นิลกาฬหันขวับ ทำตาขวางใส่คนปากเสียที่ไม่ว่าจะผ่านกี่ปีต่อกี่ปีก็ยังชอบกัดเธออยู่เสมอ
วูบหนึ่งเธอนึกอยากจะด่าเขาสักยกให้ลืมบ้านเลขที่บ้านไปเลย แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เธอเป็นฝ่ายผิด แถมอีกฝ่ายก็ยอมสละเครื่องดื่มให้ก่อน สุดท้ายจึงกลืนคำด่าลงท้อง
พร้อมกันนั้นก็พร่ำบอกตัวเองว่า อย่า! ในร้านกาแฟมีคนอื่นอยู่เยอะแยะ เธอต้องรักษาภาพพจน์หมอที่ดี อ้อ แล้วอีกอย่างคือคนแบบหมอนี่ ด่าไปก็เหนื่อยเปล่า ไม่สะทกสะเทือนหรอก!
นิลกาฬหยิบถุงกระดาษที่บรรจุมัฟฟิน สะบัดหน้าให้รู้ว่าไม่พอใจก่อนจะก้าวเดินตรงไปยังประตูร้านโดยไม่พูดอะไรต่อ ทว่ายังไม่ทันได้ออกไปไหน คนที่เพิ่งชวนเธอไปทานข้าวเที่ยงก็ผลักประตูสวนเข้ามาพอดี
“อ้าว หมอนิล ยังไม่ได้ไปทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนเหรอครับ”
หมอสาวเผลอทำหน้าเลิ่กลั่กคล้ายเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้ จะอ้างว่ากินแล้วระยะเวลาก็ไม่เป็นใจ แถมในมือยังมีถุงขนมห้อยอีก เธอเลยได้แต่ยิ้มเจื่อน หันซ้ายหันขวาอย่างคนประกอบหน้าไม่ถูก
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวตอนสายตาเบนไปสบกับคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ
เอาวะ! อย่างน้อยก็จะได้ทีเดียวจบ ไม่ต้องมาตอแยกันอีก
“อ้อ นิลกำลังจะไปค่ะ พอดีแวะมาซื้อของว่างรองท้องนิดหน่อย”
นิลกาฬร้องบอกเสียงใสจากนั้นก็เอี้ยวหน้าไปฉีกยิ้มกว้าง คว้าแขนคู่กัดมากอด ทำเอาคชาถึงกับสะดุ้งตกใจที่จู่ ๆ หมอสาวทำท่าออดอ้อนใส่ ทั้งยังซบศีรษะลงบนไหล่ของเขาอีกด้วย
“อย่าเพิ่ง”
นิลกาฬเค้นเสียงลอดไรฟันพลางเหล่ตาปรามขณะส่งข้อความ เพราะหากอีกฝ่ายสะบัดแขนเธอทิ้ง ความลับแตกโพล๊ะแน่ ๆ
“นี่เพื่อนหมอนิลเหรอครับ”
คำถามของอดีตคนไข้ทำให้หมอสาวละสายตาจากคนข้าง ๆ หันไปพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เอ่อ ค่ะ จริง ๆ แล้วก็กำลังคุย ๆ กันอยู่” ว่าแล้วก็ทำเป็นเสหลบสายตาอย่างคนเขินอาย
คชาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ปฏิกิริยาของหมอสาวและชายอีกคนทำให้เขาเริ่มเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น เขาจึงขืนแรง แกะมือเรียวออกจากท่อนแขนก่อนจะย้ายไปตวัดรอบเอว รั้งตัวเธอเข้ามากอดแนบชิด
นิลกาฬตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าคนข้าง ๆ จะยอมเล่นตามน้ำ แต่ไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ก็ได้ไหม ทำไมต้องโอบซะแน่นด้วย อีกนิดเธอตัวจะแบนติดกับแผงอกเขาอยู่แล้ว
“ผมคชาครับ เป็นแฟนหมอนิล”
คชาแนะนำตัว เน้นเสียงที่ประโยคหลังเป็นพิเศษจากนั้นก็โน้มตัวเข้าไปหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่เพื่อความสมจริง โดยไม่สนเลยว่าการกระทำนี้จะทำให้มีคนตกใจกี่คน
“นี่!”
คนโดนขโมยหอมแก้มอย่างไม่ทันตั้งตัวตวาดแว้ด ฟาดมือเข้าที่แผงอกกว้างเสียงดัง แต่พอสบเข้ากับสายตาประหลาดใจของชายอีกคนเธอก็ได้สติ รีบหัวเราะกลบเกลื่อน แสร้งทำเป็นเขินอาย
“คือ... คนเยอะแยะนะ อายเค้า”
นิลกาฬบังคับริมฝีปากให้ยิ้ม เอนศีรษะลงซบไหล่คนข้าง ๆ ก่อนอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครมองเห็น หยิกเข้าที่สีข้างเขาอย่างแรงเป็นการตอบโต้
ฮึ! อย่าคิดว่าจะมาหาเศษหาเลยกับคนอย่างเธอได้ง่าย ๆ!
และเพื่อป้องกันไม่ให้มีคนทำตัวรุ่มร่ามใส่อีกนิลกาฬจึงขอปลีกตัวโดยใช้ความหิวมาเป็นข้ออ้าง
ท็อปจำต้องเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้ทั้งสองเดินออกจากร้านอย่างเสียไม่ได้ เหลียวมองตามอย่างนึกเสียดายที่เจอเธอช้าไป ก็นึกอยู่แล้วเชียวว่าทำไมเธอถึงพยายามบ่ายเบี่ยงเขามาโดยตลอด ที่แท้ก็มีแฟนแล้วหนำซ้ำยังดูรักกันดีเสียด้วย
เฮ้อ ครั้งนี้เขาคงหมดหวังแล้วจริง ๆ
“นี่! ปล่อยฉันได้แล้ว”
ทันทีที่พ้นระยะการได้ยินของเป้าหมายนิลกาฬก็หันมามองดุ หากอีกคนกลับโอบเธอแน่นไม่ยอมปล่อย
“หมอนั่นยังไม่เลิกมองเลย ถ้าปล่อยก็ความแตกดิ”
คชาบุ้ยใบ้ไปด้านหลัง นิลกาฬเลยเหลียวหลังไปมอง พอพบว่าเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ เธอจึงยอมให้เขาโอบกอดต่อไปถึงใจจะไม่อยากทำเท่าไรนัก
“เชื่อหรือยังครับคุณแฟน”
“รู้แล้ว อ๊ะ”
เพราะมัวแต่คิดว่าเมื่อไรจะจบเรื่องในตอนได้ยินคำถามประชิดใบหูนิลกาฬจึงเผลอหันไปตอบ ส่งผลให้ปลายจมูกของคชาที่โน้มตัวเข้าไปหาอย่างอดใจไม่ไหวฝังเข้าที่พวงแก้มอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งสองพลันชะงักฝีเท้า คนหนึ่งตื่นตกใจ ส่วนอีกคนนั้นแทบคลั่ง กลิ่นกายสาวและความนุ่มนิ่มที่ได้รับ ยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากเข้าใกล้เธออีกครั้ง
และเพียงแค่คิด ร่างกายก็ขยับไปตามที่ใจอยาก
“อื้อ!” ตอนนั้นเองนิลกาฬจึงได้สติ “นะ..นาย นายมาหอมแก้มฉันทำไมเนี่ย มันจะมากไปแล้วนะ”
ไม่รอให้พ้นสายตาใครอีกคน หญิงสาวสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรง ง้างมือขึ้นหมายจะฟาดเข้าคนชอบฉวยโอกาสสักที หากแต่อีกฝ่ายนั้นไวกว่า คว้าข้อมือของเธอเอาไว้แน่น
“จุ๊ ๆ คนเขาอุตส่าห์ช่วย จะตอบแทนกันแบบนี้จริง ๆ เหรอ”
“ก็นายมันรุ่มร่าม!”
คชาอมยิ้ม กระชากข้อมือคนตัวเล็กจนเธอเสียหลัก เซเข้ามาชนกับแผงอกกว้าง
“งั้นก็ลองทำสิ” เขาสบกับแววตาวูบไหวของเธอแล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นจนห่างกันแค่คืบเดียว “แต่บอกก่อนว่า ฉันเอาคืนนะ”
พูดจบก็เบนสายตาไปมองที่ริมฝีปากอวบอิ่ม สื่อให้รู้ว่าเขาจะเอาคืนแบบไหน แต่ให้ตายเถอะว่ะ พอมองใกล้ ๆ แบบนี้แล้ว ชักอยากโดนตบขึ้นมาเฉยเลย!
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจหนัก ๆ คลายมือแล้วผละออกห่างก่อนที่จะเผลอทำตามที่ขู่เข้าจริง ๆ กระนั้นก็ยังไม่วายส่งยักคิ้วหลิ่วตาตามแบบฉบับคนกวนก่อนจากไป
นิลกาฬเม้มปากแน่น ยังยืนนิ่งอยู่กับที่แม้ใครอีกคนจะจากไปนานแล้ว หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ทั้งคำขู่ ทั้งสายตาร้อนแรงที่มองมานั้นทำเอาเธอร้อนวูบวาบอย่างประหลาด
บ้าน่า มันก็แค่คำพูดอวดดีของคนปากเสียเท่านั้นแหละ ตลอดสองปีที่รู้จักกันเขาก็ดีแต่ปากมาตลอด
ใช่ เขาไม่ทำหรอก
“จีน่า? คชาคะ? เนคไทด์เบี้ยว? ยัยนี่สินะที่เป็นเจ้าของรอยลิปสติกวันนั้น เหอะ!”นิลกาฬลดมือลงมาข้างตัวพลางนึกภาพจิตนาการตามสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไปด้วย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น มือเล็กออกแรงบีบโทรศัพท์ในมือมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก“หมอนิลคะ”“....”“หมอนิล!”นิลกาฬสะดุ้งเล็กน้อยพลางหันมองตามเสียงเรียกด้วยสีหน้างุนงง ริมฝีปากคลี่ยิ้มละมุนเมื่อพบว่าเป็นพี่ณา รุ่นพี่พยาบาลที่ทำงานอยู่ห้องฉุกเฉินนั่นเอง“รถบัสมาแล้วค่ะ มีอะไรให้พี่ช่วยยกขึ้นรถไหมคะ”“อ่อ ไม่มีหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ”หมอสาวคลี่ยิ้มจริงใจให้รุ่นพี่ ก่อนจะเดินตามหลังเธอไปขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่บริเวณลานจอดสายตาอึ้งทึ่งจ้องมองคนอื่น ๆ ที่ลากกระเป๋าเดินทางไซส์กลางแล้วดึงสายตากลับมามองกระเป๋าในมือตัวเองคนอื่นขนกันมาเยอะไป หรือฉันเอามาน้อยไปวะเนี้ย? นี่คงไม่มีใครถึงขนาดพกเต้นท์ส่วนตัวติดไปด้วยหรอกนะขาเรียวก้าวขึ้นรถแล้วเลือกที่นั่งที่คิดว่าปลอดภัยและเป็นส่วนตัวที่สุด มือเล็กกดพิมข้อความส่งไปหาคชาอย่างที่ตกลงกันไว้มือเล็กก็หยิบหูฟังขึ้นมาใส่หูแล้วพิงศีรษะเข้ากับกระจกพลางหลับตาพริ้ม ริมฝีปากยกยิ้
นิลกาฬสูดหายใจเข้าลึก ๆ เรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ขณะที่มือเล็กบีบก้านจับประตูแน่น ในหัวเอาแต่วนเวียนคิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นจนนอนไม่หลับทั้งคืนโชคดีที่วันนี้เธอจะได้ออกเดินทางขึ้นเหนือแล้ว จึงทำให้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับชายหนุ่มได้อย่างเหมาะเจาะ“หวังว่าเขาจะยังไม่ตื่นนะ”เธอค่อย ๆ บิดก้านจับประตูเปิดออกอย่างช้า ๆ ก่อนโผล่หน้าออกมาหันซ้ายหันขวา เช็คดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอยู่นอกทางเดินจึงแทรกตัวออกมาด้านนอก แล้วหมุนตัวไปดึงประตูให้ปิดลง“ทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ”“ว๊ายยยย”นิลกาฬสะดุ้งโหยงสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ คนที่คิดว่ายังไม่ตื่นสวมกอดเธอจากด้านหลัง ซ้ำยังยื่นหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูอีกด้วย“ฉะ...ฉัน ฉัน ฉัน”“คิดว่าฉันจะมองเกมส์เธอไม่ออกเหรอ หื้มม?”คชาอมยิ้ม วางคางสากลงบนไหล่มนพลางกระชับอ้อมแขนมากขึ้น ใช้ปลายจมูกคลอเคลียไปตามพวงแก้มนวลอย่างหยอกเย้า“มาเถอะ เดี๋ยวไปส่ง”ซึมซับความหอมละมุนจากกายสาวอยู่สักพัก คชาก็คลายอ้อมกอดออก ดึงกระเป๋าเสื้อผ้ามาถือให้แล้วใช้มืออีกข้างคว้ามือเล็กมาเกาะกุม ก่อนจะจูงมือพาเธอไปขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลอย่างที่ทำอยู่เกือบทุกวันหมอสาวนั่งเ
สมองยังไม่ทันจะสั่งการแต่ทว่าร่างกายกลับทำตามความคิดไปเสียแล้ว ปากร้อนประกบลงมาแนบชิด ค่อย ๆ ไล้เลียไปตามกลีบปากนุ่ม ขบเม้มเบา ๆ หยอกเย้าอย่างอ่อนโยน"อื้ออ!”นิลกาฬรู้สึกได้ว่ารสจูบในครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งอื่น ๆ มันนุ่มนวลและอ่อนหวานเสียจนใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะร่างกายอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงจะต้านทาน จิกเล็บลงบนไหล่กว้างอย่างแรงพลางร้องครางอู้อี้เมื่อชายหนุ่มเพิ่มน้ำหนักการบดจูบให้ร้อนแรงขึ้น“ยะ...หยุดก่อน! ฉะ...อื้อออ”เธอรีบอ้าปากหอบหายใจ ปากเล็กเปล่งเสียงร้องทันทีที่ได้รับอิสระ แต่ยังไม่ทันจะพูดได้ครบทั้งประโยค ข้อมือเล็กถูกรวบด้วยมือเดียวยกขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมกับริมฝีปากร้อนที่วกกลับมาสร้างความวาบหวามรัญจวนใจให้เธออีกครั้งเพียงแค่ได้สัมผัสความอ่อนหวานที่คิดถึง เขาก็หน้ามืดจนหลงลืมข้อปฏิบัติที่ตนเองท่องอยู่ทุกวันไปชั่วขณะ ยิ่งได้ยินเสียงหวานร้องครางกระเส่าด้วยแล้ว ความยับยั้งชั่งใจที่มีอยู่น้อยนิดก็กระเด็นกระดอนหายไปในอากาศทันทีคชาบดจูบดูดดึงปากเล็กจนบวมเจ่อ ใช้ความชำนาญที่มีทั้งหมดล่อลวงให้หญิงสาวคล้อยตาม ยอมเปิดปากให้ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากและกวาดไล้ต้อนลิ้นเล็กอย่
นิลกาฬลากขาเดินตามหลังคชาไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานยิงยาวทั้งวันทั้งคืนจนแทบหมดแรงเดิน มือเล็กยกขึ้นปิดปากเดินหาวหวอด ๆ มองคชาที่ล้วงคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่หน้าด้าน หน้ามึน หน้าทน ไม่มีใครเกิน! ติ้ดติ้ด! แกร่ก!มือหนาผลักประตูห้องออกกว้างพลางเบี่ยงตัวหลบให้หมอสาวเดินนำเข้าไปในห้องก่อนนิลกาฬทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจเมื่อเขายังคงทำตัวราวกับเป็นเจ้าของห้องไม่มีเปลี่ยน แต่เธอทั้งเหนื่อยและหิวเกินกว่าจะอ้าปากห้ามให้เปลืองพลังงาน เธอก้าวผ่านหน้าคชาเข้าไปด้านในแต่ไม่วายขอกัดเพื่อความสบายใจสักคำสองคำ“เชิญค่ะ ตามสบายนะคะ คิดซะว่าเป็นบ้านของตัวเอง”“ครับที่รักกกก”นิลกาฬกรอกตามองบนใส่คนหน้ามึนแล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงนุ่มอย่างอ่อนแรง เหม่อมองร่างสูงก้ม ๆ เงย ๆ จัดหนังสือที่เธอรื้อออกมาอ่านทบทวนเมื่อวานให้กลับเข้าที่ด้วยสีหน้าครุ่นคิดฉันควรทำโล่ให้นายดีไหมนะเกือบ 2 เดือนแล้วสินะที่เขาโผล่กลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้ง คชายังคงทำตัวเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเธอได้เสมอต้นเสมอปลายอย่างน่าชื่นชมเขายึดทุกอย่างไปไว้กับตัวเองทั้งหมด ไม่ว่าจ
“อารมณ์ดีกันจังเลยนะคะคู่นี้ ถ้าไม่รู้จักมาก่อนคงคิดว่าเป็นแฟนหมอนิลอีกคน”ถ้อยคำหยอกเย้าแฝงด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหนของคู่กัดเจ้าเก่า ตามด้วยเจ้าของประโยคที่หย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ถัดไปจากเกมส์นิลหันไปมองตามเสียงแล้วคลี่ยิ้มหวานแบบเฉพาะที่มีไว้ให้เจ้าหล่อนแค่คนเดียว ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าไม่ต่างกัน“ขนาดไม่ได้เป็นแฟนกัน ยังดูแลนิลดีขนาดนี้เลย ไม่อยากจะนึกถึงตอนเป็นแฟนกันเลยนะคะ”สองสาวประสานสายตาที่แฝงไปด้วยอารมณ์คุกรุ่นนิ่งนาน จนคนกลางอย่างเกมส์ลอบกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ มองใบหน้ายิ้มแย้มด้วยความประดิษฐ์ของทั้งสองสลับกันไปมา พลางขยับตัวขยุกขยิกไปมาด้วยความอึดอัด“ตามประสาพี่น้องน่ะครับหมอเรนนี่”“ใช่ค่ะ ตามประสาพี่น้องที่เขามีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน แต่เอ....มันก็เป็นปกติไม่ใช่เหรอคะ”นิลกาฬพูดเสริม ยกยิ้มมุมปากแล้วเอียงคอมองหน้าเรนนี่ด้วยแววตาใสซื่อ คิดว่าสร้างภาพเป็นคนเดียวเหรอคะ เฮลโหล!“แบบนี้หมอนิลก็คงจะมีพี่น้องอยู่ทุกแผนกเลยสิคะเนี้ย ก็อัธยาศัยดีออกขนาดนี้”หื้มมมม? นี่แอบด่าว่าฉันแรดป่ะว๊า? งั้นก็มาค่ะ! อยากกัดกับฉันใช่ไหมคะ ด้ายยยยยยย“แหม~ ไม่ถึงขนาดนั้นหร
@1 เดือนถัดมาร่างบางลนลานหยิบข้าวของ วิ่งหน้าตั้งลงจากรถยนต์คันหรูของคชาที่เพิ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล ก่นด่าตัวเองในใจไปด้วยโทษฐานที่เมื่อคืนเผลอดูซีรี่ย์เพลินจนนอนตื่นสายจนได้ กระจกรถถูกเลื่อนลงจนสุดเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของสารถี แล้วตามด้วยเสียงตะโกนเรียกจากเจ้าของรถ“นิล! โทรศัพท์!!”แต่ดูท่าว่าคนตื่นสายจะไม่ได้ยิน และยังไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าปัจจัยห้าของเธอ ยังนอนแอ้งแม้งอยู่ในช่องใส่ของบนรถคชาขยับรถเข้าไปจอดรถในที่ว่างที่ไม่กีดขวางคนอื่น กดเปิดไฟฉุกเฉินทิ้งไว้ก่อนจะรีบวิ่งเหยาะ ๆ ตามหลังหมอสาวไป“นิล!”นิลกาฬชะงักฝีเท้าแล้วหันตามเสียงตะโกนเรียกจากด้านหลัง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่นด้วยความงุนงง แล้วหยุดฝีเท้ายืนอยู่กับที่เมื่อเห็นว่าคนเรียกเมื่อครู่เป็นคชา“เอ้า! ตามลงมาทำไม วันนี้นายมีประชุมไม่ใช่เหรอ”“ยัยซื่อบื้อ! เธอลืมมือถือ!”คชาใช้โทรศัพท์มือถือเคาะลงบนศีรษะทุยเล็กเบา ๆ อย่างหยอกเย้า ก่อนจะยื่นมันคืนให้เธอ มือเล็กยกขึ้นลูบบริเวณที่ถูกตีปอย ๆ พลางทำหน้ามุ่ยมองค้อนใส่“ไม่ต้องมาสวดแช่งฉันในใจ วันนี้อยู่เวรไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ลงแดงตายพอดีถ้าไม่มีเกม