Chapter .2คำโกหกของแคทเทอรีนที่ย้ำให้ฟาเบียนโกรธจัด!!
ฟาเบียนเดินย้อนกลับมาที่โต๊ะ เขานิ่งไปและกำลังใช้ความคิด เขาควรถามแคทเทอรีนแบบไหนดี เธอถึงจะยอมพูดความจริง
“แคท...คุณมีอะไรจะบอกผมไหม?” เสียงเรียบสนิทจนแคทเทอรีนสะดุ้ง เธอเป็นวัวสันหลังหวะ มีความผิดติดตัวและยังหาทางออกไม่เจอ
“ไม่มีนะคะฟาเบียน แคทไม่มีอะไรจะบอกคุณเลย” เสียงตอบลุกลน มันย้ำให้ฟาเบียนแน่ใจ
แคทเทอรีนตัดสินใจปกปิดชายหนุ่มไว้ก่อน... เดี๋ยวค่อยคิดหาทางรอด ไอ้แหวนนั่นหน้าตาเป็นอย่างไรก็จำไม่ค่อยได้ แต่หากถามไปทางต้นสังกัดคนผลิต เขาน่าจะช่วยเธอแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ คิดได้แบบนั้นเธอจึงรู้สึกโล่งอกขึ้น พอจะคลี่ยิ้มอ่อนๆ ให้ฟาเบียนได้แบบสนิทใจ
“แต่ผมมีล่ะ แคท...ผมแน่ใจว่าหากพูดไป คุณจะต้องแปลกใจ”
“อะไรคะ? แคทงง”
“แหวนผมอยู่ไหน?” เสียงเครียดๆ กับแววตาจริงจัง จนแคทเทอรีนสะอึก เธอพึ่งจะคิดหาทางแก้ตัวออก แต่เขาดันทะลึ่งถามขึ้นมาเสียได้ เอาไงล่ะทีนี้
“แหวนวงไหนคะ แคทมีหลายวงอยู่นา ใส่สลับกันไปกันมาแก้เบื่อ” หญิงสาวยังพยายามเถ แม้จะเริ่มวิตก
“ผมรู้ว่าคุณรู้นะแคท”
“เอ่อ...” ใบหน้าซีดๆ กับแววตาลอกแลก เธอเสก้มหน้าหนี จนชายหนุ่มเริ่มฉุนจัด
“วง-ที่-ผม-ให้... วง-นั้น-สั่ง-ทำ-จาก Cartier”
ชายหนุ่มพูดช้าๆ ชัดๆ เสียงเครียด เขาจับตามองแคทเทอรีนแบบตาไม่กะพริบ
หญิงสาวกระอึกกระอัก เธอเร่งคิดหาทางรอดให้ตัวเอง เธอแสร้งยกมือขึ้นปิดหน้า แล้วจึงทำเสียงกระซิกกระซี้ เหมือนกำลังร่ำไห้ “ฟาเบียนแคท...แคท...ขอโทษ มันหายไป แคททำมันหายไปค่ะ”
เมื่อลดมือลง หยดน้ำตาเม็ดเล็กๆ ก็ไหลกลิ้งผ่านร่องแก้ม เพราะเธอแอบกดปลายเล็บ...ลงบนผิวเนื้อใต้ตาแรงๆ จนเจ็บจี๊ดๆ น้ำตาไหลมันก็ออกมาเอง และมันทำให้สีหน้าเคร่งเครียดของฟาเบียนดูดีขึ้น
เขากัดฟันกรอดๆ ยัยผู้หญิงสกปรกนั่น บังอาจมาขโมยแหวนวงสำคัญไปจากแคทเทอรีน หล่อนต้องโดนลงโทษ!!
“แคทขอโทษค่ะ...แคทไม่รู้ว่ามันหายไปตอนไหน? แคทกำลังตามหามันอยู่” เธอไม่ได้โกหกเธอไม่รู้จริงๆ ว่าทิ้งแหวนของฟาเบียนไว้ตรงไหน และเธอกำลังคิด...ที่จะตามหามันจริงๆ
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องร้องแล้วล่ะ ผมรู้แล้วว่าแหวนวงนั้นอยู่ไหน ผมจะเอามาคืนคุณเอง เก็บให้ดีๆ แล้วกัน”
ดีนะว่าแคทเทอรีนควบคุมสติได้ทัน... ไม่อย่างนั้นเธอคงพลัดตกเก้าอี้ ก็ที่ฟาเบียนพูดมา... เขาหามันเจอ...ที่ไหน? ยังไง?
“จริงเหรอคะ” เธอแสร้งทำเป็นตื่นเต้นดีใจ ทั้งที่ในใจยังคงกังขา
“อืม...” ชายหนุ่มพยักใบหน้ารับ เขาขมวดคิ้วเป็นปม ไอ้โจรสาวนั่นมาขโมยของแคทเทอรีนไปได้ยังไง ดูท่าทางโคตรสกปรก และไม่มีทีท่าว่าจะเฉียดเข้ามาในรัศมีของหญิงสาวได้ มันใช้วิธีอะไรนะ นั่นคือสิ่งที่ฟาเบียนอยากรู้?
ศินารายังคงรอ แม้ไม่ค่อยเห็นความหวัง เมื่อหญิงสาวแสนโสภาผู้นั้นไม่คิดที่จะเฉียดมาใกล้แถวๆ ห้องน้ำ แต่เธอก็อดทนรอ เมื่อมองไม่เห็นหนทางอื่น ไอ้ครันจะให้บุกเข้าไปคืนของเขาที่โต๊ะอาหาร เกรงว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ และอาจเกิดความเข้าใจผิด เธออาจจะถูกมองว่าเป็นคนร้าย เมื่อตัวเองไม่มีหลักฐานสักนิดที่จะแสดงถึงที่มาที่ไปของแหวนเจ้าปัญหา...หรืออีกนัยหนึ่ง เธออาจจะถูกไล่ออกจากงานที่ทำ เพราะไปก่อกวนลูกค้า VIP จึงขอปักหลังรออยู่ตรงนี้ดีกว่า
“ฉันเสียรายได้ก็เพราะคุณนะแคทเทอรีน แทนที่ฉันได้ได้ไปทำงานพิเศษต่อ กลับต้องมานั่งจับเจ่ารอคืนไอ้นี่ให้คุณ!! รู้อย่างนี้ไม่น่าเก็บมันมาตั้งแต่แรกก็ดี แกเป็นตัวป่วนสำหรับฉันเชียวนะ ถึงจะสวยฉันก็ไม่ให้อภัย”
หญิงสาวพึมพำเบาๆ เธอขยับตัวหลายครั้งแล้ว ก็ขดตัวหลบอยู่แบบนี้มันสบายที่ไหนกันล่ะ มันทั้งปวดทั้งเมื่อย แสนจะอึดอัด แต่เธอก็จำเป็นต้องทน จะให้ทำยังไงได้ เมื่อมันไม่ใช่ของตัวเอง แหวนสูงค่านี่มันมีเจ้าของ ที่สำคัญมันมีราคาค่างวด แพงระยับจนคนจนๆ อย่างเธอไม่สมควรเก็บเอาไว้เอง
“อีกสามสิบนาที ถ้าคุณยังไม่ออกมานะแคทเทอรีน ฉันต้องถอนตัวล่ะ สักวันคงได้คืน แต่คงก่อนที่ฉันจะกลับประเทศไทย” เธอพึมพำเสียงเหนื่อยหน่าย ตามองนาฬิกาเรือนเล็ก ที่ราคาแค่หยิบมือ แต่การทำงานของมันคุ้มค่า
เธอคิดในใจ...ดีนะว่าการสอบของเธอเสร็จลงเสียที หลังจากบากบั่นมาเป็นปีๆ แล้วเธอเชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้และคงผ่านไปด้วยดี...ช่งเวลาที่รอคอยขยับเข้าใกล้อีกนิด ช่วงนี้เธอต้องทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้ตัวเองมีเงินติดก้นกระเป๋ามากพอสมควร ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านเกิด เพื่อไปกลับไปรับใช้แทนคุณผู้อุปการคุณทุกท่าน ด้วยการทำงานเต็มความสามารถที่มีให้สมกับที่เขาวางใจ มอบทุนการศึกษาให้เธอมาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อกลับไปพัฒนาประเทศของตัวเอง ให้ก้าวทันประเทศเพื่อนบ้าน ความหวังของเธอใกล้จะเป็นความจริง เธอกำลังจะสำเร็จการศึกษา!! แค่คิดก็มีความสุข จนศินาราสามารถอยู่รอแคทเทอรีนได้อีกหน่อย เธอจะได้กลับบ้านเกิดของตัวเองอย่างสบายใจขึ้น
อัญมณีสวยๆ เหมาะกับคนสวยคนงาม มันไม่เหมาะกับผู้หญิงซุ่มซ่ามแล้วก็หาความสวยความงามไม่เจอ แม้จะเพ่งพินิจอยู่นานแสนนาน...
สามสิบนาทีผ่านไป ก็ยังคงไร้วี่แววของแคทเทอรีน เธอคงต้องหาวิธีใหม่เพื่อที่จะคืนของสำคัญให้กับหล่อน วันนี้คงต้องพักไว้แค่นี้ เอ...หรือเธอควรจะฝากใครสักคนเข้าไปคืนดี เธอไม่อยากเก็บไว้นาน กลัวเกิดเหตุผิดพลาด และหากมีโจรปล้น เธอจะเอาที่ไหนไปคืนเขาดีล่ะ ที่สำคัญเธอไว้ใจใครได้ เมื่อมันเป็นของมีราคาและหากไม่ถึงมือเจ้าหล่อนเธอก็คงไม่สบายใจ
“เอาน่าศิริน สักวันคงได้คืน ไปทำมาหากินได้แล้ว เสียเวลาไปโขแล้วนะเธอ” หญิงสาวกล่าวให้กำลังใจตัวเอง มันไม่ใช่ของๆ เธอ และตั้งใจจะคืน สักวันคงมีโอกาส และคงต้องหาวิธีใหม่ เธอน่าจะเอาไปให้เขาที่บ้านนะ ทำไมคิดให้ได้ก่อนน่านี้ เก็บไว้กับตัวเสียหลายวัน เพราะหากนำไปมอบที่บ้านเจ้าหล่อน ของนี้มันน่าจะถึงมือ
เมื่อใคร่ครวญหาวิธีการคืนได้ ศินาราจึงสบายใจขึ้น เธอลุกขึ้นยืนบิดซ้ายบิดขวา ไล่อาการปวดเมื่อยที่คงค้าง แล้วจึงออกเดินไปข้างหน้า…เพื่อไปทำมาหากิน หลังจาเสียเวลาไปกับเรื่องวุ่นวายเกินกว่าที่ตัวเองตั้งใจ โดยมีใครบางคนจับตามองและก้าวเดินตามไปติดๆ โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว
บอดี้การ์ด : ‘เจ้านายครับ หล่อนกำลังจะออกไปแล้วครับ’
มีข้อความส่งเข้ามาในไลน์ส่วนตัวของฟาเบียน ชายหนุ่มเปิดอ่าน เขากดข้อความย้อนกลับไปทันที
ฟาเบียน : ‘ตาม...’
คำสั่งง่ายๆ แต่คือเรื่องสำคัญ ชายผู้นั้นตามติดศินาราแบบไม่ให้คราดสายตา และรายงานความคืบหน้าให้ฟาเบียนรับทราบเป็นระยะๆ
ชายหนุ่มวางหน้านิ่งสนิท จนแม้แต่แคทเทอรีนที่อยู่ใกล้ยังไม่รู้ หลังจากรับประทานอาหารอิ่มหน่ำดี จึงแยกย้ายกันกลับ แคทเทอรีนแยกตัวไป ทันทีที่อยู่บนรถยนต์ส่วนตัว สาวเจ้ายกมือขึ้นทุบเบาะนุ่มๆ ใบหน้าเคร่งเครียด กลัวว่าฟาเบียนจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนโยนแหวนของเขาทิ้ง ก็เธอหึง!! จนขาดสติ จนทนเห็นสิ่งที่ชายหนุ่มมอบให้ไม่ได้ หลังจากทิ้งไปแล้วเธอก็ดีขึ้น เมื่อฟาเบียนไม่ใช่คนโรแมนติกหรือละเอียดอ่อนเท่าไรเขาคงจำไม่ได้หรอก...แต่เธอคิดผิด...
แล้วจู่ๆ ทำไมเขาถึงถามหาของๆ เขาขึ้นมา?
ฟาเบียนรู้ได้ยังไงว่ามันหายไป!!
“ช่วยไม่ได้นะคะ...คุณทำตัวเองฟาเบียน” คนอย่างแคทเทอรีน ฟลอเรีย เธอต้องเป็นที่หนึ่ง ไม่ใช่คู่ควงชั่วคราว หรือเป็นตัวเลือกของใคร!!
หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น เธอโบกมือให้สารถีเคลื่อนรถยนต์ออกไปจากที่ ปล่อยใจไปตามสายลม และหาทางรอดให้ตัวเอง เมื่อฟาเบียนคือคนที่ตัวเองแคร์ เขาทำตัวสม่ำเสมอ ถึงจะไม่ถึงกับยกย่องเชิดชู แต่เขาก็คงให้เกียรติเธอเสมอ แม้เขาจะมีคู่ควงมากหน้าหลายตา และไอ้บรรดาคู่ควงของเขานั่นแหละ ที่ทำให้เธอฉุนเฉียวบ่อยๆ แต่ไม่เคยแสดงออกให้ฟาเบียนเห็นสักที สิ่งที่เขาเห็นด้วยสายตาตัวเอง เธอจะงดงาม แล้วก็สุภาพอ่อนโยน วางตัวเป็นดอกไม้สูงค่า คู่ควรกับการปักลงในแจกันทอง และฝ้ารอให้ฟาเบียนเอ่ยปากขอแต่งงานมาหลายปี แต่ความหวังของเธอยังมาไม่ถึงเสียที
“แคทไม่มีทางเสียคุณให้กับอีหน้าไหนเด็ดขาด!! ฟาเบียน”
มุมปากสีสดแสยะยิ้ม เธอกระซิบเสียงเคร่งเครียด และตั้งใจให้เป็นแบบนั้น เธอไม่มีวันปล่อยผู้ชายเพอร์เฟค สมบูรณ์พร้อมแบบฟาเบียนให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น แล้วยิ่งเขาไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนนานเท่าเธอ แคทเทอรีนก็ยิ่งมั่นใจ ว่าตัวเองอาจจะเป็นคนที่ชายหนุ่มขอแต่งงาน
Fabian Dorothy.
CEO.
ป้ายหน้าห้องทำงานของชายหนุ่ม ยังคงความขลัง เพราะหากใครก็ตามที่ก้าวล่วงเข้าไปภายใน เขาจะสั่นเทา เหมือนกับว่าอากาศรอบตัวเย็นเฉียบ บวกกับสายตาคมเฉียบของฟาเบียนด้วยแล้ว ยิ่งมีความผิดติดตัว เขาจะคายมันออกมาโดยที่เจ้าของห้องไม่ต้องไต่ถาม
แต่หนุ่มคนเดียวที่ไม่เคยกลัว... ยามเมื่อล่วงล้ำเข้าไปในห้องทำงานของฟาเบียน อเดล (เอ็ด) คอนนอร์ เพื่อนสนิทที่รู้ใจชายหนุ่มที่สุด เพราะคบค้ากันมานาน รู้ไส้รู้พุงทุกขดของฟาเบียน และนิสัยก็เหมือนกัน นิยมชมชอบอยู่กลางวงล้อมผู้หญิง มีแอลกอฮอล์กลั้วปาก และสนุกสนานไปกับรสหอมหวานของเปลวไฟพิศวาส เกลือกกลั้วกับนวลนางอวบอึ๋ม
“สวัสดีเพื่อนเลิฟ วันนี้ไม่ไปหายาหยีหรือไงว่ะ”
อเดลโผล่พรวดพราดเข้าไปในห้อง เขาไม่เคยที่จะหยุดเคาะประตู เพื่อแจ้งให้คนข้างในรับรู้
ฟาเบียนวางปากกาในมือลงข้างตัว เขาเงยหน้าขึ้นและมองคนที่เข้ามาด้วยสายตาตำหนิ
“อย่ามามองผมแบบนั้นเลยท่านฟาเบียนผู้ยิ่งใหญ่ ผมไม่ใช่เด็กอนุบาลที่ต้องมีสัมมาคารวะ...และในห้องทำงานของคุณ!! ไม่น่าจะมีอะไรแอบซ่อน...เอ...หรือว่ามี?”
ชายหนุ่มลุคเถื่อนๆ ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาชุดรับแขก เขาตวัดปลายเท้าขึ้นวางไว้บนโต๊ะเตี้ยๆ และเอนตัวนอน พรางพริ้มเปลือกตาหลุบลง เหมือนจะนอนหลับพักผ่อน
“ไปอดนอนที่ไหนมาว่ะ เอ็ด!! ดูเหมือนคุณจะเพลียพิกล”
“เมื่อคืนฉายเดี่ยวน่ะฟาเบียน เลยควบสอง แม่สองสาวนั่นรีดพลังงานในร่างกายของผมเกือบหมด เด็ดดวงฉิบหายเลยคุณ” อเดลพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา เขาเสียงแตกพร่า เมื่อนึกถึงน้องนางสองสาว ที่พึ่งจะฟาดฟันกันมาทั้งคืน!!
“โอ...มีแม่ม้าป่าแสนพยศ หล่อนมีความสามารถมากเลยนะนี่ น่าตบรางวัลให้ชะมัด!! นางสามารถรีดพิษของคุณจนเกือบหมดและสภาพสะบักสะบอมแบบนี้ น่านับถือๆ” ฟาเบียนส่ายใบหน้า เขาโชกโชนพอตัว แต่ไม่ได้หลงใหลกลิ่นเนื้อนางเหมือนอเดล ไอ้หมอนี่ออกย่ำราตรีทุกคืน!! หิ้วผู้หญิงกลับไปสำเริงสำราญมากกว่าหนึ่งเสมอ และยังใช้ชีวิตผาดโผน ไร้คู่ควงข้างกาย จนบางครั้งฟาเบียนคิดว่าอเดลคงไม่มีหัวใจ
“ผมมีหลายก๊อกน่า...ไม่มีใครทำให้ผมสิ้นฤทธิ์หรอก เพียงแต่มันเพลียเพราะควบหนัก แค่พักเดี๋ยวเดียวก็หาย”
ชายหนุ่มกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เขายกมือขึ้นเสยผมบนศีรษะแรงๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มให้เพื่อนรัก
“ยังไม่ตอบผมเลยนะฟาเบียน วันนี้ไม่ไปหาแม่ยอดยาหยีของคุณอีกเหรอ”
“กาแฟสักแก้วไหม? เอ็ด”
ฟาเบียนไม่ตอบเขาถามกลับและอเดลพยักใบหน้ารับ เขาลุกขึ้นยืนเดินมาอิงสะโพกกับขอบโต๊ะทำงาน พรางชะโงกหน้ามองจอคอมพิวเตอร์ที่มีแต่เส้นกราฟวุ่นวาย
“ชีวิตคุณนี่มีแต่การทำงาน และมันน่าปวดหัวฉิบ!!”
หนุ่มหล่อพ่อรวย มีสมบัติกองท่วมศีรษะตั้งแต่แรกเกิดบ่นอุบ เขามองตัวเลขและเส้นกราฟที่เคลื่อนไหวแบบเซงๆ จะให้ทำงานจนหัวปั่นแบบฟาเบียนคงไม่ไหว มันไม่ใช่แนวถนัด เอดลชอบศิลปะ เขาเป็นนักวาดภาพที่มีคนชื่นชอบ และภาพของเขาขายได้ราคา แม้เจ้าตัวจะทำเพราะรักสนุก เป็นงานอดิเรกมากกว่าจริงจัง...อีกอย่างเขาไม่ใช่ลูกรัก เป็นลูกชายคนที่สอง เลยเรื่อยเปื่อยตามเรื่องตามราว ทำอะไรอย่างที่ตัวเองต้องการ เพราะกิจการทางบ้าน มีคนคอยสารต่อเสียแล้ว
“ผมลูกคนเดียวนี่ ผมไม่ทำแล้วใครจะทำ!!” ชายหนุ่มตอบเสียงนิ่ง เขากดเปิดหน้าจอโทรศัพท์ เมื่อมีสัญญาณเตือนข้องความไลน์เข้า
บอดี้การ์ด: ‘เธอไปทำงานอีกที่ครับ ไม่มีทีท่าว่าจะเอาแหวนไปขาย จะให้ทำยังไงต่อ’
ข้อความสั้นๆ ระบุแหล่งของคนส่งมา เขากดตอบแล้วจึงหันไปสนใจเพื่อนชายตรงหน้า เรื่องขี้ผงแค่จับขโมย คงไม่ต้องลงมือเอง
ฟาเบียน : ‘จับตัวมาเลย...ฉันอยากฟังจากปากหล่อน หล่อนฉกแหวนไปจากแคทเทอรีนได้ยังไง’
“ดูเหมือนจะยุ่งนะฟาเบียน?”อเดลยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเขาเหลือบมองเพื่อนรักสลับกับการมองจอคอมพิวเตอร์
“มีเรื่องยุ่งนิดหน่อย แต่คุณคิดว่าไงสำหรับผลกำไรของไตรมาสนี้”
ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ เขารู้ว่าอเดลไอคิวสูง แต่ไอ้หมอนี่ไม่ชอบแสดงออก มันชอบปิดเป็นความลับว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ แกล้งบังหน้าทุกคนด้วยความเสเพล ทำตัวไร้แก่นสาร เพราะไม่อยากถูกบังคับไปทำงาน ปิดบังอำพรางด้วยการเป็นศิลปิน แต่ไอ้รูปวาดพิลึกพิลั่น นั่นกลับมีคนชอบ และทำเงินให้อเดลไม่ใช่น้อย
“น้อยไปนิดนะ สำหรับฝีมือคุณ มีปัญหาเหรอ”
แค่เห็นเส้นกราฟ อเดลกลับมองเห็นถึงการขยับขึ้นลง เขาสามารถตีตรงจุดและมันเป็นความจริง
“อืม...มีสินค้าหลายตัวด้อยกว่าคุณภาพที่ตกลงกันไว้ โดนตีกลับและถูกปรับหลายครั้ง กำไรมันเลยน้อยลง”
“คุณก็น่าจะหาคนที่ไว้ใจได้ให้ทำแทน จะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบตรงส่วนนี้ เป็นเสือนอนกินดีกว่า เพราะลูกค้าของคุณก็มุ่งเป้ามาที่องค์กรขนาดใหญ่ คุณก็แค่โยนชิ้นเนื้อให้บริษัทเล็กๆ แต่ปัดความรับผิดชอบไปให้เขาแทน ปัญหาพวกนี้ก็จะหมดไปเอง...ไม่ต้องเสี่ยง รับเงินเข้ากระเป๋าเหน็ดๆ”
ฟาเบียนคลี่ยิ้ม ไอ้หมอนี่เหมาะสำหรับการบริหารเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่ชอบเสียอีก
“เบื่อวาดรูปเมื่อไร มาเป็นที่ปรึกษาให้ผมนะเอ็ด”
“ไม่เอาหรอก เบื่อตายห่า!! มีแต่ตัวเลขกับการเร่งหาผลกำไร”
อเดลส่ายหน้าเดี๊ยะ!! เขาเบื่อที่จะต้องปรับตัวตามเศรษฐกิจโลก ต้องคิดหาทางทำผลกำไรให้เพิ่มขึ้นทุกวัน เพื่อความสบายใจของผู้ถือหุ้น...มันไม่สนุกเท่าได้ปลดปล่อยความเครียดของตัวเองลงบนแผ่นฟิล์ม วาดระบายอย่างที่ตัวเองชอบและมีคนมองเห็นคุณค่า
“เดี๋ยวผมวาดรูปมาให้คุณสักรูปดีกว่าฟาเบียน ห้องทำงานคุณ ดูทึมๆ แล้วก็เงียบเหงาพิกล”
“อย่าเลยเอ็ด!! ขอรับด้วยใจ รูปคุณน่ะผมมองทีไรปวดหัวทุกที”
“เขาเรียกแอบสแตรกมันมีความหมายในตัวของมันเอง คุณนี่ไม่มีหัวใจให้ศิลปะเล๊ย!!”
“ขอบใจอีกครั้งแล้วกัน...แต่ไม่เอา”
ฟาเบียนปฏิเสธหน้าตาย เขาไม่อยากตาลายเพราะลวดลายวกวน
“วาดรูปคนก็ได้ รอให้เจอนางแบบดีๆ ผมจะวาดให้คุณประดับห้อง เอาให้ใครเข้ามาเห็นต้องเอาไปลือเลยเชียวแหละ”
“รูปโป้ล่ะซี!! ของชอบของคุณน่ะ”
“มันไม่ได้วาดกันง่ายๆ นะฟาเบียนมันต้องมีแรงบันดาลใจ!!”
อเดลพูดขึงขัง การจรดปลายพู่กันลงบนแผ่นฟิล์ม มันต้องมีแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้น ยิ่งเป็นภาพที่สื่ออารมณ์ด้วยแล้วมันยิ่งทวีความยากมากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องหาแรงกระตุ้นที่มีพลังมากพอและอเดลยังไม่เคยเจอใครสักคนที่สามารถจุดประกายนั้นให้กับเขาได้
Chapter .4 ของฉัน!! ห้ามยุ่ง “ไม่เอาน่าไอ้ริน ไม่ร้องสิ เข้มแข็งไว้” ศินารากระซิบปลอบใจตัวเอง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง “เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ผ่านไปเองแหละน่า เราไม่ได้ขโมยของเขามาสักหน่อย” น้ำร้อนๆ ไหลเอ่อจ่อที่หัวตา เธอยกมือขึ้นกรีดน้ำตาและเชิดหน้าขึ้น สักวันความจริงต้องปรากฏ เมื่อเธอไม่ใช่คนผิด อีกอย่างน้ำตาไม่ได้ช่วยให้เรื่องคลี่คลายลงได้ มันต้องใช้ปัญญา เธอต้องหาทางเอาตัวรอดเอง!! “ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ คุณได้ของๆ คุณคืนไปแล้ว เมื่อไรจะปล่อยฉันเสียทีล่ะ” ศินาราเปิดฉากฉะ!! เมื่อฟาเบียนโผล่หน้าเข้ามาภายในห้องอีกครั้ง หลังจากเธอหลับยาวและพึ่งตื่น “ยังหาคว
Chapter .3 คุมขัง ศิรินราถูกคนแปลกหน้าโป๊ะยาสลบ และก่อนที่ดวงตาจะดับวูบลง เธอคิดถึงแต่พ่อแก้วแม่แก้ว มือเรียวบางรีบตะปบกระเป๋าเสื้อโค๊ดแน่น เธอกลัวว่าโจรจะขโมยแหวนไป เพราะตัวเองคงไม่มีปัญญาหาของแพงๆ มาคืนเจ้าของได้แน่ เธอภาวนาในใจขอให้มันมองไม่เห็น สมบัติติดตัวอย่างอื่นเธอไม่เสียดาย อยากได้อะไรเชิญเอาไปได้เลย เมื่อทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินแค่ไม่กี่เหรียญ...มีของสำคัญแค่แหวนล้ำค่านั่น วงเดียว... เปลือกตากะพริบถี่ๆ อีกครั้งก่อนจะเปิดขึ้น เธอทะลึ่งพรวด!! ขึ้นนั่ง... เหลียวมองรอบกายด้วยความหวาดกลัว รีบก้มหน้ามองสภาพร่างกายของตัวเอง... ก่อนจะถอนลมหายใจพรวดๆ เมื่อสภาพตัวเองยังอยู่ครบ เสื้อผ้าไม่ได้ถูกถอด...แต่แหวนหายไป!! เธอถูกจับตัวมา จากคนแปลกหน้า? แล้วก็ถึงบางอ้อ เมื่อคนๆ นั้นเปิดเผยตัวตน... ฟาเบียน โ
Chapter .2คำโกหกของแคทเทอรีนที่ย้ำให้ฟาเบียนโกรธจัด!! ฟาเบียนเดินย้อนกลับมาที่โต๊ะ เขานิ่งไปและกำลังใช้ความคิด เขาควรถามแคทเทอรีนแบบไหนดี เธอถึงจะยอมพูดความจริง “แคท...คุณมีอะไรจะบอกผมไหม?” เสียงเรียบสนิทจนแคทเทอรีนสะดุ้ง เธอเป็นวัวสันหลังหวะ มีความผิดติดตัวและยังหาทางออกไม่เจอ “ไม่มีนะคะฟาเบียน แคทไม่มีอะไรจะบอกคุณเลย” เสียงตอบลุกลน มันย้ำให้ฟาเบียนแน่ใจแคทเทอรีนตัดสินใจปกปิดชายหนุ่มไว้ก่อน... เดี๋ยวค่อยคิดหาทางรอด ไอ้แหวนนั่นหน้าตาเป็นอย่างไรก็จำไม่ค่อยได้ แต่หากถามไปทางต้นสังกัดคนผลิต เขาน่าจะช่วยเธอแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ คิดได้แบบนั้นเธอจึงรู้สึกโล่งอกขึ้น พอจะคลี่ยิ้มอ่อนๆ ให้ฟาเบียนได้แบบสนิทใจ “แต่ผมมีล่ะ แคท...ผมแน่ใจว่าหากพูดไป คุณจะต้องแปลกใจ” “อะไรคะ? แคทงง” “แหวนผมอยู่ไหน?” เสียงเครียดๆ กับแววตาจริงจัง จนแคทเทอรีนสะอึก เธอพึ่งจะคิดหาทางแก้ตัวออก แต่เขาดันทะลึ่งถามขึ้นมาเสียได้ เอาไงล่ะทีนี้ “แหวนวงไหนคะ แคทมีหลายวงอยู่นา ใส่สลับกันไปกันมาแก้เบื่อ” หญิงสาวยังพยายามเถ แม้จะเริ่มวิตก “ผมรู้ว่าคุณรู้
Chapter .1 ‘Cartier’ แหวนใครหว่า? ไอ้ที่เห็นส่องแสงวิบๆ วับๆ นี่ มันใช่เพชรเปล่าหว่า? ศินารานั่งจ้องตาโปน เธอขมวดคิ้วเป็นปม มองประกายแสงที่ส่องวิบๆ วับๆ ออกมาจากถังขยะตาเขม็ง!! หลังรถยนต์สปอร์ตสุดหรูมาจอดเทียบสักพัก... ก่อนจะวิ่งฉิวออกไปและมีแสงวิบวับนั่นให้เธอเห็น เธอไม่เข้าใจคนรวยเท่าไรหรอก? สงสัยนางจะทะเลาะกับสามี... ถึงได้โยนสัญญาลักษณ์แทนใจของเขาทิ้งเพื่อประชด มันทำให้คนไม่มีจะกินแบบเธอลำบากใจ เพราะเธอเห็นเต็มสองตาว่าใครเป็นคนทิ้ง!! แคทเทอรีน ฟลอเรีย!!... ผู้หญิงสาวที่คนครึ่งฝรั่งเศสอิจฉา... หล่อนเกิดมาพร้อมกับรูปโฉมลออองค์ แถมพ่วงด้วยทรัพย์สินมากมายก่ายกอง แคทเทอรีน ฟลอเรียบุตรสาวของตระกูลฟลอเรียผู้ยิ่งใหญ่ศินาราเดินตรงไปยังแสงระยิบระยับ เธอหยิบไอ้ที่ส่องแสงขึ้นมาจากถังขยะ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ‘ไอ้หย๋า!!’ ของในมือเอนี่มันคือหนึ่งในคลอเลคชั่นใหม่ของ ‘Cartier’ Diamonds in the new film from Cartier ที่พึ่งเปิดตัวไม่นาน สะท้านสะเทือนกระฉ่อนโลกนี่หว่า แหวนนี่...เป็นเซ็ตเดียวที่ถูกสร้างขึ้นมาให้กับมหาเศรษฐีรูปงาม นามฟาเบียน โดโรธีย์ แต่เขาอนุญาตให้ตีแผ่ให้ชาวโลกเห