
“แล้วเอ็งมาหัวเราะเยาะข้าทำไมล่ะ ข้าก็อายเป็นเหมือนกันนะโว้ย”
“โธ่ ไอ้เพื่อนเวร ข้าก็แค่แกล้งเล่น ๆ ทำเป็นคิดมากไปได้”
สิบทิศส่ายหน้าให้กับความขี้น้อยใจของเพื่อนรัก ณัฐพงษ์ก็เป็นแบบนี้แหละ ถึงจะโกรธง่ายแต่ก็หายเร็วเสมอ
“เฮ้อ ไหน ๆ ข้าก็ชวดจากนางฟ้าสุดสวยแล้ว เอ็งไม่คิดจะเสียบต่อเหรอวะไอ้สิบ สวย ขาว หุ่นสบึม น่าสัมผัสไปทั้งตัวอย่างนั้น ไม่เคยรอดมือเสือผู้หญิงอย่าง สิบทิศ ธาราธรณ์ นี่หว่า”
ณัฐพงษ์เสนอให้เพื่อนรักอย่างรู้ใจ สาวสวยอย่างนางฟ้าของเขา ไม่มีทางที่จะรอดเงื้อมือของสิบทิศไปได้หรอก
แต่แล้วเขาก็คิดผิดคาดอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อได้ยินคำปฏิเสธที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของ สิบทิศ ธาราธรณ์
“ไม่ล่ะ วันนี้ไม่มีอารมณ์”
สิบทิศปฏิเสธเสียงเรียบเฉย เหมือนไม่ใส่ใจไยดีกับสิ่งที่เพื่อนรักยื่นให้ เล่นเอาณัฐพงษ์ถึงกับงงไปเลยทีเดียว ที่จู่ ๆ สิบทิศก็ทำเหมือนไม่สนใจสาวสวยน่ากอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างนางฟ้าสุดสวยคนนั้น แปลก!
“เฮ้ย อย่างเอ็งเนี่ยนะ ไม่มีอารมณ์ อะไรกัน เรื่องแค่นี้ ไม่มีก็ปลุกขึ้นมาได้นี่ เอ หรือว่าไม่ใช่เพราะไม่มีอารมณ์ แต่เอ็งกลัวจะหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บเหมือนข้าใช่ไหมล่ะ”
แววตาล้อเลียนจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างจับพิรุธ แต่ก็ไม่เห็นความผิดปกติบนใบหน้าคมสันเลยแม้แต่น้อย
“เปล่า ข้าแค่ไม่อยากยุ่งเฉย ๆ ไม่รู้สิ ข้าเองก็บอกไม่ถูกว่ะ ข้าแค่รู้สึกว่าไม่ชอบแม่นางยั่วสวาทนั่น รู้สึกเหมือนชีวิตข้าจะยุ่งวุ่นวายยังไงชอบกล ถ้าไปสานสัมพันธ์กับเธอ”
เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงมีความรู้สึกเช่นนี้
เพียงแค่เห็นเธอครั้งแรก ความรู้สึกมันก็แปลก ๆ เหมือนชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ แต่ณัฐพงษ์นี่สิ ยิ่งมึนงงมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ถ้าเป็นเมื่อก่อน นางฟ้าของเขาคงเรียบร้อยโรงเรียนสิบทิศไปตั้งแต่ผับยังไม่ปิดแล้ว
เวลาล่วงเลยมาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว สามเพื่อนซี้จึงชวนกันกลับไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ยังต้องไปทำงานกันเหมือนเดิม ตรีชฎากับโยธินเดินมาส่งณภัทรที่รถก่อน รอจนเพื่อนสาวขับรถออกไป ทั้งสองถึงเดินไปยังรถคันเล็กที่จอดอยู่ในลานจอดรถของอีกฝั่งหนึ่ง
“ความจริงแกไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเอง”
ชายใจสาวบอกตรีชฎา ด้วยความที่เห็นว่าช่วงเวลานี้มันดึกเกินไป การที่เพื่อนสาวไปส่งเธอจะยิ่งทำให้เสียเวลาของการพักผ่อน
“แหม พูดอย่างกับคอนโดแกอยู่ไกลจากคอนโดฉันนักนี่นังโย เออ แล้วนี่รถแกจะเสร็จเมื่อไหร่ล่ะ”
เสียงหวานถามถึงรถคู่ใจของเพื่อนชายใจสาวที่ดันมาเสียเมื่อตอนกลางวัน จึงทำให้โยธินต้องอาศัยรถแท็กซี่เป็นพาหนะในการเดินทาง
“คงประมาณสามสี่วันละมั้ง จริง ๆ แล้วฉันยังไม่อยากให้รถเสร็จไวเท่าไหร่หรอกนะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ” คิ้วสวยเลิกถาม
“ก็ฉันยังอยากเจอเจ้าของอู่ซ่อมรถอยู่นี่ คนอะไรก็ไม่รู้ น่ากินเป็นบ้า กล้ามเขานะแก เป็นมัด ๆ เลยล่ะ”
โยธินเพ้อถึงชายหนุ่มที่พูดถึง นึกแล้วน้ำลายก็จะไหล
“นังบ้า ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไร พูดเรื่องไหนก็วกไปเข้าเรื่องผู้ชายทุกทีเลย”
มือบางฟาดลงบนแขนกำยำของเพื่อนรัก ปลุกสติที่กระเจิดกระเจิงไปไกลของโยธินให้กลับคืนมา
ในขณะที่ทั้งสองเดินคุยกันอยู่ ตรีชฎาก็ก้มหน้าก้มตาควานหากุญแจรถในกระเป๋าสะพายไปด้วย ความที่ไม่ทันมองและไม่ทันระวังตัว จู่ ๆ ร่างบางก็เดินชนร่างของบุรุษเพศอันแข็งแกร่งจนเซถลา โชคยังดีที่มีท่อนแขนแข็งแรงรองรับร่างบอบบางไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นหญิงสาวคงได้ล้มกระแทกพื้นเป็นแน่
จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางเฉียบ ซุกไซ้ซอกคอขาวเนียน สูดดมความหอมละมุนจากกลิ่นกายของภรรยาสาว ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งคลั่งไคล้ในตัวเธอ ลิ้นอุ่นชื้นไล้เลียละเลียดไปตามผิวเนื้อนวลลออราวกับกำลังกินเค้กหน้านิ่มก็ไม่ปาน“เมียผมหอมจังเลย”เขาค่อย ๆ แทะเล็มขบเม้มทั่วลำคอระหง ใช้ปากร้อนงับติ่งหูของเธอสลับกับไล้ปลายลิ้นไปตามใบหูช้า ๆ จนตรีชฎาต้องหลับตาพริ้ม เบี่ยงหน้าไปอีกทาง เพราะความสยิวลามไปทั่วกลางหลัง ก่อนที่เขาจะจูบพรมไล่ตามซอกคอลงมาถึงเนินอกอวบอิ่มสิบทิศดึงเชือกคล้องคอชุดของขวัญวาบหวิว จับรั้งโบตรงช่วงอกลงมาให้เต้าทรวงหลุดออกจากพันธนาการฝ่ามือหนากอบกุมข้างหนึ่ง เคล้นคลึงเบา ๆ ก่อนใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดอก อีกข้างก็ใช้ริมฝีปากครอบครอง ดูดดื่มปทุมถันอย่างหิวกระหาย“นมผิงอร่อยที่สุดเลย”เสียงทุ้มพร่าเอ่ยชม ลิ้นหนาตวัดเลียเม็ดบัวสีหวาน ซึ่งเป็นจุดกระตุ้นอารมณ์ของเมียรักได้เป็นอย่างดี“คุณสิบขา”ดวงตากลมโตหยาดเยิ้มปรือมองดูสามีกำลังดูดเลียปลายถันที่แข่งกันชูชันทั้งสองข้างของเธออย่างเมามัน เขาปลุกเร้าเธอจนเสียวซ่าน เสียงหวานครางเบา ๆ แอ่นอกประเคนตัวเองอยากให้เขาใช้ปากอันร้อนรุ่มสัมผัสปทุมถันของเธอซ้
‘อย่าลืมนะครับ คืนนี้เรามีนัดแกะของขวัญกัน’ตรีชฎานึกถึงประโยคที่สามีย้ำเตือน ก่อนที่เธอจะเข้ามาอาบน้ำ หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกแล้วก็ต้องอมยิ้มให้กับชุดของตัวเองของขวัญที่สิบทิศพูดถึงหมายถึงตัวเธอ เป็นของขวัญวาเลนไทน์ที่เขาควรจะได้เมื่อวานแต่ก็ไม่ได้ เพราะติดที่ลูก ๆ มานอนด้วย เธอเลยต้องเลื่อนวันมาให้เขาในคืนนี้แทน“ผลัวะ” เสียงเปิดประตูห้องน้ำ ทำให้ร่างสูงที่สวมชุดนอนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างต้องหันมามองโดยอัตโนมัติภาพที่ปรากฏในดวงตาคมกริบ สิบทิศถึงกับคำรามในลำคอทันที ร่างบางระหงในชุดผูกคอ ช่วงอกแต่งเป็นโบขนาดใหญ่ทำด้วยผ้าสีแดง ปล่อยห้อยชายผ้าลงมาตรงหน้าท้องแบนราบ มีสายเส้นเล็กสองเส้นแนบขนาบลำตัว เชื่อมโยงกับกางเกงชั้นในที่เป็นแค่ผ้าสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ปกปิดจุดสงวน กำลังเยื้องกรายมาหาเขาแค่เห็นเลือดในกายก็พุ่งพล่าน ปลุกให้ความเป็นชายแข็งผงาด ทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัสร่างกายกันด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะนี่เขากำลังจะได้เมียผูกโบของแท้“ชุดอะไรของผิงเนี่ย”สิบทิศดีดตัวลุกนั่งทันทีที่ภรรยาสาวก้าวขึ้นเตียงมานั่งใกล้ ๆ ไล่มองชุดตั้งแต่บนลงล่างไม่วางตา ก่อนจะรั้งตัวเธอให้มานั่งคร่อมตักแกร่ง“ก็
“คุณสิบจะแกะเส้นนี้ออกทำไมคะ” เสียงหวานท้วง“อ้าว ก็นี่มันแค่สร้อยลูกปัดธรรมดา เอาออกเถอะครับ เดี๋ยวผมจะใส่เส้นนี้ให้แทน”“ไม่เอาค่ะ กำไลเส้นนี้เป็นเส้นแรกที่คุณสิบซื้อให้ผิง มันเป็นความประทับใจนะคะ”เขาปลาบปลื้มใจในคำตอบของเธอ จนอยากมอบจูบหวาน ๆ สักจูบสองจูบเพื่อเป็นรางวัล กำไลลูกปัดเส้นนี้ เขาซื้อให้เธอเมื่อครั้งไปฮันนีมูนครั้งแรก แม้เวลาจะผ่านมาหกปีแล้ว เธอก็ยังใส่ติดตัวไว้ตลอด แถมยังรักษาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย“ก็ได้ครับ ไม่ถอดก็ได้ งั้นผมใส่เส้นนี้ให้เลยแล้วกันนะครับที่รัก”ว่าแล้วสิบทิศก็สวมกำไลข้อมือราคาแพงให้ภรรยาคนสวย แล้วยกมือบางขึ้นจูบแผ่วเบา“ขอบคุณค่ะ ผิงก็มีของขวัญให้สามีของผิงเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนะคะ ขอผิงหยิบก่อน”ตรีชฎาวางช่อดอกกุหลาบ เดินไปหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้สามีสุดที่รัก ซึ่งเป็นปากกาด้ามทอง สลักชื่อเธอกับเขาไว้ด้วยกัน“ปากกาด้ามนี้ คุณสิบต้องเอาติดตัวตลอดนะคะ ผิงรักสามีที่สุดเลยค่ะ”เธอยื่นปากกาสวยหรูให้เขา โถมตัวกอดเขาด้วยความรักสุดหัวใจ แล้วจูบปลายคางอย่างออดอ้อน“ขอบคุณนะครับที่รัก เอ ผมให้ของขวัญผิงตั้งสองอย่าง แต่ผิงให้ผมแค่อย่างเดียวเองนะครับ”“อ้าว ผิงม
“ฮือ ๆ ฮือ ๆ”ไอ้เสือน้อยที่กำลังยื่นลูกโป่งให้น้องสาว หันไปตามเสียงสะอึกสะอื้น นัยน์ตาสุกใสเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น ร้องไห้งอแงไม่ยอมหยุด แถมที่หัวเข่าก็ถลอกแดงเหมือนหกล้ม เด็กชายสรวิศจึงรีบเดินเข้าไปหา ซึ่งเด็กหญิงสิราวรรณก็เดินตามไปด้วย“น้องหกล้มเหรอครับ เป็นอะไรมากไหม ขอพี่ผลดูหน่อยนะครับ”มือเล็กของไอ้เสือน้อยจับหัวเข่าของเด็กหญิงเพื่อสำรวจดู แต่ร่างเล็กก็สะดุ้งชักขาออกทันที“เจ็บ ฮือ ๆ ฮือ ๆ”เสียงเล็กใสสะอึกสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บ “พี่ผล เราจะทำยังไงกันดี น้องหกล้มจนหัวเข่าถลอกเลย อ้อ น้องผักบุ้งนึกออกแล้ว เดี๋ยวน้องผักบุ้งไปตามคุณพ่อคุณแม่มาดูน้องนะคะ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มเจื้อยแจ้วบอกพี่ชาย ก่อนจะรีบวิ่งไปตามบิดามารดาที่อยู่ในร้านไอศกรีม“ไม่ร้องนะครับคนเก่ง เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้วครับ”เด็กชายสรวิศปลอบประโลมเด็กหญิง เหมือนที่คุณพ่อกับคุณแม่ชอบปลอบเวลาเขาหกล้มเสมอ เมื่อเห็นน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าเล็ก มือน้อยจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อนักเรียน มาเช็ดน้ำตาให้เด็กหญิง“พี่ผล คุณพ่อกับคุณแม่มาแล้วค่ะ”น้องผักบุ้งวิ่
“รักเหรอครับ เหมือนที่น้องผลกับน้องผักบุ้ง รักคุณพ่อกับคุณแม่ใช่ไหมครับ”ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้มให้บิดามารดาอย่างน่ารัก มือหนาจึงเอื้อมมาลูบศีรษะทุยของลูกชายเบา ๆ“ไม่ใช่ครับลูก มันไม่เหมือนกัน รักของน้องมินที่มีให้น้องผล ก็เหมือนกับที่พ่อมีให้คุณแม่ไงครับ อืม เอาไว้น้องผลโตขึ้น เดี๋ยวน้องผลก็จะเข้าใจเอง หมดข้อสงสัยหรือยังเจ้าตัวแสบ ไปกินไอศกรีมกันดีกว่านะลูก”สิบทิศอุ้มเจ้าตัวแสบที่ยังคงทำหน้าสงสัยขึ้นรถ ตามด้วยลูกสาวคนสวย ก่อนจะเปิดประตูให้ภรรยาสาว ส่วนตัวเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นรถทางฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกจากโรงเรียนไปยังห้างสรรพสินค้าทันทีครอบครัวธาราธรณ์พากันมาร้านไอศกรีมที่ตกแต่งด้วยสีสันน่ารัก สิบทิศเลือกที่นั่งด้านใน ซึ่งเป็นโต๊ะโซฟายาว น้องผลนั่งฝั่งเดียวกับคุณพ่อสุดหล่อ ส่วนน้องผักบุ้งก็นั่งฝั่งเดียวกับคุณแม่คนสวย“พี่สาวคนสวยครับ น้องผลเอารสช็อกโกแลตนะครับ เอาแบบรูปนี้เลยครับ”เมื่อพนักงานในร้านมารับออร์เดอร์ เด็กชายสรวิศก็สั่งไอศกรีม พร้อมกับชี้รูปในเมนูให้ดู“น้องผักบุ้งจะทานไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีค่ะ เอาแบบเดียวกับพี่ผลด้วย”นางฟ้าน้อยบอกพนักงานเสิร์ฟเจื้อยแจ้ว“คุณแม่จะทานรสอ
“พี่ผล”เสียงเล็กใสของใครคนหนึ่งเรียกชื่อไอ้เสือน้อย เจ้าตัวเลยต้องหันไปตามเสียง แล้วส่งยิ้มให้คนที่ยืนเหนียมอายอยู่ตรงประตูห้องเรียน“อ้าว น้องมิน ยังไม่เข้าเรียนอีกเหรอ”เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามน้องมินที่เรียนอยู่คนละชั้นปีกับตน ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กในชุดกระโปรงแบบเดียวกับน้องสาว เด็กน้อยหางเปียติดกิ๊บรูปกระต่ายสีชมพู ยื่นดอกกุหลาบให้เด็กชายสรวิศ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าเด็กชาย“น้องมินให้พี่ผลค่ะ”ไอ้เสือน้อยเจ้าเสน่ห์ยื่นมือมารับดอกกุหลาบจากมือเล็ก เพียงเท่านั้นเด็กหญิงตัวเล็กก็รีบวิ่งหนีไปอย่างเขินอาย นัยน์ตาสีนิลมองตามหลังเด็กหญิงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมจะต้องวิ่งหนีเขาด้วยเวลาบ่ายสามโมง สิบทิศกับตรีชฎาก็มารับลูกชายลูกสาวเฉกเช่นทุกวัน ทั้งสองจะมารับลูกด้วยตัวเองเสมอ นอกเสียจากว่าวันไหนติดธุระไม่สามารถมารับลูก ๆ ได้ สิบทิศถึงจะส่งบอดี้การ์ดของเขามารับลูก ๆ แทนเจ้าหนูน้อยทั้งสองวิ่งมาหาคุณพ่อคุณแม่พร้อมด้วยของพะรุงพะรัง ไอ้เสือน้อยกับนางฟ้าน้อยหอมแก้มผู้เป็นบิดามารดา ก่อนจะถูกคุณพ่อยังหนุ่มกับคุณแม่ยังสาวหอมแก้มนุ่มนิ่มกลับคืน“น้องผล ของอะไรน่ะลูก ทำไมถือมาเต็มมือไปหมดอย่างนี